เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ร้านค้าออกใบเสร็จรับเงิน ดังนี้
สินค้ารายการที่  1           300  บาท*
สินค้ารายการที่ 2            700  บาท**
          รวมสินค้า           1000  บาท***
       ภาษีมูลค่าเพิ่ม           70  บาท
          รวมเงินทั้งสิ้น     1070  บาท (และจ่ายไปแล้วขอเบิกคืน)
นำไปเบิกกับทางราชการ  เขาว่าใบเสร็จนี้ผิด  เบิกไม่ได้ ตรง *** ต้องให้ทางร้านเขียนรวมภาษีมูลค่าเพิ่มให้เรียบร้อย  เป็น
สินค้ารายการที่  1           321  บาท*
สินค้ารายการที่ 2            749  บาท**
          รวมสินค้า           1000  บาท***
       ภาษีมูลค่าเพิ่ม           70  บาท
          รวมเงินทั้งสิ้น     1070  บาท (จะจ่ายคืนให้)
คำถามมีอยู่ว่าการเขียนใบเสร็จทั้งสองแบบ  ผิดกันตรงไหน เมื่อเบิกเงินคืน 1070 เท่ากัน  หรือ ผม  มึนเองใครู้ช่วยอธิบายหน่อย ::014::

ร้านผมออกแต่แบบที่ 1 (vat นอก) นะครับ ลูกค้าก็ใช้ได้หมดนี่ครับ

แบบที่ 2 น่าจะเป็น รูปแบบ vat ในครับ 

ผม ก็ทำแบบแรก ครับ ก็เบิกได้


( ส่วนนี้นอกประเด๋นครับ)

จะมีก็แต่ไม่ค่อยจะยอมเบิกให้ผม ดองไว้ หลายเดือน บางที่ทำมึน ไม่เบิกให้เฉยทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่เงินเขา

เป็นเงินหลวง บางที่เบิกเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำเส้นใหญ่เสียงดังโวยวาย สุดท้าย เอาเงิน ผมเข้ากระเป๋า

ไป บางที่โทรมาด่า อีก นะ เพราะเส้นใหญ่ ไม่ทำเบิกจะทำไม ทั้งๆที่เอกสารเอาของเราไปครบ

คิดได้กรณีเดียว เข้ากระเป๋าตัวเอง เจอมาทุกรูปแบบ สาม ล้าน กับเงินที่หายไป ในเวลา 6 ปี

เป็นค่าใช้จ่้ายในร้าน แล้ว ก็เจอ กรณ๊ ไม่ทำเบิกให้ เยอะ มากๆ

มันอยู่ที่คนเบิก ครับ

+ และ ขอบคุณครับ เหมือนคุณโรจน์ว่า   ความจริงเงินมากกว่าที่สมมุติเป็นคำถามอีก  5 หลักครับ เลยเดือดร้อน ::014::

รายการแรกถูกต้องแล้วครับ

มาตรา 86/4 ภายใต้บังคับมาตรา 86/5 และมาตรา 86/6 ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
    (1) คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
    (2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีและในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียน ตามมาตรา 86 วรรคสี่ หรือมาตรา 86/2 หรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/3 ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
    (3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
    (4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี
    (5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
    (6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
    (7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
    (8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
 ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39) )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.46/2537 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 )
    รายการในใบกำกับภาษี ให้ทำเป็นภาษาไทย เป็นหน่วยเงินตราไทยและใช้ตัวเลขไทยหรืออารบิค เว้นแต่ในกิจการบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องทำเป็นภาษาต่างประเทศ หรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดี
  ( ดูคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 25/2537 )
( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 92) )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.71/2541 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.117/2545 ) 
    ใบกำกับภาษีอาจออกรวมกันสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการหลายอย่างก็ได้ เว้นแต่อธิบดีจะได้กำหนดให้การออกใบกำกับภาษีสำหรับสินค้าหรือบริการบางอย่างหรือหลายอย่างต้องกระทำแยกต่างหาก โดยมิให้รวมไว้ในใบกำกับภาษีเดียวกันกับรายการอื่น
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.121/2545 )
แบบที่ 1 ถูกต้องแล้วคับ..มีรายการครบถ้วนตาม มาตรา 86/4 แห่ง ปมก..  

+1 ครับ  คุณ  poethipus  ชัดเจนดีมาก ขอบพระคุณอย่างยิ่ง  ::014::

เคยแต่แบบที่ ๑ แต่หากมีการคิดภาษีผิด แต่ยอดเงินสินค้าถูกต้อง ก็ต้องไปให้เขาแก้ออกใบใหม่ให้ แต่หากไม่ไปแก้ ผมก็ต้องออกค่าภาษีเอง อันนี้เคยโดนสมัยเติมน้ำมันที่ต่างจังหวัดครับ

ไปดูใบเสร็จมา แบบแรกก็ถูกแล้วนี่ครับ แสดงว่า หน้าตาท่านKpai ไม่ตรงสเป็คฝ่ายบัญชี ::005::

โรงเรียนแน่เลยเนี่ย

ผมก็เคยโดน เรื่องแว็ตนอก แว็ตในนี่แหละ  ไปอธิบายร้านค้ากันเหนื่อย

รายการแรก ท่านเรียก แว็ตนอก(ศัพท์ชวนมึน) รายการที่สองเรียก แว็ตใน

ฝ่ายการเงิน เป็นครูที่ถูกบังคับให้ทำ แกเถรตรงมาก ผิดจากความเข้าใจของแกคือผิดหมด เราต้องไปแก้มาให้ถูก

ผมคุ้นเคยแต่แบบที่สอง เคยทำแบบแรกไปการเงินบอกว่าผิด

เบิกไม่ได้ ให้มาแก้ใหม่เป็นแบบที่สอง ไม่อยากจะเถียง ทำให้มันจบๆ ไป

เราไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน เขาว่าผิดก็มาแก้ให้ถูก จะได้เสร็จๆไป

ถ้าไปเถียงกับมันมาก พวกนี้มันจะเกลียดเราทั้งแผนก ว่างเป็นนั่งนินทา

แต่งหน้า เล่นเน็ท เราไปตามเรื่องก็หาว่าเราไปเร่ง มันแกล้งดองเรื่องเราไว้อีก

เออ... เอากับมันพวกนี้

ชีวิตข้าราชการ ทำอะไร ก็ขอให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ ถูกต้องแล้วครับ เงินหลวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้  เย็นนี้ฟังข่าว คุณหญิง จารุวรรณ โดนเช็คบิล เรื่องเก่า เมื่อหลายปีก่อนแล้ว ปปช.ชีมูลว่ามีความผิด

ครับ

http://www.phichittoday.com/news/08.54/news18085403.html (http://www.phichittoday.com/news/08.54/news18085403.html)

ใช่เลย ถูกต้องแล้วครับ "แกเถรตรงมาก ผิดจากความเข้าใจของแกคือผิดหมด เราต้องไปแก้มาให้ถูก" แต่ถ้า  ให้ไปแก้ให้ถูก ใจ ก็ต้องกลับไปร้านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่มีการเบิกค่าใช้จ่ายได้  ผมซื้อ กทม  ทำเบิกที่สุราษฎร์  คิดดูน่าจะไปแก้ไหม
ขอบคุณทุกท่าน  ที่ให้ความรู้  ความจริงไม่เกี่ยวกับหน้าตาไม่ถูกสเปคเขาหรอก  แต่ผมเป็นประธานฝ่ายประเมินประสิทธิภาพ 1.5-2 ขั้น แล้ว ไม่เห็น ประสิทธิภาพฝ่ายการเงิน ก็เท่านั้นเอง   ::014:: ::005::

มันขึ้นอยู่กับความเห็นของคนทำเรื่องครับ  ผมเขียน  "การประปาส่วนภูมิภาค  สาขากาฬสินธุ์"  ทางส่วนกลางส่งกลับมาว่าไม่ให้เว้นวรรค  จะบ้าตายกว่าจะได้เงินเลื่อนไปอีกเกือบสิบวัน

ก็ลุงเล็กไม่เอาใบเบิกพันรอบขวดเรด ::005::

ยังมีตลกกว่านั้นอีกเขียนตัวเลขจำนวนเงินผิด  จนท.บอกเขียนทับไปเลยเราไม่ได้ขีดฆ่าขูดลบ  ปัญหาเกิดเพราะฉีกบิลไปใบเดียว  ฮา
ล่าสุดส่งกลับมาบอกให้เขียนใหม่ข้อหา  "อ่านไม่ออก" (ลายมือผมเอง)

แสดงว่าใบเบิกพันขวดเรดไปแน่ๆ ::007::

ความซื่อตรงต่างหากที่เป็นสิ่งดี ส่วนความเถรตรงผมว่าโง่นะ..ครุณว่ามั้ย..55555..ปัญหาเกิดเพราะคนบางคนนึกว่า 2 สิ่งนี้ครืออันเดียวกัน   

ส่วนใหญ่ทีเกิดปัญหา คือ  เอาคนจบอะไรมาไม่รู้ มาทำการเงิน
เหมือน รพ.เล็กๆ เอาพยาบาล มาทำการเงิน  หรือโรงเรียนเอาครูมาทำการเงิน  ทั้งที่จบมาคนละทาง

งานก็ไป กันคนละทาง  จนเมื่อมีเจ้าหน้าที่การเงินมาทำงานต่อ จากท่านก่อนๆ ก็เอา ทีน ก่ายหน้าผาก  ......

วัฒนธรรมในโรงเรียนก็ยังนีแหละครับ    จบพละ สอนอังกฤษ  จบวิทย์ สอนภาษาไทย  จบคหกรรม  ทำบัญชี  จบนาฏศิลป์ ทำพัสดุ    แก่ ๆ หน่อย ก็หัวหน้าบุคลากร   รักษาการ   จบใหม่ " มันไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย ต้องให้แนะทุกอย่าง บอกว่าให้ไปคิดดูแล้ก็ทำตามนั้นก็ไม่เชื่อ  เฮ้อ !  น่าเบื่อ"    ::005:: ::005::

ตอนนี้ เห็นมีแต่แบบแรกนะครับ