เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :)มีสมาชิกท่านใด ทำร้านให้เช่าวีซีดี ดีวีดี บ้างครับ?
ผมสนใจอยากจะทำ ตึกมีแล้ว ทำเลพอได้ ย่านชุมชนหนาแน่น
คู่แข่งในรัศมี 5 กม. มีอยู่ 1 ร้านแล้ว อยากได้ข้อมูล เรื่องจัดการร้าน ลิขสิทธิ์...  

ขออนุญาต เล่าสำหรับที่นี่นะครับ  ที่นี่ร้าน DVD เจ๋งหมดครับ 
เพราะบริษัท Cable TV มีบริการตามสาย ก่อนจะเปิดลองๆดูว่า Cable TV เมืองไทยจะทำแบบนั้นหรือป่าว ถ้าทำคงแย่ครับ  แม้แต่ร้าน DVD ไทยยังแย่สำหรับที่นี่ เพราะคนดู Youtube หรือ VOD ไทยทาง Internet กันซะส่วนมากครับ

      ผมคะเน(เดา)ว่า  วีซีดี  ดีวีดี   จะเหมือน  เทปคาสเซท ที่สูญพันธ์ในอีกไม่นานนี้ครับ  .....  แล้วคงปรับเปลี่ยนเป็นรับโหลดเพลงลง HDD , Flash Drive แทน   :)

    

     ในถานะลูกค้าเก่า...สมัยยังไม่มีเน็ต...ผมเช่าดูหนังแนวที่ชอบ จนหนังมาไม่ทัน...แต่ละเดือนหมดหลายตังค์อยู่

     แต่หลังจากมีเน็ตเล่น ยังไม่เคยกลับไปเช่าอีกเลยครับ...ดูหนังน้อยลง ดู-ฟัง-อ่าน อย่างอื่นซะมากกว่า

    ลูกค้าน่าจะลดลง...ผันแปรตามจำนวนเคเบิลทีวีและเน็ต ที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน.....และยุคนี้เรื่องลิขสิทธิ์หยุมหยิม ยุ่งยาก สร้างปัณหาเยอะกว่าสมัยก่อน

      ดูแล้วธุรกิจแนวนี้ไม่น่าจะสดใส   ::014:: ::014:: ::014::

คิดเหมือนลุงปู  ครับ แต่ขอต่อยอดความเห็น

ยังอยู่ได้อีกหลายปีครับ สำหรับธุรกิจประเภทนี้ ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ตามต่างจังหวัด  ที่ยังนิยม เช่าแผ่นซีดีกันอยู่

ส่วนเรื่องการโหลดเพลงเข้า แฟสไดร์นั้น แค่ คนบางส่วนครับ เมื่อเทียบกัน  ประชาชนส่วนมาก อาจจะอยู่ในอัตรา  30/70 ด้วยซ้ำ

30 %คนใช้แฟสไดร์/ฮาตดิส  คนกลุ่มนี้  ส่วนมากจะเป็นคนที่มีความรู้อยู่บ้าง ในเรื่องคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต  

70% แต่ส่วนมากไม่มีความรู้ ครับ  หรืออาจจะมีแฟสไดร์ สามารถซื้อหาได้ แต่ไม่รู้จะไป ใช้บริการที่ไหน เพราะร้านไม่มี  ร้านเองก็กลัวเรื่อง

 การถูกลิขสิทธิ์ จับ อยู่เหมือนกัน  ครั้นจะไปหาซื้อแผ่นเอ็มพี สาม หรือแผ่นผี พวกนี้ก็ไม่ได้ขายถาวร ส่วนมากจะ ขายตามตลาดนัด หรือ

ขายกันในวงแคบๆ (หากไม่มีเส้นสาย)* นั้นหมายความว่า การจะหา หนัง/ เพลง มาใส่ แฟสไดร์นั้น ก็ต้องไปพึ่งพวกใช้คอมเป็น อีก

แต่การเดินเข้าไปเช่าซีดี นั้น กลับง่ายกว่า   ราคาค่าเช่า  20-30 บาท  ดีกว่าไปซื้อแผ่น จริงมาบางเรื่อง อาจจะถึง 100+ บาท ด้วยซ้ำ

  แต่ ต้องอย่าลืมครับว่า ที่เกรินไปนั้นที่ว่า "ยังอยู่ได้อีกหลายปี" นั้นหมายถึง อยู่ได้ไม่ตลอด

ถ้าหากว่า  การใช้คอมพิวเตอร์นั้น เข้าถึงอย่างครอบคลุมจริงๆ  เมื่อนั้น  ธุรกิจประเภทนี้จะร่อแร่  เหมือน  มือถือทุกวันนี้  

 เช่น..การตัดราคา การแบ่งกำไร  เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า จะมีคู่แข่งเมื่อไหร่  

เพื่อนผมเปิดร้านเช่าซีดี อยู่เค้าบ่นให้ฟังบ่อยๆว่า  เค้าเองเริ่ม จะถอย เพราะ

  1  การตัดราคาจากร้านอื่นที่เปิดใหม่เพื่อเรียกลูกค้า  

 2. ลูกค้าหันไป ซื้อแผ่นผี(หนังซูม) มากขึ้น   ถ้ามี ผู้ค้าเส้นดีๆ ใหญ่ๆ  ร้านก็ตาย *

จากข้อความสีแดงนั้นจะมีผู้ขาย 2 กลุ่ม  คือ เส้นใหญ่ ลูกชิ้น  กับเกาเหลา ไม่มีเส้น  ขึ้นอยู่ที่ว่า เจ้าของกระทู้จะเจอ ถ้วยไหน

3.   เนื่องจากค่าลิขสิทธิ์ นั้น เท่าที่ทราบมา ว่า หลักหมื่น ต้นๆ ต่อเดือน   ( คิดต่อเอาเองครับ )

เป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆ ครับ  เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่า เราจะเป็น ร้านเดียวใน รัศมี 5 กม เมื่อคนอื่นเห็นว่าเรา  ทำมาค้าขาย รวยขึ้น

มั่นใจหรือไม่ครับ ว่า จะไม่มีคน สัปดล มาเปิดใกล้ๆ เรา  ถ้าเปิดแล้ว มั่นใจอย่างไร ว่าเค้าจะไม่แย่ง ลูกค้าเราด้วยการตัดราคา

ผมขอสรุป ตามความคิดผมครับ    ธุรกิจนี้อยู่ได้แต่หวังรวยไม่ได้  และไม่ถาวร ตราบใดที่ ทุกคนสามารถทำได้เหมือนกันในคุณภาพเดียวกัน

 หนังเรื่อง  ขุนศึกพันธุ์ สะท้านโลก300 เช่าร้านไหน สุดท้าย กษัตริย์ ลีโอไนด๊าส ก็โดนยิงด้วยลูกธนู ตายเหมือนกัน ทุกร้าน

 แต่ถ้าจะทำจริงๆ  ต้องมีโปรโมชั่น ที่เร้าใจกว่า ถ้ามีคู่แข่ง

  งานที่ผมว่าเงินดีที่สุดก็คืองานช่าง งานฝีมือ เพราะไม่มี มาตฐานที่ชัดเจน แต่อยู่ ที่ฝีมือ ล้วนๆ นั้นคือมาตฐานที่เราสร้างเอง โดนให้ลูกค้าเป็นผู้

ตัดสินใจ ว่า "ชอบมาตฐานแบบไหน " และงานอีกประเภทนึงก็คือ ของกิน เนี้ยกำไรพอตัว ถ้าทำดีๆ รวยกันเลยครับ

 แต่ถ้า เจ้าของกระทู้จะเปิดร้าน เช่าวีซีดี เพราะ   ขี้เกียจอยู่เฉยๆ  ทำฆ่าเวลา   ก็เยี่ยมครับ เพราะ ไม่ต้องคิดมากเหมือนงานช่าง

 ผมซ่อมมือถือ มา 10 กว่าปี เดือนหน้าก็เลิกเหมือนกันครับ  เพราะว่า เบื่องาน ช่าง  ::014::

ป.ล ผิดพลาดประการใดขอ อภัยครับ



                                                    

เจ๊งแหงแก๋ครับ... ไม่ทันคืนทุนก็ไปแบบวูบเลย...

นายสมชายเช่าหนังครั้งสุดท้ายเมื่อหลายปีที่แล้ว เป็นแบบ VCD จากซึทาย่าในบิ๊กซี, พอติดอินเตอร์เน็ตไฮสปีดก็เรียนรู้บิตทอเร็นท์ เรียนรู้ได้ไม่กี่วันก็สนุกกับการดาวน์โหลดสารพัด เหมือนเปิดโลกใหม่... เริ่มดาวน์โหลดหนังได้แค่สัปดาห์เดียวเอง กลับไปยืมหนังที่ซึทาย่า เหมือนหลุดไปคนละโลกเลยครับ...

แค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ซึทาย่าที่เคยคร่าคล่ำไปด้วยผู้คนยืนเลือกหนัง+อ่านเรื่องย่อจากแผ่นปก VCD จนเดินเหินยากเย็นต้องเบี่ยงตัวหลบผู้คน... กลายเป็นร้านเกือบว่างเปล่า และหนังที่เคยแย่งกันเช่าเมื่อเดือนที่แล้ว กลายเป็นวางเต็มชั้นฯ...

ถัดจากนั้นอีกไม่เกิน 3 เดือน ซึทาย่าสาขานั้นปิดตัวครับ, และอีกไม่เกิน 1 ปี ซึทาย่าทุกสาขาหายวับ กลายเป็นตำนานไปแล้ว... หายไปรวดเร็วมากครับ...

ผมเพิ่งทราบเหมือนกันครับ ว่า ระดับ ซึทาย่า  ก็ร่วงได้  ผมไม่ได้เช่าหนังมาเป็น ปีแล้วครับ  ::014:: โลกเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ   :-\

แม้แต่เว็บไซต์ซึทาย่า ยังไม่รอดเลยครับ... http://www.tsutaya.co.th ...

แต่ก่อนมีสาขาทั่วประเทศ เดี๋ยวนี้คือตำนานไปแล้ว...

Ha Ha Ha  ฮา  ขยายสาขา  "ข้าวมันไก่"  ดีแล้วอ่ะคร๊า  ฮา

"Shelf life"  หรือ " cercle life"  มันต่ำมากคร๊า  เหมือนกับ Tesco Lotus กับ โชว์ห่วยคร๊า  ฮา
ตอนนี้  Dvd  สามแผ่นร้อย  อ่ะคร๊า  ฮา

 ::014:: ขอบคุณทุกข้อมูลครับ พอได้เอาไปคุยกับ ผบ.
 พอดีมีคนรู้จัก เขาเป็นหนี้อยู่ จะขายร้านให้ ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
 ผบ.ก็อยากได้ร้าน ก็เลยต้องหาข้อมูลหน่อย เงินครึ่งล้าน ก็หวั่นๆ

 ทุกวันนี้ก็ทำราชการเป็นหลัก   วันหยุดเป็นวิศวกรของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก็พออยู่ได้
 ในใจก็อยากมีธุรกิจอะไรสักอย่าง เผื่อเบื่อจะได้ลาออกมาทำ บ.รับเหมาก่อสร้างที่ทำอยู่
 เจ้าของก็เคยบอกจะยกกิจการให้ทำต่อ ลูกหลานเขาไม่รับช่วง กลัวเจ้ง ผมเลยไม่รับ

ผบ.เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ขายของเล่นทางอินเตอร์เน็ท เสาร์อาทิตย์ตลาดนัด ก็พอได้อาศัย
 ธุรกิจหลัก พ่อตา แม่ยาย ขายข้าวมันไก่ อีกไม่กีปี คงยกให้ผมกับ ผบ. :VOV:

ไว้เจอยายตัวเป็นๆจะเลี้ยงสัก 1 มื้อครับยาย :<><> ;D
 

ถ้าเจอตัวยายเป็นๆช่วยถอนขนยายให้ผมซักเส้นนะครับ  ;D    ::014::
                                     แต่ผมเห็นด้วยกับยายครับ  :D

สมัยที่ซีดียังไม่ครองเมือง... และสื่อภาพยนตร์ก็บรรจุอยู่ในวีดีโอเทป... มีคนรู้จักกับผมเขาซื้อวีดีโอเทปเอาไว้เต็มบ้าน... กะว่าพอถึงระยะเวลาหนึ่ง... แกจะเปิดร้านให้เช่าวีดีโอ... แต่ผ่านมาได้ไม่กี่ปี... ซีดีครองตลาด... ม้วนวีดีโอที่เก็บไว้... มาสเตอร์ล้วนๆ ก็กลายเป็นของสะสมประดับฝาบ้านไปครับ... ยังไม่นับดีวีดีและบลูเรย์ที่กำลังออกมาฆ่าวีดีโอซีดี...

::014::

คิดเล่นๆน่ะได้ครับ  แต่ทำจริงๆผมไม่เห็นด้วยครับ ไม่คุ้ม มีแต่เสียกับเสีย  ผมว่าเปิดร้านเน็ต ร้านเกมน่าจะเหมาะกว่านะครับ  ที่บ้านร้านเล็กๆ

คนเต็มตลอดเลย เหลือเชื่อมากๆครับ ;D ;D

เดี๋ยวนี้ดูหนังด้วยเครื่องเล่นฮาร์ดดิสครับหนึ่งลูก 2 ทีบี เอาคุณภาพ ทั้งเสียงและภาพระดับเดียวกะแผ่นบลูเรย์เข้าเครื่องโฮมเธียร์เตอร์ถอดระหัสเสียงออกมา
เป็น 5.1 หรือ 7.1 แชนแนล ในราคาถูกแสนถูกได้เป็นเกือบ 100 เรื่องในลูกเดียว
 ยิ่งถ้าลดไฟล์ลงมาเป็น MKV ความคมชัดต่างจากบลูเรย์ไม่มากนักได้ลูกหนึ่งเป็น 300 เรื่อง

ทั้งหมดในหนึ่งลูกนั้นราคา(ไม่รวมค่าฮาร์ดดิส)ราวๆ 500 บาท เป็นผมก็ไม่กลับไปร้านเช่าหนังอีกแล้วครับ

คลองถมหนังชนโรง DVD ตอนนี้  3 แผ่น 100  ซื้อเยอะมีแถม

ผมไม่รู้ราคาค่าเช่า  ว่าตกแผ่นเท่าไร  แต่ถ้าไม่ถูกกว่านี้  ผมว่าสู้ด้วยยากครับ