|
หัวข้อ: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 10:57:56 AM ตามชื่อกระทู้ครับ เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก... เพราะกลุ่มทุนไปซื้อที่ดินแถบตะวันออก รอบสนามบินสุวรรณภูมิ จึงแก้ทางน้ำไหลลงทะเล(ฟลัดเวย์)ไม่ให้ไปลงตรงนั้น...
ตามข่าวนี่ในปี 2548 ซึ่งในโครงการพระราชดำริบริเวณนั้นทั้งแถบเป็นทางน้ำไหล และกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับทำการเกษตร มีน้ำหลากตามฤดูกาล และสร้างตึกสูง(คอนโด)ไม่ได้+สร้างหมู่บ้านจัดสรรไม่ได้... กลุ่มทุนจึงแก้ผังเมืองให้เป็นสีเหลือง(สร้างตึกสูงได้)+สร้างหมู่บ้านจัดสรรได้... รายละเอียดตามตัวแดงครับ... เอามาจากนี่ http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11313080/NE11313080.html ที่มาดั้งเดิม : ฐานเศรษฐกิจ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=570&p=9&s=15&t=14 ****************************************************************** เด็กทรท.รุมฉีกฟลัดเวย์ 10บิ๊กอสังหารอส้มหล่น ( December 19, 2004 ) กลุ่มทุนอสังหาฯ-นักการเมือง ดิ้นอีกรอบ !ขอปรับสีผังที่ดินแนว"ฟลัดเวย์ " กว่าแสนไร่รอบสนามบินสุวรรณภูมิ วิ่งฝุ่นตลบ ล็อบบี้รัฐบาลทักษิณขอปรับสีผัง ระบุหัวโจกใหญ่ เป็นกลุ่มส.ส. พรรคไทยรักไทยเขตมีนบุรี "วิชาญ มีนชัยนันท์" ครอบครองที่ดิน กว่า1,000 ไร่ เผย10 บิ๊กนักพัฒนที่ดิน ตุนที่ดินในเขตเขียวลายเพียบ ไล่ตั้งแต่ "ประสงค์ เอาฬาร-หมอบุญ ศุภาลัย-พฤกษา แลนด์แอนด์เฮาส์-เค.ซี บีแลนด์-ประภาวรรณกรุ๊ป รวมถึงตระกูลดัง"อัศวเหม" และอดีตเจ้าแม่อาวุธ "ราศี บัวเลิศ" พ้องเสียงผลักดันอยากปรับสีผังเป็นสีเหลือง ขณะที่ "วิษณุ" สั่งกทม.รื้อร่างผังเมืองใหม่ข้อ 38 อ้างให้อำนาจกทม.เกินขอบเขต พร้อมฟันธงเลื่อนประกาศใช้หลังเลือกตั้ง "อภิรักษ์"ผู้ว่ากทม.เสียงอ่อยแก้ไม่แก้สีผังแล้วแต่ครม. สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มนักการเมืองที่ได้ออกมาเคลื่อนไหว ขอแก้ไขผ่อนปรนร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร(กทม.)ฉบับใหม่ ที่จะประกาศใช้แทนผังเมืองรวมกทม.ฉบับที่ 414ที่หมดอายุลงไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2547 และกทม.กำหนดที่จะประกาศใช้ในช่วงสิ้นปี 2547ไม่เกินเดือนมกราคม2548นั้น ล่าสุดนาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าขณะนี้ร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบตั้งแต่ช่วงปลายปี 2547 ที่ผ่านมา และ คาดว่าจะสามารถประกาศได้ในราวต้นปี 2548 แต่ยังไม่สามารถระบุว่าจะเป็นช่วงไหนขึ้นอยู่กับครม.จะพิจารณาแก้ไขหรือจะมีการเลื่อนการประกาศผังเมืองกทม.ใหม่ออกออกไป ต่อข้อถามที่ว่าจะต้องมีการแก้ไขเนื้อหาสาระเพิ่มเติมหรือไม่ หากเอกชนเห็นว่าร่างผังดังกล่าวมีความเข้มงวดเกินไป นายอภิรักษ์กล่าวว่า ยอมรับว่าร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับที่จะออกมาบังคับใช้แทนผังเมืองฉบับเก่าที่หมดอายุลง เนื้อหาสาระน่าจะเหมาะสมแล้ว เพียงต้องการให้ภาคเอกชนและประชาชนร่วมทำความเข้าใจและวางแผนพัฒนาที่ดินตามผังเมืองในอนาคตมากกว่า อย่างไรก็ดีกรณีที่จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระของร่างผังเมืองรวมกทม.ตามที่มีการร้องเรียนให้แก้ไขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับครม.ว่าจะเห็นสมควรอย่างไร ในขณะที่ แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรี โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำหนดจะนำร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่เข้าครม.เพื่อพิจารณาเห็นชอบภายหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า ที่เชื่อว่ารัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีเสียงข้างมาก และเข้ามาบริหารประเทศต่ออีกสมัย ทั้งนี้ทางสำนักนายกรฐมนตรี ได้ท้วงติงว่ากทม.ไปพิจารณาร่างผังเมืองข้อ 38 ใหม่ ที่กำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในที่ดินรองหรือพื้นที่โควต้า10 % ของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลัก อาทิ การอนุญาตให้พัฒนาเชิงพาณิชย์10 % ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งกำหนดให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหลักฯลฯ โดยตั้งข้อสังเกตุว่า ไม่จำเป็นต้องสอบถามจาก กทม. อีกว่าใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ได้ เพราะจะเกิดความล่าช้าและมอบหมายให้กทม.ไปหารือกับกฤษฎีกาว่าสามารถดำเนินการได้อย่างไร อย่างไรก็ดีตามข้อเท็จจริงแล้วกรณีที่มีการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ล่าช้าออกไปแหล่งข่าวกล่าวยืนยันว่า เพราะ มีกลุ่มนักการเมืองหลายกลุ่มในพื้นที่ อย่างกรณีของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี พรรคไทยรักไทย และพวกพ้อง เป็นแกนนำในการวิ่งล็อบบี้รัฐบาลพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอปรับสีผังบริเวณแนว "ฟลัดเวย์" หรือพื้นที่สีขาวทะแยงเขียวทั้งหมด ที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม โซนตะวันออก บริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน กว่าแสนไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณเขตมีนบุรี เขตหนองจอกบางส่วน เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา ที่ร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่กำหนดให้ใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้นหากต้องการจัดสรรที่ดินเชิงพาณิชย์จะต้องมีขนาดแปลงที่ดินขนาด 1,000 ตารางวา หรือ 2.5 ไร่ขึ้นไป จากผังเดิมกำหนดให้พัฒนาตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไปได้ โดยเสนอให้ปรับจากสีขาวทะแยงเขียวหรือเขียวลายเป็นเป็นพื้นที่สีเหลือง หรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เพื่อสามารถพัฒนาได้ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวเป็นแนวพระราชดำริ กำหนดให้เป็นแนวฟลัดเวย์หรือพื้นที่รับน้ำมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากทางตอนเหนือของกทม.เพื่อระบายลงสู่อ่าวไทยเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ดังนั้นกทม.จึงไม่สามารถที่จะปรับตามที่เอกชนและนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวต้องการได้ แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้แล้วช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุน นักการเมืองได้พยายามยืมมือประชาชนเจ้าของพื้นที่ โดยร่วมกับกลุ่มพัฒนาที่ดิน ส่งเรื่องร้องเรียนมายังกทม.และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดเสียงร้องเรียนจำนวนมากๆ เพื่อต้องการผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้องเพราะมีที่ดินอยู่ในแถบนั้นไม่ต่ำากว่า1,000 ไร่ ทั้งนี้จากปัญหาในเรื่องของการเรียกร้องการปรับสีผังแนวฟลัดเวย์ ดังกล่าว ทางกทม.จะร่วมกันหาทางออกกับกรมชลประทาน ด้วยการขุดคลองระบายน้ำใหม่ ขึ้นมาแทนที่แนวฟลัดเวย์ที่กำหนดเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมด ซึ่งจะสามารถปรับพพื้นที่แนวฟลัดเวย์ที่เหลือเป็นพื้นที่สีเหลืองในอนาคต ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้ เวลาในการศึกษาเรื่องนี้ ราว 2 ปีนับจากนี้เป็นต้นไป แต่ขณะนี้กทม.ขอยืนยันว่าจะขณะนี้ไม่ปรับเปลี่ยนสีผังแต่อย่างเด็ดขาด" จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ"พบว่ามีกลุ่มนักการเมืองและบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ขาวทะแยงเขียวจำนวนมาก อาทิกลุ่มของวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี พรรคไทยรักไทย และพี่น้องที่เป็นทั้งสมาชิกสภากทม.(ส.ก.)และสมาชิกสภาเขต กทม.(ส.ข.) โดยมีที่ดินรวมกันประมาณ กว่า1,000ไร่ กลุ่มนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัทเวชธานีกรุ๊ป มีที่ดิน ประมาณ 500 ไร่ ,นางราศรี บัวเลิศ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทแชลเลนจ์ กรุ๊ป มีที่ดินบริเวณย่ายสุวินทวงค์ จำนวน 600 ไร่ ,นายประสงค์ เอาฬาร กรรมการบริษัท ฟอร์ร่าวิล์ จำกัดและในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรมีที่ดินบริเวณสุวินทวงค์ จำนวน 300 ไร่ บริษัทศุภลัย จำกัด(มหาชน) ของนายประทีบ ตั้งมติธรรม มีที่ดินอยู่ย่านสุวินทวงค์ 50 ไร่ นอกจากนี้บริษัทพฤกษา จำกัด มีที่ดินประมาณ 300 ไร่ ของนายเจ้าพ่อบ่านราคาถูก นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ บริษัทเค.ซีกรุ๊ป ของนายอภิสิทธิ งามอัจฉริยะกุล มีที่ดินประมาณ 2,000 ไร่บริเวณคลองสามวา บริษัทแลนด์แอนเฮ้าส์จำกัด(มหาชน) ของนายอนันต์ อัศวโภคินมีทีดินจำนวน 50 ไร่ นาง เพียงใจ อัศวโภคคิน ซึ่งเป็นมารดาของนายอนันต์ มีที่ดินอยู่บริเวณเขตลาดกระบังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 2 แปลงรวม 1,000 กว่าไร่ นายวันชัย ชูประภาวรรณ เจ้าของบริษัทประภาวรรณกรุ๊ปมีที่ดินย่านสุวินทวงค์ประมาณ 100-200 ไร่ บางกอกแลนด์ มีที่ดินหลายร้อยไร่ และยังพบว่าตระกูลดังเมืองปากน้ำ"อัศวเหม"เองก็มีที่ดินในย่านดังกล่าวหลายร้อยไร่เช่นเดียวกันกัน ทางด้านนายวันชัย ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัทประภาวรรณ กรุ๊ป กล่าวว่า มีที่ดินบริเวณพื้นที่ขาวทะแยงเขียวย่านสุวินทวงค์ จำนวน 100 ไร่ แต่ที่ผ่านมาได้ทะยอยพัฒนาไปบ้างแล้วเพราะซื้อเก็บไว้นานแล้ว โดยได้ขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทิ้งไว้ ก่อนหน้าที่ผังเมืองรวมกทม.ฉบับปัจจุบันที่หมดอายุลง จะบังคับใช้ ดังนั้นจึงสามารถพัฒนาขนาดพื้นที่ 50-100 ตารางวาได้ อย่างไรก็ดีหากมีการชะลอใช้ผังเมืองฉบับใหม่ออกไป ก็จะเป็นผลดี เพราะพื้นที่ดังกล่าวกำหนดให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม หากจะทำจัดสรรต้องมีขนาดแปลง 1,000ตารางวา หรือ 2.5 ไร่ขึ้นไป แต่ขณะนี้มีปัญหาว่าบ้าหรูในบริเวณรอบหนองงูเห่าเริ่มขายไม่ออกแล้ว ที่ผ่านมาตนพยายามอุทธรณ์ให้มีการปรับเปลี่ยนสีผังมาโดยตลอด และเห็นว่าส.ส.วิชาญ มีความตั้งใจจริงในการทำงานในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนมากกว่า ในขณะที่นายแพทย์ บุญวนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท เวชธานีกรุ๊ป กล่าวเช่นกันว่า มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ขาวทะแยงเขียว เขตมีนบุรี ประมาณ 400-500 ไร่ ซื้อมาเมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพัฒนาอะไรได้ คงจะต้องรอกทม.ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินก่อน ที่ผ่านมาเอกชนก็เรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณนี้แต่ก็ขึ้นอยู่กับกทม.ว่าจะดำเนินการอย่างไร นอกจากนี้แล้ว นายประสงค์ เฮาฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ร่าวิลล์ จำกัด และในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่าบริษัทมีที่ดินอยู่ย่านสุวินทวงศ์ 300 ไร่ ซึ่งเดิมทีได้พัฒนาโครงการมาแล้วส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว 100 ตารางวา ตามผังเมืองฉบับเก่า ทางด้านนาย อภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล ประธานกรรมการ บริษัท เค.ซี.กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า มีที่ดินอยู่ประมาณ 1,000 ไร่ ขณะนี้เหลือ 200-300 ไร่ บริเวณ เขตคลองสามวา โดยที่ผ่านมาได้ยื่นขออนุญาตจัดสรรไว้ก่อนเมื่อปี 2542 ช่วงผังเมืองฉบับเก่า ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็ต้องรอต่อไป อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วของปรับสีผังเป็นสีเหลือง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวควรยกเลิกแนวเฟลัดเวย์เพราะไม่เคยปรากฎว่ามีน้ำท่วม นอกจากนี้แล้วในหลวงท่านให้ก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ ที่จังหวัดสระบุรี และแก้มลิง ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบเกี่ยวกับน้ำท่วมอีกต่อไป ที่สำคัญทำเลดังกล่าวอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิกำลังจะเปิดใช้ในอีกไม่นานนี้ควรจะเปิดใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยเฉพาะบ้านทาวน์เฮ้าส์อาคารชุดเพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานย่านนี้ได้แล้ว อย่างไรก็ดีได้มีเอกชนและประชาชนได้ร้องเรียนผ่านนายวิชาญ ซึ่งเป็นส.ส.ในพื้นที่จำนวนมาก ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขในเรื่องดังกล่าว ทางด้านนายอิสระ บุญยัง อุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่าเป็นเกมการเมืองที่จะยื้อประกาศใช้ผังเมือง รวมกทม.ฉบับใหม่ออกไป แม้ว่าที่ผ่านมา3 สมาคมบ้านฯ ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ได้เรียกร้องให้มีการผ่อนปรนการใช้ประโยชน์ที่ดินมาหลายครั้งแล้วก็ตามไม่ว่าจะ เป็นที่สภาผู้แทนราษฎร, กทม. ฯลฯ แต่ก็เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคทั่วไป เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยราคาถูกในเขตกทม.ได้ แต่ขณะนี้ได้มีกลุ่มนักการเมืองที่มากกว่า 1-2 ราย ในพื้นที่ ต้องการวิ่งเต้นของแก้ไขผังบริเวณแนวฟลัดเวย์เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งมองว่าไม่น่าจะทำเช่นนั้น หากจะช่วยประชาชนจริงๆ ควรผลักดันเพื่อขอแก้ไข ทั้งหมดจะดีกว่า นอกจากนี้แล้วทราบว่ามีการตั้งคณะกรรมการสภาฯเพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากผลกระทบของร่างผังเมืองกทม.ฉบับดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีโดยตรงอีกด้วย นายโชคชัย บรรลุทางธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า เชื่อว่าสาเหตุที่รัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ออกไป พิจารณาหลังการเลือกตั้งเนื่องจาก เล็งเห็นถึงความไม่พร้อมของร่างผังเมืองฉบับดังกล่าวมากกว่า โดยเฉพาะความเข้มงวดการใช้ประโยชน์ที่ดินที่จะเป็นปัญหาอุปสรรคของเอชนและประชาชนเจ้าของที่ดิน อย่างไรก็ดีสมาคมฯอาจจะจะอาศัยจังหวะนี้เข้าร้องเรียนต่อสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยผลักดันในการแก้ไขผังต่อไป ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=570&p=9&s=15&t=14 หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 11:00:14 AM ส่วนอันนี้เป็นของ เปลว สีเงิน... http://www.thaipost.net/news/101111/47903
ตามตัวแดงครับ... คำตอบ 'Flood Way อยู่ที่ไหน?' เปลว สีเงิน 10 พฤศจิกายน 2554 ซึ้งน้ำใจคนฝั่งธนฯ คนมหาชัย และคนนครปฐม อันเป็นคน "ฝั่งตะวันตก" ยิ่งนัก ท่วมหนักมิคาดหมายก็ไม่เกี่ยง ไม่โวยวายโทษใคร ลำพัง "การน้ำ" ปกติจะไม่ขนาดนี้ แต่เพราะ "การเมือง" จึงรับเคราะห์ชนิดไม่ควรเกิด ถ้าดูตามยุทธศาสตร์การน้ำแล้ว ฝั่งตะวันตกไม่ใช่ทางหลักในการระบายน้ำจากเหนือ-จากกรุงเทพฯ ลงสู่ทะเล จึงไม่มีแนวต้านรับและอุปกรณ์หลักติดตั้งอยู่ด้านนี้ ต่างกับ "ฝั่งตะวันออก" ที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์การระบายน้ำลงสู่ทะเลทางสมุทรปราการ ดังนั้น ทั้งคลอง ทั้งประตูน้ำ ทั้งเครื่องสูบ รวมถึงอุโมงยักษ์ เรียกว่าสารพัด กรมชลประทานและ กทม.พร้อมพรักรับมือน้ำอยู่ทางนี้ แต่เมื่อการน้ำเจอการเมือง บวกดีแต่โม้ของ ศปภ. น้ำก้อนใหญ่จากเหนือแทนที่จะไปลงสู่ทะเลตามทางที่จัดไว้ให้ เมื่อเจอ "การเมืองเหนือนายกฯ" จึงไหลบ่าแบบเบี่ยงทิศและผิดทาง จนกรุงเทพฯ ชั้นใน และคนฝั่งธนฯ คนมหาชัย คนนครปฐม แทนที่จะท่วมแค่เปียก เป็นท่วมแค่หัว ขณะนี้สังคมชนถามกันมากว่า แล้ว "ฟลัดเวย์" หรือกรีนเบลต์ เส้นทางเร่งระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยทางฝั่งตะวันออก ตามแนวพระราชดำริในการป้องกันน้ำท่วมเมืองนั้น อยู่ที่ไหน สร้างเสร็จแล้วหรือยัง? ไม่มีฝ่ายไหน ใครตอบ...ผมโชคดีอยู่อย่าง มักมีคนค้นนั่น-นี่ส่งให้อ่านประจำ เมื่อวาน (๙ พ.ย.๕๔)คุณ Somchai K. อีเมล์บทความหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ฉบับวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๗ มาให้ อ่านแล้วเห็นว่าพอจะตอบคำถามนั้นได้ ก็อยากให้ท่านอ่านบ้าง ดังนี้ สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มนักการเมืองที่ได้ออกมาเคลื่อนไหว ขอแก้ไขผ่อนปรนร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฉบับใหม่ ที่จะประกาศใช้แทนผังเมืองรวม กทม.ฉบับที่ 414 ที่หมดอายุลงไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2547 และ กทม.กำหนดที่จะประกาศใช้ในช่วงสิ้นปี 2547 ไม่เกินเดือนมกราคม 2548 นั้น ล่าสุด นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้ร่างผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบตั้งแต่ช่วงปลายปี 2547 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถประกาศได้ในราวต้นปี 2548 แต่ยังไม่สามารถระบุว่าจะเป็นช่วงไหน ขึ้นอยู่กับ ครม.จะพิจารณาแก้ไขหรือจะมีการเลื่อนการประกาศผังเมืองรวม กทม.ใหม่ออกไป ต่อข้อถามที่ว่า จะต้องมีการแก้ไขเนื้อหาสาระเพิ่มเติมหรือไม่ หากเอกชนเห็นว่าร่างผังดังกล่าวมีความเข้มงวดเกินไป นายอภิรักษ์กล่าวว่า ยอมรับว่าร่างผังเมืองรวม กทม.ฉบับที่จะออกมาบังคับใช้แทนผังเมืองฉบับเก่าที่หมดอายุลง เนื้อหาสาระน่าจะเหมาะสมแล้ว เพียงต้องการให้ภาคเอกชนและประชาชนร่วมทำความเข้าใจและวางแผนพัฒนาที่ดินตามผังเมืองในอนาคตมากกว่า อย่างไรก็ดี กรณีที่จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระของร่างผังเมืองรวม กทม.ตามที่มีการร้องเรียนให้แก้ไขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะเห็นสมควรอย่างไร ในขณะที่แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำหนดจะนำร่างผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่เข้า ครม.เพื่อพิจารณาเห็นชอบภายหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าที่เชื่อว่ารัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีเสียงข้างมากและเข้ามาบริหารประเทศต่ออีกสมัย ทั้งนี้ ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ท้วงติง กทม.ไปพิจารณาร่างผังเมืองข้อ 38 ใหม่ ที่กำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในที่ดินรองหรือพื้นที่โควตา 10% ของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลัก อาทิ การอนุญาตให้พัฒนาเชิงพาณิชย์ 10% ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งกำหนดให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหลัก ฯลฯ โดยตั้งข้อสังเกตว่าไม่จำเป็นต้องสอบถามจาก กทม.อีกว่าใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ได้ เพราะจะเกิดความล่าช้าและมอบหมายให้ กทม.ไปหารือกับกฤษฎีกาว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไร อย่างไรก็ดี ตามข้อเท็จจริงแล้วกรณีที่มีการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่ล่าช้าออกไป แหล่งข่าวกล่าวยืนยันว่า เพราะมีกลุ่มนักการเมืองหลายกลุ่มในพื้นที่ อย่างกรณีของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี พรรคไทยรักไทย และพวกพ้อง เป็นแกนนำในการวิ่งล็อบบี้รัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอปรับสีผังบริเวณแนว "ฟลัดเวย์" หรือพื้นที่สีขาวทแยงเขียวทั้งหมด ที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม โซนตะวันออกบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิจำนวนกว่าแสนไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณเขตมีนบุรี เขตหนองจอกบางส่วน เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา ที่ร่างผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่กำหนดให้ใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น หากต้องการจัดสรรที่ดินเชิงพาณิชย์จะต้องมีขนาดแปลงที่ดินขนาด 1,000 ตารางวา หรือ 2.5 ไร่ขึ้นไป จากผังเดิมกำหนดให้พัฒนาตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไปได้ โดยเสนอให้ปรับจากสีขาวทแยงเขียว หรือเขียวลาย เป็นพื้นที่สีเหลือง หรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เพื่อสามารถพัฒนาได้ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทั้งๆ ที่บริเวณดังกล่าวเป็นแนวพระราชดำริ กำหนดให้เป็นแนวฟลัดเวย์หรือพื้นที่รับน้ำมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากทางตอนเหนือของ กทม.ระบายลงสู่อ่าวไทยเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ดังนั้นกทม.จึงไม่สามารถที่จะปรับตามที่เอกชนและนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวต้องการได้ แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้แล้วช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุน นักการเมืองได้พยายามยืมมือประชาชนเจ้าของพื้นที่ โดยร่วมกับกลุ่มพัฒนาที่ดินส่งเรื่องร้องเรียนมายัง กทม.และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดเสียงร้องเรียนจำนวนมากๆ เพื่อต้องการผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง เพราะมีที่ดินอยู่ในแถบนั้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ทั้งนี้ จากปัญหาในเรื่องของการเรียกร้องการปรับสีผังแนวฟลัดเวย์ดังกล่าว ทาง กทม.จะร่วมกันหาทางออกกับกรมชลประทาน ด้วยการขุดคลองระบายน้ำใหม่ขึ้นมาแทนที่แนวฟลัดเวย์ที่กำหนดเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมด ซึ่งจะสามารถปรับพื้นที่แนวฟลัดเวย์ที่เหลือเป็นพื้นที่สีเหลืองในอนาคต ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้ราว 2 ปีนับจากนี้เป็นต้นไป แต่ขณะนี้ กทม.ขอยืนยันว่าไม่ปรับเปลี่ยนสีผังอย่างเด็ดขาด" จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่ามีกลุ่มนักการเมืองและบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ขาวทแยงเขียวจำนวนมาก อาทิ กลุ่มของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี พรรคไทยรักไทย และพี่น้องที่เป็นทั้งสมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต กทม.(ส.ข.) โดยมีที่ดินรวมกันประมาณกว่า 1,000 ไร่ กลุ่มนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท เวชธานีกรุ๊ป มีที่ดินประมาณ 500 ไร่ นางราศรี บัวเลิศ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท แชลเลนจ์ กรุ๊ป มีที่ดินบริเวณย่านสุวินทวงศ์ จำนวน 600 ไร่, นายประสงค์ เอาฬาร กรรมการบริษัท ฟอร์ร่าวิล์ จำกัด และในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรมีที่ดินบริเวณสุวินทวงศ์ จำนวน 300 ไร่ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ของนายประทีบ ตั้งมติธรรม มีที่ดินอยู่ย่านสุวินทวงศ์ 50 ไร่ นอกจากนี้ บริษัท พฤกษา จำกัด มีที่ดินประมาณ 300 ไร่ ของนายเจ้าพ่อบ้านราคาถูก นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ บริษัท เค.ซีกรุ๊ป ของนายอภิสิทธิ งามอัจฉริยะกุล มีที่ดินประมาณ 2,000 ไร่บริเวณคลองสามวา บริษัท แลนด์แอนเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ของนายอนันต์ อัศวโภคิน มีที่ดินจำนวน 50 ไร่ นางเพียงใจ อัศวโภคิน ซึ่งเป็นมารดาของนายอนันต์ มีที่ดินอยู่บริเวณเขตลาดกระบังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 2 แปลง รวม 1,000 กว่าไร่ นายวันชัย ชูประภาวรรณ เจ้าของบริษัท ประภาวรรณกรุ๊ป มีที่ดินย่านสุวินทวงศ์ประมาณ 100-200 ไร่ บางกอกแลนด์มีที่ดินหลายร้อยไร่ และยังพบว่าตระกูลดังเมืองปากน้ำ "อัศวเหม" เองก็มีที่ดินในย่านดังกล่าวหลายร้อยไร่เช่นเดียวกันกัน ครับ...เอาเท่านี้พอ ยังไม่จบข่าวแต่เนื้อที่ตรงนี้น้อย ถ้าอยากอ่านจนจบก็ลองคลิกไปที่ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=570&p=9&s=15&t=14 หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 11:12:50 AM ขอบคุณท่านสมชาย(ฮา) - รักในหลวงครับ ;)
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 11:47:00 AM นึกไปถึงที่ดินของ รสพ. แถวถนนศรีอยุธยา ขึ้นมาทันใด
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 11:52:17 AM มีกันแค่ 1000 ไร่เอง วิ่งกันฝุ่นตลบ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 11:56:54 AM ฟลัดเวยืตรงนั้น ดั้งเดิม มี5,000กว่าไร่ครับ ตอนนี้เหลือเท่าไหร่ไม่ทราบ
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: vichy ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 12:28:39 PM ขอบคุณครับ ::014::
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 08:07:04 PM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 08:22:04 PM +ให้พี่สมชาย
แต่คนบางกลุ่มเขาไม่เชื่อ แม้แต่กลุ่มคนฝั่งตะวันตกเองก็มีคนไม่เชื่อ คงได้บอก ก็สุดแล้วแต่... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 08:36:23 PM ตั้งโต๊ะล่าชื่อคนจมน้ำฟ้องรัฐบาล สมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อนตั้งโต๊ะเปิดให้ประชาชนเดือดร้อนน้ำท่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า จะจัดงานเสวนาเรื่อง วิกฤตน้ำท่วม 2554 : เหตุสุดวิสัยหรือไร้ฝีมือ ปัญหาที่แท้จริง คืออะไร ที่ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 รร.อิมพีเรียลควีนปาร์ค ถ.สุขุมวิท 22 วันที่ 15ธ.ค.เวลา 13.00-17.00น. โดยเชิญผู้สนใจหรือได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากน้ำท่วมเข้าร่วมเสวนา ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นต้องมาร่วมงานนี้ ทางสมาคมจัดขึ้นฟรีมีกาแฟอาหารว่างบริการ นอกจากนี้ขอให้เตรียมเอกสารสำคัญติดตัวมามด้วยเพื่อร่วมฟ้องรัฐบาล เพราะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาจากความผิดพลาดล้มเหลวของการบริหารจัดการของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น สำหรับเอกสารสำคัญ ที่จะใช้ในการร่วมกันยื่นฟ้องรัฐบาล ประกอบด้วย 1.สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ (ต้องไม่หมดอายุ) 2.รายละเอียดความเสียหายที่สามารถระบุเป็นเงินได้แต่ละประเภทหรือชนิดทรัพย์สินหรือสิ่งของที่เสียหาย หรือความเดือดร้อนเสียหายทางจิตใจหรืออื่นใดก็ได้ 3.มารับแบบฟอร์มมอบอำนาจฟ้องคดี และแบบฟอร์มบัญชีค่าเสียหายได้ที่หน้างาน และหากมาเป็นหมู่คณะโปรดสำรองที่นั่งได้ที่โทร.081-920-5066 อีเมลล์thaisgwa@gmail.comหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.thaisgwa.com (http://image.free.in.th/z/io/0posttoday.jpg) (http://www.posttoday.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1/121049/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5) ขออนุญาตมาแปะไว้ครับ เผื่อผู้ได้รับผลกระทบจะต่อสู้เพื่อสิทธิ์ของตนเองครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 08:47:56 PM แผ่นดินนี้แย่งผลประโยชน์กันจริงๆ จะเหลืออะไรถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเราบ้างนะ
มือใครยาวสาวได้ก็สาวไป ปล่อยให้คนที่ไม่มีสิทธิ์รับกรรมกันไป ::004:: ::004:: ::004:: หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 09:01:58 PM ที่ตรงไหนหว่ารอบสนามบินมันมีแต่โรงงานกับบ่อปลาที่เจ้าของไม่มีวันขายจับปลาทีได้เป็นล้าน
มีเรื่องขำๆที่เพื่อนเจ้าของบ่อข้างสนามบินเล่าให้ฟังเขาว่าตอนเด็กๆมีที่อยู่บริเวณสนามบินนี่แหละของพ่อและถูกเวนคืนทำสนามบินตั้งแต่ตอนเขายังเด็กมาสร้างเสร็จตอนมันอายุสี่สิบกว่า ::005:: อิจฉามันจังต่อมาทางเข้าตรงกิ่งแก้วก็ถูกเวนคืนมันได้มาอีก 42 ล้านเอง ทุกวันนี้ก็ยังเลี้ยงปลาทำรถสองแถวอยู่ ยังมีที่เหลืออีกนะนี่ เจอตัวเขาได้ประจำที่สนามราชนาวีเห็นตัวจริงจะไม่เชือว่ามีเงินเป็นสิบล้าน หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 09:34:54 PM ที่ตรงไหนหว่ารอบสนามบินมันมีแต่โรงงานกับบ่อปลาที่เจ้าของไม่มีวันขายจับปลาทีได้เป็นล้าน มีเรื่องขำๆที่เพื่อนเจ้าของบ่อข้างสนามบินเล่าให้ฟังเขาว่าตอนเด็กๆมีที่อยู่บริเวณสนามบินนี่แหละของพ่อและถูกเวนคืนทำสนามบินตั้งแต่ตอนเขายังเด็กมาสร้างเสร็จตอนมันอายุสี่สิบกว่า ::005:: อิจฉามันจังต่อมาทางเข้าตรงกิ่งแก้วก็ถูกเวนคืนมันได้มาอีก 42 ล้านเอง ทุกวันนี้ก็ยังเลี้ยงปลาทำรถสองแถวอยู่ ยังมีที่เหลืออีกนะนี่ เจอตัวเขาได้ประจำที่สนามราชนาวีเห็นตัวจริงจะไม่เชือว่ามีเงินเป็นสิบล้าน ตอบคำถามว่า"ที่ตรงไหนหว่า"รอบสนามบิน, คือมันไม่ได้"รอบ"สนามบินเป๊ะๆ แบบชะเง้อข้ามรั้วหรอกครับ... แต่หมายถึงที่ดินรายรอบแถบบริเวณนั้น ที่สนามบินจะดึงความเจริญมาให้ ทำให้ที่ดินมีราคาสูงขึ้น, พวก บ.อสังหาริมทรัพย์ เลยไปกว้านซื้อเอาไว้ก่อน เก็บในสต็อกสำหรับทำหมู่บ้านจัดสรรขายไงครับ... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: sombat_ ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 05:50:37 AM แยกฝั่งตะวันตก(ฝั่งธน) ออกจากกรุงเทพเสียทีเถิด ชาวฝั่งธนจะได้มีคนคอยใส่ใจดูแลจริงๆจังๆบ้าง ไม่ใช่ต้องรอให้ว่างจากบริหารฝั่งพระนครเสร็จแล้วถึงแวะมา
เป็นลูกเมียน้อย เป็นงานอดิเรกของผู้ว่า กทม หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 07:30:59 AM หากไม่เกิดน้ำท่วมครั้งนี้ ไม่เกิน 5 ปี พื้นที่แถวตะวันออก จะเต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรรแล้วรอจมน้ำเหมือนด้านตะวันตก ต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 08:03:01 AM ที่ตรงไหนหว่ารอบสนามบินมันมีแต่โรงงานกับบ่อปลาที่เจ้าของไม่มีวันขายจับปลาทีได้เป็นล้าน มีเรื่องขำๆที่เพื่อนเจ้าของบ่อข้างสนามบินเล่าให้ฟังเขาว่าตอนเด็กๆมีที่อยู่บริเวณสนามบินนี่แหละของพ่อและถูกเวนคืนทำสนามบินตั้งแต่ตอนเขายังเด็กมาสร้างเสร็จตอนมันอายุสี่สิบกว่า ::005:: อิจฉามันจังต่อมาทางเข้าตรงกิ่งแก้วก็ถูกเวนคืนมันได้มาอีก 42 ล้านเอง ทุกวันนี้ก็ยังเลี้ยงปลาทำรถสองแถวอยู่ ยังมีที่เหลืออีกนะนี่ เจอตัวเขาได้ประจำที่สนามราชนาวีเห็นตัวจริงจะไม่เชือว่ามีเงินเป็นสิบล้าน ตอบคำถามว่า"ที่ตรงไหนหว่า"รอบสนามบิน, คือมันไม่ได้"รอบ"สนามบินเป๊ะๆ แบบชะเง้อข้ามรั้วหรอกครับ... แต่หมายถึงที่ดินรายรอบแถบบริเวณนั้น ที่สนามบินจะดึงความเจริญมาให้ ทำให้ที่ดินมีราคาสูงขึ้น, พวก บ.อสังหาริมทรัพย์ เลยไปกว้านซื้อเอาไว้ก่อน เก็บในสต็อกสำหรับทำหมู่บ้านจัดสรรขายไงครับ... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 09:57:20 AM ประเทศนี้แปลกเนาะ ชาวบ้านอื่นเมืองอื่นเค้าหนีสนามบินกัน แต่นี่กลับอยากไปอยู่ใกล้ เห็นแบบนี้ประเทศเดียวในโลก มลภาวะเพียบ ชอบกันจัง ตรงรอบๆสนามบินเป๊ะๆ มันไม่ไปอยู่ครับ หนวกหู... แต่มันเก็งกำไรราคาที่ดินแถวนั้น เพราะเขาขยายถนน สร้างถนนใหม่+สร้างระบบคมนาคมใหม่ให้รองรับสนามบินไงครับ... พอไปเก็งกันมากๆก็โลภมาก คิดแก้สีผังเมืองจะได้สร้างเป็นเมืองใหม่แถวโน้นเลย... ตรงนี้แหละเลยเดือดร้อน เพราะงูโป้ไม่ระบายน้ำลงไป, "ฟลัดเวย์ตัน"... อ๊อกซ์... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 10:21:30 AM ขออนุญาต +๑ ให้พี่สมชายครับ
ขอบคุณครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 10:47:15 AM คนไทยเรา ความจำสั้น ครับ หึๆๆ
อยู่กันไป แก้ปัญหากันวันต่อวัน ใอ้ประเภทที่วางแผนรองรับกันเป็น สี่ห้าสิบปี ร้อยปี อย่าหวัง แค่ปีเดีญวก็แทบหายาก แต่ประเภทวันต่อวัน เพื่อสร้างความเด่นดังข้ามคืน ถนัด หึๆๆ ผมเองก็คงจัดอยู่ในประเภทนั้นแหละ มิได้ว่าคนอื่น แล้วตัวเองดี ประเภทที่คิดเพื่อคนอื่น มิใช่แค่วันนี้วันเดีญว แต่ล่วงหน้าหลายวัน หลายปี ดูๆแล้วประเทศไทยมีคนเดียวเท่านั้นมั้งครับ แต่พระองค์ท่านก็...อ่อนล้าเต็มทน จากภารกิจที่หนักหนามายาวนาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 10:51:22 AM โลกที่วุ่นวายทุกวันนี้ เพราะแย่งชิง
ขณะนี้ประชากรโลกแตะ 7,000ล้านคน คิดดูว่า ความต้องการขนาดใหน ต่อวัน แค่ความต้องการพื้นฐาน วันละเท่าไหร่เข้าไปแล้ว ความต้องการเสริมพิเศษของเหล่าบรรดาชาวโลก ที่ไม่รู้จักสิ้นสุดละครับ จะสักเท่าไหร่ อีกประมาณ 30ปีจากนี้ คงจะแตะประมาณ 10,000ล้าน ลองคิดไปดูว่า จะแย่งชิงกันขนาดใหน คนอายุสัก40ตอนนี้ หากไม่ตายเล่นๆซ๊ะก่อน คงจะได้เห็นได้ทราบด้วยตาตนเอง หึๆๆ หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 10:52:44 AM แต่ปีหน้า 2012 เขาว่าโลกจะแตกแล้ว 55+
The end. หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 10:55:18 AM ขออนุญาต +๑ ให้พี่สมชายครับ ขอบคุณครับ ::014:: ทอนคืนที่ 61 แล้วครับ... เย้... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 11:03:17 AM :D~
ครับ พวกควายมาเกิดทำทุกอย่างเพื่อผลประโยด+พวกไม่มีความละอายที่ใช้กดหมาย=ความล่มสลายความทุกข์ของประชาชน :D~ หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: Mr.MK ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 03:15:58 PM ขอ +1 ให้พี่สมชายด้วยคนครับ สำหรับข้อมูลข่าวสาร ::014::
อ่านแล้วสงสารประเทศไทย สงสัยไอ้พวกนักกินเมืองและพวกๆของมัน คงจะได้รับผลที่กระทำในไม่ช้า (ให้มันน้ำท่วมปอดตาย) ::010:: หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 03:21:02 PM เปิดโปงแผนนักการเมืองหาประโยชน์
เปลี่ยนฟลัดเวย์ในหลวงเป็นพื้นที่ทำกิน “ในสมัยเก่านี้ ท่านทั้งหลาย หลายคนก็คงทราบแล้ว สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ 6 ท่านเวนคืนเอาไว้ ท่านสงวนเอาไว้ เป็นของรัฐ แล้วก็คนที่ไปอยู่ในนี้ ผิดกฎหมายทั้งนั้น คนที่เข้าไปอยู่ก็ผิดกฎหมาย ชาวบ้านที่เข้าไปอยู่ก็ผิด กฎหมาย รวมทั้งคนที่ไปซื้อจากชาวบ้านก็ผิดกฎหมาย ฉะนั้น การที่จะขุดรูจะไปทำโครงการสาธารณะ ไม่ผิด กฎหมาย ทำเพื่อที่จะป้องกัน เพราะว่าปีที่แล้วก็เกิด ปีก่อนๆ ก็เกิดปีหน้าก็จะเกิดอีก ต้องทำโครงการฟลัดเวย์ เนี่ย(Flood Way) ขอโทษที่ต้องพูดภาษาฝรั่ง ฟลัดเวย์ เพราะว่าเหมือนที่อเมริกา ที่ซานฟรานซิสโก เขามีฟลัดเวย์ใหญ่ตอนที่ ไม่มีน้ำ แล้วไม่มีน้ำมาหลายปี ที่แคลิฟอร์เนียเขาอดน้ำจะแย่ ไอ้ฟลัดเวย์ก็อยู่ แต่ฝนตกเมื่อไร ไอ้ฟลัดเวย์ก็ เต็มไปเลย แล้วไม่มีใครกล้าไปอยู่ในนั้นตอนนี้ถ้าใครกล้ามาอยู่ในนี้ แล้วฟลัดเวย์มันผ่านไป ก็กรวดน้ำให้เขา คือว่า ต้องเรียกว่า จะหาว่าใจร้ายก็ใจร้าย แต่จะป้องกันไม่ให้มีความหายนะ” พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เรื่อง การป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 2538 ข้อความที่ปรากฏข้างต้นนี้ คือ พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ16 ปีที่แล้ว โดยเป็นแนว พระราชดำริเกี่ยวกับการผันน้ำออกสู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร หรือที่เรียกว่าฟลัดเวย์ แต่ทว่าสถาน- การณ์น้ำท่วมในครั้งนี้กลับมีการตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการระบายน้ำของรัฐบาลออกทางฝั่งตะวันตกท่ามกลาง คำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ฟลัดเวย์ตามแนวพระราชดำริการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออก ถึงไม่ถูกนำมา พัฒนาต่อยอดเป็นวิธีการระบายน้ำในวิกฤตครั้งนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) พูดถึง การสร้างฟลัดเวย์ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า- อยู่หัว ว่าถูกกำหนดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยให้เป็นพื้นที่สีเขียว แต่ความยากลำบากเกิดขึ้นเนื่องจากถูกหมู่- บ้านจัดสรรสร้างขวางทาง จนทำให้บทบาทของฟลัดเวย์ค่อยๆหมดไป ดร.สุเมธ ยอมรับความยากลำบากในการทำฟลัดเวย์ในเมืองไทยนั้น ทำยากที่สุด เพราะแม้กระทั่งห้ามตัดไม้ ทำลายป่า ซึ่งมีโทษจำคุก แต่ก็ยังตัดทุกวัน จากข้อมูลของดร.สุเมธ ดูเหมือนว่า ฟลัดเวย์ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เกิด ปัญหาขึ้นมา โดยตลอดเฉพาะเรื่องการกีดขวางเส้นทางโดยหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งจากการตรวจค้นของ "สำนัก- ข่าวที-นิวส์" ก็พบในความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่มีการปรับปรุงผังเมืองกทม.เมื่อปี 2547 ในผังเมืองรวมนั้นแต่ละพื้นที่จะถูกกำหนดด้วยสีต่างๆกันออกไป ดังนี้ 1.เขตสีเหลือง เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย 2.เขตสีส้ม เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง 3.เขตสีน้ำตาล เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนามาก 4.เขตสีแดง เป็นที่ดินประเภทพาณิชยกรรม 5.เขตสีม่วง เป็นที่ดินประเภทอุตสาหกรรม 6.เขตสีเม็ดมะปราง เป็นที่ดินประเภทคลังสินค้า 7.เขตสีขาวมีกรอบและเส้นทแยงมุมสีเขียว เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม 8.เขตสีเขียว เป็นที่ดินประเภท ชนบทและเกษตรกรรม 9.เขตสีน้ำตาลอ่อน เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย 10.เขตสีน้ำเงิน เป็นที่ดินประเภทสถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ (http://www.tnews.co.th/html/hilight/tnews_1320925688_4746.jpg) เมื่อปี 2547 หนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ" เคยนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการ และ กลุ่มนักการเมืองที่ ขอแก้ไขผ่อนปรนร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฉบับใหม่ ที่จะประกาศใช้ แทนผังเมืองรวม กทม.ฉบับที่ 414 ที่กำลังหมดอายุลงไปในวันที่ 4 กรกฎาคม 2547 และ กทม.กำหนด ที่จะประกาศใช้ในช่วงสิ้นปี 2547 ไม่เกินเดือนมกราคม 2548 แต่จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐ- มนตรีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในยุคนั้น ขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราช- การกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งกรณีที่จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระของร่างผังเมืองรวม กทม.ตามที่มีการร้องเรียนให้แก้ไข หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะเห็นสมควรอย่างไร รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุเพิ่มเติมว่า ในขณะนั้น ทางสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำหนดจะนำร่างผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่เข้า ครม.เพื่อพิ- จารณาเห็นชอบ ภายหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าที่เชื่อว่ารัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีเสียงข้างมากและเข้ามาบริหารประเทศต่ออีกสมัยโดยที่ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ ท้วงติง กทม.เรื่องการพิจารณาร่างผังเมืองข้อ 38 ใหม่ ที่กำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในที่ดินรองหรือพื้น ที่โควตา 10% ของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลัก อาทิ การอนุญาตให้พัฒนาเชิงพาณิชย์ 10% ในพื้นที่สีเขียว อย่างไรก็ดี จากกรณีที่มีการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่ล่าช้าออกไป ได้มีการรายงาน กล่าวอ้างถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เป็นเพราะมีกลุ่มนักการเมืองหลายกลุ่มในพื้นที่ เขตมีนบุรี และพวกพ้อง พร้อมกับมีการกล่าวหา โดยการระบุรายชื่อว่าคือ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็นแกนนำในการวิ่งล็อบบี้ รัฐบาลเพื่อขอปรับสีผังบริเวณแนว "ฟลัดเวย์" หรือพื้นที่สีขาวทแยงเขียวทั้งหมด ที่กำหนดให้เป็นที่ดิน ประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม โซนตะวันออกบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิจำนวนกว่าแสนไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณเขตมีนบุรี เขตหนองจอกบางส่วน เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา โดยเสนอ ให้ปรับจากสีขาวทแยงเขียว หรือเขียวลาย เป็นพื้นที่สีเหลือง หรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เพื่อสามารถพัฒนาได้ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทั้งๆ ที่บริเวณดังกล่าวเป็นแนวพระราชดำริ กำหนดให้เป็นแนวฟลัดเวย์หรือพื้นที่รับน้ำมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากทางตอนเหนือของ กทม.ระบายลงสู่อ่าวไทยเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ดังนั้นกทม.จึง ไม่สามารถที่จะปรับตามที่เอกชนและนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวต้องการได้ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุน นักการเมืองได้พยายามยืมมือประชาชนเจ้าของพื้นที่ โดยร่วมกับ กลุ่มพัฒนาที่ดินส่งเรื่องร้องเรียนมายัง กทม.และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดเสียงร้องเรียนจำนวน มาก เพื่อต้องการผลประโยชน์ เพราะมีที่ดินอยู่ในแถบนั้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ตอกย้ำกับการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ" ในขณะนั้นพบว่ามีกลุ่มนักการเมืองและบริษัทพัฒนาที่ดิน รายใหญ่มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ขาวทแยงเขียวจำนวนมาก อาทิ กลุ่ม ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี สมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต กทม.(ส.ข.) โดยมีที่ดินรวมกันประมาณกว่า 1,000 ไร่ รวมไปถึงกลุ่มทุนต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก การเปิดข้อมูลดังกล่าวของ "สนข.ทีนิวส์" ก็เพื่อที่จะเปิดประเด็นให้คุณผู้อ่านได้ร่วมกันพิจารณาและ ตรวจสอบว่า พื้นที่ฟลัดเวย์ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ประสบกับปัญหา จากการรุกรานของนักการเมืองเห็นแก่ตัวจริงหรือไม่??? จาก http://www.tnews.co.th/html/read_headnews.php?hilight_id=1805 (http://www.tnews.co.th/html/read_headnews.php?hilight_id=1805) อันนี้ ให้ไปดูกันเอง https://www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=312991728727117 (https://www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=312991728727117) หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 05:40:30 PM ขอ +1 ให้พี่สมชายด้วยคนครับ สำหรับข้อมูลข่าวสาร ::014:: อ่านแล้วสงสารประเทศไทย สงสัยไอ้พวกนักกินเมืองและพวกๆของมัน คงจะได้รับผลที่กระทำในไม่ช้า (ให้มันน้ำท่วมปอดตาย) ::010:: ทอนคืนที่ 15 ครับ... เย้... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 05:42:23 PM ขอบคุณน้าซับครับ... ในหลวงตรัสมาแล้วตั้งนาน...
รู้สึกคลิปนี้ สรยุทธ์เอามาออก TV เสียด้วยซิครับ ชัดเจนจริงๆ... หัวข้อ: Re: เหตุน้ำท่วมฝั่งตะวันตกของ กทม. หนัก, เพราะกลุ่มทุนแก้ฟลัดเวย์... เริ่มหัวข้อโดย: wiched ที่ พฤศจิกายน 14, 2011, 04:35:03 PM เซ็งแทนว่ะ ประเทศไทย ขอให้ไอ้พวกห่านนั่น แมร่ง จมน้ำตายกันซะให้หมด
|