เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

Gatling gun คิดประดิษฐ์ขึ้นมาโดย  Dr. Richard J. Gatling ในปี ค.ศ. 1861 เพราะเขามีความคิดที่จะลดจำนวนขนาดของทหารในกองทัพ  ผลที่ตามมาคือเป้าประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือ คนจะตายน้อยลงในสงคราม รุ่นแรกถึงแม้ว่าจะยิงได้แบบติดต่อกัน แต่ก็ต้องใช้คนปั่นด้วยมือ จนถึงปี 1884 เขาได้ประดิษฐ์ปืนที่เรียกว่า Maxim gun ซึ่งเป็นแบบ fully automatic เพราะใช้แรงขับจาก projectile's recoil เป็นพลังงานในการขึ้นลำโดยอัตโนมัติ

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/204671_ts.jpg)

Ruger 10/22 ปืนยาวยอดนิยมใช้กระสุน .22 long rifle ปัจจุบันมีรวม 5 แบบให้เลือกจากผูเผลิตโดยตรง นอกจากนี้ยังมีแบบพิเศษที่ผลิตให้กับตัวแทนจำหน่ายโดยเฉพาะอีกด้วย

Tactical Innovations  ได้ออกแบบ Gatling Gun Kit ขึ้นมา โดยใช้อะลูมีเนียมขึ้นรูปเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อนำมาประกอบกับ Ruger 10/22 สองกระบอก ก็จะได้ Gatling Gun ที่สามารถยิงรัวได้โดยการหมุนพวงมาลัยเล็ก ๆ ตามคลิปที่แนบมา  หมุน 1 รอบยิง 4 นัด

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/204671i_ts.jpg)

http://www.youtube.com/watch?v=k2yzcMPQZdU

Kit includes:
•   Machined aluminum for lightweight strength
•   Bronze bushings
•   Trigger bar on thrust bearing
•   Aluminum receiver covers
•   Anti-aircraft style sights
•   Swivel feet
•   Barrel guards
•   Muzzle brakes
•   Limit screws
•   Assembles in minutes with ordinary hand tools
•   Classified as semi-auto for BATF purposes

สนนราคาก็ 400 ดอลล่าร์สหรัฐครับ

ธนาสิทธิ์ ศิริลักษณ์

๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

ขอบคุณครับ  ::014::

สรุปแล้วมันดีไหมครับ อาจารย์มีความเห็นยังไงมั่งครับ อยากคุยเรื่องอะไรของมันครับ... เอาแบบไม่ตัดแปะน่ะครับ... แฮ่ๆ...

ถ้าเอาไปยิงเครื่องบินบังคับ น่าจะสนุกดีนะครับ  ::005:: ::005:: ::005::

อยากเอามาให้ดูว่าเขาช่างคิด อีกอย่างลูกกระสุน .22 long rifle ราคาค่อนข้างถูก จะยิ่งทิ้งยิงเล่นก็พอไหว
และอยากนำเสนอความคิดของ Dr. Gatling ที่อาจดูจะขัดแย้งกันในตัว คือคิดอาวุธ เพื่อลดจำนวนคนที่จะตายในสงคราม
ส่วนจะดีหรือไม่ ผมว่าก็แล้วแต่คนที่จะซื้อไปใช้  บางคนแค่เอามาตั้งโชว์ก็แฮปปี้แล้ว
ปล. รูปนั้นผมตัดแปะให้ แต่ถ้าจะไม่เอาตัดปะ ก็เป็นว่าผมต้องถ่ายภาพเอง เขียนเรื่องเอง ทั้งหมด งั้นตามไปดูเรื่องปืนลมที่ผมลงไว้หลายกระบอก

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/Airgun/FT-5DL.jpg)

หรือไม่ก็เกี่ยวกับไฟฉายที่ผมลงไว้ที่เว็ปไทยเท็คกิ้ง (ไม่ลงลิ้งให้นะครับ เพราะมันต้อง"ตัดปะ" หาดูเองละกัน)

คงจะเกิน 1 พันกระทู้นิด ๆ

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/A%20Flashlight/My%20Collections/L1100888Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/A%20Flashlight/My%20Collections/L1100869Medium.jpg)

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/A%20Flashlight/My%20Collections/L1070474Large.jpg)

อ้อ..แล้วก็มีกระทู้นาฬิกาที่ผมลงไว้พอสมควรที่ สยามนาฬิกา (ไม่ลงลิ้ง "ตัดปะ" เช่นกัน)

ขอบคุณครับ... ::014::

ขออนุญาตเสริมท่านอาจารย์นิดเดียวครับ...

แกตลิ่งประดิษฐ์ปืนกลลำกล้องหมุนเพื่อลดอัตราการตายของทหารในสงครามครับ...

มีเหตุผลหลักๆอยู่สองข้อคือ...

๑.แกตลิ่งเป็นแพทย์เพราะสมัยนั้นเกิดการระบาดของฝีดาษ แกจึงสนใจในด้านระบาดวิทยาเป็นอย่างมาก...

๒.ในสงครามกลางเมืองนั้นสาเหตุการเสียชีวิตหลักๆของทหารเกิดจากโรคระบาดมากกว่าจากอาวุธครับ...

ดังนั้นการผลิตอาวุธอัตโนมัติที่กระบอกเดียวทำงานแทนทหารจำนวนมาก จะทำให้สามารถลดปริมาณทหารในกองทัพลง เป็นการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคระบาดครับ...

ปล.แกตลิ่งเป็นแพทย์ที่ไม่ได้ทำงานแพทย์จริงๆ น่าจะเรียกว่าเป็น"ยอดนักประดิษฐ์ที่มีคุณวุฒิทางการแพทย์ประกอบ"มากกว่าครับ...ฮา... ::005::

 ท่าทางจะทะลุช่อง พรบ. ทุกช่องเลยนะนี่... :D~

แบบนี้ดีกว่า จากกระทู้รวมพล 10/22

ผมคิดไปไกลจนถึงใช้มอเตอร์เลยครับ แต่ไม่กล้าทำเพราะคุกแหงๆ 

เคยอ่านเจอว่าเส้นแบ่งคือกลไกอยู่ข้างในปืน เรียกว่าปืนกล... แต่ถ้ากลไกอยู่ข้างนอกปืน นายสมชายว่ามันก็เคือเครื่องปั่นไกน่ะครับ...
ทีนี้เจ้าคิตฯ ที่ประกอบกันเป็นปืนกลคู่ตามท้องเรื่องในกระทู้ หากประกอบเสร็จแล้วมันเรียกว่าอยู่ข้างในหรือข้างนอกหนอ...

สมมตินายสมชายเป็นตำรวจ ตรวจแล้วเจอของแบบนี้ สงสัยคงจับเอาไว้ก่อน แล้วปล่อยให้อัยการ+ศาลเป็นคนบอกว่ามันคืออะไรน่ะครับ... ฮา...

ปืนจะจัดว่าเป็นกล หรือไม่กล อยู่ที่ว่า  เหนียวไกแล้วกระสุนลั่นกี่นัด
พวกระบบไขโดยใช้ cam ลูกเบี้ยวไปดันไก  ก็เหมือนกับเหนี่ยวไกทีละนัดอยู่ดี   ก็จัดให้เป็นระบบ กึ่งออโต้
แต่ก็มีคนหัวฝใส  เอามอเตอร์ไฟฟ้าไปใส่  พอใส่ปุ๊บทาง ATF ก็งาบปั๊บ   นอนคุกสบายไป

ขอบคุณครับ....
ผมขอแปลดังนี้จาก Wikipidia

It occurred to me that if I could invent a machine – a gun – which could by its rapidity of fire, enable one man to do as much battle duty as a hundred, that it would, to a large extent supersede the necessity of large armies, and consequently, exposure to battle and disease [would] be greatly diminished.[8]

DR. Gatling กล่าวว่า “ผมเห็นว่าถ้าผมสามารถประดิษฐ์เครื่องกล-ปืน- ซึ่งสามารถยิงได้อย่างรวดเร็ว  โดยใช้คนเพียงคนเดียวทำหน้าที่ในสงครามได้เท่ากับคนร้อยคน ผลตามมาก็คือ ไม่จำเป็นต้องใช้กองทหารจำนวนมาก ผลท้ายสุดผลเสียจากการเผชิญหน้ากับการสู้รบและโรคร้ายจะลดลงได้อย่างมหาศาล”

He graduated from the Ohio Medical College in 1850 with an MD. Although he had his MD, he never practiced; he was more interested in a career as an inventor.[1][

เขาเรียนจบแพทย์จาก Ohio Medical College ในปีค.ศ. 1850 และถึงแม้จะมีปริญญาแพทย์ แต่ก็ไม่เคยเป็นหมอ เขากลับสนใจในอาชีพของนักประดิษฐ์มากกว่า

อยากเห็นคลิปจังเลยครับไม่ทราบว่ามีรึป่าว

นายสมชายว่า อาจารย์เข้าใจผิดเรื่องนี้ไปแยะครับ...

คือเสิร์ชดูชื่อ+นามสกุล ของอาจารย์แล้วเห็นว่าทำงานเกี่ยวกับการจัดการ"องค์ความรู้"น่ะครับ, เรื่องจำนวนกระทู้มากน้อยในเว็บสยามนาฬิกา นี่ไม่ได้มีมันไม่เกี่ยวอะไรกับปืนตามท้องเรื่องตามกระทู้นี้เลยนี่ครับ...

ประเด็นของเรื่องคืออยากอ่านการสรุปรวบยอดในประเด็นที่ต้องการสื่อฯ เหมือนนั่งคุยกันมากกว่าครับ... ตัวอาจารย์เองก็รู้ดีว่าเอามา"ตัดแปะ"โดยไม่วิจารณ์ มันก็เหมือนกับเอามาให้อ่าน หากไม่สรุป+เพิ่มความเห็นอะไรในประเด็นต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างกับใครก็ไม่รู้มากางหนังสือหนึ่งหน้า แล้วบอกว่าอ่านเอาเองเน้อ, อย่างนี้ใครๆก็ทำได้นี่ครับ แต่เห็นอาจารย์ลงท้าย Post ว่าเป็นคนจบปริญญาเอก แถมยังสามารถเสริชชื่อ+นามสกุลได้ตามลิ้งก์นี้ http://rmcs.buu.ac.th/Tanasit.html (http://rmcs.buu.ac.th/Tanasit.html) มันก็ต้องหวังจะอ่านอะไรมั่งซิครับ... แฮ่ๆ...

นี่ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง ที่นายสมชายเองตอนนี้ชักรู้สึกว่าตัวเองคาดหวังอะไรที่คนเขาไม่อยากจะ"ให้"หรือเปล่านะครับ...

Post นี่คุยกันระหว่างสองด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเป็นด็อกเตอร์ออฟเมดดิซินหรือ"หมอยา", ส่วนด็อกเตอร์อีกท่านหนึ่งเป็นด้านคอมพิวเตอร์ที่มีพื้นฐานปริญญาโทด้านการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ด้วยการจำแนกแยกแยะรายละเอียดส่วนประกอบแล้วสรุปรวบยอดออกแบบให้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ทำงานร่วมกัน(System Analyst)...

ที่จริงอาจารย์ก็ทราบว่าสิ่งที่ประเสริฐสุดของสมองมนุษย์คือการ"ตกผลึก"ทางความคิด... นั่นคือใสกระจ่าง เอาความรู้แขนงหนึงมองทะลุก้อนผลึกต่อยอดเข้ากับอีกแขนงหนึ่งสอดเกี่ยวประสานเป็นเหมือนผ้าผืนเดียวกัน ต่อเป็นเรื่องราวใหม่ครับ, ตรงนี้เครื่องจักรทำไม่ได้ และปัญหาคือทำยังไงให้ความรู้ในหลายด้านมันมาอยู่ในสมองก้อนเดียวกันให้ได้...

ตาม Post นี่ด็อกเตอร์ท่านที่เป็นหมอยา ท่านเอาเรื่องปืน+สงคราม+โรคระบาดมาผูกต่อกันครับ... เลยมองเห็นว่ามันมีประเด็นนี้อยู่ข้างหลังปืนกลแก็ตลิ่ง...

เรียนอาจารย์...

นายสมชายไปอ่านกระทู้ปืนลมแล้วครับ... พบว่าน่าอ่านน่าติดตามสมกับเป็นอาจารย์ด้านการจัดการความรู้ครับ... เย้...

ขอบคุณครับพี่สมชาย...  ::014::

ขออนุญาตเรียนว่าผมไม่ได้เป็นดอกเตอร์ครับ...

เป็นแพทย์น่ะใช่ วุฒิเทียบเท่าปริญญาเอกก็ใช่ครับ...

แต่ไม่ได้เป็นดอกเตอร์ในความหมายที่จบปริญญาเอกจริงๆครับ... ::014::

อ้างถึง.....ตัวอาจารย์เองก็รู้ดีว่าเอามา"ตัดแปะ"โดยไม่วิจารณ์ มันก็เหมือนกับเอามาให้อ่าน หากไม่สรุป+เพิ่มความเห็นอะไรในประเด็นต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างกับใครก็ไม่รู้มากางหนังสือหนึ่งหน้า แล้วบอกว่าอ่านเอาเองเน้อ, อย่างนี้ใครๆก็ทำได้นี่ครับ  

ถ้าคุณสมชายคุ้นเคยกับกระทู้ผม ก็จะรู้ว่าผมไม่จบง่าย ๆ ส่วนใหญ่ผมจะโปรยหัวเรื่องเอาไว้ ให้สมาชิกได้อ่าน ได้คิด ได้ถาม และโต้ตอบเป็นการต่อยอด  ในบางกรณีผมก็แกล้งลงอะไรที่มี "ข้อผิด" ดูทีว่าจะมีใครตาไวจับได้บ้าง ฯลฯ  
ส่วนเรื่องนี้ ผมเห็นใน catalog และรู้สึกว่าน่าสนใจดี จึงคิดจะนำมาให้ดูกัน ผมไม่ได้จับต้องและทดสอบด้วยมือตัวเอง จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้
แต่การที่บอกว่า  กางหนังสือหนึ่งหน้า ใครๆ ก็ทำได้นั้น ก็คงต้องขึ้นกับว่า หนังสืออะไร หามาได้อย่างไรมากกว่า ผมกลับคิดว่า บางทีการหาหนังสือดี ๆ เลือกหน้าเจ๋ง ๆ มาให้คนดู จะยากกว่าให้เขียนเรื่องเองเสียด้วยซ้ำไป  ผมจึงขอไม่เห็นด้วยนะครับว่า "อย่างนี้ใครๆก็ทำได้"
ที่จริงผมก็น่าจะเขียนให้มากกว่านี้ แต่อย่างที่บอกว่า ไม่ได้สัมผัสเอง และงานผมก็มีมากโข
ผมเคยอ่านหลายกระทู้ ที่เจ้าของกระทู้นำเพียง hyper link มาลง แต่พอได้เปิด ติดตามอ่านต่อไป ได้อะไร ๆ มากมาย ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณเขาคนนั้น...
ท้ายสุด จำนวนกระทู้ที่ผมแจ้งไว้ เพียงให้รับทราบว่า ผมไม่ได้เพิ่งมาเขียนกระทู้  ทำมานานพอสมควรจึงรู้รูปแบบอันหลากหลาย
กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิว หรือทดสอบนะครับ มันก็เลยดูห้วน ๆ ไป

เข้าใจผิดอีกแล้วน่ะครับ ท่านอาจารย์... หากเห็น Post ครั้งหลังสุด จะเห็นว่านายสมชายไปอ่านกระทู้ปืนลมแล้วน่ะครับ...  :D

เอาเฉพาะตามตัวแดงนะครับ, กางหนังสือหนึ่งหน้าฯ แล้วไม่ได้บอกประเด็นอะไรเลย แต่คอยซุ่มดูว่าผู้อื่นจะวิจารณ์อย่างไร แล้วมาเฉลยทีหลังนั้น, วิธีนี้เขาเอาไว้"เล่น"กับลูกศิษย์นะครับ... ที่จริงหากอาจารย์จะทำเช่นนั้นก็ไม่แปลก เพราะเว็บบอร์ดเป็นสื่อสาธารณะ หากท่านใดจะ"กั๊ก"ข้อมูลไว้เฉลยทีหลังก็ย่อมสามารถทำได้นี่ครับ, หากท่านใดคอยติดตามอ่าน อาจารย์ก็จะเฉลยทีละหน้า หงายไพ่ทีละใบ ก็ย่อมได้อยู่แล้วครับ...

คือบังเอิญนายสมชายติดนิสัยคาดหวังจากเฉพาะบางคนบางท่าน คือเวลาเราจะอ่านกระทู้(หรือสนทนา)กับใคร เราก็จะประเมินก่อนว่าคนนั้นจะมี"อะไร"ให้อ่าน ให้สนทนาคุ้มค่ากับการเสียเวลาหรือไม่ หากเป็นนายกอไก่ หรือนางสาวขอไข่ ธรรมดาๆ, นายสมชายก็เฉยๆครับ หากเขาเยิ่นเย้อเกิน เราก็บอกกับตัวเองได้ว่า คนไม่เหมือนกันทุกคน... ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันคือการมองภาพรวม+ความคิดรวบยอดครับ...

ตัวอย่างที่ว่า ก็ตามกระทู้นี้... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=105293.0

ดังนั้น หากนายสมชายเจอกระทู้ที่"ตัดแปะ"ไม่วิจารณ์ ก็รู้สึกเหมือนกับเจอข้อความว่า"ถนนนี้ยาว 2 กม."ก็สงสัยว่าเขาจะบอกอะไรหรือ... เช่นอยากบอกว่า 2 กม.เดินไกลจัง หรืออยากบอกว่าแค่ 2 กม.ขี่จักรยานแค่แป๊บเดียว, ตรงนี้ความหมายไม่เหมือนกันนะครับ...

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เว็บบอร์ดเป็นสื่อสาธารณะ การที่จะเขียนอะไร หรือไม่เขียนอะไร หรือจะกั๊กอะไรนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะที่เขียนข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องให้เปล่า เป็นความเอื้อเฟื้อไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรครับ... เย้...

ขอแย้งหน่อยครับ ปืนกลแม็กซิม เจ้าของผลงานคือ เซอร์ ฮีแรม แม็กซิม นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/30/Maxim_portrait.jpg)

  ;)

พี่เจษ ผมเองเห็นกลไกก็ยังนึกเลยครับพี่ ว่าหมุนๆแบบนี้ จับใส่มอเตอร์รอบจัด ใส่แบตเตอรี่ที่โวลต์สูงๆ สัก 12V ท่าทางจะยิงกระจายครับ

แต่ก็ต้องระงับไว้แค่ความคิด เพราะยังไม่อยากย้ายที่นอนไปนอนคุก

เคยมีคนหัวใสทำเป็นกล้องเล็กๆไว้ติดที่โกร่งไกปืนขาย  หุหุหุ  ยังไม่ทันได้ขายเยอะก็โดนงาบซะก่อน 555
ทาง ATF เผิ่นบอกว่า พอทำแบบนั้น ตอนกด switch ให้มอเตอร์ทำงาน  ตัว  switch ก็คือไก  ในเมื่อกดไกแล้วออกมากว่าหนึ่งนัด ก็กลายเป็นยิงกล หุหุหุ

กำจริงๆ ถ้าเปลี่ยนจากมอเตอร์เป็นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดียวกับที่เคาะกระดิ่งให้ดังกริ๊งๆๆๆๆๆๆ
มาเคาะไกปืนแทนล่ะครับ......  ;D ;D ;D

(http://2.bp.blogspot.com/_eXWYhqihnow/SEfPiqp66TI/AAAAAAAAAHg/BunQg45DUb8/s320/clip_image002.jpg)

นายซ้าบบบบ  แล้วตอนกดกระดิ่งน่ะ กดอะไรล่ะ

หมายถึงอะไำรครับ

ถ้าหมายถึงการสั่งทำงานก็สวิทช์ธรรมดาๆ
พอแม่เหล็กดูดเข้า ก็จะตัดวงจรจากการเคลื่อนไหวของโลหะที่ถูกดูดเข้ามา ห่างหน้าสัมผัส
โลหะที่ว่าจะดีดกลับออกไปสัมผัสทำให้ไฟฟ้าครบวงจร ถูกดูดกลับเข้ามาอีกครั้ง

แม่เหล็กไฟฟ้า จะทำให้ผลักออก หรือดูดเข้าก็ได้ครับ

ก่อนที่ทุกอย่างจะทำงาน ต้องกดสวิทช์  ก่อนใช่ไหม มันก็คือไก ก็ผิดกฏหมายอยู่ดี

ก็คือ ปุ่มสวิทซ์ = ไกปืน ไปโดยปริยาย เพราะถ้ากด ปืนก็ลั่น รึเปล่าครับ

แม่นแล้ว

เมตตาธรรม ค้ำจุนโลกา ....................................................... :VOV:

 ;D ;D ;D

โห ผมนึกว่า ของอาจารย์ จะเยอะแต่ไฟฉายอย่างเดียวซะอีก

ถูกต้องครับ แบบนี้ขอเรียกว่า Hawk eye ผมใช้คำว่า"เขา"แบบผิด ๆ เพราะเขาคนนั้นต้องเป็น Sir Hiram Maxim หาใช่ Dr. Richard J. Gatling ไม่
ขอบคุณครับ

ผมไม่ติดใจอะไรหรอกครับ ดีเสียอีกที่ได้ถกกัน และก็เข้าใจว่า "คนไม่เหมือนกันทุกคน" ซึ่งผมเองก็เฝ้าสอนคนอื่นด้วยคำพูดเช่นนี้
ท้ายนี้จึงขอขอบคุณคุณสมชายด้วยใจจริงที่มาช่วยปลดภาระการลงกระทู้ใน "สนทนาภาษาปืน" ของผม

ธนาสิทธิ์
๓๐ พ.ย. ๒๕๕๔

หมดกัน

     อะไรหมดหรือท่าน มันทะแม่งๆนะ ...อีโก้ หรืออัตตา ล่ะท่าน มันก็อันเดีียวกันนั่นแหละนิ..อิอิ..

ท่านอาจารย์ก็เข้าใจผิดไปเสียอีกจนได้ครับ, นายสมชายแค่อยากบอกดังนี้ครับ... คราวนี้แยกเป็นข้อๆ...

1) หากท่านใดไม่มีศักยภาพมองภาพรวมออก+ไม่สามารถสรุปรวบยอดได้ นายสมชายก็ไม่ได้คาดหวัง, ตามตัวอย่างกระทู้ของคุณ Pasta มีตัวละครหนึ่งคนมองภาพรวมออก และตัวละครหนึ่งตัวมองภาพรวมไม่ออกครับ...

2) ศักยภาพของท่านอาจารย์ สามารถสร้างความคาดหวังจะเห็นความเห็นดีๆ มีคุณค่าจากคนอ่าน... นายสมชายเลยชอบถามความเห็นให้วิจารณ์หรือถามหาประเด็นที่ต้องการจะสื่อไงครับ และเคยถามหลายกระทู้แล้วครับ...

3) สไตล์การตอบกระทู้ของแต่ละท่านนั้น สามารถทำได้ เพราะไม่มีใครบังคับครับ, จะกั๊กประเด็น จะซุ่ม หรือจะ"เล่น" เพื่อคอยดูความเห็นท่านอื่นก่อนแล้วเฉลยทีหลังก็ย่อมได้... แต่ที่นายสมชายถามเจาะ ก็เพราะ"อยากรู้"ตามประสาคนชอบอ่านเท่านั้นเองครับ...

4) การตอบกระทู้ การ Post ความรู้นั้นเป็นความเอื้อเฟื้อ เพราะไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน... ตรงนี้นายสมชายตระหนักครับ ดังนั้นจึงทราบว่า"ของฟรี"ต้องยอมรับได้ว่าอาจโดนกั๊กมั่ง, แต่คนโดนกั๊กก็สามารถถามได้ไงครับ...

สุดท้ายนี้ หากอาจารย์จะ"ปลดภาระการตอบกระทู้"เพราะคิดว่าเป็นเรื่อง"ภาระ"นั่นก็ต้องแล้วแต่อาจารย์แหละครับ... แต่ถ้าเป็นเพราะ"ความเข้าใจผิด", นายสมชายก็ขอแก้ไขความเข้าใจให้ถูกต้องตามความหมายที่ประสงค์ที่นายสมชายจะสื่อออกมา ณ ที่นี้ครับ...

ผมเดาเอานะ  จะขายอะไรหรือเปล่าครับ   พี่สมชาย(ฮา) ก็ ::008::

เห็นมีราคา  ต่อท้ายด้วย  ดูข้อความแรกครับ   เหมือนเป็น Guidance อ่ะครับ

Doc I'm sure you have thicker skin than this.

That thought crossed my mind but after trying to step into something that's not my cup of tea for the first time and I have to face THIS. Anyway, I may not give up after all if I find the right topics. At the moment I have to do a few reviews of the flashlights which I've been away for awhile.
Thanks for the urge.
My motto of the day, “Ignorance is virtue”.

อิ อิ ครับท่าน ppk/s 7.65 หมดกัน

วางบางอย่างได้ มิตรภาพจะยังอยู่ ความรู้จะยังเอื้อเฝื่อให้คนอื่นๆ ได้

Well Doc. no one knows everything  or  let me say I've never met anyone who knows everything yet .  How ever I met people who think they know everything. I believed that call a know it all . How's the weather in Philly. I was in Carlisle during the summer.

Since I love cold weather, so now it's my favorite time in Philly. I play tennis outdoor every morning regardless of weather unless it rains or snows. Then I fly my Y6 multirotor even it is windy as it was in the past week. The protesters who calls themselves "occupy" setup the camps around the city hall but was swept away by the police last night. The cost for that police operation was over 1 million dollars which came from us, the tax payers! That's the bad weather for me.

I will continue to contribute my post anywhere as I and only I see fit, nobody and nobody can put me down and you can take that to the bank.

Tanasit

Which bank do you want me to take it to Doc?  ;D
Yeahh I like cold weather too but I do hate to deal with ice on the windshield and window in the morning . At least I don't have to shovel my drive way a perk of living in the South.
Don't get started on the Tax payer subject.
Tell us about the Y6.