เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

    อยากสอบถาม เพื่อนๆ พี่ๆ ครับ

   ว่าใคร เคย บวช เรียน กันบ้างครับ 

   เพราะสังคมเราเปลื่ยนไปมาก พัฒนากันทุกด้าน แต่ ศาสนาพุทธ เราเริ่มเสีอมลงทุกวัน

    คำพูดที่ ว่า " จะเจริญจนขีดสุด และจบลงใน 5000 ปี " นี่ก็ 2500 ปีกว่าแล้ว

   พระในสมัยนี้ มีข่าวมากมาย ทีมีจิตดีก็มาก ทีจิตไม่ดีก็มี  แต่ จงอย่าได้มองดู อย่างเดียว

   

   เราสามารถสนับสนุน ศาสนาเราได้ โดยการ เข้าวัด ไหว้พระ ไม่ต้องเสียตังศ์ อาจจะเสียค่าธูป 5-10 บาท

   แต่จะทำให้ จิตใจเรา คนรอบข้าง สมาชิก เป็นแบบอย่าง หล่อหลอม ส่งเสริม สนับสนุน พระศาสนา

   ศาสนา อื่นๆ ยังคงประเพณีต่างๆ ของเขาไว้ ทุกอย่าง  เช่น ศาสนาคริส ต้องเข้าโบสท์ ทุกวันอาทิตย์

   แต่ พระพุทธเจ้า สอนเรา ไม่ให้ ยึดติดกับสรรพสิ่ง " สรรพสิ่งต่างๆ ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา "

   แม้กระทั่งศาสนาเราเอง

   ท่านเข้าวัดครั้งสุดท้ายกันเมื่อไหร่ครับ ?

จำไม่ได้ว่าเข้าวัดเมื่อไร แต่ค่อนข้างอยู่ในศีล 5 (กลัวพระ เห็นมาเยอะ)

สาธุ

มีคนกล่าวใว้ คล้ายไบเบิล เลย ว่า

ศษสนาพุทธ มีอายุ 5000 ปี แล้วเมื่อ นั้น กงล้อ ธรรมจักร จะหมุน แล้วก้อจะเริ่มต้นแห่งยุค พระศรีอารย

จริงไม่จริงก้อคอยดูครับ ผมขอตัว อิอิอิ ;D

เข้าวัดครั้งสุดท้ายเมื่อเข้าพรรษานี่เอง

ปกติเป็นคนดีของสังคม และจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน(เว้น...อีตา51)

ศาสนาไม่ได้เสื่อมลง แต่อย่างใดครับ   ยังคงมั่นคงและเจริญอยู่

เรื่องพฤติกรรม นอกรีด นอกรอย เป็นเรื่องปกติ ครับ  ศึกษาให้ดีจะพบว่ามีอยู่ทุกยุคทุกสมัย  มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว 

ที่พวกเราอยู่กันได้ สบายกันทุกวันนี้ก็เพราะ มรดก ของท่านศาสดา (ทุกศาสนา)ทิ้งไว้เป็นคำสอน ให้พวกเราครับ

ยึดหลักของใจให้ได้   ก็เป็นสุขครับ

ย้ำเช่นกันครับ  ว่าศาสนาไม่ได้เสื่อม  แต่เป็นคนที่นับถือศาสนานั้นต่างหากที่เสื่อม  ก็เราเองยังมักจะพูดอยู่เสมอๆ ว่าปืนน่ะไม่ได้ฆ่าคน  แต่คนเราต่างหากที่เอาปืนไปฆ่าคน  ฉันใดก็ฉันนั้นครับ

เดี๋ยวนี้ผมไหว้พระ 2 อย่าง  คือพระอิฐพระปูนพระโลหะ  กับพระที่ตายแล้ว (ต้องเรียกว่ามรณภาพ) พระอิฐพระปูนพระโลหะ  ถือเป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้นึกถึงพระธรรมคำสอนของท่าน  ส่วนพระที่มรณภาพไปแล้วนั้น ผมใช้วิธีอ่านวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของท่าน เกิดศรัทธาเลื่อมใสก็เคารพและปฏิบัติตาม  อย่างเช่นสมเด็จโต หลวงพ่อเงิน (แหะแหะ... หาวัตถุมงคลของท่านด้วย  ;D )

พระที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมจะทำในรูปแบบของสังฆทาน คือไม่เจาะจงว่าเป็นพระวัดไหนหรือรูปไหน  ทำแล้วก็แล้วกัน ยึดเอาเจตนาที่จะทำบุญของเราเป็นหลัก  ส่วนว่าท่านจะทำดีหรือไปอีลุ่ยฉุยแฉกยังไงนั่นเป็นเรื่องของท่านครับ  แต่อย่ามาทำอีลุ่ยฉุยแฉกต่อหน้าต่อตาผมนะ  >:(

 น้อยครั้งมากที่ผมจะเข้าวัด แต่ผมไหว้"พระในบ้าน"ทั้ง2ท่านทุกวันครับ  :)

 เมืองกีวีไม่มีวัดง่ะ เลยไม่ได้เข้า ::) อยู่เมืองไทยก็เข้าตามโอกาสครับ วันสำคัญ วันเกิด วันนู่นวันนี้ก็เข้าวัด ;)  อยู่นี่ไม่มีวัดให้เข้า ก็สวดมนต์ก่อนนอน สารพัดบท วันไหนถ่างตาได้ก็สวดได้หมด วันไหนง่วงจริงๆก็ไม่สวด  วันไหนพอทนก็สวดพอให้พระให้เจ้ารู้ว่าเราสวดแล้ว ;D แล้วก็ล้มตัวลงนอน :-*

ปีหนึ่งจะเข้าสักครั้ง.....แต่ก็ยังผิดศีลข้อ 5  ประจำ...อิอิ  ;D ;D
แต่การกินเหล้าแล้วมีความสุข..ไม่ทำความเดือดร้อนใคร...เกิด นิพาน... ;D ;D

 :)ผมนับถือศาสนาพุทธ ทำบุญ+ทำทาน เข้าวัดบ่อย(แถวบ้าน น.ฐ. มีวัดแยอะ) แต่ไม่ชอบให้เงินพระเพราะถือว่า เงินถ้าอยู่กับพระจะทำให้พระมีกิเลส ....

เห็นหัวข้อนึกว่าเรื่องอื่น ผมเองก็อยู่วัดมาตั้งแต่เด็กจนเป็นหนุ่ม เริ่มเข้าวัดด้วยจิตรใจหาธรรมก็ตอนสนใจพระป่า สายหลวงปู่มั่น ได้กราบองค์แรกก็หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่ชอบ และก็ต่อๆมาอีกหลายๆองค์ ได้บวชเรียนก็ที่วัดป่าอีกเหมือนกัน บวชอยู่หลายเดือน เรื่องศิล ความดีความชั่วก็ทราบ แต่กิเลส+ความอยากได้อยากมี มันตัดไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้ก็แขวนเหรียญหลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น ติดตัวอยู่เสมอ เพื่อเตื่อนใจให้ทำผิดศิลผิดคุณธรรมน้อยที่สุด แต่ด้วยความเป็นมนุษย์+กิเลสที่ยังหนาอยู่ก็ทำผิดอยู่เสมอๆครับ แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ  ไปทำบุญที่วัดเมื่อวานนี้เองครับ ซื้อแฮมเบอร์เก้อไปถวายพระ

 :)..โดยการถวายสังฆทานครับ..กับทุกครั้งที่มีโอกาส.. รวมถึงตู้รับบริจาคเพื่อการกุศลต่างๆครับ.. :)

โอย.............เมื่อไหร่เนี่ย  จำไม่ได้ๆ :-[

ทำบุญ บ่อยครับไปวัดครับ แต่ไม่ได้ไป ถวาย สังฆทาน อ่ะ ไป ให้ อาหารปลา ตรงริมแม่น้ำครับ ผมไป วัด หงษ์ ที่ปทุมครับ ติดแม่น้ำ เจ้าพระยา ครับ ปลาสวายเยอะดี

 :D เข้าวัดทำบุญเมื่อมีโอกาส....และเมื่อไม่สบายใจ....แต่ก็คอยสร้างโอกาสเข้าวัดอยู่อย่างเสมอๆ.. :D

เรื่องนี้ ศาสนาใหญ่ ว่าไว้ตรงกันหมด   โดยเฉพาะพราหมณ์-ฮินดู  บรรยายละเอียดว่าแต่ละยุคจะเป็นอย่างไร

 ;) นับถือ ศรัทธาในธรรมะ และคำสอนทางพุทธศาสนานะครับ  แต่แทบจะไม่นับถือพระในปัจจุบันนี้เลย โดยเฉพาะพระในเมือง ผมมองว่าคนพวกนี้เอาเปรียบสังคม หากประพฤติตัวดีอยู่ในกรอบก็ว่าไปอย่าง แต่ส่วนใหญ่ที่พบไม่ได้เรื่อง ขาดสำรวม ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ผมเลยไม่คิดจะบวชเรียนให้เสียผ้าเหลือง เพราะกลัวว่าตัวเองจะไปทำศาสนามัวหมอง ..เรื่องเข้าวัดเป็นการ "จำใจ" ไปเป็นเพื่อนท่าน ผบ.ทบ.มากกว่า....คิดเองว่า เราอยู่โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนใกล้เคียงและชุมชน คิดและแก้ปัญหาบนหลักการและเหตุผล(เท่าที่จะหาได้)...ก็น่าจะเพียงพอแล้ว และบนคอก็มีพระแขวนอยู่องค์เดียวคือ "หลวงปู่ขาว" พระคู่บ้าน คู่จังหวัดผม....ครับ ;)

ผมเคยบวชสองครั้งครับ
ครั้งแรกบวชเณรตอนอายุ 16 บวชเป็นระยะเวลา5เดือนกว่าๆครับ
ครั้งที่สองบวชพระตอนอายุ 23 บวชนาน 2 เดือนครับ
ที่บวชเพราะอยากสงบจิตใจและศึกษาพระธรรม......ก๊าบ

.......... ;D..ช่วงเรียน สถาปัตย์ นี้เข้าบ่อยครับ ต้องเข้าวันโน้น ออกวัดนี้ ไปเรื่อย โดยเฉพาะวัดเก่าๆ  เพราะต้องไปหาข้อมูล เก็บรายละเอียดศิลปะทางสถาปัตยกรรม ว่าเป็นไง สมัยใด........แต่พอจบมาแล้วไม่ค่อยได้เข้าเท่าไร แต่ถ้าเมื่อไรผมออกต่างจังหวัดจะเข้าวัด ไหว้พระ บริจากเงิน ค่าน้ำค่าไฟ  และบ้างครั้งก็ทำสังฆทาน ครับ .. ;D

       ผมเคยบวชเรียนจนสอบได้นักธรรมตรีครับ      ในตอนนี้ถ้าว่างผมจะไปหาทำบุญตามวัดในป่าครับ

มีที่ ออสซี่ งัย นั่งเรือไปแป้บเดียวเอง  อยู่ที่ เพิร์ท มั้ง ลืมๆ .... ;D ;D

หูย!!!!! ถ้าจะทำบุญทั้งที ต้องถึงขนาดนั้น...ผมว่าผมสวดมนต์ก่อนนอนแบบนี้แหละ ดีก่า ;D  มันอยู่ที่จายยย ของแบบเนี้ยะ ;D

       ทีแรกเห็นหัวข้อวัดใกล้ๆบ้าน      ผมนึกว่านักนิยมปืนจองวัดไหนกันครับ     ที่แท้ชวนกันทำบุญ   ฮ่าๆๆๆๆๆ  5555555    ;D ;D ;D

 เออ! จะว่าไป ทั่นพี่อีวิลอ่ะ เข้าวัดมั่งป่าวคับ ;D  อย่าบอกนะ ว่าเข้าแล้วร้อน ;D

อ้ะ...เห็นพี่เป็นแบบนี้ ความจริง เป็นคนธรรมมะ ธรรมโม นะ ขอบอก ;D

หูย!!!!! ถ้าจะทำบุญทั้งที ต้องถึงขนาดนั้น...ผมว่าผมสวดมนต์ก่อนนอนแบบนี้แหละ ดีก่า ;D  มันอยู่ที่จายยย ของแบบเนี้ยะ ;D
ช่ายอยู่ที่ใจ จริง จริง  ;D

;D ;D ;Dเชื่อก็เชื่อครับ ;D ;D ;D
;) ;) ;)

รัตนตรัย = พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ผมยึดถือแก่นของศาสนา คือ พระพุทธ และ พระธรรมเป็นหลัก เพราะผ่านกาลเวลามากว่า 2500 ปี

แต่พระสงฆฺ์ รัตนที่ 3 ต้องกรอง เพราะเกิดจากปัจเจกชน จึงต้องกรองก่อนศรัทธาครับ

เข้าวัดครั้งสุดท้ายเมื่อวันเกิดที่ผ่านมา  :D แต่เรื่องทำบุญนั้นทุกเดือนค่ะ จะเข้าป่ากับเพื่อน ๆ off road และบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้แก่เด็กนักเรียน และ ตชด. บ้าง พวกป่าไม้บ้าง ตามแต่สมควรจ๊า  ;)

ครับ ก็แค่ เชิญชวนกันไปวัดใกล้ๆบ้านนะครับ ไม่ต้องไปวัดดังๆ ที่ไหน

 ;D

คนไทยเราโชคดีทุกคนตั่งแต่จำความได้ พ่อกํบแม่ ก็เริ่มสอน " นะโมตะสะ พะคะวะโต อาระหะโต สัมมาสัมพุทธ ธะสะ "

กันอยู่แล้ว เป็นแบบอย่าง ให้เราๆท่านๆ  ;D





 

เข้าวัด บ่อยๆ ทำให้ยิงปืนแม่นนะครับ ;D


น่าจะเกียวกันนะ

จากประสบการณ์นะครับ  แค่กราบพระ  เชื่อไหมหลายคนกราบไม่ถูกกราบไม่เป็นก็มี  ช่วงฝึกขานนาค  เจอแปลกๆเยอะครับ  อย่างท่อง นโมฯ  เจอ " นโม - ตับ - สะ  "  ก็มี

แปลกที่ สาวๆ  ทั้งสาวเล็กสาวมาก   ชอบพูดเชิงหยอกล้อกับพระ  คงคิดว่าอยากแกล้งเล่นๆอะไรทำนองนั้น เป็นพระคงตอบโต้ทำอะไรไม่ได้  หลายท่านพอสึกมาเป็นทิด  ที่นี้ละครับพวกคุณๆผู้หญิงทั้งหลายแตกหนีกระเจิง (ทำอะไรได้แล้วนี้)   

พระ ระดับเจ้าอาวาส หลายรูป ท่านก็เคยบ่น เรื่องพฤติกรรมโยมผู้หญิงเหมือนกัน  ชอบพูดทะลึ่งเชิงสังวาส ทั้งกับตัวท่าน และพระลูกวัด ให้ท่านเหนื่อยใจเล่น

ท่านว่า โยมผู้ชาย เข้าวัดน้อยเหลือเกิน  บางครั้งนั้งในศาลา มีแต่โยมผู้หญิง หาโยมผู้ชายมาคุ้มอาบัติก็ไม่มี  ถ้ามีโยมผู้ชายเข้าวัดเยอะๆ โอกาสเกิดเรื่องไม่งามก็น้อยลง


เรื่องคัดคนมา บวช ก็เหมือนกัน สังคมมัก เอาอะไรที่เป็นเศษเดน มาทิ้งที่วัด ทั้งหมา - แมว จน กระทั้งคน  พอไม่สกรีนคนให้ดีพอ เราก็จะเจอพระที่ไม่สำรวม เพ่นพ่าน  กันรอบวัน (อยู่รอบๆแต่ไม่เข้าวัด)
 
บางวัดก็ใช้วิธีการ รับนาค 1-3 เดือน ก่อนถึงจะอนุญาตให้บวช  เป็นการคัดคนไปในตัว  ที่นี้ละครับพอได้บวช จะอยู่ได้นาน 

ช่วงเป็นนาค รับใช้พระทุกอย่าง   ทั้งงานโยธา  ขุดดิน ดายหญ้า ตัดไม้ รื้อส้วม .... ศึกษาพระวินัย สวดมนต์ เจริญภวนา  พูดได้เลยครับว่า วัดเป็นโรงเรียนลูกผู้ชายตัวจริง

ถ้าพูดเรื่องวินัย  กล้ายืนยันเลยครับ  ไม่มีกลุ่มคนหมู่มากที่ไหน  มีวินัยเยี่ยม เท่าพระสงฆ์ 
บ้างครั้งมีข้อพิพาท พอคิดถึงพระวินัย  ก็รู้สึกละอายตนเอง ต่างฝ่ายต่างให้อภัยกัน 
เรื่องบางเรื่อง พอพิจารณาถึง อาวุโส  ก็จบ

ช่วงปฎิบัติธรรม  เป็นช่วงเดียวในชิวิตผมครับ ที่รู้สึก ไม่กลัวตาย


 :Dตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา  ชักคิดอยากจะกลับไปบวช อีกซะแล้ว :D

 

เย็นไว้โยม

เข้าวัดครั้งสุดท้าย ตค.46 เข้าไปถวายสังฆฑาน.....ปีนี้ไม่ได้เข้านอนป่วย

ส่วนใหญ่เข้าไปนั่งฟังพระสวด

...เรียนจบนิติฯ มธ. ใหม่ๆ ผมบวชจำพรรษาเต็มๆ ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ  พอลาสิกขาตอนเช้า  ตกเย็นขึ้นรถด่วนไปทำงานอุดรครับ ความจริงตอนนั้นผมไม่ได้อยากสึกเลย  เพราะกำลังมีความรู้สึกที่ดีมากๆ แล้วก็รู้ว่าจะต้องไปเจออะไรบ้าง  ที่เป็นคนละเรื่องกับการเป็นพระ :-\ ทุกวันนี้ก็ยังมีสัญญากับตัวเองว่าจะต้องกลับไปเป็นพระอีกครั้ง

...เพื่อนๆ หลายท่านพูดถึงความเสื่อมของศาสนา  ในความเห็นผม  อย่างหนึ่งที่ศาสนาพุทธมีความแตกต่างจากศาสนาอื่นๆ คือการบวชในศาสนาพุทธถือเป็นการ "บวชเรียน" คือเป็นการเปิดโอกาสให้กุลบุตรได้เรียนรู้ และฝึกตน การจะบวชไม่ใช่เรื่องยากเย็น  เกือบจะไม่มีเงื่อนไขใดๆ ก็ว่าได้  เราจึงเห็นคนที่ความประพฤติไม่ค่อยจะดีบวชเป็นพระ  เข้าทำนองเกาะผ้าเหลืองกิน  แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อปัญหา

...ขณะที่ศาสนาอื่นๆ น่าจะเรียกว่า "บวชเพื่อสอน" กว่าจะบวชได้ต้องร่ำเรียน ต้องใช้ชีวิตบางส่วนในวัด ฯลฯ เรียกว่ามีเงื่อนไขมากมาย  ในบางกรณีแม้จะลาจากความเป็นพระก็ต้องมีเงื่อนไขมากมายด้วยซ้ำ

...ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจครับที่เห็นพระในพุทธศาสนาทำอะไรพิลึกพิลือ  และควรทำความเข้าใจว่าอะไรคือ "กระผีก" อะไรคือ "แก่น" ผมว่าพระดีๆ มีมากมายแต่ไม่เป็นข่าว  (ทั้งพระในเมืองและในชนบท)  เพราะอะไรๆ ที่ยังดีๆ อยู่ย่อมไม่เป็นข่าว  อะไรที่มันผิดปกติผิดธรรมดา  จึงเป็นข่าว  ปัญหาที่เห็นเป็นเรื่องของการบริหารจัดการวงการสงฆ์มากกว่าอย่างอื่น  ผู้มีอำนาจต้องแก้ไขครับ  พุทธศาสนิกชนก็มีหน้าที่ช่วยกันผลักดันด้วย

  ::) ประชดกฎหมายปืนหรือเปล่าหนอ...... คงไม่ใช่มั๊ง   ::)

 ;D เข้าวัดประจำครับ แต่ไม่ค่อยได้ทำบุญฟังศีลฟังธรรมอะไรหรอกครับ คือส่วนใหญ่จะเข้าไปช่วยซ่อมคอมหรือที่เกี่ยวกับคอมครับ ไม่ได้คิดเงิน ยกเว้นกับคนห่มเหลือง (ไม่อยากเรียกว่าพระ) บางคนที่ไปอาศัยวัดอยู่ ในคอมนี่แหละ เก็บอะไรดี ๆ เยอะ จะรู้ได้เลยว่าวัดไหนมีพระหรือคนห่มเหลืองมากกว่ากัน ;D

เห้นไปพันทิพย์ซื้อโปรแกม ซื้อหนังกันประจำ

...เรียนจบนิติฯ มธ. ใหม่ๆ ผมบวชจำพรรษาเต็มๆ ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ  พอลาสิกขาตอนเช้า  ตกเย็นขึ้นรถด่วนไปทำงานอุดรครับ ...

...พี่แก้วไปอยู่อุดรปีไหนครับ... ??? ปัจจุบันเป็นเขยอุดรด้วยหรือเปล่า... ::)

ความจริงตอนนั้นผมไม่ได้อยากสึกเลย  เพราะกำลังมีความรู้สึกที่ดีมากๆ แล้วก็รู้ว่าจะต้องไปเจออะไรบ้าง  ที่เป็นคนละเรื่องกับการเป็นพระ :-\ ทุกวันนี้ก็ยังมีสัญญากับตัวเองว่าจะต้องกลับไปเป็นพระอีกครั้ง

...จะกลับมาเป็น "หลวงพ่อแก้ว" หรือ "หลวงพ่อกล็อค" ที่วัดเดิม  ???  ไม่สนวัดถ้ำกลองเพล...วัดป่าบ้านตาด มั่งหรือครับ... ;)

 ;) เข้าวัดเป็นระยะๆคับ...

ช่วงไหนไม่สบายใจก็ไปทำสังฆทานคับ...

แต่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนคับ...  ;D

...ผมมาอยู่อุดรปี 2519 ครับ  ผมไม่ได้เป็นเขยอุดรหรอกครับ  (ไม่มีวาสนา)

...เป็น "หลวงพ่อกล๊อค" คงไม่ได้ครับ  อาบัติแย่เลย  ส่วนจะบวชวัดไหนยังมีเวลาตัดสินใจครับ  บวชด้วยกันไหมล่ะ ;D

เห็นด้วยครับพี่แก้ว อาจารย์เคยเล่าวิธีดูพระให้ฟังสมัยออกเดินธุดงค์กับท่าน ท่านให้ดูที่ "ตีน" ครับ "ตีนหนา หน้าบาง ตีนบางหน้าหนา" ประมาณว่า ท่านเดินจงกรมจนตีนหนา และมักจะหน้าบางไม่ค่อยตกเป็นข่าว

"วัด" เป็นสถานที่ "ขัดใจ" ฝึกดูใจ และขัดใจ ไม่ใช่ตามใจไปทุกเรื่อง
"ป่า" คือ มหาวิทยาลัยของสงฆ์

ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าจะเจอแต่ วัด ..... จำกัด (อาจมี"มหาชน" ต่อท้าย) ;D ยังไม่เดยเจอวัดไหนที่ไม่มีตู้รับบริจาค อย่างน้อยก็ 2-3 ตู้ ที่เกิน 10 ก็เยอะ  เคยไปวัดหนึ่ง คำนวนคร่าวๆ ว่าถ้าบริจากตู้ละหนึ่งบาท คงต้องมีเงินสักหนึ่งพันบาท ถึงจะครบทุกตู้   >:( >:(

บางวัดนอกจากมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีก เช่นเรือเก่า ต้นไม้ประหลาด "เปรต"  .....

เฮ้อ :(  ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป๋    ;D

น่าคิดครับข้อนี้ ผมเจอพระประหลาดประจำ ถ้าทางผมไม่ถูกกับพระเท่าไร เจอพระกินเบียร์ เป็นปั๋วบอล วัยรุ่นเซ็ง 

เจอทีไม่ค่อยกล้ายกมือไหว้พระ เจอทีอยากเดินหนี

เคยบวชครับ ประมาณปลายปี ๔๒ ... บวชเพื่อนิพพาน ไม่ได้บวชเรียน (ถ้าจะเรียนมาสอบเอ็นกันดีกว่า  :D) ถึงจะแค่ ๗ วัน และไม่ได้ใกล้นิพพานขึ้นสักนิด แต่ก็ได้ประสบการณ์ดี ๆ หลายอย่าง (เอามาโม้ให้แม่ฟัง  ;D ;D)

แม่ผมเข้าวัดเป็นประจำครับ หลัก ๆ จะเป็นวัดท่าซุง จว.อุทัยธานี ส่วนวัดใกล้ ๆ บ้านก็เข้าบ้างตามโอกาสวันสำคัญทางศาสนา ส่วนว่าพระจะดี ไม่ดี ดีมาก ดีน้อย ไม่ค่อยสนใจครับ ทำใจไม่ปรามาสเป็นพอ เราอาศัยศรัทธาในธรรมะของพระพุทธเจ้า ใครทำไม่ดี ก็จะได้รับผลกรรมไปเอง (จะไปเกี่ยวด้วยทำไม)

หลังสุดไปทำบุญมาต้นเดือนครับ อันเป็นกิจวัตรของบ้านผม ที่ซอยสายลม ....

...จะกลับมาเป็น "หลวงพ่อแก้ว" หรือ "หลวงพ่อกล็อค" ที่วัดเดิม  ???  ไม่สนวัดถ้ำกลองเพล...วัดป่าบ้านตาด มั่งหรือครับ... ;)

...เป็น "หลวงพ่อกล๊อค" คงไม่ได้ครับ  อาบัติแย่เลย  ส่วนจะบวชวัดไหนยังมีเวลาตัดสินใจครับ  บวชด้วยกันไหมล่ะ ;D

...แหะๆ ยังมี "ห่วง" และ "ภาระ" ที่ต้องจัดการอยู่ครับ คิดไว้เหมือนกันว่าช่วงท้ายๆ หรือ จุดหนึ่งของชีวิต(ถ้าอยู่ถึง) อยากจะบวชแบบไม่สึก ไปเป็นพระป่า ที่เล็งๆไว้ก็ วัดถ้ำกลองเพล เผื่อจะได้สนทนาธรรม online กับหลวงพ่อแก้ว บ้างนะครับ... ;D

พี่ visith  แน่ใจนะครับจะได้สนทนาธรรม online พระป่าหลายสำนัก ยังใช้ตะเกียงอยู่เลยครับ(ห้ามต่อไฟเข้ากุฎิ)  :D :D 

ขออนุโมทนา ล่วงหน้ากับพี่ทั้งสองด้วย 

ที่ผมว่าพี่ สอบได้นักธรรมเอก ขอโทษครับ ผมจำผิด   ;) :D :D

วัดนี้แทบไม่ได้เข้าเลยคับ แต่ว่าไปตึ๊งโลงบ่อยอ่ะที่ร่วมกตัญญูคือผมว่าของแบบนี้อยู่ที่ใจนะคับอยากทำบุญทำทานทำที่ไหนก็ได้    ส่วนใส่บาตรนี้ผมเลิกนานละคับตั้งแต่เห็นพระท่านมีเอี๋ยวกะแม่ค้าขายของใส่บาตรตอนเช้าๆๆเลยเลิกใส่เลย   เอาเงินไปซื้อโลงให้ศพไม่มีญาติสบายใจกว่า    หรือเอาของไปบริจาคเด็กๆๆผมมีความสุขใจมากกว่านะ   

เข้าวัดไม่บ่อยครับ อย่างน้อยปีละสองครั้ง วันเกิดแม่ กับวันเกิดผม(ซึ่งโดนบังคับให้ไปทำบุญ)
แต่มีเรื่องแปลกเล่าให้ฟัง
ช่วงก่อนผมบวช งานเครียดมาก นอนหลับยากมาก ต้องใช้ยานอนหลับแทบทุกวัน
พอบวชเข้า ได้ห่มผ้าเหลือง นอนพื้นกระดาน หลับสบายทุกวันเลยครับ
แล้วความรู้สึกอีกอย่างที่ได้รับก็คือ ความรู้สึกร่มเย็นครับ ไม่รู้ว่าพี่ๆเพื่อนๆที่บวชแล้วรู้สึกอย่างผมไหมครับ

...นับถือคุณโทนจริงๆ อุตส่าห์ไปงมหากระทู้ขึ้นมาเพื่อขอโทษเพื่อน  ;D

       แหมคุณโทนจำได้ดีจริงๆ     ผมได้ธรรมตรีจริง   แต่ไม่ได้เรียนจริงๆ    ที่วัดไม่มีพระสอน   วัดนี้ผมเห็นมา20 ปีแล้ว   ทุกวันนี้ก็ไม่มีพระสอนธรรม    เพียงแต่เจ้าอาการเห็นว่าในรุ่นนี้ผมหัวดีกว่าใคร   จึงขอร้องให้ไปสอบ     โดย อ้างว่าจะเอางบทางศาสนา  ว่าวัดมีกิจกรรม   เอาข้อสอบ ข้อสอบเก่าๆมาให้ผมดู      ผมดูแล้วสังเกตุหัวข้อสำคัญๆ     และรีบท่องไว้  และเอาไปเปรียบเทียบว่าน่าจะออกในแนวนี้   ปรากฎว่าพระที่ไปสอบพร้อมผมลอกผมหมดเลยครับ    โดยผมทำเสร็จก่อนและส่งข้อสอบไปทางข้างหลัง    ได้ตามกันเกือบทั้งหมดเลยครับ     ทันทีที่ผมสอบเสร็จผมก็สึกทันทีครับ    อยู่แค่เจ้าอาวาสขอร้อง ;D ;D ;D

อยู่แค่เจ้าอาวาสขอร้อง    ;D ;D ;D

 :VOV: :VOV: :VOV:

...อิอิ พระก็มีลอกกันด้วยนะครับ  ;D

       ภรรยาผมเขาชอบหาหวยตามวัด     ทุกวันนี้ผมสั่งคนในครอบครัวห้ามดูดวง    ให้ทำบุญตามหน้าที่    ห้ามทำอย่างงมงายครับ     ครอบครัวผมเคยโชคร้ายเพราะจากการดูดวงครับ ;D ;D ;D

สมัยที่ผมไปบวชที่วัดสลักเหนือ ( บวชแล้วก็ถือโอกาสเผ่าศพคุณปู่ผมด้วยครับ ศพปู่ผมเก็บที่วัดนี้มานานประมาณ 24 ปีครับ )  เช้าๆพระจะแบ่งสายกันเดินบิณฑบาตร วันดีคืนดีเดินบิณฑบาตร ไม่ตรง โยมๆก็จะโทรฯมาบอกหลวงพ่อครับ แล้วพระรูปใดที่บิณฑบาตรสายนั้นโดนเทศน์กันเป็นแถว...................

ปล. วัดที่ผมไปบวชจะมีบ้านพักของทหารอยู่ในซอยเดียวกันครับ โยมทหารคงเห็นว่าแถวไม่ตรง ไม่เรียบร้อย เลยจัดการซะ............... :~) :~) :~)

               คัดลอกมาฝากครับ
                                                                 "บุญ 10 วิธี"ตามหลักพุทธศาสนา มีการทำบุญด้วยกัน ๑๐ วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ ๑๐ ประการ) คือ

 ๑. ให้ทาน แบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ (ทานมัย) การให้ทานเป็นการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ความคับแคบ ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุ นอกจากนี้สิ่งของที่เราแบ่งปันออกไป ก็จะเป็นประโยชน์กับบุคคลหรือชุมชนโดยส่วนรวม

 ๒. รักษาศีล ก็เป็นบุญ (ศีลมัย) เป็นการฝึกฝนที่จะ ลด ละ เลิก ความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร มุ่งที่จะทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น เป็นการหล่อเลี้ยงบ่มเพาะให้เกิดความดีงาม และพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ

๓. เจริญภาวนา ก็เป็นบุญ (ภาวนามัย) การภาวนา เป็นการพัฒนาจิตใจ และปัญญา ทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อมเป็นหลักประกันว่า จิตจะมีความสงบ ชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น

๔. อ่อนน้อมถ่อมตน (อปจายนมัย) ผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกัน ทั้งในความคิดความเชื่อ และวิถีปฏิบัติ ของบุคคลและสังคมอื่น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่น ในความเป็นตัวตน ก็เป็นบุญ

 ๕. ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง (ไวยาวัจจมัย) ช่วยเหลือสละแรงกายเพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็เป็นบุญ

๖. เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญกับเรา (ปัตติทานมัย)หรือในการทำงานก็เปิดโอกาสให้คนอื่นมีส่วนร่วมทำ - ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ก็เป็นบุญ 

 ๗. ยอมรับและยินดีในการทำความดี (หรือทำบุญ) (ปัตตานุโมทนามัย)ของผู้อื่น เป็นการเปิดโอกาสร่วมใจอนุโมทนาในการกระทำความดีของผู้อื่น ก็เป็นบุญ 

๘. ฟังธรรม (ธรรมสวนมัย) บ่มเพาะสติปัญญาให้สว่างไสว ฟังธรรมะ ฟังเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อสติปัญญา หรือมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ

๙. แสดงธรรม (ธรรมเทศนามัย) ให้ธรรมะและข้อคิดที่ดีกับผู้อื่น แสดงธรรม นำธรรมะไปบอกกล่าว เผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รับฟัง ให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นเรื่องของความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ

๑๐. ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสม (ทิฏฐุชุกรรม) มีการปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็น - ความเข้าใจให้ถูกต้องตามธรรม ให้เป็นสัมมาทัศนะอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญก็เป็นบุญ ทิฏฐุชุกรรม หรือ สัมมาทัศนะ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบุญทุกชนิด และทุกโอกาส จะต้องประกบและประกอบเข้ากับบุญกิริยาวัตถุข้ออื่นทุกข้อ เพื่อให้งานบุญข้อนั้น ๆ เป็นไปอย่างถูกต้องตามความหมายและความมุ่งหมาย พร้อมทั้งได้ผลถูกทาง

เข้าไปครั้งล่าสุดคือวันที่ 6 ครับ....อิๆ คงพอเดาได้นะครับว่าไปทำไม :OO

 :D วันนี้ผมก็เพิ่งเข้าวัดใกล้ๆที่ทำงานคับ...

แวะไปงานปิดทองลูกนิมิต...

ไปหาข้าวหลามกินอ่ะคับ...  ;D

ได้มีโอกาสเข้าวัดครั้งล่าสุด เมื่อช่วงปีใหม่ 
หวังแค่ว่าจะรอดพ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง และทำให้ใจสบาย
แต่หลังจากนั้น ก็เกิดอุบุติเหตุ ทำให้เดินไม่ได้ไปสองอาทิตย์
แต่ก็คิดว่า ฟาดเคราะห์ไปละกาน ... ยังดีกว่าไปเจอเรื่องหนักกว่านี้

ตอนนี้สอบได้นักธรรมโท :) :) :)
ตอนสอบถ้าทำไม่ได้ พระที่เป็นกรรมการคุมสอบ
ก็จะเดินบอกมาตามโต๊ะเลย :D~ :D~ :D~
 และขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันเลยว่า แม้แต่พระยังลอกข้อสอบกัน  :OO :OO :OO

 ??? ...บัว น้ำเงิน(คมเข้ม) หรือ บัว น้ำเงิน(คมขำ).... ???

ผมบวชมาแล้วสองครั้งครับ ครั้งแรกบรรพชาเป็นสามเณรอยู่นานสี่เดือนครึ่ง ครั้งที่สองอุปสมบทเป็นพระภิกษุนานสองเดือน ทั้งสอวครั้งบวชที่วัดเบญจฯ ที่บวชเพราะต้องการศึกษาธรรมะ ที่ลาสิขาเพราะยังละซึ่งกิเลสและตัดทางโลกไม่ได้...........ก๊าบ

ไงอย่าให้ถึงสามครั้งนะครับ ;D

ครั้งที่สามคงไม่บวชแล้วครับพี่นาจา แต่คงจะออก ไปทางเบียดเสียมากกว่า..........ก๊าบ

คิดถูกครับ ;D ;D

ศิษย์วัดเดียวกันครับ   ;)