|
หัวข้อ: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: seiya-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 04:59:08 PM ถ้าหากท่านได้รับเงิน 100 ล้านมาเดี๋ยวนี้ (ดอกเบี้ย+ เงินเฟ้อ ตอนนี้เลย) แล้วท่านไม่มีงานประจำทำ ไม่มีภาระต้องผ่อนอะไร
ท่านจะแบ่งสรร จัดสรร เงินก้อนนี้ไปทำอะไร ฝากอะไร ลงทุนอะไรบ้างครับ เพื่อให้เงินทำงานทันเงินเฟ้อ และมีความเสี่ยงน้อยๆ มีดอกผลให้กินบ้าง (กินไม่จุ แต่มีลูก 2คนกำลังเรียนอยู่) ขอเรียนว่าไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ แต่มีคนที่นับถือและไม่ประสาเรื่องการเงิน มาขอคำแนะนำ ไม่กล้าฟันธงเหมือนกันเนื่องจากไม้รู้จริงครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 05:14:50 PM ต้องขอข้อมูลอายุเจ้าของเงินด้วยครับ เพื่อนๆจะได้แนะนำถูก ;D ;D ;D แล้วยังมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องอีกหรือไม่
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: seiya-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 05:28:25 PM ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
เจ้าของอายุ 50 ปี ค่าใช้จ่ายลูก 2 คน ปีละประมาณ 0.9 ล้านบาท มีเงินเดือนประจำส่วนตัวของเขาประมาณ (ไม่รู้ตัวเลขชัดๆ คำนวณจากภาษีที่บริษัทหักส่งไว้ให้) 140000 บาท ไม่มีรายได้อื่น ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น บ้าน-น้ำ ไฟ ฟรี ผมนึกออกแค่ฝากธนาคารๆละ 3-5 ล้าน ซื้อสลากออมสิน ซื้อกองทุนหุ้น กองทุนทอง กองทุนที่หักภาษีได้ ซื้อที่ดินต่างจังหวัด ซื้อทองบ้าง ( เก็บลำบาก) ให้ถือหุ้นที่ ให้ปันผล5-6 % สัก 2-3 ตัว นอกนั้นคิดไม่ออกแล้วครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 05:33:56 PM ถ้าอยู่แถวบ้านผมนะครับ ผมจะซื้อที่สร้างโกดังให้คนเช่าทำโรงงานสักสิบโรงค่าเช่าเดือนละหมื่นห้าถึงสองหมื่น/โรง เงินลงทุนรวมทั้งซื้อที่ดินประมาณ 7-8 แสน/โรง ส่วนนี้รายได้เป็นเดือน
อีกส่วนนึงซื้อรถสองแถวโดยสารริมเมย แม่สอด ระยะทาง7กิโลค่าโดยสาร30 บาท/คน เที่ยวนึงบรรทุก25-30คน ซื้อซัก2-3คัน จ้างคนขับด้วยแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน อันนี้ได้เงินทุกวัน ที่เหลือซื้อที่ดินครับไม่มีขาดทุนครับจะซื้อเก็บหรือซื้อจัดสรรขายก็ได้ครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 06:36:34 PM สร้างหอพัก หรือ ทำบ้านเช่าครับ ขึ้นอยู่กับ location ไม่ต้องใหญ่นักพอได้เก็บกินเดือนละ 1-2 แสน (สุทธิ) ไว้เป็นมรดกให้ลูกทั้งสอง
อายุ 50 แล้วกินอยู่อีกสัก 20 ปีก็ม่องหรือไกล้ม่องแล้ว ... ใช้ชีวิตสมถะพอเพียงไม่เล่นการพนันทุกชนิด ไม่ติดอ่าง ไม่ติดเด็ก แค่นี้ก็สบายแล้ว ;D หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 07:14:58 PM ค่าใช้จ่ายลูกเฉลี่ยคนละเกือบ 4 หมื่นบาทต่อเดือนเลยนะ รวยจริงๆ ::002:: เรียนจบ ป.โท ป.เอก จะมารับเงินเดือนน้อยกว่าแบมือคงไม่ทำ ต้องธุรกิจเองเท่านั้น :D
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 09:28:21 PM แบ่งเงินครึ่งนึงใช้จ่ายตามใจชอบ, อายุ 50 แล้วอยากได้อะไรให้ซื้อเลยครับ จำนวนเงิน 50 ล้านคงพอใช้จ่ายได้ตลอดชีวิตแล้ว ในนี้รวมเงินส่งลูกเรียน ป.โท ได้ครบทุกคน... ที่เหลือครึ่งหลังซื้อที่ดินเก็บไว้ให้ลูกครับ...
แต่อย่าให้ลูกเรียน ป.เอก เพราะยิ่งเรียนยิ่งรู้แคบ แต่รู้ลึก แล้วจะเสียเวลาช่วงที่ควรมีความสุขกับการเรียนรู้โลก เรียนรู้ชีวิตไป... ยิ่งหากคนเรียนเอกแล้วเป็นประเภทหนอนหนังสือด้วย เมื่อเรียนจบแล้วจะยิ่งจมดิ่ง ทำมาหากินอย่างอื่นไม่เป็นเลย นอกจากเป็นอาจารย์มหาลัยไปจนแก่เกษียณอายุ... เลิกคิดทำมาหาเงินได้แล้วครับ... แต่ให้ใช้เงินหาความรู้สำหรับสอนลูกให้"รู้วิธีลัด"ดีกว่าครับ, จะได้ประหยัดเวลาเรียนรู้สำหรับลูก... เคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมพวกลูกเถ้าแก่ร้อยล้าน ถึงได้มีปัญญาบริหารงานกิจการของพ่อแม่ได้โดยขณะที่คนทั่วไปอายุเท่ากันทำไม่ได้... คำตอบคือองค์ความรู้ที่อยู่ในสมองพ่อแม่นั้นถูกถ่ายทอดลงมายังลูกหลานครับ, ในขณะที่คนอื่นทั่วไปอายุเท่ากันต้องเรียนรู้ลองผิดลองถูก กว่าจะได้ประสบการณ์บางอย่างอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปี, แต่หากพ่อ"ช่วยสรุปวิธีคิด" จะใช้เวลาเล่าให้ฟังแค่ชั่วโมงเดียวครับ เพราะพ่อเดินเส้นทางนั้น ลองผิดลองถูกจนตกหลุมตกท่อแข้งขาถลอกปอกเปิกมาก่อนหน้านั้นแล้ว ลูกจะได้ไม่ต้องตกซ้ำหลุมเดิมฯ... คนเรียนปริญญาเอกต้องนั่งทำวิจัยฯ หรือทำวิทยานิพนธ์เล่มหนาปึ๊ก บรรยายกรรมวิธีตะล่อมข้อมูล กำหนดเฟรมเวิร์กในการคิด พิสูจน์ข้อเท็จจริงทีละเปลาะๆ ไปเรื่อย... ในที่สุดสรุปได้ข้อมูลที่เอาไปใช้งานได้แค่ย่อหน้าเดียวครับ, แล้วย่อหน้านั้นนั่นแหละคือที่สุดของที่สุด ประหยัดเวลาของผู้อื่นไปเป็นสิบๆปี... ตัวอย่างที่เอามาพูดบ่อยคือ กฎนิวตั้นแค่ 3 ข้อ, แต่ใช้ความรู้"ต่อยอด"มานานนับศตวรรษ... คนรุ่นหลังไม่ต้องสนใจครับ เอากฎ 3 ข้อไปใช้งานได้เลย... ดังนั้น... 50 ล้านแรกใช้ชีวิต+หาความรู้, และ 50 ล้านหลังซื้อที่ดินเก็บครับ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 09:37:41 PM เกือบลืม...
ดักทางเอาไว้ก่อนเลยครับ ว่า"อย่าเล่นหุ้น"... เพราะส่วนใหญ่ขาดทุน ที่เห็นกำไรนั่นคือคนส่วนน้อยครับ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 10:01:38 PM อีกไม่นาน พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้แล้วครับ สาระคือ คุ้มครองทุกธนาคารรวมกันไม่เกิน 1 ล้านบาท
ยกเว้นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ที่มิได้อยู่ในความดูแลของ พรบ.ดังกล่าว (ท่านเจ้าของกระทู้ลองค้นดูเองครับว่าธนาคารไหน) ถ้ามีเงิน 100 ล้านบาท 50 ล้านบาทแรก ผมซื้อสลากออมสิน 1 ล้านหน่วย ถูกแน่นอนทุกงวด ตั้งแต่รางวัลที่ 1 ต่างหมวด ไปจนถึง เลขท้าย 4 ตัว เดือนหนึ่งก็หลายแสนแล้วครับ 50 ล้านที่สอง ผมจะแบ่งซื้อ ประกันชีวิต บางตัวที่นำไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนที่เหลือลงทุนในที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ครับ ความจริงอยากสร้างหอพักนักศึกษาด้วยครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 10:23:02 PM 50 ล้านบาทแรก ผมซื้อสลากออมสิน 1 ล้านหน่วย ถูกแน่นอนทุกงวด ตั้งแต่รางวัลที่ 1 ต่างหมวด ไปจนถึง เลขท้าย 4 ตัว เดือนหนึ่งก็หลายแสนแล้วครับ โอ้... เข้าท่าครับ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2012, 10:29:15 PM เพื่อนผมซื้อสลากออมสินแค่ ๒ แสน ถูกเกือบทุกงวดครับ (ไม่รวมรางวัลเลขท้ายที่ถูกทุกงวด) ::002::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มีนาคม 01, 2012, 12:30:11 AM ผมจะเปิดร้านขายข้าวแกงจานละ15บาท น้ำฟรีหรือท่านลองหาวิธีช่วยเพื่อนมนุษย์ทางอื่นดู แบบที่เราเหลือนิดหน่อยพอไปได้ ผมมีเพื่อนรวยเป็นพันล้านคุยกันทีมีแต่เรื่องรถใหม่ กิจการประเทศนั้นประเทศนี้ เงินมีเยอะๆก็ไม่เห็นเอามาทำอะไร คนรวยต้องรู้จักใช้ด้วย ขับรถคันเป็นล้านชวนกินบุฟเฟย์ เพื่อนว่าลูกมาด้วยกินไม่คุ้ม (ใจคอจะไม่ให้เขาได้กำไรเลย) อายุมากแล้วไม่ต้องคิดมากครับว่าแต่จะใช้หมดหรือเปล่า เหลือเอามาให้ผมช่วยใช้ก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 01, 2012, 01:17:42 AM มีร้อยล้าน รอจังหวะซื้อพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เกรดเอ ไม่ก็รอจังหวะเก็บหุ้นบลูชิบ กินปันผลและส่วนต่างก็เหลือกินเหลือใช้ละครับ บริหารดีๆ อย่างพื้นๆ5%ก็5ล้าน 10%ก็สิบล้าน คิดว่าคงจะเหลือกินครับ เดือนละแสนสองแสนยังเหลือเฟือ
ปล.จิงๆคนมี100ล้าน แค่ฝากประจำดอกเบี้ยก็หลายแสนแล้ว ไม่ต้องบอกใคร หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 01, 2012, 01:34:31 AM ซ้ำ.
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 01, 2012, 01:39:41 AM ซ้ำ.
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ มีนาคม 01, 2012, 06:22:33 AM ถูกแน่นอนทุกงวด ตั้งแต่รางวัลที่ 1 ต่างหมวด ไปจนถึง เลขท้าย 4 ตัว เดือนหนึ่งก็หลายแสนแล้วครับ ขออภัยครับ ขออนุญาตแก้ข่าว ไปดูตัวสลากแล้ว ต้องซื้อ 500 ล้านบาทครับ ถึงจะถูกทุกงวดครับ ผมก็ซื้อไว้นิดเดียวก็เคยถูกรางวัลที่ 2 ได้เงิน 100,000 ครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 01, 2012, 06:42:22 AM ถูกแน่นอนทุกงวด ตั้งแต่รางวัลที่ 1 ต่างหมวด ไปจนถึง เลขท้าย 4 ตัว เดือนหนึ่งก็หลายแสนแล้วครับ ขออภัยครับ ขออนุญาตแก้ข่าว ไปดูตัวสลากแล้ว ต้องซื้อ 500 ล้านบาทครับ ถึงจะถูกทุกงวดครับ ผมก็ซื้อไว้นิดเดียวก็เคยถูกรางวัลที่ 2 ได้เงิน 100,000 ครับ เฮงดีครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: assassin5844 ที่ มีนาคม 01, 2012, 09:43:37 AM ซื้ออสังหาริมทรัพย์ครับ ที่ดิน ยังไงราคาขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อแน่นอน
1แบ่งส่วนหนึ่งทำห้องเช่า มีรายได้เข้าทุกเดือน 2 ซื้อที่ดิน ทำตลาดนัด เดี๋ยวนี้มีมือปืนรับจ้างทำตลาดนัด พวกนี้จะเซียนกว่าพวกเรา มีประสพการณ์เยอะ เช่น เปิดท้ายใน บิ๊กซี จะมี เสธ... ทำเปิดท้ายในหลายสาขาของบิ๊กซี เราเอาตลาดนัดธรรมดาพอ หามือปืนที่ไว้ใจได้ แบ่ง 50:50 หรือ 60:40 แล้วแต่ตกลงกัน หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 01, 2012, 09:46:49 AM ขออภัยครับ ขออนุญาตแก้ข่าว ไปดูตัวสลากแล้ว ต้องซื้อ 500 ล้านบาทครับ ถึงจะถูกทุกงวดครับ ผมก็ซื้อไว้นิดเดียวก็เคยถูกรางวัลที่ 2 ได้เงิน 100,000 ครับ ขอบคุณครับ แต่ถึงยังไงก็น่าสนใจอยู่ดี... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:07:18 AM ถ้าหากท่านได้รับเงิน 100 ล้านมาเดี๋ยวนี้ (ดอกเบี้ย+ เงินเฟ้อ ตอนนี้เลย) แล้วท่านไม่มีงานประจำทำ ไม่มีภาระต้องผ่อนอะไร ท่านจะแบ่งสรร จัดสรร เงินก้อนนี้ไปทำอะไร ฝากอะไร ลงทุนอะไรบ้างครับ เพื่อให้เงินทำงานทันเงินเฟ้อ และมีความเสี่ยงน้อยๆ มีดอกผลให้กินบ้าง (กินไม่จุ แต่มีลูก 2คนกำลังเรียนอยู่) ขอเรียนว่าไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ แต่มีคนที่นับถือและไม่ประสาเรื่องการเงิน มาขอคำแนะนำ ไม่กล้าฟันธงเหมือนกันเนื่องจากไม้รู้จริงครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ ::014:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ พี่ Seiya ฮา ไปถามเพื่อนๆ ที่มี ยี่สิบ สามสิบล้าน ทำมัยคร๊า ฮา ถามยายนี่ อ่ะ พวก ร้อยล้าน คุยกันรู้เรื่องหน่อย อ่ะ ฮา ยายกำลังจะเอาเงินไปจ่ายค่าที่อ่ะ ร้อยเดียว อยากหาผู้ร่วมทุน คนละครึ่ง อ่ะ ฮา เงื่อนไข มีชื่อร่วมในโฉนด 50 / 50 รับดอกเบี้ย เดือนละ 1% 50 ล้านรับไปเลย เดือนละ ห้าแสน ฮา เมื่อที่ดินขายได้ แบ่งกำไร 40 / 60 อ่ะ ฮา แหมมม ... ยายมือสั่นเลยอ่ะ นานๆเจอพวก ร้อยล้าน ฮา หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:32:08 AM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:49:52 AM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005:: Ha Ha Ha ฮา "ฮัี่่นแน่" ครูต้น อ่ะ ฮา ขอยืม ห้าร้อย อ่ะ จิ ฮา หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:51:41 AM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005:: Ha Ha Ha ฮา "ฮัี่่นแน่" ครูต้น อ่ะ ฮา ขอยืม ห้าร้อย อ่ะ จิ ฮา ฮ้าย... ยายก็... ยืมห้าร้อยนี่มันคุ้นๆ เหมือนในคลิปฯ นี้นะครับยาย... ::005:: ::005:: ::005:: http://www.youtube.com/watch?v=UNPUezqDiag หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:57:43 AM ยายบาฯ เก่งนะครับ ถนัดที่ดิน เห็นพ่อเพือนทำมานานหลายสิบปีก็รวยหลักร้อยล.
แต่เพื่อนผมยังขี่มอไซ เฮ้อ...สงสารมันจัง พ่อรวยขนาดนั้น รถคันไม่กีแสน น่าซื้อให้ลูกๆ จะรวยไปไหน หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 11:14:23 AM บวก ๑ ครับ ต้น
มุข ยืมตังค์ ๕๐๐ บาท หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 01, 2012, 11:17:49 AM บวก ๑ ครับ ต้น มุข ยืมตังค์ ๕๐๐ บาท ผมก็จำเขามาครับพี่... ::005:: ::005:: ::005:: ...ทอนครับ... ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: Glock9mm ที่ มีนาคม 01, 2012, 12:53:49 PM เชื่อว่าคนที่มีเงินร้อยล้านได้ จะไม่มาถามคำถามแบบนี้จากคนอื่นครับ จำได้ว่า ดร.เสรี ท่านเคยพูดไว้ว่า คนที่รวยไม่ต้องไปอิจฉาเขาเพราะกว่าจะรวยมาได้
เขาล้มลุกคลุกคลานเจ็บปวดมาก่อนทั้งนั้น(ไม่รวมพวกได้สมบัติจากพ่อแม่ ถูกหวยหรือทำผิดกฏหมาย) จำที่ท่านพูดได้ไม่หมด แต่น่าจะความหมายประมาณนี้ ;D หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: seiya-รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 03:24:23 PM เชื่อว่าคนที่มีเงินร้อยล้านได้ จะไม่มาถามคำถามแบบนี้จากคนอื่นครับ จำได้ว่า ดร.เสรี ท่านเคยพูดไว้ว่า คนที่รวยไม่ต้องไปอิจฉาเขาเพราะกว่าจะรวยมาได้ เขาล้มลุกคลุกคลานเจ็บปวดมาก่อนทั้งนั้น(ไม่รวมพวกได้สมบัติจากพ่อแม่ ถูกหวยหรือทำผิดกฏหมาย) จำที่ท่านพูดได้ไม่หมด แต่น่าจะความหมายประมาณนี้ ;D ครับ...สุภาพสตรีหญิงโบราณ มีชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่เคยยุ่งกับเงินๆทองๆนอกจากเงินเดือน กับแชร์วงเล็กๆ ใช้ธนาคารแห่งเดียวมาตลอด ได้เงินมาจากการขายที่ดิน ก็เพราะมีคนมาอ้อนวอนขอซื้อ เลยไม่รู้จะทำยังงัย ให้มันงอกเงยเพียงพอ เพราะอยากจะหยุดทำงานแต่ต้องส่งลูกเรียน 2 คน แหม..ถ้าเป็นเงินผมละก็.....สนุกแน่..อิ อิ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 04:45:58 PM เชื่อว่าคนที่มีเงินร้อยล้านได้ จะไม่มาถามคำถามแบบนี้จากคนอื่นครับ จำได้ว่า ดร.เสรี ท่านเคยพูดไว้ว่า คนที่รวยไม่ต้องไปอิจฉาเขาเพราะกว่าจะรวยมาได้ เขาล้มลุกคลุกคลานเจ็บปวดมาก่อนทั้งนั้น(ไม่รวมพวกได้สมบัติจากพ่อแม่ ถูกหวยหรือทำผิดกฏหมาย) จำที่ท่านพูดได้ไม่หมด แต่น่าจะความหมายประมาณนี้ ;D ครับ...สุภาพสตรีหญิงโบราณ มีชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่เคยยุ่งกับเงินๆทองๆนอกจากเงินเดือน กับแชร์วงเล็กๆ ใช้ธนาคารแห่งเดียวมาตลอด ได้เงินมาจากการขายที่ดิน ก็เพราะมีคนมาอ้อนวอนขอซื้อ เลยไม่รู้จะทำยังงัย ให้มันงอกเงยเพียงพอ เพราะอยากจะหยุดทำงานแต่ต้องส่งลูกเรียน 2 คน แหม..ถ้าเป็นเงินผมละก็.....สนุกแน่..อิ อิ ร้อยล้านไม่พอส่งลูกเรียนเหรอครับ? :OO ถ้าเป็นสุภาพสตรีโบราณแบบนั้นจริงๆ ผมแนะนำให้ย้ายที่อยู่ครับ ไปอยู่ในที่สภาพแวดล้อมดีๆ ทำตามที่พี่สมชายแนะนำคือห้าสิบแรกใช้จ่ายเพื่อความสุข อีกห้าสิบซื้อที่ดินครับ ไม่ต้องหาเรื่องไปทำธุรกิจเพราะจะต้องผูกพันกับคนจำนวนมากชีวิตที่เหลืออยู่จะไม่สงบและอันตรายครับ ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: seiya-รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 05:13:10 PM เชื่อว่าคนที่มีเงินร้อยล้านได้ จะไม่มาถามคำถามแบบนี้จากคนอื่นครับ จำได้ว่า ดร.เสรี ท่านเคยพูดไว้ว่า คนที่รวยไม่ต้องไปอิจฉาเขาเพราะกว่าจะรวยมาได้ เขาล้มลุกคลุกคลานเจ็บปวดมาก่อนทั้งนั้น(ไม่รวมพวกได้สมบัติจากพ่อแม่ ถูกหวยหรือทำผิดกฏหมาย) จำที่ท่านพูดได้ไม่หมด แต่น่าจะความหมายประมาณนี้ ;D ครับ...สุภาพสตรีหญิงโบราณ มีชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่เคยยุ่งกับเงินๆทองๆนอกจากเงินเดือน กับแชร์วงเล็กๆ ใช้ธนาคารแห่งเดียวมาตลอด ได้เงินมาจากการขายที่ดิน ก็เพราะมีคนมาอ้อนวอนขอซื้อ เลยไม่รู้จะทำยังงัย ให้มันงอกเงยเพียงพอ เพราะอยากจะหยุดทำงานแต่ต้องส่งลูกเรียน 2 คน แหม..ถ้าเป็นเงินผมละก็.....สนุกแน่..อิ อิ ร้อยล้านไม่พอส่งลูกเรียนเหรอครับ? :OO ถ้าเป็นสุภาพสตรีโบราณแบบนั้นจริงๆ ผมแนะนำให้ย้ายที่อยู่ครับ ไปอยู่ในที่สภาพแวดล้อมดีๆ ทำตามที่พี่สมชายแนะนำคือห้าสิบแรกใช้จ่ายเพื่อความสุข อีกห้าสิบซื้อที่ดินครับ ไม่ต้องหาเรื่องไปทำธุรกิจเพราะจะต้องผูกพันกับคนจำนวนมากชีวิตที่เหลืออยู่จะไม่สงบและอันตรายครับ ... ใช่ครับ คือเขาจะไม่ทำอะไรครับ ไม่ทำงาน ไม่ทำธุรกิจ รับ-ส่งลูกเรียน และเอาดอกผลมาใช้อย่างเดียว ไม่ให้ต้นหมดครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 05:46:08 PM ไม่หมดหรอกครับ ห้าสิบล้านแรกแบ่งซื้อสลาก ฝากธนาคาร ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ส่งลูกเรียน เที่ยวพักผ่อน อย่าไปหลงผู้ชายหล่อหรือเล่นการพนัน หรือโลภอยากได้ พันล้านเอาเงินไปให้ผู้อื่นลงทุนแทนแล้วกัน ::005:: ห้าสิบล้านหลังซื้อที่ดินไว้ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2012, 05:49:17 PM ดูช่องสามตอนนี้ซิครับ สหกรณ์ครูภาคอีสาน ??? ??? แม่พิมพ์ของชาติแท้ๆ ::004:: ::004::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 01, 2012, 08:28:50 PM ใช่ครับ คือเขาจะไม่ทำอะไรครับ ไม่ทำงาน ไม่ทำธุรกิจ รับ-ส่งลูกเรียน และเอาดอกผลมาใช้อย่างเดียว ไม่ให้ต้นหมดครับ ไม่หมดหรอกครับ ห้าสิบล้านแรกแบ่งซื้อสลาก ฝากธนาคาร ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งลูกเรียน เที่ยวพักผ่อน อย่าไปหลงผู้ชายหล่อหรือเล่นการพนัน หรือโลภอยากได้ พันล้านเอาเงินไปให้ผู้อื่นลงทุนแทนแล้วกัน ::005:: ห้าสิบล้านหลังซื้อที่ดินไว้ครับ ::014:: เห็นด้วยครับ ไม่หมดหรอกครับ คำนวณง่ายๆว่าเหลือชีวิตอีก 50 ปี(จริงๆไม่ถึงแน่ๆ) ก็จะใช้เงินให้หมดเดือนละ 1 แสนบาทครับ แล้วหากใช้ไม่หมดมันก็จะทบยอดสะสมไปให้ใช้ให้หมดในเคือนหน้า... ตามข้อมูลที่บอกมาไม่มีภาระผ่อนอะไรอีกแล้วนี่ครับ, แล้วชีวิตจริงๆใช้เงินเดือนละแสนนี่ต้องห้ามเผลอหยุดพักเหนี่อยนะครับ เผลอนอนเล่นอยู่บ้านไปแค่เดือนเดียว(เพราะเที่ยวแล้วเหนื่อย) แปลว่าเดือนหน้าต้องมีภาระใช้ให้หมด 2 แสนบาทครับ... หากใช้ชีวิตปรกติไม่ประมาท ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย เดือนละแสนบาทพอกินพออยู่ส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศได้ครับ... เพราะของแพงๆเช่นรถยนต์ซื้อไปหนึ่งครั้งมันก็อยู่ได้ไปหลายปี... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 01, 2012, 08:29:51 PM แต่ถ้าตั้งใจฟุ่มเฟือย... เดือนละล้านบาท นายสมชายก็มีปัญญาใช้หมดครับ...
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: Glock9mm ที่ มีนาคม 01, 2012, 10:15:54 PM เชื่อว่าคนที่มีเงินร้อยล้านได้ จะไม่มาถามคำถามแบบนี้จากคนอื่นครับ จำได้ว่า ดร.เสรี ท่านเคยพูดไว้ว่า คนที่รวยไม่ต้องไปอิจฉาเขาเพราะกว่าจะรวยมาได้ เขาล้มลุกคลุกคลานเจ็บปวดมาก่อนทั้งนั้น(ไม่รวมพวกได้สมบัติจากพ่อแม่ ถูกหวยหรือทำผิดกฏหมาย) จำที่ท่านพูดได้ไม่หมด แต่น่าจะความหมายประมาณนี้ ;D ครับ...สุภาพสตรีหญิงโบราณ มีชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่เคยยุ่งกับเงินๆทองๆนอกจากเงินเดือน กับแชร์วงเล็กๆ ใช้ธนาคารแห่งเดียวมาตลอด ได้เงินมาจากการขายที่ดิน ก็เพราะมีคนมาอ้อนวอนขอซื้อ เลยไม่รู้จะทำยังงัย ให้มันงอกเงยเพียงพอ เพราะอยากจะหยุดทำงานแต่ต้องส่งลูกเรียน 2 คน แหม..ถ้าเป็นเงินผมละก็.....สนุกแน่..อิ อิ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 02, 2012, 09:33:52 AM ใช่แล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นดีที่สุด... หากยังไม่มีเงินก้อนโตเก็บไว้ก้นกระเป๋า, ใช้จ่ายแค่เดือนละแสนบาทบางทีมันไม่พอครับ เพราะรายจ่ายบางส่วนจำเป็นต้องจ่ายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ เช่นต้องใช้จ่ายเครื่องแต่งกาย+ยานพาหนะเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาคนรอบข้าง, ต้องผ่อนบ้านหลังโตเพื่อความภูมิฐานตามฐานานุรูปสำหรับประกอบกิจการงานอาชีพ ฯลฯ...
สมมติคิดตามสูตรคนชั้นกลางอาศัยบ้านเดี่ยวชานเมือง มีรถยนต์ขนาดกลาง(1600 CC)สองคันผัวคันเมียคัน... ผ่อนบ้านเดี่ยวย่านนนทบุรี(รัตนาธิเบตร์ หรือติวานนท์)ราคา 5 - 7 ล้าน(ไม่เกิน 100 ตารางวา) ผ่อนประมาณ 5 - 7 หมื่นบาท/เดือน, ผ่อนรถยนต์ 2 คัน คันละ 1.5 หมื่นรวมประมาณ 3 หมื่นบาท/เดือน, สรุปเงินผ่อนต่อเดือนอย่างเดียวประมาณ 1 แสนบาทครับ... เงินผ่อนอย่างเดียว 1 แสนบาทต่อเดือน... ส่วนค่าใช้จ่ายในครัวเรือนประมาณ 4 หมื่นบาท แยกเป็น... 1) ค่าปิ่นโต S&P สำหรับสองคน 7500 บาท, ค่าน้ำค่าไฟ 3000 บาท, ค่าน้ำมันคนละ 3000 บาท(คิดจากกินน้ำมัน 10 กิโลเมตร/ลิตร ราคาลิตรละ 40 บาท และหนึ่งปีวิ่ง 1 หมื่นกิโลเมตร) รวมค่าน้ำมัน 2 คัน 6000 บาท รวม 1) เป็น 16500 บาท... 2) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวคนละ 1 หมื่นบาท(ค่าเสื้อผ้า, สะสมจ่ายค่าข้าวของเครื่องใช้อื่น เช่นเฟอร์นิเจอร์บ้าน ทีวี ตู้เย็น ตู้เตียง ฯลฯ) รวม 2 คนเป็นเงิน 2 หมื่นบาท... ซึ่งน้อยแล้ว สำหรับฐานานุรูปคนชั้นกลางที่เห็นขับรถ 1600 CC เกลื่อนถนนฯ... ดังนั้นต้องมีรายได้ 140000 บาท/เดือนเป็นอย่างต่ำ... ที่จริงๆแล้วต้องมีรายได้มากกว่านี้ด้วยครับ เพราะต้องมีเงินออม ต้องมีค่าเข้าสังคม และต้องเลี้ยงลูกอีกด้วย... ดังนั้นหากตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เมื่อมีเงินก้อนโตอยู่ก้นกระเป๋าแล้ว(ไม่ต้องมีเงินออมเพราะมีแล้ว+ไม่ต้องแต่งตัวแพงออกจากบ้านไปทำงานออฟฟิตฯ+ไม่ต้องมีค่าสังคมฯ+ลูกโตแล้ว กันเงินส่งเรียนหนังสือไว้แล้ว), และใช้ชีวิตสมถะแบบข้าราชการ คืออยู่อย่างพอเพียง... นายสมชายว่าเงินแค่นี้พออยู่ได้ตลอดชีวิตที่เหลือครับ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มีนาคม 02, 2012, 11:18:48 AM แล้วตั่วเฮียผม ที่มีเป็นแสนล้าน เขาจะกลุ้มใจขนาดไหนครับนี่ ;D
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 02, 2012, 12:28:03 PM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005:: งั้นผมขอร่วมหุ้นกับอาจารย์ด้วยแล้วกันครับ เพราะผมก็ถนัดเหมือนกัน บริหารเงินหลักร้อยเนี่ย มาถึงลงทุน 300 บาทแรก ซื้อ ลีโอมาก่อนครับ 6 ขวด ลงทุนอีก 100 บาท ซื้อเนื้อย่างน้ำตกครับ น้ำแข็งอีก 20 บาท กรองทิพย์อีก 30 บาท จบครับ รวมแล้ว 450 บาท เหลือไว้อีก 50 บาทไว้ใส่กระเป๋าให้อุ่นใจเล่น ::005:: ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 02, 2012, 12:53:13 PM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005:: งั้นผมขอร่วมหุ้นกับอาจารย์ด้วยแล้วกันครับ เพราะผมก็ถนัดเหมือนกัน บริหารเงินหลักร้อยเนี่ย มาถึงลงทุน 300 บาทแรก ซื้อ ลีโอมาก่อนครับ 6 ขวด ลงทุนอีก 100 บาท ซื้อเนื้อย่างน้ำตกครับ น้ำแข็งอีก 20 บาท กรองทิพย์อีก 30 บาท จบครับ รวมแล้ว 450 บาท เหลือไว้อีก 50 บาทไว้ใส่กระเป๋าให้อุ่นใจเล่น ::005:: ::014:: โครงการนี้น่าร่วมหุ้น :D~ :D~ :D~ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 02, 2012, 01:02:59 PM อูย... ผมมันนักบริหารเงินหลักร้อยบาท... งั้นคงไม่กล้าคุยกับยายหรอกครับ... ::005:: ::005:: ::005:: งั้นผมขอร่วมหุ้นกับอาจารย์ด้วยแล้วกันครับ เพราะผมก็ถนัดเหมือนกัน บริหารเงินหลักร้อยเนี่ย มาถึงลงทุน 300 บาทแรก ซื้อ ลีโอมาก่อนครับ 6 ขวด ลงทุนอีก 100 บาท ซื้อเนื้อย่างน้ำตกครับ น้ำแข็งอีก 20 บาท กรองทิพย์อีก 30 บาท จบครับ รวมแล้ว 450 บาท เหลือไว้อีก 50 บาทไว้ใส่กระเป๋าให้อุ่นใจเล่น ::005:: ::014:: โครงการนี้น่าร่วมหุ้น :D~ :D~ :D~ ว่าแต่ เมื่อไหร่จะผ่านมาล่ะครับอาแป๋ง ไม่ต้องร่วมหุ้นเลยครับ เดี๋ยวผมลงทุนให้อาแป๋งเอง อิ อิ :D~ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 02, 2012, 01:05:22 PM ผมจะไปงานศพคุณแม่ท่านตำรวจวันจันทร์นี้ครับ มีงานแต่งลูกสาวน้าตี๋ที่นครปฐมวันที่ 10 ต้องดูก่อนครับถ้าสะดวกอาจจะไปร่วมงานถึงวันนั้นคงได้พบกันครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 02, 2012, 01:10:20 PM ผมจะไปงานศพคุณแม่ท่านตำรวจวันจันทร์นี้ครับ มีงานแต่งลูกสาวน้าตี๋ที่นครปฐมวันที่ 10 ต้องดูก่อนครับถ้าสะดวกอาจจะไปร่วมงานถึงวันนั้นคงได้พบกันครับ ครับผม ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 02, 2012, 01:16:35 PM ผมจะไปงานศพคุณแม่ท่านตำรวจวันจันทร์นี้ครับ มีงานแต่งลูกสาวน้าตี๋ที่นครปฐมวันที่ 10 ต้องดูก่อนครับถ้าสะดวกอาจจะไปร่วมงานถึงวันนั้นคงได้พบกันครับ ครับผม ::014:: ทราบผลยังไงจะโทรฯแจ้งให้ทราบครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ มีนาคม 02, 2012, 02:54:29 PM ทำงานจนมีเงิน100ล้านต้องมาถามการวางแผนการเงินเชียวหรือ...
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: kratingtone1 ที่ มีนาคม 02, 2012, 03:26:07 PM ผมมีเพื่อนเขาใช้เงิน50ล้านเปิดปั๊มปตท.ครบเซ็ตที่เราๆท่านเห็นนี่แหละ...เปิดมาแล้ว ๕ เดือนบริหารเองตอนนี้รายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเดือนละเกือบสองล้านไม่เคยต่ำกว่าล้าน ผมเห็นที่ดินระหว่างจ.ยโสธรกับอ.สวรรณภูมิจ.ร้อยเอ็ดเหมาะนะครับ ราคาไร่หนึ่งไม่เกินสามแสนหรอกว่างๆลองเตร่ไปแถวนั้นดูส่วนการตัดสินใจอญู่ที่เราครับ...เงิน100ล้านกองอยู่ในธนาคารมันคงไม่ร้องกินก๋วยเตี๋ยวให้เราต้องเดือดร้อนหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 02, 2012, 03:29:47 PM ทำงานจนมีเงิน100ล้านต้องมาถามการวางแผนการเงินเชียวหรือ... ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ได้เงินจากการขายที่ดินครับ... เรื่องแบบนี้มีจริง โดยเฉพาะที่ดินที่ได้จากตกทอดมาจากบรรพบุรุษ สมัยก่อนเป็นที่นา แบ่งมรดกแล้วลูกหลานได้กันคนละหลายสิบไร่... เมื่อความเจริญไปถึง ที่นากลายเป็นที่หมู่บ้านจัดสรร(เช่นแถบบางบัวทอง) เจ้าของได้ที่ดินจากบรรพบุรุษ ราคาขายไร่ละเป็นล้าน, ยิ่งลูกหลานกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านสมัยก่อน ลูกหลานแบ่งกันแล้วยังได้คนละเป็นร้อยไร่ เพราะสมัยก่อนลูกบ้านมาอ้อนวอนขอให้ช่วยซื้อที่ดอน ปลูกข้าวไม่ได้(มาสมัยนี้น้ำไม่ท่วม ราคายิ่งดี)... คนกลุ่มนี้ทำงานรับราชการมาจนใกล้เกษียณ หากไม่ขายก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไม ในเมื่อก็จะส่งลูกเรียนต่อสูงๆ ตัวเองก็ลำบากมาตั้งแต่อายุยังน้อย... หากไม่ขายแล้วเอาเงินมาใช้ประโยชน์ สมบัติบรรพบุรุษก็จะไร้ค่า ลูกหลานก็ลำบากต่อไป ดีไม่ดีไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่มีโอกาสประกอบอาชีพที่ดี จะรักษาสมบัติเอาไว้ไม่ได้เอา แล้วก็จะเสียดายเมื่อสายเสียแล้ว... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 02, 2012, 06:14:42 PM ใครคิดอย่างไรไม่รู้นะ
ถ้าเป็นผม จะลงทุนซื้อที่ดินดีๆ เหมาะสำหรับปลูกผัก ปลูกต้นไม้ แล้วปลูกทุกอย่างที่อยากปลูก วันไหนที่ไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้อข้าวของ แค่เดินในสวนก็มีให้กิน คงสุขพิลึก ;D ;D ;D แต่ถ้าเอาลงทุนไว้บ้าง เผื่ออนาคตลูกหลาน อาจแบ่งเงินซื้อที่ดินสวยๆ ทำหอพักหรืออพาร์ทเม้นต์ให้เช่า ของแบบนี้กำไรน้อย แต่ความเสี่ยงน้อยเช่นกัน ทำแบบนี้ ชีวิตจะไม่เร่งรีบมากๆ และจะมีความสุขกับการเห็น มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์(ที่ดิน+อาคาร) มากกว่าเงินค่าเช่า หากอยากได้กำไรมากขึ้นนิด ก็เป็นโรงแรมไปเลย กำไรมากขึ้น ความเสี่ยงมากตาม และระบบการจัดการ วุ่นวายมากกว่าหอพักหลายเท่าตัว ที่เหลือลงทุนในทองและตราสารที่น่าสนใจต่างๆครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 02, 2012, 06:22:07 PM ผมมีเพื่อนเขาใช้เงิน50ล้านเปิดปั๊มปตท.ครบเซ็ตที่เราๆท่านเห็นนี่แหละ... เปิดมาแล้ว ๕ เดือนบริหารเอง ตอนนี้รายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว เดือนละเกือบสองล้านไม่เคยต่ำกว่าล้าน ผมเห็นที่ดินระหว่างจ.ยโสธรกับอ.สวรรณภูมิจ.ร้อยเอ็ดเหมาะนะครับ ราคาไร่หนึ่งไม่เกินสามแสนหรอกว่างๆลองเตร่ไปแถวนั้นดูส่วนการตัดสินใจอญู่ที่เราครับ... เงิน100ล้านกองอยู่ในธนาคารมันคงไม่ร้องกินก๋วยเตี๋ยวให้เราต้องเดือดร้อนหรอกครับ Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ พี่ kratingtone อ่ะ ฮา รายได้ ล้าน เกือบ สองล้าน คิดเอาเอง หรือเขาบอก หรือ คุยโม้เล่นๆคร๊า ฮา ค่าการตลาดน้ำมัน พวก โซล่า โซฮออล์ เบื้องต้น กำไร ลิตรละ บาทเศษๆ คร๊า ยังไม่ได้หักค่า เด็กเติมน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าต้นทุนดำเนินการ อ่ะ ฮา กำไรเดือนละเป็นล้านเนี่ย รู้มั้ยคร๊า ขายน้ำมัน กี่ลิตร ฮา ถ้าคิดไม่ออก ยายบอกให้อ่ะ ฮา ขายเดือนละเป็น "ล้านลิตร" คร๊า เงินหมุนเวียน 30-40 ล้านต่อเดือน อ่ะ ฮา ถ้าได้ระดับนี้ เป็น "Jobber" แล้วอ่ะ ฮา กลับไปถามใหม่น๊ะคร๊า ฮา ตอนนอน เอาอะไร ก่ายศรีษะ ฮา มันไม่ได้กำไรแบบนั้นหรอกคร๊า ฮา แล้วยิ่งใน food court หรือ mini store เขาห้ามขายเบียร์ ขายเหล้าด้วยแหละ ฮา แล้วจะเอาตัวไหนมากำไร คร๊า ฮา เวลาขับรถไปต่างจังหวัด หลับตลอดทาง หรือเปล่าคร๊า ปั้มน้ำมัน เจ๊ง ปิดกันเป็นแถบ อ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 02, 2012, 06:36:16 PM เรื่องปั๊มน้ำมัน อ่านแล้วนึกถึงคนนี้
http://www.goosiam.com/news/news1/html/0017436.html (http://www.goosiam.com/news/news1/html/0017436.html) ผมว่าปั๊มแก๊ส น่าจะมาแรงกว่า หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 02, 2012, 06:48:22 PM ใครคิดอย่างไรไม่รู้นะ ถ้าเป็นผม จะลงทุนซื้อที่ดินดีๆ เหมาะสำหรับปลูกผัก ปลูกต้นไม้ แล้วปลูกทุกอย่างที่อยากปลูก วันไหนที่ไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้อข้าวของ แค่เดินในสวนก็มีให้กิน คงสุขพิลึก ;D ;D ;D แต่ถ้าเอาลงทุนไว้บ้าง เผื่ออนาคตลูกหลาน อาจแบ่งเงินซื้อที่ดินสวยๆ ทำหอพักหรืออพาร์ทเม้นต์ให้เช่า ของแบบนี้กำไรน้อย แต่ความเสี่ยงน้อยเช่นกัน ทำแบบนี้ ชีวิตจะไม่เร่งรีบมากๆ และจะมีความสุขกับการเห็น มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์(ที่ดิน+อาคาร) มากกว่าเงินค่าเช่า หากอยากได้กำไรมากขึ้นนิด ก็เป็นโรงแรมไปเลย กำไรมากขึ้น ความเสี่ยงมากตาม และระบบการจัดการ วุ่นวายมากกว่าหอพักหลายเท่าตัว ที่เหลือลงทุนในทองและตราสารที่น่าสนใจต่างๆครับ Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ submachine -รักในหลวง เริ่มคิดแบบ "เถ้าแก่" แล้วอ่ะ ฮา ใช่เลยคร๊า ใครเคยเห็น Chain fassino มั้ยคร๊า ร้านขายยา อ่ะ ฮา เขาไปหาทำเล ที่มีคน ราคาตึกแถวยังไม่แพง เขาเลือก "เปิดร้าน" ตรงนี้ คร๊า ฮา เขาจ้าง "เภสัช" จบใหม่ ค่าตัว หมื่น สองหมื่น บาท มาทำงานให้เขา ลำพังกำไรค่ายา เขาก็ได้พอสมควรคร๊า เอามาจ่าย ให้คนขาย กับเด็กช่วยขายหน้าร้าน ฮา กำไรที่เป็น Net profit ไม่ค่อยได้เห็นอ่ะ แต่ไม่ขาดทุน ฮา พอพ้นหลัง ไปห้าปี สิบปี ตึกแถวจาก ล้าน สองล้าน กลายเป็น สิบล้านอ่ะ เพราะความเจริญมันเข้ามาถึง แล้ว ฮา เห็นหรือยัง ว่าเขา ประคองตัว แล้วได้กำไร เขาทำกันอย่างไร ฮา 5555555555 ลูกจ้าง จงเจริญ ฮา หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 02, 2012, 06:51:10 PM ใช่แล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นดีที่สุด... หากยังไม่มีเงินก้อนโตเก็บไว้ก้นกระเป๋า, ใช้จ่ายแค่เดือนละแสนบาทบางทีมันไม่พอครับ เพราะรายจ่ายบางส่วนจำเป็นต้องจ่ายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ เช่นต้องใช้จ่ายเครื่องแต่งกาย+ยานพาหนะเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาคนรอบข้าง, ต้องผ่อนบ้านหลังโตเพื่อความภูมิฐานตามฐานานุรูปสำหรับประกอบกิจการงานอาชีพ ฯลฯ... สมมติคิดตามสูตรคนชั้นกลางอาศัยบ้านเดี่ยวชานเมือง มีรถยนต์ขนาดกลาง(1600 CC)สองคันผัวคันเมียคัน... ผ่อนบ้านเดี่ยวย่านนนทบุรี(รัตนาธิเบตร์ หรือติวานนท์)ราคา 5 - 7 ล้าน(ไม่เกิน 100 ตารางวา) ผ่อนประมาณ 5 - 7 หมื่นบาท/เดือน, ผ่อนรถยนต์ 2 คัน คันละ 1.5 หมื่นรวมประมาณ 3 หมื่นบาท/เดือน, สรุปเงินผ่อนต่อเดือนอย่างเดียวประมาณ 1 แสนบาทครับ... เงินผ่อนอย่างเดียว 1 แสนบาทต่อเดือน... ส่วนค่าใช้จ่ายในครัวเรือนประมาณ 4 หมื่นบาท แยกเป็น... 1) ค่าปิ่นโต S&P สำหรับสองคน 7500 บาท, ค่าน้ำค่าไฟ 3000 บาท, ค่าน้ำมันคนละ 3000 บาท(คิดจากกินน้ำมัน 10 กิโลเมตร/ลิตร ราคาลิตรละ 40 บาท และหนึ่งปีวิ่ง 1 หมื่นกิโลเมตร) รวมค่าน้ำมัน 2 คัน 6000 บาท รวม 1) เป็น 16500 บาท... 2) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวคนละ 1 หมื่นบาท(ค่าเสื้อผ้า, สะสมจ่ายค่าข้าวของเครื่องใช้อื่น เช่นเฟอร์นิเจอร์บ้าน ทีวี ตู้เย็น ตู้เตียง ฯลฯ) รวม 2 คนเป็นเงิน 2 หมื่นบาท... ซึ่งน้อยแล้ว สำหรับฐานานุรูปคนชั้นกลางที่เห็นขับรถ 1600 CC เกลื่อนถนนฯ... ดังนั้นต้องมีรายได้ 140000 บาท/เดือนเป็นอย่างต่ำ... ที่จริงๆแล้วต้องมีรายได้มากกว่านี้ด้วยครับ เพราะต้องมีเงินออม ต้องมีค่าเข้าสังคม และต้องเลี้ยงลูกอีกด้วย... ดังนั้นหากตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เมื่อมีเงินก้อนโตอยู่ก้นกระเป๋าแล้ว(ไม่ต้องมีเงินออมเพราะมีแล้ว+ไม่ต้องแต่งตัวแพงออกจากบ้านไปทำงานออฟฟิตฯ+ไม่ต้องมีค่าสังคมฯ+ลูกโตแล้ว กันเงินส่งเรียนหนังสือไว้แล้ว), และใช้ชีวิตสมถะแบบข้าราชการ คืออยู่อย่างพอเพียง... นายสมชายว่าเงินแค่นี้พออยู่ได้ตลอดชีวิตที่เหลือครับ... ::014::เรียนพี่สมชายครับ เรื่องบ้านผมไม่เห็นด้วยที่ต้องสร้างภาระเป็นหนี้สินมากมาย ทำงานงกๆหาเงินผ่อนจนอายุ50-60 เพื่อการได้อยู่บ้านหลังใหญ่(ทุกครั้งที่ผ่อน ครึ่งหนึ่งคือดอกเบี้ย :OO ) ผมคิดว่าคนเราควรจะปลอดหนี้สินเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้(ยกเว้นพวกต้องกู้ยืมเพื่อทำธุรกิจ) คนเราอายุสั้นแค่6-70เต็มที่ละ ถ้าไม่ตายซะก่อน ผมเห็นด้วยกับสุภาษิตฝรั่งที่บอกว่า"ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ40" เต็มที่ผมว่า40กลางๆ ควรจะมั่นคงได้แล้วครับ ใช้ชีวิตที่เหลือ ให้มีความสุขตามอัตภาพ :) หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 02, 2012, 09:28:36 PM ::014::เรียนพี่สมชายครับ เรื่องบ้านผมไม่เห็นด้วยที่ต้องสร้างภาระเป็นหนี้สินมากมาย ทำงานงกๆหาเงินผ่อนจนอายุ50-60 เพื่อการได้อยู่บ้านหลังใหญ่(ทุกครั้งที่ผ่อน ครึ่งหนึ่งคือดอกเบี้ย :OO ) ผมคิดว่าคนเราควรจะปลอดหนี้สินเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้(ยกเว้นพวกต้องกู้ยืมเพื่อทำธุรกิจ) คนเราอายุสั้นแค่6-70เต็มที่ละ ถ้าไม่ตายซะก่อน ผมเห็นด้วยกับสุภาษิตฝรั่งที่บอกว่า"ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ40" เต็มที่ผมว่า40กลางๆ ควรจะมั่นคงได้แล้วครับ ใช้ชีวิตที่เหลือ ให้มีความสุขตามอัตภาพ :) ที่นายสมชายยกมานั่นคือโมเดลของคนชั้นกลางทั่วไปครับ... โมเดิลนี้พวกธนาคารเขาเอาไว้ประเมินเวลาจะให้กู้เงิน โดยมีหลักอยู่ว่ามีรายได้เท่าไหร่ จะผ่อนต่อเดือนไม่เกินครึ่งหนึ่งของรายได้ต่อเดือนครับ... รายได้คนชั้นกลางส่วนใหญ่อยู่ประมาณนี้ครับ เมื่ออายุกลางคนใกล้ 50 ก็เริ่มปลอดหนี้ผ่อนบ้าน, กลุ่มนี้คือคนที่เราเห็นขับรถขนาดกลาง(1600 CC)เช้าออกมาจากหมู่บ้าน ตกเย็นก็ขับรถเข้าหมู่บ้านแถวชานเมืองครับ... พวกนี้หากดำรงชีวิตไม่อยู่บนความเสี่ยง เมื่ออายุใกล้ 50 ก็ปลดหนี้สินได้แล้ว เพราะเมื่ออายุมากขึ้นก็มักมีรายได้เพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ครับ... น้าเบิ้มลองสังเกตว่าบ้านเดี่ยวตลาดบน ราคาประมาณ 5 - 7 ล้าน(ตัวอย่างเช่น ย่านติวานนท์/สนามบินน้ำ - รัตนาธิเบตร์) ตลาดเดินดีกว่าทาวน์เฮ้าส์ล้านกว่าบาทย่านเลยไปหน่อยครับ(ทาวน์เฮ้าส์ย่านบางบัวทอง)... นั่นแสดงว่าบ้านเดี่ยว"ตลาดบน"แถวนั้น ลูกค้ามีรายได้ต่อครัวเรือนเกิน 2 แสนบาท/เดือนครับ(บ้านบางหลังมีรถยนต์คันเดียว หรือไม่ได้ผ่อนรถยนต์)... แล้วก็เห็นด้วยกับน้าเบิ้มว่า ในเมื่อสุภาพสตรีตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ หากไม่อยากต้องทำงานแล้ว ก็มีชีวิตสมถะไงครับ... ใช้ชีวิตพอเพียงเหมือนชีวิตข้าราชการ เดือนละ 1 แสนบาทย่อมใช้จ่ายได้ตลอดชีวิตไงครับ บ้านก็ไม่ต้องผ่อนแล้ว... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ มีนาคม 03, 2012, 07:05:15 AM ปีก่อน มีคนเข็นผักในตลาดถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินหลายสิบล้าน พอรู้ตัวว่าถูกรางวัล แกหายออกไปจากที่พัก ตอนนี้ได้ยินข่าวว่าไปอยู่ภูเก็ต ถ้าเขารู้จักใช้เงินผมว่าน่าจะอยู่ได้ตลอดชีวิต แต่ถ้าไม่รู้จักใช้ก็เหมือนสามล้อถูกหวย ท้ายสุดก็มาปั่นสามล้อเหมือนเดิม เหมือนที่เขาเล่ากันครับ แต่ในมุมมองหนึ่งในเรื่องสามล้อถูกหวยที่ผมเห็นก็คืออย่างน้อยเขาก็ใช้ชีวิตที่มีความสุขในการใช้เงินที่สุดในชีวิต
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มีนาคม 03, 2012, 09:05:00 AM ขอนอกเรื่องหน่อยครับ.....คุณยาย babara ครับ มีธนาคารชวนผมลงทุนซื้อหุ้น เป็นหุ้นระยะสั้น 5 ปี ได้ผลตอบแทนร้อยละ 4.5 ยังไม่หักภาษี ผมสงสัยว่าผลตอบแทนจะเป็นร้อยละ 4.5 ตลอด 5 ปีหรือไม่ครับ และในเวลา 5 ปีข้างหน้านี้ เงินที่ลงทุนไปจะได้กลับมาเท่าเดิมแน่นอนหรือไม่ครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ มีนาคม 03, 2012, 10:08:24 AM ทำงานจนมีเงิน100ล้านต้องมาถามการวางแผนการเงินเชียวหรือ... ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ได้เงินจากการขายที่ดินครับ... เรื่องแบบนี้มีจริง โดยเฉพาะที่ดินที่ได้จากตกทอดมาจากบรรพบุรุษ สมัยก่อนเป็นที่นา แบ่งมรดกแล้วลูกหลานได้กันคนละหลายสิบไร่... เมื่อความเจริญไปถึง ที่นากลายเป็นที่หมู่บ้านจัดสรร(เช่นแถบบางบัวทอง) เจ้าของได้ที่ดินจากบรรพบุรุษ ราคาขายไร่ละเป็นล้าน, ยิ่งลูกหลานกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านสมัยก่อน ลูกหลานแบ่งกันแล้วยังได้คนละเป็นร้อยไร่ เพราะสมัยก่อนลูกบ้านมาอ้อนวอนขอให้ช่วยซื้อที่ดอน ปลูกข้าวไม่ได้(มาสมัยนี้น้ำไม่ท่วม ราคายิ่งดี)... คนกลุ่มนี้ทำงานรับราชการมาจนใกล้เกษียณ หากไม่ขายก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไม ในเมื่อก็จะส่งลูกเรียนต่อสูงๆ ตัวเองก็ลำบากมาตั้งแต่อายุยังน้อย... หากไม่ขายแล้วเอาเงินมาใช้ประโยชน์ สมบัติบรรพบุรุษก็จะไร้ค่า ลูกหลานก็ลำบากต่อไป ดีไม่ดีไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่มีโอกาสประกอบอาชีพที่ดี จะรักษาสมบัติเอาไว้ไม่ได้เอา แล้วก็จะเสียดายเมื่อสายเสียแล้ว... ถ้าเป็นแบบนั้นก็จำเป็นจริงๆที่จะต้องมีมืออาชีพมาจัดการ.. ผมรู้จักครอบครัวที่ขายที่ดิน สมัยนายกชาติชาย ขายที่ได้เงินหลายล้านหลังจากขายก็ซื้อรถ10ล้อมาวิ่งดิน ลูกชาย3คนไม่เคยขับรถ10ล้อมาก่อน ก็ขับรถคว่ำตาย อีก2คนขับรถกระบะแหกโค้งตายคู่ ทั้ง3คนตายภายใน1ปี.... หลังจากนั้นอีกไม่พ่อกับแม่ก็ต้องเช่าบ้านอยู่... หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 03, 2012, 10:13:00 AM มีธนาคารชวนผมลงทุนซื้อหุ้น เป็นหุ้นระยะสั้น 5 ปี ได้ผลตอบแทนร้อยละ 4.5 ยังไม่หักภาษี ผมสงสัยว่าผลตอบแทนจะเป็นร้อยละ 4.5 ตลอด 5 ปีหรือไม่ครับ และในเวลา 5 ปีข้างหน้านี้ เงินที่ลงทุนไปจะได้กลับมาเท่าเดิมแน่นอนหรือไม่ครับ ::014:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ต้องดูหนังสือ "ชวน" ให้ซื้ออ่ะ ฮา เขาระบุเป็นประเภทไหน หุ้นของธนาคารเขา เอาออกมาขายหลายตัว อ่ะ เช่นในตลาด หลักทรัพย์ ใครเข้าไปซื้อก็ได้ เป็นหุ้นสามัญ อ่ะ ฮา ส่วนที่ถาม ยายคิดว่าเป็น "หุ้นกู้ ด้อยสิทธิ์" ที่เขาเอาออกมาขายเฉพาะคราว อ่ะ ตอนที่ สถาพคล่องของธนาคาร "ง่อนแง่น" ต้องหาเงินสดเข้ามา ด่วน แบบ เซเว่น อ่ะ ฮา หุ้นพวกนี้ หากแบ๊งค์เจ๊ง หรือมีอันเป็นไป เราได้เงิน หรือไม่ได้เงิน ลำดับหลังสุดอ่ะ ฮา เพราะชื่อมันบอก "ด้อยสิทธิ์" คือ มีสิทธิ์ จิ๊ดเดียว อ่ะ ฮา ส่วนดอกเบี้ย 4.5% เมื่อครบกำหนดสัญญา ต้องจ่ายตามข้อตกลง อ่ะ ฮา หุ้นประเภทนี้เขาเอา "ดอกเบี้ย" มาล่อ สูงกว่าปกติ 2 - 3 % อ่ะ ฮา 555555 แล้วยายคิดว่า เขา "ไถ่ถอน" ก่อนกำหนด ได้ด้วยอ่ะ ฮา เมื่อครบปีที่ห้า ถ้าแบ๊งค์ ไม่เจ๊งไปก่อน ได้เงินต้น พร้อมดอกเบี้ย อ่ะ ฮา ส่วนมูลค่าของเงิน จะเหลือเท่าไหร่ ยายว่าน้องลง จากมูลค่าหน้า "ธนบัตร" อ่ะ ฮา เพราะ อัตราเงินเฟ้อ มันวิ่งเร็ว กว่า อัตราดอกเบี้ย อ่ะ ฮา ยายหมายความว่า เงินเท่าเดิม แต่ซื้อ สินค้า ได้น้อยลง อ่ะ ฮา 555555 เอามาฝากที่ยายนี่แหละ ปีละ 12 % อ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มีนาคม 03, 2012, 10:47:14 AM ผม30ปีที่ดิ้นรนมา มีแต่หนี้กับที่ดินที่ยังไม่เคยขาย ประสาคนชอบเป็นหนี้การเป็นหนี้ก็ดี ตรงที่มันทำอะไรoverได้ แบ๊งค์นี่ก็รู้ใจพอหนี้น้อยลง ก็เพิ่มวงเงินเอาไปเอามาดิ้นไม่หลุด
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มีนาคม 03, 2012, 11:19:12 AM โห นานก็นาน เสี่ยงก็เสี่ยง ..... ขอบคุณ คุณยาย babara มากครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 04, 2012, 10:01:47 AM ขอนอกเรื่องหน่อยครับ.....คุณยาย babara ครับ มีธนาคารชวนผมลงทุนซื้อหุ้น เป็นหุ้นระยะสั้น 5 ปี ได้ผลตอบแทนร้อยละ 4.5 ยังไม่หักภาษี ผมสงสัยว่าผลตอบแทนจะเป็นร้อยละ 4.5 ตลอด 5 ปีหรือไม่ครับ และในเวลา 5 ปีข้างหน้านี้ เงินที่ลงทุนไปจะได้กลับมาเท่าเดิมแน่นอนหรือไม่ครับ ::014:: ผมโชคดีที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ คนที่เป็นสมาชิกฝากประจำหรือไม่ประจำ... ก็ได้ดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๕ เหมือนๆ กัน... เคยมีเงินหลงเข้าไปอยู่ในบัญชีอยู่จำนวนหนึ่ง... ดูสลิปฯ ส่วนที่เป็นดอกเบี้ยแล้วพอใจ... เราะสูงกว่าธนาคารพานิชย์อย่างเห็นได้ชัด... ...แต่โชคไม่ดี... ที่ผมไม่มีเงินไปฝาก... ::005:: ::005:: ::005:: ...ก็เคยมีคนหัวใส... รับฝากเงินจากนายทุนในตลาด... เป็นจำนวนหลายล้านบาท... ใส่ในบัญชีของสมาชิกคนเดียว... สิ้นปีก็เบิกดอกเบี้ยมาแจกจ่าย... เจ้าของเงินก็ดีใจ... ปีต่อๆ มาก็เพิ่มวงเงินขึ้นไปอีก... เพราะถึงจะได้น้อยกว่าปล่อยกู้นอกระบบ... แต่ก็เสี่ยงน้อยกว่ากันมาก... แล้วก็ไม่ต้องจ้างพวกทวงหนี้ด้วย... จนสุดท้ายยอดเงินอยู่ราวๆ ๙๐ ล้านบาท... ท้ายที่สุด... คนที่เป็นเจ้าของบัญชี... ก้เบิกเงินสดออกมาทั้งหมด... แล้วหายเข้ากลีบเมฆไป... เกือบสิบปีแล้ว... ยังไม่มีใครพบเจอ... แต่ไม่โดนอุ้มแน่... เพราะพวกเจ้าของเงินยังวิ่งตามหากันวุ่น... ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มีนาคม 04, 2012, 04:03:34 PM สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหรือครับ ? ดูข่าวแล้วหงุดหงิดแทน ::005:: ::005::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 04, 2012, 05:22:20 PM สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหรือครับ ? ดูข่าวแล้วหงุดหงิดแทน ::005:: ::005:: ใช่ครับพี่ ที่เกิดปัญหาเพราะการบริหารงานจะบริหารจากคณะกรรมการที่ได้รับเลือก ซึ่งล้วนแต่เขี้ยวลากดิน และปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการซื้อขายลอตเตอรี่ ที่ผลประโยชน์เป็นเค้กชิ้นใหญ่ครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้สมาชิกที่เป็นนักลงทุน นักวางแผนการเงินครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ มีนาคม 04, 2012, 07:18:38 PM สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหรือครับ ? ดูข่าวแล้วหงุดหงิดแทน ::005:: ::005:: แถวบ้านผมก็มีครับ พี่การ์ตูน ชวนคนไปลงทุนซื้อหวยรัฐบาล 100,000 ปันผลคืนงวดละ 5,000 บาท เพื่อนผมลงทุนไป 100,000 ได้ปันผลคืนครบแสนแล้ว ภายใน 10 เดือน ผมก็ถามมันว่า ลงทุนอะไรได้เงินเยอะแบบนั้น ระวังให้ดีมันจะเจ้ง ทุนหายกำไรหด วันนี้มันชวนเพื่อนอีกสองคนไปลงทุนเพิ่มแล้ว มันบอกลงทุนก่อนได้ก่อน รู้อยู่แล้วว่าเสี่ยง คงไม่ล้มง่าย ๆ เป็นงั้นไปครับ รู้ทั้งรู้ว่าเสียง มีแต่คนไปร่วมลงทุน งานนี้รอได้ดูข่าวแน่นอนครับ |