เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=gPrur8x7ktI#!

 :~) :~) :~)ตัวใหญ่มั๊กๆ  :~) :~)

พี่ รภ. คงมั่นใจว่าเอาอยู่ ไม่มีถอยเลย  ;D

เรื่องราวเป็นมายังไงครับ

     ร้องไห้ทำไมครับ  ;D

     เปิดคลิปมา ฝรั่งนั่นก็คิ้วซ้ายแตกอยู่แล้ว...

     ไม่รู้ต้นเรื่อง เพราะไม่มีในคลิป...ที่ดูนั่นน่ะน่าจะกลางๆเรื่องแล้วนา

     แล้วท่านขุนช้างร้องไห้ทำไม  ;D

ตัวใหญ่จังเลยครับ... :~) :~) :~) ขืนไปมีเรื่องกับคนตัวใหญ่ขนาดนี้ผมวิ่งก่อนดีกว่า

มวยไทยดังระดับโลกครับ ไม่ต้องกลัว   ;D

ถ้าสู้คนผมตายไปนานแล้วคร้าบบบ :~) :~) :~) ตัวเท่าลูกหมาผมนะ

 ::013::

จากที่เช็คข่าวจากลูกศิษย์ที่คุมระบบBTSแล้วลูกโป่งถือเป็นวัตถุไวไฟนะครับห้ามนำเข้ามา

    ต้องบอกด้วยครับว่า ลูกโป่งที่เป็นวัตถุไวไฟ หมายถึงลูกโป่งสวรรค์ที่อัดด้วยก็าซไฮโดรเจน










    

รปภ เค้าไม่สนหรอกครับ ว่าอัดก๊าชหรือไม่ ถ้าเป็นลูกโป่ง ยังไงๆก็ไม่ได้ ครับ

เหมือนเอาของเหลวขึ้นเครื่องบินนั่นแหละครับ  รปภ. เค้าต้องทำตามหน้าที   ;D

เท่าที่ถามมาชาวต่างชาติคนนี้ไม่ยอมจ่ายค่าบริการด้วยนะครับ  สงสาร รปภ.มาก


 :~) :~)อะไรครับ

ต่อไป รปภ. ต้องพกที่ช๊อตไฟฟ้าแล้วล่ะครับ   ;D

 รายละเอียด         http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F11858694/F11858694.html     

   

 ;D ;D ;D ผมเข้าข้าง รปภ

จากที่เห็นผมเห็นฝรั่งก้าวร้าวมากกว่า

เมียเค้าโอดอยู่ห้องพันทิปโน่น  ยังไงกันแน่

1.ฝรั่งทำผิด คนไทยทำผิด อันดับแรกรปภ. ทำตามหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็จะโดนหาว่าเห็นฝรั่งเป็นพระเจ้าทำอะไรไม่ผิด

2.การระงับเหตุ การจัดการ อันนี้ก็ว่ากันไปตามเหตุสมควร ผิดก็ว่ากันไปตามผิด

3.ถามว่าใครควรรับผิดก่อน รับผิดหลังก็ว่ากันตามหลักฐาน

งานนี้ถ้าเป้นผมในฐานะพ่อผมจะพาลูกขึ้นรถโดยสารหรือรถรับจ้างที่เขาไม่ห้าม

คนเราต้องเคารพกฎที่มีผลต่อส่วนรวม  ::014:: ::014:: ::014::

เด็กตัวก็ไม่ใช่เล็กๆแล้วนะครับน่าจะรู้เรื่องแล้ว ฝรั่งตัวพ่อตัวดีเลย ไม่ทันเห็นว่าโดนดอกไหน
รปพ ใจเย็นมากแล้วครับจากในคริป

ครอบครัวนี้ เยอะมาก นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนที่รปภ.พก Glock 19 จะเป็นอย่างไร
ลองให้ไปทะเลาะกับรถเมล์ดูที  ::008::

งานนี้ผมเชียร์ รปภ.เต็มที่ ฝรั่งที่ดีก็มีเยอะ ฝรั่งที่ถ่อยก็มีมาก คุณเล่นไปฝืนกฎรักษาความปลอดภัยแบบนั้นแล้วยังมาโอดครวญ มีอยู่แวปหนึ่งที่ ฝรั่งถีบ รปภ.

รปภ.ก็ตัวเล็กเหลือเกิน งานนี้ถ้าเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินสงสัยฝรั่งคงอ่วมกว่านี้ ::002::

เมื่อสองสามปีที่แล้ว ผมไปตรวจงานต่างจังหวัด ผู้ใหญ่ให้ไวน์มาขวดนึง คงหลายพันอยู่ พอจะขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่ตรวจบอกห้ามนำขึ้นเครื่องเพราะผู้โดย

สารสามารถนำขวดมาเป็นอาวุธได้ ผมจึงยอมแพ้โดยดุษฎี แต่พอเข้าเดินเข้าเครื่องเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินถือขวดเบียร์กระดกกันเป็นแถว จึงสอบ

ถามว่า ทีทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติถือขวดเบียร์ขึ้นเครื่องได้ เจ้าหน้าที่ตอบว่า เบียร์ที่ขายในที่พักผู้โดยสารผ่านขั้นตอนการรักษาความ

ปลอดภัยแล้ว สงสัยขวดเบียร์รุ่นนี้พอขึ้นเครื่องมันคงอ่อนกระเหลวเป๊ว ::008::

กฏก็ต้องเป็นกฏ...จะมาโอดโอยไม่ได้  ถ้าทำตามไม่ได้ก็ไม่น่าไปใช้บริการนะคะ

ทีเวลาสนามบินให้ทำอะไรไม่เห็นมีใครฝ่าฝืนเลย...เดี๋ยวอีกหน่อยรถไฟฟ้าให้ถอดรองเท้าถอดเข็มขัดมั่งแล้วจะหนาว... ::005::

ป้าโม่เอาทุเรียนขึ้นรถไฟไปทำงานสิ พอโดนห้าม ก็อ้างแบบฝรั่ง ว่ามันมีค่าทางจิตใจ ::007::

ผมเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ แต่เห็นใจรปภมากกว่า ต้องดูแลความปลอดภัยคนส่วนใหญ่
แต่หากรปภไม่ห้ามแล้ว ภายหลังลูกโป่งมันไปทำให้เกิดความเสียหายหรือรำคราญกับคนส่วนใหญ๋ ก็มาโทษรปภอีก
ผมก็เชื่อว่ารปภไม่เริ่มก่อนแน่ แต่เขาก็มีสิทธิที่ต้องป้องกันดัวเองและระงับเหตุ เป็นต่างประเทศฝรั่งนี้ต้องถูกควบคุมตัวด้วย

หากนังเมียอธิบายให้ฝรั่งกับเคารพกฎข้อห้าม มันก็ไม่เกิดเรื่องนี้  แต่พอเรื่องบานปลาย กับอาศัยเสียงดังหากพวกตามเวป
ให้ตัวเองดูดีและถูกต้อง  ผิดกับรปภที่ถูกกระทำก่อนแต่ไม่มีช่องทางอธิบายได้  สังคมสมัยนี้เขาถึงตัดสินด้วยว่าใครหน้าด้าน
กับโกหก ได้เนียนก็กว่ากันครับ

รปภ. ไม่ได้ฝึกมาครับ...

หากเป็นสถานที่เข้มงวดกว่านี้จะใช้คนหุ่นนักกล้าม(ข่มขวัญตั้งแต่แรก), เมื่อเข้าระงับเหตุแบบไม่ต้องใช้อาวุธ จะเข้าเหวี่ยงจับบิดแขนกดคว่ำหน้ากับพื้นไม่เกิน 2 - 3 วินาทีครับ(คนทั่วไปยังไม่ทันหายงงง)... จะไม่มีใครเลือดตกยางออก แค่วูบเดียวจะโดนกดมือไขว้หลังแล้วค้นอาวุธ, ทีมที่เหลือจะกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง แล้วรีบนำตัวเข้าในห้องสอบสวนทันทีครับ...

ฝรั่งรายนี้ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย... หากเป็นผู้ก่อการร้าย รปภ. นั่นแหละจะโดนเชือดข้อมือข้อพับ แล้วโดนปาดคอในเวลาไม่เกิน 2 - 3 วินาทีเช่นกันครับ...

แม่ไม้มวยไทยอันตรายมาก ยิ่งปะทะยิ่งเจ็บยิ่งได้เลือด คนดูก็ยิ่งสยอง แต่คนโดนที่ไม่หมอบทันทีนั่นจะบอบช้ำ+เป็นอันตรายมากกว่าโดนบิดแขนล็อกกุญแจลากเข้าห้องสอบสวนครับ...

ความเห็นนายสมชายว่า รปภ. อ่อนหัด... จะทำหน้าที่แบบนี้ ต้องดูด้วยว่าจะระงับเหตุด้วยวิธีไหนให้จบเรื่องได้เร็วและไม่ให้เรื่องบานปลาย...

::005:: ::005:: ::005::

นั่งกินมันที่สถานีนั้นแหละ...ชวน รปภ.กินด้วยเลย... ::007::

ตอนช่วงน้ำท่วม ผมเตรียมเปลี่ยนรถ ก็โกยของจุกจิกในช่องวางของตรงกลางใส่กระเป๋าคอมฯ รวมทั้งมีดพับด้วย
.....แล้วก็ไม่ได้นึกถึงหรือใส่ใจอะไร

จนต้นมกราเดินทางไปประชุมก็หิ้วไปทั้งกระเป๋า ผ่านเครื่องตรวจ จนท.สนามบินบอก...พี่ครับ พี่มีมีดมาด้วย  :OO
ใช้มาหลายปี .... มาจากกันเพราะน้ำท่วมกรุงแท้ๆ  ::004::
จะอ้างว่าใช้แคะฟันกับตัดซองจดหมายแค่นั้นเอง...ได้ไหมครับ  ::007::

ผมว่าประจานตัวเองมากกว่า ::007::

เปิ้ลลืมเอาที่เปิดไวน์ออกค่ะ...ใส่กระเป๋าเล็กเดินทางไปอีกเมือง ตอนรื้อของดันหลบไปอยู่ในซอกกระเป๋ามองไม่เห็น แต่ก็ไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่สนามบิน

เสียดายชะมัด...ราคาตั้งหนึ่งเหรียญเก้าสิบเก้าเซ็นต์... ;D

คราวหน้าขออนุญาต จนท.เอาไปส่งไปรษณีย์กลับไปที่บ้านเลยค่ะ.. ::002::

   ดูจากภาพข่าวแล้ว ผมเห็นว่า รปภ ทำถูกต้องแล้ว แล้วก็หมั่นไส้เมียฝรั่งที่มาคร่ำครวญในpantipเหลือเกิน

   ระเบียบข้อบังคับที่ใช้กับส่วนรวม ถ้าฝ่าฝืนก็สมควรจัดการตามสมควรครับ ไม่ยกเว้นว่าจะเป็นชนชาติไหน

ลองมันไปทําแบบเดียวกันนี้ที่บ้านเกิดมัน....คงนอนคุก

พวกนี้มาทํามาหารับประทานในบ้านเรา....แต่ส่วนมากดูถูกคนเอเซีย....

ข่มได้ก็ข่ม...แถมพวกเราส่วนมากก็ยอม เพราะคนไทยใจดีกับคนต่างชาติ...

แต่กับไอ้พวกนี้....การยอมถูกมองว่า หงอ กลัว....เลยข่มมากขึ้นไปอีก


ผมเชื่อว่า....ถ้าได้ยินเสียงที่มันพูด...สารพัดคําด่าที่ออกจากปากมัน.....อย่างที่บอก ถ้าเป็นทีบ้านเกิดมัน....นอนคุกไปแล้ว แถมเจ็บตัวด้วย

บอกตรง..........สมนําหน้ามันครับ

เริ่มต้นคลิปก็เห็นเลือดแล้ว ไปโดนอะไรมาก่อนหรือเปล่า?  :)

นายสมชายให้ความเห็นซ้ำอีกหน่อยครับ...

หลักทั่วไปในการรักษาความปลอดภัยคือ... ต้องประเมิน บุคคล สถานที่ เอกสาร อุปกรณ์ต่างๆ ฯลฯ, และระงับไม่ให้รุกลามด้วยเวลาสั้นที่สุด และผลกระทบน้อยที่สุด คือระงับเหตุต้องไม่ให้เกิดเหตุใหม่ครับ...

ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ มีวิธีระงับเหตุได้ดีกว่านี้ หาก รปภ. ได้รับการฝึกฝนให้ดีกว่านี้ เพราะฝรั่งรายนี้น่าจะประเมินเบื้องต้นได้จากพฤติกรรมก่อนเข้าปะทะแล้วว่าไม่น่าจะเป็นผู้ก่อการร้าย ดังนั้นต้องเลือกปฎิบัติแบบปฎิบัติต่อพลเรือนที่ไม่ใช่ผู้ร้าย... หากพูดไม่รู้เรื่องต้องหาวิธีให้จบเรื่องโดยไวไม่ใช่ปะทะยืดเยื้อ หลายยก ทุ่มเถียงกัน และกลายเป็นเรื่องทะเลาะ ฯลฯ...

ฝรั่งผิดกฎก็จริง แต่วิธีจัดการต้องไม่ใช่แบบนี้... ต้องวูบเดียวกดกับพื้นแล้วลากตัวเข้าห้องสอบสวนให้รู้แจ้ง+สงบสติอารมณ์ก่อนปล่อยออกมาโดยไม่ให้บอบช้ำ...

อ่านตามหน้าเว็บแล้วรู้สึกคนไทยเจ้าอารมณ์กันจังครับ...

เคยเผลอติดกระเป๋าไปเหมือนกัน แต่ราคาไม่แพงผมเลยยกให้ รปภ. ::005::

ลูกโป่งนี่อันตรายมากนะครับตอนท่านประธานไปเปิดงานอะไรไม่ทราบระเบิดขึ้นมาบาดเจ็บกันหลายนะ

ยิ่งถ้าจงใจอัดแก๊สบางประเภทขึ้นไปนะ สุดๆ สยองเลยล่ะ

เรื่องนี้นักเรียนช่างหลายคนรู้ดี อย่างลูกโป่งอัดแก๊สอเซตทีลีนนะ เวลามีงานแข่งกีฬาเด็กแผนกช่างโลหะ
อัดมาแล้วจ่อด้วยก้านธูปต่อไม้ยาวๆนะ ยืนคนละฟากสนามฟุตบอล แผ่นดินยังสะเทือนเลย
ถ้าเอาไปจุดบนรถไฟฟ้าที่เป็นพื้นที่ปิดนะไม่รู้แรงอัดอากาศรอบๆการระเบิดจะขนาดไหน
 อาจไม่สร้างความเสียหายเท่าระเบิดจริง แต่ได้ผลแน่เรื่องการสร้างความแตกตื่น โกลาหล อนละหม่าน แล้วหลังจากนั้นจะสวมรอยทำอะไรต่อ
ก็สุดจะคาดเดาได้

คนเยอะ โกลาหลก็เหยียบกันตาย ครับ ผมเคยถือลูกโป่งเขาให้แค่อันเดียวครับ ผมต้องเจาะทิ้งต่อหน้าเขา เขาเป็นแค่ยามก็จริง แต่เขาทำหน้าที่ เราเข้าไปในถิ่นเขาเราต้องรู้ตัว (อันนี้พูดแบบสามัญสำนึกนะครับ)

ส่วนฝรั่งรู้ว่ามีเรื่องก็ยังผ่านเข้าไป หากรปภ.คุมพื้นที่ไม่ได้เขาจะจ้างมาทำไม
ฝรั่งไม่ใช่พระเจ้า ฝรั่งสถุลมีเยอะไป

เห็นด้วยครับ  แค่เสียงลูกโป่งแตกแล้วคนตะโกนร้อง  คนแตกตื่นวิ่งหนี
คงเหยียบกันตายเจ็บเป็นร้อย แลกกับลูกโป่งหนึ่งใบก็ไม่คุ้มครับ

รู้สึกว่าจะเป็น นายกสมาคมเกี่ยวกับพวกดารา แต่หาข่าวไม่เจอเอานี้ไปแทนแล้วกัน ;D
http://video.mthai.com/player.php?id=6M1179895293M0

หือ พวกดาราสาวส่วนมากเขาพก ลูกโป่ง กันมาเองเพราะฉนั้น ไม่อันตราย ของเขาไม่ระเบิดหรอก

คิดว่า รปภ. เขาทำตามกฎของเขาถูกต้องแล้ว ใน PANTIP บางคนบอกให้อะลุ่มอล่วย เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย  แต่หัวหน้า รปภ. เขาคงไม่เล็กน้อยด้วย น้อง รปภ. ถูกทำโทษฟรีๆ ส่วนคนทำผิดก็ลอยตัวหายไปอย่างเงียบๆ

ผมเห็นด้วยนะที่ห้ามลูกโป่ง เพราะ เมื่อก่อนหนังสือพิมพ์เขาเล่นข่าวแก๊สระเบิดบ่อยมาก  ตอนนั้นผมไปซื้อของที่โลตัสรัชดาชั้นใต้ดิน ก่อนปรับปรุงประตูทางออกยังเล็กอยู่  เดินจะถึงประตูอยู่แล้วเชียว อยู่ๆมันก็มีเสียงระเบิดขึ้นมา แต่ผมว่ามันเบากว่าแก๊สระเบิดแน่ๆ แต่ก็ดังกว่าลูกโป่งทั่วๆไป ไม่มีเสียงคนร้องอะไร  ผมก็คิดว่าไม่มีอะไรเลยเดินลอยชายปกติ  ไม่กี่วินาที เหมือนในหนังฮอลลีวูดเลยครับ คลื่นมนุษย์ปนรถเข็นไหลมาที่ประตูทางออก   ไม่รู้ตัวเลยว่าเดินมาถึงประตูเร็วขนาดนี้ได้ยังไง แต่หวยมาออกที่ผมเพราะคนข้างหลังเอารถเข็นมาจิ้มหลังผมเต็มๆ บางคนก็บอกว่าอย่าดัน มันออกไม่ได้ แต่ใครจะฟัง  มันก็ดันๆจะรีบออกให้ได้ หันหน้าไปถามว่า เกิดอะไรขึ้น ก็เงียบกันหมด ไม่มีใครตอบ ต่างคนก็ไม่แน่ใจ ไม่มีใครทิ้งของ ไม่มีใครพังประตู  ไม่มีเสียงอะไรยาม แต่ทุกคนก็มีอารมณ์หนีตายกันหมด โอ๊ย อยากทำอะไรสักอย่าง แต่แค่ยกมือตัวเองยังไม่ได้เลย กว่าจะหลุดออกมาได้ นานนับปี

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

วันก่อนผมไปเที่ยวแถวคลองถม ซื้อแก๊สปืนบีบี ติดกลับมาด้วย เดินเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง ยามขอตรวจเจอแก๊สกระป๋อง เขาบอกเอาเข้าไม่ได้

เราก็เข้าใจเดินออกมา ขึ้นแท็กซี่กลับก็ไม่เห็นเป็นเรื่อง ;D

อันนี้เคยเล่นครับ...หูดับไปหลายวันทีเดียว....   :~)

ฝรั่งมันตัวโตกว่ายามซัก ๓ เท่าได้มั้งพี่สมชาย  จะให้วูบเดียวกดกับพื้นผมว่าเกินความสามารถยามไปเยอะครับ  ถ้าเป็นพวกมนุษย์กบก็ว่าไปอย่าง   ;D

ชอบ รปภ แบบนี้ครับ   เครดิตจาก คุณHellboy แห่งพันธ์ทิพย์ ::002::

http://www.youtube.com/watch?v=JltvwXyBCVc&feature=player_embedded

คนกวนเริ่มต่อยเขาก่อนเลยโดนต่อยหลับก่อน โดนซ้ำนิดหน่อย ตามด้วยการต่อสู้ที่ยุติธรรมดีไม่ใช้เครื่องทุ่นแรง  
งานนี้เป็นบทเรียนดีๆของพวกชอบหาเรื่องก่อน ครับ

คนหลับนี่ก็ไม่นิดนะครับเจอฟรีอีกสองรอบตอนหลับ แต่ชอบครับ ;D ;D ;D เข้าโฟกัส หมัดเดียวร่วง คิดว่าเป็นคนเดียวกับซีเคียวริตี้ที่ต่อยหลับคนแรกกับตัวใหญ่คนสุดท้าย

http://fb.kapook.com/hilight-69031.html

กรรมการบริหารบีทีเอส สั่งลงโทษทางวินัยพนักงานรักษาความปลอดภัยสถานีพร้อมพงษ์ ทะเลาะวิวาทกับชายชาวต่างชาติ ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยันพร้อมเยียวยา หากทำให้ผู้โดยสารสบายใจขึ้น

 ::013:: ::013:: ::013:: ::013:: ::013::

           "เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้โดยสารชาวต่างชาติถือลูกโป่งหลายใบ ต้องการเข้าระบบและไม่จ่ายเงินซื้อตั๋วโดยสาร โดยลักลอบเดินเข้าไปข้างในระบบ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อห้ามที่ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำลูกโป่งทุกชนิดเข้าสู่ระบบได้ไม่เกินท่านละ 1 ใบ และต้องเป็นลูกโป่งที่ไม่มีขนาดใหญ่จนกีดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของผู้โดยสารท่านอื่น ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและไม่กีดขวาง หรือเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของผู้โดยสารท่านอื่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงตัองเข้าไปชี้แจงและตักเตือน แต่ผู้โดยสารชาวต่างชาติไม่ยอมรับฟัง และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมา ดังนั้นรปภ.จึงจำเป็นจะต้องรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และป้องกันตนเองครับ โดย หนูด่วน"


ผู้บริหารปัญญาอ่อน สงสาร รปภ.ครับงานนี้

ห่วยแตกครับสงสัยต่อไปฝรั่งจะทำอะไร รปภ. คงไม่กล้าแล้ว ::012::

ตามข้างบนมันไม่ค่อยเหมือน"ระงับเหตุ"นะครับ มันจะคล้าย"ต่อสู้"มากกว่า"ระงับเหตุ"... หลักการของการ์ดสถานที่สำคัญต้องระงับเหตุไม่ให้บานปลาย และที่ต้องเน้นคือไม่ให้เกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก...

การ์ดของ BTS ต้องคัดคนที่หน่วยก้านดีหน่อย รูปร่างล่ำสันแข็งแรง หากหาคนใหม่ไม่ได้ก็ซื้อบาร์เบล+ดัมเบล แล้วจัดคอร์สยกเหวทให้มัน ถือว่าเป็นการทำงานไปด้วย, ให้มันนั่งยกนอนยกไป อาทิตย์ละกี่วัน วันละกี่เซ็ต ท่าไหนมั่งก็ว่ากันไป... ไม่ใช่ใช้ยามตัวเท่าลูกหมากระเปี๊ยกนึง เวลามันสู้ไม่ได้ มันก็ออกแม่ไม้มวยไทย ซึ่งรุนแรงไปครับ...

แม่ไม้มวยไทยไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องเข้าระงับเหตุ เพราะรุนแรงเกิน ทำให้ร่างกายคนที่โดนบอบช้ำเกิน(ตามกระทู้เข้าใจว่าโดนศอกหัวคิ้วแตก) และหากเจอคน"เล่น"กับอาวุธ เช่นมีดแมงมุม หรือกระบอง หรือดิ้ว แม่ไม้มวยไทยก็ออกอาวุธได้ไม่กี่ครั้ง ตัวเองก็แย่, เพราะมวยไทยเน้นปะทะซ้ำจุดเดิม จนกว่าเป้าหมายจะบาดเจ็บ ไม่ใช่เน้นหลบเลี่ยง...

ที่การ์ดสมควรไปหัดให้คล่องนอกจากไปเตรียมความพร้อมร่างกายแล้วก็เป็นพวกนี้ครับ ตามคลิปนี่... http://www.youtube.com/watch?v=BWOgI8opXkk&feature=related

ต้องดูรายละเอียดครับ... การระงับเหตุ กับการทะเลาะนั้นไม่เหมือนกัน แต่อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน, เช่นระงับเหตุไม่ได้เลยเข้าต่อสู้กัน ซึ่งอย่างหลังนี่เรียกว่าทะเลาะครับ...

                      รปภ.ชุดนี้น่าส่งไปอยู่สนามบินนะ ....... ให้เจ้า ซี.เจ็ด ถ่อยคนนั้นเจอสวนเข้ามั่งสนุกกว่าเยอะ

ผู้บริหาร BTS ห่วยแตก   ::010::

ผมมองถึงเรื่องที่เขาแหกกฎมากกว่าครับพี่ ต่อไปฝรั่งเดินถือลูกโป่งคงไม่มีใครกล้าว่า ::004::

อาจไม่ลงโทษจริงก็ได้ครับ ;D ;D ;D มาประชาสัมพันธ์แก้ภาพลักษณ์เฉยๆ

ไม่ชดเชยไปเลยสัก เจ็ดล้านห้า ::007::

ผู้บริหารออกสื่ออาจจำต้องสร้างภาพแบบนั้นรึเปล่าคะ...แต่วงในอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องสืบลึก ๆ... ;D

            ป้าโม่ตาสวยจัง           (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;attach=199562;type=avatar)

ตาป็โม่เป็นผู้ชายนะลุงปู ::005::

ขอบพระคุณมากค่ะลุงปู...

เดี๋ยวก็ทำกระทู้เค้ากลายพันธุ์อีกหรอกค่ะ.... ::005::

 ::005:: ::005:: ::005:: เจ้าของกระทู้ก็ชอบพาออกทะเลครับพี่  มันคงไม่กล้าว่าอะไรหรอกครับ  เดี่ยวผมเคลียกับเจ้าของกระทู้เอง  ::005:: ::005:: ::005:: ::005::

ทำไมไอ้ตาน้ำข้าว(บูด)ถึงได้แสดงกริยาอาการแบบนี้ให้ลูกเห็น...ลูกสาวคงคิดในใจว่านี่พ่อตรูเป็นคนบ้าหรือนี่...ถึงใครจะผิดจะถูกผมว่าไม่น่าแสดงอาการก้างร้าวรุนแรงให้เด็กเห็น...โตขึ้นเด็กคนนี้คงคิดว่าการแสดงกริยาก้าวเหมือนบิดาผู้มีพระคุณเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด...เจริญหล่ะไอ้เศษฝรั่ง...

ใช่ครับ  อาจจขัดความรู้สึกคนที่เข้าใจและเห็นใจรปภ แต่เนื่องจากเป็นบริษัทที่ให้บริการก็ต้องทำอย่างนั้นครับ
หากฝรั่งกับนังเมียมีต่อมจิดสำนึกใหญ่พอ   ต่อจากนี้คงนั่งรถแท๊กซี่ไปอีกนานหลายปีครับ ::005::

อันนี้ข่าวคืบหน้าครับ ตำรวจแจ้งข้อหาการ์ด BTS แล้ว... http://www.thairath.co.th/content/region/247416

ทางตำรวจบอกว่า... "ตามกฎหมายแล้ว รปภ. ไม่มีสิทธิทำร้ายใคร หากพบว่าทำผิดกฎ สามารถตักเตือนหรือล็อกตัวได้เท่านั้น"...

เอามาให้พิจารณากันครับ...

ส่วนอันนี้เอามาจาก Manager ครับ... http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9550000036630

ตามตัวแดง ก็ลองพิจารณาครับ...

      "บีทีเอส" แจงผลตรวจสอบ "คลิป" ฝรั่งถือลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า ระบุ เหตุบานปลาย เกิดจากการใช้ภาษาไม่ถูกต้อง สั่งลงโทษวินัย จนท.บกพร่อง ปล่อยผู้โดยสารถือลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า ระบุ เห็นใจครอบครัวฝรั่งถูกทำร้าย พร้อมให้ความเยียวยา ส่วนเรื่องคดีความ ต้องให้เป็นหน้าที่ของ ตร. โดยจะให้ความร่วมมือเต็มที่
       
       นายอาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างชาวต่างชาติและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยผลการตรวจสอบจากคลิปพบว่า เหตุการณ์เกิดหลายที่หลายมุม โดยฝรั่งไปงานจบการศึกษาโรงเรียนของลูก และมาขึ้่นรถไฟฟ้าที่สถานีสุรศักดิ์
       
       ทั้งนี้ การที่นำลูกโป่งขึ้นมาได้ในช่วงแรก พนักงานของเราอาจจะไม่เห็นลูกโป่งที่ถือมา และไปขึ้นรถต่อที่สยาม ไปพร้อมพงษ์ ช่วงขากลับนายสถานี และทาง รปภ.เห็นฝรั่งถือลูกโป่งมา 4-5 ใบ ซึ่งเราห้ามมาตลอด เพราะหากรถแน่นอันตรายมาก
       
       "การที่เหตุการณ์บานปลาย อาจเกิดจากการเจรจาที่ใช้ภาษาที่ไม่ถูกไม่ควร เพราะพนักงานเราก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ซึ่งฝรั่งเกิดบันดาลโทสะขึ้น เตะถังผงไล่ทำร้าย รปภ.จึงเข้ามาขวาง มีการเงื้อง้ากัน พนักงานเราข้างในจึงออกมาร่วมด้วย ฝรั่งก็ไม่ยอมออกจากระบบพยายามเข้าไปชานชลา จะขึ้นรถให้ได้ จึงเกิดกระทบกระทั่งกันขึ้น"
       
       ส่วนใครผิดใครถูก ทั้งสองฝ่ายเสียหายทั้งคู่ ซึ่งทั้งเราและฝรั่งต่างก็ไปแจ้งความ โดยเราได้แจ้งความฐานทำให้เสียหาย และพยายามทำร้ายพนักงาน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ให้เป็นเรื่องของตำรวจ โดยเราให้ความร่วมมือเต็มที่
       
       อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ถือว่ามีเจ้าหน้าที่บกพร่องต่อหน้าที่ ผิดวินัย ก็ต้องลงโทษตามที่เราเคยทำ และเราเห็นใจครอบครัวของฝรั่ง เพราะเด็กเห็นพ่อมีเรื่องต่อหน้าตัวเอง ครอบครัวก็คงไม่สบายใจ

ถ้าฝรั่งมันต่อสู้ขัดขืนล่ะครับ   แล้วถ้าตักเตือนแล้วมันยังเฉยไม่ยอมทำตามกฎ  ก็ปล่อยไปเฉย ๆ หรือครับ  ???

ประเทศไทยจงเจริญ ::012::ในคลิปผมเห็นฝรั่งกระโดดถีบก่อน ::011::

ขั้นตอนปรกติของทั่วๆไปนะครับ...

เขาจะล็อกตัวโดยทำให้บาดเจ็บน้อยที่สุด เช่นจับกดนอนคว่ำหน้ากับพื้นแล้วนั่งทับให้สงบ ระหว่างนั้นค้นตัวหาอาวุธไปด้วย, หากยังไม่สงบก็จะสวมกุญแจมือ แล้วคุมตัวเข้าห้องสอบสวนเพื่อขยายผลและรอตำรวจมาครับ... สมาชิกในทีมที่เหลือก็จะกันคน/จัดการจราจรไม่ให้วุ่นวาย และสังเกตุหาคนอื่นที่อาจอยู่ในทีมฝ่ายตรงข้าม(หากมี)...

ถ้าทำเฉพาะจำเป็นเพื่อล็อกตัวฝรั่ง ฝรั่งผิดทำร้ายร่างกายครับ(ยังมีเรื่องทำให้เสียทรัพย์อีกด้วย - มีโทษถึงจำคุก แต่อาจรอลงอาญา)... แต่ถ้าต่อสู้ตอบโต้ฝรั่ง จะเรียกว่าสมัครใจวิวาท...

งั้นตามกฎหมาย  ถ้าห้ามแล้วฝรั่งไม่ยอม  ฝรั่งต่อสู้  รปภ. ต้องให้ฝรั่งต่อยโดยไม่ตอบโต้  แล้วยืนดูฝรั่งที่ทำผิดกฎขึ้นรถไป ...... ฮา   :<<

ไม่ใช่หรอกครับ...

ถึงได้บอกว่า รปภ. อ่อนซ้อมไงครับ เพราะลำหักลำโค่นไม่พอ(ตัวเล็ก) และไม่รู้วิธีล็อกตัว เลยต้องออกแม่ไม้มวยไทย... ลองนึกถึงตำรวจที่เขาเข้าชาร์จผู้ต้องหาซิครับ ตำรวจที่ฝึกมาและมีความสามารถจะไม่มียืนซดกำปั้นลุ่นๆกับผู้ร้ายจนกว่าผู้ร้ายจะหมอบแล้วยอมให้จับหรอกครับ อย่างนั้นกว่าจะจับตัวกันได้ต้องวางมวยกันทุกครั้ง...

คนที่เป็น รปภ. สถานที่สำคัญ ต้องฝึกมาครับ ไม่ใช่ใช้"ยาม"ธรรมดาแบบที่เห็นยืนเฝ้าห้างฯ แล้วไปทำหน้าที่...

นั่งเขียนไปแล้วนึกตำหนิผู้บริหาร BTS ครับ... ประหยัดเงินเดือน รปภ. แต่เอา"ยาม"มาทำหน้าที่นี้ เพราะเงินเดือนถูก...

งั้นต้องเพิ่มค่าโดยสารอย่างน้อยซัก ๕๐ % เพื่อไปจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้มาเป็นยามครับ   ;D

ตำรวจต่างประเทศถ้าคนร้ายไม่ยอมเค้าก็ชกกับคนร้ายนะครับ   ;D
http://www.youtube.com/watch?v=WmCwDDnByzE&feature=related

อันนี้ชกยามก่อนเลยชกกันมันส์ไปเลย   ::005::
http://www.youtube.com/watch?v=JltvwXyBCVc&feature=player_embedded

ผมมองว่าถ้าคนที่ทำผิดกฎต่อสู้ขัดขืนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปกดให้หมอบครับ  ยิ่งตัวโต ๆ ด้วยแล้วลำหักลำโค่นต่างกันเยอะยิ่งยากเข้าไปใหญ่
ประเทศไทยเรามีปัญหาเรื่องห่วงภาพพจน์หน้าตา  จนยอมให้มีเรื่องละเมิดกฎความปลอดภัยครับ    ;D

เหมือนแถวบ้านเรา เนาะน้าพงษ์ ฝรั่งถอดเสื้อขับรถไม่จับบอกเป็นวัฒนธรรม คนไทยขับรถถอดเสื้อถูกจับหาว่าเถื่อน ::010:: เอะพี่เขยเราก็ฝรั่งนี่

หว่า ::007::

บางคนเหมือนจะแก้ผ้าขับรถมอเตอร์ไซต์ด้วยซ้ำทั้งชายทั้งหญิงครับ ผู้ชายใส่กางเกงใน/กางเกงขาสั้นว่ายน้ำ 

ผู้หญิงใส่ทูพีชซ้อนท้าย ตำรวจจราจรยืนมองเฉย  ใบขับขี่ก็ไม่น่าจะมี   :D

คุณครูก็พูดเกินไปครับ... งบประมาณจ้าง รปภ. นั้นมีวิธีการคำนวณครับ วิธีที่ 1) คือมูลค่าความเสียหายหากเกิดเรื่อง วิธีนี้เหมือนกับเงินเบี้ยประกันครับ ประกันรถยนต์โตโยต้าย่อมถูกกว่าประกันเบ็นซ์, วิธีที่ 2) คือประเมินจากความเสี่ยงเช่นประกันรถสปอร์ตย่อมแพงกว่าประกันรถเก๋งครอบครัว...

ทุกอย่างมันมีองค์ความรู้เป็นมาตรฐานทั้งสิ้น... เชื่อไหมว่าหากไล่เรียงตาม Procedure มาตรฐานของรถไฟฟ้าทั้งโลกแล้ว ประเทศไทยคงมีเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยตรง รปภ. นี่แหละครับ...

เรื่องตัวโตตัวเล็กน้ำหนักมากน้ำหนักน้อยนี่มีผลบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ... คนที่รู้วิธี"ล็อกตัว"นั้นไม่จำเป็นต้องหุ่นหนามาก เอาแค่แข็งแรงพอยกน้ำหนักขนาด 50 กิโลขึ้นก็พอแล้วครับ(ซึ่งเบามาก ปรกติยก Bench Press เกินกว่านี้ทั้งนั้น) เพราะเวลาใช้กำลังจริงไม่ต้องยกลอย แต่ใช้วิธีเหวี่ยงเอา, ซึ่งหากเป้าหมายเป็นคนน้ำหนัก 100 กิโลหากโดนบิดแขนลาก คนนั้นนั่นเองจะต้องวิ่งตามแขนที่โดนลาก เพราะเจ็บแขนกลัวจะเดี้ยงน่ะครับ...

เรื่องล็อกยากหรือล็อกง่ายนี่เราไปคิดแทนคนที่เขามีอาชีพด้านนี้ไม่ได้หรอกครับ... เหมือนคนไม่เคยเล่นปืน พอหัดยิงเข้ากลุ่มวงดำหมดที่ระยะ 7 เมตรก็เก็บเป้าไปดูที่บ้าน เอาไปอวดคนที่บ้าน, แต่พวกเล่นปืนมานานยิงระยะ 7 เมตรนี้ต้องยิงฉับพลันครับ...

ลืมบอกครับ... ตามคลิปตำรวจชกกับคนร้าย เต้นเหยงๆ ออกหมัดแย็บ ออกหมัดฮุค ฯลฯ นั่นตำรวจห่วยครับ... ตำรวจเก่งรวบตัวทันทีเลย ไม่ต้องชกกัน...

ส่วนคลิป รปภ. วางมวยหมู่ในห้างฯ... นี่ก็ห่วยครับ เหมือนยกพวกตีกัน, หากเจอพวกก่อการร้ายมัวแต่เสียเวลาชกกันตีกันกับทีมที่ 1 จะมีอีกทีมที่ 2 เผาห้างแล้วครับ...

ฝรั่งมันก็มีหลายประเภทครับ... ฝรั่งขี้นกขอทานข้างถนนก็มี, นายสมชายเจอออกบ่อย ยืนแขวนป้ายที่คอตัวเองตามสี่แยกว่า "Need Help, No Money"...

ทั้งที่เด็กไทยไปทำงานเสริฟร้านอาหารได้ตังค์ชั่วโมงละ 3 เหรียญ ก็ยังมีตังค์จ่ายค่าเทอมจนจบ MBA ที่โน่นครับ...

ต่อให้เรียกตำรวจ เชื่อสิว่ายังเคลียร์ ไม่ได้  ::005::


อันนี้จริงฮา  ::007::

 

แสดงว่า รปภ./ตำรวจ ฝรั่งกับไทยมาตรฐานเดียวกันครับ  ::005::

ฝรั่งทำผิดกฏเต็มประตู  เงินอาจจะมีจ่าย แต่ด้วยอารามณ์โมโหจัด เลยพยายามจะเข้าช่องพิเศษ ..โดนไปอีกดอก ข้อหาพยายามเบี้ยวค่าโดยสาร

แต่ที่สงสัยมีอีกหลายสื่อที่บ่งบอกว่าเป็นการ "รุม "โดยเจ้าหน้าที่อีกหลายคน และ รถไฟฟ้ายังไม่ยอมให้เทปกล้องวงจรปิด ในมุมต่างๆ

เลยสงสัยว่าเรื่องจริงๆ เป็นอย่างไร ในเมื่อทั้งสองฝ่ายมีอารมณ์ด้วยกันทั้งสองข้าง และอยู่ในสถานที่ของรถไฟฟ้า  ใครจะปล่อยให้ลูกน้องลุยคนเดียว...อิ อิ

จะหา รปภ หุ่นเท่าฝรั่งยังยากเลยครับ ให้ใช้กับฝึกกระบอกไฟฟ้า หรือไม้พรองแบบมีง่ามไว้กดคอ ไม่ดีกว่ารึครับ

ไม่ใช่มาตรฐานตำรวจทั้งไทยและฝรั่งครับ... นั่นคือมาตรฐาน"ยาม"เฝ้าห้างสรรพสินค้าธรรมดาๆครับ...

หุ่นไม่ต้องหนาเท่าฝรั่งหรอกครับ แต่ต้องไม่ใช่ก๋องแก๋งตัวเท่าลูกหมาเหมือนยามเฝ้าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า... ลองดูคลิปนี้ครับ คนไทยในคลิปหุ่นเล่นกล้ามแข็งแรง แต่ไม่ใช่เล่นกล้ามแบบประกวดชายงาม... http://www.youtube.com/watch?v=BWOgI8opXkk&feature=related...

มันอยู่ที่รู้เทคนิค+ฝึกมาหรือเปล่าครับ... การ"ล็อกตัวคน"นั้นต้องมีวิธีการ ทำนองกับโดนคว้าข้อมือแล้วพยายามสะบัดแขนให้หลุด สะบัดแรงเท่าไหร่ก็หลุดยาก หากคนคว้าจับกล้ามเนื้ออุ้งมือแข็งแรง, แต่กล้ามเนื้อนิ้วก้อยย่อมไม่แข็งแรง เราก็จับนิ้วก้อยหักเอาดื้อๆแหละครับ นิ้วก้อยร่องแร่งก็คว้าข้อมือเราไม่ได้แล้ว... แฮ่ๆ...

สมมติว่าหาหุ่นหนาๆไม่ได้ ก็สร้างมันขึ้นมา ลงทุนหน่อย, ให้มันยกเหวท ให้มันฝึกวิธีการล็อกตัวเข้าจับกุม ให้มันฝึกหลักสูตรป้องกันวินาศภัย... ใครไม่เข้าคอร์ส ก็ให้มันเป็นยามเฝ้าลานจอดรถ เงินเดือนก็เท่าเดิม...

กลัวว่าฝึกเสร็จ ก็ลาออกไปเป็น รปภ ให้นักการเมือง หรือเจ้าพ่อซึ้อตัวไปก่อนสิครับ
เลยได้สภาพอย่างที่เห็นครับ ฮา

เรื่องบริหารงานบุคคลนี่เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับกิจการระดับนี้ครับ... หากทำไม่เป็นให้ไปดูงานที่อื่น เช่น กฟผ. หรือ ปตท. ทั้ง 2 แห่งนี่หนักหนาสาหัสกว่าแยะครับ, เอาแค่ยามเฝ้าเขื่อนเขาสะพายลูกซอง 5 นัดเดินทั่วแค็มป์เป็นตารางกิโลเมตร แถมด่านขึ้นสันเขื่อนยังมีปืนกลมือในป้อมเสียด้วยครับ...

ผิดตั้งแต่ รปภ.และผู้คุมสถานีด่านแรกๆแล้วล่ะครับ ปล่อยผ่านมาได้ไง .. เข้าใจว่าเส้นกั้นบางๆระหว่างกฎและจริยธรรมมันมี แต่ควรพิจาณาเป็นเคสๆ
ชื่นชม รปภ.ที่ไม่ปล่อยตาม รปภ.และผู้คุมสถานีแรกๆ  นับถือในความเคร่งต่อหน้าที่และความปลอดภัยของสังคมที่ตระหนักถึง
จริงๆ ถ้าโดนห้ามตั้งแต่สถานีแรก ฝรั่งก่ะครอบครัวคงเลี่ยงไปใช้แท๊กซี่ได้นะครับ(ถ้าจะรักษาความรู้สึกของลูกน้อยกับลูกโป่ง)

ผมสงสารเด็กครับ ::014::มาเห็นภาพที่ใช้ความรุนแรง ::013::น่าจะคุยกันได้ ::004::

ตำรวจ ฝรั่ง กับตำรวจไทย  ผิดยังกับหน้ามือกับหลังมือ ล่ะครับ   แค่การสอบเข้าเป็นตำรวจฝรั่งก็หนาวแล้ว ล่ะครับ 

ผมเห็นด้วย จะกดคนตัวโตกว่าให้ลงได้ไม่ใช่เรื่องง่ายถึงจะฝึกมาดีแค่ไหน หลุดมาได้ก็ต้องชกกันอยู่ดี.......

โดนคนไซด์เท่าฝรั่งคนนี้ต่อยนี้ถึงปางตายนะครับพี่   :~) :~) :~) อย่าถามนะครับรู้ได้ไง  :~) :~) :~) :~)

คนไอริชมีชื่อว่าชอบกินเหล้าและชอบการต่อสู้ชกต่อย สมัยปลูกมันฝรั่ง (potato) ไม่ประสบความสำเร็จ อดอยากกันมาก อพยพเข้ามาอยู่อเมริกากันมากมาย แล้วก็มาเกเร ทางการต้องจ้างคนไอริชมาเป็นตำรวจ ทำนองโจรปราบโจร ตำรวจในนิวยอร์คจึงเป็นคนไอริชเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งทุกวันนี้

ฝ่าฝืนกฏ  อาจเป็นอันตรายกับผู้โดยสารท่านอื่น โดนแค่นั้นยังน้อยไป เรื่องเข้าไปล๊อคตัวผมว่ายากมาก รูปร่าง ความแข็งแรงผิดกันเยอะ  ต้องฟาดให้หมอบถึงจะเอาอยู่ 

ตามข่าว ลองเปลี่ยนเป็นอเมริกา สิงคโปร์หรือฝั่งยุโรปที่คนเค้าคิดถึงความปลอดภัยของคนของเค้ามากกว่า ถ้ายังดื้อคงยิงกับปืนไฟฟ้า เหยียยบคอ ล๊อคกุญแจมือไปแล้ว

งานนี้ รปภ ลำบากใจ แต่ก็ต้องตัดสินใจครับ    8)

(อ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยครับ)

ในกรณีนี้สอบเข้าง่ายหรือสอบเข้ายากไม่เกี่ยวกัน   มองที่การการเข้าระงับเหตุกับผู้ที่ทำผิดกฎหรือผู้ร้ายเป็นลักษณะเดียวกันครับ  (ชกเหมือนกัน) :D

รู้ได้ไงครับ...   ;D

ดูนักมวยสิครับไซต์ขนาดเดียวกันยังหักยังโค่นให้ลงกันลำบากเลยครับ  ฝรั่งตัวโต ๆ จะกดให้ลงโดยไม่ชกคงยากเอาเรื่องครับ   ;D

ได้มีโอกาศลองมาแล้วคร้าบบบบพี่   :~) :~) :~) 

ผลเป็นยังไงครับ   :OO

โอ้ววว...ยินดีด้วยครับ...  ;D

แล้วคนอื่นตั้งหลายคนไม่มีปัญญาช่วยกันจับหรือ หรือว่าอยากจะชกอย่างเดียว อย่างนั้นไม่ใช่ รปภ. สถานที่หรอก... เขาเรียกว่านักเลงคุมบาร์...

ฝรั่งมันขัดขืนตั้งแต่ตอนแรกที่ รปภ. ห้ามแล้ว  (ละเมิดกฎแถมไม่จ่ายเงินอีก)  เข้าไปจับก็โดนฝรั่งชกอยู่ดีครับ  ;D

รปภ. มีหน้าที่ระงับเหตุหรือว่าเป็นกระสอบทราย ?   ::012::

ถ้าคิดแบบนี้ ง่ายที่สุดคือละเมิดกฎปุ๊บ หากพูดไม่ฟัง ให้โอกาสสามหน หนที่สี่เอากระบองตีหัวเลย... คนตีเป็นก็รู้วิธีฟาดครั้งเดียวหมอบเหมือนกัน และที่สำคัญตำรวจอเมริกันก็ใช้เสียด้วยซิ...
หากตีแล้วไม่หมอบเพราะตัวฝรั่งมันใหญ่ไป ก็เอา 9 มม.อัดเข้าที่ลิ้นปี่, คนที่ยิงเป็นก็รู้วิธียิงเหมือนกัน รับรองนัดเดียวหมอบแน่... ก็เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมนี่ครับ จำเป็นต้องทำเพื่อส่วนรวม...

ส่วนเมียกับลูกก็ต้องพยายามพูดให้เข้าใจว่าต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม, หากไม่อยากเป็นผู้เสียสละก็ต้องเคารพกฎครับ... แค่ลูกโป่ง แค่นั้นเองอย่ามาเสี่ยงเลย...
ให้มันรู้เสียบ้างว่าประเทศไทยมีมาตรฐานเดียวกันกับอารยะประเทศ... เอาคลิปยูทูป ที่ตำรวจยิงใส่ผู้ร้ายมาประกอบคำอธิบายด้วย(ตอนนี้ยังไม่ได้หา - แต่ถ้าหา เดี๋ยวก็เจอ)...

รับรองว่าเมียกับลูกก็ต้องเข้าใจ... หากไม่เข้าใจก็จะมามาตรการขั้นเด็ดขาดออกมาอีกไงครับ(ขอเวลาค้นยูทูปนิดนึง)...

ระงับเหตุครับ...

ในเมืองท่องเที่ยว ชาวบ้านมักเรียกพวกเผ่าพันธุ์ตาน้ำข้าว ว่าสัตว์สงวน ครับ

ครั้งหน้าต้องเตรียมมาตรการหนักๆ สำหรับเมียกับลูกด้วย, เช่นหากวิ่งโหวกเหวกโวยวายร้องให้คนช่วย... อย่างนี้ก่อกวนความสงบชัดๆ...
เอาแหปากโตๆ ซัดให้คลุมทั้งแม่ทั้งลูกเลย จะได้หยุดวิ่ง... จากนั้นเอาสเปรย์พริกไทยฉีดเข้าใส่ จะได้สงบปาก หากยังดิ้นพยายามสลัดแหออกให้ได้ ให้เอากระบองหุ้มผ้านวมเข้าไปทุบ...

กระบองที่ทุบแม่ ใช้ผ้าไหมปักดิ้นทองหุ้มก่อนทุบ(ให้เกียรติคุณนาย) ทุบหลายๆทีจนกว่าจะแน่นิ่ง เพราะดิ้นมาก จับกดไม่ไหว... ส่วนตัวลูกหากเป็นลูกสาวให้เอากระบองลายคิตตี้ทุบ, หากเป็นลูกชาย ให้เอากระบองลายเบ็น10 ทุบ...

ทุบให้นิ่ง ทุบให้น่วม... เพราะจับกดไม่ไหว...

รปภ. มีหน้าที "ระงับเหตุ"  เมื่อฝรั่งตัวโตขัดขืน  รปภ. ตัวเล็กกว่า ๒ เท่า+  จะเข้าไปกดแต่ฝรั่งมันขัดขืนไม่ยอมให้กด

ฝรั่งมันก็มีมือแล้วมือมันคงไม่อยู่เฉย ๆ มันชกมา   รปภ. เข้าไปกดไม่ได้  ถ้าจะรักษากฎมีทางเดียวคือต้องชกให้ฝรั่งหมอบ

หรือไม่ก็ปล่อยไปครับ  ห้ามแต่คนไทยพอฝรั่งช่างมัน  ;D

เมืองไทยเห็นฝรั่งเป็น "พระเจ้า"  ครับ  ละเมิดกฎ  ทำผิดกฎก็ทำเป็นไม่เห็นซะ  เดี๋ยวเสียภาพพจน์  เดี๋ยวไม่เจริญเหมือนอารยประเทศ :D

เอากระบองตีหัวเลยครับ... ตัวมันใหญ่, เขาแจกกระบองแล้วต้องใช้ครับ ตีเข้าไปเลย ตีแรงๆ...
หากตีแล้วไม่หมอบ ให้เรียกหัวหน้า ขอให้เปิดตู้... แล้วเอา G19 อัดใส่ลิ้นปี่ครับ(ฝรั่งตัวมันโต)...

เราอ้างได้ครับ ว่าเพื่อศักดิ์ศรีของคนไทยตัวเล็กๆแต่ใจสู้... และเพื่อให้ฝรั่งรู้ว่า รปภ. คนไทยก็มีศักดิ์ศรี ฝรั่งคนอื่นจะได้เกรงกลัวครับ, แค่ลูกโป่งใบเดียว จะกล้าดีก็ให้มันรู้ไปครับ อย่ายอม...

:~) :~) :~) :~) ตอนโดนไม่เจ็บครับ ชาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :~) :~) :~)  รู้สึกมึนๆ  :~) :~) :~) :~) :~)   พอเหตุการ์ณผ่านไปโคตะระเจ็บครับ  :~) :~) :~) :~)

 :~)  แล้วฝรั่งล่ะครับ  พี่อ้นใช้แม้ไม้มวยไทยไปกี่ท่าครับ   ::002::

ทำไมถึงโดนมันชกเล่าครับ...

มันกระชากสร้อยครับ  น้าสมชาย  เหตุเกิดสมัยเรียนเมืองนอกครับ


พี่พงษ์ครับ  ไม่ได้ใช้เลยครับถีบยอดอกมันยังไม่ลงเลยครับ  :~) :~) :~) :~) ตอนนั้นผมหนัก55เองครับตัวเล็กมากมันเป็นร้อย   อาศัยเพื่อนมาช่วยครับ  :~) :~) :~) :~)

โอ้... ฟาดเคราะห์ครับ เกิดเรื่องต่างถิ่นมีแต่เสียเปรียบ...

ถ้าเจออีกทีแนะนำว่าคลุกวงในไซร์ซอกคอครับเอาให้อ่อนระทวยเลยครับ  ::005:: ::005:: ::005::

มีแต่เมืองไทยนี่แหละครับที่ฝรั่งได้เปรียบ   ;D

คุณช้างแกยังไม่ได้บอกเลยครับ ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ถึงเป็นผู้หญิงน้ำหนักตัวตั้งเป็นร้อง กก. ก็คงไม่ไหวหรอกครับ... แอ๋...

แล้วที่แสบไปกว่านั้นคือหญิงมืดหรือหญิงเผือก... หากหญิงมืดหนักเป็นร้อย ที่เคยเห็นจะมีนมเท่าลูกมะละกอพันธุ์ใหญ่ ก้นเท่ากาละมัง แถมยังก้นโด่งแบบลูกไก่เกาะไม่ตกพื้นเลยครับ... อ๊อกซ์...

ถ้าซวยเจอเกย์เมืองนอกนี้หนักเลยนะครับตกเป็นเมียมันแน่ๆๆบางคนเค้าเล่นกล้ามครับ :~) :~) :~)ถ้าโดนมันรัดละหายใจไม่ออกเลย

ผมคิดไปถึงผู้ชายนี่แหละครับ  ;D

ดังนั้นเราอย่ายอมครับ...

บอกแค่สามที เว้นระยะแค่ 1 วินาที, ดังนั้นบอกสามทีจะจบในเวลาสามวินาที... พอวินาทีที่ 4 เอากระบองตีหัวเลย, หากไม่หมอบเอา 9 มิลอัดลิ้นปี่...

มันละเมิดกฎครับ... อย่ายอมครับ อย่ายอม รปภ.ของเราตัวเล็กด้วย ยิ่งยอมไม่ได้ไปใหญ่...

โหย... จ๊ากซ์...

ผู้บริหาร BTS ทำแบบนี้  :P  อีกหน่อยคงมีเคสคนไทยกับลูกโป่งอีกหลายครั้ง  ;D

ใน  http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F11858694/F11858694.html    โดนด่ายับเยิน  ::005::

Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

ยายแสดงความเห็น "ช้า" กว่า  สองโพสต์ ข้างบนอ่ะ ฮา
ในคลิป  ยายยังไม่เห็นว่า  "ชาวต่างประเทศ" คนนี้
ทำอะไรที่ "เกินหรือมาก" ไปจนพ้นคำจำกัดความ ว่าน่าจะเป็น  "อันตราย"  อ่ะ ฮา
 
หรือตัวเขา  "น่าจะเป็นอันตราย"  ต่อการเดินรถไฟฟ้า เลยอ่ะ ฮา

การกระทำ  เพื่อยับยั้ง  ต้องกระทำเพียงพอ สมเหตุและผล อ่ะ
พนักงานที่คอยดูแล  "ไลน์"  หรือ "การ์ด"  ไม่สามารถ ใช้ "กระบอง" ทำร้าย บุคคล ได้อ่ะ ฮา
กระบวนการ  การยับยั้ง  มันมีหลายวิธี   แต่เคสนี้ มีเคสเดียวคือ  "อ่อนโยน"   อ่ะ ฮา
เพราะมันเพียง  ขัดขืนประกาศ  การเดินรถ  ที่เขาห้าม  "นำวัตถุต้องห้าม" ที่พิสูจน์หรือมองเห็นด้วยสายตา
ว่าไม่เป็นอันตราย   หรือที่เชื่อว่าจะทำต่อขบวนรถและผู้โดยสาร  ให้ได้รับความเสียหาย  อย่างร้ายแรง อ่ะฮา

การใช้เครื่อง ทุ่นแรง กระทำไปบนตัวบุคคล  มันเป็นการ กระทำรุนแรง  เกินเหตุ อ่ะ ฮา

ยายคิดว่า จริยธรรม ของคนไทย  มันสู่ยุค "ตกต่ำ"  แล้วอ่ะ
แล้วยิ่งถ้าปล่อยให้คนโรคจิต  ที่่ชอบ  เครื่องแบบ หรือ ยูนิฟอร์ม มาทำหน้าที่นี้ด้วย อ่ะ

ก็เอ วัง  ด้วยประการฉะนี้  ฮา

ยายกำลังรอดูผลของการปฎิบัติหน้าที่  อย่างเคร่ง และครัด  เกินเลย กว่าอำนาจ หน้าที่
ว่าผล มันจะออกมา สถานใด  และสร้างความเสียหายให้กับ "นักลงทุน" เหล่านี้ อย่างไรบ้าง อ่ะ ฮา

5555555 หัวข้อกระทู้ คงต้องเปลี่ยน  ไปตามข้อเท็จจริง แล้วอ่ะ ฮา

ตีหัว ตีกบาล ไปใย
หน้าแข้ง ล่ะแน่นอน
ไม่ต้องแรง
แค่ ป๊อกเดียว
ไม่กุมไม่ลูบ ให้รู้ไป

เออ..ยายคิดเหมือนผมแฮะ...
ไม่ได้เข้าข้างฝรั่ง ขอยืนยัน แต่การตอบโต้ดูไม่เหมาะ เพราะจากคลิปเท่าที่เห็น ก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรมาก ไม่มีดอกไหนจังๆ เข้าเป้าอะไรมากมาย
แต่ทำไมบาดแผลมันน่ากลัว  และผู้บริหารบีทีเอส ก็ออกมาบอกแล้วว่า นอกจากด้านล่างที่กระทบกระทั่งกันในคลิปแล้ว ยังมีการชุลมุนอีกครั้งที่ด้านบนด้วย
แต่ทั้งๆที่มีกล้องจับไว้ทุกมุม ทำไมไม่เอามาดูกันละครับ ว่านอกจาก รปภ.ที่ดูไม่ค่อยสันทัดหมัดมวยแล้ว ยังมีใครอีกหรือเปล่า

ผมไม่ค่อยศรัทธาพนักงานของระบบรถไฟฟ้าเท่าไร ทั้งใต้ดินและบนดิน เพราะดูเหมือนพวกท่านเหล่านั้นจะมองคนใช้บริการเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ค่อยให้เกียรติเท่าไร
เหมือนเราไม่ค่อยรู้เรื่อง ระบบอันทันสมัยของเขา จะเติมเงินทีบางคนโดนดุซะด้วย หน้าตาท่านก็ไม่ค่อยยิ้มแย้ม เหมือนไม่อยากให้บริการ

ลองค้นๆดูเรื่องร้องเรียนอะไรทำนองนี้นะครับ มีเสียงบ่นอยู่บ่อยๆ แต่ก็ใช้บริการอยู่แทบทุกวัน เพราะมันไม่มีทางเลือกที่สะดวกกว่านี้ ให้มันแพงกว่านี้ พนักงานหน้างอกว่านี้ ก็ต้องใช้อยู่ดี
เหมือนแอร์โฮสเตทสายการบินอะไรสักแห่ง ที่มีแต่คนบ่นเสมอว่าไม่รักงานบริการแล้วมาทำทำไม

วันพรุ่งนี้ คงจะมีลูกโป่ง เต็มชานชาลา

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

รับ "รปภ"  เพิ่ม อ่ะ ฮา

๕๕๕

ใส่ก๊าซไข่เน่่า ไปด้วยนะ  ยาย...

หึ่ง..........

::005:: ::005:: ::005:: ::005::

คงไม่ใช่ฝ่า รปภ. มาจากสถานีอื่นหรือที่อื่นด้วยนะครับ  เห็นในคลิปคิ้วแตกมาก่อนแล้ว   :D

ถามผู้รู้หน่อยครับ  ถ้าฝรั่งคนนี้ไปละเมิดกฎความปลอดภัย  แถมยังเตะ/ชก รปภ.

ในเมกาหรือประเทศอื่นในยุโรปจะโดนอะไรบ้างครับ  รปภ. ที่ต่างประเทศจะจัดการยังไง

รปภ. ที่รักษากฎโดนไล่ออกจากงานเหมือนประเทศไทยรึเปล่า  ::014::

ผมว่า โดนยิงด้วยปืนไฟฟ้า และข้อหาที่ตามมา โทษปรับ

และ การโดนไล่ออก ก็ฟ้องศาล

(http://www.thpic.com/iw/20120323000202-1050.jpg)

ความเห็นในพันทิพย์ครับ   :D

ออ...ฝรั่งคนนี้เห็นว่าเป็นครูสอนภาษาครับ  คุณครูชอบแหกกฎซะเองไม่รู้จะสอนลูกศิษย์ยังไง   ::005::

(http://www.thpic.com/iy/20120323001446-2526.jpg)

คนไทยเคารพกฎกว่าฝรั่งที่เจริญแล้วนะครับ   :D

ผมเคยโดน รปภ ขอค้นกระเป๋าเราอยู่ในสถานที่ของเค้าและไม่ได้ทำอะไรผิดก็ยอม ถ้าไม่ยอมเรื่องก็บานปลาย...

เพื่อนผมเป็น รปภ ตึกของหลวงในเมกามีข้อห้ามคือพกอาวุธทุกชนิดเข้ามาในตึก เพื่อนผมเคยไล่ตำรวจให้เอาปืนไปเก็บ........

เรื่องที่เกิดขึ่นผมเชื่อว่า รปภ ไม่ได้อยากจะมีเรื่องชกกับฝรั่ง ที่ชกกันเพราะมันไม่ยอมแล้วเกิดการกระทบกันมากกว่า....

รปภ ทำหน้าที่รับผิดชอบได้สุดความสามารถ...

ผมไม่เคยเห็น รปภ บาร์ เป็นนักเลงที่จะคอยหาเรื่องคนมาเที่ยว มีแต่คนมาเที่ยวทะเลาะกันแล้วโดนจับโยนออกไปข้างนอก...

ชกกันในสถานที่ขนาดนี้คงไม่มีใครอยากถ้าไม่จำเป็น ;D ;D ;D ยิ่งสถานที่ท่องเที่ยว บริการลูกค้า คงไม่จ้องกระทืบลูกค้าเช่นกัน

หากถูกตีหัว แล้วทำไมไม่แจ้งความหรือรอตำรวจมาที่เกิดเหตุ  แต่ยังพยายามจะใช้รถไฟฟ้าและอาละวาดไล่เตะรปภอีก
สงสัยนังเมียเช่าสอนให้โกหก  สมัยนี้ต้องแหกปากชกตัวแล้วโกหกถึงจะชนะ

ฝรั่งไอริชยันถูกรปภ.BTS ทำร้ายตีหัว-คิ้วแตกเย็บ 10 เข็ม
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000037008

สะใจจริง รปภ.สถานีแรกที่ปล่อยให้ถือลูกโป่งเข้าโดนโล๊ะยกชุด เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าถูกตั้งกรรมการสอบ รปภ.ที่มีเรื่องถูกให้ออก

สะใจโว้ย ::013:: ::012:: ::011::

ตัวอย่างที่ดีของ รปพ ต้องอย่างที่สนามบิน โดนตบบ้องหูสองสามทียังโค้งคำนับ  :D :D

ดราม่า

ต้องให้ โรงเรียนที่ชาวต่างชาติสอน

ไล่ออก ฐานทำให้โรงเรียนเสียชื่อในการสอน เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

แต่ว่า...  โรงเรียนน อะไรหว่า

+ .ให้พี่ยอด  ::002::

เห็นด้วยกับยายบ๊าบ ว่าเรื่องนี้เกินหน้าที่ รปภ. สถานที่ เพราะมีหน้าที่แค่ระงับเหตุ ไม่ใช่เข้าทำร้ายฯ... การระงับเหตุกับการเข้าต่อสู้นั้นไม่เหมือนกันทั้งวิธีการ และผลแห่งการกระทำ, และกรณีนี้สามารถสื่อสารด้วยความอ่อนโยน(Service Mind) จะทำให้ระงับเหตุไม่ให้บานปลายได้ตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดผลจนถึงขนาดนี้...

ทางผู้บริหาร BTS และทางตำรวจออกมาแถลงได้ชัดเจน... BTS บอกว่าสาเหตุที่เกิดมาจากการใช้ภาษาสื่อสารไม่ได้ผลจึงเกิดการทะเลาะกัน และลงโทษ"ยาม"ด้วยสาเหตุทะเลาะฯ, ส่วนทางตำรวจยิ่งบอกชัดเจนว่า "รปภ." มีอำนาจแค่ล็อกตัวและส่งให้ตำรวจดำเนินคดี...

ส่วนที่ว่าเกิดการใช้แม่ไม้มวยไทย หรือชกกันจนบาดเจ็บนั้น... ขอยืนยันว่าเกิดจากการไร้ความสามารถในการเข้า"ล็อกตัว"เป้าหมาย ทั้งนี้อาจเกิดจากสภาพร่างกายไม่พร้อมสำหรับลักษณะงาน และ/หรืออ่อนด้อยทักษะการเข้าจับกุมล็อกตัวเป้าหมาย, ทำให้ต้องหยุดเป้าหมายด้วยวิธีการเข้าปะทะฯ...

ถ้าตอบตามหลักการ ก็จะตอบว่าจะโดนจับกุมส่งให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินคดี... ส่วนวิธีการเข้าจับกุมก็ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน คือใช้วิธีการไม่เข้าปะทะ แต่จะโดนล็อกตัวโดยผู้ที่ได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะ, หากล็อกตัวไม่ได้ก็จะถ่วงเวลา รอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายมาจัดการ...

แต่ถ้าตอบตามใจน้าพงษ์... ก็ต้องตอบว่าใครละเมิดกฎคงต้องโดนตอบโต้ให้สาสมครับ เพราะโดนมองว่าเป็นผู้ร้ายไปแล้ว ดังนั้นต้องโดนตอบโต้อย่างเฉียบขาด ด้วยอาวุธรุนแรงที่สุดตามลำดับขั้น เพราะว่าละเมิดกฎนี่ครับ...

อย่างนี้ต้องไปอ่านเรื่องปลาวาฬฯ ลองค้นดู

 ::007::อ่านแล้วก็ให้ละเหี่ยใจ เมืองไทยทุกวันนี้มันเป็นอย่างนี้ไปหมดแล้ว นี่แหละครับที่เค้าเรียกยุค "ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน" ตามคำทำนายครับ ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎ/ระเบียบ/กฎหมาย กลับกลายเป็นผู้ผิด/กระทำเกินกว่าเหตุ และก็ไม่แปลกใจในผลการพิจารณา ไม่ว่าหาก รปภ.ปล่อยไปอีกสถานีและเกิดเหตุลูกโป่งระเบิดขึ้นแล้วมีผู้คนแตกตื่น ใครจะเป็นผู้รับเคราะห์กรรม? ก็ รปภ.อีกแหละครับ และยิ่งหากมีผู้เคราะห์ร้ายเป็นชาวต่างชาติอีก ก็จะยิ่งไปกันยกใหญ่ พลเมืองไทยทุกวันนี้ต้องรู้จัก/เข้าใจ/และทำใจให้ยอมรับได้กับสกถานภาพของตนเองที่ถูกลัทธิทุนนิยมกลืนกินและกำหนดสถานภาพ/บทบาทให้เป็นได้แค่เพียงพลเมืองชั้น 2 ที่เป็นได้แค่เพียง "ลูกจ้าง"/ผู้ให้บริการ" เท่านั้น ได้ยินแต่คนพูดถึงหัวอกลูก/เมียของชาวต่างชาติคนนั้นว่าจะรู้สึกอย่างไร ผมก็อยากถามว่าแล้่วมีใครนึกถึงหัวอกลูก/เมีย/ครอบครัวของ รปภ.คนนั้นหรือไม่ หากเขาต้องตกงานหรือถูกพักงาน เขาจะได้รับการเยียวยาใด ๆ จากนายจ้าง/สังคมบ้างหรือไม่ อยากรู้จริง ๆ เลยเชียว ::006::

 ดีที่ฝรั่งมันไม่ถาม รปภ."" รู้ไหม? ตูลูกใคร?""  ::003::

  อาจตกงาน ตาม รปภ. ::008::

ต่อไปใครจะอยากรักษากฎระเบียบกันขืนทำกันแบบ เขียนด้วยมือลบด้วยเท้ากันแบบนี้ ::004::

เป็นถึงอาจารย์ทำสะเอง โรงเรียนไรหว่า หรือว่าเขาสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ::005::

หากฝรั่งชนะคดีแล้วต่อไป ก็มีแต่กฎของกู  ทุกวันนี้บ้านเมืองก็มีพวกนี้มากพอแล้ว

คิดเล่นๆ  หากคนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วทนกับพฤติกรรมฝรั่งนี้ สามารถรวมตัวกันฟ้องมันได้มัยครับ
เช่น โทษที่ฝ่าฝืนนำพาวัตถุต้องห้ามที่อาจจะเกิดอันตรายกับผู้โดยสาร กับอาละวาดก่อความวุ่นวาย
ละเมิดสิทธิ ทำให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตที่ต้องโดยสารร่วมกับมันและครอบครัว

หากไม่ได้ก็ส่งไปรษณียบัตรไปที่โรงเรียนมันว่า ยังคิดจะรับคนต่างชาติพฤติกรรมแบบนี้มา
เป็นครูสอนเด็กรึ 555

ยากตรงที่ "รอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายมาจัดการ"  นี่แหละครับ  ถ้าไม่ให้ตอบโต้กว่าตำรวจจะมา รปภ. คงโดนบีบคอจนสลบไปแล้วละครับ

(จากเรื่องฝรั่งเข้าไปขีบคอ รปภ. ก่อนแล้วตามด้วยเตะ)  แล้วก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน  พร้อมลูกโป่สุดสวยกับลูกและภรรยา   ;D

งั้นให้ รปภ. พกเข็มไว้จิ้มลูกโป่ดีมั้ยครับ   ::005::

ก็ตามที่เคยบอกน้าพงษ์ไงครับ... ว่า รปภ. ชุดนี้ไร้ความสามารถ, BTS ก็ให้ออกไปแล้ว ซึ่งสมควรอยู่...

ถ้าตอบแบบเอามันส์นะครับ, ต้องเรียกหัวหน้าให้มาเปิดตู้ครับ เพราะถ้าเราจะเอาเข็มจิ้มลูกโป่ง ฝรั่งมันคงไม่ยอมแน่ เพราะมันปกป้องลูกโป่งด้วยชีวิต... ดังนั้นเราต้องเปิดตู้เอา G19 ยิงใส่ลูกโป่งก่อนเลย เป็นการข่มขวัญครับ...

ท่านอยู่เกาะสมุยป่าวครับเนี่ย รู้จักคำนี้ด้วย ที่เห็นส่วนมากถ้าฝรั่งไปเมาซ่าเกะกะระรานอยู่ที่นั่นพูดไม่ฟัง รับรองว่าน่วมทั้งตัวแน่ ไม่เคยเห็นว่าทำเก๋าเหมือนในBTS

อึดอัดมานานเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทยกันจนโตแบบไร้ทิศทาง
ตั้งแต่นายทุนยึดครองที่ดินที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้เอาไปทำรีสอร์ท ทำบ้านพักตากอากาศ
ยึดครองธุระกิจท่องเที่ยวในนามผู้ถือหุ้นคนไทย
ไม่มีการสกรีนคนเข้าประเทศที่ดีเท่าที่ควรใครมาให้เข้าหมด กุ๊ย ผู้ก่อการร้ายแอบแฝง ฝรั่งขี้นก แก๊งค์เยอรมัน แก๊งค์รัสเซีย
คนไทยไปบ้านอื่นเมืองอื่น เข้ายากเย็นแสนเข็ญ เช็คสเตทเม้นท์ เช็ครายได้ มีหนังสือรับรอง ฯลฯ คือให้แน่ใจว่าไปแล้วไม่ไปก่อปัญหาให้เขามีปัญญามีเงินจ่าย

ผมพูดกับเพื่อนมาหลายครั้งแล้วว่า เมืองไทยหาอาชีพอื่นมาให้คนในภาคธุระกิจท่องเที่ยวทำได้ไม๊ ไม่ใช่บ้าคลั่งหิวเงินนักท่องเที่ยวกันแบบนี้
คือไม่ใช่ห้ามธุระกิจนี้แต่ไม่ต้องส่งเสริมมากไปอยากมาเที่ยวก็มาเอาแต่พอดีๆ ที่ธรรมชาติรับได้ พอคนในภาคธุระกิจท่องเที่ยวมีอาชีพอื่นที่มั่นคงได้
 ปัญหาต่างๆมันก็คงเพลาๆลงไปเอง การสกรีนคนเข้ามาเที่ยวก็ทำได้ง่ายขึ้น

เป็นเรื่องเดิมครับ คือการบังคับใช้กฎหมาย, แก๊งค์ทั้งหลายแหล่นั่นอยู่ได้ก็เรื่องเดิม คือผู้บังคับใช้กฎหมายไม่สามารถบังคับให้ได้ผล... เรื่องตามกระทู้นี้ก็ให้ความเห็นกันตามอารมณ์เสียจนเละทะครับ เพราะเกลียดฝรั่งที่ละเมิดกฎนั่นเอง...

อีกเรื่องนึงคืออิจฉาฝรั่งที่เงินเดือนแพงกว่าคนไทย... แต่ฝรั่งเงินเดือนแพงกว่าคนไทยนั้นแต่ในบางอุตสาหกรรมเท่านั้นครับ, ฝรั่งครูสอนภาษาตามกระทู้นี้ บอกได้เลยครับว่าเงินเดือนไม่มากหรอก ก็ดูโรงเรียนสอนภาษามีรายได้ดีแค่ไหนกัน แล้วครูสอนจะเงินเดือนเท่าไหร่...

จะขอ Work Permit เป็นครูสอนภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ เพราะอาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพขาดแคลนในประเทศไทย... ที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย หากไม่มีเมียเป็นคนไทยก็ใช้วิธี Visa run คือวิ่งไปต่อ Visa ทุกสามเดือนที่สิงคโปร์, แล้วก็สอนภาษาไม่ได้ด้วย หาก ตม. เจอรับรองมีไถเงิน...

ว่าแล้วก็วกกลับมาที่การบังคับใช้กฎหมายอีกนั่นแหละครับ...

ไม่รู้ล่ะ  ลื้อก็อยากเอาไปให้ได้  อั๊วก็ทำตามหน้าที่  เหมือนซี7ซี8ที่ตบบ้องหูนั่นแหละ  ต้องหาทางออกมาว่าเป็นโรคจิต  การละเมิดกฎความปลอดภัย  โทษหนักนะครับ  ผู้บริหารจะออกมาขอโทษทำไม หน่อมแหน่มไปมั้ง

มีหลายเรื่องครับนายสมชายที่ผมไม่ค่อยชอบนักท่องเที่ยวต่างชาติเอาเสียเลย
อย่างที่พักแบบ เกสท์เฮ้าส์ เซอร์วิชอาพาร์ทเม้น รีสอร์ทถูกๆ เหล่านี้คือเป็นที่รองรับของฝรั่งขี้นก นักท่องเที่ยวไม่มีระดับและรายได้น้อย
 ถ้าใครอยากมาแล้วไม่มีปัญญาจ่ายค่าโรงแรมสี่ดาว ห้าดาว ก็ไม่ต้องมา
ที่พูดแบบนี้เพราะผมรักและห่วงเมืองไทยว่าสักวันหนึ่งเราจะไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานเราต่อไป

ผมก็คิดมานานว่าทั่วโลกมีสถานที่ มีประเทศต่างๆมากมายที่น่าเที่ยวแต่ทำไมเขาเฉยๆ กับธุระกิจท่องเที่ยว โลกนี้มันไม่ใช่มีแต่ ภูเก็ต สมุย ฯลฯ ของไทยเท่านั้นนี่นา
ทำไม่เขาไม่ฮิต ไม่ส่งเสริม ไม่ไปกัน ทำไมมากันแต่บ้านเรามากขนาดนี้ ผู้นำประเทศนั้นๆ เขามองการณ์ใกลอะไรอยู่

เราเละมานานแล้วครับ เชื้อร้ายจากฝรั่งจีไอ วัฒนธรรมบาร์เหล้า อาโกโก้ เมียเช่า ขายตัว ...


มีประเทศไหนในโลกหน๋อ........ที่ปล่อยให้เละแบบนี้ มีคุณตัวมากมาย ทั้งชายทั้งหญิง รอต้่อนรับ เฮ้อ.........ทุเรศครับ  :P

มันมีทั้งโลกแหละครับ เพราะเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย... ที่อียิปต์ ก็เคยมียิงนักท่องเที่ยแถวปิรามิดใหญ่, ที่ไมอามี่ก็เคยมีแก๊งค์ไล่ยิงนักท่องเที่ยว...

ที่ประเทศไทยก็มี... http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7&sourceid=ie7&rls=com.microsoft:en-us:IE-SearchBox&ie=&oe=#q=%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7&hl=en&rls=com.microsoft:en-us:IE-SearchBox&prmd=imvns&ei=7PxrT4GIOsrjrAfqo8WMAg&start=10&sa=N&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.,cf.osb&fp=61cb93499d01e98d&biw=1643&bih=869

ประเทศแถบเอเชียเป็นหมดครับ... ไทย ฟิลิปปินส์ อินโด ฯลฯ มีพวกหัวแดงที่เกิดจาดเมียเช่าแยะไป...
เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายครับ... ทุกอย่างไร้ความหมายหมด เมื่อกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์...

พี่เขยผมก็เป็นฝรั่ง คนออสเตรเลีย เขายังเคยบอกผมเลยว่าฝรั่งส่วนใหญ่ที่มาเมืองไทยเป็นประเภทพวกเก็บกด อะไรที่ทำไม่ได้ที่เมืองเค้ามานี่เขาก็อยาก

ทำ เพื่อนเล่าให้ฟังว่าเดินเมาถอดเสื้อยังทำได้ ตำรวจไม่กล้าจับ มันถึงได้เป็นกันอยู่ทุกวันนี้ ::004::

     ต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย มีบางส่วนที่ทำตัวไม่น่ารัก.....แต่พวกนี้เข้ามาใช้ทรัพยากรไม่ต่างกับคนท้องถิ่น ใช้กินใช้อยู่ไม่ต่างกับคนไทยนักโดยใช้เงินเข้าแลก มาแล้วก็กลับ.....พวกนี้น่าเกลียดแต่ไม่น่ากลัว

     แต่ต่างชาติเกรดดีๆพวกที่นอนโรงแรม 4-5 ดาวบางกลุ่ม  ดูดีแต่น่ากลัว .....ผืนแผ่นดินไทยตกอยู่ในมือของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่น้อย และเป็นอยู่ต่อไปเรื่อยๆ...พวกนี้ภาพพจน์ดูดีแต่น่ากลัว
    

นิติกรรมอำพราง ‘ขายที่ดิน’ 1 ใน 3 ของแผ่นดินไทยในมือต่างชาติ
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000035809

    

ลองถามตำรวจดูครับ ที่ตำรวจไม่กล้าจับฝรั่ง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะภาษาไม่ดี กลัวพูดไม่รู้เรื่องแล้วเรื่องบานปลายกลายเป็นเรื่องใหม่ใหญ่กว่าเดิม... เราเลยเห็นตำรวจท่องเที่ยวตามเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยวครับ...

ทีนี้มันก็เป็นแค่ส่วนเดียวจากภาพรวมที่ใหญ่มาก... ซึ่งหากจะเอากันจริงๆ บังคับใช้กฎหมาย(และกฎระเบียบ)ให้เด็ดขาดนั่นแหละ, เอาตรง สตช. ด้วยเลย เขามีระเบียบเรื่องคนที่ทำหน้าที่มวลชนสัมพันธ์ในท้องที่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ให้ต้องภาษาดี ทีนี้พอจะเอาเข้าจริงก็มีข้ออ้างกันไปเรื่อย งานแยะไปมั่ง ฯลฯ ในที่สุดมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็นแหละครับ...

เป็นเรื่องของนอมินี่ครับ 49 เปอร์เซ็นต์, บริษัทมีหุ้นใหญ่เป็นคนไทยคือ 51 เปอร์เซ็นต์ก็สามารถถือครองที่ดินได้เป็นของบริษัท แต่ห้ามยุบบริษัท เพราะไม่งั้นก็จะถือครองไม่ได้... ทีนี้ 49 เปอร์เซ็นต์ที่ว่านี่หากจะเอาเรื่องกันจริงๆ ก็มีวิธีจัดการพิสูจน์ฯ แล้วก็อาจโดนบังคับใช้กฎหมายได้ ถึงแม้จะเลี่ยงด้วยการถือหุ้นซ้อนสองสามชั้น แล้วชั้นสุดท้ายไปอยู่ที่ Tax Heaven ทั้งหลาย...

ส่วนวิธีที่สองคือผ่าน พรบ. ส่งเสริมการลงทุน อันนี้เป็นกฎหมายพิเศษ... ถึงแม้บัตรส่งเสริมการลงทุนจะมีอายุสิทธิประโยชน์ก็ตาม แต่สิทธิประโยชน์เรื่อง Non Tax นี่ไม่มีอายุ เพียงแต่ความได้เปรียมเชิงภาษีจะไม่เหลือแล้ว, แต่สรุปก็คือห้ามปิดบริษัท ปิดเมื่อไหร่ก็ห้ามถือครองที่ดิน...

ทั้งสองเรื่องข้างบนเป็นการถือครองที่ดินผ่านนิติบุคคลครับ, จะใช้อยู่อาศัยได้ก็แค่ตามจำเป็น แล้วโดยปรกติมักอนุญาตไม่มาก หรือไม่ก็ล้อมรั้วเดียวกับกิจการไปเลย ซึ่งบริษัทก็ถือครองอยู่ดี... มีอีกเรื่องนึงถือครองที่ดินในชื่อคน โดยต้องเอาตังค์มาซื้อคอนโด, นั่นคือถือครองคอนโด ไม่ใช่ที่ดิน...

เรื่องการถือครองที่ดินตามบทความที่อ้างถึงข้างบนนั่นไม่น่าหนักใจครับ เพราะเป็นชื่อกิจการ และบังคับให้ต้องรันกิจการตลอดเวลาจนกว่าจะปิดบริษัท ก็ต้องถอนยวงกลับไป... หรือไม่ก็ให้ลูกที่เกิดในไทยรับช่วง ซึ่งเกิดในไทยก็กลายเป็นคนไทยไปแล้ว(เหมือนลูกคนงานเขมรนั่นแหละ)...

ส่วนการถือครองตาม พรบ.นิคมอุตสาหกรรม... นั่นก็เหมือนตาม พรบ. BOI เกือบทั้งหมด, คือบังคับให้ต้องรันกิจการตลอดเวลา เลิกเมื่อไหร่ก็ถอนยวงครับ...

เรื่องการถือครองคอนโด... ก็จะมีรายชื่อคอนโดที่ต่างชาติสามารถใช้สิทธิ ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดที่ขายคนไทยไม่ออกครับ เช่นแพงเกิน เป็นต้น...

ไหนๆ พูดถึงเรื่องคนต่างชาติทำงานในไทยแล้ว... พวกแขกขายโรตี พวกเขมร ลาว พม่าที่ขายของหน้าร้าน, พวกแขกตามร้านปืน(ที่ชอบนั่งจับกลุ่มเรียกและต้อนคนเข้าร้านใน บ/ช.ดำให้กินกาแฟฯ นั่นแหละ), พวกนี้ผิดกฎหมายหมดครับ เพราะขายของหน้าร้าน ขายปลีก เป็นหนึ่งในรายการอาชีพสงวน ไม่ออกใบอนุญาตทำงาน...

     ตำรวจหรือ รปภ.ทั่วไปกับเรื่องภาษาอังกฤษเป็นเช่น คห.พี่สมชาย ครับ

    หากจำไม่ผิดน้า JOYHUNTER เองก็เคยเล่าประสบการณ์เรื่องภาษาสมัยไปเที่ยวเมืองจีน...เรื่องข้าวต้มข้าวแกงอะไรนี่แหละ... ;D ;D ;D

จำเม่นจริงเลยนะพ่อคู๊ณณณ ::007::

     ประทับใจที่ยังมีวนรถรอบสอง กลับไปเก็บข้าวต้มครับ...เลยจำได้  ;D ;D ;D

น่าจะใช้หมาด้วยนะครับ  ปล่อยให้กัดซะเลย   หากไม่ดึงดันเข้าไปคงไม่มีเรื่ิองชกต่อย คงเคยชินกับการทำอะไรหรือได้อภิสิทธิ์จนเคยตัว
ภรรยาก็น่าจะอธิบายให้สามีฟังได้  ขณะนั้นก็รอ ตร มารับตัวไป แต่กว่า ตร จะมาเค้าคงขึ้นรถไฟไปไหนต่อไหนแล้ว
ต่อไปลูกก็คงจะไปเถียงครู  ครูตีก็คงฟ้องครูว่าทำเกินกว่าเหตุ
มีไทยที่เดียวที่ชาวต่างชาติกล้าตอแยกับคนท้องถิ่น 

อืม...เท่าที่ทราบมา รายได้ของประเทศเรา ก้อนใหญ่ๆก็มี ส่งออก ท่องเที่ยว ภาษี โดย ๒ ตัวแรก ค่อนข้างสำคัญมากๆ และมากจนเป็นจุดอ่อน เลยต้องออกนโยบายที่พยายามจะพึ่งพาตัวเองให้ได้ แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน

และหากย้อนนึกไปว่า ทำไมเราถึงต้องดำเนินนโยบาย ส่งเสริมการดูดเงินจากเมืองนอกกันขนาดนี้  ก็คงต้องถอยไปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่เรายังเป็นสังคมเกษตร กินยาหม้อ ซึ่งมีคนที่เข้าข่ายเสียภาษีได้ไม่กี่คนหรอก ขณะเดียวกันก็มีภาพประเทศฝรั่งที่เจริญ รวยกว่าเรา เก่งกว่าหมอโบราณข้างบ้าน เข้ามาก็มาสอน มาช่วยคนไทยทั้งนั้น ไม่มีใครมาเที่ยวเมืองไทยเฉยๆหรอก  ในเมื่อบ่อน้ำในหมู่บ้านไม่มีปลาให้ตก มันก็ต้องขุดคลองล่อปลาฝรั่งเข้ามา และหากไทยไม่ใช้นโยบายนี้ ผมเชื่อว่าไทยเราจะมีป่าไม้มากกว่านี้ ไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน แป๋ว!!! ก็ในดีมีเสีย ในเสียมีดี นี่นา

พิมพ์ไปพิมพ์มา ชักงงๆตัวเอง เอาเป็นว่า ไม่มีอะไรขาวอย่างเดียว หรือดำอย่างเดียว  หลังจากเหตุการณ์นี้ ประกอบกับเด็กไทยเรายุคปัจจุบัน เขากล้า และมั่นกว่ายุคก่อนมากๆ แถมตัวโตพอๆกับฝรั่ง และไม่ค่อยเอาแรงเข้าแรก(ขยัน ศรัทธา) เอาสมองเข้าที่หลัง(เรียนรู้) เหมือนคนยุคก่อน แต่มันทำตัวช่างสงสัยก่อนจะลงมือทำอะไร จนบางครั้งอยาก..  ถึงตอนนั้นซึ่งอีกไม่นาน ฝรั่งก็คงเป็นเพื่อนร่วมโลกธรรมดา เท่าๆกับเรา

สำหรับผมฝรั่งเป็นเพื่อนร่วมโลกธรรมดามานานแล้วครับ ;D ;D ;D

ผมด้วยครับ
เคยมีฝรั่ง มาขายเคมีภัณฑ์ในบ้านเรา ซึ่งเค้าก็รวยเอา รวยเอา  เค้าชอบขายของในไทยเพราะคนไทยส่วนไทยจะศรัทธาในภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ
จริงๆแล้วมันหลอกเรา (ไม่ทั้งหมดนะครับ) บางครั้งก็เอาของที่ reject กลับมา pack ขายใหม่ก็ส่งกลับไปที่เดิม  ของมีปัญหาก็จะหาที่ติว่าเงื่อนไขหน้างานผิดจากเงื่อนไขการใช้งาน เค้าใช้มาแล้วที่เมืองนอกไม่มีปัญหา (ผมก็แจ้งกลับไปว่า หากผลิตภัณฑ์ของคุณดีที่สุดในโลกแต่ใช้ที่นี่ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่ผมจะซื้อมันมาใช้ ขอบคุณครับที่มา  หากเมื่อไหร่ผลิตภัณฑ์คุณ  คุณภาพด้อยลงมาแล้วสามารถใช้ในไทยได้ผมยินดีใช้) บางครั้งเอา Technicial มา พูดผิด พูดถูก พูดไปเรื่่อย มากันเป็นทีม เพื่อความน่าเชื่อถือ  นี่คือสิ่งที่เราไปลอกเค้ามา
ด้วยความเคารพ ผมไม่เคยเชื่อในภาพลักษณืเหล่านี้เลย  ผมเชื่่อในผลการทดสอบ ที่ได้ทดลองหรือได้เห็นด้วยตาตัวเอง

ปล.ไม่ได้อคตินะครับแต่เคยเป็นลูกจ้างชาวต่างชาติ (ฝรั่ง) เราดูถูกชาติเพื่อนบ้านที่ด้อยกว่าเรายังไง  ฝรั่งก็อย่างนั้นแหละ  สุภาพให้เห็นว่าเป็นผู้ดี

นายสมชายว่ามันยิ่งกว่านั้นครับ คือฝรั่งส่วนใหญ่(โดยเฉลี่ย) มันโง่กว่าคนไทยครับ... เด็กนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่างประเทศ หรือคนไทยที่ไปทำมาหากินต่างประเทศต่างรู้ดีครับ ว่าหากเอาสมองมาวัดกันแล้วไม่เคยด้อยกว่าฝรั่ง มีแต่ฉลาดกว่า สมองไวกว่า และแตกฉานกว่าโดยเฉลี่ยครับ...

ที่ประเทศมันเจริญกว่านั่นไม่ใช่เพราะมันฉลาดกว่า แต่เป็นเพราะ 1) มันมีวินัยดีกว่า ทั้งวินัยส่วนบุคคลและวินัยหมู่คณะ, และ 2) คือมันมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าครับ ความมืออาชีพที่ว่าคือความ"ไร้อารมณ์"เมื่อจะทำอะไรสักอย่าง...

เรื่องความมีวินัยนี่หากเทียบกับคนไทยก็คือทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ไร้วินัยมันทุกเรื่องตั้งแต่ส่วนบุคคลอยากจะทำอะไรก็ทำ ขับรถกันไร้วินัย แล้วในที่สุดทั้งสังคมก็มีปัญหากับเรื่อง"การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล"... ส่วนเรื่องความเป็นมืออาชีพ จะว่าไปก็ใกล้เคียงกับไร้วินัยนั่นแหละครับ คือเจ้าอารมณ์กันไปเสียทุกเรื่อง มีครบเลยทั้งรัก โลภ โกรธ หลง กลัว ฯลฯ...

แต่ถ้าวัดกันด้วยสมองอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น เด็กไทยเรียนหนังสือแซงหน้าฝรั่งนี่เป็นเรื่องปรกติ ทั้งที่ไปเรียนที่ประเทศของมันด้วยการวัดผลตามแบบของมัน... ส่วนเรื่องเรื่องน่าปวดหัวสำหรับฝรั่งก็คือ คนไทย(ไม่ใช่แค่เด็กนักเรียนไทย)มีวิธีสารพัดสารพัดช่วงชิงความได้เปรียบทั้งในเกมส์ และนอกเกมส์... ฮา...

แล้วเรื่องที่แสบคือ... คนไทยไปรวมกลุ่มอาศัยกันที่ไหน จะตีกันแบ่งกลุ่มแบ่งก๊กเหล่ากันทุกที่ครับ"ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย เพราะไม่มีใครอยากเห็นคนอื่นเด่นเกินตน"... จ๊ากซ์...

คือ ผมหมายถึงคนรุ่นเก่าโดยภาพรวมที่หลายคนในวันนี้ ชอบพูดว่าคนไทย(เมื่อก่อน)เห็นฝรั่งเป็นเทวดา

อย่างสังคมที่นี่ ส่วนมากก็ได้สัมผัส ฝรั่งมาบ้างแล้ว ก็พอจะรู้ว่า ความจริงแล้ว ฝรั่งเขาก็มีดีมีเก่ง มีแย่ปนๆกันไป   ไม่ต้องไปเกรงใจกันจนเกินความพอดี


หากคนไทยเริ่มแบ่งกลุ่มตีกันเมื่อไหร่  แสดงว่า เขาต้องแข็งแรง มั่นคงแล้วแน่ๆเลยครับ  ;D  :~)  :'( 

::014:: ผมชอบความหมายของคำว่า มืออาชีพของพี่จริงๆ ฟังแล้วชัดเจน

ตำรวจน่าจะจับขังข้อหาก่อความไม่สงบ   ทำผิดกฎแล้วยังมีหน้าเอาเรื่อง รปภ อีก แถมเมียที่เป็นคนไทยก็ไม่สำนึกเลยเวรกรรม
ถ้าอนาคตมีฝรั่งถือแกลอนน้ำมันเข้าไปแล้ว รปภ ไม่กล้าห้ามเพราะเห็นเป็นฝรั่งกลัวมีเรื่อง ในขบวนรถไฟนั้นคนไทยมีมากกว่าฝรั่งครับอันตรายย่อมเกิดกับคนไทยมากกว่าฝรั่งเวรฯเพียงตัวเดียว

ข่าวออกมา มีคนขู่ทำร้าย

เออ...รู้เบอร์โทรศัพท์ด้วย

มาดูฝรั่งที่เมืองปาย  เมืองท่องเที่ยว  ม้ันขี่มอไซค์ อยากตรงใหนก็จอด เมาแล้วทำตัวถ่อยๆดูถูกคนไทย  ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ครึ่งๆ บางคนอยู้บานมันคงไม่เคยขับขี่มอไซค์เลย มันมาเช่าแล้วฝึกเอาตอนนั้นเลย  เวลาจอดติดไฟแดงเสียวสันหลังกลัวพวกมันจะทิ่มเราตายฟรีๆ

เห็นด้วยครับ ;D ;D ;D

บวก 1 ครับ
เห็นด้วยครับพี่ แต่ตอนนี้รายได้จากการท่องเที่ยวมันซึมเข้าไปอยู่ในอนูรายได้ของคนในเมืองท่องเที่ยวหมดแล้ว  ::013::  ::013::  ::013::
 

ฝรั่งขี้นก...

ตรงนี้แหละครับที่แบ่งคนในองค์การใดก็ตาม ออกเป็นสองกลุ่มโตๆ... เอาตัวอย่างสุดโต่งที่ชัดเจนนะครับ เช่นหากจะไปจูงใจให้ใครสักคนไป"ทำงานชนิดหนึ่ง"ที่มีความเสี่ยตาย เช่นให้บังคับใช้กฎหมาย...

กลุ่มแรกเราไปบอกเขาว่า"มีหน้าที่ต้องทำ ให้ทำให้สำเร็จ", เหตุผลคือ - มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ หากไม่อยากทำก็อย่ามานั่งในตำแหน่งนี้ ให้ลาออกไปเสีย... ส่วนกลุ่มที่สองต้องไปอธิบายหว่านล้อมชี้ให้เห็นว่าที่ต้องทำ ที่ต้องจัดการเพราะเป้าหมายที่ว่านั้นเป็นคนเลว ละเมิดกฎหมาย ดังนั้นต้องโกรธมัน เคียดแค้นมัน ไปจับมันเข้าคุกให้หมดดดดด...

อ่านถึงตรงนี้คงนึกออกครับว่ากลุ่มไหนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีการควบคุม เพราะสามารถควบคุมตัวเองได้ มีความไว้วางใจได้ว่าจะทำงานจนสำเร็จลุล่วงด้วยตนเอง... แต่กลุ่มไหนต้องคอบควบคุมตรวจตราตลอดเวลา เพราะเมื่อไหร่หมดอารมณ์แค้(หรือโกรธ) จะมีอารมณ์กลัว แล้วก็มีอารมณ์เบื่อ น้อยใจ ฯลฯ...

มีหนังอยู่เรื่องนึงที่เด็ก หรือคนเจ้าอามรมณ์ดูไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้ออสการ์... นั่นคือ Dances with wolfes...  http://www.imdb.com/title/tt0099348/ และ http://en.wikipedia.org/wiki/Dances_with_Wolves

Post นี้นายสมชายดีใจที่คุณ supreme มองเห็นประเด็นนะครับ... หากใครอ่านแล้วพิจารณาให้ดี ก็จะรู้เหตุผลว่าทำไมบางคนได้เงินเดือนแสน ทำไมบางคนทำงานเท่าไหร่ก็ไม่ก้าวหน้า แล้วก็น้อยใจที่"นาย"มองไม่เห็นคุณค่า ทั้งที่ตัวเอง"เก่ง"มาก...

แล้วข่าว ก็หายไปกับสายลม