เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :OO :OO :OO

นับเป็นการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดภายในเรือนจำครั้งใหญ่ หลังจากพล.ต.ต.รณพงษ์  ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส. พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจและชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์”คอมมานโด” รวม 200 นายและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและตรวจปัสสาวะนักโทษ ในแดน 5 และ 6  เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่คืนวันที่ 22 เม.ย.ต่อเนื่องถึงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 เม.ย. พบของกลางยาเสพติด ยาบ้า ยาไอซ์ อุปกรณ์การเสพยาเสพติด โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ ไอแพด อุปกรณ์การพนัน และอาวุธ จำนวนมากนั้น

 

แต่เหตุการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง คือเวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อพล.ต.ต.รณพงษ์ สั่งให้เจ้าหน้าที่ยุติการตรวจค้นโดยให้เจ้าหน้าที่รวบรวมของกลางทั้งหมดเพื่อถอนกำลังออกจากเรือนจำ  แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตั้งแถวเพื่อทยอยออกจากเรือนจำ ได้มีเสียงโห่ไล่ด้วยความไม่พอใจของนักโทษจากเรือนนอนแดน 6 ดังลั่นไปทั้งเรือนจำ พร้อมมีเสียงตะโกนด่าทอ ท้าทายสอดแทรกออกมาเป็นระยะ ๆ  ทำให้พล.ต.ต.รณพงษ์ สั่งการอย่างเฉียบขาดให้เจ้าหน้าที่กลับเข้าไปตรวจค้นในเรือนนอนแดน 6/1 และ 6/2  อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งบุกเข้าตรวจค้นนักโทษในแดน 5 อย่างละเอียดเรียงตัว ผลการตรวจค้นพบสิ่งของต้องห้าม ทั้งยาบ้าละลายน้ำใส่ไว้ในตลับพระเครื่อง 1 ตลับ ยาไอซ์ 1 ถุงหนัก 100 กรัม ฝิ่นดิบ 1 ก้อน ขนาดเท่าไข่ไก่  โทรศัพท์มือถือ ซิม เงินสด หนังสื่อลามกอนาจาร และอาวุธดัดแปลงอีกจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ยังพบว่าในห้องขังแดน 6 เฉพาะฝาห้องซึ่งก่อด้วยอิฐบล็อกถูกนักโทษแกะออกเป็นช่องขนาดก้อนอิฐ ซ่อนโทรศัพท์และสิ่งของไว้ภายใน และที่ห้องโถงซึ่งเป็นห้องประชุม มีพระประธานองค์ใหญ่ตั้งมีการเจาะฐานพระเพื่อซ่อนยาเสพติด และซิมการ์ดด้วย

 

โดยเฉพาะการตรวจค้นล็อคเกอร์ของนักโทษชาย"ตวงธิปัตย์ คงคุ้ม" อายุ 30 ปี หรือที่รู้จักกันนาม”เนย์  หัวถนน” ภูมิลำเนาเดิมอยู่ข้างตลาดหัวถนนศาลามีชัย ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์  ซึ่งถูกศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์พิพากษาตัดสินจำคุก 20 ปี 20 เดือน และศาลฏีกาพิพากษาเหลือจำคุก 18 ปี ปัจจุบันเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม กำลังจะได้รับการพิจารณาอภัยโทษในรอบต่อไป พบล็อคเกอร์ดัดแปลงสำหรับซุกซ่อนสิ่งของต้องห้ามไว้เป็นอย่างดี มีโทรศัพท์ซัมซุง กาแลคซี่จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์ยี่ห้อและรุ่นต่าง ๆ อีก 10 เครื่อง ซิมโทรศัพท์อีก 31 ซิม เงินสด 5,500 บาท และหนังสือประเภทปลุกใจเสือป่าอีกจำนวนมาก

 

พล.ต.ต.รณพงษ์ สอบสวนปากคำนายตวงธิปัตย์ ด้วยตนเอง ให้การรับสารภาพอย่างละเอียดว่า ในขณะที่ตนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์หลายคดีจนถูกจับกุม ขณะนี้ต้องโทษมาแล้วจำนวน 8 ปี และในระหว่างที่ต้องโทษได้เรียนมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จนจบปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อปี 2551

 

"หลังจากนั้นได้ตั้งตัวเป็นขาใหญ่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาไอซ์ รวมทั้งเปิดร้านซ่อมและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในเรือนจำ และยังเป็นเอเยนต์จำหน่ายหนังสือลามกอนาจารในเรือนจำอีกด้วย  ในการทำธุรกิจในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชทำให้ตนมีรายได้ดีมาก บางวันที่ตลาดยาบ้าเปิดจะมีโทรศัพท์มาสั่งซื้อจากตน โดยตนได้สั่งเครือข่ายนอกคุกไปส่งยาเสพติดให้ลูกค้าทำให้มีรายได้วันละ 3 ล้านบาท นอกจากนี้ตนยังมีเมียใหม่เป็นนักโทษหญิงในเรือนจำเดียวกันอีกด้วย การทำธุรกิจดังกล่าว ทำให้มีเงินเพียงพอที่จะเสียให้เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดไฟเขียวให้กับการทำธุรกิจผิดกฎหมายในคุกได้อย่างสบาย"นายตวงธิปัตย์ให้การว่า


นักโทษจากแดน 6 รายหนึ่ง กล่าวว่า การค้นของตำรวจครั้งนี้ยังได้โทรศัพท์และยาเสพติดน้อยมาก ในความเป็นจริงแล้วโทรศัพท์ยังคงเหลืออีกเป็นหลักพันเครื่อง บางคนมีเป็น 10-20 เครื่อง วันนี้ตำรวจตัดกำลังการสื่อสารซึ่งถือว่าเป็นกองบัญชาการสั่งยาจากเรือนจำ เท่ากับเป็นการสกัดยาได้ แต่ต้องเอาโทรศัพท์ออกให้ได้มากกว่านี้ การซ่อนโทรศัพท์มีทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นตามหลอดไฟนีออน เสา ฝาผนัง ใต้เสื่อที่นอน แม้กระทั่งตู้ โต๊ะ พัดลม ถังส้วม ห้องน้ำ จะมีการมัดถุงเป็นอย่างดี


นักโทษที่อยู่ในแดนนี้ หลังหกโมงเย็นไปแล้วเมื่อทุกคนเข้าไปอยู่ในห้องนอน ก็จะทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพนัน เล่นไพ่ แทงไฮโล มีการเล่นได้เสียกันเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้คุมบางคนเดินผ่านมาก็จะมีการจ่ายเงินค่าต๋ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 2,000บาทให้ จะเป็นที่รู้กันว่าเจ้าหน้าที่บางคนจะมีรายได้คืนละ ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท

 

"ภายในแดนไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้กระทั่งผู้คุม มีนักโทษถูกฆ่าตายเป็นจำนวนไม่น้อย ไม่สามารถจับได้ว่าใครเป็นคนฆ่า แม้กระทั่งกลุ่มมาเฟียก็มีกันมาก กลุ่มนี้จะทำตัวเป็นผู้ที่ทำหน้าที่คุ้มครอง และเป็นพี่ใหญ่ในเรือนจำ กลุ่มที่ใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มในเมือง และกลุ่มท่าหลา ซึ่งทุกคนจะกลัวไม่อยากยุ่งเกี่ยว"นักโทษจากแดน6ดังกล่าวระบุ


นักโทษรายเดิมกล่าว การนำเข้ายาเสพติดและสิ่งผิด กม.เข้าไปยังเรือนจำนั้น บุคคลที่สามารถนำเข้าก็ต้องเป็นคนในที่รู้เห็นเป็นใจกัน ทั้ง นักโทษ ผู้คุม ข่าวที่ออกว่ามีการเขวี้ยงโทรศัพท์เข้าไปนั้น มีน้อยมาก แต่ล็อตใหญ่ๆที่นำเข้าผ่านสะดวกนั้น ผ่านด่านตรวจภายในได้อย่างไร เฉพาะยาก็เข้ามากันอย่างสบายๆ เจ้าหน้าที่บางคนนำน้ำแข็งขนาดซองบุหรี่มาส่งถึงในแดนสามารถได้รับเงินเป็นหลักแสนสบายๆก็มี

 

เวลา 11.00 น. วันที่ 24 เมษายน  พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงสรุปผลการตรวจค้นเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราชซ้ำครั้งที่ 2 ว่าพบโทรศัพท์มือถืออีกรวมทั้งสิ้น 52 ซิมโทรศัพท์31ซิม ยาไอซ์1ถุงใหญ่ น้ำหนักรวม100กรัมมีมูลค่าซื้อขายในคุก1ล้านบาททีเดียว และพบยาบ้า1ก้อนเล็กที่ทุบละเอียดอัดในกรอบพระ ฝิ่นดิบ1ก้อนเล็ก ส่วนการลักลอบนำโทรศัพท์พบว่าเข้าไปในเรือนจำใหม่อีกครั้งในรูปแบบต่างๆทั้งขว้างข้ามกำแพงเรือนจำและนำเข้าผ่าน จนท.บางคนหลังตรวจค้นครั้งแรกถึง10กว่าเครื่องทีเดียว  ตอนนี้ยึดโทรศัพท์มาทั้งหมด 300 กว่าเครื่องกำลังแกะข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องเพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่ายการติดต่อของกลุ่มขบวนการทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องการนำเข้าโทรศัพท์มือถือ


"เมื่อคืนที่ผ่านมาขยายผลทราบถึงกลุ่มขบวนการในการนำเข้าโทรศัพท์มือ1ขบวนการใหญ่พอสมควรแต่ขอปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อกระชากหน้ากากผู้ที่อยู่ภายนอกเรือนจำต่อไปผมมั่นใจว่าจะขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า3คนแน่นอน อาจจะมากกว่า3คนหรือ10คนก็อยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะสาวไปถึง เมื่อไหร่ที่มีหมายจับจากเลขาธิการ ปปส.ออกจะเปิดเผยว่ามีใครบ้างที่ถูกออกหมายจับ" ผบก.จ.นครศรีธรรมราชระบุ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335269181&grpid=03&catid=03

ท่าน พล.ต.ต.รณพงษ์  ทรายแก้ว  เพิ่งเลี้ยงรับตำแหน่งไปไม่นานก็ทำงานใหญ่เลย  เยี่ยมครับ  ::002::

น่าชื่นชมครับ งานใหญ่แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมค้าขายกันอึกกะทึกใหญ่โต แต่อยู่ได้มานาน แสดงว่าไม่ธรรมดา ไม่มีใครกล้าจับ  :OO

วันนี้ดูสกู๊ป ข่าว ถึงเวลาหรือยังที่กฎหมายควรจะเพิ่มโทษ ต่อ อาชญากร ในคดีสำคัญๆ..

คนทำผิดซ้ำซาก แล้วยังค้ายาได้ในคุกได้อีก  ควรย้ายไปเข้าเมรุได้แล้วครับ

เฮ้อ.....  บ้านนี้เมืองนี้....



หดหู่ แทนคนนครจริง ๆ

จะได้ดังไปอีกเรื่องไงน้าหลวง ::005::

..........................ต้องเอาจริงเอาจังแบบนี้แหละครับถูกต้องแล้ว.......................................................................... ::014::

งานเข้าล่ะทีนี้... ;D

ไหนว่าตัดสัญญาญมือถือในคุกได้ไง ทำไมไม่ตัด

ถูกต้องครับ แต่ได้สักกี่น้ำบ้านเรา ;D ;D ;D สงสัยครับ

แล้วจังหวัดอื่นๆ  จะเอากันเมื่อไรดี   ???

........................ต้องยึดทรัพย์ทั้งลูกพี่ลูกน้องเลยครับท่าน................................................................... ::014::

หากกวาดล้างกันจริงจังคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้

ผู้ยิ่งใหญ่ในเรือนจำและผู้ที่ใกล้ชิดต้องรู้ดีกว่าใคร ใคร ต้องรับโทษทางวินัยและทางกฎหมายสถานเดียวไม่ใช่สั่งย้ายไปเรือนจำแห่งอื่นจะได้เข็ดหลาบผลของการกระทำ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เรือนจำอื่นๆ  :)

(http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/523277_368737346494680_277411712293911_943751_420423569_n.jpg)

ผิดซ้ำ ผิดซาก  เรื่องเดิมๆ วิธีการเดิมๆ แค่เปลี่ยนตัวละคร และผู้ได้ผลประโยชน์

ไม่ใช่แค่เรือนจำนครฯหรอก  รับรู้โดยทั่วกันอยู่แล้วว่า "เรือนจำ" เป็นอย่างไร

เรื่องแบบนี้ คนริเริ่ม ได้ 2 เด้งแน่นอน 1 ชื่อเสียงกระฉ่อนขจรขจาย 2 ล้างบางอำนาจเก่า

สังคมไทยทุกวันนี้น่าห่วง ยาเสพติดแทรกซึม ซอกซอนไปทุกวงการ

ผลประโยชน์มหาศาล ยากจะละเลย  ไม่เว้นแม้แต่ในวงการสาธารณสุข

ที่น่าจะเป็นที่พึ่ง ที่หวังในการ"รักษาชีวิตคน"  ก็ยังมีคนตกเป็นทาสผลประโยชน์อันมโหฬารนี้

ใครจะมาเป็นผู้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้หนอ  แอบหวัง หวังว่าจะได้เห็นก่อนตาย  :~)

ฮา ขาด  ::005:: ::007:: ::007::

เรื่องแบบนี้ ถ้ามองลงไปให้ลึกกว่า การเป็น "ข่าวอาชญากรรม"

มันคือการ "บริหารจัดการและการตลาดขั้นเทพ"

หนังเรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้น อย่าเพิ่งด่วนสรุป ต้องใช้เวลา ต้องติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ

อย่าให้เหมือนหนังเรื่อง "วีรบุรุษนาแก ตะลุยโต๊ดเถื่อน"  เรื่องนั้นจบยังไงก็ไม่รู้

เพราะ "หนังตกกระแสไปนานแล้ว"   ::003::

เมื่อเช้า เพิ่งขับรถแซงไอ้เจ้าตั้นมา....  หมอนี่เป็นผู้คุมเรื่อนจำที่นคร....

หลังจากได้เป็นผู้คุม พ่อตาก็ให้รถโคโลราโดมาคันนึง ให้ขับไปทำงาน

ผ่านไปปีกว่า มรันก็เบิกอัลติสป้ายแดงออกมาใช้แทน...... แถมออกครูซให้เมียใช้ตามมาติด ๆ

เมื่อเช้า.....มันขับ ฮอนด้า..คลิก...ไปทำงาน      เป็นภาพที่ใครเห็นก็งง


อะไรของมัน..

ไก่ตื่นหมดแล้วครับ.... เรื่องแบบนี้มีทุกที่
แต่ที่โดนเชือด ถือว่าหละหลวมจนจบเห่

อจ.ปราชก็ลาออกไปเป็นผู้คุมบ้างสิครับ รวยไวดี  ;D

นักโทษซิรวยกว่า เพราะนักโทษจ่ายให้ผู้คุมนะ

แหม........นึกภาพนะครับ นักโทษพันสองพันคน โจรสาระพัดรูปแบบ สักลายพร่อย ตาขวางๆ เสพยากัน5-600คนในนั้น

แค่ปกติพวกคลั่งยาข้างนอกก่อเหตุร้ายกันยังน่ากลัว จี้ตัวประกันมั้ง ปล้นฆ่ามั้ง นี่มันอยู่ปาตี้ยากัน5-600ร้อยคน คงสนุกพิลึกครับ  ::007::

+1 ครับ คุณPandanus

เคยได้ยินมาในวงเหล้า ผมก็ไม่ค่อยจะเชื่อว่าจริง ผู้คุมเรือนจำ ปล่อยให้นักโทษยาเสพติดทั้งหลายทำมาหาเลี้ยง

ผู้คุมมีหน้าที่แค่อำนวยสะดวกบ้าง ไม่รู้ไม่เห็น อะไรทำนองนี้ แต่ขอบอกรายได้งามมากๆๆ 5555 ::014::

ฮาก๊ากเลยครับพี่
 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

เด็ดขาดดีครับ ต้องแบบนี้

มีเมียด้วย ??? ดีที่ไม่เจอปืน M16 ด้วยซักกระบอก  :OO :OO :OO

ถ้างั้นผมว่าเราไปสมัครเป็นนักโทษกันเถอะ

ขออนุญาตินำไป share นะครับ

นายณรงค์ ยงค์ณรงค์เดชกุล ผู้บัญชาการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน หลังจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่กรมราชทัณฑ์ จากกรณีพล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช นำกำลังผสมบุกจู่โจมเข้าตรวจค้นเรือนกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พบสิ่งของต้องห้าม ยาเสพติด อุปกรณ์การเสพ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสารจำนวนมาก และมีเจ้าหน้าที่บางส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจกับนักโทษ ว่า ขณะนี้ตนเองกำลังเตรียมเก็บข้าวของ และอยู่ในระหว่างการลาพักร้อน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างที่จะตกใจ แต่ยอมรับว่าปัญหามีจริง แต่เมื่อมีปัญหาแล้วจะต้องแก้ ไม่ต้องมานั่งว่าใครผิดใครถูก ต้องให้กำลังใจคนที่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้ด้วย คนดีๆก็ยังมีในเรือนจำ

 

"อายุราชการเหลืออีก 5 ปี พร้อมที่จะสู้ต่อไปเพื่อประเทศชาติ เรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้วต้านมาตลอด แต่ต้องยอมรับว่าคนเดียวสู้กับคนอีกหลายคนไม่ได้ ข้าราชการก็ต้องเป็นข้าราชการ อย่างที่บอกอำนาจเงินมันเบ็ดเสร็จมาก จนคนดีบางคนต้องถอย แต่ไม่ท้อใจพร้อมสู้ มั่นใจว่าความจริงจะต้องถูกเผยออกมา" นายณรงค์กล่าว

 

เมื่อถามว่าเรือนจำนครศรีธรรมราชจะเป็นแบบอย่างในการปราบปรามเรือนจำทั่วประเทศหรือไม่ว่า ที่นครศรีธรรมราชทำแบบนี้ตนถือว่าดี ส่วนที่เรือนจำอื่นจะผิดกฎหมายเหมือนที่นครศรีธรรมราชหรือไม่นั้นไม่ทราบ รู้แต่ว่าขวัญและกำลังใจ เจ้าหน้าที่หดหายไปมาก


 

"ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราชถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน 3 รายนั้น ยังไม่เห็นคำสั่งเนื่องจากลาพักร้อน กำลังเก็บข้าวของอยู่ วอนสื่อมวลชนเขียนข่าวดีๆหน่อย อย่าให้เรือนจำช้ำไปมากกว่านี้ ให้กำลังใจคนดีๆที่พร้อมจะต่อสู้ด้วย คนดีย่อมมีมากกว่าคนเลวเสมอๆ"นายณรงค์กล่าว

 

ด้านนายเพ็ญพัญตร์ พูลช่วย รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผบ.ไม่อยู่ ลาพักร้อน ข้อมูลต่างๆคงให้อะไรมากไม่ได้ เพราะรักษาการ แต่บอกได้ว่า เจ้าหน้าที่ตอนนี้ขวัญกำลังใจหดหายไปมาก ท้อแท้ หน้าดำคร่ำเครียด ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปหมด บอกลูกน้องว่าให้กำลังใจต่อสู้ คนดีมี 95 คนเลวเพียง 5 ก็อย่าท้อ

“การดูแลก็ยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ยังมีกว่า 40 คน ดูแลนักโทษกว่า 3,000 คน ซึ่งมีกำลังไม่เพียงพอ วันนี้นักโทษในการดูแลมีจำนวน 4,710  ราย แยกเป็นชาย 4,205 ราย หญิง 565 ราย แยกเป็นนักโทษเด็ดขาดชาย 1,251ราย นักโทษเด็ดขาดหญิง 189 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินคดี ยอมรับว่าทุกคนเหนื่อยกับการทำหน้าที่”รักษาการ ผบ.เรือนจำนครศรีฯกล่าว


นายเพ็ญพัญตร์ กล่าว อยากให้ทุกคนเข้ามาดู หรือมาลองอยู่ดูก็จะรู้ว่าเป็นอย่างไร มันอึดอัดขนาดไหน แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือการตรวจตราสิ่งของก็ยังคงเป็นปกติ นักโทษก็อาจจะเครียดบ้าง เพราะปกติก็เครียดอยู่แล้ว


เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงรายหนึ่ง กล่าวว่า วันนี้พวกเราทำงานเหมือนเป็นทาสของนักโทษ จะเอาอะไรก็เกรงใจ จะขออะไรไม่ให้ก็ต่อว่า พอพูดจาหยาบคายก็ฟ้องร้อง จะทุบจะตีก็ไม่ได้ ข้าวดิบก็โวย จับได้ว่าทำผิดถามแบบตำรวจก็ไม่ได้ หาว่าทำร้าย พวกเราท้อใจ หมดกำลังใจ พวกเราทำงานแบบนี้มาตลอดดักจับได้ทุกวัน พอจับถี่เข้ามากๆ ใช้พวกเครือข่ายไปถล่มครอบครัวของผู้คุมบางคนที่ อ.ทุ่งใหญ่ ใช้เอ็ม 16 ไปยิงเลย บางคนก็ไปขู่ลูกสาว พวกคุณคิดดูว่าพวกเราจะรู้สึก อย่างไร ข้างบนเคยรู้กันบ้างไหมว่าเกิดอะไรกับพวกเรา


“ยอมรับว่ามีจริงกระบวนการลักลอบทำผิด กม.ในเรือนจำ แต่ไม่ทุกคน ข่าวออกมาเน่าทั้งเรือนจำ แต่วันนี้พวกเราตกเป็นจำเลยของสังคม เราก็อยากจะบอกว่าพวกเราไม่ใช่ทุกคน ทำความดีเพื่อสังคมกันอยู่ แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เราก็จำยอม แต่จะให้เราออกมารับนั้นไม่จริง”

 

เมื่อถามว่าวันนี้น่าจะยังมียาและโทรศัพท์อีกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงกล่าวว่า มีเข้าออกได้ทุกวัน กำลัง เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ อุดรอยรั่วไม่ได้ อุดรอยนี้ รอยนั้นรั่ว แล้วจะเอาอะไรไปอุด การบุกค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดหน้าปิดตาเข้าไปค้น พวกนักโทษไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ลองเป็นพวกเราดูสิ รับรองว่าจะเข้าไปเดินตรวจตราตามเวรได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ชีวิตแขวนอยู่บนความตายตลอดเวลา อยากเรียกร้องให้สังคมหันมาเห็น อยากให้ตีแผ่ว่าชีวิตผู้คุมเป็นอย่างไร


เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงคนเดิมกล่าวอีกว่า สังคมในเรือนจำเน่าจริงๆเฟะมาก คนดีคุมคนเลวที่เป็นสุดยอดแล้วมารวมกันนั้นจะเอากำลังที่ไหน วันดีคืนดีจับลูกสาวไปข่มขืน วันดีคืนดีขโมยข้าวของ วันดีคืนดียิงใส่บ้าน ใครจะกล้า เราก็กินข้าวเหมือนกัน คนพวกนี้เดนตายไม่กลัวตาย แต่เราไม่กล้า เรายังมีภาระที่จะต้องรับผิดชอบอีกมากมาย

 

“วันนี้หากตรวจอีกก็เจออีก แต่เราจะกล้าตรวจหรือ ตำรวจบอกว่านวด นักโทษก็บอกว่านาบ จับได้จับเอา เงินมาก จ่ายมาก ไม่เดือดร้อน พวกมันตะโกนกล้าจับ มันก็กล้าจ่าย ของยิ่งแพงยิ่งสนุก ของเข้ายาก ลูกค้าก็ต้องจ่ายหนัก ท้าไม่กลัว แล้วเรายืนตาดำๆจะทำอะไรได้ เอาข้าวไปให้กินยังกับว่าต้องไปกราบกรานพวกมัน พวกคุณลองเข้ามาอยู่สิ โดยเฉพาะนักข่าวหญิงผมว่าไม่เกิน ชั่วโมงคุณก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร หรือทั้งหมดนี้ลองดูมั้ย หาเรื่องเข้ามาอยู่ในเรือนจำดู คุณจะเข้าใจหัวอกของเราว่ารู้สึกอย่างไร”เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนดังกล่าวระบุ

 

เมื่อถามว่ามีบ่อนการพนันจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนเดิมกล่าวว่า วันนี้มีหมดแหละ อะไรที่ว่าอบายมุขมีทุกอย่าง นักโทษกลุ่มนี้เดนตายไม่กลัวความตายอยู่แล้ว ต้องปลดปล่อยตัวเองให้มากที่สุด ทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้ตัวเองมีเงินใช้ คนที่บ้านไม่เดือดร้อน ออกไปอยู่ภายนอกก็ไม่มีใครยอมรับสู้นอนสบายๆมีเงินใช้ ครอบครัวมีความสุข

 

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์คนหนึ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า  เจ้าหน้าที่เรือนจำหรือผู้คุมต้องปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเสี่ยงขนาดไหน ซึ่งตำรวจจับกุมและควบคุมผู้ต้องหาแค่คนเดียวใช้กำลังหลายสิบนาย แต่ผู้คุม 5-6 คนต้องควบคุมดูแลนักโทษนับพันคน แต่ละคนมีอาวุธมีดดัดแปลงปลายแหลม  พร้อมที่จะทำร้ายผู้คุมตายได้ทันที ที่สำคัญพวกนักโทษเหล่านี้มันรู้และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้คุมทุกคนรายละเอียด เช่น มีบ้านอยู่ที่ไหน เมียทำอะไร ลูกเรียนหนังสือที่ไหน

 

"ดังนั้นหากผู้คุมเข้มงวดกวดขันใครจะรับผิดชอบในชีวิตและทรัพย์ของตัวผู้คุมรวมทั้งลูกเมีย เพราะนักโทษเหล่านี้มีเครือข่ายอยู่นอกเรือนจำกว้างขวางมาก หากผู้คุมเข้มงวดกวดขันพวกเขาสามารถโทรศัพท์สั่งการให้เครือข่ายนอกคุกไปดักทำร้ายผู้คุมและครอบครัวเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากให้เข้าใจ เห็นใจผู้คุมในเรือนจำบ้าง"เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335354017&grpid=03&catid=03

ทุกอย่างต้องใช้ไฟฟ้า วางระบบไฟฟ้าใหม่

ความคิดผม เองครับ

+ 1 เห็นด้วยกับคุณโรจน์ ครับ 

เคยพูดกันเล่นๆมานานแล้ว อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างในคุก

ต้องใช้ไฟคนละระบบกับนอกคุก แค่นี้ก็จบครับ.......

กลับไปใช้ระบบการลงโทษแบบของไทยเราที่เคยใช้มาแต่โบราณดีกว่าครับ
คือ การลงโทษที่เนื้อตัวผู้กระทำผิด ไม่ต้องกักขังจำคุกเหมือนปัจจุบัน

เปลี่ยนเป็น ๑๑๐ เดี๋ยว ก็มีหม้อแปลง
หรือ พวกอาจจะเดินสายร้อย ก็ได้
เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้า มันอยู่กับที่

เพราะจากที่เห็นภาพข่าว
ท่อพีวีซี รูร้อยสายไฟ ระหว่างกำแพง
ท่อที่เดินลอยผนังด้านบน
ล้วนจะซุกซ่อน

ไม่ได้ผลทั้งนั้นครับนอกจากติดตั้งเครื่องตัดสัญญาญมือถือเอาไว้

เพราะ มือถือ เครื่องชาร์จ แบต มันมาจากข้างนอกครับ ดัดแปลงระบบไฟฟ้าอย่างไร

คนข้างนอกก็ดัดแปลงให้มันใช้กันได้ก่อนส่งเข้ามาอยู่ดีครับ

แต่ต้องยอมรับว่าคนเดียวสู้กับคนอีกหลายคนไม่ได้

แต่ละคนมีอาวุธมีดดัดแปลงปลายแหลม  



ถ้ากลัว ก็อย่าเป็นเลยครับ  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

เพราะหน้าที่ ก็คือหน้าที่  คุณรู้อยู่แล้ว ว่า หน้าที่ที่จักต้องทำ คือ อะไร

เป็ดบอก  เอานักโทษยาเสพติด ไปอยู่รวมกัน
ต้องสร้างคุกใหม่

แล้วเป็นงัย
ที่เก่า ยังง่ายดาย

ที่ใหม่ คงจะสุขอุรา
จัดฉาก กันไป

นักโทษบอก รายได้ วันละ สามล้าน

เคยเจอผู้คุมเรือนจำระดับประเทศ  ใส่เลสทองคำข้อมือหนัก10บาท  จีบเมียผู้ต้องขังที่จะฝากของด้วย  ทั้งๆที่ญาติอยู่40-50คนไม่เกรงใจกันเลย  แต่เธอก็สวยจริงๆ

........................ถ้าเป็นแบบสมัยก่อนจัดหนักอย่างเดียว..ทุกวันนี้ลงโทษแบบเดิมๆก็ไม่ได้ผมว่ากลุ่มสิทธิเข้ามาแน่ๆต้องให้พวกกลุ่มสิทธิมาเป็นผู้คุมลองดู.......กฎหมายให้สิทธิมากเกินไปครับคุกเลยเสียสมดุลครับผมว่านะ............. ::014::

เห็นด้วยครับครับ พ่อของแฟนเป็นผู้คุมอยู่ ท่านบอกว่าเดี๋ยวนี้ พวกกระบอง มือ เท้า ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะพวกสิทธิเนี่ยแหล่ะ เสี้ยมสอนให้ร้องเรียนหัวหน้า (ผู้คุม)
ท่านบอกว่าพวกที่อยู่ข้างใน ถ้าเป็นคนดีก็คงไม่ต้องใช้กระบอง แต่พวกนี้ แค่สั่งสอน มันยังมองหน้าไม่พอใจ  ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

เห็นด้วยอีกคนครับ  จะออกกฎหมายแรงๆ พวกนี้ก็คอยขวาง  ผมว่าน่าจะใช้กฎหมายแบบเดียวกับมาเลย์ และ สิงคโปร์ พวกยาเสพติด ประหารลูกเดียว :~) :~)           

เห่อๆๆพี่ๆข้างบนแสดงความเห็นกันลึกซึ้งดีแสดงว่าเป็นชาวราชทัณฑ์ด้วยนะเนี้ย  ::002::

อื่มมมมม......งั้นแสดงว่า ปัญหาทั้งหมดของคุก คือ "ผู้คุม"

ฟังจนท.ราชทัณฑ์พูดแล้ว...หดหู่ใจครับ

สะท้อนถึง...ความสำนึกในหน้าที่

ผมเห็นใจครับ...

แต่ไม่เข้าใจว่าคิดอย่างนั้นได้อย่างไร

ปล่อยปละให้กลุ่มนักโทษใหญ่  จนควบคุมไม่ได้   >:( >:(

................................จนท.ลงโทษหนักก็โดนร้องเรียน.กฎหมายคุ้มครองแต่คนเลว....คนดีโดนบ้างไม่เห็นเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเขาบ้างเลยกินอยู่ยังไงแต่ละวัน...............ส่งไปอยู่สมอแดงเลยครับ............................ ::014::

สมอแดง ของ ทร.เขาครับ

...................................................................รท.เอาไม่อยู่ก็ส่งให้ทร.เลยครับท่าน.......................................................... ::014::

ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกะความเป็นอยู่ การปกครองในเรือนจำนะครับ

มันเรื่อง "ผลประโยชน์ล้วนๆ" 

การปฏิบัติกับนักโทษในเรือนจำ ก็ควรเป็นไปตามครรลองที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปทำทารุณ ใช้อำนาจมืด ศาลเตี้ย 

ในเรือนจำ ไม่ได้มีแต่ "แลน" คนบริสุทธิ์ คนรู้น้อย คนเป็นเหยื่อ เป็นแพะ ก็ไม่น้อย

 ;D คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

สรุป ผู้คุมกับนักโทษผลประโยชน์ลงตัว  :OO :OO :OO :OO :OO

  :( อืมม ถูกต้องแล้วครับ   พอผลประโยชน์ลงตัว ก็สบายกันทุกคน ตำแหน่งก็เดินไว  ::004::

ขู่สวป.เลยนะ  ::013::



ลงดาบกินตรวนผู้คุมเรือนจำนครศรีฯ

ฟังเสียง


การติดตามแก้ไขปัญหาภายในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อ 6 พ.ค.55 นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ 7 พ.ค.55 นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการจะเดินทางมาพร้อมด้วยคณะกรรมชุดสอบสวนข้อมูลจากข่าวเผยแพร่ออกไปที่เกี่ยวข้องกับผู้คุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเช่นเรื่องของการกินตรวน เรื่องของการประพฤติมิชอบในรูปแบบต่างๆ และกรรมการอีก 1 ชุดที่มาสอบกรณีการค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และกรณีที่มีความเชื่อมโยงกับผู้คุม

"ในส่วนของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เชื่อว่าของต้องห้ามต่างๆไม่สามารถเข้ามาในเรือนจำได้ในทางประตูด้านหน้าอย่างแน่นอน เพราะทุกคนอยู่ในสภาพผวากับโทษทัณฑ์ที่จะได้รับหากประพฤติมิชอบหรือหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนภายนอกเรือนจำได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรวมทั้งการป้องกันการส่งของต้องห้ามหรืออื่นๆเข้ามาโดยการโยนข้ามกำแพง ซึ่งได้ติดไฟฟ้าส่องสว่างชนิดสปอร์ตไลท์กำลังสูงรอบเขตรั้วเพื่อสามารถมองเห็นกรณีบุกเข้ามาขว้างสิ่งของได้ง่ายขึ้น" ผบ.เรือนจำนครศรีธรรมราชกล่าว

นายสุรพล ยังกล่าวต่อว่าในเรื่องของยาเสพติดที่ยังหลงเหลือในเรือนจำนั้นแม้ว่าจะราคาสูงมากขึ้น และยาเสพติดที่มีนั้นถูกซุกซ่อนตามจุดต่างๆแนบเนียนมากทางหนึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามตรวจค้นและยึดออกมาดำเนินคดี อีกทางหนึ่งเชื่อว่าพวกที่เสพยานั้นจะต้องเสพไปเรื่อยๆ ที่มีอยู่นั้นจะต้องค่อยๆหมดไปแน่นอน เนื่องจากไม่สามารถเพิ่มเข้าไปในเรือนจำได้

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานายพิศาล นุกูล หรือที่รู้จักในนาม "บังมะ" นักโทษคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญ ได้โทรศัพท์ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดในการจับกุมนายพิศาล พร้อมด้วยพวกอีก 3 คนมีของกลางเป็นยาเสพติดหลายรายการพร้อมด้วยอาวุธปืน 11 มม. 2 กระบอก โดยนายพิศาล หรือบังมะ ได้โทรศัพท์ข่มขู่ สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทำนองว่าให้ระวังตัวจะถูกล้างแค้นที่จับนายพิศาลจนต้องโทษในเรือนจำ ก่อนที่จะวางสายไป และเมื่อ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมทราช โทรศัพท์ย้อนกลับไปปรากฏว่าปลายสายปิดเครื่องไปแล้ว

เอารูปมาประกอบกระทู้เสี่ย......เพิ่งผ่านไปเมื่อวาน ;D

(http://image.ohozaa.com/i/3b7/zN2P9.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w3FnSQXabVED6zXG)

บีบแตรลงไปบอกเลยครับเสีย อย่าฉาวนักแรงติ๊  ::005::

ให้คนที่(ต้อง)รับผิดชอบเขาทำหน้าที่ฯไปเต๊อะ.... ;D

แอ๊ะ สุรพล แก้วพราดัย เพื่อนผมสมัยเรียน ม.ราม  เจอกันครั้งสุดท้าย เมื่อปี ๒๕๒๙   ไปเป็นคนคุก แถวอีสานใต้ ซะหลายสิบปี .

ได้กลับ บ้าน ซะที  ::008::

เพิ่งอ่านหนังสือสอบกรมราชทัณฑ์ไป ในหนังสือสอนว่า หน้าที่ของกรมราชทัณฑ์หน้าที่หนึ่งคือ

"แก้ไข ฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้กลับคืนเป็นคนดีสู่สังคม"

แต่เห็นข่าวนี้แล้ว พูดไม่ออกเหมือนน้ำท่วมปากเลยครับ...  :( :( :( :( :( :( :( :( :(