เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ฮีทสโตรก โรคที่เกิดช่วงหน้าร้อน

  ปัจจุบัน ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะนับวันอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้สภาพอากาศร้อนจัดกว่าทุกปี ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหลาย
โรค เช่น โรคในระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการรับประทานอาหาร และน้ำที่มีเชื้อโรคปน เปื้อนเข้าไปซึ่ง
เกิดบ่อยที่สุด แต่โรคที่มีการพูดถึงกันน้อย คนเป็นบ่อยช่วงหน้าร้อนคือ "โรคฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด"
(Heat Stroke) แต่บางที่ก็เรียกว่า "โรคอุณหพาต" หรือ "โรคลมเหตุร้อน" นั้นเอง


อาการของโรค ฮีทสโตรก

          โรคฮีทสโตรก เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่าง-
กาย(core temperature) สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาการที่เบื้องต้น ได้แก่ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้าง่าย และยังอาจมีผลต่อระบบ
ไหลเวียน ซึ่งอาจมีอาการเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ภาวะขาดเหงื่อ, เพ้อ, ชัก, ไม่รู้สึกตัว, ไตล้มเหลว, มีการตายของ
เซลล์ตับ, หายใจเร็ว, มีการบวมบริเวณปอดจากการคั่งของของเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, การสลายกล้าม-
เนื้อลาย, ช็อค และเกิดการสะสมของ fibrin จนไปอุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว
ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้



ผู้ป่วย โรคฮีทสโตรก สามารถแบ่งตามสาเหตุการเกิดโรคออกเป็น 2 ประเภท คือ

           - Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดในช่วง
ที่ มีอากาศร้อน พบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากและมีโรคเรื้อรัง มักเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
อาการที่สำคัญ คือ อุณหภุมิร่างกายสูง, ไม่มีเหงื่อ

           - Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่ม
ผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับ Classical แต่ต่างตรงที่กลุ่มผู้ป่วยประเภทนี้จะมีเหงื่อออก นอกจาก
นี้ยังพบการเกิดการสลายเซลล์กล้ามเนื้อลาย โดยจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมในเลือด-
สูง ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และพบไมโอโกลบินในปัสสาวะด้วย


บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก

          บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ ทหารที่เข้ารับการฝึก โดยปราศจากการเตรียมสภาพ
ร่างกายให้พร้อมในการเผชิญสภาพอากาศร้อน รวมถึงบรรดานักกีฬาสมัครเล่นและผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศ
ที่ร้อนชื้น รวมทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัด และผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย



สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก

          สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก ก็คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน
ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่ว ๆ ไป ที่จะพบว่ามีเหงื่อออกด้วย
หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที


หากพบเจอผู้เป็นโรคลมแดดสามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดย

           -นำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก

           -ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศรีษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบาย
ความร้อน

           -เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล


วิธีการป้องกันโรคลมแดด คือ

           -หากรู้ว่าจะต้องไปทำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน ก็ควรเตรียมตัวโดยการออกกำลังกายกลาง
แจ้งอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน

           -ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน
หรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่า
จะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

           -สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี

           -ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ขึ้นไป

           -หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด

           -หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ แก้น้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกาย หรือการอยู่ท่ามกลางสภาพ
อากาศร้อนเป็นเวลานาน

           -หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพย์ติดทุกชนิด

           -ในเด็กเล็กและคนชราควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และ
อย่าปล่อยให้เด็กหรือคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง

จากhttp://health.kapook.com/view10543.html (http://health.kapook.com/view10543.html)

  ขอบคุณครับ น้าหมอซับ สำหรับ ข้อมูลดีๆ ::002:: ::014::

  ขอบคุณครับน้าซับ  แป๋งใช้วิธีนอนแช่ตัวในอ่างน้ำครับ  มีผ้าขนหนูผืนขาวจั๊วเคียงข้างช่วยคลายร้อน ::002::

เคยมีคนดื่มเหล้าแล้วตาย เมื่อสักหน้าร้อน สองปีที่แล้วครับ
พอดี ในห้องด้ามขวาน มีข่าวดื่มเหล้าแล้วตายอีก เลยมาบอก

คนดื่มระวังนะครับ อย่าฝืนตัวเอง... จะไำด้อยู่ดื่มด้วยกันนานๆ

อันตรายมากขึ้นทุกวันเลยครับ

  น้าแป๋ง แกไม่เป็น หรอกครับ ฮีทสโตรก อย่างแก น่าจะเป็นโรค "ช็อตสโตรก" ที่แปลว่า
"ช่วงชักสั้น" มากกว่า ไปละ อะฟิ้ววว... ::005:: ::014::

     ::007:: ::007:: ::007::อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดเล่นสิครับ

ผมห่วงน้าซับ สโตรค แล้วตายง่ะ ยิ่งโสดๆอยู่

วิ้ววววว   ไม่อยากเล่นมุขนี้กะฯเล้ยยย แต่ดันตั้งกระทู้เย้ยฟ้าท้าดินเหลือเกิ๊นนน ::005:: ::007::

 เรามัน หัวอกเดียวกัน อย่าเอ็ดไป อิ อิ อิ... ::007:: ::014::

ช่วงนี้ผมเดินมากกว่า วิ่ง

 ::014:: ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มอบให้ครับ  ::014::

 ::004:: วันนี้ก็มีข่าวทหารเรือนอนตายในรถของตัวเอง หลังจากไปดื่มฉลองกันมา  ::004:: ต้องระวังรักษาสุขภาพให้ดี ในช่วงนี้  :'(

ขอบคุณน้าซับครับ ....................

กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลย ..................

  จะ6โมงเย็นแล้ว ผมไม่กล้าสตาร์ท ขวดแรกเลย โรคนี้ชื่อเรียกยาก น่าจะร้กษายาก
เดี๋ยวรอ อากาศร่มๆอีกหน่อย ก็ยังไม่สาย อิ อิ อิ.. ::005:: ::014::
   วินมอเตอร์ไซค์ แถวบ้าน นั่งดื่ม เสร็จไปอีกราย เมื่อ4-5วันก่อน ::012::

เพราะน้าซับนี่แหละทำเอาผมอดเบียร์เลยวันนี้....โทรมาตั้งแต่รถยังไม่ถึงหมู่บ้านเลย

วันนี้อย่าซื้อเบียร์มานะ รู้ไม๊หน้าร้อนมีคนเมาตายแล้วด้วย ::005:: ::002:: :D

มัจจุราชเงียบ.....หัวใจฯ  ::014::

เขาพนมผวามีผู้เสียชีวิตจากการเป็นลมตายแล้ว4ศพ

ฟังเสียง

วันที่ 26 เมษายน 2555 แพทย์โรงพยาบาลเขาพนม จ.กระบี่ ได้รับผู้ป่วยจากอาการเป็นลมหัวใจหยุดเต้นมารักษาตัว แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนายไพบูรณ์ พนาพิทักษ์กุล อายุ 47 ปี ซึ่งแพทย์ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีอาการคล้ายเป็นโรคหัวใจ ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่อยู่ระหว่างนายไพบูรณ์ทำสวนปาล์มน้ำมันแล้วเกิดเป็นลมช็อกหมดสติ แพทย์ได้ปั้มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ สำหรับการเสียชีวิตของนายไพบูรณ์ในครั้งนี้นับเป็นรายที่ 4 ในรอบเดือนนี้แล้ว ที่มีอาการเดียวกัน

ร.อ.สันติ ยูถนันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาพนม กล่าวว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยรายล่าสุดนี้มีอาการคล้ายกันกับผู้เสียชีวิตที่ผ่านมาโดยรายแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน ผู้ตายคือนายธวัชชัย ส่องสี อายุ 30 ปี รายที่ 2 วันที่ 14 เมษายน ผู้ตายคือนายสุรินทร์ เพชรเล็ก อายุ 52 ปี รายที่ 3 วันที่ 21 เมษายน นางสิริพร จันทร์หวาน อายุ 58 ปี และรายล่าสุดคือวันนี้ (26 เม.ย.) นายไพบูรณ์ พนาพิทักษ์กุล อายุ 47 ปี

จากการตรวจสอบประวัติและอาการของผู้ป่วยทั้ง 4 รายนี้พบว่ามีลักษณะคล้ายกันคือหัวใจหยุดเต้น หรือที่เรียกว่าเป็นลม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามาจากเหตุใด แต่ที่สันนิษฐานไว้คือ อาจมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ และเรื่องของอากาศที่ร้อนอบอ้าว ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาล คงต้องมีการสำรวจและวิเคราะห์หาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง เพราะลักษณะที่เกิดขึ้นถึง 4 รายในห้วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นถือว่าไม่ปกตินัก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ชาวบ้านต่างร่ำลือถึงการเสียชีวิต ว่ามาจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว

คนไทยตายกันเยอะครับจากโรคนี้ ช่วงนี้ ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว เนื่องจากเราอยู่กับอากาศร้อน จนคิดแค่ว่า "ทนได้ ๆ " น่าเป็นห่วงครับ

+1 ครับ ;D ;D ;D

ปีนี้ร้อนทรมานใจจังครับ