เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: sig_surath7171 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 02:03:53 PM



หัวข้อ: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 02:03:53 PM
อเมริกาได้ส่งนักบินอวกาศ ไปสำรวจนอกโลก เป็นประเทศแรกๆ ของโลก .. แต่!
ประสบปัญหาในการบันทึกข้อมูล ในสภาวะไร้น้ำหนัก คือ "ปากกาเขียนไม่ออก"

จึงได้ระดมปัญญา นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากหลายประเทศ .. มาเพื่อร่วมกันคิดค้นและ
ประดิษฐ์ปากกาที่สามารถเขียนติดได้ ในสภาวะที่ "ไร้แรงโน้มถ่วง" ..

พวกเขาทุ่มเงิน [̲̅1̲̅0̲̅0̲̅$̲̅] หลายร้อยล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ และใช้เวลาอยู่หลายปี
จนในที่สุด! .. ก็ได้ปากกา ที่สามารถเขียนได้ทุกพื้นผิว ทุกสภาวะ หรือแม้แต่ ใต้น้ำ

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศศักดฺาว่า .. สหรัฐฯ ได้ประสบความสำเร็จ ในการคิดค้น
โครงการ "ปากกานอกโลก" นี้ เป็นประเทศแรกของโลก !!! .. ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ของประเทศสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก ..

แต่! ในเวลาเดียวกันนั้นเอง "นักบินอวกาศ" ของ ประเทศ "รัสเซีย" .. ก็กำลังประสบ
ปัญหา เดียวกันอยู่ .. ในทางกลับกัน พวกเขากลับไม่รู้สึกแปลกใจ แต่อย่างใดเลย ..
และนักบินอวกาศ ของรัสเซีย .. ก็ได้ใช้ "ดินสอ" เขียนบันทึก แทน "ปากกา" นั่นเอง

[ปากกา 100 ล้าน Vs ดินสอ 10.- Bath]

*** เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า .. หากมีปัญหาหรือสถานการณ์ใดเกิดขึ้นกับเรา ขอจง
ให้ความสนใจไปที่… วิธีที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ มากกว่า วิธีที่จะแก้ปัญหาที่ ..

** บางที .. ความจริงที่เราค้นพบ ก็อาจจะเป็นได้ว่า … มันไม่มีปัญหาอยู่เลย ก็ได้
* ยืนสงบนิ่ง 10 วินาที เพื่อไว้อาลัยให้กับการจากไป ของ "ปากกาวิเศษ U.S.A."


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 02:09:35 PM
ไม่รู้จะยกย่องหรือสมน้ำหน้าดี ::007::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 02:13:08 PM
บางครั้งการคิดมาก็ไม่ดี ;D


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: ตูมตาม - รักในหลวง - ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 03:51:13 PM
"ดินสอ"....ไม่มีวันตาย... :).








หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:11:49 PM
จะเชื่อไหม ผมอ่าน พบ เรื่องนี้ นานมากน่าจะพ้น ๑๐ ปี มาแล้ว และเรื่องนี้ ละทำให้ผม

ได้หลักติดในการมองปัญหา เพื่อแก้ปัญหา  และหันมามอง หลักคิดวิพากษ์วิธี ที่ตัวเอง เคยสัมผัสก่อนหน้านั้นมาแล้วราว ๒๐ ปี
มาปรับใช้ รวมกัน ..  เวลามองปัญหาใด หรือ เรื่องราวใด บางครั้งเห็น ปัญหา แล้วไม่คิดว่ามีปัญา แต่อย่างใดเลย   :D


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:19:41 PM
ตอนสูบบุหรี่อยู่จะจดเบอร์โทร  ผมก็เผากิ่งไม้ที่หยิบฉวยได้  เขียนบนพื้นคอนกรีตก็พอได้ความจำไม่ดี


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:36:54 PM

เดี๋ยวก็มีเรื่อง กล่องสบู่ ที่ไม่มีสบู่ ครับ

เราจะทำอย่างเพื่อที่จะได้รู้ว่า กล่องไหนมี กล่องไหน ไม่มี

เมื่ออยู่ในสายการผลิต


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: ขวัญชัย - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 05:20:31 PM

เดี๋ยวก็มีเรื่อง กล่องสบู่ ที่ไม่มีสบู่ ครับ

เราจะทำอย่างเพื่อที่จะได้รู้ว่า กล่องไหนมี กล่องไหน ไม่มี

เมื่ออยู่ในสายการผลิต



เอาลมเป่าครับ


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 06:26:17 PM


แหม เอามาเฉลย  ก็ไม่มีต่อยอด สิครับเนี่ย..............


อยู่ที่วิธีคิด การนำมาต่อยอด บางครั้ง ไม่ต้องการอะไรมากมาย

แต่ผลที่ได้ มันอยู่ตรงหน้า นี่เอง


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 06:34:17 PM
เป็นข้อคิดที่เยี่ยมยอดมาก  ของดี  สิ่งที่สามารถแก้ปัญหาได้อาจอยู่ใกล้ตัว  หากคิดสักนิดแล้วก็จะเจอ


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: BalTaZA ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:31:40 PM
สงสัยหนังเรื่อง 30โสด On sale เอาเรื่องนี้ไปใส่ในหนัง
นางเอกจะไปขั้วโลกเหนือ เลยตามหาปากกาที่เขียนในสถานที่อุณหภูมิ ติดลบ20องศา  ราคาหลายหมื่น
แต่ไม่สามารถหาซื้อได้

พระเอกเลยเอาดินสอไปแช่ช่องฟริสแล้วลองเขียนดู +เอาให้นางเอกใช้


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:32:31 PM

                                      :D


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: babygun ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:55:26 PM
ในกระเป๋าที่ผมสะพายติดตัวตลอด บางที่ปากกาผมไม่มีหรอกครับ แต่ดินสอนี่ผมไม่เคยขาด ใช้ได้ในหลายสถานการณ์ครับ ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:28:02 AM
หลักคิด ที่ได้จากกระทู้นี้..  การเก็บกระสุนปืน ทิ้งไว้นาน ๆ กันน้ำ.. ทิ้งลืม แบบไม่ต้องหันไป แล กันอีก
ใช้ขวดน้ำ ขนาด ๖๐๐ CC  ตากแดดให้แห้ง ใส่กระสุนปืน

เวลาจะใช้ ก็หยิบไปทั้งขวด เทจากปากขวด ถ้าต้องการอย่างไว ก็ใช้มีดกรีด กลางขวด แล้วแบะ ออก 

ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อกล่องกระสุน . ของใกล้ตัวนี้ ใช้ได่ดีกว่ากล่องเก็บกระสุน ซะอีก
และยัง ควั่นคอขวด มาใช้ เป็นฝาปิด-เปิด กับถุงพลาสติก ได้อีก.  ;D


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: amfine02 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:46:04 PM
ใสมากค
ตอนสูบบุหรี่อยู่จะจดเบอร์โทร  ผมก็เผากิ่งไม้ที่หยิบฉวยได้  เขียนบนพื้นคอนกรีตก็พอได้ความจำไม่ดี
ใสมากครับพี่ ::b


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: #โชกุน# ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 04:40:54 PM

ชอบครับ +1 ให้  :D


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 04:55:19 PM
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ...

บังเอิญนายสมชายผ่านโลกมา 2 ด้านที่สุดโต่งกัน คือจบปริญญาโท Computer Science กับจบโทบริหารธุรกิจด้วย... บอกได้เลยว่าสองพวกนี้คิดแก้ปัญหากันคนละแบบ คือพวกสายคอมพิวเตอร์จะพยายามหา"ของยาก"เล่น, และในวงสนทนาก็จะพยายามคุยอวดกันในหมู่เพื่อนฝูงว่าที่ฉันเรียนมานั้นเรียนชนิดยากๆ ฉันเก่งที่สุด เพราะสิ่งที่ฉันเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะเออ จะใช้ข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ต้องใช้ของยากๆ (สมัยหนึ่งนิยมขับรถเกียร์กระปุก ใช้กล้องถ่ายรูปแมนน่วล เขียนโปรแกรมด้วยภาษาปาสคาล เป็นต้น)...

ในขณะที่โลกของพวกบริหารธุรกิจ ก็จะพยายามหาของ(เครื่องมือ)ให้เล่นง่ายที่สุด, เช่นจะเขียนโปรแกรมดึงข้อมูล ก็พยายามใช้เครื่องมือที่อัตโนมัติลากแปะฯ... ซึ่งทางฝั่งวิศวกร ก็มักบอกว่ามันง่ายเกิน และควบคุมไม่ได้ดังใจ, ในขณะที่ทางฝ่ายบริหารธุรกิจก็บอกว่าเล่นของยาก ก็เหมือนเดินนับไม้หมอนรถไฟไปเชียงใหม่ครับ...


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 06:22:48 PM
เพราะบทความนี้แหละ ทำให้ผมเสียเงินซื้อปากกา Fisher Spacepen มาใช้
ปากกาใช้ดีนะครับ แต่ตอนนี้หมึกหมด หาซื้อยากมากและหมึกแพงด้วย
ก็เลยเก็บไว้ในลิ้นชัดเพื่อเป็นอนุสรณ์ ว่าครั้งหนึ่ง เราก็บ้าซื้อปากกาแพงๆ กับเค้าไปเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 07:48:59 PM
เนื่องจากปากกาธรรมดาๆทั่วไปนั้นทำงานไม่ได้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง ปากกาที่ไม่ธรรมดาหรือปากกาอวกาศจึงเกิดขึ้น  นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่าใช้เวลานาน หลายต่อหลายปีและเงินจำนวนนับล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาปากกาที่สามารถเขียนได้ในอวกาศ เพื่อให้น้ำหมึกในปากกานั้นไหลลงมาที่กระดาษเมื่อเราเขียนในสภาพที่ไร้แรงดึงดูด (Gravitational force) ในขณะที่สหภาพโซเวียตใช้ดินสอเทียน (grease pencils) ซึ่งราคาถูกกว่าปากกาอวกาศตั้งเยอะ   

จริงหรือที่นาซ่าถึงได้ทุ่มงบประมาณนับ ล้านเหรียญ และเวลาจำนวนมากเพื่อพัฒนาปากกาอวกาศที่ไม่ธรรมดาอันนั้น  ดินสออวกาศ ในอดีต จากบันทึกประวัติศาสตร์ของนาซ่า นักบินอเมริกันก็ใช้ดินสอเทียนในการขีดเขียนบันทึกข้อมูลในสภาพไร้แรงดึงดูดเหมือนๆกับนักบินโซเวียต ที่จริงในปี 1965 นาซ่าได้สั่งซื้อดินสอกล (Mechanical pencils) จำนวน 34 ด้าม จากบริษัท Tycam Engineering Manufacturing ในฮุสตัน สหรัฐอเมริกาในราคาด้ามละ 228.89 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 4,382.50 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อยอดเงินในการสั่งซื้อปากกาของนาซ่าออกเผยแพร่สู่สาธารณชนในภาพที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้นาซ่าจึงต้องคิดหาวิธีการใหม่เพื่อให้ประหยัดงบประมาณลง   ดินสอนั้นก็ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากปลายของมันจะแตกเป็นขุยและหักออก และเมื่อมันลอยคว้างไปมาอยู่ในยานอวกาศอาจจะไปทิ่มเอานักบินอวกาศหรือเครื่องไม้เครื่องมือในยานก่อให้เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ดินสอยังเป็นวัสดุที่ติดไฟ (flammable) ซึ่งนาซ่าไม่ต้องการให้มีการนำเอาขึ้นไปบนยานหลังจากที่ ยาน Apollo 1 ได้เกิดเพลิงไหม้  ปากกาลูกลื่นอวกาศ

ในขณะเดียวกัน นาย Paul C. Fisher เจ้าของบริษัท Fisher Pen Company ได้ลงทุนจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาและผลิตปากกาอวกาศ (โดยไม่ได้รับทุนจากนาซ่าแต่อย่างใด) และได้จดลิขสิทธิ์ในปี 1965   ปากกาไม่ธรรมดานี้สามารถเขียนกลับหัว เขียนได้ในพื้นที่ไม่ว่าจะหนาวจัดหรือร้อนจัด ตั้งแต่ -50 ถึง 400 องศาฟาเรนไฮน์ หรือแม้แต่เขียนใต้น้ำหรือจุ่มในของเหลวชนิดอื่นๆ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าร้อนเกินไปแล้ว น้ำหมึกจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเขียวก็เท่านั้นเอง   หลังจากนั้น Paul Fisher ได้นำเสนอแนวคิดปากกาตัวใหม่นี้แก่นาซ่า แม้จะไม่ได้รับการยอมรับมากนักในระยะแรก แต่เมื่อได้ผ่านการทดสอบเป็นที่ประจักษ์แล้ว ปากกาดังกล่าวถูกเรียกว่า AG-7 ?Anti - Gravity? Space Pen หลังจากนั้นสหรัฐฯได้ตัดสินใจในปี 1967 ว่าจะใช้ปากกาอวกาศนี้ในอนาคต   ปากกาอวกาศของ Fisher นั้น ทำงานโดยไม่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลก โดยเก็บหมึกไว้ในตลับหมึกกับความกดดันของไนโตรเจนที่ 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มากกว่าความกดดันอากาศที่ระดับผิวน้ำทะเลบนพื้นผิวโลกสองเท่าตัว และความกดดันนี้จะผลักหมึกให้ออกมาผ่านลูกลื่น (หรือลูกบอลทังสเตนคาร์ไบด์) ที่ปลายปากกา ส่วนน้ำหมึกก็เป็นน้ำหมึกที่ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน มันมีสภาพคล้ายเจล และเมื่อลูกลื่นขยับมันก็จะเปลี่ยนเจลเป็นของเหลว (น้ำหมึก) นอกจากนี้ไนโตรเจนที่อัดอยู่ภายในปากกายังป้องกันมิให้อากาศเข้าไปปะปนกับน้ำหมึก เพื่อป้องกันการระเหย (evaporate) และทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (Oxidize)  จากรายงานของ Associated Press เปิดเผยว่าในปี 1968 นั้นนาซ่าได้สั่งซื้อปากกาอวกาศจากบริษัทของ Fisher จำนวน 400 ด้าม สำหรับโครงการเยือนดวงจันทร์โดยยานอะพอลโล่ ในปีต่อมาสหภาพโซเวียตได้สั่งซื้อปากกาอวกาศจำนวน 100 ด้ามและตลับหมึกจำนวน 1,000 ตลับ (สำหรับเปลี่ยนเมื่อหมึกหมด) เพื่อใช้ในโครงการ Soyuz space mission ทั้งประเทศสหรัฐเมริกาและสหภาพโซเวียตได้รับส่วนลด 40% ทำให้ราคาลดจาก 3.98 เหรียญสหรัฐฯมาอยู่ที่ 2.39 เหรียญสหรัฐฯ   ฉะนั้น ข้อเท็จจริงก็คือ นาซาซื้อปากกาจริงแต่ไม่ได้ใช้เงินเป็นล้านเหรียญในการซื้อหรือพัฒนาปากกาอวกาศ เพราะนาย Paul C. Fisher ได้ทุ่มทุนจำนวนดังกล่าวในการพัฒนา และจดลิขสิทธิ์เป็นเจ้าของไปแล้ว

สรุป

ตอนแรกก็ใช้ดินสอทั้งอเมริกาและรัสเซีย

ตอนหลังก็มาใช้ปากกาทั้งอเมริกาทั้งรัสเซีย

โดยคนที่ลงทุนวิจัย คือ Paul C. Fisher เจ้าของบริษัท Fisher Pen Company ใช้เงินลงทุน 1 ล้านเหรียญ ไม่ใช่นาซ่า


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 08:32:28 PM
สุดท้ายก็สู้ของโบราณอย่างดินสอไม่ได้ ราคาถูก เขียนได้ทุกบรรยากาศ ขอเพียงมีกระดาษ  ::008::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: คนแปลกหน้า - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 11:37:52 PM
เนื่องจากปากกาธรรมดาๆทั่วไปนั้นทำงานไม่ได้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง ปากกาที่ไม่ธรรมดาหรือปากกาอวกาศจึงเกิดขึ้น  นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่าใช้เวลานาน หลายต่อหลายปีและเงินจำนวนนับล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาปากกาที่สามารถเขียนได้ในอวกาศ เพื่อให้น้ำหมึกในปากกานั้นไหลลงมาที่กระดาษเมื่อเราเขียนในสภาพที่ไร้แรงดึงดูด (Gravitational force) ในขณะที่สหภาพโซเวียตใช้ดินสอเทียน (grease pencils) ซึ่งราคาถูกกว่าปากกาอวกาศตั้งเยอะ   

จริงหรือที่นาซ่าถึงได้ทุ่มงบประมาณนับ ล้านเหรียญ และเวลาจำนวนมากเพื่อพัฒนาปากกาอวกาศที่ไม่ธรรมดาอันนั้น  ดินสออวกาศ ในอดีต จากบันทึกประวัติศาสตร์ของนาซ่า นักบินอเมริกันก็ใช้ดินสอเทียนในการขีดเขียนบันทึกข้อมูลในสภาพไร้แรงดึงดูดเหมือนๆกับนักบินโซเวียต ที่จริงในปี 1965 นาซ่าได้สั่งซื้อดินสอกล (Mechanical pencils) จำนวน 34 ด้าม จากบริษัท Tycam Engineering Manufacturing ในฮุสตัน สหรัฐอเมริกาในราคาด้ามละ 228.89 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 4,382.50 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อยอดเงินในการสั่งซื้อปากกาของนาซ่าออกเผยแพร่สู่สาธารณชนในภาพที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้นาซ่าจึงต้องคิดหาวิธีการใหม่เพื่อให้ประหยัดงบประมาณลง   ดินสอนั้นก็ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากปลายของมันจะแตกเป็นขุยและหักออก และเมื่อมันลอยคว้างไปมาอยู่ในยานอวกาศอาจจะไปทิ่มเอานักบินอวกาศหรือเครื่องไม้เครื่องมือในยานก่อให้เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ดินสอยังเป็นวัสดุที่ติดไฟ (flammable) ซึ่งนาซ่าไม่ต้องการให้มีการนำเอาขึ้นไปบนยานหลังจากที่ ยาน Apollo 1 ได้เกิดเพลิงไหม้  ปากกาลูกลื่นอวกาศ

ในขณะเดียวกัน นาย Paul C. Fisher เจ้าของบริษัท Fisher Pen Company ได้ลงทุนจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาและผลิตปากกาอวกาศ (โดยไม่ได้รับทุนจากนาซ่าแต่อย่างใด) และได้จดลิขสิทธิ์ในปี 1965   ปากกาไม่ธรรมดานี้สามารถเขียนกลับหัว เขียนได้ในพื้นที่ไม่ว่าจะหนาวจัดหรือร้อนจัด ตั้งแต่ -50 ถึง 400 องศาฟาเรนไฮน์ หรือแม้แต่เขียนใต้น้ำหรือจุ่มในของเหลวชนิดอื่นๆ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าร้อนเกินไปแล้ว น้ำหมึกจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเขียวก็เท่านั้นเอง   หลังจากนั้น Paul Fisher ได้นำเสนอแนวคิดปากกาตัวใหม่นี้แก่นาซ่า แม้จะไม่ได้รับการยอมรับมากนักในระยะแรก แต่เมื่อได้ผ่านการทดสอบเป็นที่ประจักษ์แล้ว ปากกาดังกล่าวถูกเรียกว่า AG-7 ?Anti - Gravity? Space Pen หลังจากนั้นสหรัฐฯได้ตัดสินใจในปี 1967 ว่าจะใช้ปากกาอวกาศนี้ในอนาคต   ปากกาอวกาศของ Fisher นั้น ทำงานโดยไม่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลก โดยเก็บหมึกไว้ในตลับหมึกกับความกดดันของไนโตรเจนที่ 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มากกว่าความกดดันอากาศที่ระดับผิวน้ำทะเลบนพื้นผิวโลกสองเท่าตัว และความกดดันนี้จะผลักหมึกให้ออกมาผ่านลูกลื่น (หรือลูกบอลทังสเตนคาร์ไบด์) ที่ปลายปากกา ส่วนน้ำหมึกก็เป็นน้ำหมึกที่ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน มันมีสภาพคล้ายเจล และเมื่อลูกลื่นขยับมันก็จะเปลี่ยนเจลเป็นของเหลว (น้ำหมึก) นอกจากนี้ไนโตรเจนที่อัดอยู่ภายในปากกายังป้องกันมิให้อากาศเข้าไปปะปนกับน้ำหมึก เพื่อป้องกันการระเหย (evaporate) และทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (Oxidize)  จากรายงานของ Associated Press เปิดเผยว่าในปี 1968 นั้นนาซ่าได้สั่งซื้อปากกาอวกาศจากบริษัทของ Fisher จำนวน 400 ด้าม สำหรับโครงการเยือนดวงจันทร์โดยยานอะพอลโล่ ในปีต่อมาสหภาพโซเวียตได้สั่งซื้อปากกาอวกาศจำนวน 100 ด้ามและตลับหมึกจำนวน 1,000 ตลับ (สำหรับเปลี่ยนเมื่อหมึกหมด) เพื่อใช้ในโครงการ Soyuz space mission ทั้งประเทศสหรัฐเมริกาและสหภาพโซเวียตได้รับส่วนลด 40% ทำให้ราคาลดจาก 3.98 เหรียญสหรัฐฯมาอยู่ที่ 2.39 เหรียญสหรัฐฯ   ฉะนั้น ข้อเท็จจริงก็คือ นาซาซื้อปากกาจริงแต่ไม่ได้ใช้เงินเป็นล้านเหรียญในการซื้อหรือพัฒนาปากกาอวกาศ เพราะนาย Paul C. Fisher ได้ทุ่มทุนจำนวนดังกล่าวในการพัฒนา และจดลิขสิทธิ์เป็นเจ้าของไปแล้ว

สรุป

ตอนแรกก็ใช้ดินสอทั้งอเมริกาและรัสเซีย

ตอนหลังก็มาใช้ปากกาทั้งอเมริกาทั้งรัสเซีย

โดยคนที่ลงทุนวิจัย คือ Paul C. Fisher เจ้าของบริษัท Fisher Pen Company ใช้เงินลงทุน 1 ล้านเหรียญ ไม่ใช่นาซ่า
ขอบคุณครับ เพิ่งได้อ่านเป็นครั้งแรก ในขณะที่ "แบบแรก"ได้อ่านมาหลายครั้งแล้วแม้ข้อความไม่ตรงกันแต่ความก็จะไปในทางเดียวกัน    ต่อไปจะได้ไม่เอาไปโม้ต่อแบบผิดๆ (นอกจากเอาสนุกไว้ก่อน) ::014::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 11:46:01 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 09:52:27 AM
ขอบคุณ คุณ helldiver ครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: ปากกาวิเศษ จาก U.S.A.
เริ่มหัวข้อโดย: #โชกุน# ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 01:25:48 PM
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ...

บังเอิญนายสมชายผ่านโลกมา 2 ด้านที่สุดโต่งกัน คือจบปริญญาโท Computer Science กับจบโทบริหารธุรกิจด้วย... บอกได้เลยว่าสองพวกนี้คิดแก้ปัญหากันคนละแบบ คือพวกสายคอมพิวเตอร์จะพยายามหา"ของยาก"เล่น, และในวงสนทนาก็จะพยายามคุยอวดกันในหมู่เพื่อนฝูงว่าที่ฉันเรียนมานั้นเรียนชนิดยากๆ ฉันเก่งที่สุด เพราะสิ่งที่ฉันเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะเออ จะใช้ข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ต้องใช้ของยากๆ (สมัยหนึ่งนิยมขับรถเกียร์กระปุก ใช้กล้องถ่ายรูปแมนน่วล เขียนโปรแกรมด้วยภาษาปาสคาล เป็นต้น)...

ในขณะที่โลกของพวกบริหารธุรกิจ ก็จะพยายามหาของ(เครื่องมือ)ให้เล่นง่ายที่สุด, เช่นจะเขียนโปรแกรมดึงข้อมูล ก็พยายามใช้เครื่องมือที่อัตโนมัติลากแปะฯ... ซึ่งทางฝั่งวิศวกร ก็มักบอกว่ามันง่ายเกิน และควบคุมไม่ได้ดังใจ, ในขณะที่ทางฝ่ายบริหารธุรกิจก็บอกว่าเล่นของยาก ก็เหมือนเดินนับไม้หมอนรถไฟไปเชียงใหม่ครับ...





สวัสดีครับพี่สมชาย  ::014:: ดีใจครับที่เจอคนเขียนโปรแกรมที่เล่นปืน (ขออนุญาติคุยเรืองคอมนิดนะครับ)

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เริ่มเรียนเขียนโปรแกรมจาก Turbo Pascal จำได้ตอนเริมเรียนไม่ชอบเลยครับ ยังบ่นเลยว่า syntax เยอะจิง
จะเริ่มก็ต้อง Begin จะจบก็ต้องบอกด้วยนะว่า End แถมแต่ละบรรทัดห้ามลืม ; ซื่อผมลืมเป็นประจำ   :~)

ในวัยทำงานผมใช้ Clipper 5.xx ทำงานมาจนหมดยุคของ Dos พอจะก้าวมาเป็นบน Windows ต้องมาคิดว่าจะใช้อะไรเขียนโปรแกรมดี
Foxpro , VB , Delphi สุดท้ายก็มาจบลงที่ Delphi ซึ่งก็ใช้พื้นฐานเดียวกับ Pascal หนีมันไม่พ้นจริงๆครับ  ::005::

จะว่าไปก็เหมือน ปากกาวิเศษเหมือนกันครับ จะหนีมันไปให้ยุ่งยากทำไม ในเมื่อบางครั้งของง่ายที่สุดคือของที่ทำงานได้ดีที่สุด  ::002::