หัวข้อ: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:19:34 PM ::014:: อ่านประวัติศาสตร์แล้ว ประเทศแตกความสามมัคคี คนดีท้อแท้ทำให้เสียกรุงครับ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87 ::014:: หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:23:56 PM กองทัพจีนมีส่วนช่วยไทยทางอ้อมในการดึง กองทัพพม่ากลับไปด้วยครับ เหมือนตอนช่วยไทยรบเวียดนามตอนปี พศ. 2522 เลยครับ
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 08:56:03 PM +๑ ขอบคุณครับ >>๔๖๗<< ::014::
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:40:34 PM ขอบคุณครับพี่อาร์ต
+1 (469) ครับ ::002:: หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:54:53 PM ขอบคุณครับที่มา+คะแนนให้ครับ
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:58:13 PM จีนนอกจากตีพม่าช่วยไทยแล้วยังให้เงินกองทัพไทยต่อเรือจากจันทบุรีมาตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่าด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:30:13 PM สาเหตุหนึ่งคงเพราะจีนต้องการดินแดนแถบตะวันออกเฉียงเหนือของพม่าด้วยครับ ;D
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 08:43:46 AM ผลประโยชน์ ร่วมกัน เลยเป็นพันธมิตร ร่วมรบ ::002:: ใช่ไหมครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:12:14 AM ::014:: อ่านประวัติศาสตร์แล้ว ประเทศแตกความสามมัคคี คนดีท้อแท้ทำให้เสียกรุงครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87 ::014:: ที่บอกว่าสาเหตุเพราะ"คนไทยขาดความสามัคคี" นั้น... นายสมชายว่าลองอ่านให้ดีเถิดครับ สาเหตุหลักคือการที่"ระบบ"ต่างๆในสังคมไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น... ขยายความว่าเมื่อสังคมเกิดปัญหาภายในขึ้นในระหว่างช่วงเวลาต่างๆ สังคมจะปรับตัวด้วยการสร้าง"ระบบ"ขึ้นมาบังคับพฤติกรรมของสมาชิกให้ปฎิบัติตาม แล้วเมื่อปฎิบัติตามแล้วก็จะแก้ปัญหาที่ประสบอยู่ให้ลุล่วงไปได้โดยที่สมาชิกในสังคมไม่จำเป็นต้องเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งกันทุกคน... ทั้งนี้เนื่องจากผู้คนในสังคมมีการแบ่งหน้าที่กันทำไปแล้ว ซึ่งก็คือฟันเฟืองของสังคมต่างหมุนในหน้าที่ของตนเอง... จากที่อ่านตามลิ้งก์นี้ จะเห็นหลายแห่งว่า"ระบบการป้องกันตนเอง"ของพระนครศรีอยุธยาอ่อนแอ แล้วเมื่อสาวเรื่องลงไปลึกๆ ก็จะพบสาเหตุที่โน่นที่นี่ กระจายเต็มไปหมด... แต่ทั้งหมดสามารถสรุปเป็นทิศทางเดียวกันคือระบบบริหารทรัพยากร+ระบบบริหารบุคคล ของประเทศเสียหายครับ... ทั้งสองระบบนี้เกี่ยวเนื่องกัน เพราะสมัยก่อนเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า ทรัพยากรทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดจากการใช้แรงงานมนุษย์ ดังนั้นระบบบริหารบุคคลเสียหาย ทรัพยากรทุกส่วนจึงไม่สมดุลย์(แรงงานถูกแบ่งเป็นส่วนตามเจ้าขุนมูลนาย) ในที่สุดขาดการสื่อสาร ขวัญและกำลังใจเสีย... ไม่ตระหนักว่าเรือลำใหญ่จะล่ม เพราะคิดไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พระนครจะเสียแก่พม่า กว่าจะ"ตระหนักได้"เลยสายเกินการ... มองให้ดีเถิดครับ... เสียกรุงเพราะไม่สามารถบังคับใช้ระเบียบ+กฎหมาย ฯลฯ ให้ได้ผล... หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:18:25 AM เอาประเทศไทยในปัจจุบันนี้ครับ... ผู้คนที่"ปกครองประเทศ"ตัวจริงๆ เสียงจริง นั้นไม่ใช่รัฐบาลครับ แต่เป็นรัฐสภาของประเทศไทย เพราะเป็นผู้ควบคุมรัฐบาลผ่านกลไกต่างๆ(เช่นกระทู้ถาม หรือตั้งกรรมาธิการติดตามเรื่อง ฯลฯ)...
ทีนี้มาดูที่สมาชิกรัฐสภากันบ้าง... ใครเคยนั่งดูถ่ายทอดการประชุมแล้วสามารถบอกได้ว่าผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย"พูดความจริง"กันบ้างครับ... นายสมชายนั่งดูทีไรแล้วรู้สึกพิลึก... เพราะไม่รู้ว่าใครพูดจริงใครพูดโกหก, เรื่องเดียวกันออกจากปากสมาชิกคนละขั้วการเมือง กลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน... แล้วผู้คนแบบนี้นี่แหละครับ ที่กำลังปกครองประเทศไทยอยู่ขณะนี้... ใครเลือกพวกนี้เข้าไปหว่า... หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:27:38 AM สาเหตุหลักคือการที่"ระบบ"ต่างๆในสังคมไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น... เหมือนช่วงนี้เลยใช่ไหมครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:59:04 AM ใช่ครับระบบลวนไปหมด
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 10:23:01 AM เล่นบันทึกลงวิกิพีเดียเลย
ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย เพราะคนชั่วไม่เคยหมด ต้องแก้หรือกำจัดที่ตัวตนเหตุก่อน แล้วปลูกฝั่งจิตสำนึกกันใหม่ครับ หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 03, 2012, 12:23:49 PM แพ้เพราะการเมือง ไม่มียุทธศาสตร์ร่วม หัวเมืองหลายฝ่ายไปอยู่กะฝ่ายพม่าแม้กระทั้งเมืองสุพรรณบุรี
ตรงนี้อย่าไปมองว่าเพราะไม่สามัคคี หรือทรยศ เพราะเป็นปัญหาภายในเรื่องการบริหารบ้านเมืองเอง ความไม่มีนโยบาย ต่างหาก ไม่มีพันธกิจ ไม่มีเป้าหมาย ก็ปล่อยให้ หัวเมืองต่างๆ เจริญกันตามยถากรรม จะลำบากยากดีอย่างไรก็จัดการกันเอง เมืองหลวงจะค่อยรับส่วยอากร และเกณฑ์พล เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ความเป็น รัฐ ยอมไม่มี หัวเมืองเล็กๆ เมื่อตกที่นั่งลำบาก ย่อมหาทางเพื่อความอยู่รอด ............. ตรงนี้น่าจะเป็นเหมือนที่พี่สมชายว่า เป็นเรื่องการบริหารบ้านเมือง การจัดสรรทรัพยากรณ์เพื่อก่รพัฒนาประเทศ ทางกรุงศรีอยุธยาขาดไป การไม่แสดงท่าที่การป้องกัน เมืองท่า ทางมะริดทวาย ให้เต็มที่ ปล่อยให้ตกอยู่ในอิทธิพลของมอญ-พม่า ส่วนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ และที่ตอกย้ำความพ่ายแพ้ คือยุทธวิธี เอายุทธวิธี รบประวิงเวลารอฤดูน้ำหลากมาถึง ทางพม่าคิดแก้กลนี้ได้ โดยการสำรวจพื้นที่ตั้งทัพ พยายามย้ายไปอยู่ในที่โคก และแก้ปัญหาเรื่องเสบียงอาหารได้ กลก็กลายเป็นการปิดล้อม ทางกรุงศรีอยุธยาได้ ทำการต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยเงื่อนไข ทางกลยุทธที่ที่หวังพึ่งด้านใดด้านหนึ่งเกินไป ครั้นพอไม่เป็นไปตามที่หวัง หัวเมืองรอบนอกที่หวังจะให้มาคอยตีทัพพม่าขณะล้อมกำแพงเมือง ต่างก็ประสบความลำบาก ขระในเมืองก็รอน้ำหลากท่วมทุ่ง พอพม่าแก้กลนี้ได้ ทันทีที่เจาะช่องกำแพงเมืองได้ ก็แตก หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มิถุนายน 03, 2012, 10:53:36 PM จนแล้วจนรอดพระยาตากฯก็ไม่ได้เป็นวีรบุรุษอยู่ดี ...เฮ้อ ไม่ยกย่องไม่พอยังมีคนพยายามยัดเยียดความเชื่อเรื่องท่านมีสติวิปลาสอีก มันจะเหมือนที่ผู้นำบางคนพยายามชักจูงให้คนไทยเชื่อว่าตัวเองไม่ฉลาด และไม่มีความสามารถพอที่จะมีสิทธิ ใช้เสียง คิด ทำ หรือปกครองตนเอง ต้องรอผู้นำสั่งการอย่างเดียวด้วยรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 04, 2012, 02:29:02 AM จนแล้วจนรอดพระยาตากฯก็ไม่ได้เป็นวีรบุรุษอยู่ดี ...เฮ้อ ไม่ยกย่องไม่พอยังมีคนพยายามยัดเยียดความเชื่อเรื่องท่านมีสติวิปลาสอีก มันจะเหมือนที่ผู้นำบางคนพยายามชักจูงให้คนไทยเชื่อว่าตัวเองไม่ฉลาด และไม่มีความสามารถพอที่จะมีสิทธิ ใช้เสียง คิด ทำ หรือปกครองตนเอง ต้องรอผู้นำสั่งการอย่างเดียวด้วยรึเปล่า เลอะเทอะ พวกเราชาวไทย ล้วนแต่สรรเสริญพระองค์ท่าน เสมอบูรพกษัตริย์พระองค์อื่น ดั่งเห็นได้จาก อนุสาวรีย์ ย่านวงเวียนใหญ่ , ศาลบริเวณพระราชวังเดิม , มีการศึกษาประวัติศาสตร์ และนำเรื่องราววีรกรรมของพระองค์ท่านมาสร้างเป็นนิยาย หนัง ละคร , ในแวดวงทหาร ก็เชิดชูพระองค์ท่าน ในวันทหารม้า และในส่วนของทหารเรือ ในพระราชวังเดิม ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ชาวไทยจึงถวายพราะราชสมัญญานามเป็น มหาราช องค์หนึ่งของไทย เมื่อกล่าวถึงพระองค์ท่าน จะเรียก สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช ไม่มีการมาลดพระยศให้เป็นแค่ พระยาตาก ส่วนเรื่องรายละเอียดช่วงบันปลายรัชสมัย ในพงศาวดารญวน ก็กล่าวถึงอาการพระประชวร ตรงกะที่ว่ากัน อยากหาความรู้ด้านนี้ ร่วมถึงผลพวงของการเสียกรุงฯครั้งที่สอง ทำให้รัฐไทยมีการพัฒนามาอย่างไร ได้รับบทเรียนแล้วนำมาพัฒนาใหม่อย่างไร ให้ลองอ่าน หนังสือ " การเมื่องไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี" ผู้เรียบเรียง อ.นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ หวังว่าคงจะไม่ต้องสงสัยอะไรอีก เพราะคนเขียน เป็นหนึ่งใน นักวิชาการ มหาลัยเที่ยงคืน กลุ่มแนวร่วมสนับสนุนการแก้มาตรา 112 มีเขียนวิจารณ์พระเจ้าตากสิน เรื่องตอนที่แยกมาบ้านพรานนก ต่างจากที่คนไทยทั่วไปเคยเชื่อ หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มิถุนายน 04, 2012, 10:28:17 PM http://www.reurnthai.com/index.php?topic=319.0
มีหลายท่านวิจารณ์ไว้ ลองอ่านดูครับ ;D หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ มิถุนายน 05, 2012, 10:04:16 AM +1 ครับอ่านแล้วครับ มีอีกแนว สมเด็จพระเจ้าตากสิน ท่านไปที่ นครศริธรรมราช นะครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 05, 2012, 11:19:54 AM ถ้าจะพูดจะจาอะไร นอกจากข้อเท็จจริงแล้ว ยังมีเรื่องกาละเทศะ อยู่ด้วย
คือ ข้อเท็จจริงต้องแม่น พอสมควร ไม่ใช่ อยากจะยกกรณีโน้นนี้ มาเป็นข้อคิด แต่คนยกมาไม่แม่นพอ เจตนาที่จะให้เป็นข้อคิด เตือนสติสังคม ก็เสียทิศทางไป เหมือนกับอยากจะสอนให้คนสามัคคีในขณะที่อีกฝ่ายถูกเขกหัวเอาๆ แล้วคนสอนก็ไม่มองเงาหัวตัวเองว่ามีบารมีพอจะสอนคนอื่นได้ไหม พอมีข้อเท็จจริงแบบ ตัดแปะ ..... มันก็เป็นการ ขาย โง่ ดีๆ นี้เอง กาละเทศะ แม้จะเป็นเรื่องวิชาการเรื่องจริง ก็อย่าคันปากจนเสนอเรื่องผิดเวลา เพราะจะกลายเป็นการหาข้อมูลสนับสนุนฝ่ายตรงกันข้าม เรื่องนี้ มีคนพยายามแตกกระทู้ไปเรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสิน แม้จะแตกกระทู้ไปแบบเลอเทอะก็ตาม ถ้าไม่รับลูกก็จบ แต่ถ้าเผลอไปรับลูก ก็จะกลายเป็นเครื่องมือฝ่ายตรงกันข้าม โดยที่ฝ่ายโน้นไม่ได้ลงทุนอะไรเลย พูดถึงสมัยกรุงธนบุรี ก็จะยาวไปถึงการผลัดรัชสมัย แล้วก็จะมาโทษว่าใครทำ พาลมาถึงการก้าวล่วงสถาบัน.... การเป็นการหาข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน คนบ้าที่อ้างว่า ตนเอง ใช้ชื่อพ้องกัน กลับชาติมาเกิด ...... มาโจมตีสถาบัน จริงอยู่ข้อมูลพวกนี้เป็น บันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ทางการศึกษา แต่ก็ควรถกให้ถูกที่ถูกกาละเทศ ใครจะรับลูกใคร มองให้ทะลุ ทั้งสถานะการณ์ มองป่าทั้งผืน ไม่ใช่มองแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียว หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ มิถุนายน 05, 2012, 12:04:41 PM ถ้าจะพูดจะจาอะไร นอกจากข้อเท็จจริงแล้ว ยังมีเรื่องกาละเทศะ อยู่ด้วย เห็นด้วยครับคือ ข้อเท็จจริงต้องแม่น พอสมควร ไม่ใช่ อยากจะยกกรณีโน้นนี้ มาเป็นข้อคิด แต่คนยกมาไม่แม่นพอ เจตนาที่จะให้เป็นข้อคิด เตือนสติสังคม ก็เสียทิศทางไป เหมือนกับอยากจะสอนให้คนสามัคคีในขณะที่อีกฝ่ายถูกเขกหัวเอาๆ แล้วคนสอนก็ไม่มองเงาหัวตัวเองว่ามีบารมีพอจะสอนคนอื่นได้ไหม พอมีข้อเท็จจริงแบบ ตัดแปะ ..... มันก็เป็นการ ขาย โง่ ดีๆ นี้เอง กาละเทศะ แม้จะเป็นเรื่องวิชาการเรื่องจริง ก็อย่าคันปากจนเสนอเรื่องผิดเวลา เพราะจะกลายเป็นการหาข้อมูลสนับสนุนฝ่ายตรงกันข้าม เรื่องนี้ มีคนพยายามแตกกระทู้ไปเรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสิน แม้จะแตกกระทู้ไปแบบเลอเทอะก็ตาม ถ้าไม่รับลูกก็จบ แต่ถ้าเผลอไปรับลูก ก็จะกลายเป็นเครื่องมือฝ่ายตรงกันข้าม โดยที่ฝ่ายโน้นไม่ได้ลงทุนอะไรเลย พูดถึงสมัยกรุงธนบุรี ก็จะยาวไปถึงการผลัดรัชสมัย แล้วก็จะมาโทษว่าใครทำ พาลมาถึงการก้าวล่วงสถาบัน.... การเป็นการหาข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน คนบ้าที่อ้างว่า ตนเอง ใช้ชื่อพ้องกัน กลับชาติมาเกิด ...... มาโจมตีสถาบัน จริงอยู่ข้อมูลพวกนี้เป็น บันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ทางการศึกษา แต่ก็ควรถกให้ถูกที่ถูกกาละเทศ ใครจะรับลูกใคร มองให้ทะลุ ทั้งสถานะการณ์ มองป่าทั้งผืน ไม่ใช่มองแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียว หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ชล - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 05, 2012, 12:10:00 PM ถ้าจะพูดจะจาอะไร นอกจากข้อเท็จจริงแล้ว ยังมีเรื่องกาละเทศะ อยู่ด้วย ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดดีๆ บวก1นะครับ ::014::คือ ข้อเท็จจริงต้องแม่น พอสมควร ไม่ใช่ อยากจะยกกรณีโน้นนี้ มาเป็นข้อคิด แต่คนยกมาไม่แม่นพอ เจตนาที่จะให้เป็นข้อคิด เตือนสติสังคม ก็เสียทิศทางไป เหมือนกับอยากจะสอนให้คนสามัคคีในขณะที่อีกฝ่ายถูกเขกหัวเอาๆ แล้วคนสอนก็ไม่มองเงาหัวตัวเองว่ามีบารมีพอจะสอนคนอื่นได้ไหม พอมีข้อเท็จจริงแบบ ตัดแปะ ..... มันก็เป็นการ ขาย โง่ ดีๆ นี้เอง กาละเทศะ แม้จะเป็นเรื่องวิชาการเรื่องจริง ก็อย่าคันปากจนเสนอเรื่องผิดเวลา เพราะจะกลายเป็นการหาข้อมูลสนับสนุนฝ่ายตรงกันข้าม เรื่องนี้ มีคนพยายามแตกกระทู้ไปเรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสิน แม้จะแตกกระทู้ไปแบบเลอเทอะก็ตาม ถ้าไม่รับลูกก็จบ แต่ถ้าเผลอไปรับลูก ก็จะกลายเป็นเครื่องมือฝ่ายตรงกันข้าม โดยที่ฝ่ายโน้นไม่ได้ลงทุนอะไรเลย พูดถึงสมัยกรุงธนบุรี ก็จะยาวไปถึงการผลัดรัชสมัย แล้วก็จะมาโทษว่าใครทำ พาลมาถึงการก้าวล่วงสถาบัน.... การเป็นการหาข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน คนบ้าที่อ้างว่า ตนเอง ใช้ชื่อพ้องกัน กลับชาติมาเกิด ...... มาโจมตีสถาบัน จริงอยู่ข้อมูลพวกนี้เป็น บันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ทางการศึกษา แต่ก็ควรถกให้ถูกที่ถูกกาละเทศ ใครจะรับลูกใคร มองให้ทะลุ ทั้งสถานะการณ์ มองป่าทั้งผืน ไม่ใช่มองแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียว หัวข้อ: Re: ประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ มิถุนายน 05, 2012, 12:49:57 PM ...................................ถูกต้องแล้วครับ.................................................................................. ::014::
|