หัวข้อ: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มิถุนายน 04, 2012, 12:10:41 AM เลขาธิการ ก.พ.ชี้รับราชการยังเป็นอาชีพในฝันของคนไทย เปิดรับสมัครทั่วประเทศ 6,000 ตำแหน่งแห่สมัคร 1 ล้านคน สงขลาแชมป์สมัครมากสุด รองลงมาเป็นเชียงใหม่ อุดรธานี โคราช คนต่างจังหวัดสนใจเป็นข้าราชการมากกว่ากรุง กรมสรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากสุด
จากกรณีที่ "ประชาชาติธุรกิจ" ได้เสนอประเด็นข่าวเกี่ยวกับการขยายอายุราชการเกษียณ จากปัจจุบันที่กำหนดอายุไว้ 60 ปี แต่เนื่องจากจำนวนประชากรผู้สูงอายุในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะคนอายุยืนขึ้น และอัตราการเกิดลดต่ำลงเหลือเพียง 0.5% ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหารัฐบาลต้องแบกรับภาระเงินบำเหน็จบำนาญของข้าราชการพลเรือน ประกอบกับต้องประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรในบางสาขาวิชาชีพ ดังนั้น เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหานี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จึงมีแนวคิดจะศึกษาวิจัยเพื่อขยายอายุราชการเกษียณออกไปเป็นเกษียณที่อายุ 62-64 ปี โดยคิดคำนวณจากอายุเฉลี่ยของคนปัจจุบัน ซึ่งมีอายุเฉลี่ยที่ 72 ปี โดยจะใช้เวลาศึกษาวิจัยประมาณปีเศษ เน้นไปที่สาขาวิชาชีพ อาทิ แพทย์, นักวิชาการ, นักวิชาการพืชสวน, สาขาการเกษตร และสาขาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน วิศวกร สถาปนิก รวมไปถึงสาขาช่างสิบหมู่ ของกรมศิลปากร ล่าสุด นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ก.พ.วางแนวทางในการแก้ปัญหาบุคลากรบางสาขาอาชีพที่จะขาดแคลนในระยะยาว โดยเริ่มต้นจากการเปิดรับสมัครสอบผู้สำเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ, ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค, อนุปริญญา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง, ปริญญาตรี, ปริญญาโท และคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน เพื่อสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ด้วยการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ประจำปี 2555 ตั้งแต่วันที่ 8-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามียอดผู้สมัครรวมทั่วประเทศที่มาสมัครสอบเป็นข้าราชการพลเรือนในสังกัด ก.พ.ทั้งหมด 12 ศูนย์ จากกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดรวมประมาณเกือบ 1 ล้านคน โดยศูนย์สอบจังหวัดสงขลามีผู้สมัครมากที่สุดคือ 66,314 คน รองลงไปคือศูนย์สอบจังหวัดเชียงใหม่ 64,746 คน, ศูนย์สอบจังหวัดอุดรธานี 61,917 คน ศูนย์สอบจังหวัดนครราชสีมา 52,206 คน และศูนย์สอบจังหวัดอุบลราชธานี 46,613 คน ทั้งนี้ ทาง ก.พ.จะประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก.ในวันที่ 5 ตุลาคม 2555 เพื่อให้ผู้สอบผ่านภาค ก. ไปสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) ต่อไป โดยตำแหน่งที่ทาง ก.พ.เปิดรับเป็นข้าราชการพลเรือนประจำปี 2555 ครั้งนี้มีจำนวนเพียง 5,000-6,000 ตำแหน่งโดยหน่วยงานที่มีการเปิดรับข้าราชการพลเรือนมากที่สุด คือกรมสรรพากร, กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงตำแหน่งนักจัดการทั่วไป "จากการรับสมัครสอบเข้าเป็นข้าราชการพลเรือนในสังกัด ก.พ.ประจำปี 2555 ครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าบุคคลทั่วไปมองอาชีพข้าราชการยังเป็นอาชีพในฝันที่คนทั่วไปอยากจะเป็น โดยเฉพาะบุคคลใน ต่างจังหวัด ยังอยากเป็นข้าราชการจำนวนมาก ซึ่งต่างกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มียอดผู้สมัครรวมเพียง 160,000 คนเท่านั้นเอง ถือว่าน้อยมาก" นายนนทิกรกล่าวว่า การเปิดรับสมัครสอบเข้าเป็นข้าราชการพลเรือนในสังกัด ก.พ.ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุราชการในปีหนึ่ง ๆ ราว 3,000-4,000 ตำแหน่งแล้ว ยังเป็นการอุดรูรั่วเพื่อลดความสูญเสียข้าราชการที่ถูกภาคเอกชนดึงตัวไปทำงานด้วย เพราะจากข้อมูลที่ทาง ก.พ.ทำสถิติเกี่ยวกับแนวโน้มการสูญเสียกำลังคนจากการเกษียณอายุของข้าราชการพลเรือนสามัญ พบว่าอัตราการเกษียณอายุของข้าราชการพลเรือนสามัญในอีก 5 ปีข้างหน้า คิดเป็น 7.29% จากข้าราชการพลเรือนทั้งหมด ส่วนในอีก 10 ปีข้างหน้าคิดเป็น 21.95% นายนนทิกรกล่าวต่อว่า ทาง ก.พ.จึงต้องวางมาตรการในการรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุของข้าราชการ เพราะไม่เช่นนั้นอาจขาดความต่อเนื่องในการปฏิบัติราชการ รวมถึงการสูญเสียกำลังคนที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ทั้งสายงานหลัก และสายงานสนับสนุน โดยวางแนวทางในการแก้ปัญหาไว้ 3 ทางด้วยกัน คือ 1.มาตรการบริหารกำลังคนเพื่อรองรับข้าราชการสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วยการใช้ประโยชน์จากข้าราชการสูงอายุ และรักษาข้าราชการพลเรือนที่จะเกษียณอายุ ที่มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ หรือความสามารถเฉพาะตัว และหาผู้อื่นมาปฏิบัติแทนได้ยาก ให้รับราชการต่อไป 2.มาตรการเตรียมการเพื่อรองรับการ สูญเสียกำลังคน เนื่องจากการเกษียณอายุ ประกอบด้วยการส่งเสริมให้ส่วนราชการพัฒนาระบบการวางแผนเพื่อสร้างความต่อเนื่องในการบริหารงาน (Succession Plan) เพื่อเตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมในการดำรงตำแหน่ง 3.มาตรการสร้างสมดุลของกำลังคนในส่วนราชการ ประกอบด้วยการใช้มาตรการเกษียณอายุก่อนกำหนด เพื่อถ่ายเทข้าราชการสูงอายุ และการเพิ่มจำนวนข้าราชการบางระดับในสายงาน หรือวิชาชีพที่ขาดแคลน http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1338698368&grpid=10&catid=00&subcatid หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 04, 2012, 03:46:42 AM สาเหตุใหญ่น่าจะมาจากคนตกงานเยอะครับช่วงนี้ งานราชการ มีสวัสดิการระยะยาวดีกว่าก็จริง แต่เงินเดือน
น้อย น้อยกว่าเอกชนที่บางตำแหน่งน้อยกว่าหลายเท่าทีเดียว คงจำกันได้ เมื่อก่อนแค่ทหารเกณฑ์ พอถึงเวลาเดือนเมษายน คนก็จะไปบนบานศาลกล่าวให้รอดจากใบแดง พอเศรษฐกิจแย่ กลับมีคนไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์จนต้องใช้วิธีจับฉลากเลือกจากคนที่สมัครเข้าไปก็มี ตอนนี้ งานอะไรก็เอาไปก่อน หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มิถุนายน 04, 2012, 06:22:06 AM เทียบอัตราส่วนแล้วได้เปรียบสมัยผมสอบเยอะครับ ปีนี้รับ ๖,ooo ตำแหน่ง คนสมัคร ๑ ล้าน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ ๑ ต่อ ๑๖๖.๖
สมัยผมสอบบรรจุครู ๒ ระดับ ๒ คนสมัคร ๑๗,ooo คน รับเพียง ๙ ตำแหน่ง เฉลี่ยเท่ากับ ๑ ต่อ ๑,๘๘๘.๘ หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 04, 2012, 08:44:34 AM สงสัยมาตรการนางยกได้ผลข้าราชการเริ่มต้นที่เงินเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นห้าคนแห่มาสมัครกันเต็ม ::005:: ::007::
เดี๋ยวนี้งานรับราชการน่าทำหลายประการครับ....เพราะหลายหน่วยงาน...ไม่บรรจุเพิ่มข้าราชการมานานหลายปีแล้วครับ แต่ที่ยังเห็นๆ คนทำงานกันอยู่บนสำนักงานของทางราชการนั้นตามปกตินั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ ข้าราชการ ทั้งหมดนะครับ เป็น พนักงานราชการ / ลูกจ้างชั่วคราว /ลูกจ้างประจำ ของหน่วยงานราชการนั้นๆ เสียมากกว่าครับ บางสำนักงานรู้ตัวเลขแล้วจะตกใจว่าจำนวน ข้าราชการจริงๆ นั้นเหลือคิดเป็นสัดส่วนน้อยมากๆต่อ พนักงานราชการ / ลูกจ้างชั่วคราว /ลูกจ้างประจำ น้อยจนน่ากลัวว่า คุณภาพการให้บริการต่อประชาชนของหลายๆหน่วยงานจะด้อยลงไปเพราะพนักงานที่มิใช่ ข้าราชการ นั้นขาดขวัญและกำลังใจ และมีผลต่อจิตสำนึกในการให้การบริการประชาชนเพราะสวัสดิการผลตอบแทนต่างๆ ด้อยกว่า ข้าราชการ จริงๆเยอะ เช่น เงินเดือนที่คงที่มาตลอด บางคนอยู่มา 5ปี 10ปี ได้ค่าจ้างเท่าไหร่ก็เท่านั้นไม่ขึ้นเลย ความมั่นคงหลังเกษียณอายุก็ไม่มี ถึงแม้ข้าราชการแท้ๆตัวจริงผลจะตอบแทนไม่มากแต่มั่นคงแน่นอนถ้าไปเทียบกับภาคเอกชนแม้จะน้อยกว่าแต่ น้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ เสมือนว่าที่ปลายเส้นชัยทั้งสองภาคอาจไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ ภาคเอกชน เอาเงินในอนาคตทั้งหมดมาจ่ายให้คุณในวันนี้อยู่ที่คุณต้องบริหารจัดการเก็บกันเอง เพราะเขาจ่ายมาก ไม่ระวังก็หมดจบแล้วจบกัน แต่ภาคราชการนั้นเขาทะยอยๆจ่ายและจ่ายไปตลอดจบการทำงานแล้วก็ยังจ่ายนั่นคือเหมือนกับการบริหารจัดการเรื่องเงินให้คุณเองไปกลายๆ รักษาวินัยทางการเงินให็คุณ ไม่ให้คุณเอาเงินในอนาคตมาจ่ายเพลินๆในวันนี้ ถ้าคิดว่าทำงานภาคเอกชนให้ผลตอบแทนมากกว่า ก็จริง แต่ไม่เสมอไปทุกคน อยู่ภาคเอกชนคุณต้องเก่งและประสพความสำเร็จให้ได้ผลตอบแทนจึงจะดีถ้าธรรมดาเงินก็พื้นๆ ถ้าอยู่ภาคเอกชนแล้วรับเงินเดือนแบบ พื้นๆ เทียบแล้วข้าราชการยังจะดีเสียกว่าครับ ถ้าอยากให้ดีกว่าราชการคุณต้องผันตัวเองไปเริ่มต้นทำธุระกิจเองให้ได้ ผลตอบแทนก็ตั้งแต่ ขาดทุน-เสมอตัว-กำไรนิดๆหน่อยๆ-กำไรมาก-กำไรมากกว่า-กำไรมหาศาล เป้าหมายความสำเร็จก็คงตั้งแต่ พออยู่ได้- ประสพความสำเร็จเติบโต-เติบโตด้วยตัวเองได้ มั่นคงถาวรใหญ่โต-ติดลมบนเป็นองค์กรขับเคลื่อยด้วยตัวเองได้ มีคนมีมืออาชีพมาช่วยบริหาร เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเลย ...นั่นคือหากคุณต้องอยู่ภาคเอกชนต้องประสพความสำเร็จมากถึงจะเรียกว่าคุ้มกว่าการไปเข้าทำงานภาคราชการ หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: babygun ที่ มิถุนายน 04, 2012, 09:03:01 AM แต่ผมคิดกลับนะครับ ข้าราชการเดี๋ยวนี้มีทางไปเยอะครับ สามารถเลี้ยงลูกโดยไม่อด ลูกเข้าโรงเรียนเซ็นโยเซฟแบบสบายๆ มีรถราคาหลักล้านขับ ทำงานแค่ครึ่งชีวิต แต่มีเงินเก็บหลายล้านบาท ถ้าไปถูกทาง(ทั้งๆที่ผิดทาง)แป็บเดียวก็รวยแล้วครับ ::006:: ::006:: ::006::มันฝังรากลึกจนขุดไม่ขึ้นแล้วครับ
หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 04, 2012, 09:18:38 AM แต่ผมคิดกลับนะครับ ข้าราชการเดี๋ยวนี้มีทางไปเยอะครับ สามารถเลี้ยงลูกโดยไม่อด ลูกเข้าโรงเรียนเซ็นโยเซฟแบบสบายๆ มีรถราคาหลักล้านขับ ทำงานแค่ครึ่งชีวิต แต่มีเงินเก็บหลายล้านบาท ถ้าไปถูกทาง(ทั้งๆที่ผิดทาง)แป็บเดียวก็รวยแล้วครับ ::006:: ::006:: ::006::มันฝังรากลึกจนขุดไม่ขึ้นแล้วครับ นั่นเป็นแค่งานออกแบบบ้าน นอกเวลาราชการ ตอนเย็นๆเท่านั้นนะครับ ขนาดทำแค่ นอกเวลาราชการ เท่านั้นยังรวยขนาดนี้ นั่นถ้าออกมาทำเต็มเวลา ผมว่ารวยเป็นหมื่นล้านแน่ๆครับ ::005:: ::008:: ::008:: ::007:: หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มิถุนายน 04, 2012, 11:05:58 AM สงสัยมาตรการนางยกได้ผลข้าราชการเริ่มต้นที่เงินเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นห้าคนแห่มาสมัครกันเต็ม ::005:: ::007:: เดี๋ยวนี้งานรับราชการน่าทำหลายประการครับ....เพราะหลายหน่วยงาน...ไม่บรรจุเพิ่มข้าราชการมานานหลายปีแล้วครับ แต่ที่ยังเห็นๆ คนทำงานกันอยู่บนสำนักงานของทางราชการนั้นตามปกตินั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ ข้าราชการ ทั้งหมดนะครับ เป็น พนักงานราชการ / ลูกจ้างชั่วคราว /ลูกจ้างประจำ ของหน่วยงานราชการนั้นๆ เสียมากกว่าครับ บางสำนักงานรู้ตัวเลขแล้วจะตกใจว่าจำนวน ข้าราชการจริงๆ นั้นเหลือคิดเป็นสัดส่วนน้อยมากๆต่อ พนักงานราชการ / ลูกจ้างชั่วคราว /ลูกจ้างประจำ น้อยจนน่ากลัวว่า คุณภาพการให้บริการต่อประชาชนของหลายๆหน่วยงานจะด้อยลงไปเพราะพนักงานที่มิใช่ ข้าราชการ นั้นขาดขวัญและกำลังใจ และมีผลต่อจิตสำนึกในการให้การบริการประชาชนเพราะสวัสดิการผลตอบแทนต่างๆ ด้อยกว่า ข้าราชการ จริงๆเยอะ เช่น เงินเดือนที่คงที่มาตลอด บางคนอยู่มา 5ปี 10ปี ได้ค่าจ้างเท่าไหร่ก็เท่านั้นไม่ขึ้นเลย ความมั่นคงหลังเกษียณอายุก็ไม่มี ถึงแม้ข้าราชการแท้ๆตัวจริงผลจะตอบแทนไม่มากแต่มั่นคงแน่นอนถ้าไปเทียบกับภาคเอกชนแม้จะน้อยกว่าแต่ น้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ เสมือนว่าที่ปลายเส้นชัยทั้งสองภาคอาจไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ ภาคเอกชน เอาเงินในอนาคตทั้งหมดมาจ่ายให้คุณในวันนี้อยู่ที่คุณต้องบริหารจัดการเก็บกันเอง เพราะเขาจ่ายมาก ไม่ระวังก็หมดจบแล้วจบกัน แต่ภาคราชการนั้นเขาทะยอยๆจ่ายและจ่ายไปตลอดจบการทำงานแล้วก็ยังจ่ายนั่นคือเหมือนกับการบริหารจัดการเรื่องเงินให้คุณเองไปกลายๆ รักษาวินัยทางการเงินให็คุณ ไม่ให้คุณเอาเงินในอนาคตมาจ่ายเพลินๆในวันนี้ ถ้าคิดว่าทำงานภาคเอกชนให้ผลตอบแทนมากกว่า ก็จริง แต่ไม่เสมอไปทุกคน อยู่ภาคเอกชนคุณต้องเก่งและประสพความสำเร็จให้ได้ผลตอบแทนจึงจะดีถ้าธรรมดาเงินก็พื้นๆ ถ้าอยู่ภาคเอกชนแล้วรับเงินเดือนแบบ พื้นๆ เทียบแล้วข้าราชการยังจะดีเสียกว่าครับ ถ้าอยากให้ดีกว่าราชการคุณต้องผันตัวเองไปเริ่มต้นทำธุระกิจเองให้ได้ ผลตอบแทนก็ตั้งแต่ ขาดทุน-เสมอตัว-กำไรนิดๆหน่อยๆ-กำไรมาก-กำไรมากกว่า-กำไรมหาศาล เป้าหมายความสำเร็จก็คงตั้งแต่ พออยู่ได้- ประสพความสำเร็จเติบโต-เติบโตด้วยตัวเองได้ มั่นคงถาวรใหญ่โต-ติดลมบนเป็นองค์กรขับเคลื่อยด้วยตัวเองได้ มีคนมีมืออาชีพมาช่วยบริหาร เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเลย ...นั่นคือหากคุณต้องอยู่ภาคเอกชนต้องประสพความสำเร็จมากถึงจะเรียกว่าคุ้มกว่าการไปเข้าทำงานภาคราชการ ::002:: ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: แห่สมัครข้าราชการนับล้าน รับแค่6พัน สรรพากร กรมการปกครอง และกระทรวงเกษตรฯรับมากส เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มิถุนายน 04, 2012, 11:11:12 AM อัตราส่วนขนาดนี้ ถ้าได้คัดกันจริงๆ ไม่เน่าในเสียสนิทจริงๆ ควรจะเป็นที่รวมของคนคุณภาพสูงปรี๊ดเลยนะ
|