เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:22:20 AM



หัวข้อ: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:22:20 AM
หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ ลงเรื่องวัยรุ่น กับอาชีพชาวนาของไทย เมื่อ 4 มิ.ย. 55
http://www.nytimes.com/2012/06/05/world/asia/thai-youth-seek-a-fortune-off-the-farm.html?pagewanted=1&_r=1&hp

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ นำมาแปลและเรียบเรียงใหม่
http://www.doctorwe.com/variety/20120606/1591

ตัดแปะมาให้อ่านบางส่วนคะ


(http://mw2.google.com/mw-panoramio/photos/medium/52024871.jpg)


บังเอิญผมได้เห็นข่าวของเมืองไทย…  ที่เกี่ยวกับ “ชาวนาไทย”  ใน นสพ.นิวยอร์ค ไทมส์
โดยมีชื่อเรื่องว่า “ Thai Youth Seek a Fortune Away From the Farm”
จึงอยากเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง  ในตอน  “ชาวนาไทย”  อนาคตที่….. มืดมน  

ก่อนอื่นขอแปลชื่อเรื่อง ให้เพื่อนๆ ได้อ่านง่ายๆ ก่อน..
ชื่อเรื่องแปลตามความว่า  “ชาวนา  อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น”
เนื้อเรื่องกล่าวถึง  น้องมาลินี คำมอญ  เธอมีอายุเพียง 18 ปี
ใช่แล้ว… เธอยังเป็นวัยรุ่น  อาศัยอยู่ที่บ้านคลองคู  ที่จังหวัดพิษณุโลก
เธออาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่ตรงข้ามกับผืนนา…ที่บ้านเธอเป็นเจ้าของ
แต่ที่น่าแปลกคือ  มาลีนี…. ไม่เคยปลูกข้าวเลย..แม้แต่เม็ดเดียว  ตั้งแต่เกิดมา

(http://desmond.imageshack.us/Himg127/scaled.php?server=127&filename=dsc04536.jpg&res=landing)


“มันร้อน มันเหนื่อยมาก ฉันไม่ชอบจริงๆ”  เป็นคำพูดของมาลินี
“ฉันไม่ชอบโดน….. แดด”  มาลีนีพูดต่อ… ขณะที่กำลังเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่

ในอดีต..  ชาวนาไทยหนุ่มสาว….ต้องทนลำบากในการปลูกข้าว
และต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ  ท่ามกลางแสงแดด….อันร้อนแรง
แต่ทุกวันนี้…  มีแต่คนแก่ๆ หรือ แรงงานต่างชาติ เท่านั้น  ที่ยังทำ…แบบนั้นอยู่

ทุกวันนี้.. ด้วยระบบการศึกษาที่ดีขึ้น รวมถึงโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้น
วัยรุ่นไทย จึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน หรือโรงเรียนกวดวิชา มากขึ้น
เพื่อมุ่งไปสู่อาชีพ…และอนาคตที่ดีกว่า

รวมไปถึงโอกาสที่จะได้ทำงาน.. ในห้องที่ติดแอร์
ที่ไม่ต้องร้อน….  เหมือนการยืนตากแดดทำนา..ทั้งวัน

“สิ่งที่พวกวัยรุ่นอยากทำมากที่สุดก็คือ คุยกับเพื่อนทาง…โทรศัพท์มือถือ”
เป็นคำพูดของสุดารัตน์ คำมอญ ชาวนา อายุ 33 ปี
ซึ่งเธอเป็น…………………………  ชาวนาอายุน้อยที่สุดของบ้านคลองคู


(http://www.vcharkarn.com/uploads/135/135259.jpg)


ในปี 2528  พบว่า  หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี จะทำอาชีพทำนา คิดเป็น 35 %
ทุกวันนี้    หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี ที่ทำนาเป็นอาชีพ เหลือเพียง 12 % เท่านั้น
คิดง่ายๆก็คือ  ถ้าจากเดิมมี 3 คน..ทำนา  เวลานี้ก็เหลือแค่….คนเดียว เท่านั้น…ที่ยังทำนาอยู่

ที่หนักหนากว่านั้นคือ ……………………………………..
ในปี 2528   พบว่าอายุเฉลี่ยชาวนาที่ยังทำนาอยู่ อยู่ที่  31 ปี
ซึ่งแสดงว่า  คนส่วนใหญ่ที่ทำนา…ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว…..วัยทำงาน

พอถึงปี 2553  พบว่าตัวเลขอายุเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไปเป็น 42 ปี
ซึ่งพอสรุปได้ว่า………………………………………………

ทุกวันนี้….  และจากนี้ไป….    คงจะมีแต่ “คนแก่” เท่านั้น…………. ที่จะทำนา
ประเทศไทยนั้น… เคยมีชื่อเสียงอย่างมากในการผลิตข้าวป้อนสู่…ตลาดโลก


(http://www.thaimtb.com/webboard/0/00037-85.jpg)



ข้าวหอมมะลิ…  ของไทย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ข้าว” ที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก
จากตัวเลขของกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา พบว่า
ไทย…เป็นผู้ส่งออกข้าว รายใหญ่ที่สุดของโลก นับตั้งแต่ปี 2526
โดยมียอดส่งออกข้าว สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา
ซึ่งยังเป็นสถิติ…. ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย  แต่อาจไม่ใช่สำหรับ “ชาวนา”

ในเมืองไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า  “ข้าว” เป็น สินค้าการเมือง
ถ้าปีใด ราคาข้าว…เกิดมีราคาตกต่ำขึ้นมา
และรัฐบาลในขณะนั้น………….. ไม่สามารถออกมาตรการใดๆ มาพยุงราคาข้าวได้
พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลชุดนั้น ก็มักจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งต่อมา
รัฐบาลจึงมักออกมาตรการต่างๆออกมา เพื่อเอาใจ…ชาวนาไทย
มาตรการจำนำข้าว… มาตรการประกันราคาข้าว….  และอื่นๆ
เป็นเครื่องมือทางการเมือง…………………..
ที่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลมักจะนำไปใช้… เพื่อหาคะแนนเสียงให้ตน
มาตรการเหล่านี้… หน้าฉากจะถูกโฆษณาว่า
เป็นมาตรการที่สุดยอด…………  สามารถแก้ไขปัญหาการขายข้าวของชาวนา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

แต่หลังฉากกลับพบว่า    บรรดามาตรการที่สุดวิเศษเหล่านี้….  ส่วนใหญ่มักจะลงท้ายด้วย
การมีสต็อคข้าว..จำนวนมหาศาล กองกันเป็นภูเขา…อยู่ในโกดัง
โดยสต็อคข้าวเหล่านี้….   ก็ใช้เงินภาษีของประชาชนไปซื้อมา หรือจำนำมา
ซึ่งมักจะขายไม่ออก  ……………และรอวันเน่าเสีย
โดยไม่ค่อยมีใครจะไปยี่หระว่า  นั่นเป็น……………………………….  เงินภาษีของประชาชน
ในขณะที่วัยรุ่นไทย…กำลังหลีกหนี การเป็น “กระดูกสันหลัง” ของชาติ
หรือการคิดว่า..ให้เป็นอะไรก็ได้  ยกเว้นเป็น…ชาวนา

อาจารย์เอี่ยม ทองดี อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  เล่าให้ฟังว่า….
“องค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ..การปลูกข้าว  ก็ค่อยๆ จางหายลงไปทุกวัน
พร้อมๆกับประเพณี…ลงแขก ที่เพื่อนบ้านจะช่วยกันเกี่ยวข้าว”


(http://www.matichon.co.th/online/2010/11/12907473261290747348l.jpg)



อาจารย์เอี่ยม ยังให้แง่มุมในการเป็น “ชาวนา”  ที่ฟังแล้ว….สะเทือนใจ อีกว่า
บรรดาลูกหลานชาวนาไทย มักจะมีความเชื่อว่า………………………..
ชีวิตในเมือง…จะสะดวก..สบายกว่า ในชนบท
และเป็น “ชาวนา” นั้นมันดูเหมือนจะเป็น….. คนจน…… คนโง่…..  คนอ่อนแอ
ชีวิตชาวนามันลำบาก จนบางคนถึงกับบอกว่า
“ถ้ามีโอกาสเกิดใหม่ซัก 10 ครั้ง…………………………  
ก็..ขออย่าให้มีชาติไหน ต้องเกิดมาเป็น…. ชาวนา อีกเลย”

ปัญหาหนี้สินของชาวนา…  ยังถือได้ว่า… หนักหนาสาหัสนัก
ในปีที่ผ่านมาพบว่า ชาวนาเป็นหนี้โดยเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 104,000 บาท
ซึ่งคิดเป็นเท่ากับ รายได้ที่ชาวนาหาได้ภายในระยะเวลาถึง 5 ปี
สาเหตุที่จะทำให้ชาวหนี้เป็นหนี้  ………..เพิ่มขึ้น  ……………เพิ่มขึ้น
เป็นเพราะว่า  ค่าปุ๋ย ค่าเมล็ดพันธุ์ ราคาเพิ่มขึ้น..อย่างต่อเนื่อง
และปัญหาภูมิอากาศ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ความแห้งแล้ง  อื่นๆ  ก็ยิ่งซ้ำเติม “ชาวนา” เข้าไปอีก

บุญมี คำมอญ  พ่อของ มาลินี  วัยรุ่นสาว…ที่ไม่อยากเป็นชาวนา
พูดเกี่ยวกับลูกสาวของเขาว่า “ เธอ..อยู่ในโลกของเธอ”
“เธอ…ไม่สนใจที่จะเป็น..ชาวนา  ผมเอง…พยายามบังคับเธอแล้ว  แต่มันยากจริงๆ”


(http://www.rsunews.net/userfiles/images/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B22.jpg)



มาลินีเล่าให้ฟังถึงเพื่อนๆของเธอว่า
“บรรดาลูกหลานชาวนาหลายคนก็ไม่อยากเป็น…….. ชาวนา
พวกเขาอยากเป็นหมอ.. เป็นเภสัชกร.. เป็นวิศวกร”
ส่วนมาลินี..เอง      เธอคิดว่า โตขึ้น..เธออยากเป็นครู
เพื่อนๆของมาลินี กล่าวถึงมาลินีว่า…
เธอค่อนข้างอาย..ที่จะบอกว่าพ่อแม่เป็นชาวนา
และสิ่งที่ทำให้มาลินีไม่อยากเป็น “ชาวนา” มากที่สุด ก็คือ
“เธอไม่อยาก…………………………  ตัวดำ”


(http://www.agkmstou.com/gallery/1245145944_P1200322_resize.JPG)


และนั่นคือ มุมมองของคนต่างชาติ  ที่มอง……………….. ชาวนาไทย
หากมีลูกหลานชาวนาอย่างน้องมาลินี ที่ไม่อยาก “ตัวดำ” เป็นจำนวนมากแล้ว
อนาคตของ “ชาวนาไทย” ก็อาจจะต้อง “ดำมืด” แทน
อาจถึงเวลาแล้วที่… รัฐบาลไทย หรือ….  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะต้องคิดถึงแหล่งสำรอง “อาหาร” ……………………….  ในอนาคต
ก่อนที่ ประเทศไทย ทั้งประเทศ…………………………………  
จะไม่มีคนไทยซักคนเลย ที่อยากเป็น…………………….  “ชาวนา”


(http://www.bloggang.com/data/savika/picture/1180353947.jpg)



เครดิต  คุณlookpu99
เวบ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=67392.0 (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=67392.0)

ภาพประกอบจากเวบไซด์ทั่วไปครับ


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:35:23 AM
ประเด็นของมันก็คือชาวนาไม่เคยได้ร่ำรวยจนปลอดหนี้สินครับ... ยิ่งทำไปก็ยิงจมลง จมลง จนในที่สุดก็ต้องขายที่ดินเอาไปส่งลูกเรียนหนังสือ แล้วลูกก็ไม่ได้เป็นชาวนา...

ชาวนาที่ยังทำนาอยู่ ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเองแล้วครับ แต่ใช้วิธีจ้างแรงงานรายวันทำเป็นรอบๆ แล้วแต่กิจกรรมแต่ละครั้งไป... แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เงินทองพอเลี้ยงชีวิตให้อยู่สุขสบาย...


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: uncle_oud-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:36:59 AM
อ่านแล้วใจหายเมืองไทยเมืองอู่ข้าวอู่น้ำเมืองที่ส่งออกข้าวเป็นสินค้าหลัก
แต่ไม่มีใครอยากทำนาเพราะกลัวลำบากและกลัวตัวดำหรือเป็นเพราะลัทธิ
บริโภคนิยมทำให้คนรุ่นใหม่อยากทำงานห้องแอร์,มีมือถือใช้.....ลำบากแน่ต่อไป


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: _RANGER_ ที่ มิถุนายน 09, 2012, 10:44:03 AM
เพราะราคาข้าวที่ผ่านมามันไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยครับถ้าข้าวราคาดีคงมีคนอยากทำมากกว่าเดิมแน่นอนครับ 8)


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มิถุนายน 09, 2012, 10:49:34 AM
มีชาวนากี่คนที่ไม่มีหนี้สิน แล้วทำนาทั้งปีพอหักค่าปุ๋ยค่ายาแล้วเหลือเงินสักเท่าไหร่เองที่บ้านผมที่ยังทำอยู่ตอนนี้ก็แค่อาศัยไม่ต้องซื้อข้าวกินแค่นั้นเองครับ ส่วนเงินที่ขายข้าวมันก็ใช่ว่าจะได้มากมายอะไรถ้ายึดอาชีพทำนาอย่างเดียวไม่รอดหรอกครับ อีกอย่างวัยรุ่นสมัยนี้เรียนสูงกว่าสมัยก่อนที่จบแค่ ป๔ ป๖ แล้วจะให้เค้าไปทำนามันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ เค้าก็ต้องหางานทำที่มันเหมาะสมกับความรู้ที่เค้าเรียนมาสิครับ เค้าก็เห็นอยู่ว่าพ่อแม่ทำนามันลำบากขนาดไหนแล้วจะให้เค้ามาเลือกอาชีพชาวนามันเป็นไปยากครับ


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มิถุนายน 09, 2012, 11:01:51 AM
... ขอบคุณครับ ... สำหรับข่าวสาร ข้อมูล ... ผมยังอยากทำนาอยู่ ... ช่วงนี้กำลังหัด ...  ;D ;D ;D ... ::014:: ... +1 ทุกท่าน

... ขอออกนอกเรื่องสักนิด ........................  พอดีช่วงนี้น้ำฝนมีไม่พอ ... พ่อตาจะใช้วิธีสูบน้ำดำกล้า ... ปรากฎว่าเครื่องสูบน้ำแบบจุ่มตัวเก่ามันเจ๊ง ... ซ่อมไปทีหนึ่งแล้วมันไม่เวิร์ก ยี่ห้อ SPA หรืออะไรนี่และครับฟังไมชัด ...

... คำถาม ??? ...................... ต้องการใช้เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม (ปั๊มจุ่ม,  ปั๊มแช่) ... ขนาดท่อ 3 นิ้ว ... 1 1/2 แรงม้า ... 220 โวลท์ ... ในงบประมาณ ไม่เกิน 6,000 บาท .............. จะใช้ของยี่ห้ออะไรดีครับ ...  ::014:: ... (หาข้อมูลในเน็ทแล้วมันเยอะมาก เลือกไม่ถูก  ไม่มีประสบการณ์)


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 09, 2012, 11:13:45 AM
ปั๊มน้ำมีสามแบบ
แบบที่ให้แรงดันต่ำ ความเร็วสูง(Hต่ำ Qสูง)
แรงดันกลางๆ ความเร็วกลางๆ (Hกลาง Qกลาง)
กับแรงดันสูง ความเร็วต่ำ(Hสูง Qต่ำ)

สูบน้ำเข้านา แบบแรกเหมาะสุดครับ เพราะมักสูบกันไม่ไกล
เอาไว ความเร็วสูงปริมาณน้ำเยอะัๆเข้าว่า เอาตรงนี้เป็นตัวแปรในการเลือกครับ


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มิถุนายน 09, 2012, 11:17:41 AM
ที่บ้านใช้ปั๊มหอยโข่งติดกับเครื่องรถไถครับ


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 09, 2012, 11:23:04 AM
แบบหอยโข่ง แบบท่อนาค เป็นพวกแรกครับ แรงดันต่ำ ความเร็วสูง


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มิถุนายน 09, 2012, 11:58:18 AM
... ขอบคุณครับ ...  ::014::

... ช่วงนี้ฝนห่าง ... ก็เลยจะสูบน้ำดำกล้าใช้พื้นที่ประมาณ 1-2 ไร่ ... เอาไว้รอปักดำนาข้าว  33 ไร่ (ดำหว่านด้วยบางส่วน) ......... ช่วงดำนาจริงๆ ก็อาจจะได้สูบน้ำรอฝน ฝนค่อนข้างจะมาช้าทุกปี ... แต่ช่วงนี้ก็ดำกล้าเอาไว้ขายด้วย ครับ...  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มิถุนายน 09, 2012, 04:49:55 PM
        ผมรับราชการ
เพราะไม่มีเรือสวนไร่นาใด ๆ
ไปอยู่ใต้  ผมเคยทำนาอยู่ ๒-๓ ปี
โดยอาศัยดินว่าง ๆ ที่เจ้าของเขาไม่ได้ทำอะไร
ตอนนี้เขาใช้ประโยชน์จากที่ดินนั้น  เลยไม่ได้ทำ
ผมทำแค่"พอกิน" ครับ  ถ้ามีที่ก็ยังอยากจะทำ เสียดายจริง ๆ
ข้าวที่ทำมากับมือกินอร่อย  พืชผักผลไม้ที่ปลูกเองก็เช่นกัน ครับ
        เสียดาย
ที่เด็กรุ่นใหม่ 
ไม่เห็นความสำคัญ ครับ


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ มิถุนายน 09, 2012, 05:08:38 PM
พูดในฐานะลูกชาวนา และชาวนาเอง
ทุกวันนี้รายได้หลักของผมมาจากการขายเบเกอรี่ หน้านาก็ทำนาที่เป็นมรดก มีเงินก็ซื้อที่เก็บไว้บ้าง หวังกำไรระยะยาวแบบยั่งยืน เพราะทุนทรัพย์มันไม่เอื้ให้ทำธุริจได้ง่ายๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไอ้จะล้มบนฟูกอย่าได้หวัง เพราะชาวนาส่วนใหญ่คดโกงไม่เป็น

ปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ที่ว่า "อยากทำหรือไม่อยากทำ" แต่มันคือ"คุ้มกับไม่คุ้ม"
ทำนามันไม่ได้อะไรนอกจากข้าวกินไปวันๆ แล้วจะทำเพื่ออะไร เกียรติหรือ ศักดิ์ศรีของประเทศไทยหรือ
ความภูมิใจที่นายทุนยัดเยียดให้รู้สึกอย่างนั้นหรือ

คนที่พูดว่าสลดหดหู่ว่าทำไมวัยรุ่นไทยคิดแบบนี้ ชาวนาไทยคิดแบบนี้ ลองอาชีพตัวเองทำเป็หลักรายได้ไม่พอยาใส้ยังอยากจะทำต่อให
ธุรกิจที่ลงแรงไปมีแต่ขาดทุน จะทำต่อใหม

อย่ายัดเยียดศักดิ์ศรีจอมปลอมใส่สมองกันเลย ในเมื่อความเป็นจริงมันไม่ใช่


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มิถุนายน 09, 2012, 05:33:08 PM
ใช่ครับ ... ทำนาอย่างเดียว มันไม่พอใช้จริงๆ ในยุคนี้ ... ต้องมีอาชีพที่มีรายได้แน่นอนทำ  และ อาชีพเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม ... จึงจะอยู่ได้ ................. แต่ที่แน่ๆ คือ ได้ข้าวไว้กิน  ที่เหลือก็ขายเอาทุนคืน ... โดยปกติถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้เสียหาย เช่น ฝนแล้ง  ปุ๋ยแพง/ค่าแรงมหาโหด  ราคาข้าวตกต่ำ ... ก็ไม่ถึงกับขาดทุน ...  ;D ;D ;D

เท่าทีพ่อตาผมทำมา ... ส่วนหนึ่งทำเอง ... ส่วนหนึ่งจ้างทำ ........ ก็มีข้าวไว้กินบ้าง แบ่งญาติพี่น้องกินบ้าง ... เดือนละประมาณ 2-3 กระสอบ  ก็ยังพออยู่ได้ทั้งปี .................. ที่เหลือนอกจากนั้นก็ขาย ... อาจจะไม่ได้กำไรมากนัก ... ก็ได้อาศัย เลี้ยงวัว  เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว/ผลไม้ไว้กินเอง ............... ไม่รวยครับ ... แต่ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก(แต่ต้องพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ) ...  ::014::


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มิถุนายน 09, 2012, 05:49:06 PM
พูดในฐานะลูกชาวนา และชาวนาเอง
ทุกวันนี้รายได้หลักของผมมาจากการขายเบเกอรี่ หน้านาก็ทำนาที่เป็นมรดก มีเงินก็ซื้อที่เก็บไว้บ้าง หวังกำไรระยะยาวแบบยั่งยืน เพราะทุนทรัพย์มันไม่เอื้ให้ทำธุริจได้ง่ายๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไอ้จะล้มบนฟูกอย่าได้หวัง เพราะชาวนาส่วนใหญ่คดโกงไม่เป็น

ปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ที่ว่า "อยากทำหรือไม่อยากทำ" แต่มันคือ"คุ้มกับไม่คุ้ม"
ทำนามันไม่ได้อะไรนอกจากข้าวกินไปวันๆ แล้วจะทำเพื่ออะไร เกียรติหรือ ศักดิ์ศรีของประเทศไทยหรือ
ความภูมิใจที่นายทุนยัดเยียดให้รู้สึกอย่างนั้นหรือ

คนที่พูดว่าสลดหดหู่ว่าทำไมวัยรุ่นไทยคิดแบบนี้ ชาวนาไทยคิดแบบนี้ ลองอาชีพตัวเองทำเป็หลักรายได้ไม่พอยาใส้ยังอยากจะทำต่อให
ธุรกิจที่ลงแรงไปมีแต่ขาดทุน จะทำต่อใหม

อย่ายัดเยียดศักดิ์ศรีจอมปลอมใส่สมองกันเลย ในเมื่อความเป็นจริงมันไม่ใช่

ใช่ครับ ... ทำนาอย่างเดียว มันไม่พอใช้จริงๆ ในยุคนี้ ... ต้องมีอาชีพที่มีรายได้แน่นอนทำ  และ อาชีพเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม ... จึงจะอยู่ได้ ................. แต่ที่แน่ๆ คือ ได้ข้าวไว้กิน  ที่เหลือก็ขายเอาทุนคืน ... โดยปกติถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้เสียหาย เช่น ฝนแล้ง  ปุ๋ยแพง/ค่าแรงมหาโหด  ราคาข้าวตกต่ำ ... ก็ไม่ถึงกับขาดทุน ...  ;D ;D ;D

เท่าทีพ่อตาผมทำมา ... ส่วนหนึ่งทำเอง ... ส่วนหนึ่งจ้างทำ ........ ก็มีข้าวไว้กินบ้าง แบ่งญาติพี่น้องกินบ้าง ... เดือนละประมาณ 2-3 กระสอบ  ก็ยังพออยู่ได้ทั้งปี .................. ที่เหลือนอกจากนั้นก็ขาย ... อาจจะไม่ได้กำไรมากนัก ... ก็ได้อาศัย เลี้ยงวัว  เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว/ผลไม้ไว้กินเอง ............... ไม่รวยครับ ... แต่ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก(แต่ต้องพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ) ...  ::014::

ตามนั้นครับ, มันไม่พอกิน... ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ครับ... แฮ่ๆ...


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ มิถุนายน 09, 2012, 06:30:26 PM
คนรุ่นเก่าๆเหลายท่านก็มีส่วนผิด..."ตั้งใจเรียนนะลูกจะได้เป็นเจ้าคนนายคนจะได้ไม่ต้องทำไร่ทำนาให้ลำบาก"...มันต้องสอนแบบนี้... "ตั้งใจเรียนนะลูกเรียนให้สูงๆจะได้กลับมาใช้วิชาที่เรียนเพื่อนำมาพัฒนาบ้านเรา"...ผมดูละครหลายๆเรื่องที่นำเสนอแนวแบบนี้ก็ต้องขอชื่นชม แต่วัยรุ่นก็นะมันดูสะที่ไหนละครแนวนี้...ถ้าจะเปรียบก็เหมือนควายหล่ะครับที่ทุกวันนี้มันไม่ยอมไถนาชอบไปเผาบ้านเผาเมือง...อุ๊ย...ลืมตัว...ขออภัย...


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: Tanate(รักในหลวง) ที่ มิถุนายน 09, 2012, 07:00:34 PM
ลูกน้องบ้านผมมาทำงานแบกหาม แต่วันไหนหยุดเขาก็ไปทำนานะครับ ไม่เห็นเขาบ่นหรืออะไรเลย

สงสัยโพลล์ดันไปถามคนที่ครอบครัวไม่ได้มีอาชีพทำนา ::013::


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มิถุนายน 09, 2012, 07:09:19 PM
มันมีประเด็นอีกน่ะครับ... คือข้าวสารราคาแพงหรือข้าวสารราคาถูก ชาวนาก็ขายข้าวได้เงินไม่พอกินอยู่ดี แต่คนที่รวยคือพ่อค้าคนกลางตลอดกาล...


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ มิถุนายน 09, 2012, 08:51:54 PM
 อีกหน่อยน้องมาลินี  ก็มาคงมาเป็นสาวโรงงานแถวนี้แหละ......    :P


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:00:35 PM
               เคยได้ยินมาว่า  ...  อาชีพ "ขอทาน" ...  ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพสงวนสำหรับคนไทย    แต่เท่าที่เห็น พูดไม่ออกบอกไม่ถูกครับ   ::004::



หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:07:18 PM
  ขอทาน ถือเป็นอาชีพด้วยหรือครับลุงปู.... ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือครับ.........


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:33:06 PM
ผมเชื่อว่าอย่างไรเสียอาชีพทำนาก็ยังคงมีต่อไปเพียงแต่อาจเปลี่ยนรูปแบบ เช่น หันมาใช้เครื่องจักรมากขึ้น ทั้งไถ คราด หว่านดำ เก็บเกี่ยว
ขับรถไปไร่นาแถวๆรอบๆกรุงเทพดูครับ ผมพบเจอบ่อย ชาวนา ขับวีโก้ มาจอดทำนา


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มิถุนายน 09, 2012, 09:36:42 PM
  ขอทาน ถือเป็นอาชีพด้วยหรือครับลุงปู.... ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือครับ.........
                   ไม่แน่ใจนะครับ  แต่เท่าที่เคยสดับรับรู้มา  "  มันใช่เลย  "  .......  แสดงว่าโบราณกาลเขารู้อนาคตก่อนแล้ว   :~)


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: mrt ที่ มิถุนายน 10, 2012, 12:37:57 PM
ทำแล้วไม่พอค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรง ค่าน้ำมันไถหว่าน สูบน้ำ ใครจะอยากทำครับ พวกที่หากินกับข้าวแล้วรวยสะดือปลิ้นก็พวกพอค้าคนกลาง  ::013::
เห็นมากี่ปีก็ไม่มีเปลี่ยน ไม่ว่าจะยุคใหน สมัยใหน ใครมาเป็นรัฐบาล  ให้ อ.  มหาวิทยาลัยมหิดล คนนั้นมาทำ ก็เชื่อว่าแกคงไม่ทำ  ::014::


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มิถุนายน 10, 2012, 01:58:44 PM
อีกหน่อยน้องมาลินี  ก็มาคงมาเป็นสาวโรงงานแถวนี้แหละ......    :P

พอโรงงานน้ำท่วมหลายคนผันตัวเองไปทำงานในโรงแรม แว่วว่าตอนนี้ซัพพลายสูงกว่าดีมานด์ลิ่วๆ

ใครที่กล้าๆและสำรวจตลาดบ่อยๆช่วยมายืนยันหน่อยดิ  ::005::


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ มิถุนายน 10, 2012, 02:27:04 PM
อีกหน่อยน้องมาลินี  ก็มาคงมาเป็นสาวโรงงานแถวนี้แหละ......    :P

พอโรงงานน้ำท่วมหลายคนผันตัวเองไปทำงานในโรงแรม แว่วว่าตอนนี้ซัพพลายสูงกว่าดีมานด์ลิ่วๆ

ใครที่กล้าๆและสำรวจตลาดบ่อยๆช่วยมายืนยันหน่อยดิ  ::005::

        แสดงว่าน้องเขาจบการโรงแรมมานะซิ....   ;D   หลังน้ำท่วมข่าวมาแบบนั้นเหมือนกัน บางคนหนีน้ำไปนั่งดริ้งไกลถึง อ.ปาย แม่ฮ่องสอนโน่น  :OO


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: npk223 ที่ มิถุนายน 10, 2012, 02:47:46 PM
ขอแจมด้วยหน่อย  ไม่ใช่เฉพาะอาชีพชาวนาหรอกครับอาชีพทางการเกษตรทุกชนิดตอนนี้หาคนรุ่นใหม่ยาก  เมือไม่นานมานี้ผมโทรไปคุยกับอาจารย์ที่เคยสอนผมในวิทยาลัยทางด้านการเกษตร  เพื่อให้แก่หาเด็กมาทำงานในฟาร์ม แก่ยังบ่นเลยว่าเดียวนี้เด็กเรียนด้านการเกษตรน้อยลงมากๆ แถมไม่ค่อยสนใจเรียนอีกต่างหาก ไอ้ที่เรียนกันอยู่ก็แบบว่าหมดที่ไป  ความรับผิดชอบก็ต่ำ  ขาดความอดทน  วิชาความรู้ก็ไม่ใส่ใจค้นคว้า   ::004:: ::004::   ผมยอมรับว่าอาชีพทางการเกษตรมันเหนื่อยมักถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวกพ่อค้าเป็นประจำ แหล่งเงินทุนก็แสนจะหาได้ลำบาก ถ้าไม่มีที่ดินอย่าหวังว่าธนาคารจะให้กู้ ถึงให้กู้ก็แค่ครึ่งเดียว ไม่ว่จะธนาคารไหนก็ตาม  :~) :~)  แต่ในทางกลับกันคนที่ทำงานราชการหรือพวกที่มีเงินเดือนยังกู้เงินได้มากกว่า  แต่ตอนนี้แถวบ้านผมมีพวกข้าราชการเกษียรมาแห่กันซื้อสวนปาล์ม ซื้อสวนยางราคาไร่ละสองสามแสน ที่ป่าก็ไม่เว้นที่จับกันไม่หมดเพราะล้วนแต่เป็นของท่าน ๆ ทั้งนั้น ผมได้ลองคุยกับท่านเหล่านั้น บอกว่าไว้กินตอนแก่  แต่ผมอยากจะเตือนคนกลุ่มนี้ว่ามันไปไม่รอด  มูลค่ามันสูงเกินตัวทที่จะทำการเกษตรได้แล้ว :<< :<<  สุดท้านที่ทางเหล่านี้คงไปกองอยู่ที่ธนาคารเป็นกองแน่ ๆ  หลักการคิดของคนเหล่านี้มักคิดว่าภาคการเกษตรนั้นมีแต่ได้  ได้เดือนเท่านั้น  เท่านี้เหมือนในหนงสือทางการเกษตรเลย   ผมบอกได้คำเดียวเลยว่าเจ้งแน่ๆ   เพราะต้นทุนทางการเกษตรของเราสูงกว่าประเทศคู่แข่งสองสามเท่าตัว  ทำให้การแข่งขันในโลกปัจจุบัน ทำได้อยาก แค่เท่าเดียวก็เอาให้รอดผมบอกได้เลยว่าเกือบจะทำไม่ได้แล้ว สำหรับประสบการณ์ที่ผมอยู่ในภาคเกษตรบอกได้เลยว่า พืชอะไรก็ตามที่ภาครัฐออกมาสนับสนุน จงหลบให้พ้นเสียอย่าได้ตามกระแส    ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: jojo_wattana ที่ มิถุนายน 10, 2012, 04:34:19 PM
ราคาข้าวไม่ดี ชาวนาเลยหนีไปทำอย่างอื่น.....ราคาข้าวกำลังดีแต่รัฐก็มาควบคุมให้มันถูก
ตอนนี้ผมยังทำนาอยูแต่เป็นอาชีพเสริม.....


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: General Lee ที่ มิถุนายน 10, 2012, 05:18:52 PM
ถ้าคุณมีลูกอยากจะให้เป็นชาวนา หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักธุรกิจ แพทย์ ตำรวจ ทหาร ???
ผมว่าคำตอบคงไม่ต่างกันและเชื่อว่าคงเลือกแบบหลังมากกว่า


 


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ มิถุนายน 10, 2012, 07:09:00 PM
ที่พออยู่ได้ก็เห็นแต่ชาวนาโซนใกล้ๆกรุงเทพ แถวอยุธยาสุพรรณแล้วส่วนใหญ่ที่อยู่ได้มีที่มรดกแปลงใหญ่

ให้เช่าทำบ้างทำเองบ้าง

นอกนั้นส่วนใหญ่ก็ทำใช้ค่าปุ๋ยค่ายา ทำให้พ่อค้าคนกลางรวยต่อไป


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ มิถุนายน 10, 2012, 10:09:23 PM
ประเทศที่มีผู้มีอำนาจ บริหารประเทศแบบ มือยาวสาวได้สาวเอา
ไร้อุดมการณ์และสำนึกต่อส่วนรวม แถมยังไร้วิสัยทัศน์และด้อยสติปัญญาอีก
ก็เป็นเช่นนี้แล


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: Autumn ที่ มิถุนายน 11, 2012, 07:30:31 AM
ครอบครัวข้างบ้าน มี พ่อ (อายุ 59)  แม่ (57) ลูก (31)  ลูกคนโต แยกครอบครัวไปแล้ว
ทำนาเป็นอาชีพ ตากแดด ปีละ 300 กว่าวัน

ทำนาปรัง  ได้  200 กว่ากระสอบป่าน ถ้าขาย กระสอบละ 800 +  บาท   รวม ๆ ประมาณ สองแสนบาท

นาปี ได้ 300 กว่า กระสอบป่าน กระสอบละ 800 +  บาท   รวม ๆ ประมาณ สองแสนสี่ ถึง สามแสน บาท

รวม ๆ แล้ว  หาเงินได้ปีละ  สี่แสนสี่ถึงห้าแสน  หักค่าใช้จ่ายประมาณ แสนสี่ถึงสองแสน (ไม่ได้จ้างทุกอย่าง บางอย่างทำเอง)

ถึงหน้าแล้ง ทำสวนปลูก ถั่วเหลือง อีก

รายรับที่เหลือประมาณ ปีละ สองถึงสามแสน  สำหรับอาชีพทำนา ถือว่าไม่น้อย เพราะ รายจ่ายอื่น นอกเหนือการทำนา มีไม่มาก

ทำนาเหนื่อยมากนะครับ

ปีที่แล้ว เขาซื้อรถไถนา (เงินผ่อน ส่งรายปี  150,000 )

ถึงวันนี้ เขายังโสด ไม่มีสาวใดสนใจ  เพราะ ทำงาน ตากแดดทั้งวัน  สาว ๆ ชอบงานสบาย ๆ ในเมือง ในห้องแอร์


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มิถุนายน 11, 2012, 08:01:08 AM
อย่ามองแค่ประเทศไทย ที่ญี่ปุ่นเอง ถึงแม้ว่าชาวนาเขาข้าวจะขายได้ราคาสูงเพราะรัฐบาลเขาช่วย
ชาวนาเขาก็จัดว่ามีรายได้พอสมควร แต่วัยรุ่นลูกหลานของครอบครัวชาวนา ก็ไม่อยากจะทำนาเลย
ส่วนใหญ่มีความฝันของตัวเอง ความต้องการเหมือนกับวัยรุ่น ทั่วๆไปเหมือนกับประเทศอื่น

ผมกลับมองว่าในอนาคต  อาชีพชาวนากลับเป็นคนวัยเกษียณ ที่ต้องการใช้ชีวิตเข้าหาธรรมชาติ
แต่จะใช้วิชาความรู้หรือวิธีการเพาะปลูกชาวที่ได้ผลผลิตดีกว่าแบบเดิม และปลูกพืชอื่นเสริม

กลับมามองชาวนาดั่งเดิม  หากไม่รวมตัวกัน หรือ คิดหาวิธีใหม่ๆ พึ่งแต่ธรรมชาติอย่างเดียว
สุดท้ายจะต้องเสียที่นา แล้วยังต้องเป็นลูกจ้างเขาอีก  จะเป็นชาวนาหรือใคร ก็ต้องดิ้นรนและ
รู้จักพัฒนา  หลายสิ่งที่ในหลวงก็ทรงคิดค้นให้แล้วและอยากให้ชาวนาหรือเกษตรกรไทยนำใช้
เห็นชาวนาบางคนนำไปใช้แล้วก็ประสบความสำเร็จ มีความสุขดี หากชาวนาไทยรู้จัก
ปรับตัวครับ

อ่านเจอเช้านี้ พอดีครับ 
http://www.komchadluek.net/detail/20120611/132448/หากช่วยกันชาวนาไทยไม่สูญพันธุ์.html