เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมตั้งใจจะตอบกระทู้จากบอร์ดเก่า ที่ถามเกี่ยวกับทำปืนพังกับมือ แต่หาไม่เจอก็เลยขอตั้งใหม่ก็แล้วกันเพราะเป็นประสพการณ์เมื่อสองสามวันมานี้เอง อันที่จริงทำปืนพังนี่ผมทำมามากครับ เพราะผมถือว่าปืนก็เป็นเสมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ถ้าสงสัยอะไร เสียตรงไหนผมแกะออกดู ถ้าส่วนประกอบชิ้นไหนชำรุดเสียหายผมก็สั่งชิ้นใหม่มาเปลี่ยน แต่อันล่าสุดนี่เป็นปืนแข่งขัน 1911 Hardball ที่สั่งทำมาจาก Clark Custom Gun (clarkcustomguns.com) ผมก็ใช้ยิงกระสุน 230 Gr. (Military Ball Ammo) มาโดยตลอด เสียดายว่าไม่ได้เก็บรวบรวมประวัติไว้ว่ายิงมากี่หมื่นนัดแล้ว (เพราะเมื่อก่อนเวลาผมไปซ้อมยิงนี่ ยิงจริง  ๆ  เลย) ไปยิงเมื่อวันก่อน เพื่อนอเมริกันเป็นคนยิง ปรากฏว่า Bushing ที่ปากลำกล้องหักครับ Recoil Spring และ Plug พุ่งกระเด็นไปข้างหน้า กระสุนที่ใช้ยิงนัดสุดท้ายก็เป็นกระสุน Hardball ธรรมดาผมใช้/ยิง ปืน 1911 มากว่าสามสิบปีก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละครับครั้งแรก เมื่อก่อนผมไม่เชื่อว่าเปลี่ยน Recoil Guide Rod แล้วจะทำให้ปืนดีขึ้น แต่ตอนนี้เชื่อแล้วครับ ท่านที่ใช้ปืน 1911 ในการพกป้องกันตัว ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยน Recoil Guide Rod เป็นแบบยาว (Full length) อาจจะช่วยป้องกันอาการแบบนี้ได้ครับ

(http://D:\Documents and Settings\Ekapol Yamfang\My Documents\My Pictures\olympus)

......... ;D...มีรูปให้ดูไหมครับคุณ dpd8159 .. ;D

  เพราะผมถือว่าปืนก็เป็นเสมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ถ้าสงสัยอะไร เสียตรงไหนผมแกะออกดู ถ้าส่วนประกอบชิ้นไหนชำรุดเสียหายผมก็สั่งชิ้นใหม่มาเปลี่ยน
 ทัศนะคติคล้ายกันครับ ตามความรู้สึกของผมปืนก็เป็นของใช้งานกึ่งของเล่น(สุดโปรด)ชิ้นนึงไม่ต่างอะไรกับรถ ก็เลยมีนิสัยชอบรื้อๆแกะๆออกมายำเล่น :P แต่เวลาประกอบกลับสิครับ เหงื่อตกซิกทุกที ;)

ต้องขอโทษด้วย กำลังพยายามใส่รูปอยู่ครับ แต่ยังไม่ได้ซักที ทำตามกระทู้ที่อธิบายการใส่รูปแล้วแต่ยังไม่ได้ครับ  (http://)

ครับพี ผมก็เคยได้ยินข้อถกเถียงระหว่าง rod or not to rod !!! แต่ก็ไม่เคยเจอด้วยตัวเอง ขอบคุณมากครับที่ เล่าให้ฟังปืนผมเองมี ไกด์ร็อด ครับ :)

เสียใจด้วยครับพี่ แล้วพอซ่อมเองได้หรือเปล่าครับ ของผมเองก็เกือบไปเหมือนกัน ตอนนั้นใช้1911ของAUTO ORDANCE CORP ผมพึ่งหัดอัดลูกใหม่ๆก็ใส่ดินโดยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร อัดหัวกระสุ่นลึกไปบ้างอะไรแบบนี้ bushingก็ไม่เคยเปลี่ยน วันหนึ่งถอดออกมาทำความสะอาด ถึงได้รู้ว่าbushing มันแตก ถ้าฝืนยิงต่อไปคงไม่เหลือเหมือนกัน ใส่รูปพี่กดตรง (ตัวเลือกเพิ่มเติม) ด้านซ้ายมือครับ แต่พี่ค้องลดขนาดรูปให้พอดีนะครับ ถ้าใหญ่มากจะใส่รูปไม่ได้

 ;) รบกวนพี่ dpd8159 ลองดูที่นี่นะคับ...คุณใหม่แนะนำไว้ละเอียดมากคับ...
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=85.0
 ;D

(http://photo.keepalbum.com/?2245446)

ผมก็เคยแตกครับ แต่เป็น Spherical Bush ของ Briley
ชิ้นแหวนชั้นในขาดเหมือนถูกฉีกเลย   
ปืนกระบอกนี้ของคุณ ตร.เมกา คงยิงแม่นมาก

  :o???ขอบคุณมากครับคุณ ตร เมกา จะได้ระวังๆกันไว้ครับ :-[

ถ้ารูปอยู่ในกล้องหรือในเครื่องคอมฯ
ตอนตอบ  คลิ๊กไปที่ "ตัวเลือกเพิ่มเติม" ที่เป็นสีฟ้าเห็นไหมครับ
จะขึ้น Browse ให้เราเลือกภาพได้จากกล้องหรือจากคอมฯ ครับ

ขนาดต้องไม่เกิน 128k ;D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ขอลองอีกทีครับ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

พอจะมีรูป closeup บูชใกล้ ๆ หน่อยได้ไหมครับ ?

 ;D น่านน่ะสิคับ...อยากเห็นชัดๆเหมือนกันคับ...  ;)

ได้ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

เป็นบูชยี่ห้ออะไรครับ ?

จริง ๆ แล้วไม่ทราบ  แต่เนื่องจากเป็นปืนที่สั่งทำมาจาก Clark Custom Guns จึงขอเดาว่าเป็นยีห้อของ Clark ครับ

ดูเหมือน material ไม่ค่อยดีพอ

...ตั้งประเด็นคุยกันเล่นๆ นะครับ

...คิดว่าการใช้ไกด์ร๊อดยาวจะลดโอกาสเกิดปัญหานี้ได้มากน้อยแค่ไหนครับ ผมเองดูแล้วไม่แน่ใจว่าจะมีผลมากครับ ???

คิดว่าตัวไกด์ร็อดไม่เกี่ยวครับ 
แต่ plug ของไกด์ร็อดหรือการฟิตติ้งนั้นเกี่ยวเสียมากกว่าครับ
กรณีจากรูป  ผมว่าคุณภาพของ material ก็มีส่วนไม่น้อย

เสียใจด้วยครับท่าน ตร.เมกา  ของรักของหวงเข้าใจดีครับ  ผมไม่เคยเจอปัญหาตรงนี้ครับ แต่ที่เคยเจอกับตัวเองเลยคือเมื่อปีที่แล้ว ผมซ้อมยิงอยู่ที่สนามค่ายตากสิน จ.จันทบุรี แม็กแรกปกติดี
พอจบแม็กที่สอง  สไล้ด์ค้างปกติ แต่พอผมกระดกลำกล้องปืนขึ้นเตรียมจะถอดแม็กออก ได้ยินเสียงดัง "แกร๊ก" เสียงดังผิดปกติครับ ผมถอดดูปรากฎว่า ห่วงใต้ลำกล้องแตก และหลุดออกจากสลักยึดเลยครับ  ยังโชคดีที่สังเกตุเห็นซะก่อนครับ (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้) ตอนนั้นผมใช้ลูก SPEAR ครับ  อาจจะเป็นเพราะความแรงของลูกด้วย และอายุการใช้งานของปืนด้วยครับ (ช่างบอกว่างั้น)

การอบคลายเครียดในเนื้อเหล็ก ทำกันอย่างไรครับ ?

               อธิบายอย่างง่ายๆนะครับ ทำได้โดยการนำวัสดุที่ต้องการมาทำการ
-อบซ้ำอีกครั้งที่อุณหภูมิ-เวลาที่กำหนด(มักจะต่ำกว่าอุณหภูมิที่ใช้ในการอบเพื่อชุบแข็ง)
-แล้วนำออกมาลดอุณหภูมิช้าๆ (ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำสูงมักทำขั้นตอนนี้ในห้องอบเพื่อควบคุมอุณหภูมิเป็นขั้นบันได)
เวลาทำจริงๆ จะมีตารางอุณหภูมิ-เวลาแบบกึ่งสำเร็จรูปเหมือนมาม่า มาให้ใช้ได้เลยครับ ทั้งการอบชุบแข็ง,อบคลายเครียด แต่ช่างบ้านเราชอบใช้วิธี
เผา--->แช่น้ำ เพื่อชุบแข็งอย่างเดียวครับ พอต้องการลดความเครียด,อบอ่อน พี่แกเข้าไปอบในอ่างอาบน้ำ กันท่าเดียว ;D

ไม่เข้าใจตรงที่ลดอุณหภูมิช้า ๆ นี่แหละครับ
ถ้าเอาไฟเป่าให้ร้อนอีกครั้ง  แล้วปล่อยให้อากาศถ่ายเทตามปรกติ
อย่างนี้ ถือว่าช้าไหมครับ ?

 ปกติช่างทั่วไปก็ทำยังงั้นแหละครับ แต่ถ้าต้องการคุณสมบัติแบบเจาะจงจริงๆ ก็จะใช้วิธีลดอุณหภูมิในเตาอบเป็นช่วงๆตามตาราง ระหว่างนั้นก็มักจะมีการเติมสารช่วยเพิ่มคุณสมบัติเข้าไปตามต้องการ เช่นกราไฟต์,โปแตสเซียม(K) ฯลฯ

ยังไม่เคยพักครับ ::)

ขุดกันขนาดนี้เลยเหรอครับ   ;D

คุณ Sig.45 เพิ่งสมัครใหม่เลยตามอ่านกระทู้เก่าๆโดยลืมดูไปว่าตั้งหลายปีแล้ว

ขุดไปถึงปี 2004 นู่น

ตั้งแต่คุณ buck19 ยังอยู่เลย