เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88

..ติดตามตอนที่ ๒  คืนนี้ช่วงข่าวหนึ่งทุ่ม.. :OO

ปืน สวดก. ก็ต้องอยู่ในมือราชการ เหมือนเดินเกมส์  เปิดประเด็นทางการเมืองครับ ::014::

ประโยคท้ายสุดก็เป็นคาดเดาในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แนวความคิดแบบนี้น่าจะใช้คุยกันในวงเหล้ามากกว่า สิ่งที่ที่ออกมาทางสื่อสารมวลชนควรจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริง เหมือนดูภูกข้าราชการว่าอีกหน่อยคงไปเป็นโจร
 

[size=10pt]ด้วยความเห็นส่วนตัวของผม  ผมว่าถ้าเจตนารมย์คือ "ต้องการให้ข้าราชการมีปืนไว้ใช้งานในราคาถูก" ก็ควรกำหนดว่าหนึ่งท่านซื้อได้ไม่เกินสองกระบอก จะเป็นสั้นหรือยาวก็ได้ เพราะการใช้งานก็คงไม่ต้องมีมากกระบอกนัก ส่วนใครที่เป็นข้าราชการและต้องการมีมากกว่านั้นก็ไปซื้อตามระบบปรกติ และปืนที่จะนำมาจำหน่ายในสวัสดิการก็ควรเป็น "ปืนใช้งานจริงๆ" ปืนประเภท "เก็บสะสม และ แข่งขัน" ก็ไม่ควรเข้าข่ายตามเจตนารมย์ นี้  ทั้งนี้กราบเรียนว่าเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และนี่เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น  เพื่อลดความรู้สึกแตกต่างระหว่างคนชอบปืนที่เป็นข้าราชการกับประชาชนทั่วไป ::014:: ::014:: ::014::   [/size]

เห็นด้วยครับ บางทีก็แอบน้อยใจเช่นกัน  :-\

"อย่างเช่น รุ่น" ทำไมข้อมูลไม่ครบ ไม่ระบุ
ส่วนข้อความตอนท้าย มันก็มีส่วนถูก แต่ดูเหมือนมัดมือชกมากกว่า

แหล่มเลยครับ กำลังตามเก็บอยู่ ::012::

เห็นเพื่อนๆที่สามารถซื้อสวัสดิการได้ ก็ยังแอบอิจฉาเล็กน้อย :~)

เงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อย อยู่แค่ 10000 - 15000 บาท ลำพังแค่ค้าใช้จ่ายภายในบ้านก็แทบไม่เหลือเก็บ บางคนต้องกู้เงินมาซื้อปืน  ผ่อนกันหลายๆ ปีกว่าจะหมด แต่มันก็มีข้าราชการบางจำพวก (ผมก็ข้าราชการ) ที่เห็นแก่ได้ สวนสิทธิ์ซื้อให้คนอื่น ทำให้กลายเป็นปืนผิดมือ ข้าราชการพวกนี้ ถ้าจับได้ควรลงโทษสถานหนัก เช่นให้ออกจากราชการ

ด้วยความเห็นส่วนตัวของผม  ผมว่าถ้าเจตนารมย์คือ "ต้องการให้ข้าราชการมีปืนไว้ใช้งานในราคาถูก" ก็ควรกำหนดว่าหนึ่งท่านซื้อได้ไม่เกินสองกระบอก จะเป็นสั้นหรือยาวก็ได้ เพราะการใช้งานก็คงไม่ต้องมีมากกระบอกนัก ส่วนใครที่เป็นข้าราชการและต้องการมีมากกว่านั้นก็ไปซื้อตามระบบปรกติ และปืนที่จะนำมาจำหน่ายในสวัสดิการก็ควรเป็น "ปืนใช้งานจริงๆ" ปืนประเภท "เก็บสะสม และ แข่งขัน" ก็ไม่ควรเข้าข่ายตามเจตนารมย์ นี้  ทั้งนี้กราบเรียนว่าเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และนี่เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น  เพื่อลดความรู้สึกแตกต่างระหว่างคนชอบปืนที่เป็นข้าราชการกับประชาชนทั่วไป     
        เห็นด้วยตามนั้น...เรื่องนี้ผมเคยพูดแล้ว....จุดประสงค์ ดีครับ.
แต่ความเป็นจริงมันคนละเรื่องกัน...

มีอะไรบ้าง ที่คนไทยทำไม่ได้(ในเรื่องซิกแซก อิอิ)

ผมว่าแบ่งวรรณะ"คุณข้าราชการ"กับ"ทาสประชาชน"ไปเลยครับ ไหน ๆ ก็คนไทยที่ไม่สิทธิเท่าเทียมกันอยู่แล้ว จะใด้ไม่ต้องว่าซื้อถูกซื้อแพง

     ถ้าปืนสวัสดิการบางรุ่นแพงกว่าความเป็นจริงแล้ว ประชาชนตาดำๆอย่างผมไม่รู้จะพูดเป็นภาษาอะไรแล้วครับ หน้าร้าน
ผมซื้อแสนเจ็ด-แสนแปด พวกท่านซื้อเจ็ด-แปดหมื่น หน้าร้าน แสนสอง-แสนสาม พวกท่านซื้อสี่หมื่น-ห้าหมื่น ยิ่งคัสต้อม
กัน หน้าร้านซื้อกันเกินสองแสนบาท แต่พวกท่านซื้อกันได้แค่แสนต้นๆ
     ผมมองว่าปืนสวัสดิการ เป็นการเลือกปฏิบัติและไม่มีความเป็นธรรมสำหรับประชาชนอย่างผม นอกจากมีความจำเป็น
ต้องมีปืนสำหรับป้องกันตัว ผมก็อยากได้คัสต้อมกันอย่างเลส แบร์, เอสทีไอ, นาวลิน, วิลสัน คอมแบ็ท, ฯลฯ เหมือนอย่าง
ที่พวกท่านซื้อได้ถูกๆ ผมก็เงินเดือนหมื่นกลางๆ ผมมีครอบครัว มีพ่อ แม่ มีพี่มีน้องเหมือนคนที่มีสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการ บ้าน
ผมต้องเช่า ข้าวผมต้องซื้อเหมือนกัน แถมทำงานเข้าสองโมงเช้า บางวันเลิกสาม-สี่ทุ่มก็มี

คุณRuk...........
ถ้าคำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่ายจริง ปืนสวัสดิการก็ยังถือว่าแพงครับ
ส่วนปืนร้านยิ่งต้องทำให้โคตรแพง เพื่อให้เห็นส่วนต่างจูงใจให้ซื้อปืนสวัสดิการ
ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง หน้าบานทุกคน ยกเว้นกลุ่มผู้ด้อยสิทธิ

และอย่าคาดหวังว่าจะมีใครเห็นใจ อย่าคาดหวังใครร่วมสู้ เพราะคนสู้ได้เขาอยู่ในฐานประโยชน์นั้น
รวมถึงองค์กรวิชาชีพกฎหมาย สภาทั้งหลาย องค์กรท้องถิ่น องค์กรยุติธรรม ได้รับการปันประโยชน์ปิดปาก ทั้งสิ้น

ไม่โดนออกกฎหมายให้ตัดนิ้วชี้ก็บุญโขแล้ว  ::006::

        อดใจอีกหน่อยครับ เดี๋ยวก็ออกมาแล้วพวกครบห้าปี แต่ก็คงไม่ถูกอย่างที่คิดไว้ เพราะตอนนี้หน้าร้านแพงขึ้นมากครับ ผมเองก็แอบมองๆพวกอายุครบห้าปีอยู่เหมือนกัน แต่พวกที่ใจร้อนก็เล่นแร่แปรธาตุ จำหน่ายจ่ายแจกกันไปตั้งแต่ยังไม่ถึงปีก็มี
        แต่ที่ทำใจไม่ได้จริงๆต้องรอมาซื้อปืนสวัสดิการหมดอายุนอกร้านก็เพราะ ผมไปเดินแถววังฯวันเสาร์บ้างอาทิตย์บ้าง แต่ละครั้งป้ายแดงตระกูลยุโรป เอสคลาสบ้าง บีเอ็มบ้าง พอร์ชบ้าง(ของร้านนะครับ ไม่ใช่ของลูกค้า)จอดกันหลายๆร้านเลยครับ หนึ่งในธุรกิจมัดมือชกอันดับต้นๆของประเทศไทย ปีหน้าเป็นต้นไป หันหลังให้ร้านปืน มากระจายรายได้ให้ข้าราชการที่รอมาห้าปีกันดีกว่าครับ ถูกกว่าหน่อยแต่เข้าถึงกระเป๋าใบเล็กๆยังดีกว่าไปเป็นค่าน้ำมันรถที่คนส่วนมากได้แต่มองของนายห้างทั้งหลายครับ ::014::

                   ว่าแต่ว่าน่าจะมีการตรวจสอบ พวกร้านบ้างนะครับ รวยกันจัง เสียภาษีปีละเท่าไหร่เนี่ย  ค้าขายกันแบบตั้งราคาอย่างไรก็ได้เพราะไม่มีใครมาแข่งค้าด้วย แล้วบอกว่าเป็นยุคการค้าเสรี เฮ้อ  :~) ::014::

ถึงคุณข้าราชการทุก ๆ ท่าน ณ ปัจจุบันนี้ชาติของเรามีความขัดแย้งอยู่มาก ท่านจะทำอะไรก็อย่าเอารัดเอาเปรียบประชาชนนักเลย ท่านนั้นมีศักดิ์ศรี ประชาชนอย่างผมรู้ดี แต่ระวังนะครับน้ำมันจะเซาะหินไปเรื่อย ๆ ซึ่งกฎระเบียบต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่ท่านนั้นกำหนดขึ้นมาเอง ทั้งนั้น ศักดิ์ศรีนะครับ ศักดิ์ศรี ของท่าน อย่าให้ประชาชนดูถูกเลยครับกับการกระทำของพวกท่าน

ประเทศไทยมีข้าราชการสองประเภท   ข้าราชการประจำ  กับข้าราชการการเมือง  ท่านเคยไปเลือกตั้งข้าราชการการเมือง บ้างเปล่า ว่างๆท่านไปคุยกับข้าราชการการเมือง ใกล้ๆบ้านท่าน   ท่านจะรู้อะไรอีกมากเลย

คนทุกคนย่อมต่างจิตต่างใจ ไม่ใช้ว่าพอมีอำนาจแล้วก็ไปออกกฎเพื่อคนบ้างกลุ่ม ทั้ง ๆ ที่ คนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่กับเอารัดเอาเปรียบ แล้วชาติของเราที่ทุก ๆ คนรัก จะไปรอดหรือครับ ท่านจะทำอะไรก็ทำไปครับ แต่จงสำนึกไว้ว่าชาติไทยมีหลายคนอาศัยอยู่ ไม่ใช้มีแค่ราชการอยู่เพียงอาชีพเดียว ครับ

 :~) :~) :~) :~) ::014:: ::014::

รู้สึกเซงๆ นะครับ ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ปืน ก็ต้องสู้กับราคาแสนโหดกว่าจะได้มาสักกระบอก แต่กับบางคนมีเยอะแยะแล้วยังอยากจะมีอีก แถมได้ราคาถูกอีกตากหาก บางคนได้ถูก ขายต่อยังกำไรอีกตากหาก ไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยเหรอครับ  :~) :~) :~)

ความสมดุลของสังคมคงจะเกิดเมื่อ บอลไทยได้ไปบอลโลกนะครับ  ::014::

ยุคนี้เป็นยุค

ธนกิจการเมืองครับตอนแรกก็ธุรกิจแต่พอโตขึ้นก็เล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง










ะ