เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

น้องชายผม ขอใบอนุญาติ ป.3 ขนาด .45 ขั้นตอนส่งหลักฐานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่นัดวันไปรับใบ ป.3 ทางอำเภอแจ้งว่าอีก3 วันให้ไปรับ ใบ ป.3 ได้ แต่ดันเกิดเหตุ ทหารใช้กฎอัยการศึกจับตัวน้องผม แล้ว ออกข่าวว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งทหารมีอำนาจควบคุมตัวใว้แค่7 วันตามกฎอัยการศึก แล้วต้องปล่อย เนื่องจากน้องชายผม บริสุทธ์ โดยทางตำรวจก็ไม่ตั้งข้อหาใดๆกับน้องผมได้ เนื่องจาก ไม่มีแม้แต่พยาน และหลักฐาน ในการกล่าวอ้างของฝ่ายทหารแต่อย่างใด น้องชายผมจึงฟ้องกลับฝ่ายทหาร ขั้นตอนอยู่ในการสอบสวน และรวบรวมพยาน เนื่องจากพยานมีจำนวนหลายร้อยคนที่มายืนยันความบริสุทธ์ให้น้องชายผม แต่ทางอำเภอแจ้งกลับมาว่าไม่สามารถออกใบอนุญาติใบ ป.3 ให้ได้ เนื่องจากเห็นว่าน้องชายผมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งที่น้องชายผมประวัติขาวสะอาด ไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆทั้งสิ้น และตำรวจก็ไม่เคยแจ้งข้อหาใดๆ และน้องชายผมก็มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายในการขอใบอณุญาติ ป.3  แบบนี้จะทำอย่างไรได้บ้างครับ จะฟ้องศาลปกครอง หรือ ย้ายไปจังหวัดอื่นสัก 6เดือน แล้วไปขอใบ ป.3 ที่จังหวัดอื่นดีครับ ขอความรู้ด้วย

ขณะนี้ มี่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทหารในกรณีของน้องชายคุณ pucca อย่างไร หรือไม่ เหตุที่ทางทหารปล่อยตัวน้องชายท่าน เพราะเวลาควบคุมตัวตามกฎหมายหมดลง หรือเพราะพยานหลักฐานไม่พอดำเนินคดี ซึ่งแตกต่างกัน ถ้าปล่อยเพราะอำนาจควบคุมหมดลง ก็ยังไม่พ้นข้อกล่าวหา กรณีนี้ ทางอำเภอจะไม่ออกใบอนุญาตให้ แต่ถ้าปล่อยเพราะไม่มีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำความผิด ก็พ้นจากการเป็นผู้ต้องหา ทางท่านนายอำเภออาจจะพิจารณาอนุญาตให้ได้

เรื่องนี้ท่านธำรงได้ให้ความรู้ไว้ตั้งแต่ 5 ปีก่อน   ผมเห็นว่ายังทันยุคทันสมัย   จึงขอยกมาให้อ่านกันอีกครั้งครับ

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=33209.msg831482#msg831482

ขณะนี้ทางทหารและตำรวจ ไม่มีการดำเนินคดีใดๆกับน้องชายผมทั้งสิ้น เนื่องจากไม่มีทั้งพยานและหลักฐานตามข้อกล่าวหาของทหาร กลับตรงกันข้าม น้องชายผมกลับไล่เบี้ยเอากับผู้การของหน่วยทหาร ทั้งร้องกรรมมาธิการทหารรัฐสภา ทั้งฟ้องหมิ่นประมาท จนทหารแถวบ้านมองน้องชายผมเป็นตัวแสบไปแล้ว ผมไปสอบถามปลัดอำเภอซึ่งสนิทเป็นการส่วนตัวกับผม ได้คำตอบว่า นายอำเภอไม่กล้าออกให้ เพราะกลัวขัดใจกับฝ่ายทหาร ซึ่งจังหวัดที่ประกาศกฎอัยการศึก ฝ่ายทหารมีอำนาจหนือฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหารจึงไล่จับ ไล่ค้นชาวบ้านได้โดยเสรี โดยไม่ต้องมีหมายจากศาล ทหารทำหน้าที่รับบทบาทเป็นตำรวจหมด ไม่ว่าจับการบุกรุกป่า ยาเสพติด  จับแม่ค้า จับการเล่นการพนันในงานศพ จับคนที่ด่าทหาร ฝ่ายทหารมีอำนาจจับและขังใว้7วันโดยไม่ต้องตั้งข้อหา เพิ่งมีเรื่องของน้องชายผมนี่แหละ ที่ผลออกมาวุ่นวายทั้งหมด เพราะน้องผมไม่ยอม จริงๆผมก็แนะนำให้น้องผมไปฟ้องศาลปกครอง แต่น้องชายผมบอกว่าเท่านี้เขาก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเขาทั้งกองพันแล้ว ถ้าไปมีเรืองกับนายอำเภออีก กลัวศพจะไม่สวย แต่ผมว่าถ้ามีแนวทางแบบนี้ก็น่าลองดูสักตั้ง

อ่านดูรู้สึกว่าจะเขียนเกินความจริงไปหน่อย
- ฝ่ายทหารไม่มีอำนาจขังหรือควบคุมตัว  มีแต่อำนาจตาม มาตรา ๑๕ ทวิ ที่จะกักตัวไว้เพื่อการสอบถามหรือตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน ๗ วัน  และขอบเขตการใช้อำนาจก็คือ "เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นฝ่ายศัตรู หรือกระทำการฝ่าฝืน กม."
- ฝ่ายทหารไม่สามารถรับบทบาทแทนตำรวจได้อย่างที่กล่าวอ้าง  เพราะจะกระทำได้เฉพาะความผิดตามบัญชีต่อท้ายพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๐๒ เท่านั้น   และความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด  ก็เป็นความผิดที่ปรากฏอยู่ในบัญชี ข้อ ข. ๙

อ้อ  บัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด  ฝ่ายปกครองเป็นคนจัดทำ  ไม่ใช่ฝ่ายทหาร

กราบเรียนท่านผู้การสุพินท์ สิ่งที่ผมเขียนไม่ได้เกินความเป็นจริงครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ทหารจะยกข้อที่ว่า "เพื่อประโยชน์ต่อทางราชการ" คำกล่าวอ้างนี้ครอบจักรวาลครับ ทุกวันนี้ทางทหารมีหน่วยสืบสวนหรือสายข่าวเรื่องยาเสพติดของตนเอง มีการไล่จับคนเสพยา ค้ายาถึงที่บ้านพักไม่ว่าเวลากลางวันหรือกลางคืน มีการจับการบุกรุกป่า การจับเรือประมงที่ลากอวนใกล้ชายฝั่งเพราะเข้าใจว่าผิดกฎหมาย ภายหลัง ประมงจังหวัดทำหนังสือชี้แจงว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็เปลี่ยนเป็นคดีจ้างแรงงานต่างด้าวผิดประเภทแทน ตอนที่น้องผมถูกควบคุมตัว ทหารบอกว่าหากรถผมซึ่งขับตามรถทหาร แซงหน้ารถทหาร พวกเขาจะยิงทันที พร้อมขึ้นลำปืน M16 ให้ดู ภายหลังผมไปติดต่อขอเยี่ยม แต่ไม่ได้รับการเยี่ยม ได้พบกับชาวบ้านซึ่งโดนควบคุมตัวมา เนื่องจากไปมีปากเสียงกับทหารที่ด่าน เพราะชาวบ้านผู้นี้ไปโวยวายว่าทหารไม่มีสิทธ์ค้นรถเขา ทหารจึงเอาตัวมาสอบสวนและอ่านกฎอัยการศึกให้ฟังและปล่อยตัวกลับ  แม่ค้าจ้างชาวต่างด้าวดูแลแผงผัก ทหารก็ไปจับหาว่าชาวต่างด้าวประกอบอาชีพค้าขาขนผักผลไม้กลับมาหน่วยมาแถลงข่าว ผลงานที่ทหารจับกุมต่างๆ ถูกเผยแพร่ทางเฟคบุ๊คของทหารทุกวัน ซึ่งในความคิดผมก็ถือว่าทหารปฏิบัติดีช่วยเหลือสังคม จนมาโดนกับน้องชายผม เลยต้องกลับมาคิดใหม่ ว่ากฎอัยการศึกนี่เขามีใว้ยามศึกสงคราม หรือมีใว้เพื่อให้ทหารทำผลงานเลื่อนยศ เพราะจริงๆแล้ว ภาครัฐมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ใว้หมดแล้ว เช่น ยาเสพติดก็มี ปปส. พรบ.ป่าไม้ก็มีหน่วยงานป่าไม้ดูแล ประมงก็มีประมงจังหวัด ต่างด้าวก็มี ตม. แม่ค้าก็มีเทศกิจ แต่ไม่ปรากฎว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงมีผลงานมาแสดงสักครั้ง มีแต่หน่วยทหารออกจับกุมแถลงข่าวทุกวัน ต้องขออภัยที่ผมเขียนแบบนี้ แต่ทุกอย่างที่ผมเขียนไม่ได้ยกเมฆมา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆทุกวัน เพียงแต่บุคคลทั่วไปไม่มีใครทราบจนกว่าจะดวงซวยโดนเข้ากับตัวเองครับ

อ้อ อีกนิดนึงครับ ทางหน่วยทหารมีการทำกรงขังใว้สำหรับขังบุคคลที่จับมาได้ โดยใช้เต้นท์กางและกั้นด้วยไม้เป็นลูกกรงกว้างประมาณ2x3เมตร ภายในห้องมีแค่เสื่อกับถังสำหรับถ่าย ภายในมีคนถูกขังรวม15-20คน ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว และมีทหารยามถืออาวุธเฝ้าตลอด24 ชั่วโมง ห้ามไม่ให้มีการพูดคุยกัน บุคคลที่ถูกจับจะไม่ได้รับการเยี่ยมเยียนจากญาติ การสอบสวนก็จะไม่มีทนายหรือผู้ที่ได้รับความใว้ใจจากผู้ต้องหาเข้ารับฟังใดๆทั้งสิ้นหรือมีสิทธิ์พื้นฐานใดๆตามกฎหมายที่บุคคลพึงมีจนครบ7 วันหากมีหลักฐานหนาแน่นก็ส่งตัวให้ตำรวจต่อไป หากไม่มีหลักฐานเอาผิดก็จะปล่อยตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่จังหวัดนี้ไม่ได้มีภัยก่อการร้ายเหมือน3จังหวัดชายแดนใต้

ผมว่า กระทู้นี้ มีนัยให้ต้องพิจารณามากกว่าเรืองดุลพินิจของฝ่ายปกครองที่ไม่ออกใบอนุญาต ป.3 ให้แล้วนะครับ ประเด็นที่น่าสนใจเปลี่ยนไปอยู่ที่การปฏิบัติต่อประชาชนโดยอ้างกฎอัยการศึกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่

สิ่งที่ผมกล่าวอ้างมีหลักฐานสนับสนุนทุกอย่าง ไม่ได้กล่าวอ้างลอยๆ ประชาชนจังหวัดผมร้อยละ90 ไม่เคยทราบว่ามีการประกาศกฎอัยการศึก และอีกประมาณร้อยละ95 ไม่เคยทราบว่ากฎอัยการศึกมีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปยังไง จนกว่าจะมีทหารพร้อมอาวุธครบมือบุกถีบประตูบ้านถึงได้ถึงบางอ้อ แล้วทุกคนจะถามคำถามเดียวกันว่า มีหมายค้นหรือเปล่า ทหารก็จะตอบว่า กูนี่แหละหมายค้นตัวเป็นๆ ขนาดงานถนนคนเดิน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวเยอะแยะ มีตำรวจ อพปร.ดูแลความสงบแล้ว ยังมีทหารที่ถืออาวุธสงครามเดินไปเดินมาภายในงาน จนฝรั่งมองแปลกๆ เหมือนไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทั้งๆที่จังหวัดนี้ไม่เคยมีเหตุระเบิดสักครั้งในรอบ200ปีมาแล้ว วันดีคืนดีก็จะมีทหารอาวุธครบมือเดินในเมือง ไปซื้อบุหรี่บ้าง บรรยากาศเหมือน3จังหวัดชายแดนใต้เลย  จริงๆกระทู้นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิเสธ ป.3 แต่กลายเป็นการใช้กฎอัยการศึกของทหาร หากเวปมาสเตอร์ไม่ว่าอะไร หากสมาชิกเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องผมว่าเรื่องนี้น่าจะว่ากันยาวๆนะครับ แต่หากเห็นว่าไม่สมควรผมก็ขออภัยด้วย

            จังหวัดใหนครับพอบอกได้มั๊ยครับ
            

รอดูอยู่ ยังไม่บอกสักทีว่าที่จังหวัดไหนทัพภาคไหน บ่นไปหลายกระทู้แล้วนะ ถ้าไม่รีบบอกรายละเอียดจะถือว่าบ่นตีกินนะ

จังหวัดระนองครับ หน่วยงานรับผิดชอบคือ ฉก.ร.25

เขาไม่มีประกาศกฎอัยการศึกหลอกคับพี่น้อง....มั่ว

ทำดีต้องได้รับผลดีคับ

ลองไปหาในกูเกิ้ลก็ได้นะครับ จังหวัดที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก มีเกือบ30 จังหวัด ค้นดูในราชกิจจานุเบกษาก็ได้ ไม่รู้เหรอครับต้องแต่รัฐประหารครั้งล่าสุดนี่ กฎอัยการศึกยังประกาศใช้กันอยู่เลยในบางจังหวัด

http://www.thethailaw.com/law20/lawpdf/law25512560/2116.PDF

สงสัยเป็นคนเพิ่งเกิดมั้งถึงไม่รู้เรื่องในอดีตซะเลย

ทีแรกเดาว่าทางเหนือแถวน่าน เป็นระนอง ใช่ครับจากสถานะการณ์ในอดีตจนปัจจุบันยังไม่ยกเลิก เหตุผลเพื่อความมั่นคงแหละ ลองดูแผนที่ประเทศไทยแล้วประมวลดู บางท่านคิดว่าทางทหารระแวงเกินไป แต่เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องประเมินในขั้นที่ร้ายแรงที่สุด เขาคิดล่วงหน้าแบบ ถ้า อย่างนี้ ก๊ ต้อง ทำอย่างนั้น ตลอดเวลา มีแหล่งข่าวที่ปรับปรุงอยู่ตลอด(ยกเว้นบางที่ ที่ไม่สามารถเอามวลชนกลับมาได้)
เคยสังเกตุไหมเวลามีเรื่องฉุกเฉิน ปืนใหญ่มักจะไปอยู่ตรงที่ควรจะอยู่พอดี  ::011::

กรณีเรื่องนี้ไม่ควรไปบู๊กับเขาเลยนะ จะบอกให้ว่าไม่มีทางชนะเจรจากันดีกว่า

ปัจจุบัน ทหารก็ต่างจากประชาชนทั่วไปอยู่แล้วครับ เมื่อทหารกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา โดยไม่มีพลเรือนร่วมกระทำความผิดด้วย การดำเนินคดีในศาล ก็เป็นศาลทหารนะครับ ไม่ใช่ศาลยุติธรรมเหมือนประชาชนธรรมดา

น่าจะเปลี่ยนกระทู้ใหม่ว่า...โดนปฏิเสธ ป.3 เพราะกฎอัยการศึก...จะได้เกี่ยวกันหน่อย

เหมือนอ่านหนังสือเรื่อง

ถึงฟ้องศาล ศาลก็แค่บอกว่าไม่ให้เอาประเด็นนี้(คดียาเสพติด)มาพิจารณา แต่นายทะเบียนยังมีประเด็นอื่นที่จะอ้างไม่อนุญาต

เหนื่อยแทน ครับ