เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาผมกับน้องเขยลูกน้องที่ทำงานอีกหนึ่งคนนั้งอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเวลาประมาณตีหนึ่งกว่านั่งดื่มกันอยู่มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน3คันหนึ่งในกลุ่มลงจากรถเดินมาทางโต๊ะที่ผมนั้งกันอยู่พกปืนลูกซองสั้นลักษณะต้องการให้ผมเห็นว่าเป็นปืนแล้วบอกว่าขอเบียร์กระป๋องแล้วหยิบเบียร์พร้อมโทรศัพย์มือถือบนโต๊ะของน้องเขยไปด้วยแล้ววิ่งขึ้นรถหนีไปผมไม่กล้่าทำอะไรเพราะปืนอยู่ในรถพอหายงงผมกับลูกน้องวิ่งไปที่รถขับไล่ตามไปสามารถจับมาได้หนึ่งคันเป็นผู้ชาย1คนหญิง2คนตำราจมาพอดีเลยส่งให้ตำรวจตอนเช้าตำรวจสามารถตามจับที่เหลือได้หมด8คนพร้อมของกลางแต่ปืนที่ใช้ก่อเหตุกลับกลายเป็นพลาสติกงงมาก ตำรวจว่าอย่างนั้นแล้วลงบันทึกเป็นวิ่งราวทรัพย์แต่ผมว่ามันน่าจะเป็นปล้นทรัพย์มากกว่านะครับช่วยคิดกันหน่อย

ไม่น่าใช่วิ่งราว
ชิงทรัพย์มากกว่า
เหมือนปล้นแบงค์แล้วใช้ปืนปลอม
ตามพฤติการณ์ถึงไม่ได้ใช้ปืนจี้แต่พกให้เห็นก็น่าจะเพียงพอแล้วว่าชิงทรัพย์
เจ้าของทรัพย์ไม่กล้าขัดขืนก็เพราะเห็นปืน

ตามความเห็นของผมน่าจะเป็นวิ่งราวทรัพย์โดยแบ่งหน้าที่กันทำครับ เพราะ  ถึงแม้จะมีจำนวนบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป(เข้าองค์ประกอบความผิดฐานปล้นทรัพย์) แต่ตามข้อเท็จจริงที่คุณเล่ามา มีเพียงคนเดียวที่เข้ามาก่อเหตุประกอบกับคนร้ายก็ไม่แสดงอาวุธขึ้นข่มขู่หรือทำร้ายคุณ (ซึ่งเป็นความผิดฐานจี้ชิงทรัพย์) คนอื่นอาจจะมีส่วนรู้เห้นด้วยหรือไม่ก็ได้(ซึ่งคนอื่นอาจจะผิดในฐานะที่เป็นตัวการหรือผู้ให้การสนับสนุนก็แล้วแต่กรณีครับ)


ความรู้งูๆปลาๆ ครับ  ต้องขออภัยถ้าผิดพลาด  ...อย่างไรก็ตามต้องรอคำตอบผู้รู้อีกทีนะครับ ;D ;D

ผู้ก่อเหตุเหน็บปืนหรือสิ่งเทียมหรือวัตถุที่ทำให้ผู้พบเห็นคิดว่าเป็นอาวุธร้ายแรง ติดตัวมาด้วย
น่าจะเข้าข่ายเป็นเหตุชิงทรัพย์มากกว่านะครับ

ยินดีที่ได้ทรัพย์สินคืนมาครับ 

    ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย    หรือขู่เข็ญว่าในทันใดจะใช้กำลังประทุษร้าย

เพื่อ      1.ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป

            2.ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น

            3.ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้

            4.ปกปิดการกระทำความผิดนั้น  รหือ

            5.ให้พ้นจากการจับกุม

ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน  ชิงทรัพย์   (  ถ้าชิงทรัพย์ตั้งแต่ 3  คนขึ้นไปเป็นปล้นทรัพย์)


ตามเหตุการณ์     ผู้ต้องหาคนหนึ่งลงมาจากรถจักรยานยนต์  แล้วทำทีพกปืนมาด้วย

แล้วพูดว่า  ขอเบียร์และหยิบเบียร์กระป๋อง และโทรศัพท์มือถือ  แล้ววิ่งหนีขึ้นรถ

จักรยานยนต์หลบหนีไป

                  ถ้าจะเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์   ต้องมีการข่มขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย

เช่นว่า      เฮ้ยอย่าขัดขืนไม่งั้นกูยิง    ,  ไม่อยากเจ็บตัวเฉยไว้  ,หรือชักเอาปืนมาขู่

เฉย ๆ  ไว้อย่าร้องนะ   ไม่งั้นเจ็บตัว  ฯลฯ    จะเห็นได้ว่า   ตามพฤติการณ์ไม่มีเหตุการณ์

อย่างตัวอย่าง     

                   การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐาน    ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์

โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป

                  ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า   ผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์

แบบนี้เจอโจรหัวหมอเข้าแล้วครับ "ขอเบียร์กระป๋อง" แต่หยิบโทรศัพท์ติดมือไปด้วย :~) :~)

 :).. น่าจะเข้าเป็นความผิด ฐาน ร่วมกัน . วิ่งราวทรัพย์..  เท่านั้น

      พฤติการณ์ ไม่มีการข่มขู่ จะทำร้าย หรือไม่ได้ใช้อาวุธ ใช้ในการกระทำผิดด้วย..   
      จึงไม่เข้าเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ ครับ..(ชิงทรัพย์ต้องร่วมกันกระทำผิด ๓ คนขึ้นไป จึงเป็นปล้นทรัพย์)  

สมัยนี้...มีทุกรูปแบบ

มีอาวุธปืนก็เปรียบเสมือนเขี้ยวเล็บและสร้างความมั่นใจไห้กับตัวเราในการไล่ตามคนร้าย ดีใจด้วยนะ ครับที่ได้ทรัพย์สินคืนครับ 8) :D 8)

คิดตามแล้วน่าเศร้า เยาวชนของเราในอนาคต

 ได้ความรู้ใหม่จากพี่ ป้อมทอง อีกแล้ว ขอบคุณครับ

ขนาดใช้ปืนปลอมยังกล้าอีก

            ;D  ก่อนส่งให้ตำรวจ ทำอะไรไปบ้างครับ  น่าจะุเบิ๊ดกระโหลกให้มันหลาบจำ  ;D

ได้ของกลับแล้ว ต่อไปต้องระวังกันให้มากขึ้น

เรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการ

ขอบคุณพี่ป้อมทอง พี่road ครับ

กระจ่างเลยครับ แต่ขอถามเพิ่มนิดนึงนะครับ

กรณีดังกล่าวผู้ก่อเหตุ เหน็บปืนไว้โดยจงใจให้เห็นชัดเจนไม่ถือว่าเป็นการขู่กลายๆเหรอครับ

;D

ขออนุญาตครับ......พิจารณาจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุ...เป็นช่วงกลางคืน......ถ้าศาลพิจารณาโทษ....น่าจะใช้ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็น...เหตุให้เพิ่มโทษกับผู้ต้องหาอีกกรณีหนึ่งได้หรือไม่ครับ......ขอบคุณครับ.... :)

ข้อสรุปอีกข้อสำหรับเรื่องนี้ครับ

-------------อย่านำของมีค่าวางบนโต๊ะอาหารครับ---------------

ไม่ว่าจะมือถือหรือกระเป๋าสตางค์ เจอวิ่งราวทรัพย์แบบนี้เยอะมากๆครับ

ลูกพี่ลูกน้องผมโดนกลางสยามกลางวันแสกๆครับ

 ;D การเหน็บปืนไว้ให้เห็น   แต่ไม่ได้ชักมาใช้  ถ้าเป็นปืนจริง  ก็ผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัว

    เพราะไม่ได้ใช้ปืนดังกล่าว   มากระทำการให้ครบองค์ประกอบความผิด  กฎหมายอาญา

    จะถือตามองค์ประกอบความผิด   ต้องครบจึงจะผิด

   

    กรณีลักทรัพย์  ในเวลากลางวัน  โืทษน้อย ม.๓๓๔ แต่ถ้ากลางคืนโทษหนักขึ้น ม.๓๓๕

    แต่วิ่งราวทรัพย์โทษหนักกว่าลักทรัพย์กลางวันอยูู่่แล้ว(เท่ากับกลางคืน)จึงไม่ได้นำเวลามาประกอบ

    ให้โทษหนักขึ้น   แต่จะเพิ่มโทษกรณีใช้ยานพาหนะประกอบความผิด


    ส่วนถ้าเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์  จะเอาเงื่อนเวลาเข้ามาเพิ่มโทษ

พ้นผิดออกมา จะกลับมาทำใหม่มามั๊ยเนี่ย?  ???

    เป็นอีกตัวอย่างที่ " ปืนอยู่ในรถ "   เหมือนกับ อ.หล่ำ ที่ปืนอยู่ในรถ แต่ดันหาไม่เจอ

 ;D เมื่อเช้า  ตอนตี ๔ เศษ ๆ   ชายไทยอายุ  ๒๗  สวมสร้อยคอทองคำ ๑ บาท

    ออกมายืนรอรถที่  ถ.สุวินทวงศ์   มีคนร้ายเป็นชายสองคนมาด้วยรถจักรยานยนต์

    คนซ้อนทำทีมาถามทาง   แล้วใช้ปืนจี้ให้อยู่เฉย ๆ   จากนั้นก็กระตุกสร้อยไป

    ผู้เสียหาย  หลังถูกกระชากสร้อยแล้ว   วิ่งหลบหนี  คนร้ายได้ยิงปืนใส่ ๑ นัด

    แล้วหลบหนีไป......เดชะบุญกระสุนไม่ถูกผู้เสียหาย   ยังจับตัวไม่ได้

    เศรษฐกิจช่วงนี้    โจร ขโมย  ชุกชุม    ระมัดระวังทรัพย์สินของตนเอง

    ของมีค่าราคาสูง ๆ   อย่าเก็บไว้ในบ้าน   ควรฝากตู้นิรภัยไว้ที่ธนาคาร

    เพื่อนผม   โดยขโมยขึ้นบ้าน  สะสมนาฬิกาดี ๆไว้  หลายสิบเรือน เกลี้ยงเลย

    ปืนของรักที่มี   หากไม่ได้พกติดตัว   อย่าเอาไว้ในรถที่จอดไว้นาน ๆ

    ถ้าเก็บไว้ที่บ้าน   ควรหาที่ซ่อนที่  ขโมยคิดไม่ถึง  ยกตัวอย่างถ้าเป็นปืนสั้น

    อาจจะตัดสมุดโทรศัพท์ซ่อนไว้  ฯลฯ  หรือไม่ก็ใส่เซฟไว้  ยอมแพงหน่อย

    เซฟเหล็กขนาดใส่ปืนสั้นได้  ราคาไม่เกิน  ๖๐๐๐  บาท  หากใหญ่หน่อยพอใส่ปืนยาวได้

    ก็ประมาณ  ๒๐๐๐๐    ขอให้ทุกท่านปลอดภัยในทรัพย์สิน  ช่วงนี้คดีเกี่ยวกับทรัพย์เกิดบ่อย

   

..

.. สารวัตรป้อม ตอบให้แล้ว ขอบคุณมากครับ..  :D

   พฤติการณ์ในการกระทำผิด เช่น ใช้ยานพาหนะ จำนวนหลายคน.. ฯลฯ  กฎหมายจะบัญญัติเป็นบทหนักของความ
   ผิดนั้น จะมีโทษสูงขึ้น ครับ..
   พนักงานอัยการ ต้องบรรยายฟ้องให้ครบองค์ประกอบตามความผิด และระบุ มาตราให้ถูกต้องในคำขอท้ายฟ้องอาญา
   ด้วย..  ศาลจึงจะลงโทษ ตามความผิด นั้น ครับ..  :)