เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://i301.photobucket.com/albums/nn60/pahnwarn/9F2B5ABD-711B-4A63-9F4D-8530888B26FE-1015-00000203125D7496.jpg)

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. (ดูแลงานจราจร)

อีกเรื่องที่อยากจะขอแจ้งให้ทราบ พอดีเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งการจับกุมรถที่เปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีเหตุอันควรผ่านมาทางระบบ LINE ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนร้องเรียนกันอย่างมาก สำหรับรถบางคันที่เปิดไฟตัดหมอกโดยพร่ำเพรื่อ อีกทั้งพวกที่ติดไฟสีต่างๆ ที่ไม่ใช่ไฟสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวตามกฏหมาย ซึ่งเป็นการก่อความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมทางคนอื่นๆ

การเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีเหตุอันควรมีความผิดตามกฏหมายครับ โปรดอย่าเปิดโดยไม่มีเหตุที่ต้องเปิดตามกฏหมาย เพราะจะไปก่อความเดือดร้อนและอันตรายแก่คนใช้รถใช้ถนนท่านอื่นเลยครับ เคยมีบทความเขียนไว้ดังนี้ว่า" เดี๋ยวนี้รถรุ่นใหม่แทบทุกรุ่นจะต้องมีไฟตัดหมอก แต่เห็นมีอยู่หลายคน ใช้ไฟตัดหมอกแบบผิดๆ อาจจะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะมองว่าเป็นความเท่ ทั้งที่ในความเป็นจริง การเปิดไฟตัดหมอกในเมือง หรือในสภาพการขับรถปกติ ก่อความเดือดร้อนให้เพื่อนร่วมทาง เพราะแสงจะเข้าตารถคันหน้าหรือรถที่แล่นสวนมา

ไฟตัดหมอกไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด มีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะประเทศเมืองหนาว หรือประเทศที่มีภูเขาค่อนข้างมาก โดยเจ้าไฟตัดหมอกนี้จะเป็นดวงไฟชุดที่ 2 จะช่วยให้ความสว่างยามที่ทัศนวิสัยการขับขี่ไม่เอื้ออำนวยนัก ชุดไฟตัดหมอก โดยมากก็คือสปอตไลต์ย่อส่วน มาพร้อมกับดวงไฟขนาดไม่ใหญ่โตนักขนาด 55 วัตต์ แต่ก็ทะลุทะลวงเอาเรื่อง ด้วยหลอดไฟแบบเดียวกับสปอตไลต์ จะกระจายแสงในระนาบแนวกว้าง ทำให้สามารถเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้อีก แม้จะไม่มากมายแต่ก็สามารถให้มองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นที่สังเกตของรถที่สวนมา หรือรถที่ตามมาข้างหลัง

การใช้ไฟตัดหมอกแม้มันจะขึ้นชื่อว่าไฟตัดหมอก แต่คุณก็สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะในหน้าฝนที่ตกพรำๆ บ่อยเช่นนี้ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆสถานการณ์ที่ควรจะต้องเปิดไฟตัดหมอก ได้แก่
1.เมื่อฝนตก โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนัก

2.เมื่อเจอหมอก

3.หลังฝนหยุดในเวลากลางคืน การเห็นเส้นทางที่จะทำได้ชัดเจนจริงๆ ไม่ว่าป้ายบอกทางและเส้นจราจรต่างๆ ช่วยให้คุณขับรถได้ง่ายขึ้น โดยปกติแล้วเมื่อฝนตกจนหยุดแล้ว ถนนจะยังเปียกชื้น แม้เราเปิดไฟใหญ่ไป แต่ก็จะพบว่ามันไม่ค่อยสว่างนัก ไฟตัดหมอกจะขจัดปัญหานี้ และช่วยลดการสะท้อนของน้ำที่ผิวถนนไปด้วยในตัว

4.ขับผ่านกลุ่มควัน

จงจำไว้ว่าไฟตัดหมอกไม่ใช่แฟชั่น ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ เพราะนอกจากจะแสดงถึงมารยาทที่ไม่ดีแล้ว อาจเจอข้อหาเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีสาเหตุ มีโทษสูงสุดปรับ 500 บาท"

ขับรถโปรดเคารพกฏจราจร เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ อย่าเปิดไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อแล้วไปก่อความเดือดร้อนแยงตากับผู้ร่วมทางคนอื่นกันเลยครับ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและต้องถูกจับกุมเมื่อพบเห็น เหมือนกับที่หลายท่านพูดกันว่า "ไม่มีหมอก จะเปิดไฟตัดหมอกหาอะไรกัน "


 ::002::

ดีครับจับก็ดีเหมือนกัน ::014::
 สมัยก่อนเจอพวกนี้แสบตาเอามาก ๆ หรืออีกพวกคือพวกชอบเปิดไฟสูง แต่ตอนนี้ผมแก้ปัญหาแบบที่เคยโพสไปคือซื้อแว่นสำหรับขับรถตอนกลางคืนสีเหลือง ๆ มาใส่หมดปัญหาเรื่องพวกนี้ไปเลยครับ
 ::014::

                   ::002::

 ::014:: สาาาาาาาาาาาาาาธุ  จับๆบ้างเถอะครับ  ไฟบ้าบอคอแตก เปิดแสบตา แยงตาชาวบ้านมาก จนตาเราพร่าเลย บางทีเหลืออดผมตบไฟสูงใส่บ้าง จะเอาไงก็เอา  ::009::

 ::002::  ::014::

ขอให้เอาจริงครับ  ::002::

ยุส่งเลยครับ จับๆมันไปซะให้หมด ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าไฟตัดหมอกไม่รู้จะทะลึ่งเปิดกันทำไมนักหนา

แล้วพวกไฟตาเพชร ล่ะครับ

หลอดซีนอน ก็แยะ

คงไม่จับครับ เพราะเห็นติดกันเกร่อ แสบตาไปหมด ขอให้เจอดีนะ ไอ้พวกเวรนี่  ::002::

   โคตรเกลียดแม่งเลยครับ ขับมาข้างหลังอยากจะเบรคให้ชนตูดจริงๆ เดือดร้อนชาวบ้าน... >:(

เย้......  ::011::

มีของให้หากินเพิ่มอีกอย่าง

หากินในเรื่องที่ถูกที่ควรก็ทำไปเถอะครับ  ถ้าไม่อยากโดนก็อย่าทำผิดแค่นั้นเอง

  ::002::ดีครับ/ผิดว่ากันไปตามผิด

ทำได้ก็ดีครับแต่ต้องแยกแยะให้ถูก เหมือนกับป้ายสกปรก เคยมีคนบ่นมาแล้ว จ่าบอกผมอ่านไม่ชัด ::005::

น่ากลัวจะเป็นไฟไหม้ฟาง เหมือนจับโทรแล้วขับ

พวกดัดแปลง   ไฟซีน่อน   ก็จับเลย

แสบตามาก  ๆ    ::012::

เดี๋ยวนี้เอาหลอดแบบที่ใส่ในไฟฉายแรงสูงมาใส่ไฟหน้ารถครับ มันจะรู้มั้ยว่าชาวบ้านเค้าแสบตา  ::009::

ดัดแปลงโคมไฟหน้ารถเป็น "ไฟซีนอน" ที่สว่างจ้าเกินไป เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และมีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
         กรมการขนส่งทางบก เตือนเจ้าของรถที่ดัดแปลงโคมไฟหน้ารถเป็น "ไฟซีนอน" ที่มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป นอกจากมีความเสี่ยงต่อการเกิด อุบัติเหตุสูงแล้ว ยังอาจมีความผิดตามกฎหมายต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
         หลอดไฟซีนอนแม้จะมีข้อดีในเรื่องของประสิทธิภาพการส่องสว่างแต่การที่จะนำมาใช้เป็นหลอดไฟหน้ารถได้อย่างปลอดภัยนั้น หลอดไฟจะต้องมีคุณลักษณะในเรื่องแนวจำกัดของแสงและรูปแบบการกระจายของแสงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยไฟหน้าของรถยนต์และรถจักรยายนต์จะต้องมีแสงสีขาวหรือเหลืองอ่อน จำนวน ๒ ดวง ติดตั้งอยู่ในระดับเดียวกันที่หน้ารถด้ายซ้ายและขวา แห่งละ ๑ ดวง ติดตั้งสูงจากผิวทางไม่น้อยกว่า ๔๐ เซนติเมตร แต่ไม่เกิน ๑.๓๕ เมตร ความสว่างของไฟสามารถส่องทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และไม่เอียงไปทางขวาจนรบกวนสายตาของผู้อื่น การดัดแปลงไฟหน้าให้เป็นแสงสีอื่น หรือทำให้มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป เมื่อนำไป ใช้งานบนท้องถนนจะส่องเข้าตาผู้ขับขี่ที่สวนทางมาทำให้สายตาพร่ามัวจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หากเจ้าของรถดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบหรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป จนก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือ จิตใจผู้อื่น อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พุทธศักราช ๒๕๒๒ มาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
(ที่มา : กรมการขนส่งทางบก)


ประกาศนี่เคยจับบ้างมั้ย ทำงานสิครับกรมการขนส่งฯ นั่งแคะขี้ฟันอยู่ทำไม  รับรองตั้งด่านเดือนนึง ปรับได้เป็นล้าน   ;D

ต้องมีคนเอายาเม็ดพาราอัดเจ้าโคม Xenon สีแปลกสักทีก็ดีนะ

ดีครับ... :D

ดีครับ... จับเสียให้เข็ด... พวกใช้ถนนแบบเห็นแ่ก่ตัวแบบนี้... ถ้าจะให้ดี... ควรหารือไปที่บริษัทรถด้วยครับ... ว่าไฟตัดหมอกมันจำเป็นแค่ไหนที่จะให้ติดมากับรถทุกคัน... โดยเฉพาะโตโยต้า... ไฟตัดหมอกของวีออสมันแสบตามาก...

ถ้าเปิดเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นสำหรับผู้ขับขี่ที่สูงวัย โดยมีการปรับระดับโคมให้ส่องลงที่พื้น ไม่แยงตาชาวบ้าน ก็คงพอจะอนุโลมกันได้บ้าง  แต่นี่พี่แกเล่นปรับโคมเพื่อส่องหานางฟ้า ทำเอาคนขับรถที่สวนทางมาหูตาพร่ามัวไปหมด..แบบนี้ล่ะไม่ไหว...ไหนๆก็จะจับแล้ว ฝากจับคันที่ชอบเปิดไฟตัดหมอกหลังด้วยก็ดีครับ..

แบบนี้ไม่ใช่ไฟตัดหมอกใช่มั้ยครับ :OO

นั่นแหล่ะ ไฟตัดหมอกเลยครับพี่จอย... ;D

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ควรใช้เวลาจำเป็นจริง ๆ เท่านั้นครับ

ไฟตัดหมอก ... ใช่ครับพี่

แต่ถ้าฝนไม่ได้ตกหนัก , หมอกไม่ได้จัด , ไม่ได้ควรเปิด ก็อย่าเสือกเปิด

ก็แค่นั้น ก็จะไม่โดนจับ รถที่บ้านผมมีสปอตไลท์ติดมาทุกคัน.....มีมาร่วมยี่สิบปีตั้งแต่ก่อนยุคที่รถโหลๆจะเริ่มติดมาให้ ก่อนยุคที่จะมีไอ้ควายมันอ่านสปอตไลท์ผิดเป็น"สปอร์ตไลท์ "จนรถกะหลั่วๆมันเปิดให้เป็นรถสปอร์ตกันไปทั่วเมือง

เอาทุกคันตั้งแต่ซื้อมามารวมกัน นับเวลาตั้งแต่วันซื้อเข้ายันวันขายทิ้ง ยังเปิดสปอตไลท์น้อยกว่าไอ้ควายข้างบ้านที่เพิ่งได้ไฮแลนเดอร์มาอีก  ;D

เป็นเพราะตำแหน่งไฟมันอยู่ต่ำครับ(อยู่ที่กันชน) ถ้าปรับก้มแค่นิดเดียวมันก็ลงพื้นไปเลย และสว่างได้ไม่ใกลครับ...  แล้วต่อให้ปรับขนานกับพื้น แต่เวลารถยนต์วิ่งแค่ขึ้นลูกระนาดในซอยปุ๊บ ไฟมันพร้อมจะแยงตารถสวนได้ตลอดเวลาครับ...

และสารพัดจะติด จนรถที่วิ่งสวนมาร้องว่า"กรูมองไม่เห็นไฟเลี้ยวของเมิง"เลยครับ

ติดซะพราว......จะติดไว้ส่องทางไปสวรรค์ให้บุพการีรึไงวะครับ?

เคยเห็นรถบัสคันใหญ่ๆที่ติดไฟเต็มด้านหน้าทั้งคัน ยกเว้นกระจกไม๊ เห็นเหมามาเที่ยวหาดบางแสนกันบ่อย มาจากไหนกันก็ไม่รู้

แถมด้วยรถสองแถวติดลำโพงด้านหลังเต็ม มีสก๊อย มาเต้นในรถ ตลอดทางด้วย

ตัดหมอกทั่วๆไปก็แสงไม่แรงนะครับ พอรับได้ แต่หลังๆมันเป็นไฟสปอตไลท์ แสงจ้าๆขาวๆ มันเปิดขับในเมือง ที่มีไฟริมถนนทุกเสาไฟฟ้า สว่างจนไม่เปิดๆไฟหน้ายังขับได้ แล้วมันจะสปอทไลท์ส่องตาคนอื่นทำไม  ผมก็อยากถาม เมิงเปิดทำเฮียอะไร  ::009:: ::005::

ก่อนหน้านั้นบอกจะจับไฟแสงขาวแสงจ้า แทบไม่เคยเห็นจะจับ แต่ไฟตัดหมอกที่เรียกกันติดปากไฟไม่เห็นจะแยงตาดันจับ ...
ปัญหาคือพวกรถที่ติดไฟซีน่อลมากกว่ามั้งครับ ติดกับโคมเดิมๆ ไม่ได้ใช้เลนส์ลูกแก้ว(โปรเจคเตอร์)บังคับแสบ ขับผ่านทีหน้ามืด
หากโดนจับจะอะไรยังไง .. ในเมื่อไฟไม่ได้แยงตา แต่ กม.บอกว่าไฟประเภทนี้แยงตาห้ามเปิดตามเหตุสมควร ??  ดูแล้วขัดๆกัน

 ::002:: ::002:: ::002::

ไอ้ประเภทที่เลนสีเหลืองๆกับไฟLEDก็เหมือนกันครับแสบตายิ่งกว่าไฟตัดหมอกที่ติดรถมาอีก

ไฟประดับหีบศพ

แถวศรีราชานับได้เลยวิ่งสวนมา 10 คันเปิดไฟตัดหมอกมากกว่าครึ่ง บางคันอาการหนักใช้ไฟตัดหมอกแทนไฟหน้าไปเลย

ผมว่าเขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าไม่ทราบครับ
ช่วงใกล้แจ้งกับตอนพลบค่ำ เขาใช้ไฟตัดหมอกแทนไฟใหญ่ปกติครับ
เหมือนกับเขาจะเข้าใจว่า ดีกว่าเปิดไฟใหญ่ เพราะไม่มืดมาก

       กรณีนี้เจอบ่อยจริงๆครับ..... ::014::

สงสัยคนขับส่วนใหญ่คงคิดว่ามืดนิดหน่อยใช้ไฟเล็ก มืดมากค่อยเปิดไฟใหญ่อย่างที่พี่ krutor ว่าแหละครับ  ;D

เพราะการบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน

จริงๆกฎหมายเขากำหนดใว้แล้ว.......

จนอะไรก็ไม่รู้ มาทำให้การละเมิดกฎหมาย กลายเป็น ประเพณี ไปเสียแล้ว ทั้งกฎจราจรข้ออื่นๆด้วย

จอดซ้อนคัน จอดในที่ห้ามจอด ฝ่าไฟเหลือง ไฟแดง เส้นทึบ

พอๆกับการทำผิดข้อห้าม แล้วก็เปิดไฟวิเศษ แหละครับ ไม่สนใจใครแล้ว เพราะตูเปิดไฟวิเศษใว้แล้ว อิๆๆ

ไฟวิเศษก็คือไฟฉุกเฉิน

อยู่มาเลย์เจอนักกว่าอีก ไฟเบรกท้าย LED แดง ฟ้า ขาว กระพริบ แสบตามากๆ  เคยไปจอดติดไฟแดงจ่อท้ายมันครั้งนึง แทบจะลงไปทุบ
ให้แหลกคามือ.   เดี๋ยวนี้เจอบ่อยมาก

จับเจ้าของรถที่ไปติดมันปลายเหตุครับ มันต้องจับร้านที่ติดตั้งให้ด้วย มันถึงจะหมดครับ

เอางานง่ายๆ ก่อนใหม?  จับพวกไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนก่อนดีใหม

ขอแย้งหน่อยนะครับ ไฟตัดหมอกที่โรงงานติดตั้งมากับรถ ผมสังเกตุอยู่หลายยี่ห้อ ผมว่ามันไม่ได้เป็นสาเหตุของแสงสว่างที่ไปทำให้ทัศนวิสัยของคันที่สวนมาด้อยลง แต่ที่เคยเห็นก็จะมีเพียง พวกที่ไม่เข้าใจว่ารถของตนเองใช้โคมไฟแบบไหน แล้วดัดแปลงเอาหลอดไฟแบบอื่นไปใส่ เพียงหวังว่าจะทำให้สว่างถูกใจขึ้น แบบนี้นั่นแหละครับมัน "แยงตา"ของแท้เลย ;D

มิทราบใครเคยถอดดูบ้าง.....
๑ มันมีกลไกให้ปรับสูงต่ำหรือไม่? 
๒ การติดตั้ง แม้จากโรงงาน  มีมาตรฐานสูงต่ำ แค่ไหน?  ที่จะไม่ให้มันแยงตาชาวบ้านเค้า...
  ส่วนไอ้พวกติดเพิ่ม...คงไม่ต้องพูดถึง.....

อ้อ..ฝากไอ้ไฟช่วยจอด...วีอ๊อด  ด้วยเน้อท่านตำหนวดดดด....

กฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่าผิด มันก็ผิดครับ จะแยงตาหรือไม่แยงตานั่นเป็นเรื่องของแต่ละคน, หากเลือกจับแต่เฉพาะคันที่ไม่แยงตาเดี๋ยวก็วุ่นวาย เพราะแต่ละคนก็เถียงว่าของตัวเองไม่แยงตาครับ... มันก็เหมือนกับเรื่องลักทรัพย์นั่นแหละ ลักทรัพย์คนร่ำรวยสัก 1000 บาทเจ้าของเงินไม่เดือดร้อน แต่ถ้าลักทรัพย์คนหาเช้ากินค่ำแค่ 100 บาทก็เดือดร้อนแล้ว, และลักทรัพย์ไม่ว่าจะลักของใคร หรือเงินมากน้อยก็ผิดเท่ากันหมด...

กฎหมายบอกว่าผิดก็ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เสมอหน้า และให้ได้ประสิทธิภาพครับ... ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายมาก ก็เพราะมีแต่เรื่องหาหเหตุ"อลุ้มอล่วย"นี่แหละ จนในที่สุดหาเส้นแบ่งไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรระหว่างจับหรือไม่จับ, แล้วในที่สุดก็เป็นอย่างที่เห็นครับ คือวุ่นวายไปหมดทั้งเรื่องใกล้ตัวและเรื่องใหญ่ระดับการเมืองฯ...

ไม่ง่ายหรอกครับ... ลองดูแต่ละคันที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซิครับ มักมีเสื้อตำรวจใส่ไม้แขวนโชว์, แต่งครึ่งท่อนขับเปิดกระจกโชว์, หรือไม่อย่างเบาสุดก็ติดสติ๊กเกอร์แสดงสังกัดหน่วยงานตำรวจทั้งนั้น...

เรื่องรถยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนนี่เขต อ.เมืองนนทบุรี ถ.รัตนาธิเบตร์ช่วงระหว่างแครายกับเดอะมอลล์งามวงศ์วานมีให้เห็นทุกวัน และทุกครั้งที่นายสมชายออกจากบ้าน... มีอย่างน้อยหนึ่งคันเสมอ ไม่รู้เป็นอะไรกันนักหนา แผ่นป้ายทะเบียนของตัวเองก็มี ทำไมเอามาติดไม่ได้ มันเสียฟอร์มอะไรกันนักหนาครับ...

รถตำรวจเองทั้งนั้นแหละ ไม่มีจิ๊กโก๋ใครที่ไหนกล้าหรอกครับก็ช่วงระยะสั้นๆ มีด่านตำรวจ(ใต้ทางด่วนซึ่งมักตั้งกรวยช่วงสายๆบางวัน) แล้วก็มีป้อมตำรวจที่แยกพงษ์เพชรฯ... มีหนึ่งด่านกับหนึ่งป้อมฯ แต่รถไม่ติดแผ่นป้านทะเบียนมันยังวิ่งได้สบายใจเฉิบฯ...

ถ้าไม่ใช่ตำรวจด้วยกันเองแล้วจะมีจิ๊กโก๋ที่ไหนกล้ามั่งเล่าครับ... ว่าแมะ... ฮา...

เอาเป็นบางกรณีนะพี่สมชาย ผมเคยออกทำงานกับเพื่อนที่อยู่กองปราบ บางครั้งต้องใช้รถส่วนตัว ต้องถอดป้ายออก ไม่นั้นพวกเช็คได้ครับว่ารถใคร ;D

น่านแหละครับ, ยิ่งไม่ง่ายเข้าไปใหญ่เลย... ฮา...

มันก็จะมีสองกลุ่มครับที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, กลุ่มแรกคือเจ้าหน้าที่กำลังทำงานพิเศษ กับกลุ่มที่ทำงานพิเศษแต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ถอดป้ายออกทำงานเหมือนกันแหละครับ... เขาถึงบอกกันว่าหากเจอรถแบบนี้ต้องพยายามหนีห่างๆ อย่าเกิดเรื่องด้วย เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใครไงครับ...

แล้วถ้าบังเอิญเกิดเรื่องด้วยแบบเลี่ยงไม่พ้น ก็ต้อง"ยิงก่อน"ครับ เพราะรถพวกนี้เล่นปืนทั้งนั้นไม่ว่าจะฝ่ายมืดหรือสว่าง หากปล่อยให้เปิดฉากยิงก่อนอาจไม่รอดครับ... ก็พวกนี้เรียนปืน/ฝึกปืนผ่านหลักสูตรมาทั้งสิ้น ไม่ใช่มือใหม่หัดพกครับ... กึ๋ยส์...

เป็นการออกแบบที่ถูกต้องและมีน้ำใจเอื้ออาทรกับเพื่อนร่วมทางที่ดีมากครับ
แต่ถ้ามาอยู่ในมือคนพวกบางจำพวก มันก็เปิดไม่มีกาละเทศะของมันอีกจนได้นั่นแหละ
 ทีนี้ก็เอาใหญ่เลยแหละ เปิดไฟหน้าทีไร เปิดตัดหมอกด้วยทุกที

 น่าจะมีกฎหมายไฟตัดหมอกให้จ่ายภาษีเพิ่มด้วยนะ ใครติดจ่ายห้าร้อยทุกปีไม่มีลดแต่เพิ่มได้
จะได้พูดกันว่า ไอ้ไฟห้าร้อย

เมื่อก่อนเขาเอาป้ายตราโล่ห์มาติดตอนนี้มีคำสั่งห้ามเลยไม่มีป้ายมั้ง เฮ้อมีเรื่องนี้อีกเยอะพูดไม่ออกยังไงขอให้ยังทำงานปราบโจรไปเถอะ เดี๋ยวหรี่ตาให้ข้างนึง