เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เรียนพี่ๆสมาชิกทุกท่านครับ

อยากจะขอสอบถามถึงช่องทางการลงทุนแบบใดบ้างที่ไม่เสี่ยงมากเกินไป สำหรับคนที่อยากจะลงทุนบ้าง พอมีเงินเก็บเล็กน้อย ไม่อยากจะฝากแบบประจำแล้วเพราะให้ผลตอบแทนค่อนข้างน้อยเหลือเกิน แต่ก็กลัวเหมือนกันหากไปลงทุนในช่องทางที่ความเสี่ยงสูง เพราะเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้นะครับ แค่อยากจะให้เงินทำงานแทนเราบ้างนะครับ ส่วนตัวไม่สามารถนั่งหน้าจอมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลา และการติดต่อสื่อสารบางครั้งอาจจะขาดหายไป เนื่องจากลักษณะของงานที่ทำครับ

รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ๆสมาชิกทุกท่านด้วยครับ

ขอบคุณครับ

ลงทุน ในด้านที่เราถนัดครับ

ถ้าเริ่มนับ ๑ ใหม่   ค่อนข้าง เสี่ยง ในยามนี้
นอกจาก จะสร้างกระแส ใหม่ ๆ ให้โดดเด่น กว่า ที่มีอยู่ก่อน

        ลองดูทองคำแท่งครับพี่    ::014::

ทองคำ เล่นสั้น

เข้าไว ออกไว

ไม่คิดมาก ซื้อสลากออมสิน
ได้น้อย แต่เก็บกิน
หมดสามปี ก็ได้เงินต้นคืน ดอกเบี้ยอีกหน่อย
หน่วยละ ๒.๗๕ บาท

ขออภัย เข้าใจผิดเกี่ยวกับการลงทุนครับ... ::014::

ซื้อที่ดินสำหรับการเกษตรครับ...

ถ้าไม่ได้ปลูกไม้ให้ผลจำพวกยางหรือปาล์ม...ก็ลงกระถินเทพาหรือไม้สนไว้

10 ปี ค่าไม้เกือบๆครึ่งของมูลค่าที่ดิน...ซึ่งตอนนั้น ที่ดินก็เพิ่มราคาไปพอควรแล้ว

ผมซื้อทองเก็บอย่างเดียวครับฉุกเฉินยังไงก็แปลงเป็นเงินง่าย เสียดายถ้าคิดแบบนี้ได้ตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วคงเก็บได้เยอะแล้วครับเมื่อก่อนมัวแต่วิ่งตามมอร์ไซค์

ถ้าไม่กลัวติดดอย...แนะนำทองคำแท่งครับ

LTF ได้ต่อแรกคือคืนภาษี เลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ  ต่อที่สองมูลค่าที่ขึ้นลงตามตลาดฯ ต่อที่สามปันผล(ขึ้นอยู่กับกองทุนที่เลือก)

เข้ามาศึกษาครับ, นายสมชายถนัดแต่หุ้น... แต่เรื่องหุ้นนี่เสี่ยงเกินครับ โดยเฉพาะช่วงนี้ Set ปริ่ม 1500 จุด, เหมือนฝีจวนแตกเต็มทีแล้วครับ... ไม่ฮา...

เล่นกองทุนของ กสิกร ครับ

ดอกประมาณ3% มีระยะเวลา 3,6,12 เดือน

สำหรับเงินออมผมแบ่งเงินออกเป็น 5 ส่วนครับ...

1.ซื้อหุ้นในสหกรณ์...

2.ซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์และแบบบำนาญ...

3.ซื้อกองทุน(ผมลงทุนทั้งใน RMF และ LTF กระจายการลงทุนทั้งในหุ้น ตราสาร และทองคำ)...

4.ซื้อหุ้น โดยเลือกหุ้นที่มั่นคงสูง ไม่หวือหวา ปันผลสม่ำเสมอ ไม่ปั่น...

5.เงินฝาก เลือกธนาคารที่ให้ดอกสูงกว่า และจ่ายภาษีน้อยกว่า ครับ...

โดยแบ่งเท่าๆกัน เช่น ถ้าเบี้ยประกันปีละ 20,000 บาท ก็ลงทุนข้ออื่นๆในปริมาณเงินใกล้ๆกัน...

เท่าที่ลงทุนมา พบว่าหุ้นให้ผลตอบแทนสูงที่สุด เงินฝากให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด ครับ... :D

 ::002:: ::002:: ::002::

ขอบคุณครับพี่ยอด

ครับ จะลองดูครับ เมื่อก่อนซื้อแต่ทองรูปพรรณครับ

สลากออมสิน หากเราถูกรางวัลก็จะได้รางวัลด้วยใช่ไหมครับพี่

ครับน้าฉ๊อง กำลังเก็บเงินหาซื้อที่ดินเหมือนกันครับ อยากจะได้ผืนเดียวกันสัก ๓๐ ไร่แล้วปลูกยางพาราครับ

ใช่ครับ

ขั้นต่ำได้ สามร้อยบาท

อายุ ๓๖ งวด

เสมือนซื้อฉลากกินแบ่ง แต่ได้เงินคืน

รางวัลอาจจะไม่แรงเท่า แต่ไม่สูญ

แถมเอาตัวฉลากกู้ได้อีก ๙๐ %

แต่เฉพาะฉบับล่ะ ๑๐๐๐๐ บาทขึ้นไปครับ

ครับ ผมมัวเสียเวลาไปกับหลายอย่างหลายปีมาแล้วครับ ตอนนี้เลยพยายามเก็บเงินนะครับ

ขอบคุณครับน้ายอด ทองคำแท่งก็ต้องเตรียมไว้ไปขอลูกสะใภ้ครับ

ขอทราบกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำด้วยครับ จะได้ไปติดต่อ ลองศึกษาดูครับ

ขอบคุณครับ

ครับพี่ ผมไม่กล้าเล่นหุ้นครับ

ดอกสามเปอร์เซ็นต์ต่อปีหรือว่าต่อเดือนครับ น่าสนใจครับ ดูแล้วเยอะกว่าเงินฝากประจำมากครับ

ผมว่าถ้าจะซื้อทองเก็บ  ซื้อเพชร  หรือซื้อปืนจะดีกว่ามั้ยครับ

ขอบคุณมากครับพี่หมอ หุ้นนี่ละครับที่ผมยังไม่กล้าที่จะลงทุนครับ

ขอบคุณครับน้ายอด  ขึ้นฝั่งไปคงต้องไปติดต่อกับธนาคารออมสินแล้วละครับ เพราะยังมีเงินฝากประจำนิดหน่อยที่ครบกำหนดแล้ว จะได้เปลี่ยนมาเป็นสลากออมสินแทนครับ

ปืนสำหรับผมขอใบอนุญาตไม่ได้อีกแล้วครับ สัญญากับปลัดไว้แล้วว่าจะไม่มารบกวนท่านอีกแล้วครับ ตอนนี้ก็รอให้ใบอนุญาตของ .๔๕ ว่าผลการตัดสินของศาลปกครองกลางจะเป็นอย่างไรนะครับ

ผมเลือกลงทุนกับออมทรัพย์ ดังนี้ครับ
1) หุ้น ต้องใจเย็น ควรศึกษาความเคลื่อนไหวตลาด รายละเอียดของบริษัทให้ดี
    มือใหม่ เลือกตัวที่มีปันผลไว้ก่อน มากกว่าดอกเบี้ยธนาคารก็ดี ที่เหลือ ถามคุณสมชายครับ  ;D
2) ทอง ก็เหมือนหุ้น รอจังหวะซื้อสะสมในราคาที่ต่ำ ขายบ้างมีกำไร ถึงเก็บก็มีค่ากว่าเงินสดในกรณีวิกฤติ
    หากไม่มีปัญหาเรื่องที่เก็บอย่างปลอดภัย และไม่ต้องกลัวเรื่องขโมยหรือโจร
3) เงินฝาก หรือ กองทุนระยะสั้น ที่ให้ดอกเบี้ยดีกว่าออมทรัพย์ธรรมดา ไว้เป็นที่โยกเงิน
    จากการลงทุนใน หุ้น หรือ ซื้นขายทอง ไปมาแล้วเอาดอกผลหรือกำไรมาใช้จ่ายบ้าง
4) อสังหาฯ หรือ ที่ดิน นั้นขึ้นอยู่กับจังหวะ ต้องดูทำเล การใช้สอยในอนาคต ไม่ไกล
    จนดูแลลำบาก ไม่ปล่อยเช่าให้วุ่นวาย จะขายเมื่อมีกำไรสูงสุดครับ

ผมให้น้ำหนัก 4 อย่าง ที่คิดว่าผลตอบแทนอาจจะไม่หวือหวาทันใจ แต่เสี่ยงน้อยสุด
สามารถวางแผนเองและมีเวลาไปทำธุรกิจอย่างอื่น ไม่ต้องกังวล ที่สำคัญ หากเกิดวิกฤติอะไรขึ้นในระบบ
การเงินหรือตลาดทุนของโลกหรือแม้ในประเทศ ทั้งภัยธรรมชาติ หรือมนุษย์ เป็นลูกโซ่
ทุกอย่างกลายเป็นกระดาษ ก็ยังเหลือบางส่วนไว้แลกประทังชีวิตช่วงหนึงครับ  ::014::

ถ้าขายของเก่าออกแล้วซื้อใหม่ได้มั้ยครับ  หรือว่าเพิ่มอีกไม่ได้เลย

ทองมันเข้าโรงจำนำง่ายด้วยครับ โรงจำนำบางโรงรับแต่ทองอย่างเดียวอย่างอื่นไม่รับครับ

ไม่งั้นก็หาซื้อที่ไร่หรือไม่ก็ที่นาให้คนอื่นเช่าก็ดีนะครับอย่างน้อยก็ไม่ต้องซื้อข้าวครับ

มีทอง  มีเพชร  ผมไม่เข้าโรงรับจำนำหรอกครับ  ไปร้านทองดีกว่า

ขอบคุณมากครับพี่สำหรับคำแนะนำ

ไม่เพิ่มอีกแล้วครับ เพราะตกลงกับปลัดไว้แล้วครับ ส่วนหากจะลงทุนในทางนี้คงต้องให้ ผบ. เป็นคนไปขออนุญาตนะครับ แต่ดูๆแล้วอาจจะได้เพิ่มสักสองกระบอกนะครับ เพราะท่านอยากได้ โคลท์มัสแตงอยู่ครับ

มีที่นาอยู่แปลงหนึ่งครับ ไว้ทำนาปี คิดจะลองยกร่องปลูกยางหรือปาล์ม แต่ก็ดูแล้วไปไม่ไหวครับ นาน้ำท่วมสูงครับ เลยต้องเก็บไว้ทำนาปีอย่างนั้นครับ

ผมไม่มีเงินพอจะไปลงทุนอะไรหรอกครับพี่แต่ฟังเขาว่ามาดังนี้
การลงทุนเป็นความเสี่ยงครับ ยิ่งถ้ามีเงินแค่ก้อนเดียวแล้วทุ่มลงทุนไป โอกาศพลาดมีสูงเพราะขนาดการลงทุนบางอย่างที่ว่าได้ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ำ ตั้งแต่โบราณมาไม่เคยปรากฎว่าผู้ลงทุนขาดทุน ยังต้องมีทุนสำรองอย่างน้อยเป็น 3 เท่าของเงินที่ลงทุนเลยครับ  ดังน้นเขาเลยแนะนำมาแบบนี้ครับ ::014::
ลงทุน เป็น 30 % ของเงินที่เรามี 70 % เป็นเงินเย็น เพราะต้อง
"รู้จักพอ" เช่นลงทุนไป 100 ถ้าได้ 130 ปล่อย คนได้ต่อไปเขาจะไปได้ถึง 200 ก็ช่างหัวเขา เราพอใจที่ 30
"รู้จักเสีย" เช่นลงทุนไป 100 ขาดทุนถึง 50 เราปล่อย ปล่อยแล้วมูลค่ามันขึ้นมาเป็น 120 ก็ช่างมัน เราเสียไปแค่ 50
เพราะเรามีเงิน 70 % เก็บไว้เพื่อพลาดพลั่ง ครับ
::014::
เหมือนสอนจรเข้ ว่ายน้ำ สอนสังฆราชอ่านหนังสือยังไงไม่รู้สิครับ ;D

ปล.มีคำสอนโบราณของยายผมมาบอกพี่ ครับ ยายสอนแม่ และป้าผมว่า "ต้นกระถิน ถ้าเราปลูกแล้วพอมันเริ่มโตก็รีบเด็ดมันมากินจนเกลี้ยง มันก็ไม่โต ถ้าเราไม่เด็ดมากินเลย เราจะปลูกไว้ทำไม แต่ถ้าค่อย ๆ เด็ดมากินที่ละน้อย ซักวันมันจะโตจนเราสามารถแบ่งให้คนอื่นกินได้"

ขอเพิ่มมะฮอกกานีให้อีกสักตัว

เอาแบบบ้านๆนะครับ ก่อนอื่นต้องรับสภาพก่อน

ความเสี่ยงต่ำ -----> กำไรต่ำ
ความเสี่ยงสูง -----> กำไรสูง


อย่าพยายามไปเชื่อคนที่บอกว่าความเสี่ยงต่ำ กำไรสูง เพราะนั่นถึงทำได้จริง ก็ต้องการสภาพคล่อง
ของผู้ลงทุนที่สูงมากตามไป

มีอยู่อย่าง ที่คนนิยมทำกันยาวๆ ความเสี่ยงต่ำ กำไรต่ำ ไม่ต้องการสภาพคล่องของผู้ลงทุนมากนัก
แบบลงทุนครั้งเดียวจบ คือการสร้างบ้านให้เช่า หรือหอพัก อพาร์ทเม้นต์
อันนี้ลงทุนสูงกับเรื่องของอาคาร สิ่งก่อสร้าง  
ทำแล้ว 5ปีแรก ไม่ต้องดูว่ากำไรเท่าไหร่ เพราะทุกอย่างเห็นผลตอนเดินทางเข้าปีที่10
ทั้งค่าเช่า มูลค่าทรัพย์(ที่ดิน+สิ่งก่อสร้่าง)

แต่นั่นหมายถึง เงินก้อนโตจริงๆนะ ตอนลงทุนลงไป

ขอบคุณมากครับพี่สน  ที่อยากลงทุนบ้างพอดีได้เงินจากการลาออกจากงานมานะครับ เอาไปฝากประจำไว้ครบห้าเดือนแล้วได้ดอกเบี้ยมานิดหน่อย เลยมานั่งคิดว่าน่าจะเอาไปลงทุนอะไรได้บ้างนะครับ

แต่ชอบคำพูดของยายของพี่ครับ


ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

คิดไว้ว่าหากมีโอกาสจะทำหลังจากที่หยุดทำงานประจำครับ

ถ้าคิดได้ตั้งแต่เริ่มทำงานเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ป่านนี้คงน่าจะได้ทำอะไรใกล้ๆบ้านแล้วละครับ ตอนนี้เลยได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเก็บหอมรอมริบไว้ เผื่อวันข้างหน้าครับ

ถ้าไม่อยากเสี่ยงมาก หุ้น ก็เป็นช่องนึงน่ะครับ เลือกมา30ตัวจาที่ SET50 กระจายซื้อเท่าๆกัน

แนะนำให้เล่นที่ดินครับ..ไม่กี่ปีก็รวยปลิ้น  เพื่อนบ้านผมซื้อที่นาตาบอด 6 ไร่ ไร่ละ 6-70,000.-เท่านั้นเอง
ตอนนี้บอกขายควบกับแปลงเล็ก 3 ไร่ที่ติดถนน(เพื่อให้แปลงตาบอดมีทางออกถนนด้วย) บอกขายเฉลี่ยไร่ละ 800,000.- บาท..(โฮ)