เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อส.ลาออกทั้งตำบลยัวะถูกย่ำศักดิ์ศรี

(http://picth.com/get/jC7Z5/8F35632E73B640A9902C1F02BDDC3B2E.jpg)

อส.ตบเท้าลาออกทั้งตำบลหัวตะพาน น้อยใจถูกผู้บริหารระดับสูงเหยียบย่ำน้ำใจตลอด

นายกวี ศรีวิสุทธิ์ กำนันตำบลหัวตะพาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นำอาสาสมัครรักษาดินแดน 
(อส.สำรอง) จำนวน 50 คน มายื่นใบลาออกจากการเป็นอส.ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอท่าศาลา
สืบเนื่องมาจากเสียใจในการกระทำของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ นอกจากจะไม่ให้ความสำคัญแล้ว
ยังเหยียบย่ำเกียรติ ศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เพียง อส.ทั้ง 50 คน แล้วแต่ยังเหยียบย่ำคนทั้งตำบล
หัวตะพาน ทำให้ทุกคนเสียใจจึงได้ลาออกจากการเป็น อส.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ อส.ทั้ง 50 คน ได้แต่ชุดเต็มยศเดินทางมาที่หน้าว่าที่การอำเภอท่าศาลา
จากนั้นตัวแทนกลุ่มคือนายกวี ได้กล่าวปฏิญาณตนว่า “หัวใจราชสีห์ต้องมี 3 ประการ คือ
1.ต้องไม่กลัวโจร 2.ต้องไม่เกรงใจอันธพาล 3.ไม่รับใช้คนชั่ว" ซึ่ง 2 ข้อแรกนั้น อส.ทุกคนสามารถพิสูจน์
ให้เห็นแล้วว่า ทำงานเพื่อสังคมได้โดยไม่มีเงินตอบแทนใดๆ แต่ทำด้วยใจรัก แต่ ข้อ 3 นั้นเรารับไม่ได้
ที่ที่จะมีคนชั่วมาสั่งการให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จึงออกมาแสดงออกให้เห็นว่า เราจะไม่รับใช้คนชั่วด้วยการขอลาออก

หลังจากนั้นนายกวี ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว นายอำเภอท่าศาลา
พร้อมได้กล่าวแถลงการณ์ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ถึงการออกช่วยเหลือสังคม
รวมทั้งการช่วยหลือเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ และเรื่องปัญหายาเสพติด
ซึ่งถือว่าตำบลหัวตะพานนั้นได้รับการยอมรับว่าปัญหาต่างๆ มีน้อยมากเมื่อเปรียบกับพื้นที่อื่นๆ
หลังจากนั้น อส.ทั้ง 50 คน ก็ได้ถอดเครื่องแบบพร้อมกันทุกคนทั้ง อส.หญิง และ อส.ชาย
ก่อนจะกองไว้หน้าที่ว่าการอำเภอท่าศาลา โดยเตรียมผ้ามาผลัดนุ่งห่ม ก่อนจะเดินทางกลับบ้านในที่สุด

ด้านนายถาวรวัฒน์  นายอำเภอท่าศาลา กล่าวว่า เป็นความน้อยใจของ อส.ตำบลหัวตะพาน
ที่ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งเรื่องการป้องกันอาชญากรรม การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ
เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยวาตภัย ทำงานด้วยใจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยที่ไม่มีสิ่งตอบแทนใดๆ
ทั้งสิ้น เข้าใจความรู้สึกของ อส.ทุกคนโดยเฉพาะนายกวี กำนันตำบลหัวตะพาน เข้าใจเป็นอย่างดี
การมารวมกันนั้นแล้วแสดงจุดยืนถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งจะรายงานเรื่องนี้ให้ทางผู้บริหารระดับสูงทราบต่อไป

(http://picth.com/get/khMaG/1359896277.JPG) (http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89%20/202408/%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5)


มีเรื่องอะไรกัน  ท่านใดพอทราบบ้างครับ   ::014::

อยากรู้ด้วยคนครับ

นายสมชายยังไม่รู้เรื่องราวอะไรนะครับ... แต่ผู้ชายคนที่ยืนหน้าสุดนุ่งผ้าข้าวม้านั่น นายสมชายดูจากรูปร่างแล้วบอกได้เลยว่าคนนี้มีวินัยสูงครับ...

คนอายุร่วม 50 แล้วกล้ามเนื้อขนาดนี้ หนอกคอขึ้นให้เห็นได้ หุ่นนักกีฬาแบบนี้ พุงไม่หลาม, มีแนวโน้มสูงว่าเป็นคนรักษาวินัย/ไม่ขี้เกียจครับ... คาดว่าอย่างน้อยก็สามารถวิ่งออกกำลังกายนำหน้า อส. ตอนเช้าเป็นประจำครับ ถึงได้ครองใจ อส. ถึงขนาดพาทั้งทีมลาออกได้ขนาดนี้...

ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้

                เกิดเจ้าตัวมาเห็นแล้วบอกว่าผมเพิ่งจะสามสี่สามห้า ที่หน้าแซงหุ่นไปไวเพราะเมียด่าทุกวัน มันจะฮาไม่ออกนะครับน้าสมชาย อิ อิ อิ ::005::


                     พูดเรื่องพุงแล้วเล่าแถมให้ฟังละกัน เมื่อปีที่แล้วผมไปนั่งหลับรอลูกเรียนพิเศษแล้วคงหลับลึกไปหน่อย ไม่รู้ว่าเมียหรือลูกแอบเอาเข็มกลัดมาติดเสื้อตรงพุงไว้ ผมก็เดินแบบไม่รู้ตัวทั่วห้าง ใครเดินสวนก็อมยิ้มกันแทบทุกคน กว่าจะรู้ตัวคงมีคนเห็นกันหลายร้อยคนแล้วมั้ง ทุกวันนี้ก็ต้องพยายามลดพุงตัวเองอย่างหนักก็เพราะไอ้เข็มกลัดอันเดียวนี่แหละครับ :~)

                   ส่วนกรณีของพวกพี่ๆ อส. โนคอมเมนต์แต่ขอ   ::002:: ::002::  ให้ในอุดมการณ์ครับ ::014::

"ไม่รับใช้คนชั่ว"  ::002::  ::014::

อยากรู้เหมือนกัน

ท่านใดอยู่ นครศรีฯ บ้าง  ช่วยเล่าเหตุการณ์หน่อยครับ  ::014::

ลดพุงไม่ใช่เรื่องง่ายครับ, ก็ลองคิดดู พวกกรรมกรแบกหามทำงานหนักออกปานนั้นก็ยังอุตส่าห์มีบางคนพุงโตครับ, ก็เรื่องลดพุงและมีกล้ามเนื้อขึ้นเป็นลูกนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายครับโดยเฉพาะคนอายุล่วงเข้าวัยกลางคนแล้ว... หากมันลดพุงกันง่ายๆ เราก็จะไม่เห็นคนพุงโตเกลื่อนทั่วไปหรอกครับ... แฮ่ๆ...

การลดพุงให้ได้นั่นต้องประกอบด้วยการออกกำลังกายเพื่อเบิร์นไขมันให้หมด กับต้องควบคุมอาหารไม่ให้ที่กินเข้าไปมากกว่าที่เบิร์นออกครับ, แล้วไม่ใช่ว่าอาศัยแรงฮึดแค่ไม่กี่วันก็ได้ผล แต่ต้องทำทั้ง 2 อย่างสม่ำเสมอแบบข้ามเดือนข้ามปีครับ... หยุดเมื่อไหร่หรือวินัยเสียเมื่อไหร่พุงมันจะกลับมาอีกให้เราเซ็งจิตครับ... ฮา...

เพราะใช้เวลาตั้งนานกว่ามันจะลด แต่เวลาวินัยเสียแค่สัปดาห์เดียวมันมาเต็มๆเลย(อย่างรวดเร็ว), แปลว่าเสียแรงเหนื่อยหลายเดือนนั้นสูญครับ... ฮา(อีกที)...

บ้านผมอีกแล้วครับ..เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ดรามาเข้มข้นเชียวแหละ

ตอนนี้ ขอไปตัดยางก่อน...

นายหัวคุมคนงานดีๆครับ เดี๋ยวลูกจ้างลักขี้ยางไปขายหมด หลายสิบไร่ ต้องหารถATVขับดูสวนนะครับ  ::002::

ปริญญาโท..สองใบครับ 

:o  :o  :o

รอฟังด้วยคนครับ  :)

ในวงราชการ หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ..................คงมีเรื่องที่เจ็บช้ำน้ำใจแบบสุดๆแล้วทำอะไรไม่ได้ จึงพร้อมใจกันลาออกเป็นจำนวนมากขนาดนี้ ......................

เป็นสิ่งบอกเหตุถึงความล้มเหลวในการบริหารงานอย่างสิ้นเชิง .........................

ในชีวิตทำงานที่ผ่านมา ผมเจอเหตุการณ์ผู้ใต้บังคับบัญชาของหน่วยรอง พร้อมใจกันเขียนหนังสือร้องเรียนผู้บริหาร โดยลงชื่อท้ายหนังสือ ทั้งหน่วย ........................ ผู้บริหารระดับสูงสั่งตั้งกรรมการสอบสวนทันทีโดยผมเองเป็นประธานกรรมการ ...................ผลการสอบสวนออกมา ผู้บริหารหน่วยนั้น มีข้อบกพร่องในการบริหารจริงๆ ทั้งจริยธรรม ศีลธรรม และพฤติกรรม ................. ทำให้มีการสั่งย้ายในทันทีที่ผลการสอบสวนสรุป ..............หน่วยงานนั้น ปัจจุบันยังคงอยู่และมีการปฏิบัติงานที่มีผลงานดีสม่ำเสมอ เมื่อเปลี่ยนตัวผู้บริหารคนนั้นออกไป ..............

เรื่องนี้ ถ้ากระทรวงที่รับผิดชอบ เพิกเฉย ......................... ก็คงไม่ต้องหวังอะไร ให้ประชาชนพึ่งพาได้แล้ว

น่าสลดหดหู่จริงๆ

"อำนาจ" เป็นสิ่งเสพติดอย่างหนึ่ง...หากใครหลงมัวเมามันเข้า......จนถึงขนาด"บ้าอำนาจ"

เริ่มยังไงดี....

เริ่มจาก นายอำเภอก็แล้วกัน  นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว

เดิืมชื่อ นายถาวร คงแก้ว เป็นนายอำเภอพรหมคีรีอยู่หลายปี ครั้งหนึ่ง โดนสั่งย้าย 24 ชั่วโมง สลับกับนายอำเภอเชียรใหญ่

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ดราม่ายาวยืดเกินกว่าจะเอามาเล่าในกรณีนี้ พอนายอำเภอถูกย้าย ผู้ใหญ่เฉลิม (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=174134.0)ก็ประกาศยอมแพ้

เผาป้ายแล้วยกหมู่บ้านให้โจร รายละเอียดคร่าว ๆ และวันเวลา อ้างอิงจากลิงค์นี้ http://www.nakhontoday.com/detail_news.php?n_id=1387

จากเชียรใหญ่ นายถาวรก็ย้ายไป อ.ร่อนพิบูลย์ แล้วย้ายไป อ.พระแสง จ.สุราษฎร์(กันดารนะนั่น..)

หลังสุดก็มาเป็นนายอำเภอท่าศาลา (ใหญ่ อุดมสมบูรณ์และร้อนแรงครับ อำเภอนี้) พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "ถาวรวัฒน์"

กรณีนี้ นายอำเภอถาวรวัฒน์ เป็นผู้ส่งชื่อนายกวี ศรีวิสุทธิ์ กำนันตำบลหัวตะพาน เข้าประกวด...กำนันแหนบทอง....



บุคคลต่อไป นายคณิต คุณโลก กำนันตำบลทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ....พื้นที่ติดกัน

นายคณิต คุณโลก กำนันตำบลทอนหงส์ อ.พรหมคีรี  มีเนื้อข่าวอ้างอิงบุคคลหลายข่าว แต่ข่าวนี้น่าสนใจ

http://www.nakhonpost.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=5

อ่านข่าวแล้วใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะครับ  ผมเองก็อาศัยอยู่แถวนั้น วันที่และเวลาตามข่าว ผมก็อยู่แถว ๆ นั้น

แต่เจ้ากรมเรื่องเพื่อนอย่างผมไม่ระแคะระคาย ว่าเหตุมันเกิดตอนไหน อย่างไร มารู้อีกทีจากข่้าววิทยุรายการป้าจอยฝอยข่าวตอนเช้าของอีกวัน

........

นายคณิต เป็นตัวแทนของอำเภอพรหมคีรี เข้าประกวดกำนันแหนบทอง สมัยเดียวกัน  (เนี่ย เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน ป้ายต้อนรับยังแขวนอยู่เลย)

นายคณิต เข้าประกวดมาแล้ว 2 ครั้ง ร่วงทั้งสองครั้ง ครั้งนี้ จัดหนัก ส่วนจะหนักอย่างไร ขอละไว้ในฐานที่ท่านคงพออนุมานได้

ผล นายคณิต ได้ตำแหน่งกำนันแหนบทองไป...เป็นที่มาของดราม่าตามกระทู้...



บุคคลต่อไป นายกวี ศรีวิสุทธิ์ กำนันตำบลหัวตะพาน เจ้าของแหนบทองสองสมัย รับมาแล้วทั้งปืนสั้นปืนยาว....

นายกวี ศรีวิสุทธิ์ หรือกำนันวี ผู้กว้างขวางแห่งตำบลหัวตะพาน โมคลาน ไทยบุรี(ม.วลัยลักษณ์) เป็นน้องชายของอดีต ส.จ.จารึก ศรีวิสุทธิ์

นายจารึกผู้เป็นพี่ชายนั้น มีอดีตที่ยิ่งใหญ่มาตลอด ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนายก อบต.โมคลาน ทั้ง ส.จ. อ.ท่าศาลา

รวมทั้งมีการกระทบกระทั่งกับบุคคลอื่น ๆ ให้ได้ยินข่าวอยู่เนือง ๆ

ส่วนกำนันวี เป็นกำนันมาหลายปี ได้แหนบทองมาแล้ว 2 สมัย มีปริญญาโท 2 ใบ เป็นผู้นำที่มีทั้งพระเดชและพระคุณแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เป็นกำนันทั้งแบบยุคเก่าและแบบยุคใหม่ในคน ๆ เดียวกัน  เรื่องเจรจาหรือระงับเหตุหรือการพิพาทนั้นก็เด็ดขาดชัดเจนตามรอยนายจารึกผู้พี่

เรื่องโครงการน้ำหมึกน้ำหมายกับการติดต่อเจ้านายเบื้องบน ก็สมกับเป็นกำนันปริญญาโท ลูกบ้านเชื่อถือและวางใจได้กับเรื่องนี้

"อส.สำรอง" ย้ำนะครับ นี่ไม่ใช่ อส.หลักของกรมการปกครอง  แต่เป็น อส.สำรอง สังกัดอำเภอ

เหมือนอาสาสมัครกู้ภัย ที่สังกัดมูลนิธิ  หรือ อปพร.ที่สังกัด ศูนย์ อปพร.ใน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

กำนันกวี ฟอร์มทีม อส.สำรองชุดนี้ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ป้องกันและปราบปราม"ยาเสพย์ติดและการลักทรัพย์" (โดยเฉพาะ ขี้ยาง...)

ตำบลหัวตะพาน ก็เหมือนตำบลอื่น ๆ ในจังหวัดนี้ ที่มีวัยรุ่น หรือรุ่นเดอะ เสพย์ยาจำนวนมาก พอไม่มีเงินซื้อยา ก็หาลักหาขโมยของคนอื่นที่เขาทำมาหากิน

อส.สำรอง ทั้ง 50 คน นำโดยกำนันกวี ปราบปรามสองกลุ่มนี้ (เสพย์ยาและลักทรัพย์)"อยู่หมัด"อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้

ทั้งการหาข่าว การลาดตระเวณ การสืบสวนสอบสวน และมาตรการลงโทษที่เฉียบขาดดุดัน พักหลัง ๆ ขี้ยางชาวบ้านตั้งทิ้งไว้ข้างถนนข้ามคืนก็ยังไม่หาย

..แน่นอน ผลงานประจักษ์ชัดปานนี้ ชาวบ้านต่างยกหัวแม่มือกดไลต์ให้โดยถ้วนหน้า การทำมาหากินก็ไม่ต้องระแวงหลัง



................แล้วผลกำนันแหนบทองดันพลิก.....

เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ::002:: ;D

แหงล่ะ  กำนันแหนบทองในประเทศนี้จะมีกี่คนกันที่ได้เพราะฝีมือจริงๆ

ยังกะหนังไทยหลายสิบปีมาแล้ว ::005::

คนที่มีฝีมือโดดเด่นชนิดนำหน้าคนอื่นหลายก้าวมันก็มีนะกวาง

อย่างทอนหงส์ก็มีผู้ใหญ่เฉลิม ที่ปราบปรามการลักขโมยได้แบบอยู่หมัดด้วยกฏหมู่บ้านอันเข้มงวด จนได้แหนบทองสองสมัยเช่นกัน

แต่น่าเสียดายที่ผู้ใหญ่เฉลิมไม่อาจต้านอำนาจยาเสพย์ติดและอำนาจเบื้องบนได้ จนต้องไปเดินเท้าเข้าพบนายกอยู่นั่นไง

อ่านเนื้อข่าวนี้ดูครับ ใกล้เคียงความจริงมากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะตอนหลัง ๆ

http://www.manager.co.th/south/viewnews.aspx?NewsID=9560000013507

เรื่องแบบนี้ที่ไหนก็มี...
แต่หากเกิดบา่งที่ เรื่องราวอาจถูกกลืนกิน เงียบหายไป
ผู้ถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ได้รับความยุติธรรม ได้แต่หุบปากเงียบ น้ำตาตกในไป
ทีมงานถูกแทรกแซงจนแตกแยก ไม่อาจรวมตัวกันติด

งานนี้ เจอคนสู้คนแบบนี้ก็ดีครับ
มวยถูกคู่้ คนดูถูกใจครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

ต่อเลยครับน้าฉ๊อง เริ่มปวดหัวแล้วนิครับ รู้เรื่องเพื่อนไม่ตลอดนิ

ต่อไปไหน  จบแค่นี้แหละ ภาคสองยังไม่สร้าง

ขอมาลงชื่อติดตามครับ
+3766 ขอบคุณน้าแพนด้าครับ  ::014::

อ้าวนึกว่ามีพล็อตเรื่องไว้แล้วครับ