พิมพ์หน้านี้ - สาระน่ารู้เกี่ยวกับอาวุธปืนของ สพ.ทอ.บนอ.

ขอบคุณครับ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก

หลักเกณฑ์ประการที่สามคือ “พกโดยข้อยกเว้นของกฎหมาย” พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรกบัญญัติว่า “ห้ามมิให้พกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีอาวุธปืนติดตัว เมื่อมีเหตุจําเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” กับ วรรคท้ายของมาตรานี้บัญญัติข้อยกเว้นเกี่ยวกับงานของรัฐ ซึ่งให้มีสิทธิพกพาอาวุธปืนได้โดยมิต้องมีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวด้วย จึงอาจสรุปได้ว่า แม้จะไม่มีใบพกก็สามารถพกปืนติดตัวได้ถ้าเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘ ทวิ แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ คือ.-

๑. มีเหตุจําเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ หมายความว่าต้องเป็นกรณีที่จําเป็นต้องมีอาวุธปืนติดตัวอย่างเร่งด่วน ซึ่งในตัวบทของกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องอาวุธปืนไม่ได้อธิบายหรือให้คําจํากัดความไว้ คงให้ศาลฎีกาและนักกฎหมายทุกสาขาตีความกันไป เหตุผลลักษณะที่อ้าง “จําเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” นั้น จึงเป็นเรื่องที่กําหนดเป็นหลักตามตัวได้ยาก ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆ ไปลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างที่ ๑ นาย ก. ต้องขับรถสิบล้อบรรทุกสินค้าไปส่งยังต่างจังหวัด อย่างนี้อาจถือว่าจําเป็นต้องมีอาวุธป็นติดตัวไปได้ แต่ไม่ถือว่าเป็นกรณีเร่งด่วน เพราะการที่ นาย ก. อ้างว่าเพื่อป้องกันการปล้นรถบรรทุกของตนเป็นการจําเป็นนั้น เป็นกรณีจําเป็นที่มีอยู่ตลอดไป กล่าวคือ การปล้นรถบรรทุกสินค้า อาจมีหรือไม่มีเมื่อใดก็ได้ จึงไม่ถือเป็นกรณีเร่งด่วน

ตัวอย่างที่ ๒ นาย ข. ต้องนําภรรยาซึ่งเจ็บท้องจะคลอดลูกไปส่งโรงพยาบาลในตอนดึกอย่างนี้เป็นกรณีเร่งด่วน แต่ไม่มีความจําเป็นถึงต้องพกพาอาวุธปืนไปด้วย เพราะตามปกติไม่มีเหตุผลใดที่จะอ้างได้ว่าจําเป็นต้องพาไปเพื่อป้องกันตัวเองและพิทักษ์ทรัพย์สิน

ตัวอย่างที่ ๓ นาย ค. เพิ่งขายข้าวได้เงินมาเกือบแสนบาท และจําเป็นต้องนําเงินไปฝากธนาคารซึ่งอยู่ห่างจากบ้านราวสิบกิโลเมตรในวันนั้น เพื่อความปลอดภัยจากโจรปล้นทรัพย์ ซึ่งในท้องที่ของ นาย ค. มีอยู่บ่อยๆ ดังนั้น การที่ นาย ค. นําปืนที่ได้รับใบอนุญาตให้พกพาติดตัวไปพร้อมกับเงินที่ต้องนําไปฝากธนาคารในวันนั้น ดังนี้ถือว่า “จําเป็นและเร่งด่วน” ได้

ตัวอย่างที่ ๔ นาย ง. ต้องการนําเงินสดจํานวน ๗,๐๐๐.- บาท ไปส่ง จึงนําอาวุธปืนและเงินไว้ในลิ้นชักรถ และขับไปส่งผู้อื่นและพากันไปนั่งดื่มสุราโดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งรถจอดอยู่ห่าง ๕-๖ วา เช่นนี้ แสดงว่ามิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยในทรัพย์สินจริง การที่พาอาวุธติดตัวไป ถือไม่ได้ว่ามีเหตุจําเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ตัวอย่างที่ ๕ มีผู้ลืมอาวุธปืนไว้ในร้านอาหาร เจ้าของร้านจึงมอบอาวุธปืนนั้นให้แก้ผู้รับประทานอาหารในร้านนั้นคนหนึ่งเพื่อนําไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ ผู้นั้นจึงนําอาวุธปืนใส่ไว้ในช่องเก็บของหน้ารถยนต์เพื่อนําไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตํารวจที่สถานีตํารวจในคืนเดียวกันนั้น ถือว่าเป็นกรณีจําเป็นเร่งด่วนตามพฤติการณ์

ตัวอย่างที่ ๖ นาย จ. พาหญิงสาวไปพบบิดา มารดาที่บ้านนาย จ. เพื่อเจรจาในการที่จะสู่ขอเป็นสามีภรรยากัน พอเวลาจะกลับบ้านเป็นเวลาดึก นาย จ.จึงพึกอาวุธปืนติดตัวไปส่งหญิงสาวถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุจําเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เพราะไม่แน่ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น

ตัวอย่างที่ ๗ กรณีพกปืนที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตให้มี เดินทางไปซื้อขายพลอยต่างจังหวัดมีเงินสด ๒๐๐,๐๐๐ บาท และพลอยอีกมากติดตัวไปด้วย เป็นกรณีความจําเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ตัวอย่างที่ ๘ นำพานท้าย ลํากล้อง ไม้ประกบรางปืน โดยอ้างว่าจะนําไปล้างที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ห่างราว ๘๐ เมตร ไม่ใช่กรณีต้องมีอาวุธติดตัว เมื่อมีเหตุจําเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

จากตัวอย่างข้างบนนี้ผู้อ่านคงจะเห็นได้บ้างนะครับว่ากฎหมายยังคงเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์นําอาวุธปืนที่ตนมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย นําติดตัวไปเพื่อป้องกันทรัพย์สินได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายให้กระทําได้ ในทางปฏิบัตินั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้มีอํานาจจับกุมว่า จะมีเหตุผลเพียงใด ซึ่งเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ นั้น มีแนวทางในการสั่งไม่ฟ้องถ้าการพกพาอาวุธปืนมีลักษณะดังนี้ คือ.-

๑. ถ้าได้นําอาวุธปืนใส่กระเป๋าในช่องเก็บของท้ายรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด

๒. เอาอาวุธปืนใส่กระเป๋า ใส่กุญแจ แล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด

๓. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด นําอาวุธปืนติดตัวมาด้วยโดยแยกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้ที่พนักเบาะหลังรถยนต์

๔. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัดเป็นจํานวนเงินหลายหมื่นบาทนําติดตัวมาแล้วมีอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนแล้วใส่ไว้ในช่องเก็บของหน้ารถ เพื่อป้องกันตัวและพิทักษ์ทรัพย์สิน

๕. ห่ออาวุธปืนและแหนบบรรจุกระสุน (MAGAZINE) โดยแยกออกคนละห่อ เก็บไว้ในกระโปรงท้ายรถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ

แนวทางในการสั่งไม่ฟ้องถ้าการพกพาอาวุธปืน ๕ ข้อนี้ น่าสังเกตว่าเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในสภาพของการพกพาอาวุธปืนติดตัวมากกว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนสมควรแก่พฤติการณ์ ผู้เขียนมีความเห็นว่าแนวทางนี้จะมีประโยชน์ในเรื่องการใช้ดุลพินิจพิจารณาในการปฏิบัติตามหน้าที่ของตํารวจอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะรวมไปถึงการที่เจ้าหน้าที่ตํารวจบางนาย “ปรับแต่งข้อเท็จจริง” ที่เกิดขึ้น (จริงๆ) ให้เข้าหาแนวทางทั้ง ๕ ข้อ เพื่อความสะดวกในการสั่งไม่ฟ้องคดีด้วย

เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: หนู@เมืองสิงห์™ - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 20, 2006, 01:26:55 PM