เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ภาพ 1 ครับ 
- บรรทัดเหล็กเจาะรูสองรูตามภาพ  เจาะที่ตำแหน่ง 5 ซม. ใกล้ขอบบน และสุดปลายใกล้ขอบล่าง(ร้อยเชือก)  ส่วนรูที่ปลายอีกด้านหนึ่งนั้นมาจากโรงงาน
- เชือกรัดท่อ  ขอแขวนตาชั่ง  น้ำหนักเลื่อน  น้ำหนักถ่วงท่อเปล่า
รูที่ 5 ซม. ควรให้ตรงตำแหน่งขีด 5 ซม. เป๊ะๆ ครับ  ส่วนรูข้างล่างไม่ต้องเล็งแม่นนักก็ได้

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

เวลาใช้งานเป็นอย่างนี้ครับ  เลื่อนตัวเลื่อนจนไม้บรรทัดอยู่ในแนวระดับ  ในภาพนี้มีก๊าซราวๆ 9 กรัม

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

หลักการเดียวกับตาชั่ง "เจ๊กขายขวด" สมัยก่อน   :D :D :D

คำอธิบายวิธีทำเพิ่มเติม
- ที่ตำแหน่ง 5 ซม. สำหรับคล้องหูหิ้วนั้น คือ 0 กรัม   เขียนตัวเลขกำกับ 10, 20, 30, 40, 50 (กรัม) ที่ตำแหน่ง 10 ซม., 15 ซม., 20 ซม., 25 ซม., และ 30 ซม. ครับ
- น้ำหนักถ่วงท่อเปล่า   เอาท่อเปล่าห้อยที่ปลายด้านใกล้หูหิ้ว   แขวนน้ำหนักถ่วงที่ปลายด้าน 30 ซม. แต่งน้ำหนักจนไม้บรรทัดอยู่ในแนวระดับพอดี   ผมเอาแหวนอีแปะ สามสี่ชิ้นมัดด้วยลวดทองแดง  น้ำหนักขาดนิดหน่อยเอาปลอก .22 ใส่เพิ่ม
- น้ำหนักตัวเลื่อน ต้องอาศัยเทียบกับตุ้มถ่วงท่อที่ไฟน์แวคบาวแถมมาครับ

ไฟน์แวคบาวให้น้ำหนักมาสามชิ้น  บางสองชิ้น หนาหนึ่งชิ้น   ชิ้นหนานั้น 40 กรัมพอดี  ชิ้นบางเหล็ก 20 กรัม ชิ้นบางอลูมิเนียม 7.5 กรัม
เมื่อได้น้ำหนักถ่วงท่อเปล่าพอดีแล้ว   ทำตัวเลือนโดยติดน้ำหนักถ่วง 20 กรัมที่ท่อ   เมื่อตัวเลื่อนอยู่ตรงตำแหน่งที่เราเขียนไว้ว่า 20 (คือ 15 ซม.) ไม้บรรทัดต้องอยู่ในแนวระนาบพอดี    ถ้าเจาะรูตามภาพที่ให้มานี้ น้ำหนักจะประมาณ 9 กรัมครับ

เมื่อได้น้ำหนักเลื่อนที่ได้ระนาบกับถ่วง 20 กรัมแล้ว  ลองเปลี่ยนเป็นถ่วง 40 กรัม เช็คดูครับ  และลองเปลี่ยนเป็นตัวเบาสุด 7.5 กรัมดูด้วย

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

 ;) ขอบคุณครับอาจารย์  พรุ่งนี้ผมจะลองทำดูครับ
    ผมมีไฟว์แวกบาว  mod.2 อยู่กระบอกหนึ่ง  ซ้อมยิงหลังบ้านทุกอาทิตย์ครับ
  ซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง  ปืนรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ???

ภาพนี้ เอาน้ำหนัก 20 กรัม เพิ่มให้ท่อที่มีก๊าซตามภาพที่แล้ว 9 กรัม   เมื่อเลื่อนตัวเลื่อนไปที่ 30 กรัม มันจะเอียงเกินไปนิด  ต้องที่ 29 กรัมถึงจะได้ระดับพอดีครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ไฟน์แวคบาว M2 ในความเห็นของผม... สุดยอดครับ  คือชิ้นส่วนน้อยที่สุด  ทนทานดูแลง่ายที่สุด  ยิงแล้วไม่ต้องถอดท่อออกจากปืน  และการถอดใส่ท่อก็หมุนได้ด้วยมือเปล่าไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพราะไม่มีแรงก๊าซอัดครับ  ทุกอย่างอยู่ในท่อ  ไกดีที่สุดในกระบวนไก mechanical ด้วยกัน   ไม่ด้อยกว่าไกไฟฟ้าเลย

M2 ไม่มีวาวในตัวปืน  อาศัยธรรมชาติของ CO2 คุมตัวมันเองครับ ตราบใดที่มีก๊าซเหลวค้างอยู่ในท่อแม้แต่หยดเดียว แรงดันในท่อจะเป็น "แรงดันไออิ่มตัว" คงที่เสมอ (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิภายนอก)  ยิงไปจนก๊าซเหลือประมาณ 8 กรัม คือไม่มี่ก๊าซเหลวแล้ว นั่นแหละครับกลุ่มถึงจะเริ่มตก

แต่ถ้าอุณหภูมิภายนอกขึ้นๆ ลงๆ ก็แย่หน่อยนะครับ  ผมเคยใช้แข่งในสหรัฐฯ เดือนกุมภา  อากาศข้องนอกราวๆ 0 องศา  ในสนามใช้ heater แบบแก๊ส  บังเอิญอยู่ตรงช่องยิงผมพอดี   พอหนาวมันก็ติด.. พรึ่บ.. และพัดลมเป่าลงกระหม่อมผมตรงๆ   สักพักก็เหงื่อแตก มันก็ตัด  แล้วก็ค่อยๆ เย็นลงจนเกือบๆ สั่นเตาก็จะติดอีก   วันนั้นผมยิงไม่ได้เรื่องเลย... โทษอุณหภูมิครับ ไม่โทษตัวเอง  ;D

ผู้การครับ  ตาชั่งจีนแบบนี้  มีตั้งแต่ชั่งทอง ชั่งเพชร ไปจนถึงชั่งวัวทั้งตัวนะครับ  บ้านผมที่แปดริ้วใช้ชั่งเครื่องยา (นายอำเภอถึงตั้งนามสกุลให้ปู่ผมว่า "ชำนาญเวช")  ตลอดจนชั่งปลา ชั่งหมู ฯลฯ   มีทั้งที่แกนเป็นเหล็ก  เป็นท่อนไม้ขนาดแขน  หรือเป็นงากลึง ขนาดเล็กกว่าตะเกียบครับ   ผมว่าปราชญ์จีนสมัยก่อนฉลาดกว่าอาร์คีมิดีส ต้นตำนาน "คานดีดคานงัด" เสียอีก

 ???ขอถามครับ เอาไว้ชั่งอะไรครับ แล้วทำไมต้องเจาะจงเป็น สำหรับท่อCO2ครับ ???

ได้คำตอบแล้วครับ :-[

สำหรับไม้บรรทัดที่หน่วย "นิ้ว" อยู่ด้านบน  เจาะรูที่ตำแหน่ง 2 นิ้ว  และเขียน 10-20-30-40-50 ที่ตำแหน่ง 4-6-8-10-12 นิ้ว ตามลำดับครับ

เมื่อได้ไม้บรรทัดเจาะรู กับน้ำหนักเลื่อนลงตัวดีแล้ว  สามารถใช้ชั่งท่อก๊าซของปืนยี่ห้ออื่นได้โดยทำน้ำหนักถ่วงท่อเปล่าสำหรับแต่ละรุ่นครับ   ตัวเลื่อนใช้ตัวเดียวตลอด

ขอถามต่อครับ ทำไมต้องชั่งท่อ CO2ครับ

ปืนอัดลมที่ใช้ CO2 ต้องทราบว่าในท่อมีก๊าซอยู่พอจะแข่งครบแมทช์หรือไม่ (ยิง 60 นัด บวกทดสอบศูนย์  ใช้ก๊าซประมาณ 5 นัดต่อหนึ่งกรัม)  และในการเติมก๊าซต้องชั่งน้ำหนักครับ   ใช้วัดแรงดันอย่าง Air ไม่ได้ เนื่องจากแรงดันก๊าซจะเท่ากันไม่ว่ามีก๊าซ 10 กรัม หรือ 50 กรัม

ตาชั่งสปริงใช้ไม่ได้  เพราะตัวท่อหนักสองร้อยเจ็ดสิบกว่ากรัม  ต้องใช้ตาชั่งที่ชั่งได้ถึง 500 กรัม  ซึ่งจะละเอียดไม่พอบอกน้ำหนักก๊าซในระดับ 5-10 กรัมครับ

จะใช้ตาชั่ง digital ก็ได้ครับ  แต่อย่างถูกๆ มันตัวละสองพันกว่าบาทครับ  ไม้บรรทัดแบบนี้เจาะรูแล้วก็ยังใช้เป็นไม้บรรทัดได้  เหมือนได้ตาชั่งฟรีๆ ครับ

 ;Dขอบพระคุณครับที่ให้ความกระจ่าง แต่ขอถามอีกนิดเดียว ว่า
 เราควรอัด co2 สักกี่กรัมดีครับ ในการอัดแต่ละครั้งครับ
 ท่อ co2 ที่ผมใช้เป็นท่อ O2 ที่ช่างแอร์ เขาเอาไว้เชี่อมท่อทองแดง
 ผมเอามาพ่นสีดำ แล้วเอาไปให้ร้าน เขาอัด co2 ให้ที่โรงงาน
 การอัดเพื่อยิงแต่ละครั้งนั้น ผมเอาท่อของปืนไปแช่ในช่องน้ำแข็งตู้เย็น
 สักพักหนึ่ง แล้วเอามาหมุนเข้ากับท่อใหญ่ เปิดวาวล์ นับหนึ่งถึงสิบ ปิดวาวล์
 ไม่กล้าอัดนาน กลัวแตกครับ ยิงแล้วเสร็จ ถอดท่อออก ปลดปล่อยแกสทิ้งไป
 ไม่ทราบว่าที่ผมปฏิบัติอยู่ถูกต้องไหมครับ  อาจารย์ช่วยแนะนำด้วยครับ
 ขอขอบคุณอีกครั้งล่วงหน้าครับ


 

อย่าเพิ่งรำคาญนะครับ คือไม่เคยทราบ(ไม่ตั้งใจเรียน :~))ว่ามีกาสที่ความดันไม่เปลี่ยนแม้ว่ามวลจะลดลงครับ มีตัวอื่นที่มีคุณสมบัตฺคล้ายCO2อีกไม๊ครับ

"ความดันไออิ่มตัว"  (Saturated Vapor Pressure)   ต้องมีสารทั้งสองสถานะอยู่ด้วยกันครับ   อย่าง CO2 นี้ มีทั้งของเหลวและก๊าซอยู่ในท่อ แรงดันถึงจะคงที่  คือเมื่อยิงออกไปนัดหนึ่ง ก๊าซลดลง  ของเหลวก็ระเหยขึ้นมาแทนที่เหมือนเติมก๊าซครับ   จนเมื่อเหลือแต่ก๊าซล้วนๆ นั่นแหละครับ ความดันถึงจะเริ่มลดลง

อธิบายอีกด้านหนึ่ง  เมื่อเติมก๊าซเข้าในท่อโดยเพิ่มแรงดันสูงขึ้นเรื่อยๆ  จนถึงจุดหนึ่งมันจะกลายเป็นของเหลวครับ (ถ้าเราอัดได้แรงพอ)  จากนี้เติมก๊าซเข้าไปอีกมันก็จะกลายเป็นของเหลวเพิ่มขึ้นโดยแรงดันไม่เพิ่มขึ้นแล้วครับ   แรงดันไออิ่มตัวของก๊าซแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับอุณหภูมิครับ   อย่าง CO2 นี่  ที่อุณหภูมิห้องบ้านเราแรงดันประมาณ 1300 psi แต่ถ้าลดอุณหภูมิเหลือ 1-2 องศา (ซ) แรงดันจะเหลือเพียงประมาณ 300 psi ครับ  ถังเก็บ CO2 ที่โรงงานผมรักษาอุณหภูมิไม่เกิน 7 องศา ครับ

ขอบพระคุณมากครับ เหมือนกลับไปนั่งเรียนThermodynamicใหม่เลยครับ คืนให้อาจารย์หมดแล้วคร๊าบบบบ :~)

ตอบคุณ peedta (ปิดตา ?? สงสัยจะยิงลำบากนะครับ)

เราควรอัด co2 สักกี่กรัมดีครับ ในการอัดแต่ละครั้งครับ

ท่อยาว อัดได้เต็มที่ 50 กรัมครับ  เกินกว่านี้สำหรับ M2 บางกระบอกยิงไม่ค่อยออก ต้องปล่อยก๊าซทิ้งบ้างนิดหน่อย

การอัดเพื่อยิงแต่ละครั้งนั้น ผมเอาท่อของปืนไปแช่ในช่องน้ำแข็งตู้เย็น
สักพักหนึ่ง แล้วเอามาหมุนเข้ากับท่อใหญ่ เปิดวาวล์ นับหนึ่งถึงสิบ ปิดวาวล์
ไม่กล้าอัดนาน กลัวแตกครับ

อัดแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วครับ  และอัดนานก็ไม่ต้องกลัวท่อแตกนะครับ   อย่างที่อธิบายไว้แล้วว่าแรงดันในท่อจะไม่มีทางสูงกว่าแรงดันไออิ่มตัวครับ   คุณเปิดวาวคากับถังอัดไว้นานๆ เมื่อท่อเริ่มอุ่นขึ้นก๊าซจะไหลกลับลงถังครับ   ที่ก๊าซมันวิ่งเข้าในท่อเพราะตัวท่อมันเย็นกว่าถังเก็บครับ

ยิงแล้วเสร็จ ถอดท่อออก ปลดปล่อยแกสทิ้งไป
ไม่ทราบว่าที่ผมปฏิบัติอยู่ถูกต้องไหมครับ

ยิงเสร็จ  ปล่อยท่อคาไว้กับปืนได้เลยครับ (เฉพาะปืน M2 เท่านั้นนะครับ) ยกเว้นว่าจะเก็บนานจึงจะแนะนำให้ถอดท่อ และเหลือก๊าซค้างในท่อเพียง 5-8 กรัมครับ  ไม่ควรปล่อยทิ้งไปหมดเพราะฝุ่นจะเข้าในท่อได้

ข้อควรระวังอีกอย่างคืออย่าใช้วิธีแช่ท่อในถังน้ำแข็งนะครับ  ถ้าน้ำแข็งละลายและตัวท่อล้มลงมันจะดูดน้ำเข้าในท่อ  วาวเป็นสนิมครับ

ถ้ามีอุบัติเหตุ..สมมุติมีกระสุนลึกลับนัดหนึ่งวิ่งมาเจาะหลอดเก็บก๊าซปืนสั้นลม..แรงระเบิดจะรุนแรงขนาดไหน? ผมเดาว่าคงถึงชีวิตถูกหรือเปล่าครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์ผณิศวร ขอขอบคุณมากครับสำหรับตาชั่งแสวงเครื่อง สุดยอดเลยครับ  พรุ่งนี้จะเริ่มลงมือทำเลยครับ
ขอถามเพิ่มเติมครับ C-20 ยิงเสร็จแล้วต้องถอดท่อแก๊สออกเหรอครับ เพราะอะไรครับ และสกรูที่ปรับความแรงแก๊ส(ความเร็วกระสุน)อยู่ตรงไหนครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ

เรียน คุณโพธิ์ :  ท่อก๊าซ CO2 รุ่น C25 (ที่เป็นกระปุกห้อยตั้งฉากกับลำกล้อง) เคยระเบิดใส่มือเจ้าของครับ  คือใส่กระเป๋าทิ้งไว้ในรถร้อนๆ พอเปิดกระเป๋า หยิบกระปุก มันระเบิดคามือ  เย็บไปสี่สิบกว่าเข็มแต่ไม่ถึงกับพิการครับ  น่าหวาดเสียวมาก  ใครที่ใช้ C25 ผมขอแนะนำให้หาหัวจุกของ C20 มาเปลี่ยนแล้วใช้ท่อเหล็กแบบหลอดยาวดีกว่า

เรียน คุณจอบหลอย : สำหรับรุ่น C20 ยิงเสร็จควรถอดท่อครับ  ช่วยยืดอายุวาวในตัวปืน เพราะเมื่อขันท่อเข้าปืนมันจะเปิดวาวของท่อ  ก๊าซเข้ามาจ่อในห้องใต้ลำกล้องโดยมีวาวของปืนกั้นอยู่ครับ  วาวของท่อนั้นมีตุ่มกดให้เปิดค้างเมื่อขันเข้ากับตัวปืน

สำหรับ M2 เมื่อเปลี่ยนท่อก๊าซก็เท่ากับเปลี่ยนวาวด้วยเพราะใช้วาวของท่อ   เมื่อขันท่อเข้ากับปืนแล้ววาวก็ยังปิดอยู่ จนยิงจึงจะเปิดให้ก๊าซออกทีละนัด   บางคนพบว่าเมื่อเปลี่ยนท่อต้องปรับศูนย์ทั้งๆ ที่ปริมาณก๊าซในท่อเท่าๆ กัน   สำหรับผมไม่พบปัญหาอย่างนี้นะครับ  สมัยยิง M2 มีท่อรวมแล้ว 6 อันทั้งสั้นทั้งยาว

สกรูปรับความแรง อยู่ตรงง่ามมือครับ ใต้ศูนย์หลัง  ปรับให้เขย่าปืนแล้วดังก๊อกๆ  และสังเกตเสียงปืนกับเสียงกระทบเป้าอย่างที่อธิบายไว้แล้วนะครับ

 :)  ขอบคุณท่านอาจารย์มากๆๆๆๆๆครับ  :) TD

 :D :D เรียนอาจารย์ผณิศวร ครับ
  ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำครับ วันนี้ผมไปเดินหาซื้อไม้บรรทัดเหล็ก แถวตลาดคลองถม
 เดินจนเมื่อย ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เลยต้องขอติดรายการนี้ไว้ก่อน ไว้ได้ฟุตเหล็กมาเมื่อไหร่
 ผมจะรีบทำตามคำแนะนำของอาจารย์ทันทีเลยครับ
 และผมขอถือโอกาสนี้กล่าวสวัสดีปีใหม่ อาจารย์ และทีมงาน อวป.  ทุกๆท่านนะครับ
 ปล.จริงๆผมก็ยิงลำบากเหมือนกันครับ  เพราะว่าตาขวาไม่ใคร่จะดี ( สั้นเยอะ ) เวลาเล็ง
 ยิงด้วยมือขวา แต่เวลาเล็ง หลับตาขวาแล้วเล็งด้วยตาซ้ายครับ

 ;D ฟุตเหล็กซื้อตามร้านเครื่องเขียนจะง่ายกว่าครับ ;D

ถ้าใช้ท่อแทนไม้บรรทัด ขอแนะนำให้เจาะรูร้อยเชือกหัอยท่อให้ห่างจากหูหิ้วเท่ากับระยะ 0-10 กรัมครับ (สำหรับตัวอย่างไม้บรรทัดคือ 2 นิ้ว)  เมื่อเจาะระยะนี้เท่ากันพอดีแล้วตัวเลื่อนหนัก 10 กรัมพอดีเป๊ะๆ  สมัยผมอยู่ร้านขายปืนที่ US เคยทำขายชุดละ 5 เหรียญ  ใช้ไม้ท่อนกลมๆ กับลูกตะกั่วตกปลาครับ

หาน้ำหนักเปรียบเทียบไม่ได้ ใช้ลูกอัดลม เบอร์ 1 ที่ยิงอยู่นั่นแหละครับ  ลูกหัวตัดยิงเป้า H&N  500 เม็ด 270 กรัม  นับมา 50 เม็ด 27 กรัมครับ  ใส่ถุงพลาสติกเล็กๆ  แปะเทปกับท่อเปล่าใช้เทียบน้ำหนักตัวเลื่อนได้

คือเมื่อแขวนท่อเปล่า ใส่น้ำหนักถ่วงปลายคันชั่งแล้ว ยกได้ระดับพอดี ถ้าไม่ได้ระดับก็เพิ่มหรือลดน้ำหนักตัวถ่วง
จากนั้นแปะถุงลูกปืน 50 เม็ดกับท่อ เลื่อนตัวเลื่อนไปตรง 27 กรัม ก็จะได้ระดับพอดีครับ  ถ้าไม่ได้ระดับก็เพิ่มหรือลดน้ำหนักตัวเลื่อน

 ;D  ขอขอบคุณท่านอาจารย์จะไปทำทันทีครับ สวัสดีปีใหม่ครับ     :VOV:

ยอดขายดีไม๊ครับ ;D ;D