เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 04:19:57 AM



หัวข้อ: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 04:19:57 AM
 :'( จากเวบ http://www.khonbaakpae.com/xboard/index.php :'(
(http://www.khonbaakpae.com/xboard/image_upload/891Resize%20of%20Rotation%20of%20Resize%20of%20Image-91.jpg)


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 07:50:58 AM
   เสียดายครับที่ไม่ได้ดู


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดดอย ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 07:57:06 AM
เกิดไม่ทันครับ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 08:51:33 AM
จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516  เพิ่งเกิดครับ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:13:16 AM
ต่อให้จบนายใหม่ แล้วเฮลิคอปเตอร์ มาเกี่ยวอะไรด้วย ???


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:15:23 AM
จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516 เพิ่งเกิดครับ
พี่มะเอ็มเกิด 16 หรือครับ ผม 17  ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:15:58 AM
เกิดไม่ทันครับ....แต่รับทราบ..เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:26:38 AM
มีดาราคนหนึ่งไปด้วยมิใช่หรือ (ม.)

ตอนนี้แกก็ยังมีชีวิตอยู่ครับ...สมัยนั้นเป็นดาวยั่ว...ขนาดผมเป็นเด็ก...ยังชอบแกเลยครับ...เซ็กส์ดี...


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:50:30 AM
จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516 เพิ่งเกิดครับ
พี่มะเอ็มเกิด 16 หรือครับ ผม 17 ::) ::) ::)

...............แย่งเป็นเด็กเลย ::) ::) ::)  ว่าแต่เรื่อง ฮ. เป็นงัยครับลืมๆแล้วเหมือน ใช้ ฮ.กองทัพ ไปยิงสัตว์
หรือว่าอะไรอย่างนี้ใช่ไหมครับแลว้ ฮ.ตก ชาวบ้านเข้าไปช่วย เจอะวากสัตว์ เนิ้อสัตว์ เขาสัตว์ จำนวนมาก
เท่านี้แหละครับ ??? ???


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 09:59:32 AM
ต่อให้จบนายใหม่ แล้วเฮลิคอปเตอร์ มาเกี่ยวอะไรด้วย ???

 ??? มีแค่นี้ครับ ยังเสียดายอยู่ว่ายังอ่านไม่รู้เรื่องเลย ???

 ;D พยายามค้นหามาให้ครับ ได้มาแค่เนี๊ยะครับ ;D

ประวัติความเป็นมา
     เมื่อปี พ.ศ.2508 ป่าไม้เขตบ้านโป่งขอให้กรมป่าไม้ประกาศห้ามการล่าสัตว์ป่าในบริเวณป่าทุ่งใหญ่ เนื่องจากเห็นว่ามีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมและมีคนเข้าไปล่าสัตว์ป่ากันมากกองบำรุง กรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการสงวนและคุ้มครองสัตว์ในขณะนั้นจึงได้ส่ง เจ้าหน้าที่ไปสำรวจและตรวจสอบในปี พ.ศ.2510 และเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่เนื่องบริเวณพื้นที่มีขนาดใหญ่ยังมีประทานบัตรและการอนุญาตทำประโยชน์อื่น ๆ อีกหลายอย่างในป่าแห่งนี้ จึงได้มีหนังสือขอความร่วมมือจากจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดตาก ระงับใบอนุญาตใด ๆ ที่กระทบกระเทือนต่อแผนการจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการเตรียมการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2516
     ต่อมาได้ปรากฏข่าวอื้อฉาวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของทางราชการเครื่องหนึ่งเกิดอุบัติเหตุตกพังพินาศที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2516 มีผู้เสียชีวิต 6 คน และพบซากสัตว์ป่าปะปนอยู่กับซากปรักหักพังของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงไปถึงกรณีที่สื่อมวลชนและนิสิตนักศึกษากลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติได้ไปพบคณะล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่ ทำการล่าสัตว์โดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าเป็นคณะเดียวกันกับเฮลิคอปเตอร์ที่ตก ทำให้กรณีทุ่งใหญ่เป็นข่าวใหญ่และเป็นที่สนใจของคนทั่วไปอยู่เป็นเวลานาน
     คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2516 และมีมติให้ดำเนินการประกาศป่าทุ่งใหญ่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยให้ชื่อว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เคยหยุดทัพในบริเวณทุ่งใหญ่ระหว่างการยกทัพไปรบกับพม่า และได้ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนจนเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่ม 91 ตอนที่ 72 ลงวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2517 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกเมื่อพ.ศ. 2534



หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: NPD ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:04:49 AM
 ผมก็เกิดไม่ทันในยุคนั้น  ขอบคุณ พี่ Naimai ครับ  เหตุการณ์นี้ มันเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ เดือน ตุลา ปี 16 อย่างไรบ้างครับ ผมเคยอ่านว่า คุ้น ๆ ว่ามันเกี่ยวข้องกัน.......


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:08:27 AM
 ;D
(http://www.khonbaakpae.com/xboard/image_upload/43500182230_3171392.jpg)


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:24:44 AM
 ;D ;D ถ้าผมจำไม่ผิด     ข่าวแว่วว่า   ผู้ที่นำ  ฮ.กองทัพ  ไปล่าสัตว์

         เป็นลูกนายกในขณะนั้น...............


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: narongt ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:25:20 AM
ร่วมเปิดโปงกรณีล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร
       หลังจากการประท้วงประกาศคณะปฏิวัติดังกล่าวไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์อันเป็นปมเงื่อนสำคัญที่นำไปสู่การประท้วงต่อสู้ของนักศึกษาประชาชนในอีกหลายกรณีซึ่งสะสมความไม่พอใจต่อรัฐบาลจอมพลถนอมมากขึ้นเรื่อยๆจนประทุกลายเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นั่นคือการเปิดโปงกรณีที่นายทหาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมทั้งพลเรือนอีกส่วนหนึ่งรวมประมาณ 60 คน ได้นำพาหนะและอาวุธยุทโธปกรณ์ของทางราชการไปตั้งค่ายล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี จนเป็นเหตุให้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตกที่อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2516 มีผู้เสียชีวิต 6 คนและทรัพย์สินของทางราชการเสียหายจำนวนมาก  ซึ่งในกรณีนี้ กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกับชมรมอนุรักษ์และกลุ่มอนุรักษ์อีก 3 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและตีแผ่เรื่องออกมาสู๔สาธารณชน

          จากหนังสือ”บันทึกลับจากทุ่งใหญ่” ระบุว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมีพื้นที่ประมาณ 1 ล้านไร่กินอาณาเขต 2 จังหวัดคือกาญจนบุรีและจ.ตาก และใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี หากรวมพื้นที่ 2 เขตนี้เข้าด้วยกันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นกรมป่าไม้จึงได้ส่งนายเกษม รัตนไชย เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตและทีมงาน เข้าไปสำรวจเพื่อเตรียมจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธูสัตว์ป่าให้เรียบร้อยตั้งแต่เดือนมกราคม 2516  การสำรวจดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้พบการละเมิดพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ของบรรดาพรานบรรดาศักดิ์ซึ่งประกอบไปด้วยทหาร ตำรวจที่เข้าไปล่าสัตว์อย่างโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัวกฎหมาย  ต่อมาจึงได้รายงานไปยังกรมป่าไม้ ในที่สุดข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายไปยังนิสิตกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และอีก 3 มหาวิทยาลัย รวมทั้งนักข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับในเวลาต่อมา

           ต้นเดือนเมษายน 2516 บรรดาพรานบรรดาศักดิ์ ได้ไปซื้อกระสุนปืนเตรียมการล่าสัตว์ครั้งใหม่ข่าวจากร้านปืนรั่วมาเข้าหูอาจารย์เกษตรศาสตร์ที่เป็นนักเลงปืนคนหนึ่งจึงได้นำมาแจ้งผู้เกี่ยวข้องและวางแผนที่จะเปิดโปงเรื่องดังกล่าว ต่อมาคณะอาสาสมัครจากกลุ่มอนุรักษ์ฯ เกษตรศาสตร์รุ่นแรก 3 คนได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่และดักซุ่มอยู่บริเวณที่จะข้ามห้อวยเข้าสู่ทุ่งใหญ่ แต่ไร้วี่แววจึงได้ถอนตัวกลับ เพราะเกรงจะมีอันตรายเนื่องจาก 2 ใน 3 เป็นผู้หญิง  จากนั้นจึงได้ชักชวนกลุ่มอนุรักษ์ฯอีก 3 มหาวิทยาลัย คือนายสมพงษ์ จิรบันดาลสุข และนายภราดร จากจุฬาฯ  นายสวัสด์ มิตรานนท์ จากธรรมศาสตร์  นศพ.ทองประกอบ ศิริวาณิชย์ จากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหิดล และอรรถ นักเรียนจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย บุกเข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยสมพงษ์และภราดร เดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ส่วนสวัสดิ์  ทองประกอบ และอรรถเดินทางไปในวันที่ 26 เมษายน

         จากหนังสือ”บันทึกลับจากทุ่งใหญ่” ระบุว่า ชุดสมพงษ์กับภราดรได้พบกับขบวนรถยีเอ็มซี.ของทหาร 2 คัน รถจิ๊ปทหาร 3 คันของป.พัน 9 ที่มีทหารชั้นผู้น้อยเป็นพลขับ กำลังข้ามแม่น้ำแควใหญ่โดยแพขนานยนต์เพื่อเตรียมไปสร้างแคมป์ในทุ่งใหญ่ ส่วน 3 คนในทีมหลังไปที่คลิตี้และได้ข่าวจากชาวบ้านวง่าคณะดังกล่าวจะมาล่าสัตว์อีกหลังจากล่าไปหลายครั้งแล้ว  ต่อมาวันที่ 27 เมษายน จึงได้ออกติดตามคณะพรานบรรดาศักดิ์จนพบว่าตั้งแคมป์อยู่ริมห้วยเซซ่าโหว่ และยังเห็นเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ 1 ลำด้วยจึงเข้าไปสอบถาม แต่กลับถูกซักถามกลับว่าเป็นนักศึกษากลุ่มอนุรักษ์ฯใช่หรือไม่และสอบถามนายเกษม รัตนไชย ที่ร่วมเดินทางไปด้วยว่าเป็นผู้รายงานการเข้ามาครั้งก่อนของพวกเขาใช่หรือไม่

       เหล่าพรานบรรดาศักดิ์ต่างชี้แจงว่ารู้ว่าการล่าสัตว์ในเขตนี้เป็นการละเมิดกฎหมาย แต่ทำไปเพราะต้องการผ่อนคลายอารมณ์ และกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว เพราะสัตว์มีเป็นจำนวนมาก ล่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด  ซึ่งหลังจากถูกขอร้องแกมบังคับให้ร่วมรับประทานอาหารเย็นที่มีแต่เนื้อสัตว์ที่ถูกล่าแล้ว คืนนั้นยังพบว่ามีการจุดพลุและกระสุนส่องวิถีฉลองวันเกิดให้นายตำรวจระดับรองผู้กำกับคนหนึ่งด้วย ซึ่งในการพบกันดังกล่าว นักศึกษากลุ่มนี้ได้แอบถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย ขณะเดียวกันก็มีนักข่าวที่ได้ทราบข่าวกลุ่มหนึ่งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกกลุ่มหนึ่งที่เตรียมการจะเข้าไปจับกุมเดินทางสมสมทบ แต่เมื่อเผชิญกับกำลังคนและอาวุธครบมือ ก็ทำได้แต่เพียงเข้าไปสืบข้อมูลและแอบถ่ายรูปไว้เท่านั้น

       วันที่ 29 เมษายน นายสวัสดิ์และนศพ.ทองประกอบต้องเดินทางกลับก่อนเนื่องจากนศพ.ทองประกอบต้องกลับมาประชุมที่มหิดล ระหว่างเดินทางกลับก็พบซากสัตว์ที่ถูกยิงตายจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มที่ยังอยู่กลับไปยังจุดที่ตั้งแคมป์ของพรานบรรดาศักดิ์อีกรั้ง แต่ปรากฎว่าถูกรื้อหมดแล้ว คงเหลือแต่ร่องรอยซากสัตว์ เช่นกีบกระทิง หนังกวาง  หนังชะมดถูกทิ้งไว้  วันรุ่งขึ้น 30 เมษายน เมื่อทั้งคระพากันเดินทางกลับ ได้พบอาจารย์และนิสิตเกษตรศาสตร์ที่ตั้งใจจะร่วมเดินทางมาตั้งแต่ทีแรกและได้ข่าวจากตำรวจว่าเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา มีเฮลิคอปเตอร์ตกที่นครปฐม มีคณะทหาร ตำรวจที่กลับจากาญจนบุรีบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย 6 คน พร้อมทั้งพบซากสัตว์จำนวนมาก

          กรณีที่เกิดขึ้น หนังสือพิมพ์ที่เข้าไปร่วมสืบค้นได้เปิดโปงขบวนการดังกล่าว ขณะเดียวกันกลุ่มอนุรักษ์ 4 สถาบัน พร้อมทั้งศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยก็ได้ออกแถลงการณ์เปิดโปง โดยมีหลักฐานทั้งบุคคลและภาพถ่ายยืนยันหนักแน่น  ทำให้ประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก   แต่รัฐบาลจอมพลถนอม จอมพลประภาส จารุเสถียร และพ.อ.ณรงค์ กิตติขจรกลับแก้ต่างให้คระพรานบรรดาศักดิ์ว่าทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ไปราชการลับบริเวณตะเข็บชายแดนกาญจนบุรี ในปัญหาความปลอดภัยระหว่างที่นายพลเนวินแห่งพม่าเดินทางมาเยือนไทย และชี้แจงว่ารูปถ่ายที่ทหาร ตำรวจเหล่านี้ยืนล้อมซากสัตว์ก็เป็นภาพเก่าและเป็นการยืนถ่ายโชว์โดยที่ไม่รู้ว่าใครยิง เป็นต้น

        จากกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง รัฐบาลจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน 9 คน โดย 6 ใน 9 เป็นนายทหารและตำรวจมีนายกมล วรรณประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ซึ่งในที่สุดผลปรากฎว่า กรรมการเชื่อว่าการนำเฮลิคอปเตอร์ไปใช้ครั้งนี้เป็นไปตรามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบกเพื่อปฏิบัติราชการลับ โดยถือเอาป่าทุ่งใหญ่เป้นฐานปฏิบัติการแต่ภารกิจลับไม่ได้อยู่ที่ทุ่งใหญ่หากอยู่ห่างออกไปทางชายแดนที่ติดต่อกับพม่า และเชื่อว่าได้มีบุคคลในคณะที่พักอยู่ในแคมป์ทุ่งใหญ่กระทำการล่าสัตว์และมีซากสัตว์ป่าอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง

      ดังนั้นศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยจึงร่วมกับชมรมอนุรักษ์ 4 สถาบันดังกล่าวพิมพ์หนังสือ”บันทึกลับจากทุ่งใหญ่”ออกเผยแพร่ ปรากฎว่ามีผู้สนใจแย่งซื้อจน 5,000 เล่มหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ผลสะเทือนจากเรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ประยูร จรรยาวงศ์หวนกลับมาวาดรูปการ์ตูนการเมืองอีกครั้ง หลังจากหยุดไปเกือบ 2 ปี  และจากข้อความในหนังสือเล่มนี้ที่เขียนว่า” ด้วยสถานการณ์ในทุ่งใหญ่ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ จึงเสนอต่ออายุการทำงานของกระทิงจ่าฝูงเป็นเวลาอีก 1 ปีกระทิง”  จากสภารักษาความปลอดภัยแห่งชาติกระทิงซึ่งเป็นการล้อเลียนจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดเกษียณอายุเมื่อต้นปี 2516 แต่สภากลาโหมมีมติให้ต่ออายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปอีก 1 ปี โดยอ้างว่าสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ

               สำหรับบทจบของกรณีทุ่งใหญ่นี้  คณะกรรมการได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังศาลกาญจนบุรี  ซึ่งกระบวนการทางศาลใช้เวลาจนถึง 1 กันยายน 2517 ก็มีคำตัดสินให้ปล่อยตัว 9 จำเลย คงจำคุก 6 เดือน มีแต่พรานแกละ หมื่นจำปา ที่ต้องตกเป็นแพะรับบาปแต่ผู้เดียว  ขณะเดียวกันนายกมล วรรณประภา ก็ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลสมัยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อีกด้วย

ลองเข้าไปอ่านดูครับ

http://www2.se-ed.net/poommahidol/information_1_6.html

http://www.thungyai.org/thai/index.htm


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:31:49 AM
กรณีล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร

เหตุการณ์อันเป็นปมเงื่อนสำคัญที่นำไปสู่การประท้วงต่อสู้ของนักศึกษาประชาชน
ซึ่งสะสมความไม่พอใจต่อรัฐบาลจอมพลถนอมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนประทุกลายเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
นั่นคือ  การเปิดโปงกรณีที่นายทหาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมทั้งพลเรือนอีกส่วนหนึ่งรวมประมาณ 60 คน
ได้นำพาหนะและอาวุธยุทโธปกรณ์ของทางราชการไปตั้งค่ายล่าสัตว์ป่า
ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี

จนเป็นเหตุให้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตกที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2516 มีผู้เสียชีวิต 6 คนและทรัพย์สินของทางราชการเสียหายจำนวนมาก 

ซึ่งในกรณีนี้ กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกับชมรมอนุรักษ์และกลุ่มอนุรักษ์อีก 3 มหาวิทยาลัย
คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประสานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เ
ข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและตีแผ่เรื่องออกมาสู่สาธารณชน

จากหนังสือ "บันทึกลับจากทุ่งใหญ่"  ระบุว่า
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมีพื้นที่ประมาณ 1 ล้านไร่
กินอาณาเขต 2 จังหวัดคือกาญจนบุรีและจ.ตาก และใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี
หากรวมพื้นที่ 2 เขตนี้เข้าด้วยกันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดังนั้นกรมป่าไม้จึงได้ส่งนายเกษม รัตนไชย เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตและทีมงาน
เข้าไปสำรวจเพื่อเตรียมจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธูสัตว์ป่าให้เรียบร้อย
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2516  การสำรวจดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้พบการละเมิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503
ของบรรดาพรานบรรดาศักดิ์ซึ่งประกอบไปด้วยทหาร ตำรวจที่เข้าไปล่าสัตว์อย่างโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัวกฎหมาย 
ต่อมาจึงได้รายงานไปยังกรมป่าไม้
ในที่สุดข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายไปยังนิสิตกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และอีก 3 มหาวิทยาลัย
รวมทั้งนักข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับในเวลาต่อมา

ต้นเดือนเมษายน 2516 บรรดาพรานบรรดาศักดิ์ ได้ไปซื้อกระสุนปืน
เตรียมการล่าสัตว์ครั้งใหม่ข่าวจากร้านปืนรั่วมาเข้าหูอาจารย์เกษตรศาสตร์
ที่เป็นนักเลงปืนคนหนึ่ง  จึงได้นำมาแจ้งผู้เกี่ยวข้องและวางแผนที่จะเปิดโปงเรื่องดังกล่าว
ต่อมาคณะอาสาสมัครจากกลุ่มอนุรักษ์ฯ เกษตรศาสตร์รุ่นแรก 3 คนได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่และดักซุ่มอยู่บริเวณที่จะข้ามห้วยเข้าสู่ทุ่งใหญ่
แต่ไร้วี่แววจึงได้ถอนตัวกลับ
เพราะเกรงจะมีอันตรายเนื่องจาก 2 ใน 3 เป็นผู้หญิง 
จากนั้นจึงได้ชักชวนกลุ่มอนุรักษ์ฯ อีก 3 มหาวิทยาลัย
คือนายสมพงษ์ จิรบันดาลสุข และนายภราดร จากจุฬาฯ  นายสวัสด์ มิตรานนท์ จากธรรมศาสตร์ 
นศพ.ทองประกอบ ศิริวาณิชย์ จากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหิดล และอรรถ นักเรียนจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย บุกเข้าร่วมสังเกตการณ์

โดยสมพงษ์และภราดร เดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ส่วนสวัสดิ์  ทองประกอบ และอรรถเดินทางไปในวันที่ 26 เมษายน

จากหนังสือ "บันทึกลับจากทุ่งใหญ่" ระบุว่า
ชุดสมพงษ์กับภราดรได้พบกับขบวนรถ ยีเอ็มซี.ของทหาร 2 คัน
รถจิ๊ปทหาร 3 คันของ ป.พัน 9
ที่มีทหารชั้นผู้น้อยเป็นพลขับ กำลังข้ามแม่น้ำแควใหญ่โดยแพขนานยนต์
เพื่อเตรียมไปสร้างแคมป์ในทุ่งใหญ่
ส่วน 3 คนในทีมหลังไปที่คลิตี้และได้ข่าวจากชาวบ้านว่า
คณะดังกล่าวจะมาล่าสัตว์อีกหลังจากล่าไปหลายครั้งแล้ว 

ต่อมาวันที่ 27 เมษายน จึงได้ออกติดตามคณะพรานบรรดาศักดิ์จนพบว่า
ตั้งแคมป์อยู่ริมห้วยเซซ่าโหว่ และยังเห็นเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ 1 ลำด้วย
จึงเข้าไปสอบถาม แต่กลับถูกซักถามกลับว่าเป็นนักศึกษากลุ่มอนุรักษ์ฯ ใช่หรือไม่
และสอบถามนายเกษม รัตนไชย ที่ร่วมเดินทางไปด้วยว่าเป็นผู้รายงานการเข้ามาครั้งก่อนของพวกเขาใช่หรือไม่

เหล่าพรานบรรดาศักดิ์ต่างชี้แจงว่า
รู้ว่าการล่าสัตว์ในเขตนี้เป็นการละเมิดกฎหมาย
แต่ทำไปเพราะต้องการผ่อนคลายอารมณ์ และกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว
เพราะสัตว์มีเป็นจำนวนมาก ล่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด 
ซึ่งหลังจากถูกขอร้องแกมบังคับให้ร่วมรับประทานอาหารเย็นที่มีแต่เนื้อสัตว์ที่ถูกล่าแล้ว
คืนนั้นยังพบว่ามีการจุดพลุและกระสุนส่องวิถีฉลองวันเกิดให้นายตำรวจระดับรองผู้กำกับคนหนึ่งด้วย
ซึ่งในการพบกันดังกล่าว นักศึกษากลุ่มนี้ได้แอบถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย
ขณะเดียวกันก็มีนักข่าวที่ได้ทราบข่าวกลุ่มหนึ่งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกกลุ่มหนึ่งที่เตรียมการจะเข้าไปจับกุมเดินทางสมทบ
แต่เมื่อเผชิญกับกำลังคนและอาวุธครบมือ ก็ทำได้แต่เพียงเข้าไปสืบข้อมูลและแอบถ่ายรูปไว้เท่านั้น

วันที่ 29 เมษายน นายสวัสดิ์และ นศพ.ทองประกอบ
ต้องเดินทางกลับก่อนเนื่องจาก นศพ.ทองประกอบต้องกลับมาประชุมที่มหิดล
ระหว่างเดินทางกลับก็พบซากสัตว์ที่ถูกยิงตายจำนวนมาก
ขณะที่กลุ่มที่ยังอยู่กลับไปยังจุดที่ตั้งแคมป์ของพรานบรรดาศักดิ์อีกครั้ง
แต่ปรากฎว่าถูกรื้อหมดแล้ว คงเหลือแต่ร่องรอยซากสัตว์
เช่น กีบกระทิง หนังกวาง  หนังชะมดถูกทิ้งไว้ 


วันรุ่งขึ้น 30 เมษายน เมื่อทั้งคณะพากันเดินทางกลับ
ได้พบอาจารย์และนิสิตเกษตรศาสตร์ที่ตั้งใจจะร่วมเดินทางมาตั้งแต่ทีแรก
และได้ข่าวจากตำรวจว่าเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา
มีเฮลิคอปเตอร์ตกที่นครปฐม
มีคณะทหาร ตำรวจ ที่กลับจากกาญจนบุรีบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย 6 คน
พร้อมทั้งพบซากสัตว์จำนวนมาก

กรณีที่เกิดขึ้น หนังสือพิมพ์ที่เข้าไปร่วมสืบค้นได้เปิดโปงขบวนการดังกล่าว
ขณะเดียวกันกลุ่มอนุรักษ์ 4 สถาบัน พร้อมทั้งศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยก็ได้ออกแถลงการณ์เปิดโปง
โดยมีหลักฐานทั้งบุคคลและภาพถ่ายยืนยันหนักแน่น 
ทำให้ประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก   
แต่รัฐบาลจอมพลถนอม จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร
กลับแก้ต่างให้คระพรานบรรดาศักดิ์ว่า
ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ไปราชการลับบริเวณตะเข็บชายแดนกาญจนบุรี
ในปัญหาความปลอดภัยระหว่างที่นายพลเนวินแห่งพม่าเดินทางมาเยือนไทย
และชี้แจงว่ารูปถ่ายที่ทหาร ตำรวจเหล่านี้ยืนล้อมซากสัตว์ก็เป็นภาพเก่าและเป็นการยืนถ่ายโชว์โดยที่ไม่รู้ว่าใครยิง เป็นต้น

จากกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
รัฐบาลจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน 9 คน โดย 6 ใน 9 เป็นนายทหารและตำรวจ
มีนายกมล วรรณประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน
ซึ่งในที่สุดผลปรากฎว่า กรรมการเชื่อว่าการนำเฮลิคอปเตอร์ไปใช้ครั้งนี้
เป็นไปตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบกเพื่อปฏิบัติราชการลับ
โดยถือเอาป่าทุ่งใหญ่เป็นฐานปฏิบัติการ แต่ภารกิจลับ ไม่ได้อยู่ที่ทุ่งใหญ่
หากอยู่ห่างออกไปทางชายแดนที่ติดต่อกับพม่า
และเชื่อว่าได้มีบุคคลในคณะที่พักอยู่ในแคมป์ทุ่งใหญ่กระทำการล่าสัตว์และมีซากสัตว์ป่าอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง


ดังนั้นศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยจึงร่วมกับชมรมอนุรักษ์ 4 สถาบันดังกล่าวพิมพ์หนังสือ "บันทึกลับจากทุ่งใหญ่" ออกเผยแพร่
ปรากฎว่ามีผู้สนใจแย่งซื้อจน 5,000 เล่มหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ผลสะเทือนจากเรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ ประยูร จรรยาวงศ์ หวนกลับมาวาดรูปการ์ตูนการเมืองอีกครั้ง
หลังจากหยุดไปเกือบ 2 ปี 
และจากข้อความในหนังสือเล่มนี้ที่เขียนว่า "ด้วยสถานการณ์ในทุ่งใหญ่ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ จึงเสนอต่ออายุการทำงานของกระทิงจ่าฝูงเป็นเวลาอีก 1 ปีกระทิง” 
จากสภารักษาความปลอดภัยแห่งชาติกระทิง ซึ่งเป็นการล้อเลียนจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดเกษียณอายุเมื่อต้นปี 2516

แต่สภากลาโหมมีมติให้ต่ออายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปอีก 1 ปี
โดยอ้างว่าสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ


สำหรับบทจบของกรณีทุ่งใหญ่นี้ 
คณะกรรมการได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังศาลกาญจนบุรี 
ซึ่งกระบวนการทางศาลใช้เวลาจนถึง 1 กันยายน 2517
ก็มีคำตัดสินให้ปล่อยตัว 9 จำเลย คงจำคุก 6 เดือน
มีแต่พรานแกละ หมื่นจำปา ที่ต้องตกเป็นแพะรับบาปแต่ผู้เดียว 
ขณะเดียวกันนายกมล วรรณประภา ก็ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลสมัยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อีกด้วย

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:34:46 AM
http://www.geocities.com/tungyai_2516/

บันทึกลับจากทุ่งใหญ่


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: NPD ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 10:41:27 AM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 12:18:35 PM
แล้วคำว่า  "บุญชู  เซซาโว่"มีที่มายังไงครับ     เพราะแกก็ทำงานแบ็งค์เห็นชื่ออยู่บ่อยๆ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 12:44:18 PM
เคยสนใจติดตามข่าวสมัยนั้นอยู่ ได้มาทบทวนความจำอีกทีก็ดี ใครทำกรรมไว้ก็รับได้รับไปอย่างสาสมแล้ว


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 04:08:59 PM
ผมยังไม่เกิดเลยอ่ะ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: abandej_รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 04:19:36 PM
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล ก่อนผมเกิดตั้ง 3 ปี ....... :OO :OO :OO


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 04:24:54 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ...สำหรับข้อมูล

จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516 เพิ่งเกิดครับ
พี่มะเอ็มเกิด 16 หรือครับ ผม 17 ::) ::) ::)

 ;Dหวัดดีครับพี่ๆทั้งสอง...ผมเกิดปี 19 ...ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: deang ที่ กรกฎาคม 14, 2006, 06:04:40 PM
Ummm ..   ดาวยั่ว ... ขอเติม หน่อย

 คุณ ป้า เมตตา ไม่ ได้ เป็น (เข้าขั้น) ดาว ยั่ว นะครับ .. ส่วนใหญ่ เป็น แค่  บท สาว แก่น ๆ  กะเปิ้บ กะป้าป

ดาว ยั่ว ยุคนั้น ... แค่   "อื๋ม" ...  ยัง ไม่ พอ ... ต้อง บ้ะ ระ เฮ่อม .... ภูเขา น้ำแข็ง อารัย  ประมาณ นั้น

อย่าง ....  คุณ ยาย แก่นใจ มีนะกนิษฐ์ ... คุณยาย ชฎาพร วัชรปราณี... คุณย่า ปรียา รุ่งเรือง .. ถึงจาเข้า ข่าย ... อ่า คับ


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: TOTO*รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 15, 2006, 07:42:59 PM
นศพ.ทองประกอบ ที่ร่วมในเหตุการณ์  นั้น เป็น หมอประจำตัว ของหลวงพ่อคูณ เป็นนักเรียนดีเด่น ของ รร.ราชสีมาวิทยาลัย
แต่ปัจจุบัน พี่หมอ ป่วย จึงไม่ได้ เป็น หมอ ของหลวงพ่อ.


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ กรกฎาคม 15, 2006, 07:48:42 PM
จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516 เพิ่งเกิดครับ
พี่มะเอ็มเกิด 16 หรือครับ ผม 17 ::) ::) ::)


อ่อนจริงๆ..เลยนะค่ะ..2 ท่านเนี่ย!   ;D


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: มือปืน อีโบ๊ะ ที่ กรกฎาคม 15, 2006, 09:22:17 PM
 "ทรราช" 3 คน ตอนนี้ก็รับกรรมกันแล้ว   "โสน้าน่าแม่งมัง" >:( >:(


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: เทพ กังฟูแพนด้า รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 16, 2006, 08:58:35 AM
จากหนังสือ เดือนเมษา ปี 2516 เพิ่งเกิดครับ
พี่มะเอ็มเกิด 16 หรือครับ ผม 17 ::) ::) ::)


อ่อนจริงๆ..เลยนะค่ะ..2 ท่านเนี่ย!   ;D
:OO :OO :OO งั้นแสดงว่าคุณดาว..... ผมแซวเล่นน่า :<><> :<><>


หัวข้อ: cctzlbbd tyikidjb beats by dre ywswtevh gojmdroqd
เริ่มหัวข้อโดย: tatsopeno ที่ ตุลาคม 10, 2012, 05:20:49 PM
bqeggqrc znulaawd sac louis vuitton pas cher (http://sacxvuittonndesoldes.com/) fqbugcwr sac louis vuitton (http://sacxvuittonndesoldes.com/) bsahiuha rkodmpzr http://sacxvuittonndesoldes.com/


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ ตุลาคม 10, 2012, 05:39:38 PM
อยากรู้ว่าใครขุดกระทู้กะจะบวกแต้มให้สักหน่อย...พอมาเจอ...อยากเปลี่ยนเป็นเตะสักทีดีไหม๊...


หัวข้อ: Re: ย้อนรอย "ทุ่งใหญ่นเรศวร"
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ตุลาคม 10, 2012, 06:58:37 PM


แล้วคำว่า  "บุญชู  เซซาโว่"มีที่มายังไงครับ
     
เพราะแกก็ทำงานแบ็งค์เห็นชื่ออยู่บ่อยๆ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ lek  อ่ะ  ฮา

ยายบอกเสี่ย  "โทนี่"  เขาแล้ว  ให้ ยกเลิก โอดี ทั้งหมด อ่ะ  ฮา

โทษฐาน  มั่ว  บอกว่า  ป๋าชู นามสกุล เซซาโว่  ฮา

55555   ป๋าบุญชู  เขามี "นิกเนม"  ชู  อากาเว่   อ่ะ  ฮา
คำว่า  "อากาเว่"  เป็นชื่อเรียก  พันธุ์กล้วยไม้  ที่แกเล่น อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::