เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 ก.ค. พ.ต.ท.พิศาล ลิ้มมณี พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุตำรวจถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บบริเวณหน้าสถานีอนามัยตำบลโสธร ติดกับวัดชมโพคยาราม ถนนสายฉะเชิงเทรา-บางปะกง หมู่ 1 ต.โสธร จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.บวร นันทะยาวงษ์ ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล พ.ต.อ.สมบัติ บัวเรือง รอง ผบก. และ พ.ต.อ.จำรัส วุฒิวรพันธ์ ผกก. นำกำลังรุดไปตรวจสอบพบปืนยาวอัดลมตกอยู่ข้างสถานีอนามัย 1 กระบอก และรองเท้าแตะ 1 ข้าง ส่วนหน้าสถานีอนามัยพบกองเลือดและปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 2 ปลอก และรองเท้าแตะอีก 1 คู่ ส่วนตำรวจที่บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.เมืองฉะเชิงเทราไปแล้ว ทราบชื่อ ส.ต.ท.พัน เทียนทอง ผบ.หมู่งานสืบสวน ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม. ที่ท้ายทอย 1 นัด เบื้องต้นแพทย์พบกระสุนทำลายก้านสมอง อาการสาหัส

สอบสวน ส.ต.ท.บันลือศักดิ์ บำรุงนาญ ผบ.หมู่งานสืบสวน ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ให้การว่า ตนกับ ส.ต.ท.พัน อยู่ในชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดของ ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนเกิดเหตุได้รับมอบหมายให้ติดต่อล่อซื้ออาวุธจากคนร้าย จึงร่วมกับ ส.ต.ท.พัน ปลอมเป็นลูกค้าตกลงนัดส่งของกันบริเวณวัดดังกล่าว พอถึงเวลานัดหมาย หนึ่งในคนร้าย ได้มารออยู่ที่ข้างเจดีย์ แล้วบอกให้ไปหาเพื่อนอีก 2 คน ที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าสถานีอนามัย ห่างจากจุดแรกราว 500 เมตร เมื่อไปถึงคนร้ายได้นำปืน 11 มม. ไม่มีทะเบียนมาขายให้ราคากระบอกละ 12,000 บาท ส่วนอีกคนถือปืนยาวอัดลมคุมเชิงอยู่ หลังตกลงรับปืนเรียบร้อยแล้ว ส.ต.ท. พันจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ปรากฏว่าคนร้ายที่ถือปืนยาวอัดลมตกใจรีบทิ้งปืนวิ่งหนี ส่วนคนที่มอบปืนของกลางให้ได้ชักปืนที่เหน็บเอวด้านหลังออกมาจ่อยิงใส่ ส.ต.ท.พัน 1 นัด แล้วหันมากระหน่ำใส่ตนอีก 8 นัด แต่กระสุนพลาดเป้าจึงยิงตอบโต้ไป 4 นัด ถูกแขนคนร้าย แต่ยังอาศัยความมืดวิ่งหนีไปได้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบชายต้องสงสัย 2 คน ที่คาดว่าเป็นคนร้าย พยายามจะเข้าไปขโมยรถ จยย.ที่จอดอยู่ภายในบ้านริมถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าของเห็นและร้องโวยวาย ทำให้คนร้ายรีบเผ่นหนีแล้ววิ่งหายเข้าไปในหมู่บ้านสุนันทา เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังกันปิดล้อมตลอดทั้งคืน แต่ไม่พบร่องรอย คาดว่าอาจมีชาวบ้านรู้จักช่วยเหลือให้ที่หลบซ่อน เนื่องจากทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นคนละแวกดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล รอง ผบก.ภ.จ. ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายทั้ง 3 คนแล้วเป็นพวกแก๊งค้ายาบ้าและอาวุธ ประกอบด้วยนายอาณัติ ทองกระจ่าง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 4 ต.โสธร อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นคนที่ใช้ปืนยิง ส.ต.ท.พัน นายเอนก พึ่งจินดา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/11 หมู่ 1 ต.โสธร และนายสุเทพ ธูปหอม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/15 ต.โสธร ล่าสุด ได้ขออนุมัติหมายจับคนร้ายทั้ง 3 คนแล้วในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ขัดขืนการจับกุม ค้าอาวุธ และค้ายาเสพติด


ตามLink............http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=12939
 

  งานนี้จับได้ละก็ตายหยังเขียดแน่ๆ เจ้าคนร้าย

จะมีพวกสิทธิมนุษยชนออกมาเรียกร้องอะไรให้บ้างรึเปล่า?
ตำรวจดียังมีอยู่ในสังคมครับ ขอให้หายไวๆ ครับ

ทำไมใช้ปืนยาวอัดลมคุ้มกันนะ แปลกจริงๆ คนเขียนข่าวลงผิดหรือเปล่า หรือว่า........ของกลางเปี๊ยนไป๋

นั่นสิ แปลก จริง ๆ ครับพี่

ใันแปลกดีนะครับ
ชุดล่อซื้อจับกุม ไมมีแค่ 2 นาย
ซื้อปุ๊ปจับปั๊ป  อันตรายจริงๆ

ขอให้หายไว ๆ ครับ..

ขอให้ ตร.ปลอดภัย จับคนร้ายให้ได้ครับ

 ;Dโดนข้อหา ยาเสพติดอีก ??? :Pไม่รอดเเน่งานนี้ :-X :~)

..."กระสุนเข้าท้ายทอย  ทำลายก้านสมอง" น่าเป็นห่วงครับ  ::)

อันตรายครับ แสดงตัวจับทันที

ตอนโปรยหัวข้อกระทู้....พยายามคิดว่าตัวเองทํางานนสพ.อยู่  ;)

น่ากลัวจัง   ปืนมีทะเบียนก็ขอยากๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ

น่าคิดตรงทีถือปืนยาวอัดลมยืนคุมเชิงอยู่นี่ซิครับ

ทำงานนอกพื้นที่ตอนกลางคืนเสี่ยงมาก    ตำรวจพึ่งจะมียศสิบโทยังหนุ่มๆอยู่เลย
เจ้านายปล่อยให้ทำงานแค่สองคนได้ไง    น่าจะมีหัวหน้าช่วยวางแผนอย่างรอบคอบ
บทเรียนราคาแพงแบบนี้มีให้ศึกษาบ่อย     คนร้ายย่อมทำได้ทุกอย่างที่เราคาดไม่ถึง

นั่นนะสิ ผมว่าขออนุมัติเจ้านายหรือเปล่า

ไม่คุ้มเลยครับ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียด้วยครับ

...มันแปลกตรงที่คนขายปืนใช้ปืนอัดลมคอยคุ้มกัน..นั่นแหละครับ...

...ขอให้ท่านหายไวๆ..ด้วยครับ...

คราวหลังคงจะต้องรอบคอบกว่านี้หน่อยนะครับ เป็นห่วงตำรวจดีๆ

หลังจากทิ้งปืนยาวแล้ววิ่งหนี...เจ้าหน้าที่คงจะพึ่งรู้ภายหลังว่าใช้ปืนอัดลมมาขู่....

ทำไมถึงไปแค่ 2 คนละครับ เสี่ยงขนาดนั้น.............

 :)..เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกยิง ครับ..
     แต่ อ่านข่าวแล้ว .. แปลก.  มันขัดเหตุผลอย่างไรไม่รู้ ..   :OO

 

ถ้าตำรวจคิดตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่จริงๆในการตรวจจับคนร้าย ถึงแม้จะไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบซึ่งเป็นการผิดระเบียบ ก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่น่ายกย่องครับ ขออย่างเดียวอย่าให้เป็นกรณีที่ตำรวจหากินร่วมกับโจรแล้วหารผลประโยชน์ไม่ลงตัวละกันครับ
  อย่างไรก็ตามของให้ตำรวจหายเร็วๆครับ และจับคนร้ายให้ได้เร็วๆเช่นกันครับ

ตอนหนุ่มๆ  เคยนั่งแท็กซี่ คุยกับ กิ๊กที่เบาะหลัง เกี่ยวกับเรื่องปืน คนขับได้ยินราคาหันมาแจม บอก แหม..แพงจังเลยครับ ผมมีแหล่ง ปืนที่ศุลกากรยึดได้ แถวคลองเตย (ยี่ห้อยอดนิยม  ทำด้วยพลาสติก ที่ไม่มีเซฟ นั่นแหละ) ๗-๘พันเอง  ผ่านมา๓-๔ปีแล้ว เฮ้อ!!เสียดายจัง ตอนนั้น  น่าจะ.........................