เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

มาเลย์ปฏิเสธข้อเรียกร้องหยุดยิง ปลิดชีพสมุนสุลต่านซูลูเพิ่ม 52 ศพ

 เอเอฟพี - ทางการมาเลเซียแถลงในวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) ว่า การปะทะกันในพื้นที่รัฐซาบาห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว ระหว่างพวกถืออาวุธชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นผู้บุกรุก กับกองกำลังทหารตำรวจแดนเสือเหลืองซึ่งพยายามกวาดล้างขับไล่คนเหล่านี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 60 คนแล้ว พร้อมกันนั้นกัวลาลัมเปอร์ก็ปฏิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของผู้อ้างตนเป็นสุลต่านแห่งซูลู ซึ่งเป็นผู้นำของผู้บุกรุกจากแดนตากาล็อก ขณะที่เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ บัน คีมูน ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี
      
       ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย อิสมาอิล โอมาร์ แถลงว่า มีพวกลูกน้องจำนวน 32 คนของ จามารุล กิราม ที่ 3 ซึ่งอ้างตนเป็นทายาทผู้ครองรัฐสุลต่านแห่งซูลู ถูกสังหารในระหว่างการปะทะสู้รบกับกองกำลังความมั่นคงของแดนเสือเหลืองรวม 2 ครั้งนับตั้งแต่วันพุธ (6) เป็นต้นมา ในพื้นที่ใกล้ๆ บริเวณซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอยู่เป็นเวลานาน 3 สัปดาห์
      
       จากตัวเลขล่าสุดนี้ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 60 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นพวกผู้บุกรุก 52 คน ขณะที่ตำรวจมาเลเซียถูกสังหารไป 8 คนจากการปะทะกัน 2 ครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
      
       เวลานี้กำลังทหารและตำรวจมาเลเซียยังคงกำลังไล่ล่ากวาดล้างพวกผู้ติดอาวุธอิสลามิสต์เหล่านี้อยู่ และ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของแดนเสือเหลือง ซึ่งเดินทางไปยังรัฐซาบาห์ ได้แถลงปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกิราม ผู้อ้างตนเป็นสุลต่านซูลู
      
       ก่อนหน้านี้ในคืนวันพุธ บัน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ยุติความรุนแรงและหันมาเจรจากันเพื่อให้ได้ซึ่งหนทางแก้ปัญหาอย่างสันติ


จากนั้นโฆษกของกิรามก็แถลงในกรุงมะนิลาว่า ทางสุลต่านแห่งซูลีผู้นี้ขอสนองตอบเสียงเรียกร้องของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ด้วยการประกาศหยุดยิงแต่ฝ่ายเดียวตั้งแต่ตอนเที่ยงวันพฤหัสบดี (7) เป็นต้นไป
      
       คิราม นั้นอ้างว่าเขาเป็นทายาทของรัฐสุลต่านแห่งซูลู ซึ่งในอดีตเคยปกครองเกาะต่างๆ ในบริเวณนี้ ที่ปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ตลอดจนรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย ขณะที่โฆษกของเขากล่าวในวันพฤหัสบดีว่า พวกผู้สนับสนุนสุลต่านซูลูที่ใช้เรือเล็กยกกำลังเข้าไปในซาบาห์ตั้งแต่แรกเมื่อราว 3 สัปดาห์ก่อนนั้น มีจำนวน 235 คน ในนี้เป็นผู้หญิง 8 คน
      
       อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียระบุว่าไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของฝ่ายผู้บุกรุก เขาบอกด้วยว่าได้แจ้งให้ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ ทราบโดยทางโทรศัพท์แล้วว่า ชาวตากาล็อกถืออาวุธเหล่านี้จะต้องยอมวางอาวุธในทันที
      
       “ผมเรียนให้ประธานาธิบดีอากีโนทราบแล้วว่า คนเหล่านี้ต้องวางอาวุธของพวกเขาในทันที” นาจิบแถลงต่อผู้สื่อข่าวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ บริเวณที่ทหารตำรวจมาเลเซียกำลังไล่ล่าค้นหาผู้บุกรุกจากฟิลิปปินส์
      
       ชาวมาเลเซียต่างโกรธแค้นการบุกรุกของกลุ่มถืออาวุธอิสมามิสต์จากฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้สถานการณ์ในซาบาห์เต็มไปด้วยความตึงเครียด ประชาชนในบางเมืองทิ้งบ้านหลังจากตำรวจเผยว่าพบผู้บุกรุกซึ่งถืออาวุธในหลายพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ทำให้เกิดความกังวลกันว่าคนเหล่านี้อาจแทรกซึมเข้ามาเป็นบริเวณกว้างขวางกว่าที่เคยคาดกันไว้
      
       หลังจากเผชิญหน้ากันอยู่ราว 3 สัปดาห์ โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้านที่มีชื่อว่าตันดูโอ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการปะทะกันระหว่างผู้บุกรุกเหล่านี้กับกองกำลังความมั่นคงของมาเลเซียรวม 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งเกิดขึ้นที่แถวๆ หมู่บ้านตันดูโอ และอีกครั้งหนึ่งเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ถูกซุ่มตีที่เมืองแซมพอร์นา ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร การต่อสู้เหล่านี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน โดยเป็นนักรบ 20 คน และตำรวจมาเลเซีย 8 คน และทางการมาเลเซียตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่และกองทหารภาคพื้นดินเข้าไปปราบปรามกวาดล้างตั้งแต่วันอังคาร (5) เป็นต้นมา
      
       ในตอนค่ำวันพุธ (6) ทางการมาเลเซียระบุว่า ได้พบศพตำรวจ 6 นายที่เสียชีวิตจากการถูกซุ่มโจมตีในเมืองเซมพอร์นา โดยศพเหล่านั้นถูกตัดแขนตัดขา อย่างไรก็ดี ตำรวจมาเลเซียสามารถตามสังหารนักรบ 6 คนที่ซุ่มโจมตีดังกล่าวได้
      
       การบุกรุกของนักรบอิสลามิสต์สะท้อนสถานการณ์ละเอียดอ่อนระหว่างสองชาติเพื่อนบ้าน โดยก่อนหน้านี้มะนิลาเรียกร้องให้กัวลาลัมเปอร์อดกลั้น ทว่า ไม่เป็นผล
      
       ขณะเดียวกัน แอนิฟาห์ อามัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย แถลงเมื่อคืนวันพุธว่า อาจขอให้ฟิลิปปินส์ส่งตัวคิรามมาดำเนินคดีในแดนเสือเหลือง ทว่า มะนิลาปฏิเสธทันทีโดยอ้างว่าไม่มีสนธิสัญญาระหว่างกันในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน


คลิป...  http://www.youtube.com/watch?v=odVFg0fs114&feature=player_embedded

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000028664

นักการเมืองในประเทศติดกับมาเลย์ ดันไปเลียตูดดูดไข่พวกกลุ่มติดอาวุธ เลียกลุ่มนึงกลุ่มที่เหลือก้ฟาดงวงฟาดงาโชว์พลัง ...ดูดไปเรื่อยๆไม่นานก็ครบทุกกลุ่ม

ก็ไข่มันคงเค็มเต็มไปด้วสารไอโอดีน อีกหน่อยจะได้ฉลาดขึ้นสมองจะได้ไม่กลวงไงครับ...ฮา..ไม่ออก  ::010::

อีปูมันคงชอบดูด........ :D~ :D~ ::007:: ::007::

มันต้องจัดหนักแบบนี้อย่าเลี้ยงใว้เป็นเยี่ยงอย่าง ::005::

บ้านเมืองของมาเลเซีย   มาเลเซียเค้าก็รักษาก็หวงของเค้าไว้

ชัดเจน+เด็ดขาดดีครับ...บอกตรง ๆ ว่าผมชอบ

ของไทยทำไม่ได้หรอกครับ มันมีสายสนกลในเยอะ   ::013::

เห็นด้วยกับมาเลครับ

ประเทศสารขัณฑ์  มีอีปูเป็นนายกฯ  อีนี่ชอบดูดไข่  ครับ   ::005::

โอ๊ยยยย........เสียว........ ::005:: ::005:: ::005:: ::007:: ::007:: ::007::

ไข่เค็มก็เอาเหรอครับ  ::007::

ไม่มีค่าเหนื่อยให้เป็นสัมปทานน้ำมันฯ รับรอง"หมวกฟ้า"ไม่มีวันออกมา"รักษาสันติภาพ"หรอกครับ... สรุปว่ากฎธรรมชาติก็ทำงานต่อไป กฎธรรมชาติที่ว่านั้นคือใครแข็งแรงกว่าก็จะได้เปรียบ...

ตรรกกะง่ายๆครับ มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตี มึงหนีกูตาม

เรื่องเดียวกันใช่ไหมครับเนี่ย... ตกลงยายนี่ตามแหย่ไข่หรือครับ... ฮา...

 ::014::   ::002::

ขุมทรัพย์นี้ ใครจะกล้าฮุบ  ;D

มีไรค้างคาใจต้องรีบเคลียร์รึเปล่าครับ เดี๋ยว2558เป็นดองกันแล้ว คราวนี้จะจับปืนยิงกันมันน่าเกลียด ขนาดพี่หม่องว่าปิดประเทศมานานหลายสิบปี  ตอนนี้ยังเปิดอ้าซ่า.. ให้เปิดซิง ::007::


เดี๋ยวรอดูพี่จีนจะว่าไง 2558พวกนี้มันจะดองกันแล้ว ขู่มันยากแล้ว  ::005::

 (http://image.ohozaa.com/i/6b1/ZESIMa.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wH8uXPy8yTz78Hfo)



มาเลเซียได้ส่งทหารบุกปะทะกับกลุ่มติดอาวุธชาวฟิลิปปิโนที่ได้เข้ายึดหมู่บ้านในรัฐซาบาห์ในวันอังคาร พยายามผลักดันพวกผู้จงรักภักดีต่อเชื้อสายสุลต่านแห่งนครรัฐซูลูออกจากเกาะบอร์เนียว

 

กลุ่มติดอาวุธซึ่งว่ากันว่ามีกำลังราว 100-200 คนได้เดินทางโดยเรือจากหมู่เกาะซูลูทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เข้ายึดหมู่บ้านลาฮัดดาตูบนเกาะบอร์เนียวเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ด้วยข้ออ้างว่า ในอดีต รัฐซาบาห์เคยเป็นของสุลต่านแห่งซูลู

 

 

กองกำลังที่เรียกตัวเองว่า กองทัพซูลู นี้ นำโดยน้องชายของจามาลัล กิรัม ที่ 3 ซึ่งเป็นสุลต่านแห่งซูลู ตำแหน่งสุลต่านแห่งซูลูมีมาตั้งแต่ประเทศฟิลิปปินส์ยังไม่ถือกำเนิดขึ้น ในยุคนั้น นครรัฐที่ปกครองโดยสุลต่านมี 2 แห่ง คือ ซูลู กับบรูไน

 

@  จามาลัล กิรัม ผู้อ้างตนเป็นสุลต่านแห่งซูลู

 

เมื่อปีค.ศ. 1658 สุลต่านแห่งบรูไนได้ยกดินแดนซาบาห์ให้แก่สุลต่านแห่งซูลู บางตำนานบอกว่า เป็นการยกให้เป็นสินสมรสระหว่างนครรัฐมุสลิมทั้งสอง บางตำนานบอกว่า เป็นของขวัญตอบแทนที่ซูลูได้ช่วยบรูไนปราบกบฏ

 

กาลเวลาได้ผ่านมากว่า 350 ปี ทายาทของสุลต่านซูลูยังคงอ้างกรรมสิทธิ์กับมาเลเซียว่า ซาบาห์เป็นส่วนหนึ่งของซูลู ฉะนั้น ถือว่าเป็นดินแดนของฟิลิปปินส์ แน่นอนว่า มาเลเซียไม่ยอมรับการอ้างกรรมสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์เช่นนี้

 

จุดขัดแย้งของฝ่ายสุลต่านซูลูกับมาเลเซีย มีต้นตอจากหนังสือสัญญาระหว่างนครรัฐสุลต่านซูลู กับบริษัทบริติช นอร์ท บอร์เนียว ของอังกฤษ เมื่อค.ศ. 1878 ซึ่งมีข้อตกลงกันว่า ทางบริษัทสามารถครอบครองซาบาห์ได้ตราบเท่าที่ยังคงจ่ายเงินให้แก่ซูลู

 

แม้จนถึงทุกวันนี้ มาเลเซียก็ยังคงจ่ายเงินให้สุลต่านซูลูปีละ 5,000 ริงกิต หรือราว 45,000 บาท

 

สองฝ่ายตีความข้อตกลงนี้ต่างกัน อังกฤษ และต่อมาคือ มาเลเซีย ซึ่งได้ครอบครองซาบาห์นับแต่ก่อตั้งประเทศในปี 1963 ถือว่าสัญญาฉบับนี้เป็นการซื้อขาย แต่ฝ่ายซูลูกับฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นข้อตกลงให้เช่า อังกฤษไม่ใช่เจ้าของซาบาห์ จึงไม่มีสิทธิ์ถ่ายโอนดินแดนนี้ให้แก่มาเลเซีย

 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนปีที่แล้ว สุลต่านจามาลัล กิรัม ที่ 3 ได้ออกคำสั่งให้ผู้จงรักภักดีของตนพากันไปตั้งถิ่นฐานในซาบาห์ หลังจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ลงนามในกรอบข้อตกลงสันติภาพกับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร หรือเอ็มไอแอลเอฟได้ราว 2 สัปดาห์

 

เรื่องดินแดนซาบาห์เป็นประเด็นคาใจระหว่างมาเลเซียกับฟิลิปปินส์มาโดยตลอด และเป็นชนวนของการก่อเหตุรุนแรงในหมู่เกาะซูลูในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

 

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ทุกคนได้สนับสนุนข้ออ้างกรรมสิทธิ์ของซูลู ครั้งหนึ่ง ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ผู้วายชนม์ เคยพยายามยึดคืนซาบาห์ด้วยกำลัง โดยฝึกอาวุธและติดอาวุธให้แก่พวกนักรบมุสลิม

 

แต่เมื่อแผนการเกิดรั่วไหล กองทัพฟิลิปปินส์ได้ทำลายหลักฐาน ด้วยการสังหารหมู่นักรบเหล่านั้น สร้างความไม่พอใจแก่ชาวมุสลิมในภาคใต้ของประเทศ กลายเป็นจุดกำเนิดของกลุ่มกบฏมุสลิมหลายกลุ่ม

 

ในระยะหลัง ฟิลิปปินส์ยังคงพยายามทวงคืนซาบาห์จากมาเลเซียด้วยวิถีทางการทูต ประธานาธิบดีคนก่อนหน้านี้ คือ กลอเรีย อาร์โรโย ได้เคยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดจากับรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์หลายครั้ง

 

แต่ในยุคของผู้นำปัจจุบัน เบนิกโน อาคีโน รัฐบาลมะนิลาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องซาบาห์เลย

 

แฮร์รี โรเก อาจารย์ด้านนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ บอกว่า นั่นเป็นเพราะอาคีโนมุ่งที่จะบรรลุผลในการเจรจากับกบฏมุสลิมกลุ่มใหญ่เป็นอันดับแรก นั่นคือ เอ็มไอแอลเอฟ ซึ่งความสำเร็จในการบรรลุกรอบความตกลงระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรนั้น เกิดจากการประสานการเจรจาของมาเลเซีย

 

โรเกบอกว่า การที่มาเลเซียอาสาเป็นผู้ประสานการเจรจา ทำให้รัฐบาลของอาคีโนตัดสินใจพักวางเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนซาบาห์เอาไว้ก่อน "การที่มาเลเซียเข้ามาเป็นตัวกลางอาจเป็นเพราะไม่อยากให้ฟื้นเรื่องซาบาห์ขึ้นมาพูดกันอีก"

 

ในกระบวนการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟ ซึ่งจะจัดตั้งเขตปกครองตนเองในเกาะมินดาเนานั้น ฝ่ายซูลูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมินดาเนา อ้างว่าตนถูกกีดกันไม่ให้ร่วมเจรจา

 

นักสังเกตการณ์มองกันว่า ตราบเท่าที่ตระกูลของสุลต่านซูลูไม่ได้ร่วมเจรจาสันติภาพ และรู้สึกถูกมองข้าม ปัญหาความไม่สงบที่มินดาเนาก็จะแก้ไม่ตก ขณะเดียวกัน ปมพิพาทเรื่องซาบาห์ก็จะยังคงเป็นขวากหนามในความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียกับฟิลิปปินส์ต่อไป

 

นั่นหมายความว่า ปมพิพาทกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนซาบาห์ อาจสั่นคลอนเสถียรภาพของภูมิภาคได้.

 

Source : BBC ; Asia Times Online

by sathitm

5 มีนาคม 2556 เวลา 11:13 น.

View 1108

Keyword: มาเลเซีย , ฟิลิปปินส์ , ซูลู , ปกครองตนเอง , มินดาเนา , เอ็มไอแอลเอฟ , บอร์เนียว , ซาบาห์ , แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร

เครดิต.
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000067285
http://news.voicetv.co.th/global/64625.html

ครั้งหนึ่งรมต.กลาโหมเคยให้การรัฐสภาว่ากองทัพเรือฟิลิปปินส์ไม่สามารถต่อสู้กองทัพเรือมาเลเซียได้เลย แถวนั้นการลาดตระเวณมีแต่กองทัพเรือมาเลเซียทำอยู่เน้นการปราบโจรสลัด
ใครแข็งแรงกว่าก็เอาไป

มีหลายท่านอยากให้ทำแบบกองทัพมาเลบ้าง กรุณาคิดถึงความเป็นไปได้ก่อนนะครับและผลที่จะตามมาก่อนโพส ถ้าคนแถวนั้นเขามาอ่านเข้า จะเป็นอย่างไร เอาไปขยายผลต่อหาแนวร่วมเพิ่มสบายๆ เห็นไหมคนทางเมืองหลวงเขาอยากฆ่าพวกเรา เอาบ้านของเราไป เขาไม่เห็นเราเป็นคนไทย         

ผมมีเพื่อนหลายคนที่ทำงานแถวนั้นโดยตรงพวกเขาไม่เคยมีความคิดที่จะไปไล่ฆ่าใครเลยตรงกันข้ามใช้วิธีทำความเข้าใจกันเยียวยาสิ่งที่รัฐเคยทำผิดในอดีตซึ่งมันย้อนเวลาไม่ได้การเจรจาการพัฒนาตามแนวทางในหลวงจะเป็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่า แต่ก็ยังมีนักรบหน้าคอมยังอยากใช้วิธีการรุนแรง ทั้งๆอยู่ห่างจากพื้นที่หรือฟังเขาเล่าต่อกันมา
แค่นี้มันก็แย่อยู่แล้วอันที่จริงเราอยู่ทางนี้มันไม่ใช่กงการอะไรสักหน่อย ปัญหาทางโน้นเขารู้กันดีก็ตั้งวงเจรจากันไปขอให้อยู่ใต้กฎหมายของประเทศไทยเป็นพอ

 ::002::

เทคโนโลยีก้าวไกล กองพันนักรบไซเบอร์ จึงเกิดขึ้น ::007::

ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เนี่ย  ฟิลิปปินส์หรือทายาทสุลต่านซูลูออกจะอ้างยากนะครับ
มันไม่ใช่แผ่นดินใหญ่ที่อยู่ติดกันแบบไทยและเขมร
และก็ไม่ใช่เกาะเล็กๆที่อยู่ตรงขอบเส้นแบ่งทะเล
แต่หมู่บ้านมันดันไปตั้งบนเกาะใหญ่บอร์เนียวที่ท่อนเหนือของเกาะทั้งท่อนมันอยู่บนแผนที่ที่เป็นมาเลเซียกันมากว่าห้าสิบปี
ผมเป็นนายกฯมาเลเซียผมก็ไม่เจรจาหรอกครับ
ถือปืนขึ้นฝั่งมาก็ต้องกุดหัวสถานเดียว
(หรือหากเป็นรองนายกฯมาเลย์ ก็ไม่มีวันจะลุกลี้ลุกลนรีบเร่งอยากจ่ายค่าชดเชยแก่ญาติผู้เสียชีวิตแน่นอน  ;D)

 ::002::!+1ครับ ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

มาเลย์ไปหาอ่านประวัติก่อนรวมประเทศเกาะต่างโดยฝั่งเกาะบอร์เนียวที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้.  แต่ก่อนเป็นการปกครองแบบสุลต่าล พอจะรวมประเทศก่อนไปเชิญสุลตาลแต่ละรัฐมาร่วมประชุมมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยรั(ฐบาลจึงแยกเครื่องบินที่จะไปประชุมเป็นสองลำและแยกผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยและลำที่ไม่เห็นด้วยก็ระเบิดโดยไม่ทราบสาเหตุซะงั้นซากตกอยู่ในทะล
ปล. บรูไนก็ไม่ร่วมเป็นประเทศมาเลย์เซียเพราะรู้ว่าตนเงน้ำมันเยอะกว่ารัฐอื่น

ครั้งหนึ่งเคยมีโอาสไปดำน้ำแถบนั้นทรัพยากรมหาศาล ขนาดปลาและจำนวนไม่ต้งพูดถึงใหญ่กว่าบ้านเราเป็นหลายเท่าและมีข้อมูลว่าทะเลซูลูแถบนั้นเป็นทะลโบราณที่ม่เคยเปลี่ยนแปลงตังแต่ยุคจูราสสิก65ล้านปีก่อน จึงทำให้มีข้อมลที่เชื่อได้ว่าข้างใต้ทะเลมีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่มากแต่ปัจจุบันเทคโลโยขุดเจาะน้ำลึกยังไปไม่ถึง ลึขนาดเฉลี่ยที่ประมาณ1000เมตรครับสิมิลันบ้านเรา80-200เมตรก็ลึกแล้ว

 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: เห็นไหมเรื่องในบ้านเขา เขาก็่จัดการเอง ไม่ต้องเที่ยวร่อนไปหาใคร ให้รู้ว่าตัวเองไร้ความสามารถ  ::013:: ::013:: ::013:: ::013::

ยังหวังว่าสามจังหวัดใต้. จะสงบโดยไม่ต้องแบ่งแยกดินแดน_ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อนะครับ
ความรุนแรงขอให้เป็นก็อกสุดท้าย_/แต่อาจเป็นก็อกแรกหากเขาเปิดฉากก่อน
ขอเพียงจังหวะ_สถานการณ์เปิดเอื้ออำนวย_ผมยังเชื่อว่ากองทัพไทยคงแกร่งพอและไม่ยอม
รวมถึงทางฝั่งเขาพระวิหารด้วยนะครับ
แต่ไม่รู้ว่าเราจะต้องรออีกเมื่อไหร่_จึงจะเห็นผลสำเร็จนั้น

นายสมชายก็ยังยืนยันเหมือนเดิมครับ... ว่าสงครามก่อการร้ายแยกประเทศ/รวมประเทศ ทั้งหายแหล่นั้นเป็นเรื่องของ"ผลประโยชน์แห่งชาติ"เท่านั้น, ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ เรื่องศาสนา เรื่องใครโกรธใคร ใครเกลียดใคร ฯลฯ สารพัดนั่นเขาเอาไว้เป็นเครื่องมือสำหรับอธิบายให้คนที่ไม่รู้ครับ(เพราะมันเข้าใจง่าย)...

คน"ไม่รู้"นั่นคือคนโง่ คำว่าโง่ไม่ได้แปลว่าดูถูกใครเสมอไป แต่ความคือโง่ความไม่รู้, คนโง่ก็เปลี่ยนเป็นคนฉลาดในเรื่องนั้นได้ ถ้าหากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถทำความเข้าใจได้ในชั่วพริบตาที่เข้าใจเรื่องนั้น... แต่ประเด็นเรื่องการรับรู้ของผู้คนไม่ได้เกิดจากการไม่ได้ข่าวสารความรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่"กรอง"ข่าวสารเพื่อทำความเข้าใจด้วย ได้แก่การใช้อารมณ์ตัวเองปิดกั้นความรู้(อคติ - Prejudge)...

ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนจากความไม่รู้ให้กลายเป็นความรู้ต้องใช้เวลา... โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการเรียนรู้ของผู้คนเหล่านั้นถูกปิดกั้นด้วยกระบวนการทางสังคมโดยเอาเรื่องการศึกษาศาสนามาบังหน้า(ตัวอย่างที่เห็นชัดคือมะรอโซบอกให้เมียเลี้ยงลูกตัวเองแบบศึกษาศาสนาอย่างเดียวไม่สนใจเรื่องทางโลก!!!)...

สำหรับเรื่องภาคใต้ของประเทศไทยนั้นวิธีเดียวที่จะดับไฟไต้ได้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรมภายใต้กฎหมายไทยควบคู่ไปกับวิธีอื่นครับ... จะใช้วิธีเยียวยา วิธี Assimilation ฯลฯ หรือวิธีการอะไรก็ตามแต่ แต่ต้องควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผลไปด้วยไม่มีวิธีอื่น, เพราะนี่คือสัญญลักษณ์แห่ง"อำนาจรัฐ"ของประเทศไทยครับ...

แหม อ่านแล้วรู้สึกผิดจริงๆที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาดันทำตัวเป็น"ไอ้ป๊อด , ดีแต่พล่าม , เป็นผู้กล้าหน้าคีย์บอร์ด ดีแต่ขยับแค่ปากกับนิ้ว"ไม่ได้เคยกล้า เคยยอมกระดกตูดไปทำประโยชน์อะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันให้คนไทยหรือประเทศไทยกับเค้าบ้างเลย  ::007::

ว่าแต่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเนี่ยเขาจะอดทน ผู้ดี สุขุม ไปถึงไหนกันครับ

เขาก็รบกันเหมือนกัน ;D ;D ;D ตีกันทั่วโลก

แต่เรื่องปูดูดไข่ มาจากไหน 55555

 :) คงไม่ใช่อย่างทีท่านคิดหรอกครับ...
เพื่อนหลายคนอยากให้ จนท. จัดการขั้นเด็ดขาดเฉพาะผู้ที่ก่อความรุนแรง ไม่ใช่ไปใช้ความรุนแรงกับพี่น้องมุสลิม 3 จังหวัด ไม่ใช่ท่านคนเดียวที่มีเพื่อนปฎิบัติงานอยู่ พี่น้องในเวปนี้หลายคนที่ทำงานอยู่ตรงนั้น ใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น การใช้คำว่า "นักรบหน้าคอม" มันเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ปัญหา 3 จังหวัดมันเป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ที่นั่น 

+ครับ
ใครๆก็รักชาติได้อย่าผูกขาดกันเลย

 ที่มาเลย์จัดหนักเพราะอาจเรื่องการเมืองภายในก็ได้เพราะเขาเข้าใกล้โหมดเลือกตั้งและมีทีท่าว่าอาจเพลี่ยงพล้ำให้ผู้นำฝ่ายค้านได้เพราะ
เรื่องนักรบซูลูบุกก็เสียหน้าห้าร้อยของรัฐบาลมาเลย์ไปทั่วอาเซียนแล้วว่า มาเลย์ไม่มีน้ำยา แค่นักรบมีแค่อาวุธเบาก็จัดการไม่ได้ปล่อยให้เข้ามายึดอยู่ได้ขนาดนี้
 ถึงกะเอาเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปไล่ยิงนักรบเดินดินอย่างซูลูนี่ก็น่าขำแล้ว
และพื้นที่ทางเหนือ(ใต้ของไทย)ก็ไม่ใช่พื้นที่ฝ่ายรัฐบาลด้วยถ้าจัดการซูลูไม่ได้เสียงก็หายแน่

 แค่นักรบเดินดินบุกบ้านตัวเองก็จัดการไม่ได้ มีหน้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาภาคใต้ให้ไทย
ส่วนคณะรัฐบาลก็โง่เอง ไปเจรจากะมาเลย์เข้าทางหาเสียงของเขาเลย

ขายหน้าชิปเป๋งเลย

ว่าไปแล้ว ก็สมน้ำหน้ามาเลย์นะครับ โดนซะบ้าง ปากก็ให้ความร่วมมือกับรัฐไทย แต่ผู้ก่อการร้ายอาศัยอยู่มาเลย์ทั้งนั้น

โดนซะบ้างก็ดีครับไอ้มาเลย์เนี่ย  ;D ;D ;D

ปัญหาซูลููบุกของมาเลย์จัดว่าง่ายกว่าปัญหาของไทยเยอะเพราะซูลููมาแบบแยกน้ำแยกปลามาเลย
ไม่ใช่โจรปะปนกะชาวบ้านแบบของไทย และง่ายกว่าตรงที่มาแบบเจาะจงพื้นที่และเปิดเผยวัตถุประสงค์ชัดเจน
ขนาดนี้มาเลย์ยังเอาไม่อยู่ สะเออะจะมาเจรจาปัญหากับไทย

บวก 1 ครับพี่

สมัยก่อนมาเลย์ มีปัญหาโจรจีนคอมมิวนิสต์ ( จคม ) มันผลักมาไทย จคม.ไม่เคยไปติดธงไทยในดินแดนมาเลเซีย แต่ปัญหาแยกดินแดนของไทยดันมีการเอาธงมาเลเซียมาติดไปทั่ว ผมไม่อยากมองว่าเป็นการเสี้ยมของพวกก่อการ แต่น่าจะบ่งบอกอะไรๆได้ดี