เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ช่วยให้ความกระจ่างผมหน่อยเถิดคับว่า..
-ปกติเลบานอนได้เงินตราต่างประเทศมาจากการขายสินค้า/บริการอะไร ?
-ประเทศนี้มีอำนาจอธิปไตยหรือไม่ ? เพราะเห็นทหารซีเรียเข้าไปอยู่เป็นปี ๆ เพิ่งถอนกำลังออก แล้วทำไมจึงยอมให้กองกำลัง
ฮิซบอลเลาะห์ใช้พื้นที่เป็นที่ซ่องสุมเพื่อคอยรังควาญอิสราเอล เมื่อก่อนเคยเห็นกองกำลังคริสเตียนและมุสลิมกลุ่มต่าง ๆ ทำสงครามกันเหมือนชาติไม่มีทหาร ขนาดยิงกันด้วยปืนใหญ่ เอาเครื่องบินออกบินสังเกตการณ์ฝ่ายตรงข้าม ประธานาธิบดีปล่อยให้มีกลุ่มก๊กต่าง ๆ อยู่ได้อย่างไร (คล้ายตอนเราเสียกรุงศรีอยุธยาใหม่ ๆ )
-ฮิซบอลเลาะห์ที่บุกจับตัวทหารอิสราเอลไป 2 นาย ทำไมจึงไม่ถูกประนามทั้ง ๆ ที่เป็นต้นเหตุแห่งวิกฤติการณ์ครั้งนี้ มันรู้อยู่แล้วว่าอิสราเอลนั้นเอาจริง ผมเห็นทุกชาติล้วนแต่ประนามอิสราเอลทั้งนั้นว่าทำเกินกว่าเหตุ
-ฮิซบอลเลาะห์ได้เงินจากไหนมาซื้ออาวุธ เช่นจรวด ลูกหนึ่งไม่ใช่ถูก ๆ     
-สุดท้ายคับ อิสราเอลใช้น้ำมันจากแหล่งไหน เพราะประเทศรอบ ๆ ตัวเองที่มีน้ำมันล้วนแต่ศัตรูทั้งนั้น

น้ำมันหมด ก็หมดเรื่องลงไประดับหนึ่ง  แต่ในแง่ยุทธศาสตร์  ผมไม่แน่ใจครับ

    เท่าที่ทราบ ในอดีต เลบานอน ได้ชื่อว่าเป็นสวิสแห่งตะวันออกกลาง เป็นศูนย์กลางการเงิน และการท่องเที่ยว และเลบานอนเป็นประเทศเล็ก ที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติและศาสนา ทั้งยุโรป เตอร์ก อาหรับ มุสลิม คริสเตียน โดนแทรกแซงจากชาติเพื่อนบ้านตลอดเวลา เคยถูกปกครองโดย อียิปต์ กรีก ยิว โรมัน บาบิโลน(อิรัก) เปอร์เชีย เตอร์ก ฝรั่งเศส  มีหลากหลายวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วทำให้มีปัญหาด้านความมั่นคงเป็นอย่างมาก ฮิสบอลเลาะห์นั้นนับถืออิสลามนิกายชีอะห์ ได้รับความสนับสนุนด้านการเงินและการทหารจาก อิหร่าน
ส่วนน้ำมันนั้นมีหลายแหล่งทั้งอาฟริกา อเมริกากลาง ที่สำคัญชาติที่มีธุรกิจค้าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกก็คือ usa จึงไม่น่าแปลกใจที่ยิวจะมีโอกาสได้ใช้น้ำมันอาหรับครับ

สาธารณรัฐเลบานอนเป็นประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และถือเป็นหนึ่งใน 15 ดินแดนที่ประกอบเป็น "แหล่งกำเนิดแห่งมนุษยชาติ" (Cradle of Humanity) เลบานอนมีพรมแดนติดกับประเทศซีเรียและประเทศอิสราเอล พรมแดนที่ติดกับประเทศอิสราเอลได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติแล้ว แต่พื้นที่บางส่วน เรียกว่า "ชีบาฟาร์ม" (Shebaa farms) ตั้งอยู่ในที่ราบสูงโกลันยังคงครอบครองโดยอิสราเอล ซึ่งอ้างว่าเป็นพื้นที่ของซีเรีย กองทัพต่อต้านอ้างว่า "ชีบาฟาร์ม" เป็นพื้นที่ของเลบานอน และในบางโอกาสก็โจมตีที่มั่นของอิสราเอลภายในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ซีเรียบำรุงรักษากองทัพที่มีทหารประมาณ 14,000 นายในเลบานอน ชาวเลบานอนที่สนับสนุนเลบานอนอ้างว่าเป็นการอยู่อย่างถูกต้องเนื่องจากรัฐบาลเลบานอนได้ขอไว้ ตอนเริ่มสงครามกลางเมืองเมื่อ พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) ผู้ที่ไม่เห็นด้วยอ้างว่า การอยู่ของซีเรียเป็นประหนึ่งการยึดครองโดยอำนาจต่างชาติ

ชื่อทางการ                         :   สาธารณรัฐเลบานอน (Republic of Lebanon)
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์
ที่ตั้ง            :   ทิศตะวันตกติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทิศตะวันออกติดซีเรีย
                ทิศใต้ติดอิสราเอล ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
พื้นที่            :   10,452 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง                         :   กรุงเบรุต (Beirut)
ภูมิอากาศ                         :   อากาศร้อนชื้นแบบเมดิเตอร์เรเนียน
ข้อมูลเกี่ยวกับประชากร
จำนวนประชากร                      :   3,627,774 คน ( 2544)
เชื้อชาติ            :   อาหรับร้อยละ 95 อาร์เมเนียนร้อยละ 4 และอื่น ๆ ร้อยละ 1
ภาษา            :   ภาษาอาหรับและฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ แต่ชาวเลบานอน
                ส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
ศาสนา                                                   :   อิสลามร้อยละ 70, คริสเตียนร้อยละ 30

สินค้าออกที่สำคัญ                      :   กระดาษ ผลิตภัณฑ์อาหาร เส้นใย
สินค้าเข้าที่สำคัญ                      :   เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค


ข้อมูลเกี่ยวกับการปกครอง
รูปแบบการปกครอง                       :   เป็นระบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวฝ่ายบริหาร
ประมุขของรัฐ/ประธานาธิบดี       :  Commander General Emile Lahoud (ประธานาธิบดีควรเป็น Maronite Christian)
นายกรัฐมนตรี                       :   Rafik Hariri (นายกรัฐมนตรีควรเป็นมุสลิมนิกาย Sunni)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง       :   Mahmoud Hammoud

ประวัติศาสตร์โดยสังเขป
   เลบานอนอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส และได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1943 หลังจากนั้น เลบานอนได้พัฒนาประเทศจนสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเงินศิลปะและวัฒนธรรมของภูมิภาคตะวันออกกลางนับตั้งแต่อดีตไว้ได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงปี คศ. 1975 – 1991 เลบานอนตกอยู่ภายใต้ภาวะสงครามกลางเมือง มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอาหรับและกลุ่มคริสเตียนในเลบานอน ในที่สุด ทุกฝ่ายสามารถหาข้อยุติและร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูประเทศหลังจากภาวะสงครามกลางเมืองอีกครั้ง
   ซีเรียเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อเลบานอนมากที่สุด โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โดยซีเรียได้ส่งกองกำลังรักษาความสงบอยู่ในเลบานอนประมาณ 30,000 คน และจากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นดังกล่าว ทำให้กรณีพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างซีเรีย เลบานอนกับอิสราเอลไม่มีความคืบหน้า
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
   เลบานอนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับซีเรีย ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงทำให้ซีเรียและเลบานอนมักจะดำเนินนโยบายต่างประเทศในลักษณะใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ดี การที่เลบานอนไม่ต้องรับผิดชอบในด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศทำให้สามารถทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การที่เลบานอนเคยอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับเลบานอน

ความสัมพันธ์ไทยกับเลบานอน
   ไทยกับเลบานอนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2501 ปัจจุบันยังมิได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตไทยที่เลบานอน

มองๆ ไปมันก็ไม่หนีเรื่องผลประโยชน์อยู่ดีนะครับเนี่ย

1.โลหะมีค่า พลอย บริการการเงิน การท่องเที่ยว
2.เลบานอนโดนอิสราเอลยึดตั้งแต่ต้นศตวรรษที่20 มีสงครามกลางเมืองมาตลอด และได้รับอิสรภาพเมื่อปี2000
3.เพราะการจับตัวไปมันเป็นเรื่องปกติ(ในภูมินั้น) เพื่อเรียกร้องอะไรบางอย่าง  ส่วนอิสราเอลที่โดนประนามนั้นเพราะว่าการโจมตี
   ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่กลับสร้างความเสียหายแก่ประชาชนบริสุทธิ์แทน
4.อิร่านเต็มใจสนับสนุน
5.ด้วยความที่เป็นพ่อ เอ๊ย....ลูกรักของพี่มะกัน(ไม่ใช่พี่มะขิ่นนะครับ) คงได้น้ำมันจากซาอุ


ปล. ผมว่ามันเป็นการโฆษนาขายอาวุธของอิสราเอลมากกว่าสิ่งใดอื่น

ไม่มีสงครามธุรกิจอาวุธก็อยู่ไม่ได้น่ะสิครับ แหมเรื่องง่ายๆที่หลายคนคิดไม่ถึง   ;D

ทำให้ผมคิดถึงภาพยนตร์ฝรั่ง....เรื่อง   "ลอร์ดออฟวอร์"..........

เลบานอน มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน โดยเป็นดินแดน ที่ถูกปกครองโดยเชื้อชาติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่ยุค อียิปต์โบราณ โดยเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรม อัสซีเรีย(ซีเรีย) เรื่อยมาจนอารยธรรมเปอร์เซีย(อิหร่าน) เข้ามายึดครอง แล้วก็โดน ชาวมาซีโดเนีย (กรีกโบราณ) เข้ามาปกครองจนกระทั่งอารยธรรม โรมัน ได้เข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนแห่งนี้เรื่อยมาจนอารยธรรม โรมันเสื่อมลง ก็ตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักร ออตโตมาน (ตรุกี) ทำให้ผู้คนในดินแดนแห่งนี้ หันมานับถือศาสนาอิสลาม จนกระทั่งก่อนส่งครามโลกครั้งที่ 1 ที่อาณาจักร ออตโตมาน เรื่อมเสื่อมอำนาจลง โดยมหาอำนาจยุโรป ทั้งฝรั่งเศษ และ อังกฤษ เข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนตะวันออกกลางทั้งหมด

** อาณาจักร ออตโตมาน ปกครองดินแดนตะวันออกกลางทั้งหมด รวมทั้ง อิหร่าน และ ซาอุดิอารเบียด้วย**

ในอดีต ดินแดนแห่งนี้ ไม่ได้มีอาณาเขตเป็นประเทศอย่างในปัจจุบัน เป็นเพราะ มหาอำนาจตะวันตก เห็นว่า ประเทศในตะวันออกกลาง เกือบทั้งหมดนับถือศาสนา อิสลาม ดังนั้น จึงแบ่งดินแดนส่วนหนึ่งออกมาจัดตั้งเป็นประเทศ เลบานอน แล้วให้ชาวตะวันออกกลางที่นับถือ ศาสนา คริส ย้ายมาตั้งบ้านเรือนในดินแดนแห่งนี้ โดยหวังว่า ดินแดนแห่งนี้จะเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่เป็น คริสเตียน แต่การที่มหาอำนาจตะวันตกส่งเสริมดินแดนแห่งนี้ทำให้ เศรษฐกิจของ เลบานอน ก้าวหน้าเหนือประเทศในตะวันออกกลาง ทั้งหมด ทำให้คนในตะวันออกกลางอยากเข้ามาหางานทำในเลบานอน โดยเฉพาะ ชนชาติ ปาเลสติเนี่ยน ที่ไม่มีประเทศเป็นของตนเอง ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในประเทศนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สัดส่วนระหว่าง ชาวคริสเตียน และ อิสลาม เปลี่ยนแปลงไป จนในปัจจุบัน ประเทศ เลบานอน มีประชากรส่วนใหญ่นับถือ ศาสนา อิสลาม

การเปลี่ยนแปลงของผู้นับถือ ศาสนา คริสเตียน นี่เองทำให้เกิดสงครามกลางเมือง เพราะ ผู้นับถือ ศาสนา คริสเตียน ไม่อยากเสียอำนาจในการปกครองประเทศไปนั่นเอง ส่วน ชาว อิสลาม ในประเทศ เลบานอน ก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศอารับ โดยเฉพาะ ซีเรีย ที่ไม่ต้องการให้ชาว คริสเตียน กลับมามีอำนาจ โดยหวังให้ เลบานอน เป็นประเทศ กันชนระหว่าง ซีเรีย และ อิสราเอล ที่เป็นประเทศคู่แค้นกันมาตลอดนับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศ อิสลาเอล หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

หลัง สงคราม 6 วัน ที่กองทัพชาติอารับ พ่ายแพ้แก่กองทัพ อิสราเอล อย่างย่อยยับ ทำให้เกิดการเจรจาสงบศึก ระหว่าง อิสราเอล และ อียิปต์ ทำให้ชาติอารับ โกรธแค้น อียิปต์ เป็นอย่างมาก และ นำมาซึ่งการลอบสังหาร ประธานาธิปดี อัลวา ซาดัด โดยทหารอียิปต์ เองในวันสวนสนาม หลังจากสงคราม 6 วัน ซีเรีย และ อิสราเอล ได้มีการปะทะกันโดยกองกำลังทางอากาศเหนือดินแดน เลบานอน หลายครั้ง ส่วนมากเป็นการรบกันทางอากาศ

ในการรบทางอากาศ ครั้งล่าสุดฝ่าย ซีเรียเสียเครื่องบินรบไป 25 ลำ ส่วน อิสราเอล ไม่เสียเครื่องบินรบเลยแม้แต่ลำเดียว ทำให้รูปแบบการต่อต้าน อิสราเอล ของชาติอารับ เปลี่ยนไป เพราะ หากปะทะกับกองทัพ อิสราเอล ตรง ๆ แล้ว ฝ่ายที่สูญเสียคือ ฝ่ายอารับนั่นเอง ดังนั้นประเทศเหล่านั้นจึงได้ทำสงครามตัวแทน โดยสนับสนุนทั้งเงิน และ อาวุธ ให้กับกองกำลังอิสระ ทั้งกองกำลังของ ปาเลสไตย์ และ กลุ่มต่อสู้อิสระอื่น ๆ (รวมทั้งกลุ่ม ฮามาส และ ฮิสบุลเลาะห์ ด้วย) การสนับสนุนของชาติอารับ นี้เป็นการสนับสนุนอย่างลับ ๆ โดยกลุ่มประเทศ อารับ (รวมทั้ง อิหร่าน, ซีเรีย และประเทศ อิสลามอื่น ๆ ด้วย) ไม่อยากเปิดเผยตัว เนื่องจาก กองกำลังอิสระ เหล่านั้น ทำการต่อต้าน อิสราเอล โดยใช้ทุกวิธี รวมทั้งระเบิดพลีชีพด้วย หากเปิดเผยตัวแล้ว อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากประชาคมโลก

อิสราเอล เป็นประเทศในตะวันออกกลางที่มีความสามารถในการผลิตผลผลิตทางการเกษตรสูงมากเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ประเทศนี้มีอยู่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศนี้มีความจำเป็นต้องอาศัยผลผลิตทางการเกษตรจากภายนอกไม่มากนัก ทำให้หากเกิดการปิดล้อม อิสราเอล จำเป็นต้องให้เวลานานกว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ อิสราเอล ต้องนำเข้าน้ำมันดิบจาก ต่างประเทศเป็นจำนวน 250,000 บาเลล/วัน แต่ อิสราเอล มีแกส ธรรมชาติที่ผลิตได้ถึง 200 ล้านคิวบิคเมตร/ปี ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ในประเทศ

พบแล้ว...ต้นกำเนิดคำว่า"สงครามการค้า"

--- ผมสนับสนุนอิสราเอล ด้วยใจจริงครับ ถ้าอ่อนแอก็ถูกหมาหมู่รุมกัด จึงต้องสู้สถานเดียว ---
--- เรื่องอื่นมันเป็นไปตามกลไกของโลกครับ ---

อยากทราบการย้ายถิ่นฐานของชาวยิว ตั่งแต่ยุคอียิปต์ จนถึงปัจจุบันครับ ท่านใดพอทราบบ้างมั๊ยครับ

เป็นประเทศที่น่าเห็นใจครับ โดนคาร์บอมตลอด :'(

เริ่มไปแล้ว หาทางลงได้ไหมละ ? หรือจะคงกองกำลังไว้ ในภาคใต้ของเลบานอน ตามเดิม  (กองทัพเลบานอนใต้)  จะคงกองกำลังไว้ใด้นานแค่ไหน พอถอนตัว ก็เหมือนเดิม

ในบรรดา กลุ่มติดอาวุธ อาหรับ เฮสบุลเลาะห์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีผลงานต่อกรกะอิสราเองได้ดีที่สุด

อาวุธของคนจน  คือการ ก่อการร้าย ลักพาตัว
อาวุธของคนรวย คือการทำสงครามเต็มรูปแบบ

เปิดศึก สองด้าน ทั้งใน เขตปกครอง ปาเลสไสต์ และใน เลบานอน  ตอนแรกคนยิว เห็นดีเห็นงามกะรัฐบาลในการสั่งสอน เฮลบุลเลาะห์ พอเริ่มมีการสูญเสีย และเริ่มยืดเยื้อเสียงที่ว่า ก็ลดลง

จำได้ไหม ? เมื่อ สามสี่ปีก่อน คนในประเทศ ซึมกะทือ เพราะระเบิดพลีชีพ ไม่กี่เหตุเท่านั้นเอง

เรื่อง ยิว ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ สรุปรวมเรื่องยิวตั้งแต่ยิวเจอพระเจ้า หรือพระเจ้าสร้างยิว (?) จนถึงยุคสงคราม 6 วัน ปี 1967 (ปีที่ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้) ได้ดีมากครับ

ยิวไม่ยอมใครหรอกครับ เพราะรู้ว่าไม่มีใครช่วยยิวยกเว้นยิวเท่านั้น ตอนสงครามโลกครั้งที่สองสัมพันธมิตรก็รู้ว่ามีค่ายกักกันเอายิวมาฆ่าอย่างเป็นระบบ แต่ก็ไม่พยายามทำอะไร เขียนรายงานกันเองแล้วก็เงียบ (ถึงแม้ว่าทำอะไรให้ได้ผลจริงยากก็ตาม เช่น บอร์มทางรถไฟเยอรมันก็ซ่อมใหม่ได้เร็ว ฯลฯ) ตอนผมไปดูค่าย Auschwitz มีทัวร์ยิวกลุ่มใหญ่ มีทั้งหนุ่มทั้งแก่ เขาเอาธงชาติอิสราเอลผืนใหญ่ไปกางถ่ายรูปหมู่หน้าค่าย แต่ละคนดูสถานที่ไปก็โศกๆ กันถึงกระจองอแง

ห้องนึงมีขาเทียมอยู่เต็มเลย เป็นขาเทียมของ "ทหารผ่านศึกเยอรมัน" ที่เป็นยิวไปรบจนพิการ พอรัฐบาล "เจ้าบ้าน" เกิดเกลียดยิวขึ้นมาก็จับมาฆ่าเหมือนกัน

ตอนนี้ยิวมีประเทศของยิวเอง ใครจะยึดประเทศนี้คงต้องคงต้องฆ่ายิวให้ตายหมดก่อนแหงๆ อย่างที่มาซาดาครับ

ขอบคุณมากนะครับ ท่าน Law Enforcement
ถ้าเรารู้ประวัติศาสตร์ของชาติใดชาติหนึ่ง ก็พอจะเข้าใจพฤติกรรมของเขาในปัจจุบันได้ในระดับหนึ่ง
ถ้ามีงานหนังสือผมจะลองไปหามาอ่านดูครับ

หนังสือของคุณชาย คึกฤทธิ์ ตอนนี้มีทั่วไปครับ พิมพ์ออกมาเรื่อยๆ

พอรู้บ้างว่าทำไมถึงทำยังงี้ แต่เรื่องที่ว่าทำถูกหรือไม่

...ถ้าผมเป็นยิว ผมว่าตอบแทนไปพอแรงแล้ว ยกเว้นมีข่าวว่าตัวประกันที่โดนจับไปยังรอดอยู่ หรือไม่ก็มีนโยบายฉวยโอกาสเข้าไปกวาดล้างกลุ่มฮิสฯ 

...ถ้าผมเป็นอาหรับ ผมคงไม่ทำหลายอย่างที่อาหรับได้ทำมา และกำลังทำอยู่

...ถ้าผมเป็นบุคคลที่สาม ไม่ต้องสงสัยครับ เป็นบุคคลที่สามจริงๆ ก็กำลังนั่งโม้แสดงความเห็นอยู่อย่างที่เห็นนี้แหละ

  คนยิวมาเที่ยวประเทศไทยปีนึงเยอะมากๆครับ เป็นแสนคนทีเดียว มีเที่ยวบินตรงจาก อิสราเอลมาลงดอนเมืองอาทิตย์ละสองครั้งมั้งครับถ้าจำไม่ผิดผมเคยเห็นยิวซื้อของแล้ว ยอมรับว่านิสัยยิวเค็มจริงๆ นะครับพี่ l/e แขกขายผ้า แขกร้านอินโดฯว่าเขี้ยวๆแล้วเจอยิวชิดซ้ายเลยครับ นี่คือเหตุผลที่ชาวยุโรปเกลียดยิวครับ