เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมอ่านข่าวจากเว็ปผู้จัดการครับ  ตายเพราะเงินสองบาทครับ

ขี้เหล้าถูกยิงดับเหตุกวนพ่อค้าขอซื้อเหล้าแค่ 2 บาท
 
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 12 มกราคม 2548 03:29 น.
 
 
       2 ขี้เหล้าเมาแล้วซ่า ขอซื้อเหล้าจากพ่อค้าแค่ 2 บาท แต่พ่อค้าไม่ยอมขายให้ อยากเหล้าจัดโมโหขึ้นหน้ารุมอัดเอาดื้อๆ โชคร้ายเจ้าของร้านหนุ่มฮึดสู้คว้าปืนยิงดับอนาจคาที่ 1 รายส่วนเพื่อนโชคดีรอดคมกระสุนหนีไปได้
       
       เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (12 ม.ค.) ร.ต.ท.เมธี ไกรทอง ร้อยเวร สน.บึงกุ่ม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่อพาร์ทเม้นชื่อ ลีลา อพาร์ทเม้น ภายในซอยเสรีไทย 9 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบศพชาย ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมพงษ์ พงษ์สมบัติ หนุ่มช่างทาสีวัย 35 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณกลางลำตัวจำนวน 3 นัดเสียชีวิตคาที่อยู่ภายในร้านขายของชำใต้อพาร์ทเม้น
       
       โดยมือปืนที่ก่อเหตุรายนี้คือ นายณัฐพงษ์ โชติดิรก อายุ 21 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลูกชายเจ้าของร้านขายของชำดังกล่าว ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุด้วย โดยนายณัฐพงษ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับเพื่อนผู้ชายอีก 1 คนซึ่งมีอาการเมาสุรา ได้เดินเข้ามาในร้าน และได้มาขอซื้อสุรากับตน โดยบอกว่าจะซื้อแค่ 2 บาท แต่ตนไม่ขาย ทำให้ผู้ตายและเพื่อนไม่พอใจจึงเกิดการมีปากเสียงกันขึ้น หลังจากนั้น ผู้ตายกับเพื่อนได้รุมเข้าทำร้ายร่างกายตน ตนจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปเอาปืนในร้านออกมายิงทั้งคู่ แต่ถูกผู้ตายเพียงคนเดียว ขณะที่เพื่อนอีกคนวิ่งหนีรอดกระสุนปืนไปได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายณรงค์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
 
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000004836

เป็นป้องกันครับ  แต่เกินสมควรแก่เหตุ

ผมว่าอาจจะไม่ใช่ป้องกันตัวแล้วนา... ถ้าผู้ตายวิ่งตามเข้าไปในร้านด้วยละก็ ป้องกันตัว

คนที่ยิงคิดว่าเป็นการป้องกันตัวครับ  แต่พฤติการณ์ไม่ใช่เพราะมีเวลาวิ่งเข้าไปเอาปืนออกมายิง  ผมคิดว่ายังมีคนอีกมากที่เข้าใจเรื่องการยิงเพื่อป้องกันตัวแบบผิดๆโดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่แฟน อวป. :VOV:สุดท้ายมักจะกลายเป็นกระทำเกินกว่าเหตุหรือเจตนาฆ่าไปจะอ้างบันดาลโทสะก็ไม่ได้ :oตามเนื้อข่าวก่อนจะถูกรุมทำร้ายมีปากเสียงกันก่อนแสดงว่าไม่พยายามหลีกเลี่ยงคนพาล(เจอคนแบบนี้ผมก็ไม่อยากหลีกแต่ต้องตัดใจ)

http://www.komchadluek.net/news/2005/01-12/p1--54328.html

ดูอีข่าวนะครับ

ข่าวเดียวกัน แต่เขียนคนละแบบเลย เฮ้อ คมชัดลึกเขียนข่าวละเอียดกว่า ส่วนผู้จัดการเหมือนรีบๆเขียนรีบๆลง รายละเอียดหายไปเยอะเลยครับ

แสดงว่าไม่พยายามหลีกเลี่ยงคนพาล(เจอคนแบบนี้ผมก็ไม่อยากหลีกแต่ต้องตัดใจ) ความจริงการหลีกเลี่ยงคนพาลเป็นเรื่องป้องกันการเกิดคดีได้เป็นอย่างดีครับ แต่เราเป็นพลเมืองทำมาหากินในที่รโหฐานของตัวเองไม่จำเป็นต้องหนี้ครับ เพียงแต่ต้องป้องกันให้พอสมควรแก่เหตุเท่านั้น ส่วนอย่างไรจะเป็นพอสมควรแก่เหตุก็แล้วแต่รูปเรื่องเป็นกรณีไปครับ

 :-\ จากที่เพื่อนผู้ตายเล่าไม่เห็นมี เรื่อง ทำร้ายร่างกาย เจ้าของร้านเลย แต่จากรูป เห็นหน้าตาปูด  สงสัย ท่านเจ้าของ ร้านจะเดินไม่ดีเอง ไปหกล้ม โดน เท้า ผู้ตาย เข้า หน้าตาเลยเป็นแบบนี้   :-\
        อย่างว่าครับ คนทำมาหากินอย่างสุจริต มักจะเสียเปรียบ พวก ีที่ จอง จะเอาเปรียบตลอดเวลา :-\
         แต่ที่ น่าจะเป็นข้อคิดเตือนใจคือการใช้ อวป. ครับ  ถ้ามีปืนแล้ว ต้องมีสติมากๆหน่อย
     ใช้สติให้มากกว่าอารมณ์ ครับ :-\

  ต้องให้คนร้ายฟันเราก่อนครับอย่างน้อย 1 แผลความยาวแผลไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว หรือยิงเราให้ถูกก่อน 1 นัดครับ  เราถึงจะได้สิทธิ์การป้องกันตัว   :P  :P  :P

มีปืน ต้องมีสติ

ผมว่าไปตามข่าวครับเพราะในที่รโหฐานผมก็ไม่หนี้อยู่แล้วครับ แต่คงมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่เราไม่รู้เพราะข่าวที่ออกยังไม่เหมือนกันเลย  การพิจารณาว่าป้องกันตัวคงต้องดูด้วยว่าจุดที่ถูกทำร้ายกับจุดที่เก็บปืนอยู่ห่างกันแค่ไหน  จุดที่ถูกยิงอยู่ในร้านหรือหน้าร้าน  การทำร้ายขาดช่วงไปหรือยัง  ระหว่างวิ่งไปหยิบปืนฝ่ายผู้ตายทำอะไรอยู่ได้วิ่งติดตามเข้ามาจะทำร้ายหรือไม่  ฝ่ายผู้ตายมีอาวุธหรือไม่ถ้ามีมีอะไรเป็นอาวุธ  ระยะห่างระหว่างผู้ยิงกับผู้ถูกยิงในขณะยิง  มีพยานรู้เห็นหรือไม่แต่ในที่นี้พยานเป็นฝ่ายผู้ตาย :OO(น่าจะยิงให้ตายไปด้วยกันเลยจะได้ไม่มีพยานเป็นการยิงต่อเนื่องติดพันถือเป็นกรรมเดียวกันยังไม่ขาดตอน :DD)  และอื่นๆอีกมากมายก็จะได้คำตอบว่าป้องกันตัวหรือไม่  ตามข่าวถ้าผู้ตายเมาแล้วเกเรหาเรื่องผู้อื่นเป็นประจำการตายครั้งนี้ก็คงไม่เสียเปล่าแล้วละครับ  เพราะแผ่นดินจะสูงขึ้นอีกหน่อย :D~

เฮ้อบอกแล้ววว ว่าให้เอาลูกซองยิงหัวเข่ามันก็พ๊อออออ  :<< :<< :<< :~) :~)

         อ่านข่าวจากผู้จัดการ และคมชัดลึก ไม่เหมือนกันเลย ???

 ยิงป้องกันตัวหรือยิงขู่...น่าจะยิงนัดเดียวใช่ไหมครับ ???

 :D~
ครับ
การที่หยิบปืนออกมาเพื่อขู่บางครั้งก็เป็นผลดี  แต่หลายๆครั้งก็อาจทำให้อีกฝ่ายตกใจและทำการป้องกันตัวเอง
การยิงป้องกันตัวควรทำเมื่อเห็นภัยนั้นๆใกล้ตัว และเป็นอันตรายต่อเรา
ควรหลีกเลี่ยงการวิวาท  ที่อโคจร
 :D~
ข่าวเดียวกัน  แต่ไม่เหมือนกัน   ???
 :~)

ถือว่าซวยทั้งคู่.............

ฝ่ายขี้เมา ซ่าไม่รู้เรื่อง เลยโดนปืน ตาย 1 รอด 1...............

ฝ่ายเด็กก็ ซวย อยู่ดีๆโดนรุม แถมยิงตายไปแค่ 1 เหลืออีกคนไว้สำหรับปรักปรำ................ถือยิงให้ตายทั้ง 2 คน คงสู้คดีได้ง่ายขึ้น

อ่านข่าวแล้ว สะท้อนใจ
เมื่อไหร่จะเป็นเราก็ไม่รู้

ใครไม่เจอกับตัวเอง ไม่รู้หรอกครับ

ก่อนอื่นรู้สึกเห็นใจ  :-\ ระบบกฎหมายบ้านเราเป็นแบบ Civil law เป็นลายลักษณ์อักษร มีการพิจารณาคดีแบบกล่าวหา โดยต้องตั้งข้อหาไว้ก่อน แล้วไปพิสูจน์กันอีกทีในศาล ถ้าศาลเชื่อจนปราศจากข้อสงสัยจึงจะต้องรับผิดตามข้อหา

ได้แต่เอาใจช่วยให้พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาไม่หนัก และเขียนสำนวนไปในทางที่ดีแก่คนดีๆ แต่ถึงอย่างไรคงต้องให้กระบวนการตุลาการ ทำหน้าที่ตัดสินไปตามกฎหมาย :P

งานนี้มีคน..เป๋าตุง.. :~) :~) :~)

http://www.komchadluek.net/news/2005/01-12/p1--54328.html

"ด้านนายสัญญา ทับแจ่ม อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 652/9 ม.1 ชุมชนเพชรคลองจั่น แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ชวนไปดื่มสุรา โดยนายสมพงษ์ได้ไปขอเงินญาติ 20 บาทเพื่อมาซื้อสุราที่ร้านของนายณัฐพล จากนั้นนายสมพงษ์ได้ยืนซื้อเหล้าอยู่หน้าร้าน ตนยืนดูห่างๆ ระหว่างนั้นนายณัฐพลได้มีปากเสียงกับนายณัฐพลเรื่องมีเงินไม่พอซื้อเหล้าขาดอีก 2 บาท ขณะเดียวกันมีผู้หญิงเดินมาซื้อเบียร์ที่ร้านนายสมพงษ์จึงขอเงิน 2 บาท โดยหญิงคนนั้นได้ให้เงินนายสมพงษ์ 5 บาท

นายสัญญา กล่าวต่อว่า จากนั้นนายสมพงษ์จึงยื่นเงิน 5 บาทให้นายณัฐพลและบอกไม่ต้องทอนเงิน และเดินออกมา ทำให้นายณัฐพลโมโหที่เพื่อนของตนไปไถเงินลูกค้ามาให้ นายณัฐพลจึงไปหยิบปืนที่อยู่ใต้ตู้บุหรี่และเดินถือปืนไว้ข้างหลังออกมานอกร้าน โดยขึ้นไกปืนด้านหลังยิงใส่นายสมพงษ์ 2 นัดแรกไม่โดน แต่นัดสุดท้ายโดนที่หน้าอก ทำให้นายสมพงษ์ล้มลง  

เมื่อผมเห็นเพื่อนถูกยิงล้มลงจึงตั้งสติได้วิ่งเข้าไปเตะปืนออกจากมือนายณัฐพล เพื่อไม่ให้ยิงอีกจากนั้นผมและนายณัฐพลรีบช่วยกันปั้มหัวใจ แต่พบว่าเพื่อนสิ้นใจเสียแล้ว" นายสัญญากล่าว"

-คงต้องดูกันที่หลักฐาน และสืบพยานอื่นๆด้วยนอกจากประจักษ์พยาน ไอเพื่อนผู้ตายมันย่อมให้การเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว ถ้าศาลวินิจฉัยเป็นไปตามที่เพื่อนผู้ตายกล่าวหาคือ บันดาลโทสะแล้ว นศ.ยิงไป2นัดไม่โดนแล้วโดนนัดที่3 คงรับ ม.59+ม.288+ม.72 เข้าเหตุลดโทษเพราะบันดาลโทสะ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กม.กำหนดเพียงใดก็ได้ แต่ผมหวังว่าศาลคงไม่เชื่อตามที่ เพื่อนผู้ตายบอกหรอก ได้แต่รอความจริงปรากฎ จากหลักฐานและพยานวัตถุอื่นๆอีก ทั้งวิถีกระสุน ฯลฯ



"จากการสอบสวนนายณัฐพล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอยู่ในร้าน จากนั้นนายสมพงษ์เข้ามาซื้อสุราและพูดจาข่มขู่ตนและเข้ามาชกต่อยและทำร้ายร่างกาย ตนจึงหยิบปืนบิดาเพื่อจะเอาออกมายิงขู่ โดยยิงไป 2 นัด นายสัญยาซึ่งเป็นเพื่อนนายสมพงษ์ได้เข้ามารุมทำร้ายตน และแย่งปืนทำให้ปืนลั่นใส่นายสมพงษ์ล้มลง ตนตกใจมากรีบปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่นายสมพงษ์สิ้นใจแล้ว

นายณัฐพล ให้การต่อว่า ก่อนหน้านี้นายสมพงษ์เคยมาซื้อของที่ร้านโดยติดเงินไว้จำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามก็จะข่มขู่และทำร้าย ซึ่งการกระทำครั้งนี้ไม่คิดว่าจะทำให้นายสมพงษ์เสียชีวิตเพียงต้องการนำปืนขู่ไม่ให้นายสมพงษ์ทำร้ายร่างกายเท่านั้น"

-แต่ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ นศ.บอกคือ ยิงขู่ไป 2นัด แล้วเพื่อนกับผู้ตายมาแย่งปืนทำให้ปืนลั่น แบบนี้อาจจะรอด เพราะไม่มีเจตนาและไม่ได้ประมาท เป็นเหตุแทรกแซง การกระทำจึงไม่ครบองค์ประกอบภายใน คือไม่มีเจตนา ไม่ได้ประมาท เพราะการที่จะต้องรับผิดอาญา ต้องครบองค์ประกอบทั้ง4อย่างคือ 1.มีการกระทำ 2.การกระทำครบองค์ประกอบภายนอก 3.การกระทำครบองค์ประกอบภายใน 4.ผลของการกระทำสัมพันธ์กับการกระทำ โดยถ้าไม่ครบองค์ประกอบ ก็ไม่มีความผิด โดยไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องป้องกัน หรือป้องกันเกินกว่าเหตุเลย เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิด


ป.ล. อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ผมมีเรียนวิชากฎหมายอาญา2 ภาคความผิด(อาญา2กับ3) ถึงแม้จะไม่ใช่อาญา1(ซึ่งเนิ้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง) แต่อาจารย์ทีสอนผมวันศุกร์เป็นอัยการ ผมจะลองถามอาจารย์ดูครับ(ถ้าไม่ลืมนะ แหะๆ ::) จริงๆผมเรียนอาญา1ไปแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจไปถามจารย์อีกทีดีกว่า อ้อ! ไม่อยากจะบอกว่า อาญา1ได้ A- แต่มาตกอาญา2ได้C- ต้องเรียนซ้ำ ทำให้เทอมนี้ผมต้องลงเรียนทั้งอาญา2กับอาญา3 ท่องมาตราเกือบทั้งประมวลกฎหมายอาญา :~) )

 :( เห็นใจและเอาใจช่วย นศ. โชคร้ายที่ได้รับแรงกดดันจากอันธพาล คงเก็บกดมานาน จนสุดท้ายฟิวส์ขาด.... :(

พี่มะขิ่นคร้าบบบบบบบ   ถ้ามานมากัน สามหรือสี่คน แล้วร่วงหมดเนี่ย  คงสู้คดีง่ายมากกว่า ร่วงแค่ สองคนนี้ใช่มั๊ยคร้าบบบบ  5555555  เล่นตอบแบบนี้ เพื่ือนคนตายที่รอดน่ะ ถ้ามีโอกาศเข้ามาอ่านกระทู้นี้ คง ค้อนพี่มะขิ่นตาแทบทะลักเลยมั้ง   ;D ;D 
คนขายของชำมักะเจอคนประเภทนี้อยู่บ่อยๆ   เมาแล้วหาเรื่องเซ็นฯ ก็เยอะ  พอเราไม่ให้เซ็นฯก็โมโหไม่พอใจเราซะนี่ พอหยวนๆให้ก็ทวงยากชิบฯ   ผมคนนึงที่เจอบ่อย   สงสัยต่อไปต้องเตรียมสมุดปากกาไว้ให้พวกที่ชอบซื้อแล้วขอเซ็น  เตรียมมาไว้ให้เซ็น   แต่เงินต้องจ่าย อิอิ อยากเซ็นเซ็นไป ;D ;D
อยากให้เ้จ้า  ออฟฟิตเซอร์ของพี่มะขิ่นมาช่วยดูแลร้านให้หน่อย ทราบมาว่าพี่มะขิ่นใจ ดี๊  ใจดี  กะน้องๆ  เลยอยากรู้ว่าใจดีสมคำร่ำลือมั๊ย   คิกคิก   ;D ;D

ถ้าผมมีร้านแบบนี้....ผมใช้ เบเนลี่ M1 เฝ้าร้านครับ................

เป็นความกับคนตาย ง่ายกว่า คนเป็นครับ................ผมเองไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หรอกครับ(และไม่อยากเจอด้วย)............ที่หนักหนาที่สุด ก็แค่ ยิงขึ้นฟ้าไล่ขโมยมา2-3ครั้งเท่านั้น..........แต่ มีญาติพี่น้องผม อย่างน้อยก็ สี่ท่าน ที่เคยยิงทั้งโขมยและโจรตายคาบ้านมาแล้ว............เป็นการยิงตรงหน้าเท่านั้น ............มีทั้งยิงดัวยปืนพก และลูกซอง..............ผลการต่อสู้คดี หลุดทุกคดี.............

ผมถึงกล่าวไว้ไงว่า..............หากเกิดวิกฤติ ถึงขนาดต้องใช้อาวุธแล้ว ต้องทำให้มันพูดไม่ได้...........แต่ถ้ามันวิ่งหนี ก็ปล่อยมันไป อย่ายิงข้างหลัง...............เพราะต่อสู้คดีลำบาก...........

สำหรับ Colt Officer .45 ของผม..........คุณปู คงต้องคุยกับคุณbobby ครับ...........

สงสัยเปิดประมูลดีกว่า ;D ;D ;D

 ;D  ตกลง   พี่มะขิ่นจะปล่อยตัวเล็กอีกตัวเหรอ     จะไปถอยอะไรใหม่ละครับ

เคยถามอาจารย์ที่เป็นอัยการท่านนึง(สอนอาญา1) ท่านบอกว่าไม่ยิงอย่าเอาปืนออกมา ถ้าเอาออกมาขู่อาจตายฟรีได้ และถ้ายิงแล้วต้องยิงให้ตาย(เล็งแม่นๆ อิอิ) เหมือนกับพี่มะขิ่นและหลายๆท่านกล่าวไว้ในเวปนี้แหละครับ  ;)

ข่าวทั้งสองฉบับเหมือนคนละเรื่องเดียวกันจริงๆ...แล้วน่าจะเป็นอย่างที่พี่มะขิ่นว่าเจ้าคะ :-\

เสริมอีกนิดครับ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปดังนี้
หลังจาก นศ. ถูกทำร้ายจึงหนีเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบปืนมาถือไว้เพื่อป้องกันตัว แล้วเดินออกมาหน้าร้าน จากนั้น ขี้เมา2คนที่กำลังเดินหนีไปอยู่กลางถนน หน้าร้าน ได้เห็น นศ.ถือปืนอยู่หน้าร้าน จึงได้ทำท่าเหมือนนำวัตถุออกจากกระเป๋ากางเกงหรือทำท่าเหมือนกับชักอาวุธออกมา เนื่องจากเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงกลางดึก ประกอบกับระยะห่างระหว่างหน้าร้านไกลเกิน5เมตร และนศ. ตื่นเต้นตกใจกลัว เนื่องจากเพิ่งถูกทำร้าย เห็นขี้เมาทั้ง2คนพยายามกรูกันเข้ามาทำร้ายซ้ำอีกรอบ ทำให้ตัดสินใจยิงป้องกันตัวไป 3นัด(แต่ต้องยิงด้านหน้านะ ข่าวไม่ระบุว่ายิงด้านหน้าหรือยิงด้านหลัง) เนื่องจากคิดว่าขี้เมาทั้ง2ได้ชักอาวุธออกมาพยายามจะมาทำร้ายตนเองซ้ำ  ;D ;D ;D แบบนี้ถึงจะพออ้างได้ว่าป้องกันตัว ตาม ม.68 ป.อาญา และการที่ยิงออกไป 3 นัดเกินกว่าเหตุนั้น ได้กระทำไปด้วยความตื่นเต้น ตกใจ กลัว จึงได้ป้องกันตัวไปเกินกว่าเหตุ ตาม ม.69 ป.อาญา ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้

ยังไม่จบๆ  ;D ผมยังมีข้อต่อสู้อีกครับ หลังจากยิงป้องกันตัวไปแล้ว นศ.รู้สึกถึงความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นอย่างนั้น จึงได้พยายามบรรเทาผลร้าย โดยรีบเข้ามาช่วยเหลือ ปั๊มหัวใจขี้เมาที่ถูกยิง  จุดนี้จึงสามารถทำให้ศาลลดโทษให้ได้อีก ไม่เกินกึ่งหนึ่ง(ครึ่งนึง) ตาม ม.78 ป.อาญา

ถ้าข้อเท็จจริงในสำนวนเป็นแบบที่ผมกล่าวมา แบบนี้จากหนักจะกลายเป็นเบา และอาจจะถึงกับไม่ต้องรับผิด หรือได้รับการลดโทษ  ;) ;) ;)

ลืมไปผมอ้างเลขมาตราไปตั้งเยอะ ยังไม่ได้บอก Link ป.อาญา เลย  :P
http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/thailaw2-2.html

...ผมว่าน่าสงสารทั้งคนตายและคนเป็นแหละครับงานนี้  (ใจดีเกินไปไหมเนี่ย) ;)

::) ว่าจะถามแต่พอเลิกเรียนจานไปคุยกะชาม เอ้ย จานไปคุยกับจานผู้ช่วยเลยไม่มีโอกาสถามเลย ช่างมัน ฮือๆๆ  :~) :~) :~)

ปืนมีไว้ป้องกันตนเองและคนที่เรารัก ไม่จำเป็นอย่าอวดอย่าให้ใครเห็น จำป็นเท่านั้นชักแล้วยิงอย่าให้เหลือพยานเพราะเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป พยานทั้งหลายพร้อมที่จะปรักปรำท่านตามที่ตำรวจชี้แนะทั้งสิ้น