เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://www.nectec.or.th/courseware/computer/comp-using/dvd.jpg)
แผ่นดีวีดีที่ขายกันตอนนี้มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน
แผ่นดีวีดี 1 แผ่น สามารถบรรจุข้อมูลได้ทั้งสองหน้า และแต่ละหน้ายังบรรจุ ข้อมูลได้งสุด 2 ชั้น ลองมา  ดูรายละเอียดแต่ละแบบกัน

1. dvd-5 แผ่นหน้าเดียว ข้อมูลชั้นเดียว SS-SL จุข้อมูลได้ 4.7 GB (เลยเรียกว่า 5) แผ่น  ก๊อปจะนิยมทำเป็น dvd-5 เพราะต้นทุนต่ำที่สุด ผลิตได้ไวไม่ซับซ้อน  แผ่นแท้ ที่เป็น dvd-5 ก็มีนะครับ  เช่น The Corr unplug , Batman เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเป็นสำคัญ ถ้าหนังข้อมูลไม่เยอะก็จะบรรจุลง dvd-5 ได้ จุดนี้ไม่เกี่ยวกับคุณภาพว่า dvd-5 จะต้องด้อยกว่า dvd-9  คุณภาพวัดกันที่บิทเรทในการ  compress ข้อมูล ไม่ใช่เป็นแผ่น dvd-9 แล้วจะต้องดีกว่า dvd-5 ทุกอย่างครับ

2. dvd-9 แผ่นหน้าเดียว ข้อมูลสองชั้น SS-DL จุข้อมูลได้ 8.5 GB (เลยเรียก ว่า 9) ส่วนมากจะพบเห็นในหนังที่มีความยาวมากเกินสองชั่วโมง หรือหนังไม่ยาวแต่มีข้อมูลของเสียงหลายแบบเช่น แผ่นเดียวกันมีทั้งระบบเสียง Dolby Digital และ DTS หรือพวกหนังที่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีของแถมเต็มไปหมด การบรรจุข้อมูลที่เยอะ ไม่สามารถเก็บในข้อมูลชั้นเดียวได้ ดังนั้นทางผู้ผลิตจึงจะเป็นต้องทำเป็น แผ่น dvd-9

3. dvd-10 แผ่นสองหน้า ข้อมูลชั้นเดียว DS-SL จุข้อมูลได้ 9.4 GB(เลยเรียก ว่า 10) เป็นแผ่นที่เห็นในดีวีดียุคแรกๆแต่ปัจจุบันไม่ค่อยทำแล้ว (ก็มีบ้าง)ส่วนมากจะเป็นแผ่น ที่มีภาพไวด์สกรีนหน้านึง และฟูลสกรีนอีกหน้านึง เช่นเรื่อง Fifth element

4. dvd-18แผ่นสองหน้า ข้อมูลสองชั้น DS-DL จุข้อมูลได้ประมาณ 18 GB เป็นแผ่นดีวีดีที่มีความจุสูงสุดในปัจจุบัน นิยมใช้กับหนังที่มีความยาวมาก หรือมี feature เยอะเป็นพิเศษเช่นเรื่อง Benhur , T2 ultimate edition เป็นต้น

ฉะนั้น คำว่า dvd5, dvd9 จึงหมายถึง ความจุของแผ่น ซึ่งการจะรู้ให้แน่ชัดก็ควรเปิดดูด้วย คอมพิวเตอร์ เพื่อเช็คว่า แผ่นมีความจุเท่าไร

อย่างที่บอกไปแล้ว        DVD-5 จุได้ 4.37 GB        1 ชั้น 1 หน้า
                                  DVD-10 จุได้ 8.75 GB      1 ชั้น 2 หน้า 
                                  DVD-9 จุได้ 7.95 GB        2 ชั้น 1 หน้า
                                  DVD-18 จุดได้ 15.9 GB    2 ชั้น 2 หน้า


สำหรับวิธีดูทางกายภาพ อย่างง่ายๆ ก็เช่น
DVD5 มักใช้วัสดุสีเงิน ความหนาของแผ่นจะไม่มาก

DVD9 เนื้อแผ่นมักเห็นเป็นสีทอง วงรอบในของแผ่นด้านข้อมูล อาจจะมีตัวหนังสือเล็กๆ เช่น side A,side B หรือ side 1, side 2 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแม่น ยำเสมอไป แผ่นผีจะทำหลอกอย่างไรก็ได้ เพราะผีเริ่มทำแผ่น dvd5 เป็นสีทองก็มี จึงไม่ควรจริงจังกับแผ่นผีมากนักส่วนของแท้ มักไม่หลอกกัน เพราะผิดกฏหมาย หลอกลวงผู้บริโภค เอาไปฟ้องร้องได้

เกี่ยวกับเรื่อง Zone ของ DVD
โซน 1 คานาดา อเมริกา และประเทศในเครือ (แผ่นออกเร็วที่สุด ก่อนโซนอื่นมี ให้เลือกหลายแบบ)
โซน 2 ยุโรป ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น อียิปต์ อาฟริกาใต้ กรีนแลนด์ (คุณภาพดี เหมือนกัน)
โซน 3 เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์
โซน 4 ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เม็กซิโก อเมริกากลาง+ใต้ (ถูกกว่าโซน1 และคุณภาพดี มักเป็น Pal)
โซน 5 รัสเซีย ยุโรปตะวันออก อินเดีย อาฟริกา เกาหลีเหนือ มองโกเลีย โซน 6 จีน

เกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนของภาพ
ก่อนปี 2497 (1954) ภาพยนต์ถูกถ่ายทำในระบบ 1.37:1 มีสัดส่วนใกล้เคียงกับทีวีในปัจจุบันคือ  1.33:1 ซึ่งบรรดาผกก.ภาพยนต์ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นการบังคับกรอบภาพ กันเกินไป หากมีดาราร่วมฉากหลายๆ คน ไม่สามารถจัดให้ลงกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัส แสดงพร้อมกันได้ครบ จากนั้นภาพยนต์จึงเปลี่ยนไปใช้สัดส่วนภาพที่กว้างขึ้น
นั่นหมายความว่า หนังหลังจากปี 2497 ภาพยนต์เมื่อนำมาแปลงให้อยู่ในรูปวิดีโอ หรือฉายทีวีทั่วไป ต้องผ่านกระบวนใดอย่างหนึ่ง
เพื่อตัดทอนภาพ ทิ้งไป

สรุปได้ประมาณว่า บางที ผกก. ต้องการนำเสนอภาพชายสองคนคุยกัน โดยนั่งอยู่ที่คนละมุมของจอ เขาอยากให้เห็นทั้งตัวละครที่กำลังพูด และสีหน้า อาการของตัวละครที่นั่งฟังตามเวลาจริงไปพร้อมกัน ในขณะที่ทีวี ต้องแพนกล้องจับภาพเฉพาะหน้าตัวละครที่พูดเท่านั้น

สำหรับการจะดูโฮมเธียเตอร์ ทีวีควรใหญ่กว่า 21" ไม่งั้นจะดู widesceen ด้วย ความอึดอัด และถ้าเป็น widescreen แบบ letterbox (คือส่งสัญญาณภาพหนัง มาพร้อมกับแถบดำ ปิดบน ล่าง ให้ได้สัดส่วนจอทีวี) จำนวนเส้นภาพแนวนอน จึงใช้ได้ไม่เต็มที่ แต่หากเป็นแบบ anamorphic จะส่งสัญญาณภาพหนังมาสูงเต็มจอทีวี แต่บีบด้านกว้างให้ผอมเท่ากรอบทีวี (กลายเป็นตัวละครหัวยืดสูงกันหมด) ซึ่งต้องมีระบบขยายด้านกว้างให้กลับคืน เหมาะกับทีวีรุ่น widesceen...ซึ่งหนังแบบนี้ จะแสดงเส้นภาพแนว
นอนได้ครบจำนวนตามคุณสมบัติของทีวีด้วย

บางคนรู้สึกว่าถูกโกงจากหนังที่มีแถบดำบนล่าง อุตส่าห์ซื้อทีวีมามีเส้นภาพ 500 กว่าเส้น แต่ดันใช้ฉายให้ดูเพียงครึ่งเดียว ภาพก็เล็กลงไปอีก

ข้อดีของทีวีที่ใหญ่ขึ้น หรือใช้โปรเจคเตอร์ จะช่วยให้ อักษรบรรยายใหญ่ อ่านง่ายขึ้น

เกี่ยวกับ DVD ก๊อบปี้ที่มีขายกันอยู่ในท้องตลาด
dvd-5 ต้นฉบับเป็น dvd-5 ก๊อป 100% เช่น The corrs unplugged  dvd-5 แต่ขายราคา dvd-9 เพราะดันเป็นแผ่นคอนเสิรท์ ฮ่า
คนขายก็เลยมั่วเป็น dvd-9 ซะ...  dvd-5 ต้นฉบับเป็น dvd-9 เอามาลดบิทเรท แย่สุดๆ เช่น Mummy Returns dvd-5
แบบซูมจอ (ไม่ชัดเอาซะเลย)
dvd-5 แบบซูมฟิลม์ อันนี้ชัดกว่าซูมจอ (ดีกว่าแบบก่อนหน้านั้นนิดนึง)
dvd-5 มีแต่หนัง ตัดฟีเจอร์ออก (พอใช้เลยละ)
dvd-5 มีหนังและ feature เท่าที่แผ่นจะเก็บได้ นอกจากนั้นตัดทิ้งหมด (ส่วน ใหญ่จะเป็นแบบนี้นะ555)

dvd-9 แบบ ก๊อป 100% (เยี่ยมยอด)
dvd-9 ก๊อปจาก dvd-18 (มีสองแผ่น)
dvd-9 แบบต้นฉบับไม่ชัด เช่นแผ่นเก่าๆ

dvd-10 ยังไม่เคยเห็นแฮะ copy อ่ะนะ
dvd-18 ด้วย ใครจะทำออกมาขายก่อนหนอ ???

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลDVD :D

ด้วยควาเคารพครับ.......

(http://i74.photobucket.com/albums/i252/Sig228-kolok/LOGO/361136193610361736393629.gif)(http://i74.photobucket.com/albums/i252/Sig228-kolok/LOGO/361136193610361736393629.gif)(http://i74.photobucket.com/albums/i252/Sig228-kolok/LOGO/361136193610361736393629.gif)

ขอบคุณครับ................

ปล. - แล้ว แผ่นมิยาบิ นี่มัน ดีวีดี อะไรครับพี่วัฒน์ ถึงได้ชัดถึงขุมขน.... :D~ :D~

ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่ม

ขอบคุณ Watt ครับ ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้มั้ยครับ คุณ Watt น่าจะทราบเกี่ยวกับเรื่อง codec ต่างๆใช่มั้ยครับ มันมีไว้ทำไมเพื่ออะไรหรอครับ โหลดหนังมาบางทีเจอ codec แปลกๆก็ต้อง update กันไปเรื่อยเลยครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ :VOV:

........เรื่อง.Co-Dec  ไม่ยากครับ มันตรงข้ามกับ  Co - แก่ ครับ ;D.....

อืมมมม ที่แท้มันก็เป็นเรื่องของ Coแก่ กับ Dec(เด็ก) นี่เองงงงงงง ;D (นอนดึกจังพี่ปั้น ยังหารูปให้ไม่ได้เลยยย)

 ;D ทีแรกผมก็นึกว่าแผ่นนี้เป็นดีวีดี 9 ครับ แต่พอดูหลายๆรอบจึงรู้ว่าเป็น ดีวีดี 69 ครับ (อันนี้ยืนยันได้...ไม่เชื่อท่านพี่กลับไปดูใหม่)



 :D ขนาดนั้นเลยหรือพี่ ป.ปั้น

- Codec ย่อมาจาก “Coder-Decoder” หรือ “Compressor-Decompressor” ซึ่งหมายถึง กลไก (ของฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์) การเข้า หรือถอดรหัส หรือการบีบอัด และคลายข้อมูล โดย Codec จะสามารถใช้ได้กับข้อมูลที่เป็นออดิโอ ข้อความ และวิดีโอ ซึ่งเราจะใช้ Codec ทำงานร่วมกับแทรค (track) เสียง ข้อความที่เป็นซับไตเติล และวิดีโอ ในแอพพลิเคชันการประชุมผ่านระบบวิดีโอ และการถ่ายทอดสื่อต่างๆ ด้วยกลไกสตรีมมิ่ง ทั้งนี้ผู้ใช้อาจพบว่า คลิปวิดีโอบางไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจะมีการร้องขอ codec เฉพาะบางตัวก่อนที่จะสามารถเล่นไฟล์ได้
   
- ฉะนั้น Codec ก็คือ ซอฟต์แวร์ในการแปลงสัญญาณจากอะนาล็อกไปเป็นดิจิตอล และในทางกลับกัน รวมทั้งเพื่อย่อและขยายเสียงและวีดีโอ ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็ก แต่มีสัญญาณที่คมชัด ปกติ โปรแกรมที่เราใช้ในการดูวีดีโอ คลิป มักจะมี codec พื้นฐานมาให้แล้ว แต่ก็ยังมี codec อีกหลายแบบที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย เราจึงต้องไปโหลดมันมาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง codec ที่นิยมใช้ในไฟล์วีดีโอในปัจจุบันก็คือ DivX หากโหลดวีดีโอ คลิป ไปแล้ว แต่ดูไม่ได้ มีแต่เสียง ไม่มีภาพ ก็ให้ลองโหลด codec ไปติดตั้ง ต่อไปนี้เป็น codec ที่ใช้กันมากในไฟล์วีดีโอ คลิปต่างๆ

- เอ....ไหงมันทำไมต้องเกี่ยวกับคลิ๊ปด้วย.......แบ่งมั๊งจิ

 ;) เกือบลืม เอา K-Lite Codec Pack 2.75 Full (Updated: 17 Aug 2006) สรรพคุณไม่ต้องบอก เป็นที่ยอมรับ มาฝากสำหรับคนที่ชอบหาหนังหลายๆ Fomat มาดูครับ

ดาวโหลดได้ที่นี่ครับ :
http://www.free-codecs.com/K_Lite_Codec_Pack_download.htm

รบกวนถามคุณ Watt อีกอย่างครับ พอดีว่าใช้ nero ไม่ค่อยเป็น แล้ว file ที่ dw มาก็มักจะเป็น avi หรือไม่ก็ mp3, wma แล้วเราจะรวมทำเป็น แผ่น DVD เพื่อเล่นบนเครื่องเล่นDVD ธรรมดาอย่างไรอ๊ะครับ ขอบคุณครับ :VOV:
กำลัง โหลด maiko yuki (uncen) อยู่อ๊ะครับ เห็น javtalk บอกว่าต้อง dw codecใหม่  :VOV:  :D~

ผมมีข้อสงสัยแต่ไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกันไหม

คือแผ่นดีวีดีที่ไรท์โดยเครื่องคอมพิวเตอร์  แล้วเราเอาไปเล่นในเครื่องเล่นดีวีดีธรรมดา(เครื่องของจีน)  จะมีผลทำให้หัวอ่านมันเสียไหม(ดีวีดีไม่อ่านแต่วีซีดีอ่านปกติ)  ของผมมันเสียไปสองเครื่องใกล้ๆกันเลยหลังจากเอาแผ่นมาเปิดดูครับ...

กระทู้ยอดเยี่ยม ........ (http://img209.imageshack.us/img209/2063/ket35wthcq0.gif)

 ;D ;Dขอบคุณ จขท.หลายๆครับ.. ;D ;D

ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องดีวีดีครับคุณWatt  ;)
สนใจ MIYABI เหมือนกันนะครับ..... :VOV:

อ่า...แฮ่ม...อ่า...แฮ่ม....
กระทู้เริ่มติดเรทแว้ว....คุณแมวบ้า..

ไม่น่าจุดประเด็นเลยตู  :<<

 :) ต้องใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ก่อนครับ


 :) ไม่มีผลครับ ที่เสียเพราะหัวอ่านของเครื่องจีนปรับมาเข้มมาก จึงอ่านได้ทุกแผ่นแม้แผ่นที่เป็นรอย หัวจึงเสียง่ายครับ

 ;D ขอบคุณค่ะ เพิ่งจาทราบ เพราะไม่เคยWrite DVD ซักทีเลยค่ะ เลยไม่เคยศึกษา

เอ่อ...คุณแมวบ้า ทำไรเหรอคะ คลิปอ่ะ คลิปไรอ่ะ อยากรู้ :DD
พี่สกายก็.........สนใจกะเค้าเหมือนกันเหรอคะ  ;D

คลิปหนีบกระดาษหน่ะครูแอม.....อย่าไปสนใจเลย อิอิ

....Thank you  หลายๆเด้อ... :VOV: :VOV:

โอว.....ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณครับ จะได้มีแหล่งเก็บรูปถาพสวยๆให้เหมาะสมซะที เต็มเครื่องไปหมดแล้ว ขอบคุณอีกครั้งครับ

ขอบคุณมากครับ

คุณวัตรครับ ผม ต.แม่สายเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นหนานปั๋นแล้วนะครับ อยากรบกวนปรึกษา เรื่องเจ้าดีวีดีถ้าเราจะก๊อปปี้ไฟล์หนังจะก๊อปที่ไฟล์ไหนครับเห็นว่ามีไฟล์เยอะมากอยู่ในแผ่นครับ และจะแปลงเป็นไฟล์ วีซีดีได้อย่างไรครับ ขอบคุณครับ


ขอบคุณครับ

 :D คุณ.แมวบ้า ลองดูที่นี่ครับ http://www.thaidvd.net/forum/upload/index.php?act=ST&f=36&t=125437&st=0#entry2332980



 :D สวัสดีครับ ลองดูนะครับ

- ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่จะใช้งานในการแปลงไฟล์หนัง จากแผ่น DVD มาเป็น VCD มีค่อนข้างจะมากมายหลายตัว แต่เท่าที่ได้ทดลอง ใช้งานซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ดู พบว่า มีอยู่ไม่กี่ตัวเท่านั้น ที่น่าใช้งาน ในหน้านี้จะขอแนะนำ DVDCopyOne ซอฟต์แวร์ สำหรับ การใช้แปลง DVD ไปเป็น VCD ที่มีเมนูการเลือกใช้งานได้ง่ายมาก ๆ เลยทีเดียว

- ก่อนอื่นก็ต้องหาดาวน์โหลด DVDCopyOne มาก่อน โดยหาได้จาก http://www.dvdcopyone.com/ หรืออาจจะหาใน Kazaa ก็พอมี ส่วน Serial No. ก็หาได้ไม่ยากตามเว็บบอร์ดทั่วไปครับ โดยที่ตัวโปรแกรม DVDCopyOne นี้ ถึงแม้ว่าจะใช้งานง่าย ๆ แต่ก็มีข้อเสียจุดหนึ่งคือ ต้องมีขนาดพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์และบนไดร์ฟ C: อยู่ประมาณ 3-5G. จึงจะใช้งานได้ และไม่สามารถจะนำเอาพื้นที่ว่างของไดร์ฟอื่นมาใช้แทนได้ด้วย ดังนั้น หากพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์มีไม่พอ ก็เปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่นได้เลยครับ

หลังจากนั้น ก็เริ่มต้นการติดตั้งตัวโปรแกรม โดยที่ขั้นตอนการติดตั้ง ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย เพียงแค่กดที่ปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ จนจบขั้นตอนการติดตั้ง
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_001.gif)

เริ่มต้นการติดตั้ง และกดที่ปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ ครับ
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_002.gif)

DVDCopyOne ซอฟต์แวร์สำหรับแปลงแผ่น DVD เป็น VCD หรือ SVCD ที่ใช้งานง่าย ๆ


ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่จะใช้งานในการแปลงไฟล์หนัง จากแผ่น DVD มาเป็น VCD มีค่อนข้างจะมากมายหลายตัว แต่เท่าที่ได้ทดลอง ใช้งานซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ดู พบว่า มีอยู่ไม่กี่ตัวเท่านั้น ที่น่าใช้งาน ในหน้านี้จะขอแนะนำ DVDCopyOne ซอฟต์แวร์ สำหรับ การใช้แปลง DVD ไปเป็น VCD ที่มีเมนูการเลือกใช้งานได้ง่ายมาก ๆ เลยทีเดียว

ก่อนอื่นก็ต้องหาดาวน์โหลด DVDCopyOne มาก่อน โดยหาได้จาก http://www.dvdcopyone.com/ หรืออาจจะหาใน Kazaa ก็พอมี ส่วน Serial No. ก็หาได้ไม่ยากตามเว็บบอร์ดทั่วไปครับ โดยที่ตัวโปรแกรม DVDCopyOne นี้ ถึงแม้ว่าจะใช้งานง่าย ๆ แต่ก็มีข้อเสียจุดหนึ่งคือ ต้องมีขนาดพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์และบนไดร์ฟ C: อยู่ประมาณ 3-5G. จึงจะใช้งานได้ และไม่สามารถจะนำเอาพื้นที่ว่างของไดร์ฟอื่นมาใช้แทนได้ด้วย ดังนั้น หากพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์มีไม่พอ ก็เปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่นได้เลยครับ

หลังจากนั้น ก็เริ่มต้นการติดตั้งตัวโปรแกรม โดยที่ขั้นตอนการติดตั้ง ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย เพียงแค่กดที่ปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ จนจบขั้นตอนการติดตั้ง



เริ่มต้นการติดตั้ง และกดที่ปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ ครับ



ทำการติดตั้งไปจนเสร็จที่ Finish

การเริ่มต้นใช้งานโปรแกรม DVDCopyOne

ก่อนที่จะเริ่มต้นการใช้งานโปรแกรม ในการแปลง DVD เป็น VCD ขอแนะนำให้ใช้ DVDDecrypter ทำการ copy ไฟล์ทั้งหมด ของแผ่น DVD มาเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ก่อน เพราะขั้นตอนของการแปลง อจะใช้เวลานานมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่ให้ DVD Drive ทำงานหนักเกินไป ก็เปลี่ยนให้มาทำงานบนฮาร์ดดิสก์แทนดีกว่าครับ โดยที่ตัวอย่างที่จะนำเสนอต่อไป จะเป็นการทำกับไฟล์ที่ ได้มีการ copy มาลงบนฮาร์ดดิสก์แล้วนะครับ

หลังจากที่ทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นการใช้งาน โดยเรียกโปรแกรม dvdcopyone ขึ้นมา จากนั้นก็ทำการใส่ Serial No. ให้เรียบร้อยก่อน จะได้หน้าจอตามภาพ อันดับแรกหลังจากเรียกซอฟต์แวร์ขึ้นมา ทำการเลือกไดร์ฟต้นฉบับ โดยเลือกที่ Source ครับ และถ้าเป็นกรณีของการทำงานกับไฟล์ที่ copy มาเก็บในฮาร์ดดิสก์ ก็ให้เลือก Source เป็น Image

(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_003.gif)

เลือก Source หรือไฟล์ต้นฉบับของ DVD ที่จะทำการแปลง โดยเลือกเป็น Image
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_004.gif)

เปลี่ยน Folder ไปยังที่เก็บไฟล์ของ DVD ที่ได้ copy มาไว้แล้วและกดที่ Open
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_005.gif)

จากนั้น ทำการเลือกไดร์ฟปลายทาง เช่นกันครับ แนะนำให้ทำเป็น Image ก่อน (แล้วค่อยเอาไฟล์ Image ที่ได้ ไปเขียนลงแผ่นซีดี ในภายหลัง)
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_006.gif)

ตั้งชื่อไฟล์ของ Image ที่ต้องการและกด Save

จากนี้ ก็จะเป็นการตั้งค่าต่าง ๆ ของตัวซอฟต์แวร์ โดยให้กดที่ปุ่ม Option << เพื่อแสดงรายละเอียดลงมา
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_007.gif)

ที่เมนู Options เลือกการตั้งค่าต่าง ๆ ดังนี้
- general เลือกชนิดของปลายทาง ว่าจะทำการแปลงเป็น VCD หรือ SVCD
- เลือกคุณภาพของไฟล์ตรง Quality เป็น High และ Format เป็น PAL

ที่เมนูของ video ทำการเลือกไตเติ้ลของภาษาในช่อง Subtitle และเลือกภาษาของเสียงที่ Sound จากนั้นเลือกขนาดสัดส่วนของภาพ และเลือกขนาดของแผ่นซีดีปลายทาง (ใช้ 785MB/CD สำหรับแผ่น 80 นาที)

ที่ช่อง misc เอาเครื่องหมายถูกที่ช่อง Save: ออกไปครับ เสร็จแล้วทั้งหมด ก็กดที่ปุ่ม Copy เพื่อเริ่มต้นการแปลงได้เลย
(http://www.com-th.net/software/graphics/dvdcopyone_008.gif)

โปรแกรมก็จะเริ่มต้นการทำงาน โดยอาจจะใช้เวลาในการแปลงสักประมาณ 3-7 ชั่วโมงครับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพตรง Quality ที่เราเลือกไว้ ช่วงนี้ก็ปิดไฟนอนรอได้สีกงีบหนึ่ง เมื่อซอฟต์แวร์ทำงานจบแล้ว จะได้ไฟล์ vcd_copy.bin ออกมา ซึ่งสามารถนำไปเขียนใส่แผ่นซีดี โดยเลือกเขียนจาก Image file ได้เลยครับ





 

ขอบคุณคุณwatt อีกครั้งครับ ;)  :-*  :-*

ขอบคุณครับ

;D ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ ;D