เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 21, 2006, 03:14:17 PM



หัวข้อ: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 21, 2006, 03:14:17 PM
เรื่องเล่าจากในวัง....

ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง

เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด

แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า

ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ"

เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

----------------------------------------------------------
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า

นางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย

ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์

นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่น่า

แต่ พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์

แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุกเลย (ทรงตัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง)

-----------------------------------------------------------

อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน

เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้
จึงมีคำกราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้าข้า.."

มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือนก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว...

พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า "มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว"

เรื่องนี้ ดร.สุเมธ เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

----------------------------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น

เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาต นำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ

ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า

"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"

-----------------------------------------------------

เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้า ทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน

ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"

เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า

"เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..."

ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้

---------------------------------------

มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้

ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า

"ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า"

ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า

"เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"

---------------------------------------

เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า

"ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์"

ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว"

---------------------------------------

วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของในหลวง

แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง

แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้

อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ

มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร

แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่

แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า

"เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก"

--------------------------------------------------

ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน

มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์

ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"

พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า

"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"

แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ

เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป


---------------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า

มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรอธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว

ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า

"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว"

และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ... ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท

ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ สิงหาคม 21, 2006, 03:39:14 PM
http://www.thaimonarchy.com/story.php

อ่าน ต่อ  ได้เลย  จ๊ะ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ สิงหาคม 21, 2006, 03:55:59 PM
ท่านสล่าเก้าอยู่ในวังหรือว่าก๊อปมาครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 21, 2006, 04:02:52 PM
ท่านสล่าเก้าอยู่ในวังหรือว่าก๊อปมาครับ

ก๊อบเค้ามาอีกทีครับคุณตี๋ ผมอยู่ก็วังเหมือนกันครับ วังไฮหละปูนครับ  ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ สิงหาคม 21, 2006, 04:14:15 PM
เมื่อกี้โดนอำมาเดี๋ยวจะเปลี่ยนชื่อแล้วครับ ว่าจะเปลี่ยนเป็น หนานปัน น่าจะดีครับ โดนพี่วีหลอกได้ลงคอ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: Piak Srisiam ที่ สิงหาคม 21, 2006, 04:20:18 PM
ได้ความรู้ครับ ขอบคุณมาก กระทู้ที่ดี ;D
ถ้าจะให้ดีกว่านี้อีก ไปยิงปืนคราวหน้าช่วยกรุณาโทรชวนผมด้วย เมื่อวานตกข่าว อดไปเลยครับ :~)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 21, 2006, 04:23:15 PM
ได้ความรู้ครับ ขอบคุณมาก กระทู้ที่ดี ;D
ถ้าจะให้ดีกว่านี้อีก ไปยิงปืนคราวหน้าช่วยกรุณาโทรชวนผมด้วย เมื่อวานตกข่าว อดไปเลยครับ :~)

ขออภัยด้วยครับคุณเปี๊ยกพอดีว่าเมื่อวานนี้ผมเองก็ตกกระไดพลอยโจรครับ พี่วีเอาตัวประกันมาไว้ที่ผมเลยต้องเอาไปให้ครับ เป็นแผนพี่วีครับ ไว้คราวหน้านัดแต่เนิ่นๆเลยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: Piak Srisiam ที่ สิงหาคม 21, 2006, 04:28:50 PM
คราวหน้าเจอกันครับ........ ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: Sticker ที่ สิงหาคม 21, 2006, 05:59:34 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 21, 2006, 06:53:47 PM
เมื่อกี้โดนอำมาเดี๋ยวจะเปลี่ยนชื่อแล้วครับ ว่าจะเปลี่ยนเป็น หนานปัน น่าจะดีครับ โดนพี่วีหลอกได้ลงคอ

ยังบ่เป๋น อ้ายหนานปันเตื้อก๊าครับ..... ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ สิงหาคม 21, 2006, 08:08:07 PM
 :VOV:ขอบคุณครับ...ได้อ่านหลายครั้งแล้ว....มีอีก...อ่านอีก...มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านครับ :VOV:


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: mannurse ที่ สิงหาคม 26, 2006, 03:53:31 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: pu ที่ สิงหาคม 27, 2006, 02:56:28 PM
  ผมก็อยู่วังครับ      แต่เป็นวังปลาสลิดครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 27, 2006, 03:50:46 PM

......บางเรื่องก็เคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว  แต่พอมาอ่านใหม่อีกกี่ครั้งก็อดอมยิ้มไม่ได้กับความเป็นกันเองของท่าน  นอกจากพระเทพ ฯ แล้วไม่ทราบว่าจะมีใครอีกน๊อ  ที่อารมณ์ดีและใกล้ชิดเยี่ยงนี้.......

......ชื่อกระทู้ฟังดูน่ากั๊ว...น่ากลัว......