หัวข้อ: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Haroshio Cane ที่ กันยายน 12, 2006, 06:13:34 PM ประชาชนมีอาวุธปืน(โดนถูกต้องตามกฎหมาย)สามารถช่วยเหลือชีวิตของตนเองและป้องกันทรัพย์สินจากคนร้ายได้แตทำไมรัฐบาลจึงต้องการยึดปืนที่ถูกกฎหมายจากประชาชนครับ? จะปล่อยให้คนร้ายใช้อาวุธปืน(ที่ผิดกฎหมาย?)มาปล้นมาจี้แล้วประชาชนแล้วจึงไปแจ้งความ ถ้าไปเจอเจ้าพนักงานที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอไอ้ที่ไม่ดี มักจะย้อนเอาว่า "ทำไมไม่ช่วยเหลือตนเองก่อน จะค่อยให้เจ้าพนักงานมาช่วยได้ไง เจ้าพนักงานมีงานล้นมือ" ทุกท่านที่อ่านข่าวสังเกตุไหมครับว่าคนร้ายมีอาวุธปืน .357 เป็นประชาชนธรรมดามีอาวุธปืนร้ายแรงแบบนี้ได้อย่างไร? หรือเป็นปืนเถื่อน ผมขอเอาข่าว นสพ.จาก คมชัดลึก ฉบับ 12 ก.ย. 49 มาให้ทุกท่านอ่านอีกครั้งครับ และอยากให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เห็นว่าประชาชนที่มีปืนโดยถูกต้องตามกฎหมายมีประโยชน์อย่างไรด้วยครับ อย่าปิดกั้นกันเลยท่าน
โจรบุกบ้านปืนจี้ผัวเมียอุ้มลูกยิงสวนดับ สองผัวเมียเมืองคอนใจเด็ด ถูก 2 โจรบุกปล้นทรัพย์เอาปืนจี้หัวขณะฝ่ายหญิงนั่งกอดบุตรสาววัยขวบเศษแอบซ่อนปืนข้างหลัง ฉวยโอกาสโจรเผลอยิงสวนเปรี้ยงเดียวเจาะกะโหลกโจรดับคาบ้าน โจรอีกรายตกใจยิงใส่ฝ่ายหญิงบาดเจ็บ แต่กลับถูกผัวที่ถูกยิงสาหัสตั้งสติได้คว้าปืนจากมือเมียยิงดับอีกราย เหตุสองสามีภรรยายิงต่อสู้กับคนร้ายที่บุกเข้ามาปล้นทรัพย์ถึงบ้านพักจนคนร้ายเสียชีวิต 2 ศพ แต่ตัวเองได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สุรพล ภักดี สารวัตรเวร สภ.อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 56 หมู่ 5 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐศิษฏ์ มีนะกนิษฐ รอง ผกก.ป.สภ.อ.ทุ่งใหญ่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว พบ น.ส.ทัศนีย์ น้ำรอบ อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน นั่งอุ้มบุตรสาววัย 1 ขวบเศษอยู่ในบ้าน ที่มือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไว้แน่น ในสภาพบาดเจ็บเนื่องจากแขนซ้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายทวีป นวลขาว อายุ 42 ปี สามีของ น.ส.ทัศนีย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่หน้าอก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ให้แพทย์ช่วยเหลือในเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทุ่งสงเพื่อให้แพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิต นอกจากนั้น ในบ้านที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นายณัฐวุฒิ พูนพนัง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 4 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพคว่ำหน้าอยู่ภายในห้องนอน ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก ไฟฉาย 1 กระบอก และที่ประตูบ้านพบศพ นายสมศักดิ์ เอี่ยมกำลัง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 หมู่ 3 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ นอนเสียชีวิตในสภาพมือขวากำอาวุธปืนขนาด .357 ไว้แน่น ตรวจสอบพบว่าถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด มีกระบอกไฟฉายอยู่ในกระเป๋ากางเกง และยังพบปลอกกระสุนอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี ต่อมา พ.ต.ต.สุรพล ภักดี สารวัตรเวร สภ.อ.ทุ่งใหญ่ สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้นำกำลังเดินทางไปยังโรงพยาบาลทุ่งสง เพื่อสอบปากคำ น.ส.ทัศนีย์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง น.ส.ทัศนีย์ ให้การว่า เหตุเกิดขณะที่นายทวีป สามี กำลังกวาดขยะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนตนกำลังชงนมให้บุตรสาวอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงสามีตะโกนเรียก จึงเดินไปหา และพบว่ามีคนร้าย 2 คน สวมหมวกไหมพรมคลุมใบหน้า กำลังใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะสามี เมื่อเห็นดังนั้นตนจึงหันหลังกลับเดินไปหยิบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ของสามีที่เก็บไว้ในห้องนอน แล้วถือไว้ข้างหลังเพื่อไม่ให้โจรเห็น พร้อมกับอุ้มบุตรสาววัย 1 ขวบเศษไว้ คุณแม่ยังสาวใจเด็ดรายนี้ ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายก็บังคับให้สามีพาไปที่ห้องนอน พร้อมกับหันปากกระบอกปืนมาจี้บังคับตนที่นั่งอุ้มบุตรสาวอยู่ให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงออกจากคอ โดยที่คนร้ายไม่สังเกตเห็นว่าตนถือปืนแอบไว้ข้างหลัง ดังนั้น เมื่อคนร้ายบอกให้สามีก้มตัวลงนอนหมอบกับพื้น ตนจึงฉวยโอกาสหันปืนไปยิงใส่คนร้าย 1 นัด กระสุนถูกศีรษะคนร้ายที่อยู่ใกล้ จนล้มลงเสียชีวิตทันที เมื่อเหตุการณ์พลิกไปถึงตอนนั้น น.ส.ทัศนีย์ ให้การว่า เมื่อคนร้ายอีกคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ที่ประตูห้องนอนได้ยินเสียงปืน ก็หันปากกระบอกปืนมายิงใส่ตน กระสุนเข้าที่แขนซ้าย จากนั้นก็ยิงใส่สามี 1 นัด กระสุนเข้าที่หน้าอก ก่อนวิ่งหลบหนีไป แต่ยังไม่ทันวิ่งพ้นบริเวณบ้าน สามีซึ่งยังมีสติก็ดึงปืนจากมือตนไปยิงใส่ 2 นัด ทำให้คนร้ายล้มฟุบลงที่ประตูหน้าบ้าน ส่วนสามีก็หมดสติ ตนจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร ให้ช่วยแจ้งตำรวจ พ.ต.ท.ณัฐศิษฏ์ กล่าวว่า สามีภรรยาคู่นี้ถือเป็นคนที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวมาก กล้าต่อสู้กับคนร้ายที่มาปล้นจนคนร้ายเสียชีวิต 2 ศพ โดยเฉพาะในรายของ น.ส.ทัศนีย์ นั้นถือเป็นหญิงเหล็กที่ไม่รู้สึกหวาดกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "หากเจ้าทรัพย์มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเช่นกรณีนี้ ผมคาดว่าโจรผู้ร้ายก็คงรู้สึกขยาดหวาดกลัวเช่นกัน" .ต.ท.ณัฐศิษฏ์ กล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์ น.ส.ทัศนีย์ ที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด โรงพยาบาลทุ่งสง ซึ่ง น.ส.ทัศนีย์ เล่าว่า สามีเพิ่งซื้อปืนกระบอกดังกล่าวมาในราคา 47,000 บาทเมื่อ 2 ปีก่อน เอาไว้ป้องกันตัวหลังเลิกทำนากุ้งกุลาดำ ที่ อ.หัวไทร กลับมาอยู่บ้านเพื่อทำสวนยางพารา น.ส.ทัศนีย์ เล่าอีกว่า เหตุเกิดขณะที่ตนกำลังชงนมให้บุตรสาว คือ ด.ญ.วรากมล หรือน้องเฟิรส์ อายุ 1 ขวบ 2 เดือน และหลังจากต่อสู้กับคนร้าย ก็ทราบจากตำรวจว่าคนร้ายทั้งสองเสียชีวิตแล้ว โดยคนแรกถูกตนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ เสียชีวิตคาที่ และดีใจที่คนร้ายตาย เพราะไม่เช่นนั้นตนก็กลัวว่าจะกลับมาล้างแค้น "ที่ตัดสินใจยิงคนร้าย เพราะคิดว่าถึงยังไงคนร้ายต้องต้องทำร้ายครอบครัวฉันแน่ จึงตัดสินใจยิงในช่วงจังหวะที่สามีหมอบลงกับพื้น และไม่นึกว่าจะยิงเข้าจุดสำคัญจนทำให้คนร้ายเสียชีวิตทันที" คุณแม่ใจเด็ด กล่าว พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เมื่อได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.อ.ทุ่งใหญ่ ก็เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาพยานหลักฐานและสืบสวนสอบสวนหาแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนพื้นที่ใดบ้าง และทราบว่าหนึ่งในคนร้ายมีคดีความอยู่ในชั้นศาล "คนร้ายกลุ่มนี้ทราบว่ามีเครือข่ายนับสิบคน มีการเตรียมการในการเข้าปล้นเป็นอย่างดี โดยการใส่ถุงมือเพื่อลบร่องรอยเมื่อเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจสอบภายหลัง ก็จะไม่มีหลักฐานเอาผิดได้" ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าว พล.ต.ต.สุดใจ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีพยานเห็นว่ามีรถกระบะไม่ทราบสีและยี่ห้อ ขับเข้ามาจอดห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และเมื่อได้ยินเสียงปืน คนขับรถกระบะก็ขับรถเลี้ยวมาดู เนื่องจากคิดว่าพรรคพวกทำงานสำเร็จจึงมารับ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านหลายคนมาดูที่บ้านเกิดเหตุก็รีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว "ตำรวจจะรีบสอบสวนในเบื้องต้น และให้ความเป็นธรรมกับสองสามีภรรยา ซึ่งจากหลักฐานต่างๆ ก็น่าจะเป็นการป้องกันตัวมากกว่าอย่างอื่น และจะได้ทำประกาศเกียรติคุณและมอบโล่ให้สองสามีภรรยาที่สามารถช่วยเหลือทางราชการได้อีกทางหนึ่ง การมีอาวุธปืนถ้าใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เช่นครอบครัวของนายทวีป แต่ถ้านำอาวุธไปใช้ในสิ่งไม่ดีไม่ควรก็จะเป็นภัยแก่ตนเอง" ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าว สำหรับที่มาของข่าวครับ http://www.komchadluek.com/ หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 12, 2006, 06:21:40 PM ข่าวนี้เป็นที่สนใจเยอะเนอะ ;D ;D ;D ตั้งกันตั้งหลายกระทู้ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 12, 2006, 06:28:41 PM ถ้าแน่ และมั่นใจต่อการที่เห็นว่าคนในสังคมมีอาวุธแล้วเป็นปัญหา รับซื้อทั้งหมดไปเลย และต้องทุกคน ห้ามมีข้อแม้ตัวใด ๆๆๆๆ :D~ ถ้ารัฐจะซื้อคืนอย่างน้อยปืนผมก็ต้องแจ้งหายกว่าครึ่ง ;D ;D ;D หามะเจออออออออ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 12, 2006, 06:29:54 PM หน้าไม้ มีด เครืองช๊อตไฟฟ้า ;D ;D ;D ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะคราวนี้ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กันยายน 12, 2006, 06:30:10 PM :VOV:
ครับ อาวุธที่อยู่กับสุจริตชน ต่างกับที่อยู่กับคนชั่ว ปัญหาแค่นี้มองไม่ออก ก้อแย่แล้ว :VOV: หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 12, 2006, 06:40:14 PM หน้าไม้ มีด เครืองช๊อตไฟฟ้า ;D ;D ;D ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะคราวนี้ ;D ;D ;D ครับผมใช้ไม้กอลฟเบอร์ 9 ครับ ดีครับ ;D ;D ;D ซื้อชุดเดียวใช้ได้หลายคน ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: SEK ที่ กันยายน 12, 2006, 06:56:23 PM ผู้มีอำนาจที่ไม่ชอบปืนก็เพราะทำไม่ดีไว้เยอะ .....กลัวประชาชนลุกฮือเข้ายึดอำนาจ....ถ้าปลดอาวุธจากชาวบ้านได้ก็เบาใจขึ้น....เป็นทัศนวิสัยของชนชั้นปกครอง...ที่ชอบข่มเหงรังแกผู้ใต้ปกครอง....ชอบอ้างประเทศมาเลย สิงคโปร์ ทำไม่ไม่อ้างอเมริกาบ้างครับ....ประเทศที่ท่านชอบอ้างล้วนเป็นอาณานิคมของประเทศอื่น....ไทยเราไม่เคยเป็นอาณานิคมของใครก็ควรจะอ้างเสรีภาพในการป้องกันตนเองแบบอเมริกาบ้าง...
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2006, 08:27:40 PM ราคาปืน 47,000 ถึงวันนี้ไม่แพงเลยนะครับ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: nowkung ที่ กันยายน 12, 2006, 09:27:13 PM เป็นความคิดของข้าราชการระดับ"ไดโนเสาร์"ที่ว่าหน้าที่ปกป้องพลเมืองดีเป็นของตำรวจเท่านั้นครับ
ส่วนประชาชนตาดำๆมีหน้าทีแจ้งความกับยกมือไหว้ขอชีวิตเท่านั้น หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 12, 2006, 09:39:42 PM คนโง่..คนขี้ขลาด..คนไม่มีอาวุธ..ปกครองง่าย 8)
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Kimber ที่ กันยายน 12, 2006, 09:48:56 PM ทางการคงพิจารณาแล้วครับว่า...ปืนไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่มนุษย์ต้องใช้ครับ
อีกอย่างนะครับ ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนดีจริง...ผีต้องคุ้มครับ ถ้าไม่คุ้มแสดงว่าเป็นคนไม่ดี สำหรับผมเอง...ดีบ้างไม่ดีบ้าง ขอมีปืนไว้อุ่นใจครับ หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Evil ที่ กันยายน 12, 2006, 10:19:36 PM ทุกอย่างมีหลายมุมมอง ถ้าผู้มีอำนาจมองแต่ในมุมแคบๆหรือมุมเดียวก็ลำบากหน่อยแหละครับ
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Khan Thee Bae ที่ กันยายน 12, 2006, 10:20:12 PM คนโง่..คนขี้ขลาด..คนไม่มีอาวุธ..ปกครองง่าย 8) ขอเพิ่มอีกนิด คนมีสตางค์น้อย(กินเงินเดือน)อย่างผมก็ปกครองง่ายเหมือนกันครับ ::) ::) หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ กันยายน 12, 2006, 10:55:16 PM ..ดูข่าวนี้แล้ว คิดถึงท่าน โค (ระ) ทม ... ชมัด...
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ กันยายน 12, 2006, 10:58:53 PM หน้าไม้ มีด เครืองช๊อตไฟฟ้า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะคราวนี้
...............เพิ่มเติมขอรับ และอาจจะเป็นอาวุธที่ต้องขึ้นทะเบียน "หนังสติ๊กขอรับ" ได้ข่าวว่าจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไว้ใช้ลาดตระเวนเฝ้าป่า.................... หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: g_abac ที่ กันยายน 12, 2006, 11:32:19 PM ถึงขั้นนี้แล้วถ้านายทะเบียนยังไงยอมพิจารณาชาวบ้านคงต้องหาปืนเถื่อนมาใช้แทนแล้วมั้ง โดนจับ ดีกว่าโดนโจรฆ่าตาย
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2006, 01:39:35 AM หน้าไม้ มีด เครืองช๊อตไฟฟ้า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะคราวนี้ ...............เพิ่มเติมขอรับ และอาจจะเป็นอาวุธที่ต้องขึ้นทะเบียน "หนังสติ๊กขอรับ" ได้ข่าวว่าจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไว้ใช้ลาดตระเวนเฝ้าป่า.................... คงต้องสั่งหนังสติ๊กกับเจ้าของการ์ตูนประจำเว็บนะครับ หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กันยายน 13, 2006, 08:55:03 AM ..ดูข่าวนี้แล้ว คิดถึงท่าน โค (ระ) ทม ... ชมัด... คนโง่..คนขี้ขลาด..คนไม่มีอาวุธ..ปกครองง่าย 8) ขอเพิ่มอีกนิด คนมีสตางค์น้อย(กินเงินเดือน)อย่างผมก็ปกครองง่ายเหมือนกันครับ ::) ::) ..ดูข่าวนี้แล้ว คิดถึงท่าน โค (ระ) ทม ... ชมัด... จริงๆๆนะหัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: jdp ที่ กันยายน 13, 2006, 01:07:14 PM ประชาชนคนธรรมดาเดินดิน จะมีอาวุธปืนนั้นแสนลำบากจะขอ .357 หรือ .45 ก็ว่าเป็นอาวุธร้ายแรงแต่ดูซิคนร้ายมีถึง .357 ไม่ทราบว่ามาจากไหน และไหนล่ะที่ว่าจะยึดอาวุธเถื่อนใครมีไว้ในครอบครอง อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งที่อยู่ทางใต้ที่ออกกฎหมายจำกัดอาวุธปืนประชาชน ช่วยออกมาแสดงความรับผิดชอบหน่อย ดีน่ะที่สามีเขายังไม่ตาย กฎหมายต้องว่าจากความเป็นมิใช่นั่งฝันกลางวันแล้วนำมาเขียน
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: montri รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2006, 02:03:15 PM ผู้มีอำนาจที่ไม่ชอบปืนก็เพราะทำไม่ดีไว้เยอะ .....กลัวประชาชนลุกฮือเข้ายึดอำนาจ....ถ้าปลดอาวุธจากชาวบ้านได้ก็เบาใจขึ้น....เป็นทัศนวิสัยของชนชั้นปกครอง...ที่ชอบข่มเหงรังแกผู้ใต้ปกครอง....ชอบอ้างประเทศมาเลย สิงคโปร์ ทำไม่ไม่อ้างอเมริกาบ้างครับ....ประเทศที่ท่านชอบอ้างล้วนเป็นอาณานิคมของประเทศอื่น....ไทยเราไม่เคยเป็นอาณานิคมของใครก็ควรจะอ้างเสรีภาพในการป้องกันตนเองแบบอเมริกาบ้าง... ชอบใจจังครับ ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมชอบยกตัวอย่างแต่สิงคโปร์ อย่ายกเอาคนประเทศอื่นมาข่มคนไทยเลย ชาติใครก็ชาติมัน หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: May 21 ** รักในหลวง ** ที่ กันยายน 13, 2006, 03:20:37 PM หรือว่ากลัวถูกล่า..
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กันยายน 13, 2006, 06:07:40 PM 8)
ครับ ชื่อทันสมัยจังครับ :VOV: คนในรูปสวมกางเกงสีสวยนะครับ ขออนุณาตแซวครับ ;D หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กันยายน 13, 2006, 06:11:05 PM คนโง่..คนขี้ขลาด..คนไม่มีอาวุธ..ปกครองง่าย 8) ครับ ขอเติมครับ คนฉลาดที่ยอมรอวันหน้าฟ้าใส....หลังฝนตกมีมากมายครับ นรกมีจริง กรรมมีจริง หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: nooknik ที่ กันยายน 13, 2006, 08:43:33 PM เมื่อก่อนเก่านะใช่ครับรัฐบาลมาจากทหาร กลัวประชาชนมีอาวุธ กลัวลุกหือต่อต้าน เนื่องจากยุคนั้นทหารคุมอำนาจ รัฐประหาร ยึดอำนาจกันเป็นว่าเล่น ใครมีกำลังมากกว่ามีอาวุธมากกว่าก็ได้เปรียบ นั่งกินกาแฟร้านโก ยังโดนข้อหาซ่องสุมเลย ;D เอ้า ขำขำ นะขำขำ
หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ กันยายน 13, 2006, 10:56:25 PM :VOV:
ครับ ทุกสมัยทุกยุคครับ ผู้ปกครองย่อมอยากรักษาอำนาจของตัวให้นานที่สุด :VOV: มีอำนาจต้องมีบารมีคู่ด้วย :VOV: หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Rz' club ที่ กันยายน 14, 2006, 01:58:20 AM ราคาปืน 47,000 ถึงวันนี้ไม่แพงเลยนะครับ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ณ เวลานี้ ถึงซื้อมาเป็นหลักแสน เขาก็คงไม่เสียดายหรอกครับพี่ :) :)หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Superpiya ที่ กันยายน 14, 2006, 06:32:09 PM ผมไม่สน ขายผมก็ซื้อ
เอางี้สิท่าน ใช้ปืนในทางที่ผิดก็เอาโทษให้หนัก หัวข้อ: Re: ถึงไม่อยากให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน เริ่มหัวข้อโดย: Haroshio Cane ที่ กันยายน 14, 2006, 08:11:36 PM :VOV: ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ
|