เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

หัวคะแนนไทยรักไทย เริ่มยุทธการข่าวลือ....

วันสองวันที่ผ่านมา ในหมู่บ้านและอำเภอรอบนอกของจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น นครพนม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ฯลฯ
เริ่มมีหัวคะแนนออกพูดคุยกับชาวบ้าน โดยให้ข่าวโจมตีคณะปฏิรูปฯ และหาแนวร่วมเพื่อปลุกกระแสมวลชนเข้าข้างทักษิณ

ว่าการปฏิรูปและการล้มล้างทักษิณในครั้งนี้เป็นผลงานของพวกคอมมิวนิสต์ ทักษิณต่างหากที่เป็นประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้ง และอย่าให้คอมมิวนิสต์เข้ามารุกล้ำมายึดอำนาจจากการเลือกตั้ง ฯลฯ


หัวคะแนนเหล่านั้นต่างหากที่นำวิธีการของคอมมิวนิสต์มาใช้เพื่อปลุกระดมมวลชน
เมื่อไรจะเลิกสร้างความแตกแยกสักที นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ผมต่อต้าระบอบทักษิณ
จะสร้างความแตกแยกเพื่อผลประโยชน์ไปถึงไหน

ด้วยความเคารพครับ......


ถ้าห้วไม่ส่าย หางคงไม่กระดิก ลมหายใจเฮือกสุดท้าย... :<< :<< :<<


ขอบคุณครับ.................

 :) อำนาจ และผลประโยชน์มันหอมหวานครับ ใครที่ได้เคยลองลิ้มชิมรสชาดแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ มันก็ต้องแสวงหาเพื่อให้ได้มาอีกครับ คนพวกนี้ไม่น่าเกิดเป็นคนไทยเลยทำลายได้แม้กระทั่งคนชาติเดียวกันเอง

ถ้าไม่ทำ อาจอดอยากปากแห้ง

ขอรอดูกระแสทางเชียงใหม่ก่อนครับ

ผมอาจจะเป็นคนโหดร้ายไปสักหน่อย
ไหนๆคณะปฎิรูปฯก็เสี่ยงชีวิตเพื่อชาติและราชบัลลังก์ไปแล้ว
จับมาเชือดไก่ให้ลิงดูสักคนสองคนคงไม่มีปัญหาอะไร  ช่วงนี้อยู่ในช่วงใช้กฏอัยการศึกอยู่แล้วนี่ครับ

   ไม่ได้ครับ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนคนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบให้ใช้กำลังรุนแรง

แถวที่ผมทำงานยังเงียบ ๆ อยู่ครับ หลบหน้าหลบตากันไม่เห็นเลย ;D

...จริงครับ  ยืนยันได้  คนใกล้ชิดรับฟังมาเอง  มีลิ่วล้อออกปล่อยข่าวลือจริงๆ "คอมมิวนิสต์ยึดกรุงเทพ" แถมด้วย "อภิสิทธิ์เป็นคนญวน" (หูยยย)  ::)

น่าโทรแจ้งคนแถว ๆ นี้นะครับ........พวกคางคกยางหัวไม่ตกไม่รู้สึก ครับ..............กฎอัยการศึกส่งสัยจะไม่รู้ว่าเป็นไง.......เพราะปรกติทำตัวซ่าอยู่เหนื่อกฎหมาย พอมีอะไรก็เกณคนไปล้อม หรือกดดันให้ปล่อยตัว.............. ;)

 ;D  ญวน  ยาเหล  ไม่รู้จะเตร่ไปหาใคร  จะซื้อเปลญวน...........  ;D

คุกเข่า ไขว้ขา มือไพร่หลัง แล้ว............ ฟาดด้วยหวายให้หลังลายดีไหมครับจะได้หลาบจำ

แล้วสุรนันท์ เวชชาชีวะละครับ เป็นฝรั่งเศษเหยอ  ::)

...ก๊อน่านน่ะซิ  ::)

เห็นแก่เศษเงินที่เขาฟาดหัว...อะไรมันก็ทำได้ไปหมด...ไม่ได้คิดถึงประเทศชาติเลย

เห็นด้วยกับการเชือดไก่ให้ลิงดูสักที....เชือดเงียบๆก้อด้าย....

ถ้าไปเที่ยวพูดแบบนั้นจริง ถือว่าเนรคุณต่อแผ่นดิน

คนพวกนี้เค้าตีค่าชีวิตคนอื่นแค่แบงค์ร้อยแค่สองสามใบเองหรือ

 ;D ;D ;D ;D ;D ตอนมีเงินมีอำนาจทำได้ทุกอย่างขนาดจ้างผีมาโม้แปงยังได้เลยครับ.....แต่ตอนนี้ซิหมดวาสนา...โดนปล่อยวัดฮิฮิฮิ!!!สม....ยังจะซ่าอีก ;D ;D ;D ;D ;D

...อิอิ  เอายังงี้ครับ  คนที่พูดเป็นญาติสนิทของสมาชิกพรรคการเมืองพรรคหนึ่งครับ  คงไม่ใช่ร้อยสองร้อยหรอกครับ

...ผมสงสัยว่าจะมีแผนและกระบวนการปล่อยข่าวนี้ครับ

 >:( >:( >:( นอกเรื่องได้ป่ะคะ มานอัดอั้นตันใจ  ไม่ชอบยายสุดารัตน์เล๊ยยยยย ให้ดิ้นตายสิเอ้า  she ชอบทำหน้าตาแป้นแล้นออกทีวี หยั่งกะเป็นนางเอกเลย :P :P :P

แค่ไม่ชอบหรือครับ

ผมล่ะอยาก................

 :).. ต้องรอดูเหตุการณ์ .. ระทึก. และการแสดงตัวหลงเป็นเป้า ..
      จะได้เห็นลายแทง. ชัดเจนขึ้น.

      ถึงจะพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่
      รายการเชือดไก่ ให้ลิงดู. ก็อาจยังมีความจำเป็น. ครับ .  :)
       

อยากอะไรครับ  :D :D ;D ;D

หลังจากปล่อยข่าวลือ ทางอินเตอร์เน็ทไม่ได้ ก็เล่นกันแบบปากต่อปาก ค่าหัวชาวบ้านไม่ใช่แบงร้อย2-3ใบนะครับ คราวที่เอาม๊อบไปชนม๊อบคราวที่แล้ว2-3000ตัวหัวนะครับเป้นอย่างน้อย(ถ้าไม่โดนหัวคะแนนโกง) เพราแถวบ้านกลับมาดีใจจนออกนอกหน้าเที่ยวโพทนาว่าคุณ เหลี่ยมดียังงั้นดียังงี้ เนี่ยเหลือกลับมาตั้ง3000แหน่ะ ผมฟังแล้วออน่ใจจัง น่าสังเวชใจ จริงๆ

คิดว่า ทหารข่าวกรองของคณะปฏิรูป ฯลฯ คงไม่ตกข่าวครับ ตอนนี้คงหมายหัวไว้แล้ว

ครับรายการต่อไปคงได้เชือดไก่ให้ลิงดูจริงๆ

พวกนี้ไม่รู้จะเกิดมาเป็นคนไทยทำไมกัน
เห็นแก่เงินไม่เท่าไหร่ ยุให้ชาติบ้านเมืองแตกแยก

เอท่าน "ตุ๊ศักดิ์"  นี้เป็น "ไข้ป้าง" ตัวจริงหรือเปล่าเนี่ย ... ;D

เชือดไก่... อาจดูโหดร้ายครับ...

เอาเป็น"เชิญไก่"มาไว้ใส่ไว้ในสุ่มไก่ดีกว่า... จะได้นั่งซักถามด้วยว่าใครหว่า อยู่เบื้องหลัง...

เมื่อวานนี้ 21 กย. 
ลูกน้องผมวิ่งหน้าตื่นมาถามผมว่า  ญาติที่ต่างจังหวัดโทรมาถามว่าจะยุบ อบต. หรอก

ผมก็ถามว่า  ข่าวมาจากไหน 

เขาตอบว่า  มาจากประกาศ ฉบับที่ 15 หรือ 16 นี่ละ  ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ปี 2540  ก็ทำให้ อบต ต้องยุบไปด้วย  แต่ เทศบาลไม่ยุบ

เฮ้ย...ไปกันใหญ่แล้ว ในตอนนั้น ประกาศมีแค่ฉบับ 13  คนปล่อยข่าวนี่มัน ชั่วช้าจริงๆ  อยากให้แผ่นดินไทยนองเลือดหรือไง

ผมก็เลยค้นประกาศจาก NET ให้ดู  ก็ยังไม่เชื่อกันอีก

สุดท้าย.....ผมรำคาญ  ก็เลยบอกไปว่า  " เออ..รัฐธรรมนูญ ปี2540 ยกเลิก  ก็โดนกันหมดและ นายก, คณะรัฐมนตรี ,สส. , สว. , องค์กรอิสระ ฯลฯ แล้ว อบต เป็นใคร ทำไมจะไม่โดนวะ ! "

...เป็นอาการปกติของ อาการเสี้ยนยา นะครับ ติดยาเสพติด(อำนาจ) จนเคยตัว มาบัดนี้คนให้ยาเผ่นแน่บไปแล้ว เกิดอาการลงแดง ตาขวาง หูตั้ง หางตก น้ำลายฟูมปาก เที่ยวไล่กัดคนไปทั่ว นะครับ ..อย่างนี้ต้องเอากระสอบมาใส่ แล้วมาจับฟาดพื้นให้หายซ่าส์...

การทำรุนแรงยิ่งจะก่อปัญหาเพิ่มขึ้นจนยากที่จะควบคุม.....

เอาแค่ว่าตีหัวให้ตาย...แล้วบอกความจริงให้กระจ่าง...ว่าคนที่ชาวบ้านหลงอำนาจเงินจนโงหัวไม่ขึ้น...

ทำอะไรกับประเทศชาติไว้บ้าง...

ไม่ชอบตั้งแต่เป็น  รมต. สาธารณสุข  แล้ว  ทำงานสนอง  need นาย  ไม่สนใจความจริง

    ผมละอยากให้ชุดปฏิรูป ฯ เอานักการเมืองที่ทุจริตโกงกินทั้งหลายติดคุกแล้วยึดทรัพย์ซะให้หมด
 เห็นปูดกันมาแต่ละเรื่องเอาผิดใครไม่ใด้เลย  ??? ??? ???

...มีการปล่อยข่าวก่อกวนออกมาเป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เมื่อวาน จนวันนี้ยังไม่เลิก ไปไหนมาไหนระวังกันหน่อยนะครับ...

ผมขออนุญาตหัวเราะดังๆหน่อยนะครับ

55555555555555555555555

คงลืมกันไปแล้วกระมังว่า มีการประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร.................

 :).. สถานการณ์. เหมือนยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ..
      อาจต้อง รอดู . ปรากฎการณ์. ของ พลพรรค รักทักษิณ .. ควบคู่ไปด้วย

      ยังเชื่อมั่น ธรรม ย่อมชนะอธรรม..  :)

แถวบ้านผม ก็มีคนมาชวนคุย มาถามว่า เราจะทำอย่างไรดี ผมบอก ทำมาหากินไปตามปกติ ไม่ต้องไปเชื่อใคร
ดูทีวี ตามข่าวเอาเอง

""" ;D ;D ;D ;D'''''''

หน้าแรกข่าว > การเมือง
 
 
  เส้นทาง2ขุนพลคู่ใจทักษิณ"เนวิน-ยงยุทธ"จากวันคืนสดใสสู่วันที่ร่วงโรย
 
โดย komchadluek วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 07:25 น.
 
 เปิดปูม "เนวิน-ยงยุทธ" สองอดีตรัฐมนตรีที่ได้รับเชิญรายงานตัวต่อ คปค. เนวิน ชิดชอบ และ ยงยุทธ ติยะไพรัช สองอดีต รมต.คู่ใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ชีวิตพลิกผันชั่วข้ามคืน จากขุนพลที่มีบทบาทสำคัญในฐานะกุนซือ มาวันนี้ถูกคณะปฏิรูปสั่งให้มารายงานตัว...และหากแข็งขืนอาจถูกตั้งข้อหา "กบฏ"

หากการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 เมษายน 2549 ไม่มีผลสรุปว่า "เป็นโมฆะ" และแม้ไม่มีชื่อของ นายเนวิน ชิดชอบ อยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ หรือ ส.ส.เขต แต่บทบาทของเขาที่ได้รับหน้ามอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้หลายคนในไทยรักไทยแอบอิจฉา เชื่อกันว่าหากหลังการเลือกตั้งครั้ง

นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับทำเนียบรัฐบาลได้อีกรอบ คนที่ชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" คงเป็นบุคคลต้นๆ ที่จะได้รับบำเหน็จความดีความชอบอย่างงามจากนายใหญ่และนายหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้า

แต่ในทางตรงกันข้าม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กลับมาอีก เนวิน และคู่หู "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ก็คงไม่พ้นที่จะเป็นบุคคลระดับต้นๆ ในบัญชีดำที่จะต้องถูกตามเช็คบิลจากฝ่ายตรงข้าม และก็จริงตามคาด แม้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันเมื่อมีการยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในคืนวันที่ 19 กันยายน ทั้ง สองคนก็ตกเป็นบุคคลในลำดับต้นๆ ที่คณะปฏิรูปฯ ส่งคนไล่ล่า และสั่งให้มารายงานตัว

อะไรที่ทำให้ชะตาชีวิตของ 2 ทหารเสือทักษิณ ที่เป็นคู่หูจัดตั้งมวลชน สร้างกระแส "ทักษิณ สู้ สู้" พลิกผันแค่ชั่วข้ามคืน

 ที่มาที่ไปของ นายเนวิน ชิดชอบ ที่อายุจะครบ 48 ปีเต็มในวันที่ 4 ตุลาคม 2549 พ่อคือ นายชัย ชิดชอบ เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ทั้ง ส.ท., ส.จ. และ ส.ส.หลายสมัย ที่เป็นที่รู้จักกันดี เมื่อเนวิน อายุ 27 ปี เขาเริ่มเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น ลงสมัคร ส.จ.ปี 2528 ช่วงนั้นเขาสำเร็จการศึกษารระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปี 2531 ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกในนามพรรคสหประชาธิปไตย และชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก และการเลือกตั้งครั้งนั้น “วีระ มุสิกพงศ์” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ถูกฟ้องในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยมี “ชัย ชิดชอบ” เป็นแกนนำ ผลการเลือกตั้งเนวินแจ้งเกิดได้ แต่กำนันชัย อดีต ส.ส.4 สมัย สอบตกครั้งแรกในชีวิต เพราะถูกม้ามืดอย่าง “วุฒิพงศ์ เหลืองอุดมชัย” จากพรรคเสรีนิยมเบียด

ส.ส.สมัยแรกของเนวิน เขาคว้าตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และช่วงท้ายของรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ ปี 2534 รับตำแหน่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลือกตั้งปี 2535/1 เนวินย้ายพรรคลงสมัครในนามพรรคสามัคคีธรรม ร่วมทีมกับ ดร.อนุวรรตน์ วัฒนพงศ์ศิริ ชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 เนวิน กับ อนุวรรตน์ สอบได้ แต่ ชัย ชิดชอบ สอบตกรอบ 2 และนี่คือทางแยกที่สำคัญของบุรีรัมย์ เมื่อ ”เนวิน” แตกคอกับอนุวรรตน์ กระทั่งเลือกตั้งปี 2535/2 เมื่อสามัคคีธรรมสลาย เนวิน กับ ชัย ลงสมัครในนามพรรคชาติไทย และชนะการเลือกตั้ง

ช่วงปี 2536-2537 บทบาทของเนวินโดดเด่นขึ้นในฐานะแกนนำกลุ่ม 16 ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของนักการเมืองหนุ่มที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ทั้งการอภิปรายในสภาที่ผ่านการทำการบ้านอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้น การขุดคุ้ยเรื่อง ส.ป.ก.4-01 ที่ฝากบาดแผลอันเจ็บปวดให้แก่ประชาธิปัตย์จนยากจะลืมเลือน

ความโดดเด่นของเนวิน ที่เปล่งรัศมีบดบังนักการเมืองรุ่นเก่าทำให้เขาได้รับบำเหน็จให้เป็น รมช.การคลัง ปี 2538 ต่อมาปี 2540 ยังได้รับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และช่วงนี้เอง ที่นอกจาก เนวิน จะเป็นผู้นำกลุ่มบุรีรัมย์ เต็มตัว ดูแล ส.ส.ในย่านอีสานใต้หลายจังหวัด และโดยอำนาจหน้าที่ของเขาทำให้มีโอกาสสูบแกนนำเกษตรกรหลายคนในการนำเสนอโครงการต่างๆ กับกระทรวงเกษตรฯ แล้วให้คนใกล้ชิดนำไปใช้เป็นเงื่อนไขในการสร้างมวลชนในระดับพื้นที่อย่างกว้างขวาง และหนึ่งในจำนวนนั้น มี "คำตา แคนบุญจันทร์" ที่ต่อมาเป็นหนึ่งในแกนนำคาราวานคนจน ที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อพรรคชาติไทยร่วมรัฐบาลทักษิณ 1 หลังการเลือกตั้งปี 2544 เนวินในฐานะผู้นำกลุ่ม ส.ส.บุรีรัมย์และอีสานใต้ ได้รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ และเมื่อการเลือกตั้งปี 2548 กลุ่มของเนวินย้ายเข้าไทยรักไทยเต็มตัว ช่วงแรกภายในพรรคมีการต่อต้านกระแส "ยี้" แต่โควตารัฐมนตรีก็ยังเป็นของเขา จนได้รับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ และต่อมาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อ 2 สิงหาคม 2548

ตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นักการเมืองหลายคนพยายามหลบเลี่ยงที่จะเป็น เพราะไม่ต่างกับรัฐมนตรีเทกระโถน หากแต่ เนวินกลับทำให้ตำแหน่งนี้มีราคาขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง นั่นเพราะเขารู้วิธีการสร้างราคาให้แก่ตัวเอง โดยการทำอะไรแบบสุดๆ จนหลายคนเรียกใช้บริการเขา

"สมัยก่อน คนเรายังโง่...วันนี้ต่อให้ผมมีมือมีเงิน แต่ถ้าทำงานไม่ได้ นายกฯ ก็ไม่ใช้ผม รัฐมนตรีก็ไม่ใช้ผม วันนี้ลองไปถามดูว่า รองฯ สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ใช้ผมหรือไม่ ก็ใช้...ท่านทนง (พิทยะ) ใช้ผมหรือไม่ ก็ใช้ เวลามีปัญหาอะไรที่เกี่ยวข้องกับผม ผมก็ทำหน้าที่ไปเท่านั้นเอง จุดสุดท้ายสำหรับชีวิตทางการเมืองผมคือแบบนี้แหละ ไม่ใช่ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่สำหรับผมคือ ถ้ามีปัญหา คนต้องนึกถึงเนวิน ผมต้องการจบชีวิตการเมืองเท่านี้" นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของเนวิน ที่กล่าวกับนักข่าว ซึ่งสะท้อนตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี

ในช่วงสถานการณ์กดดัน "ทักษิณ ออกไป..." เนวินกลายเป็นเงาตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในทุกหนทุกแห่ง จนเรียกว่าเป็น "ผู้จัดการ" ก็ไม่ผิด

การเดินสายต่างจังหวัดของ พ.ต.ท.ทักษิณ สลับกับการตรวจราชการในชนบท ถูกจัดอย่างเป็นระบบ ทั้งโครงการคาราวานแก้จน การแจกเอกสารสิทธิ ติดตามการดำเนินการ ตามโครงการเอสเอ็มแอล รวมทั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจพอเพียง และจบงานแต่ละวันโดยการปราศรัยใหญ่ โดยการสนับสนุนหลักจากกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มี เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นแม่งานใหญ่ โดยการจัดการของเนวิน ชิดชอบ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปไหนในต่างจังหวัด เนวิน จะเป็นผู้เก็บทุกรายละเอียด ตั้งแต่ออกแบบให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงคน ต้องรับดอกไม้ ผ้าขาวม้า และเข้าพบผู้นำชุมชน และการออกงานทุกครั้งจะต้องมีการซ้อมคิวอย่างละเอียด การพบกับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่แต่ละครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคอยชำเลืองดูเนวินว่าจะผายมือไปทางใคร จะเดินเข้า-ออกทางไหน ไม่ว่านายตำรวจติดตามจะกำหนดไว้อย่างไร หากเนวินจะเปลี่ยนกะทันหันก็ไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้าและ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเดินตาม

นั่นคือ "บารมี" ของเนวิน ที่ทั้งนักการเมือง และข้าราชการในต่างจังหวัดต่างรู้ซึ้งว่า เรื่องทุกเรื่องหากถึงมือเขาแล้วพลาดยาก

****************

นายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือ "ยุทธตู้เย็น” เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2504 จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การอาหาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ.2526 / ปริญญาโท สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2536 ก้าวเข้าสู่ถนนการเมือง ลงสมัคร ส.ส.จนได้รับการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2538 ในสังกัดพรรคเอกภาพ โดยการช่วยเหลือของ ดร.ฉัฐวัสส์ มุตตามระ อดีต ส.ส.เชียงราย สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ และบัวสอน ประชามอญ ที่ปัจจุบันหอบหิ้วมาอยู่ในพรรคไทยรักไทยด้วยกัน กระทั่งการเลือกตั้งปี 2539 “ยงยุทธ” เข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แถมได้แรงหนุนจากกระแสพรรคเทพ-พรรคมาร หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเดินเข้าสภาอย่างสง่าผ่าเผย ได้รับบำเหน็จให้เป็น เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ก่อนที่จะย้ายมาลงในนามพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2544 และได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนถึงปัจจุบัน

“ยุทธตู้เย็น” ได้ชื่อว่า เป็นคนที่ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ไว้ใจที่สุดคนหนึ่ง สามารถทำงานตามคำบัญชาอย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งในการเคลื่อนไหวปกป้อง “ระบอบทักษิณ” ต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ระยะที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่มีคนแวดล้อมของ “ยงยุทธ” เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว-ระดมพลในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรฯ ที่มี "อธิบดีเอี้ยง" นายดำรงค์ พิเดช เป็นอธิบดี การระดมมวลชนจากภาคเหนือเข้าก่อกวนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 13, 14, 15 ผ่าน อัครเดช สุขลักษณ์ ที่ปรึกษาด้านมวลชน 5 จังหวัดภาคเหนือ, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นักการเมืองในกลุ่ม รวมไปถึงกรณีการนำกำลังตำรวจบ้านจากเชียงรายเข้าอบรมที่ค่าย ตชด.327 กิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนจะยกพลเข้าก่อกวนเวทีเมืองไทยฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 ตลอดจนคาราวานรถอีแต๋นจากสายเหนือ ก็ออกจากห้องประชุมภายในบ้านพักของเขาเองที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นต้น

สำหรับ “นายเก่งกาจ ศรีหาสาร” เป็น 1 ใน 2 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ หลังจากเกิดเหตุขว้างระเบิดปิงปอง เวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 แต่เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวไป โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่ามีส่วนร่วมในการจุดระเบิดปิงปองครั้งนั้น

นายเก่งกาจ เป็นนักเรียนป่าไม้แพร่ รุ่นที่ 22 ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในยุคที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือ ยุทธตู้เย็น เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ขยับจาก ซี 6 ขึ้นเป็น ซี 8 รวมทั้งได้ดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและรักษาป่าที่ 3 (ภาคเหนือ)” ที่เปรียบเหมือนแม่ทัพภาคที่ 3 ของกรมอุทยานฯ คุมพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด

นายเก่งกาจถือเป็น “สายตรง” ของ “ยุทธตู้เย็น" และ "อด.เอี้ยง : ดำรงค์ พิเดช” ที่คนในแวดวงป่าไม้-กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ บอกว่า ในงานเทศกาลประจำปีทุกครั้ง หากใครจะส่งของขวัญอวยพรให้ “ยุทธตู้เย็น” ที่บ้านพักใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ต้องส่งผ่านมือ “นายเก่งกาจ” ที่จะไปนั่งประจำอยู่ทุกครั้ง

ความเคลื่อนไหวของ “นายเก่งกาจ” ในการรับใช้ “ระบอบทักษิณ” ปรากฏเด่นชัดตั้งแต่เวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมพินี ครั้งที่ 14-15 โดยเขาทำหน้าที่ประสานงานระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พื้นที่ภาคเหนือ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อก่อกวนการจัดเวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมพินี

เมื่อคราวเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 14 ที่มีขึ้นในวันที่ 13 มกราคม 2549 นั้น มีการระดมกำลังในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์หลายสำนักในภาคเหนือ-อีสาน รวมทั้งการจัดเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 ก็มีการระดมพลป่าไม้-เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง คราวนี้เป็นการเรียกลูกจ้างหน่วยป้องกันไฟป่า-ลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยป้องกันรักษาป่า ในสังกัดของสำนักบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 16 สำนักทั่วประเทศ จำนวนประมาณ 1,800-2,000 คน เข้าอบรมพร้อมกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นมีการเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายที่เวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 15 สวนลุมพินี ตั้งแต่เวลา 12.30 น. วันที่ 20 มกราคม 2549 ด้วยรถปรับอากาศชั้น 2 (ป.2) ทั้งสิ้น 36 คัน และรถสองแถวกับรถหกล้ออีกประมาณ 30 กว่าคัน ก่อนที่ “เก่งกาจ” จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นระหว่างการจัดเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 15 แต่ได้ปล่อยตัวไป จากข้ออ้างที่ว่า ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า “เก่งกาจ” เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ก่อกวนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์
 
 
 
 
   

 ;D นี่หนูลิงตะขบ แล้วเวลาตัวเองทำหน้าปื้นครึ้มออกเคเบิ้ลล่ะจ๊ะ :DD :DD :DD

ไปเจอมา..เป็นสรุปสั้น ๆ ...เลยเอามาให้ลองอ่านครับ....ใน...เรื่องของ "กฎอัยการศึก"..... ;D


กฎอัยการ หรือ กฎพระอัยการ คือกฎหมาย

ศึก แปลว่า สงคราม หรือภาวะสงคราม

กฎอัยการศึก จึงแปลว่า กฎหมายยามศึกหรือกฎหมายในภาวะสงคราม เป็นมาตรการทางกฎหมายอย่างหนึ่งของทหาร และเป็นกฎหมายที่เวลาปกติมีอยู่แต่ไม่ได้ใช้บังคับ เวลาจะใช้ต้องประกาศและกำหนดเขตพื้นที่ที่จะใช้ เป็นพื้นที่ใช้กฎอัยการศึก
 
กฎอัยการศึก

เป็นสิ่งสากลจำเป็นสำหรับทหารในประเทศ เมื่อประกาศใช้เหนือเขตพื้นที่ใดเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจะมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในบางเรื่องที่กำหนด ประชาชนต้องถูกรอนสิทธิ์เสรีภาพในบางเรื่อง จึงเป็นกฎหมายที่ถูกรังเกียจ แต่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาชาติประเทศให้อยู่รอดในภาวะวิกฤต


บางประเทศไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แต่บางประเทศก็ยอมรับและตราเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเปิดเผย เช่น ฝรั่งเศส ไทย

พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ฉบับนี้ ใช้อยู่จนปัจจุบัน มีสาระสำคัญ คือ 
 
1.การประกาศกฎอัยการศึก

จะเป็นไปโดยพระบรมราชโองการ หรือผู้บังคับบัญชาทหารที่มีกำลังอยู่


ใต้บังคับบัญชา ไม่น้อยกว่า 1 กองพัน ประกาศใช้ก็ได้ แต่การยกเลิกใช้กฎอัยการศึกจะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเลิกใช้เท่านั้น 
 
2.ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก

ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน


ในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฎิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร(มาตรา6) 
 
3.เมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในตำบลใด

เมืองใด มณฑลใด เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเต็มที่จะ ตรวจค้น ที่จะเกณฑ์ ที่จะห้าม ที่จะยึด ที่จะเข้าอาศัย ที่จะทำลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ และที่จะขับไล่ (มาตรา8)


 
 
4.ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างใด

ในเรื่องอำนาจที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามข้อ3. บุคคล หรือบริษัทใดจะร้องขอค่าเสียหายหรือค่าปรับอย่างหนึ่งอย่างใดแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไม่ได้เลย…(มาตรา 16)


 
 
"มาตรา 222 พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการประกาศใช้และเลิกใช้กฎอัยการศึกตามลักษณะและวิธีการตามกฎหมายว่าด้วยกฎอัยการศึก"



ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกเฉพาะแห่งเป็นการรีบด่วน เจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหารย่อมกระทำได้ตามกฎหมายว่าด้วยกฎอัยการศึก"
 
 
จากที่นี่....ครับ...http://fwmail.teenee.com/etc/921.html

       อืมม์    ...........    น้ำกำลังเชี่ยว      ใครคิดจะเอาเรือไปขวาง    ?       :D      (  น่าจะอยู่นิ่ง ๆ  ดีกว่า  )

                          คิดดูดี ๆ    ................    ที่จริงก็    ไม่ซับซ้อนลึกซึ้ง    เท่าไร    ........................       ;D

ตอนนี้  กองกำลังคอมมานโด(ซอยโชคชัย 4) วางอาวุธแล้วครับ  เพื่อมิให้เกิดความตึงเครียดระหว่างทหาร -ตำรวจ  เหลือเพียงปืนพกประจำกาย 

เห็นมีการพูดถึงกฎอัยการศึก ขอถามแทรกหน่อยครับว่า กฎอัยการศึกกับภาวะฉุกเฉินต่างกันอย่างไรครับทั้งในแง่อำนาจหน้าที่ของทหารกับข้อห้ามต่างๆของพลเรือน  :D  ในระหว่างที่ประกาศภาวะฉุกเฉินหรือกฎอัยการศึก ถ้าไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิวด้วย เรายังสามารถไปไหนมาไหนตอนดึกๆได้หรือเปล่าครับ

ตอนนี้  อาจจะมีชาละวัน มาขวางคลอง
รอดูสถานการณ์อีกสักวันสองวัน

'ทนง' กลับถึงไทยวันนี้  5 โมงเย็น ตามหลัง'สมคิด' ที่เดินทางกลับมาก่อนหน้าวานนี้ 

   ผู้สื่อข่าวกระทรวงการคลังรายงานว่า นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในช่วงเวลา 17.00 น. วันนี้ โดยใช้
เที่ยวบิน TG411 จากประเทศสิงคโปร์ถึงประเทศไทย ภายหลังเดินทางไปประชุม
ธนาคารโลกที่ประเทศสิงคโปร์ในระหว่างวันที่ 15-19 ก.ย.2549 ก่อนเกิดสถานการณ์
การปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข
จาก Efinancethai

..

.. ผมก็เห็นเหมือนกัน.. ครับ   ;D. หลายคน อาจเห็น หนังตะเข้ ตัวนี้ .. มีราคาขึ้นอย่างปัจจุบัน..
   แล้ว ตะเข้ .. อาจต้องรีบเลี่ยง มารักษา หนัง ตัวเองแทน..  ;D

ตอบตรงๆตามความจริงว่า

ไม่วางก็ไปเกิดใหม่ครับ ;)

 ;D ลูกพี่เข้ากรุไปแล้วนิ ;D

น่าจะยุบสนง.ไปเลยครับคุณอามะขิ่น ขอประทานโทษพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ที่เป็นตำรวจด้วย ตำรวจดีๆก็มี แต่ตำรวจไม่ดีมากกว่า กองทัพที่ไร้ระเบียบวินัย เห็นแก่ได้รีดไถประชาชนก็คือกองทัพโจรดีๆนี่เองครับ
อยากเล่าความรู้สึกให้พี่ๆเพื่อนๆทุกคนฟังจากใจตั้งแต่ประกาศกฏอัยการศึก ผมรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากๆ คืนนี้ผมพึ่งกลับจากไปเที่ยวที่ escudo ซอยทองหล่อมา ปลอดภัยจริงๆไม่ต้องคอยระวังว่าจะมีใครมาหาเรื่องรีดไถ ตลอดเวลาที่เทียวและระหว่างทางที่กลับบ้านรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยจริงๆ อยากให้ประกาศกฏอัยการศึกตลอดไปด้วยซ้ำ บ้านเมืองที่ปราศจากตำรวจและการเมืองรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นที่จะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระชนได้สูดกลิ่นอายเสรีภาพจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ 2 ผมออกจากบ้านโดยไม่พกปืนในรอบหลายๆปีที่ผ่านมาโดยไม่ต้องกลัวโจรในเครื่องแบบ ที่ผ่านมาในในรัฐบาลที่มาจากประชาชนรัฐที่อำนาจพิทักษ์สันติราษฎร์อยู่ในมือตำรวจ สารภาพตามตรงว่า ไปไหนมาไหนผมพกปืน 3 กระบอก(เพื่อนๆลองทายดูว่าอะไรบ้างใครทายถูกมีรางวัล) เหตุที่พกปืนหลายกระบอกไม่ได้กลัวโจรผู้ร้ายแต่กลัวโจรในเครื่องแบบที่มาทีเป็นสิบ แล้วหาเรื่องรีดไถกลั่นแกล้งประชาชนบริสุทธิ์มากกว่าลองคิดดูเล่นๆว่าเวลาฝนตกก็เก็บด่านแค่นี้ก็มีเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะรู้เจตนาว่าพวกมาเฟียเหล่านี้ตั้งด่านเพื่อพิทักษ์ประชาชนหรือรีดไถประชาชน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาผมยึดหลักดำเนินชีวิตว่า ตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่มีวันยอมให้มาเฟียในเครื่องแบบรังแกรีดไถอย่างเด็ดขาด ในความคิดส่วนตัวผมเชื่อว่าปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ก็มีเหตุนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่น้องไทยมุสลิมคับแค้นใจครับ

น่าจะยุบสนง.ไปเลยครับคุณอามะขิ่น ขอประทานโทษพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ที่เป็นตำรวจด้วย ตำรวจดีๆก็มี แต่ตำรวจไม่ดีมากกว่า กองทัพที่ไร้ระเบียบวินัย เห็นแก่ได้รีดไถประชาชนก็คือกองทัพโจรดีๆนี่เองครับ

ด้วยความเคารพครับ ผมไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการยุบหรือยกเลิกหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะหน่วยงานเป็นเรื่องของระบบ แต่พฤติกรรมเป็นเรื่องของบุคคล

ในความเห็นส่วนตัวนะครับ
ยังไงเรื่องการดูแลชีวิตและทรัพย์สิน การแจ้งเหตุร้าย และ การดูแลความสงบเรียบร้อยภายใน ยังไงผมก็ยังมองว่าเป็นงานของตำรวจ ซึ่งเราจะปฏิเสธระบบนี้ไม่ได้ครับ

ส่วนงานด้านทหารจะเป็นเรื่องของการดูแลเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกินกว่าตำรวจจะสามารถดูแลได้

เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นอันเกิดจากบุคคล ผมว่ามีทุกหน่วยงานครับ ถ้าบุคคลผิดก็ลงโทษที่บุคคล ถ้าหน่วยงานเป็นส่วนทำให้เกิดปัญหาก็แก้ปัญหาที่ระบบที่มีปัญหา การยกเลิกระบบไปเลยกับจะสร้างปัญหามากขึ้นซะมากกว่าครับ

มีหลายเรื่องที่ผมเห็นด้วยกับคุณ Nars แต่เรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ

ขอบคุณครับคุณโจที่ท้วงติงในประเด็นเหล่านี้ หลักการเกี่ยวกับตำรวจน่ะดีแต่ปัญหาเกิดจากผู้ปฏิบัติอย่างที่คุณโจบอกครับ โดยส่วนตัวผมอาจจะมีความทรงจำไม่ดีเท่าไหร่เกี่ยวกับตำรวจตั้งแต่เด็กเนื่องจากตั้งแต่ผมจำความได้ผมเติบโตขึ้นมาโดยมีคุณตาและคุณยายคอยดูแลคุณตาผมเคยเป็นตำรวจในสมัย เผ่า ศรียานนท์ แล้วท่านลาออกมาอยู่บ้านทำสวนตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ท่านบอกว่าไม่อย่างนั้นท่านอาจจะทำอะไรรุนแรงกับนายของท่านน่าแปลกใจเหมือนกันที่คุณตาผมเลือกเป็นตำรวจทั้งๆที่คุณทวดและพี่น้องของคุณตาเป็นทหาร และในปัจุบันเพื่อนสนิทผมสมัยเด็กๆเป็นตำรวจแต่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวเขาเป็นทหาร ทำให้เขาถูกปลูกฝังมาแบบทหารที่รักชาติรักเกียรติศักศรีดิ์ รักความถูกต้อง แต่พอเข้ามาในระบบตำรวจเขาก็มีปัญหากับนายเพราะทุกอย่างที่แวดล้อมมันกลายเป็นการแก่งแย่งชิงดีหาผลประโยชน์ ตลบแตลง กลับกันหมดกับสิ่งที่เขาได้รับการปลูกฝังมาแต่เด็ก เพราะโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สถานบ่มเพาะนายตำรวจ นรต.เกือบทุกคนที่เข้าโรงเรียนนี้ก็คิดอยากจะรวย อยากจะกอบโกยให้ได้มากที่สุดจากอาชีพตำรวจ จะมีสักกี่คนที่อยากจะทำอาชีพนี้เพราะอุดมการณ์ ผมอาจจะเขียนเรื่องไม่จริงก็ได้แต่ถ้าใครมีเพื่อน หรือคนในครอบครัวเป็นตำรวจ ลองถามตรงๆเลยว่าระบบตำรวจเป็นแบบนี้จริงไหม หากจะแก้ปัญหานี้จริงๆจะต้องแก้ที่โรงเรียนนรต.โดยเปลี่ยนคณะครูอาจารย์ทั้งหมดเอาคนที่ไม่ใช่ตำรวจมาสอน นรต.รุ่นใหม่อาจจะหล่อหลอมออกมาพัฒนาสังคมไทยมากกว่าเป็นปัญหาให้สังคมไทยครับ

กฎอัยการศึกครับ

http://www.schq.mi.th/knowledge.htm

..จากประกาศ หรือคำสั่ง ของ คปค มีอยู่ฉบับหนึ่ง..
  เหมือนจะเป็นการปรับโครงสร้าง ของหน่วยงานตำรวจ ที่จะให้เป็นอิสระ จากนักการเมือง.. ครับ  

ดูเหมือนจะเปลี่ยนตัว กตร.เท่านั้น
โครงสร้างของตำรวจไทย   ยังขาดระบบตรวจสอบภายในที่เข้มแข็ง
ประเทศส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีกระจายอำนาจตำรวจออกไปให้ขึ้นกับส่วนปกครองท้องถิ่น   มีไม่กี่ประเทศที่ใช้โครงสร้างปิรามิด (เหมือนกองทัพ) แบบไทย

ถ้าจะโอนงานตำรวจไปให้ อปท. ณ.ปัจจุบันผมว่าให้เป็นแบบปิรามิดแบบเดิมจะดีกว่าครับ..................ไม่งั้นจะยุ่งเป็นลิงแก้แห เลยครับ :)

ขออนุญาตครับ....เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยนับถือและให้เกียร์ติ ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้รับโอกาสเข้ารับกระบี่จากองค์พระประมุขของประเทศ....ดังนั้นมาตรฐานด้าน จริยธรรม มโนธรรม คุณธรรม ความรู้จักผิดชอบชั่วดี....จะต้องมีสูงมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป .......แต่เท่าที่พบเห็นมากลับอาศัยความเหนือกว่ามารังแกคนที่มีโอกาสน้อยกว่า......ทำให้หลายท่านเลือกที่จะเคารพนับถือตัวตนที่เป็นสุภาพบุรุษมากกว่าเครื่องแบบที่สวมใส่........ขอบคุณมากครับผม

ใช่ครับพี่ ..... แล้วเขารู้กันบ้างรึเปล่าว่ากฏอัยการศึกนั้นมีผลเป็นอย่างไร 5555 :DD :DD :DD

ลือ'ทักษิณ'สู้ สั่งแกนนำทรท.รอสัญญาณเคลื่อนไหว

23 กันยายน 2549 16:33 น.
แหล่งข่าวในพรรคทรท.อ้าง"ทักษิณ"สั่งการให้แกนนำพรรคที่ไม่ถูกกักตัว รักษาบทบาทพรรคแก้ต่างข้อถูกกล่าวหาต่างๆ และรอสัญญาณเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : แหล่งข่าวจากพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค ยังมีการประสานงานมายังแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่ไม่ถูกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) เพื่อให้รักษาบทบาททางการเมืองของพรรคไว้ รวมทั้งออกมาชี้แจงข้อถูกกล่าวหาในประเด็นต่างๆด้วย

แหล่งข่าวระดับแกนนำคนนี้ ระบุอีกว่า ในช่วงที่มีการทำการรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติดต่อมายังประเทศไทยผ่านทางนายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรค แต่ล่าสุดเมื่อทั้ง 2 คน ถูกควบคุมตัวไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้ประสานมายังแกนนำพรรคที่ดูแลในส่วนของทีมเลขาธิการพรรคและทีมโฆษกพรรคคือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรค และนายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคแทน

"ท่าทีของคุณทักษิณ ยังไม่ยอมแพ้ ตอนนี้รอจังหวะที่จะกลับมาสู้แน่ ท่านยังย้ำเสมอว่า สมาชิกพรรคที่ยังอยู่ในเมืองไทย จะต้องรักษาพรรคไว้ พรรคไทยรักไทยจะต้องอยู่ต่อ ให้รอสัญญาณที่จะเคลื่อนไหวในส่วนอื่นๆ ต่อไป"

นอกจากนี้ มีรายงานว่า คนใกล้ชิดนายภูมิธรรม ระบุว่า เขายังคงอยู่ในเชฟเฮ้าท์แห่งหนึ่งในกทม.

สำหรับข่าว บุตรชายและบุตรสาวคนเล็ก ของพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศนั้น มีรายงานอีกกระแสหนึ่ง ระบุว่ามีคนพบนางสาวแพรทองธาร ยังอยู่เมืองไทย ขณะที่ นายพานทองแท้ ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน แต่เชื่อว่ายังอยู่เมืองไทย โดยโอนสายโทรศัพท์ให้คนติดตามเป็นผู้รับสาย
 
 http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/24/c001_140168.php?news_id=140168

.. ถ้าชัดเจน.. อาจได้รับคำสั่งให้.. บุคคลเหล่านั้น ไปรายงานตัว อย่าง
   นายยุด ตู้เย้น กับนายห้อย ร้อยยี่สิบ.. หรือทำการจับกุม ได้ทันที .

   ก่อนมาถึงวันนี้  ต้องยอมรับว่า.. มีอะไร ที่เราไม่รู้..
   แต่ คปค. รู้. การข่าวต้องกรองดีอย่างมาก.
   รู้เขา รู้เรา  ผมเชื่อมั่น คปค.. ว่ากุมหลักการนี้อย่างมั่นคง  .

   และมีความพร้อม ที่จะสนองตอบ.. ลิ่วล้อ เหล่านั้น ได้ทันการณ์.  :)

 :). มีประกาศล่าสุดของ คปค. เพื่อสนองตอบ เรื่องนี้
                        เมื่อ ๑๐  นาที.. ออกมา แล้วครับ  :)

ขอบคุณคุณ submachine พอดียังงงๆเรื่องกฎอัยการศึกกับภาวะฉุกเฉิน  :D

ทำไมไม่เป็นหนึ่งเดียวกันซะทีครับ ประเทศเราจะได้เป็น ไท สมซื่อซะที

   

     เมื่อเช้าดูข่าวมีการเปรียบเทียบมูลค่าหุ้นที่เกี่ยวข้อง
     กับตระกูลชินวัตร มีมูค่าลดลง  แสนกว่าล้านบาท
     นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องการอยู่ในอำนาจต่อเพือปกป้องทรัพย์สินของ
     ตระกูล ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนที่ชอบอ้าง

..เพื่อนรุ่นเดียวกันที่แม่สาย เชียงรายโทรมาบอกว่า" อยากได้สัตว์ตระกูลตระกวดเอาไปเลี้ยงแถวจันทบุรีไหม ที่นี้เยอะเหลือเกิน เพราะเข้าฝากให้ ยุด ตู้เย็น ตอนเข้ารายงานตัว เลี้ยงไม่ไหวแล้วต้องเจียดงบน้ำท่วมไปซื้ออาหารให้พวกมัน..ผมเลยบอกว่า ..ไม่เอา ถ้าเป็นตระกวดเอาอยู่"..คนที่ปลุกกระดมชาวบ้าน จับมันยัดถังน้ำมัน200ลิตร เผาแ_งมัน โยนลงน้ำชี น้ำมูล และน้ำโขงซะ ..

นั่นแค่ส่วนหนึ่งครับ
แต่ทั้งหมดที่มันอยากได้คือทั้งประเทศ  เหมือนกาฝาก  ต้นนิดเดียวดูดน้ำเลี้ยงให้ต้นมะม่วงยืนต้นตายได้   คิดดูแล้วกัน  มันตะกละขนาดไหน

อยากให้จบไวๆ ;D ;D ;D  พอแล้ว

เขาว่าอย่างไรครับ  ;D ;D ;D ถ้ายังไม่จบรอบหน้ามีเสียเลือดเนื้อแน่นอน  ;D ;D ;D

หัวหน้าคณะปฏิรูป เข้าพบ'ป๋าเปรม' ที่บ้านพักสี่เสาฯ บ่ายนี้

                 ผู้สื่อข่าวรายงานวา วันนี้ เวลาประมาณ 15.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้า
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ได้
เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศน์ โดยมีผู้สื่อข่าวรอทำ
ข่าวเป็นจำนวนมาก

*******
คปค.ยัน จะสนับสนุน 'สุรเกียรติ์' ชิงเลขาฯยูเอ็น โดยใช้งบฯกลางของเงินงบประมาณในการหาเสียง   

   พันตรีหญิง ดวงกมล  เทวาพิทักษ์  ผู้ช่วยโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เปิดเผยว่า
คปค.เห็นชอบให้การสนับสนุน ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ชิงตำแหน่งเลขาธิการสห
ประชาชาติ และสนับสนุนการหาเสียงของดร.สุรเกียรติ์ โดยอนุมัติให้ใช้ค่าใช้จ่าย
จากงบกลางของเงินงบประมาณในการหาเสียง

*******
คปค. ยืนยันจะไม่ยกเลิกกองทุนหมู่บ้าน -SML-และ 30 บ.รักษาทุกโรค เหตุเป็นประโยชน์กับปชช.   

   พันตรีหญิง ดวงกมล  เทวาพิทักษ์  ผู้ช่วยโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เปิดเผยว่า พลเอกสนธิ บุญยรัต
กลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เรียนให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้มีข่าวลือข่าวปล่อยเกี่ยวกับการที่ คปค.จะยกเลิกโครงการเกี่ยว
กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนเมือง
หรือ SML และโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้ง 3 โครงการ
โดยปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวและขอให้มีการดำเนินการตามเดิมทุกประการ
                    'เนื่องจากเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการดำรงชีพและพัฒนา
คุณภาพชีวิต โดยขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกัน
การสับสนและเกิดความเข้าใจผิดอันส่งผลต่อการดำเนินการของ คปค. ในการสร้างความรู้รัก
สามัคคีเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง'  

******
คปค. เผย เตรียมทำงบฯปี50 เป็นงบขาดดุล หวังกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้กรอบการคลังที่
ยั่งยืน 

   ร้อยเอกนายแพทย์ ยงยุทธ  มัยลาภ ผู้ช่วยโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.  เปิดเผยภายหลังการประชุมของ
ว่าหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(คปค.)  ว่า มีการรับทราบข้อมูลการจัดทำงบประมาณปี 2550 ในลักษณะงบขาดดุล ภายใต้กรอบ
การคลังอันยั่งยืนจากปลัดกระทรวงการคลังและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง รวมทั้งผู้อำนวย
การสำนักงบประมาณได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณเป็นประมาณการเบื้องต้นของราย
รับและรายจ่าย
                    ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวมาจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2549 ซึ่งผู้รับผิด
ชอบได้ให้ความมั่นใจว่าการจัดทำงบประมาณปี 2550 สามารถดำเนินการได้ในลักษณะงบขาด
ดุลภายใต้กรอบการคลังอันยั่งยืน โดยทิศทางการพัฒนาควรเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และ
สังคม และคำนึงถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่ประชุมรับทราบข้อมูลเบื้องต้นและให้หน่วยงานที่
เกี่ยวข้องรับผิดชอบจัดการการประชุมปรึกษาหารือกรอบวงเงินของแต่ละกระทรวงในด้านรายจ่าย
ประจำขั้นต่ำ รายจ่ายตามภาระผูกพันและวงเงินสำหรับภารกิจพื้นฐานและภารกิจยุทธศาสตร์ก่อน
กำหนดกรอบงบประมาณที่ชัดเจนอีกครั้ง

ลูกหาบ ทรท.เตือนสอบทรัพย์สินตามกระแส - ระวังเดือดร้อนภายหลัง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2549 15:04 น.
 
 
   
 
 
       ลูกหาบ ทรท.เตือน คปค.อย่าตรวจสอบทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรี “รัฐบาลแม้ว” ตามกระแส ยกอดีตสมัย รสช.ขู่ ระบุถ้าไปถึงขั้นศาลแล้วเอาเอาผิดไม่ได้เจ้าหน้าที่จะเดือดร้อนในภายหลัง
       
       วันนี้ (25 ก.ย.) นายเอกพร รักความสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงบทบาทของพรรคไทยรักไทยภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจ ว่า ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆ คงจะทำอะไรได้ยาก คงต้องรอดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คปค.จะร่างออกมา ซึ่งจะสะท้อนถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมีการยกร่างขึ้นมาอีกด้วย
       
       นายเอกพร กล่าวว่า ในสถานการณ์แบบนี้เวลาที่ใช้ในการร่างรัฐธรรมนูญควรที่จะสั้นที่สุด การจะสร้างอำนาจในรัฐธรรมนูญต้องดูบทเรียนในอดีตพอสมควร สิ่งไหนที่เป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับประเทศไทยจะต้องคิดให้ดี ตนมองว่าวิธีที่ดี คือ ไม่ควรใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมด แต่น่าจะไปเขียนรายละเอียดขึ้นมาใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญตนอยากให้ลดสัดส่วนของ ส.ส.รวมถึงการพิจาณาที่มาของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และควรสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ให้รัฐธรรมนูญเป็นฉบับสั้นๆ ไม่ควรจะเขียนรายละเอียดมากจนเกินไป เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บางเรื่องที่เขียนเอาไว้ก็ไม่ได้นำมาใช้ หลายเรื่องเป็นนามธรรม ไม่มีสภาพบังคับ ไม่ควรที่จะใส่ลงไป เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา จะเห็นได้ว่า ไม่มีบทบาท เป็นเสมือนเพียงคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนอะไรได้ ซึ่งในหลายๆองค์กรมีลักษณะแบบนี้ ส่วนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้น หากสามารถทำเป็นระบบได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี อาจจะตั้งขึ้นมาเป็นองค์กรที่สังกัดอยู่ในระบบศาลก็ได้
       
       “เราควรคิดทำอะไรเองให้เหมาะสมกับประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องลอกจากต่างประเทศอย่างเดียว รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เขียนเอาไว้กว่า 300 มาตรา ความจริงเขียนหลักๆ ให้ชัดเจนเพียง 50 มาตราก็พอแล้ว” นายเอกพร กล่าว
       
       นายเอกพร กล่าวต่อว่า วิกฤตทางการเมืองขณะนี้น่าจะพิสูจน์ถึงความเป็นพรรคไทยรักไทยว่า จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้หรือไม่ ส่วนตัวยังเชื่อว่า พรรคไทยรักไทยมีฐานรากที่แน่นหนากว่าพรรคการเมืองในอดีต ที่เมื่อมีการปฏิวัติเกิดขึ้น พรรคการเมืองก็จะแตกกระจัดกระจายกันไปหมด แต่เมื่อดูพรรคไทยรักไทยในวันนี้ ทั้งนโยบายและเสียงตอบรับจากประชาชน คิดว่าจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่า สถานการณ์ที่เป็นแบบนี้จิตใจและความมุ่งมั่นของคนจะยังมีอยู่หรือเปล่า ขณะนี้พรรคไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นองค์รวม เนื่องจากไม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ความเห็นที่ออกมาจึงเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าพรรคมีปัญหา
       
       สำหรับกรณีที่ คปค.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทยนั้น นายเอกพร กล่าวว่า เป็นการกระทำตามกระแสและความรู้สึกว่ามีการโกงและทุจริตเกิดขึ้น จึงอยากให้ คปค.เข้าไปจัดการ ซึ่งในสมัย รสช.ก็มีการตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี แต่ก็ยอมรับว่าไม่สำเร็จ และในที่สุดศาลก็ตัดสินว่าเป็นโมฆะ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.อย่างเข้มงวด จึงขอให้การตรวจสอบอย่าเป็นเพียงแค่กระแสเท่านั้น ส่วนผลที่ออกมาสังคมจะพิพากษาได้ แต่ปัญหาจะเกิดกับผู้ปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่
       
       นายเอกพร กล่าวด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้ว ขอเรียกร้องให้ คปค.สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งในแง่ของวัตถุและระบบรัฐสภา โดยในแง่ของวัตถุควรจะระบุให้ชัดว่า สถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ควรจะเป็นที่ใด รวมถึงการจัดทำหอสมุดรัฐสภาด้วย สำหรับระบบการจัดการของรัฐสภานั้น ควรออกเป็น พ.ร.บ.บริหารกิจการรัฐสภาขึ้นมาเป็นการเฉพาะ เพื่อกำหนดหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว.อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการทำหน้าที่ซ้ำซ้อน เนื่องจากการปกครองของประเทศไทยใช้ระบบรัฐสภา แต่กลับไม่มีความเชื่อ กลับหันไปสนใจฝ่ายบริหารแทน ซึ่งในขณะนี้มีปัญหาในเรื่องของฝ่ายบริหาร จึงอยากเรียกร้องให้ คปค.เข้ามาจัดการ
 
 

ทรัพย์สินที่ตระกูลนี้ใช้อำนาจเพื่อให้ได้มาโดยมิชอบน่าจะประมาณ ห้าแสนล้านบาทครับ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ยื้ออำนาจเพราะกลัวเรื่องซื้อหุ้นชินคอร์ปจะบานปลายเนื่องจาก เงินที่ temasec ลงทุนผ่านผู้ถือหุ้นที่เป็น นอร์มินี่ใน กุหลาบแก้ว และไซเปรสลงทุนในหุ้นสามัญจริงๆแค่หมื่นกว่าล้านบาท ที่เหลือกู้จากธนาคารพานิชย์ที่สิงค์โปร์ถือหุ้นใหญ่ แสนกว่าล้านบาทโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หากหุ้นชินคอร์ปราคาตก และไม่มีอำนาจการเมืองหนุนหลัง จะทำให้ สาวเรื่องราวไปเอาผิดผู้บริหารธนาคารและผู้ถือหุ้นทั้งหลายได้ที่เอาเงินประชาชนไปให้กู้ในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าคปค. ปปช.และธปท.เล่นงานจุดนี้อีกจะ รักษามะเร็งร้ายเศรษฐกิจไทยได้อย่างถาวรครับ เพราะจะมีหนี้เสีย ขับไล่และยึดธุรกิจธนาคาร เส้นเลือดเศรษฐกิจไทยกลับคืนมาเสียที่ครับ ความเสียหายใจจุดนี้ไม่ค่อยมีคนนึกถึงแต่ จริงๆแล้วร้ายแรงมากเพราะหมายถึงการครอบงำที่เสียหายต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งประเทศครับ

นายทักฯ อาจจะอยากกลับมาเพื่อ "ปกป้องความเป็นประชาธิปไตยชองชาติ " เห็นพูดกับสื่ออยู่ตลอดว่าผมมาจากการเลือกตั้ง  แต่ตอนนี้ขอขนสมบัติไปนอกก่อน เดี๋ยวเอากลับมาแจกใหม่  ตอนนี้สัตว์ต่างๆที่เลี้ยงไว้ เริ่มโหยหาแล้วครับ