เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ด้วยความเคารพครับ.....

อดีตนายกรักษาการ ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า "ถ้าให้สหประชาชาติเข้ามาควบคุมการเลือกตั้งแล้ว พรรคไทยรักไทย จะชนะการเลือกตั้ง"  จริงเท็จแค่ไหนครับรับฟังจากข่าวมาอีกทีครับ
ถ้าจริง ถือว่า เห็นแก่ตัวอย่างไม่คำนึงถึงประเทศชาติเลย ถ้าพูดอย่างนี้ออกมาจริงจะมีแต่ผลเสียต่อ
ประเทศชาติบ้านเมือง แล้วไอ้ตัวไหนที่ชอพูดว่า "สหประชาชาติไม่ใช่พ่อ"... >:( >:(

ขอบคุณครับ................

แถวบ้านผมเรียกว่า ดิ้นตาย ครับ

"ทักษิณ"เชื่อทรท.ได้เป็นรัฐบาลอีก หากยูเอ็นจัดการเลือกตั้ง

( 21 ก.ย.49 )21 ก.ย. -- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงกรุงลอนดอน เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย โดยเป็นการเดินทางส่วนตัว และไม่มีกำหนดเข้าพบกับเจ้าหน้าที่คนใดของรัฐบาลอังกฤษ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กรุงลอนดอน โดยยอมรับชะตากรรมทางการเมืองว่า ได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวทิ้งท้าย เกี่ยวกับท่าทีที่จะหวนกลับมาเล่นการเมืองว่า หากประเทศไทยมีการเลือกตั้งภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ ก็เชื่อว่าพรรคไทยรักไทย มีโอกาสจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ด้านรัฐบาลอังกฤษแถลงว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพำนักอยู่ในอังกฤษ เป็นเวลานานเท่าใด แต่ก็เป็นไปได้ที่อาจพำนักอยู่ระยะยาว เนื่องจากบุตรสาวยังคงศึกษาอยู่ในอังกฤษ พร้อมกันนี้รัฐบาลอังกฤษได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองของไทย แต่ก็ยืนยันว่า รัฐบาลอังกฤษ จะไม่เข้าร่วมต่อสู้ หรือสนับสนุนให้รัฐบาลชุดก่อนของไทย กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ส่วนสถาบันมูดี้ส์ ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของโลก ยังคงมองภาพพจน์ของประเทศไทย อยู่ในระดับปกติ โดยประกาศคงสถานะความน่าเชื่อถือของไทยในระดับเดิม หลังการรัฐประหาร  

http://www.nationchannel.com/rev/news170.html

...อยากด่าจริงๆ  แต่เวบมาสเตอร์ขอความร่วมมือไว้   :-\

แก้คำผิด เป็น สัมภาษณ์  ;D

ก็แค่ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง พูดสร้างภาพให้กับตัวเองแหละครับ  :P

อือ... สงสัยว่าจะพูดปลอบใจตัวเองมังครับ  :D

แล้วตอนนี้เมืองไทยเกิดเหตุการณ์ ป่าเถื่อน นองเลือด ถึงขนาดต้องเอา  UN เข้ามาดูแลหรือไง???  เอ......พูดแบบนี้ได้ไง....ไม่สร้างสรรค์เลย  อย่าทำลายเมืองไทยอีกเลยนะท่านนะ  พอเถอะ....

...โถ..แล้วก่อนหน้านี้ พรรคไหน บีบให้พรรคอืนยุบพรรคมารวมกับตน ซื้อเสียง จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง เวียนเทียนผู้สมัคร ชักใย กกต. แทรกแทรงสื่อ องค์กรอิสระ ใช้ภาษีประชาชนมาหาเสียง.....พูดได้ไม่อายปาก...

แผ่นดินเกิดของตัวเองแท้ๆ กลับไม่เคยให้ความเคารพนับถือเลย ช่างเป็นไปได้ ???

ฮึ ฮึ หึ

 :) ผมว่าตลกมากเลย UN ไปเกี่ยวอะไรด้วย เรามีอธิปไตย พึ่งรู้.....ว่าคนที่เริ่มหมดทางที่จะไปมันอย่างนี้นี่เอง

จำไว้นะครับว่าทักษิณพูดอะไร บอกต่อให้ลูกหลานเราด้วย  การดึงเอาUN.มาจัดการ
เลือกตั้งใช้ประเทศบ้านป่าเมืองเถื่อนเท่านั้นเช่นอิรัก  อาฟกัน  แล้วประเทศไทย
ของเราเป็นอย่างนั้นหรือ  พูดอย่างนี้ภาพพจน์ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เสียทีที่เกิด
เป็นคนไทย ไม่รักชาติเลย

อืมมมมม  ที่เค้าว่า"หมาจนตรอก"เป็นแบบนี้่น่ะเอง

ถ้าประชาคมโลกไม่เล่นด้วย   คุณ ทักษิณ คงไปฟ้องมนุษย์ต่างดาวมั้ง  หนักใจแทนมนุษยชาติจริงเรยยย  Aliance  บุกโลกแน่

นี่เป็นสิ่งบ่งบอกอย่างหนึ่ง...............

ของส่วนลึกที่อยู่ใน "สมอง"

ท่านมะขิ่นพูดถูกต้องสุดๆๆๆๆ เลยค่ะ

เห็นด้วยครับ...
หลายต่อหลายครั้งที่พูดอย่างแล้วทำอีกอย่าง และอีกหลายครั้งที่พูดแล้วลืมคำพูดตัวเอง และก็อีกหลายครั้งที่พูดแล้วแต่ทำไม่ได้ และทุกๆครั้งพูดโดยไม่คิด ใช้ไขสันหลังไม่ได้ใช้สมอง

 :).. เป็นไปได้อย่างมาก ที อดีตนาย ก . ที่จะเลือกกระทำในช่องทางที่เปิดให้
      อย่างเช่น. มีหนังสือไปถึง ผู้นำในหลายประเทศ..
      เหมือนอย่างที่ เคยมีถึง ปธ.บุช.
      เพื่อให้ข้อเท็จจริงในแบบ ที่เคยถนัด.. เพื่อให้เกิดแรง กดดัน ทางสากล .

      แต่ก็ยังเชื่อมั่น อย่างที่ สหราชอาณาจักร.. ได้แสดงออกในทำนอง ..
      จะไม่สนับนนุนทางการเมืองแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ.     
      และคงความสัมพันธ์ที่ดี. ที่ไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ของเรา..   :)

จะแสดง ตะแบง แบบไหนปล่อยแกไปเถอะครับ ถ้าได้เพื่อนรักจากดาวพลูโตก็คงดี

ภาพของประชาชนที่ออกมาต้อนรับทหาร  ความพึงพอใจต่อการปฏิรูป

ภาพของดอกไม้ อาหาร น้ำดื่ม และ งานวันเด็กสัญจร อิอิอิ

มันบอกอะไรได้มากกว่าตัวหนังสือขอความเห็นใจเป็นไหนๆครับ

เห็นด้วยอย่าง แรงเลยครับ

ในอ้อมกอดพี่เคยมีเจ้าโซ้บ.......อิ่งอุ่น
รอยร้าวละมุนอุ่นเหลือเมื่อแอบกานดา
ฝากรอยสัมผัสกอดรัดสิเหน่หา
สอง...เราชื่นชีวา  สัญญาด้วยใจโตรงกาน
------
-----
----

;Dสั้น ๆ แต่ชัดเจนและได้ใจความ ครับพี่ ;D

ไอ้คำว่า "รอยร้าว" นี่ มันละมุนยังไงครับนั่น?  ;D

ต้องร้องท่อนจบด้วยครับ  ;)

...ในอ้อมกอดพี่ยินดีต้อนรับเจ้าอยู่
คอยรักชื่นชูเจ้าเหมือนเคยอยู่เดิมที
อกใครไหนเล่าเท่ารักที่พี่มี
รักในอ้อมกอดพี่ มอบเป็นพลีเพื่อน้องเอย  ;D

...

น่าเบื่อไม่เลิกเลย... :P :P

""คิดถึงคำของงิ้วธรรมศาสตร์....เ   อ   ........ๆๆๆๆๆๆ"""

เจ้าอยู่แห่งหนาย  แสนไกลจาไปเสาะหา  รับขวัญเพื่อยึดทรัพย์มา   ปลอบกานดาหายข้องอุ่นใจ
กลับเถิดหนา  กลับมาสัญญากันใหม่  แค้นพี่ไปใย  อภัยแล้วดวงชีวา ;D

ด้วยความเคารพครับ.....

เพลงเพราะเนื้อหากินใจครับ..... ;D ;D ;D

ขอบคุณครับ...............

 :).. ดร.ทักษิณ เป็นคนฉลาด.. ผลประโยชน์ แบบพ่อค้า.
      ต้องถูกชั่งน้ำหนักทุกครั้ง อย่างที่  ป๋า เหนาะ เคยบอกไว้..

      สักประเดี๋ยว. เมื่อหน่วยงาน  ปปช. ปปง.  ได้เริ่มสะสาง..
      ถ้าเขายังอยากกลับมาเหยียบแผ่นดินแม่.. คน. คนนั้น
      ต้องไม่ใช่ ดร.ทักษิณ.. ที่ชาญฉลาด หรอกครับ.. 

      ยังมี อดีต รมต อีกหลายคน ที่ถึงจะฉลาด หนัก.. แต่คงเอาตัวรอด.. ยาก . :)

     

 :)  .. แต่การกลับเข้าประเทศ .ของ ดร.ทักษิณ.
        ถ้ายังจะเกิดขึ้น. ย่อมไม่ใช่สิ่งปรกติ .. และต้อง
        เป็นเรื่องผิดปรกติ อย่างแรง ..   

        ยังมั่นใจครับว่า .. ทรราช ย่อมมี ความเหมือน เป็นสากล ..
        อย่าง อดีต ปธ. มาร์คอส .. ก็ยังได้กลับแผ่นดินแม่ เหมือนกัน   :)
         

ถะ  ถะ  ถูกต้องนะคร้าบบบบ......

สุนัขมันยังรักเจ้าของ แล้วนายท๊ากกกก มันเป็นคนหรือป่าว ทำไมมันไม่รักประเทศไทยเลย น่าเศร้านักแล :~)

ก็ไม่ได้เห็นเป็นเจ้าของไงครับ มันเห็นเป็นสุนัข  ;D

ดาวพลูโต  นี่ใช่ดาวดวงที่ถูก สมาคมดาราศาสตร์นานาชาติปลดออกจากระบบสุริยะจักรวาลหรือเปล่าครับ
เลยมีชะตากรรมเหมือน ทักษิน  แล้วดาวพลูโตมีอุกาบาตเป็นบริวารเหมือน ทักษินมีบริวารหรือเปล่าครับ

เฮ้อ การเมืองระหว่างประเทศไม่มีมิตรแท้ยิ่งกว่าการมื่องในประเทศ 10 เท่าละครับ ชาติไหนๆ ก็มองแต่ผลประโยชน์เขา ยิ่งชาติใหญ่ๆ ละก็ เห็นธรรมชาติมาตลอดกันอยู่แล้ว อย่างเก่งก็ให้อดีตมหามิตรเป็นแค่ผู้ลี้ภัยครับ ว่าแล้วก็ไปคุยกับมิตรใหม่ต่อไป

ด้านจริงๆ ยังไม่รู้ตัวอีกคุณทัก  :P

เรื่องดึงต่างชาติหรือ ดึงยูเอ็นเข้ามา
คงได้แค่ ความพยายาม เพราะเป็นความต้องการของคนแค่คนเดียว
มิใช่ความต้องการของประเทศไทย
และเรายังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ถึงขนาดสาหัสจนต้องขอความช่วยเหลือ

และเชื่อว่า ยูเอ็น หรือ ต่างชาติคงไม่บ้าจี้ตามทักษิณ
มันคิดมาได้ไง เป็นด๊อกเตอร์ซะปล่าว.......

ผมขออีกเพลงฝากไปให้เขาผู้อยู่แดนไกลหน่อยนะครับ(ผมจะกลับบ้านแล้ว)
..........
ค่ามมมมมม คืนน  ฉันยืนอยู่เดียวดาย  เหลียวมองรอบกาย  มิวายจะหวาดกลัว
มองนภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ  ค่ำคืนเอ๋ย  ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮื่อ ฮือ ฮื่อ ฮือ
ยามนี้เราหลงทางกลางค่ำ ยินเสียงร่ำพร่ำบอก  เจ้าช่อไม้ดอกเอย  เอ๋ยยยย    เจ้าดอก เฮื้อ ขจร
ฉันร่อนเร่พเนจร   ไม่รู้จะนอนไหนเอย  เอ๋ยโอ้หัวอกเอย
..........
..............
.............
............
...........
...........
บ้านใด  หรือใครจะเอ็นดู (ยูเอ็นมั้ง)  ร๊าบรองอุ้มชู  เลี้ยงดูให้หลับนอน  โน๊กขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำไหนนอนนั่น ( ดิว ดิ๊ว ดิว ดิ้ว ดิว ดิว ดิ่ว ) อกฉันหมอง   ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮื่อ ฮือ ฮื่อ ฮือ
เฮอ ฮือ เดี๋ยวจะฟ้องพ่อ  พ่อเราเป็นตำรวจ(โลก) เดี๋ยวให้พ่อเอาปืนมายิงเลย :'(

เฮ้อทำให้นึกถึงตอนอนุบาล  ตอนแกล้งลูกสาวตำรวจ  ผมมักจะโดนหล่อนขู่แบบนี้ทู๊กที

คนดีทำความดีได้ง่าย   ทำความชั่วได้ยาก

คนชั่วทำความชั่วได้ง่าย  ทำความดีได้ยาก

ทักษิน  เป็นดังวรรค 2 ขอรับ


ขอความวิบัติ จงมาถึงคนเหล่านี้ โดยเร็ววัน



                                                   คารวะ

ให้ยูเอ็นจัดการเลือกตั้งก็คือยกให้ประเทศเป็นเมืองขึ้นเขาชั่วคราว

- "คนต่างชาติ" มาเป็น กกต. ตัดสินผู้สมัครคนพื้นเมือง
- "คนต่างชาติ" มาเป็นหัวหน้าหน่วยเลือกตั้ง คุมข้าราชการคนพื้นเมือง
- "ทหารต่างชาติ" ร้อยพ่อพันแม่มาถืออาวุธรักษาการทั้งประเทศ คุมประชาชนและทหารพื้นเมือง

ไม่นาน วันนึง ทักษิณ ก็จะมาเดินเล่นบนแผ่นดินไทย ได้แบบลอยหน้าลอยตา


เพาระคนไทยขี้ลืม และให้อภัยคนง่าย

ตัดราก แต่เหลือโคน

ทีมงานรายการ “ประชาธิปไตยทูเดย์” เดินทางไกล 2,459 ไมล์จากลอส แอนเจลิส ไปยังนิวยอร์ค
ทันทีที่ได้รับการยืนยันว่า ได้คิวสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนแล้ว ที่โรงแรมแกรนด์ไฮเอ็ด
โรงแรมหรูระยับกลางเมืองแมนฮัทตัน ในช่วงเย็นของวันที่ 18 กันยายน หลังจากที่ท่านเสร็จสิ้นภารกิจต่างๆ
ในวันที่สองของการเยือนนิวยอร์คแล้ว

ทันทีที่ออกจากลิฟต์มาเจอพวกเรา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่พามารออยู่บริเวณหน้าห้องพักของท่านบนชั้น 34
ในเวลาประมาณหกโมงเย็นเศษๆ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกลับมาพร้อมกับ ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล และข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายท่าน ได้ยิ้มแย้มทักทาย
กับพวกเราอย่างเป็นกันเอง

หรือแม้กระทั่งช่วงที่ต้องรอทีมงานจัดไฟ-จัดฉาก นานเกือบสิบนาที ท่านก็คุยกับพวกเราและทีมงานของท่านเอง
อย่างสนุกสนาน หัวเราะเบิกบาน แถมด้วย “แซว” คนรอบข้างอย่างเป็นกันเอง... จนผมและทีมงาน
มาคุยกันทีหลังว่า “ไปอารมณ์ดีมาจากไหน”

การสัมภาษณ์ซึ่งได้คิวมาเพียง 15-20 นาทีนั้น ขยายไปเกือบ 40 นาที... มีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงแข็ง เสียงเครือ
และเสียงเขียว....

ก่อนที่จะออกไปรับประทานอาหารค่ำกับคณะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้เจ้าหน้าที่มาถามพวกเรา
ซึ่งกำลังเก็บข้าวของอยู่ว่าอยากกลับมาเก็บภาพบรรยากาศการประชุมผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกับคณะ

รัฐมนตรีที่เมืองไทยในเวลาสี่ทุ่ม เพื่อใช้เป็นภาพ “อินเสิร์ช” การสัมภาษณ์ที่เสร็จสิ้นลงไปหรือไม่
เมื่อเราตอบตกลง ก็ได้ยินเสียงท่าน ซึ่งยืนคุยอยู่กับคณะที่ห้องถัดไปร้องบอกออกมาว่า “สี่ทุ่มนะ สี่ทุ่ม”

แต่เมื่อถึงเวลานัด เจ้าหน้าที่กลับโทรศัพท์ลงมาบอกว่า ขอให้ช่างภาพขึ้นไปเก็บภาพการประชุมเพียงคนเดียว
และให้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น...

เมื่อได้ดูภาพวงประชุม ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะ ขนาบซ้ายขวาโดย ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย
และ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นั้น พวกเรารู้สึกเหมือนๆ กันว่าบรรยากาศการประชุมผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกับ
ครม. ที่เมืองไทยนั้น เป็นไปอย่างเคร่งเครียด สีหน้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เหลือเค้าของคนอารมณ์ดี
อย่างที่เห็นก่อนหน้านี้เลย...

แม้จะนึกสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่พวกเราก็ไม่มีใครคาดคิดว่าอีกไม่ถึงสิบสองชั่วโมงต่อมา
“คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
จะเข้ายึดอำนาจบริหารประเทศไปจากมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนเป็นเหตุให้การสัมภาษณ์ครั้งนี้
คือการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่าน....

และนี่คือ “ส่วนหนึ่ง” ของเนื้อหาจากบทสัมภาษณ์ครั้งนั้น...

คำถาม การร่วมประชุมสหประชาชาติ ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
มาประชุมสหประชาชาติเพื่ออะไร เพราะเราอยากยก profile ประเทศ เพิ่มศักดิ์ศรีประเทศ
ในโลกเศรษฐกิจทุนนิยมนี่นะ ถ้าคุณเท่ห์นะ เขาเชื่อคุณนะ กระดาษก็เป็นเงิน ถ้าไม่เท่ห์ เขาไม่เชื่อคุณนะ
เงินก็เป็นกระดาษ นี่ โลกทุนนิยมมันเป็นอย่างนี้ ผมต้องมาที่นี่เพื่ออะไร

หนึ่ง จะพูดถึงจุดยืนประเทศไทยในสมัชชาสหประชาชาติ นั่นก็คือว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน
กับเรื่องการแก้ปัญหาและการปฏิรูปยูเอ็นทั้งสองอย่างนี้ต้องยึดหลัก people center
ถ้าธุรกิจต้องยึด custom center บริหารประเทศต้อง people center ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน
หลักอยู่ตรงนั้น เมื่อหลักอยู่ตรงนั้นปุ๊บ สหประชาติก็ต้องปฏิรูปตัวเองให้นำไปสู่การทำอะไร
เพื่อประชาชนของทั้งโลก เรื่องสันติภาพ เรื่องความยากจน เรื่องความก้าวหน้าอะไรต่างๆ
และผมจะมาพูดเรื่องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยการทำ people empowerment
คือการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนในการแก้ไขปัญหาตัวเองได้ เช่นงบประมาณประชาชน
อะไรพวกนี้ที่เราทำก็จะยกตัวอย่างนี้ขึ้นมาให้เขาฟัง นั่นคือให้รู้ว่าเรามีจุดยืนมีแนวทาง
ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับโลก

สอง คือต้องการมาช่วย ดร.สุรเกียรติ เป็นเลขาฯ ยูเอ็น ผมอยากจะบอกกับพี่น้องคนไทยว่า วันนี้
แค่เราขึ้นไปแข่งกับเขา อยู่ในลำดับต้นๆ นี่ก็เท่ห์แล้วนะ เพราะอย่างน้อยๆ ประเทศไทยมี Candidate
และมีคนโหวตให้ อย่างน้อยๆ โพลล์วันนี้ ถึงแม้เราจะมาที่สาม แต่ยังไม่มีประเทศกลุ่ม permanent five
มา discourage เราเลย ประเทศที่ได้คะแนนสูงกว่าเรามี นี่น่าดูนะ เราต้องติดตามดู วันที่ 28 กันยา
จะเห็นภาพชัดขึ้น ก็ไม่เป็นไร ถ้าได้จะดีที่สุด เพราะไม่เคยมี เราเคยมี อูถั่น ของพม่า เมื่อ 40-50 ปีแล้ว
ที่เอเชียไม่เคยมี เราก็ถือว่าเราไม่ได้เป็น Candidate ของไทย แต่เป็นของอาเซี่ยน ก็ต้องออกแรงอีกหน่อย
เผื่อจะได้ ผมก็ล็อบบี้กันเต็มที่ ไปที่โน่น อาเซมก็ไปล็อบบี้ คิวบาก็ล็อบบี้ มาที่นี่ก็เหมือนกัน”

คำถาม ต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในเมืองไทย ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
ผมกลายเป็นตัวปัญหาโดยไม่รู้ตัว ปัญหาหนึ่งคือฝ่ายที่จะเอาชนะทางการเมืองกับผมไม่สามารถเอาชนะ
ด้วยระบอบประชาธิปไตย ด้วยการเลือกตั้งได้ เพราะรัฐบาลอยู่มา 5-6 ปีได้ทำผลงานมากและทำให้ประชาชนรัก
ทำโพลล์ออกมาทีไร เรานำอยู่เยอะ เลือกตั้งทีไรเราก็ชนะ ทำให้คนไม่อยากเข้าสู่ระบบปกติมีบอยคอตการเลือกตั้ง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อจะเกิดขึ้นในระบบประชาธิปไตย สอง ผมได้ขัดผลประโยชน์คนจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
เพราะการมุ่งทำงาน เช่นปราบยาเสพติด ปราบหวยใต้ดิน บางคนเป็นนักธุรกิจที่ปรับโครงสร้างหนี้ไม่สำเร็จ
เพราะเหตุว่าพยายามซักฟอกเงินออกจากบริษัท แบงก์ล้มประเทศเศรษฐกิจก็พัง รัฐบาลก็เข้าไปดูแล
พอเข้าไปก็กลายเป็นว่าผมไปขัดผลประโยชน์ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับผมเลยนะ เป็นผลประโยชน์ของประเทศ ก็โกรธ
บางคนเคยถูกพ่อตาผมจับ เพราะทำแชร์เถื่อน สมัยโน้นหนีออกนอกประเทศไทย ก็มาโกรธผม ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องเลย
ก็มารวมตัวกัน

แล้วก็มีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเหมือนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วเคยแข่งกันทางธุรกิจ และก็เป็นรองผมมาตลอด
ไม่ค่อยชอบผมหรอก...ก็หัวหน้าม็อบนั่นแหละ... ตอนหลังก็เกิดมาชอบผม เชียร์ผมใหญ่ ผมกลายเป็นเทวดา
กลับชาติมาเกิดเลยนะตอนนั้น ก็เชียร์ใหญ่ เชียร์ไม่ลืมหูลืมตา แล้วมาขอประโยชน์ อะไรที่เราให้ถูกกฎหมาย
ถูกความชอบธรรมเราก็ให้ ให้ไม่ได้ก็ให้ไม่ได้ ตอนหลังให้ไม่ได้กับเรื่องที่เขาหวังสูง ก็โกรธกัน ก็ไปตั้งวงด่าผม
เมื่อด่าผมคนของผมก็อาจจะไปทะเลาะด้วย ก็เลยไม่พอใจ คนเหล่านี้มารวมกันพอดี เป็นก้อนใหญ่ ต่อต้านผมเต็มที่....


คำถาม เกี่ยวกับสื่อมวลชนไทย ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
สื่อสิ่งพิมพ์บางสื่อก็... ต้องเอาคำพูดของมาร์ค ทเวน ที่ว่า ถ้าไม่อ่านหนังสือพิมพ์ก็ un-inform
ถ้าอ่านก็ miss inform... เลยไม่รู้จะเอาอย่างไรดี นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ สื่อบางคน บางฉบับ
เป็นขาประจำกันมานะ เพราะขัดแย้งตั้งแต่สมัยทำธุรกิจแข่งกัน ก็เลยเอาติดมาด้วย เรื่องจรรยาบรรณหายหมด...

“สื่อไทย โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ไทยนี่ มีอุดมคติว่า ต้องเป็นฝ่ายค้าน ต้องด่ารัฐบาลถึงจะขายได้
อันนี้เป็นความคิดของศตวรรษที่ 20 แล้วไม่ยอมเปลี่ยนเมื่อข้ามศตวรรษแล้ว และผมเป็นรัฐบาลแรก
ที่เริ่มต้นศตวรรษที่ 21 เราก็เลยพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรเข้าสู่ศตวรรษที่ 21...”

คำถาม เกี่ยวกับนโยบายประชานิยม ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“คนอย่างผม มาถึงตอนนี้ยังอยากได้อะไรอีก ชีวิตมันอยากได้อะไรอีก ก็อยากเห็นประเทศดีเท่านั้นเอง
ไม่ได้คิดอะไร ผมเองเป็นคนลำบากมาในชีวิต ก็สงสารเพื่อนร่วมชาติที่ลำบากก็อยากหาทางช่วย
ก็พยายามเข้าไปแก้ปัญหาความยากจนให้โอกาสเขาอะไรเขา แต่ว่าตรงนั้นไม่ใช่การหาเสียงนะ
แต่เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่พื้นฐานเลย ถ้าเราแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศต้องแก้ที่ปัญหาฐานรากมัน
ฐานรากมันเน่า ถ้าเราไม่ซ่อมมัน ถ้าเราต่อขึ้นไปก็ล้ม โดนลมก็ล้ม นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำ แต่คนเขาบอกว่า
ประชานิยม”

คำถาม กรณีถูกคนไทยในนิวยอร์คขับไล่ที่หน้ายูเอ็น ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“ประเทศประชาธิปไตยเขาเข้าใจครับ เพียงแต่ว่าถ้อยคำที่ใช้ ให้สำรวจตัวเองหน่อย
อย่าใช้ถ้อยคำที่มันขาดความเป็นมนุษย์ที่มีการศึกษามีการอบรม มีวัฒนธรรม คนไทยมีการอบรม มีวัฒนธรรม
ถ้าถ้อยคำที่ใช้แบบคนขาดวัฒนธรรม เท่ากับคุณทำให้เสียหน้า เสียชื่อเสียงประเทศ ต้องระวังหน่อย
อยากจะบอกคนเหล่านี้ว่าช่วยกรุณาไปดูข้อมูลที่แท้จริง ตัวเลขต่างๆ ให้ชัด อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึก
ชอบหรือไม่ชอบ และพยายามดู background ของคนที่พูดด้วย”

คำถาม สังคมไทยเป็นสังคมอารมณ์ ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
...ถ้ามองย้อนไปในยุคอดีต ช่วงที่เขาพยายามไล่นายกฯ กันนี่ ก็ปรากฏว่าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับช่วยกันเขียน
แรงไม่แพ้ที่ผมโดนมานี่ แต่ในที่สุดแล้วเมื่อคนนั้นพ้นไปแล้วก็เป็นคนดี อันนี้เป็นอะไรที่เป็นอารมณ์มาก
สังคมไทยเป็นสังคมอารมณ์เยอะ เพราะฉะนั้นต้องอย่าไปอ่อนไหว...

คำถาม ระเบิดที่หาดใหญ่ ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
แน่นอน ประเทศไทยเคยมีภาพพจน์แห่งความเอื้ออาทรต่อกัน สยามเมืองยิ้ม คนไปเที่ยวเมืองไทย
เพราะเขาชอบคนไทย มีน้ำใจ แต่พอมีข่าวความโหดเหี้ยมในสังคมไทย มันเสียหายมาก เท่ากับเคาน์เจอร์
หรือสิ่งที่คนชื่นชมมาถูกทำลายด้วยคนไม่กี่คน ทำลายคนอื่น ทำลายล้างระบบ เพื่อความสะใจตัวเอง
ผมต้องมานั่งอธิบายเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นการพบกันที่ US Chamber of Commerce และ
US-ASEAN Business Council เมื่อเช้านี้ มีคำถามที่ต้องอธิบาย พบ Wall Street Journal
วันนี้ก็ต้องอธิบาย

คำถาม ชีวิตหลังเหตุการณ์คาร์บอมบ์ ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
จากที่ผมเคยมีชีวิตที่สบายๆ นั่งกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง อยากไปเดินศูนย์การค้าก็ไป ตอนนี้ผมลำบากขึ้นเยอะ
ไปไหนก็แน่นอน รถต้องรถหุ้มเกราะกันกระสุน กันระเบิดด้วยซ้ำ แต่กันแค่ระเบิดเล็กนะ ระเบิดอย่างที่เขาจะทำผม
แล้วไม่สำเร็จนี่ ไม่มีเหลือ ร่างก็ไม่มีเหลือ ผมยังบอกกับเมียวันนั้นว่านี่ยังดีนะ วันนี้กลับมากินอาหารด้วยกันได้
ไม่งั้นสงสัยเธอต้องไปรดน้ำศพฉันแน่ แต่ว่าไม่ใช่สิ รดน้ำศพได้หรือเปล่า เพราะหาชิ้นส่วนไม่เจอแน่นอน
เพราะระเบิดขนาดนี้…

“เป็นอะไรที่เหี้ยมโหดมาก ผมเองทั้งครอบครัวก็ต้องไปไหนลำบากขึ้นเยอะ มันเกิดจากอะไร
เกิดจากการที่ผมอาสามาทำงานให้ประชาชน ไม่ได้เกิดจากการที่ผมคิดว่าจะมาทำอะไรให้ตัวเองเลย สิ่งที่เกิดขึ้น
โอเค เกิดกับผมก็แย่แล้วในส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันทำให้ภาพของประเทศ... เราจากประเทศที่เป็นสยามเมืองยิ้ม
มันกลายเป็นประเทศที่มี่ความรุนแรงอย่างนี้แล้วหรือ”

“ครอบครัวเหรอ แน่นอน ทุกคนกลัว โดยเฉพาะลูกๆ แต่คุณหญิงเป็นคนเข้มแข็งมาก เรียกว่าคือ...
ปกติต้องร้องไห้ แต่ความที่มันเจ็บเกินกว่าที่จะร้องไห้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับเราได้”

คำถาม Victim of own success ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“คือวันนี้เหมือนกับ... เราอาสาทำงาน เราตั้งใจทำจนสำเร็จแบบไม่เคยเกิดขึ้น เป็นประวัติศาสตร์ไปหมด
เช่นพรรคเดียว ได้เสียงครึ่งหนึ่งของสภาเป็นครั้งแรก สอง ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันสองครั้ง ซึ่งไม่เคยมี
แถมเป็นพรรคเดียวที่ได้จัดตั้งรัฐบาล ส่วนหนึ่งก็คือ...ผมเป็น victim of own success…”

คำถาม เว้นวรรคทางการเมือง ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“ผมอยากพัก เพราะหกปีกว่าแล้ว ผมเหนื่อยล้า ครอบครัวก็เดือดร้อน ก็อยากจะมีความสุขในชีวิตบั้นปลายบ้าง
เพราะตอนนี้ก็ 57 แล้ว แต่ความที่มีกองเชียร์เยอะ และเขารักจริง ไปไหนเขากอด เขาร้องไห้ ผู้ชายอกสามศอก
เขาร้องไห้ ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเองจะเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าถ้าผมจะเลิก อันนี้คือสิ่งที่ผมไม่มีอิสระเหมือนเดิม
เพราะเนื่องจากได้อาสามาแล้ว เป็นคนสาธารณะไปแล้ว และเนื่องจากคนฝากความหวังก็ดี เชียร์ก็ดี รักก็ดี มีมาก
มากกว่าคนที่ไม่ชอบผมเยอะ ถามว่าผมจะยอมแพ้กับไอ้พวก...ขอใช้คำว่า out law ง่ายๆ หรือ...”

คำถาม กรณีพาดหัวข่าว “สนธิลั่นจัดชุมนุมใหญ่สกัดแม้วเหยียบแผ่นดิน 20 ก.ย. นี้” ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“สนธิเป็นใคร มาห้ามผมเหยียบแผ่นดิน ต้องถามสนธิเป็นใคร ผมเป็นใคร ไร้สาระครับ... วันนี้ผมฝรั่งถาม
ผมเลยบอกว่า... ไม่อยากแปล สรุปว่าผมใช้คำที่ฝรั่งหัวเราะกันทั้งห้อง....Like dog barking at the moon
(หัวเราะ)”

คำถาม คนไทยในอเมริกา ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบ
“ขอเป็นกำลังใจ เพราะว่าคนเหล่านี้ก็ต้องแสวงหาสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามีความสุขที่สุด บางคนก็เลือกที่จะส่งลูกหลาน
มาเรียนที่นี่ สร้างอนาคตที่นี่ แต่อยู่ที่ไหนก็ตาม ขอให้คิดว่าเป็นคนไทย และขอให้มองการเมืองไทยอย่างสร้างสรรค์
อย่างมีอนาคต เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมันมีความขัดแข้ง มีฝ่ายค้านฝ่ายสนับสนุน เป็นเรื่องธรรมดา
อย่าไปมอง อย่าไป in จนขนาดที่ว่าไม่มีเสียดีกว่า แน่นอน คนรักผมก็ต้องมีเหตุผล คนไม่รักผมก็ไม่มีเหตุผล
ผมไม่ได้ไปขอร้องให้ใครมารักผม แต่ถ้าจะรักประเทศชาติให้ถูกทางก็ต้องรักอย่างมีเหตุผล และเข้าใจข้อมูลที่แท้จริง
ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ซึ่งไม่ดีแน่

"ผมอยากเป็นกำลังใจว่า อยู่ที่ไหนก็ตาม ขอให้เรามีความสุข ถ้าเราคิดว่ามีความสุขนี่ทำให้ดีที่สุด
เพราะชีวิตเราไม่ยาวนานหรอก ทุกคนไม่ยาวนาน สร้างอนาคตที่ดีไว้ให้ลูกหลานเถอะ อนาคตที่ดีก็คือการศึกษา
การอบรม หน้าที่สำคัญคือวัฒนธรรม อยากฝากว่าขอให้มีวัฒนธรรมคือความอ่อนโยน มีน้ำใจเอื้ออาทร รักเพื่อนมนุษย์
เป็นหัวใจสำคัญของสังคมไทย ก็อยากจะฝากทุกคน....”

……………
ประมาณ 20 ชั่วโมงหลังจากการสัมภาษณ์ผ่านพ้นไป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้บินด่วนไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โดยไม่มีใครทราบว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะคืนสู่มาตุภูมิได้...

การถ่ายทอด “ส่วนหนึ่ง” ของบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ มิได้มีเจตนาใดๆ นอกเหนือไปจากต้องการให้คุณผู้อ่านได้รับฟัง
คำพูดครั้งสุดท้ายของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เราอาจไม่มีโอกาสได้ยินอีกนาน.

ข่าว : ไทยทาวน์ ยูเอสเอ
22 กันยายน 2549

ที่ผมทำสีแดงไว้ในข้อความของคุณซับฯนั้น

ขอกล่าวให้ทราบว่า ไม่มีสิทธิ์ที่จะกระทำเช่นนั้น เพราะจะเป็นการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดน ที่เป็นราชอาณาจักรอิสระไม่ขึ้นแก่ใคร..................

คงตอบในฐานะทหารคนหนึ่งว่า..........

               ก็ลองดู

             ฟังเพลงครายเครียดครับ ;D ;D ;D http://music.thaicool.com/musicget.asp?id=2326

 :-*  :-*  :-* ........ ด้วยความเคารพ ........  :-*  :-*  :-*

..?....จนตรอก.  อย่างหนึ่ง.

ปลากระดี่ที่อยู่บนบก..   อย่างหนึ่ง.

มันก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเป็นของธรรมดาแหละครับ.

ผมถูกสอนให้กลัวโจรที่ไม่มีครอบครัว  เพราะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ไม่มีหน้า ไม่มีหลัง ไม่ต้องระวังถึงผลกระทบที่จะเกิดกับทายาทผู้สืบวงศ์ตระกูลภายหลังจากที่ตัวเองลาโลกไปแล้ว
แต่ไม่นึกไม่ฝันที่จะเห็นคนที่มีลูกที่กำลังจะโต  กล้าทำได้ถึงขนาดนี้

เหตุการณ์ยังไม่น่าวางใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ

สำคัญตัวเองผิดไป

;)กลับในสภาพแบบนี้ใช่ไหมครับพี่ Ro@d
ที่มาร์คอสได้กลับแผ่นดินแม่หลังจากสิ้นใจที่ฮาวายน่ะ

เอาข่าวมาฝากครับ......

ผนึก 6 มือปราบเช็คบิล“ทักษิณ”:ส่งศาลฎีกา "ยึดทรัพย์" !!

พลันที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ "คปค." นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ เข้ายึดอำนาจ "ระบอบทักษิณ” ด้วยข้อหาฉกรรจ์ ...การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบและเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องอย่างกว้างขวาง ...มีพฤติกรรมแทรกแซงอำนาจองค์กรอิสระ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติให้ลุล่วงไปได้ จนนำไปสู่การทำรัฐประหารโค่น "ระบอบทักษิณ” ปฏิบัติการ "ยึดทรัพย์" จึงปรากฏเค้าลางตามขึ้นมาทันที !!! มีรายงานมาตลอดว่า "คปค." เตรียมสั่งอายัดทรัพย์สิน รวมถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน ว่าเกิดจากทุจริตคอรัปชั่นหรือไม่ นั่นเป็นเพราะในเมื่อมีการตั้งข้อกล่าวหา จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ทราบเพื่อให้สังคมให้คลายความสงสัย เพราะตลอดเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมาของ "ทักษิณ" ไม่เคยไขข้อข้องใจให้สังคมได้รับทราบ จนนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมไทยอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น "คดีซุกหุ้น" หรือการทุจริตคอรัปชั่นโครงการเม็กกะโปรเจ็กต์ต่างๆ โดยเฉพาะการรับ "สินบนข้ามชาติ" การจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ จนนำไปสู่ฟางเส้นสุดท้าย เมื่อตระกูล "ชินวัตร" และ "ดามาพงศ์" ตัดสินใจ "ขายหุ้น" บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้กลุ่มทุนเทมาเส็ก ของประเทศสิงคโปร์ ผ่าน "นอมินี" ที่เป็นบริษัทของคนไทย กวาดเงินไปกว่า 7.3 หมื่นล้านบาท โดยไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว ทั้งหมดนี้อยู่ในระหว่างการรอเช็คบิลของ "คปค." ซึ่งจะต้องเข้ามาจัดการ เพราะหากพลิกแฟ้มให้ดียังมีอีกหลากหลายโครงการที่รอการขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก เห็นได้ชัดจากประกาศคณะปฎิรูปฯ ที่ยกเลิกองค์กรอิสระที่อิงแอบระบอบทักษิณอย่าง "ศาลรัฐธรรมนูญ" เป็นแห่งแรก เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถหาทางออกให้กับสังคมไทยได้ ตามมาด้วยประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯฉบับที่ 12 ให้ คณะกรรมการตรวจเงิน (คตง.) พ้นจากตำแหน่ง แต่ยังคงสถานะผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เท่ากับว่าเป็นการ "ติดดาบ" พร้อมกับ "ต่ออายุ" ให้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสตง.ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป นั่นเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า "คตง." ชุดที่มี นรชัย ศรีพิมล เป็นประธาน กินเกาเหลากับ "คุณหญิงจารุวรรณ" มาโดยตลอด อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับ "รัฐบาลทักษิณ" และยังมีความพยายามเลื่อยขาเก้าอี้ และขัดขวางการทำงานของผู้ว่าการสตง. ล่าสุด "คปค." ได้เชิญ "คุณหญิงจารุวรรณ" เข้าหารืออีกครั้งที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "คปค." ได้เชิญ กล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่เคยทำคดีซุกหุ้นของทักษิณ เข้าพบถึง 2 รอบ เพื่อหารือการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของ "ตระกูลชินวัตร" รวมถึงคณะรัฐมนตรีทุกคน โดย "กล้าณรงค์" ออกมาแบไต๋ก่อนหน้านี้ว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับคณะปฎิรูปฯหากได้รับการทาบทามเข้ามาเป็นกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการผนึกกำลังระหว่าง "คุณหญิงจารุวรรณ" กับ "กล้านรงค์" เพื่อให้เข้ามาปฏิบัติการตรวจสอบทรัพย์สินเป็นการเฉพาะ ซึ่งได้มีการประสานงานกันก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ "ทักษิณ" รวมถึงเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากทั้งคู่เคยทำงานแบบกัดไม่ปล่อยมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า "คปค." ยังเชิญ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ เข้าหารือเพื่อขอความร่วมมือเข้ามาเป็นกรรมการร่วมสอบด้วย ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า "คปค." เตรียมตั้งคณะทำงานคล้ายกับ "ป.ป.ช." ขึ้นมาทำงานจำนวน 6 คน พร้อมดึงกลุ่มบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือของสังคมขึ้นมาร่วมทำงานด้วย โดยส่วนหนึ่งได้เตรียมเชิญอดีตผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น "กกต." ที่ไม่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นมาเป็นคณะทำงาน เมื่อส่องสปอตไลท์บุคคลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ แก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว.กทม.เจ้าของหนังสือหยุดระบอบทักษิณ นาม ยิ้มแย้ม ประธานอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคเล็กลงรับสมัครเลือกตั้ง จนนำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา ที่เคยเป็นพยานจำเลยคดีอาญาที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญฟ้องหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์แนวหน้า และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า ในคดีซุกหุ้น หากทั้งหมดผนึกกำลังกันได้คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตรวจสอบทรัพย์สินเอาสมบัติของชาติคืนกลับมาให้คนไทย ซึ่งในอดีตสมัย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.) เคยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินขึ้นมาหนึ่งคณะ โดยมี พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ เป็นประธานกรรมการ แต่ไม่สามารถยึดได้ทรัพย์สินตามจริง เพราะมีข้อกังขาถึงความชอบธรรมของกรรมการ ดังนั้นช่องทางของ "คปค." เพื่อสร้างความชอบธรรม คือการดึงกลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาร่วมตรวจสอบทรัพย์สิน ก่อนที่ส่งไปตามช่องทางของกฎหมายคือ "ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" รับช่วงต่อ นั่นเพราะศาลฏีกาเคยฝากผลงานเด่นยึดทรัพย์ รักเกียรติ สุขธนะ อดีตรมว.สาธารณสุข ในคดีทุจริตยามาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะยึดทรัพย์ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นรายต่อไป !

ครอบครัวที่มีผู้นำครอบครัวที่ดีรักลูกรักเมีย น่าจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นห่างไกลยาเสพติดครับคุณอา แต่นี่อะไร เมียไปทาง ลูกไปทาง ลูกชายคนเดียวที่สะสืบตระกูลก็มีข่าวฉาวกับดาราไม่ซ้ำหน้า แต่ลูกสะใภ้ตัวจริงมีสองคนชื่อ  น้องไอซ์ กับน้องโค้กครับ  :VOV:

555+.......แสดงว่าเป็นคนดื่มโค้กใส่น้ำแข็ง ไม่กินแป๊บซี่ใส่น้ำแข็ง  ;D

ด้วยความเคารพครับ

ผมเองในฐานะคนไทยและพวกเรา

คงพร้อมที่ยืนข้างทหารไทย

แล้วบอกพวกมันว่า

ก็ลองดู

มันบ้าไปแล้ว หนักแผ่นดินครับ ขอให้ คุณหญิงจารุวรรณ จงเจริญครับ ปปช ด้วยครับ

ฮะ ฮะ ผมเป็นนายสิบกำลังสำรองนะครับ ก็ต้องเจอกันหน่อย

ได้ยินจากปากทหารฟังแล้วอุ่นใจ

ผมขอสนับสนุนท่านผู้การอีกเสียงครับ  ในฐานะทหารอีกคนนึงที่ยอมพลีชีพเพื่อชาติ  ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน.......ขอบอกว่าลองดูก็ได้ แล้วจะได้รู้กัน

.. ถึงตอนนั้น ผมในฐานะพลเมือง ของประเทศนี้..  คงรวมคนคอปืนได้ เพียงพอที่
   จะตามเก็บกวาด ลิ่วล้อ ที่โป่งความคิด นี้ . ไม่รู้จะเอาพวกมันไว้ทำซากอีกทำไม..   

ผมขออาสาด้วยคนครับ พร้อมทุกเมื่อครับ

ด้วยความเคารพครับ....

ขอร่วมด้วยคนครับ...

ขอบคุรครับ.................

ด้วยความเคารพครับพี่ Ro@d

ความอดทนถึงที่สุดแล้วใช่ไม๊ครับพี่...........ผมเดาว่า แผนของพี่ต้องสะอาดหมดจด ไม่ทิ้งหลักฐานและร่อยรอย

กระบอกไหนที่ใช้ ก็ไม่ควรเก็บไว้นะครับ .......ว่าแล้วขอซื้อต่อเลยแล้วกัน.... ..คิว1..ครับ

เอาหฃ่ะหว่า....
ตอนนี้เราถูกปลดเป็นกองหนุนชั้นไหนแล้วเนี่ย เดี๋ยว ต้องไปดูหลักฐานทางทหารของเราหน่อย....

ก็ชั้นเดิมแหละคุณทรัพย์
จบ รด. ปี3 ตอน ม.6 เป็นสิบโท จบตอนปี 1 เป็นสิบเอก จบ รด. ปี 5 เป็นว่าที่ร้อยตรี
ยังไม่ได้ทำงานอะไรจะได้เลื่อนยศเหรอ? อิ อิ

ผมไม่เคยเรียน รด.

จับสลากก็ได้ใบดำ

จะจัดอยู่ประเภทไหนกันครับ

ทหารกองเกิน ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

มิใช่ประเด็นนั้น  แต่เวลาผ่านไป เค้าจะลดระดับชั้นกองหนุนลงอ่ะ...

 ;D ;D ;D ;D ;D

รู้สึกว่าตอนอายุ ๔๕ นะครับ คุณทรัพย์ลองตรวจดูสิ ผมเองยังอีกไกล

..ชักอยากรู้....

...แล้วการฝึกทบทวนละ...ผมเห็นบางคนโดนเรียก..บางคนไม่โดน...

...ผม สิบโท ตอนฝึกเป็นหัวหน้าหมวดปืนเล็กครับ..

...ถ้าเรียกเข้ารบ...ผมจะได้ยศอะไร..

...ขอบคุณครับ..

การแบ่งทหารกองหนุน มี 2 ประเภท และ 3 ชั้นครับ

กองหนุนประเภทที่ 1 คือ บุคคลที่ได้รับการฝึกทางทหารมาแล้ว เช่น อดีตทหารที่เคยรับราชการมา(เคยเป็นทหารประจำการมาก่อน)....  อดีตทหารกองประจำการ(อดีตทหารเกณฑ์)........ผู้ที่สำเร็จการเรียนวิชาทหาร(จบ รด.).............

กองหนุนประเภทที่ 2 คือ ผู้ที่ยังไม่เคยรับการฝึกวิชาทหารมาก่อน เช่น ผู้ที่จับได้ใบดำตอนตรวจเลือก  ผู้ที่หนีราชการทหาร เป็นต้น

กองหนุนชั้นที่ 1 คือ มีอายุไม่เกิน 35 ปี

กองหนุนชั้นที่ 2 คือ มีอายุไม่เกิน 45 ปี

กองหนุนชั้นที่ 3 คือ มีอายุไม่เกิน 55 ปี.........

ตัวอย่าง.............ผู้ที่จบ รด.ปี3 (สมมติว่าอายุ 20ปี)  คือ กองหนุนประเภทที่ 1 ชั้นที่ 1

                       ผู้ที่เคยเป็นทหารเกณฑ์มาแล้ว ตอนนี้อายุ 47 ปี คือ กองหนุนประเภทที่1 ชั้นที่ 3

                      ผู้ที่จับใบดำตอนตรวจเลือก และอายุ 38 ปีแล้ว คือ กองหนุนประเภทที่2 ชั้นที่ 2

ปล. ทหารที่เป็นข้าราชการประจำ เรียก ทหารประจำการ  ทหาร(เกณฑ์) เรียก ทหารกองประจำการ  ก่อนเกณฑ์ช่วงอายุ15ปี(ไปทำบัตร ปชช.)เรียก ทหารกองเกิน  ไม่เป็นทหาร(เป็นมาก่อนหรือไม่ได้รับการเกณฑ์)แล้ว เรียกทหารกองหนุน........

ขอบพระคุณมากครับพี่มะขิ่น

สรุปว่าผมเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ชั้นที่ 1 ครับทุกท่าน

ขอลอกด้วยครับ 
ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ชั้นที่1 ครับ

ด้วยความเคารพครับ.....

ด้วยคนครับ ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ชั้นที่1 ครับ.... ;D

ขอบคุณครับ................

เหมือนกันครับ....

ของคุณน่าจะขี้นชั้นที่2 แล้วนะครับ ;D

แหม....
กะหน่วยราชการ เราลดให้ได้30เปอร์เซ็นต์....

จิงป่ะ จะได้จองตั๋วเครื่องบินอ่ะ

ลดตั๋ว 30% จิงปะ อิ อิ