เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://image.ohozaa.com/i/abe/gO2ZdD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x4gM87UntLUqLJSK)


นักวิชาการเผย สถิติคนไทยปั้มลูกน้อย ครอบครัวแค่ 1.6 คน ส่อแววอนาคตเด็กไทย-วัยทำงานขาดแคลน ผู้สูงอายุล้นประเทศ เศรษฐกิจแย่กำลังซื้อถดถอย ชี้ต้นเหตุมัวแต่ทำงาน แถมกลัวค่าเลี้ยงลูกแพงมหาโหด หนุนรัฐคลอดโครงการ ลูกคนแรก-เก็บภาษีคนโสด ช่วยกระตุ้นคนไทยทำการบ้าน

นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยในการอภิปรายหัวข้อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้าว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน โครงสร้างประชากรไม่สมดุล และต้องเสียงบประมาณดูแลผู้สูงอายุจำนวนมาก หลังประชากรในวัยรุ่นวัยทำงานมีแนวโน้มเพิ่มต่ำลง สวนทางกลับกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มต่อเนื่อง โดยอัตราการเจริญพันธุ์ของไทยขณะนี้ต่ำมากเพียง 1.6 ต่อครอบครัว หรือ 1 คู่สมรส มีลูกเพียง 1 คนกว่าเท่านั้น ทั้งที่จริงต้องมีลูกขั้นต่ำ 2-3 คน ถึงจะเพียงพอต่อการทดแทนประชากรเดิมที่ตายไป


ทั้งนี้สาเหตุที่คนไทยมีลูกน้อย มาจากแนวโน้มสังคมเมืองและเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็ว เพราะเมื่อเศรษฐกิจดีหนุ่มสาวจะเลือกทำงานเพื่อสร้างฐานะ ความมั่นคงในชีวิตมากกว่าการหาคู่แต่งงานสร้างครอบครัว ประกอบกับปัจจุบันค่าครองชีพ และต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตรสูงขึ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล สินค้าข้าวของแพงขึ้น ครอบครัวส่วนใหญ่จึงเลือกมีลูกน้อย เพราะกลัวจะดูแลได้ไม่ดี ซึ่งต่างจากอดีตในสังคมเกษตร ที่คนไทยมีลูกมากเพราะต้นทุนการเลี้ยงดูไม่สูง


นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า แนวทางแก้ไขภาครัฐควรออกนโยบายสนับสนุนให้คนไทยมีลูกเพิ่มขึ้น เช่น โครงการลูกคนแรก โดยรัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย การเลี้ยงดูให้กับครอบครัวที่มีลูกคนแรก รวมถึงให้เงินอุดหนุน หรือลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีลูกคน 2 และ 3  นอกจากนี้ควรเรียกเก็บภาษีคนโสด ภาษีคนไม่มีลูก กระตุ้นให้มีครอบครัวเพื่อลดภาระงบประมาณ การใช้สวัสดิการดูแลของภาครัฐในอนาคต
“สถิติตั้งแต่ปี 47 พบว่าสังคมไทยได้เป็นสังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยมีสัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ถึง 10% ของประชากรรวม และคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือปี 67 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มขั้น คือ มีสัดส่วนคนอายุเกิน 60 ปี สูงเกิน 20% ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมในการพัฒนาเศรษฐกิจ แรงงาน และพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชากรในประเทศ เพราะแต่ละช่วงอายุมีพฤติกรรมใช้จ่ายที่แตกต่างกัน”


จะบ้าป่าวจาร นี่ก็เสียภาษีทุกเดือน ทุกปี โรงเรียน,โรงบาล,คุก..ฯ ก็ไม่เคยใช้บริการช่วยรัฐประหยัดงบประมาณ  อะไรก็ไม่เคยเรียกร้อง จะขาดทุน จะไรก็ไม่เคยประท้วง อยู่แบบคนอดทนตลอด  ยังจะมาซ้ำเติมตูอีก กำ.. ::009:: ::010:: :~) ::013:: ::012::

เอาไว้ปีหน้าก็มีสาวๆสวยๆคนใหม่ๆออกมาให้เลือกครับพี่เบิ้ม ไม่ต้องแขบ อิอิ ::005::

เห็นแต่เด็กแว๊นซ์มันปั๊มลูกกันจัง

ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่ไม่มีใครเอา  ครับ

        อ้าว..อ้าว.. ::009::
แล้วผมหมดไปร่วม ๗ แสน
กับเรื่องการไม่มีลูก  พยายามกันสุด ๆ แล้ว
งั้นก็ออกกฏหมายให้หาคู่ครองใหม่ได้โดยชอบธรรมซิ
หากว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมีลูกได้  ว่าแต่ว่าเมียผมจะยอมไหมละ ::004:: ::004:: ::004::

ตรูไปโสดกลางห้องรับแขกบ้านมันหรือไงฟระ.....  ::009:: ::009:: ::009::

เอาใจรากหญ้าผู้มีแต่ลูกไร้คุณภาพชัดๆ

น้าซับใจเย็นๆครับ  ::014::
เราต้องโสดอย่างมีคุณค่านะครับน้า  ::005::

       แทบสำลักกาแฟ ::007::

ของน้าสมควรตัดออกไปให้เป็ดกินได้แล้ว..................หาหม้ายใครเอา

อ่ะ... ไม้หันอากาศหายวุ๊ย...

กระทู้นี้ส่งกลิ่นไม่ดีแหล่ว... ฮา...

เปลืองภาษีเลี้ยงดูคนโสดแก่ๆไงๆ เพราะไม่ได้ช่วยผลิตพลเมืองมาช่วยทำงานเลย
วันๆ เอาแต่ลอยชายไปมา หาแต่รูป ไม่ลงมือปฏติบัติเสียที

Ha Ha Ha  ฮา  "Oh yes" จ๊านโฉมชาย(ฮา) อ่ะ ฮา

55555  "เปิ่น"  อ่ะ  ฮา
คำในภาษาใต้ เขาใช้แบบ  สั้น กำกวม ที่เราเรียกว่า  สำเนียง "ทองแดง" อ่ะ ฮา
ถ้านึกไม่ออก   ลองเหลียวไปดู  ด๊อกเตอร์ "สามสี"  ไตรรงค์ ดูอ่ะ ฮา 555555

ส่วนพี่  ทหารดำ  แนะนำให้ "ตด" ฮา
ยายว่า  "รุนแรง"  ทำร้ายจิตใจ ป้าแกเกิ๊นไป อ่ะ ฮา

ถ้าแก้เรื่อง   "สีตก"   ได้  ก็คงไม่ต้อง ตด แล้ว อ่ะ ฮา
55555 เวลา สีตก  มันเล๊อะ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007::

แทนที่จะเปนกระทู้กำจัดคนโสดแล้วเอาคนมีเมียมาแทนที่ กลายเปนกระทู้ฆ่าน้าซับไปซะ

ถึงเสี่ยเบิ้มจะเป็นโสด แต่ค่าใช้จ่ายแต่ละคืนสูงมาก ยังจะมาเก็บภาษีคนโสดอีก ::007::

อ้ายกระผมนี่สิ...ไปแตะตรงไหนมันก็ติด...อยากประกาศรับเป็นพ่อพันธ์จัง...

แสดงว่ามีตุนใว้เยอะ ::005::

เน้นคุณภาพน่าจะถูกต้อง ;D ;D ;D แต่แรงงานขาดแคลนรึเปล่าในอนาคต

ของเขาดีจริงๆ ;D ;D ;D ติดง่าย โตไว

นึกถึงเพลงนี้ครับ

http://youtu.be/N3t4iluUQrs

ส่วนเพลงนี้มอบให้พี่ซับฯ

http://youtu.be/p2r2uqjpuGI

 ::005::

ไม่น่าจะขาด ขนาดไม่ค่อยอุ้ม ยังมีกันมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าจะให้ดีผม่วารัฐน่าจะจัดตั้งกองทุนเมียคนแรกสำหรับคนโสด แล้วก็จะดีอีกมากถ้าตั้งกองทุนเมียคนที่สองที่สามด้วย

จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้าว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน โครงสร้างประชากรไม่สมดุล ซึ่งทางแก้ไขคือ  ภาครัฐควรออกนโยบายสนับสนุนให้คนไทยมีลูกเพิ่มขึ้น  และควรเรียกเก็บภาษีคนโสด ภาษีคนไม่มีลูก กระตุ้นให้มีครอบครัวเพื่อลดภาระงบประมาณ การใช้สวัสดิการดูแลของภาครัฐในอนาคต

          ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 6 กันยายน 2556 ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ดร.เสรี วงษ์มณฑา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการเสนอให้มีการเก็บภาษีคนโสด โดยระบุว่า นโยบายดังกล่าวเป็น ความคิดของอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่แนวคิดของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอจริง น่าจะต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านแน่นอน

สำหรับข้อความบนเฟซบุ๊กของ ดร.เสรี วงษ์มณฑา มีดังนี้

          คนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายเก็บภาษีคนโสดและคนไม่มีลูกเพิ่มอย่าด่ารัฐบาลนะ เพราะความคิดนี้ไม่ได้มาจากรัฐบาล แต่มาจากอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งที่มองว่า ถ้าหากคนแต่งงานน้อยลง มีลูกน้อยลง จะทำให้มีเด็กที่โตมาเป็นคนวัยทำงานน้อย แล้วรัฐก็จะเก็บภาษีได้น้อย ไม่มีเงินมาเลี้ยงดูคนแก่วัยเกษียณซึ่งปัจจุบันก็อายุยืนขึ้น

          ท่านก็เลยอยากให้คนแต่งงานและมีลูก เพื่อจะได้มีเด็กโตเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น มาช่วยกันเสียภาษีให้มากขึ้น เพื่อจะได้มีเงินดูแลคนแก่วัยเกษียณ ท่านคิดอย่างนี้เพราะท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับการเงินการคลังมากกว่าที่จะมองประเด็นทางสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ตลอดจนวิยาศาสตร์การแพทย์

คนที่ไม่แต่งงานมีตั้งหลายสาเหตุ

          ไม่พร้อมด้านเศรษฐกิจ

          ไม่พร้อมที่จะผูกพัน

          กลัวชีวิตคู่

          ยังหาคนถูกใจไม่ได้

          ยังไม่เป็นที่ถูกใจใคร

          เป็นเก้งกวาง

          เป็นกะเทย

          เป็นผัวกะเทย

          เป็นสาวแปลงเพศ

          เป็นทอม

          เป็นดี้

          อกหักเข็ดแล้วความรัก

          มีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับชีวิตคู่จากพ่อแม่

          อยากมีอิสระในการใช้ชีวิต

          ไม่ต้องการมีห่วงมาผูกคอ

          สุขภาพไม่อำนวย

          เป็นคนพิการบางประเภท

ส่วนคนที่ไม่มีลูกมีตั้งหลายสาเหตุ

          ไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ

          ไม่พร้อมเป็นพ่อแม่

          กลัวเลี้ยงลูกไม่ได้ดี

          ไม่อยากมีห่วงผูกคอ

          คิดว่าเลี้ยงลูกให้ดียาก

          ไม้อยากพาใครมาทุกข์ยากบนโลกใบนี้

          สุขภาพไม่อำนวย

          เป็นหมัน

          เครียดจนเชื้อไม่แข็งแรงพอ

          ฝ่ายหญิงไม่ต้องการมีลูก

          กลัวภาระที่จะเกิดขึ้นในการเลี้ยงลูก

          ไม่มีใครช่วยดูแลลูก ต้องทำงานทั้งคู่

          ความคิดและสภาพเหล่านี้สมควรที่จะถูกลงโทษด้วยการเก็บภาษีเพ่มอีกเหรอ การเป็นโสดโดยไม่สมัครใจ ไม่ใช่ทางเลือกแต่ไม่มีใครจะแต่งด้วยนั่น ก็เป็นความเหงาความระทมขมขื่นพอแล้วนะ ตะซ้ำเติมกันอีกทำไม เรื่องใครจะมีผัวมีเมียหรือไม่น่าจะเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะ ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย แบะการที่คู่สมรสบางคู่เขาไม่ต้องการมีลูกเพราะกลัวลูกลำบากในโลกนี้ ก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะคิดนะ และอาจตะคิดถูกด้วย ชีวิตในโลกนี้ ทุกขังอนิจจังอนัตตานะ และทุกวันนี้เคยสังเกตไหมว่าลูกที่เป็นโสดมักจะเป็นคนเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ดีและเต็มที่กว่าลูกที่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว

          ขอแชร์ความคิดนะ และขอย้ำว่าความคิดเรื่องเก็บภาษีคนโลดและคนไม่มีลูกเป็นของนักวิชาการ ไม่ใช่ของรัฐบาล ดังนั้นอย่าด่ารัฐบาลนะ ที่พูดมานั้นเขาเรียกว่าตีปลาหน้าไซ คือพูดดักไว้ก่อนว่ารัฐบาลอย่าได้บ้าจี้เต้นตามข้อเสนอนี้   ย้ำอย่าด่ารัฐบาลนะ

          พร้อมกันนี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า ถ้ารัฐบาลบ้าจี้ออกกฎหมายเก็บภาษีคนโสดและคนไม่มีลูก เตรียมเจอม็อบได้เลย

          1. คนไม่อยากมีภาระครอบครัว

          2. คนที่มองว่าเลี้ยงลูกสมัยนี้แพง

          3. คนที่เชื่อว่าเลี้ยงลูกให้ดีสมัยนี้ยาก

          4. คนที่ถือคติ "อบุตราปรมาลาภา" ความไม่มีลูกเป็นลาภอันประเสริฐ

          5. คนที่เป็นหมัน

          6. คนที่ปัญหาสุขภาพมีลูกไม่ได้

          7. คนที่ยังหาคนถูกสเป็คไม่เจอจึงยังไม่เลือก

          8. คนที่ไม่ได้เป็นเสป็คของใครจึงไม่ถูกเลือก

          9. คนที่แต่งแล้วหย่าก่อนมีลูกและเข็ดแล้วกับความรัก

          10. คนที่เป็นหม้ายก่อนมีลูกและตั้งใจจะไม่มีรักใหม่

          11. เก้งกวางทั้งหลาย

          12. กะเทยที่กฎหมายไม่อนุญาตให้แต่งงานอย่างถูกต้อง

          13. ผัวกะเทยที่ติดสัญญาว่าจะต้องอยู่กับกะเทยอีกหลายปีจึงจะมีอิสระไปแต่งงานได้

          14. สาวประเภทเอวลงที่ไม่อาจแต่งงานตามกฎหมายได้และไม่อาจมีลูกได้

          15. คนที่เป็นทอมที่จะไม่มีผัว

          16. คนที่สมัครใจเป็นดี้ที่ไม่ต้องการจะรักผู้ชาย

          ที่คิดได้ก็มีบุคคลเหล่านี้ คอยเงี่ยหูฟังไว้นะว่ารัฐบาลจะเอาด้วยหรืเปล่า ถ้าเอาด้วยก็ต้องก่อม็อบนะคะ แค่หนาวอยู่บนคาน ก็แย่แล้ว บางคนหน้าตาก็พระเจ้าลงโทษมาแล้ว ยัง0ะเอาภาษีมาซ้ำเติมอีก ถ้าหากต่อสู้ไม่ได้ รัฐบาลต้องมีนโยบาย

          ผัวคนแรก

          เมียคนแรก

          ลูกคนแรก

          ออกกฎหมายให้พวกรักเพศเดียวกันแต่งงานด้วย


http://fb.kapook.com/hilight-90828.html

สงสัยอาจารย์นั้นใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนครับ

(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/998980_613999381956759_530318180_n.jpg)

คอยดูนะ ถ้ามีกฎหมายนี้เข้าสภา ผมจะเอาเมียทันที ไม่เลือกละ  ::007:: ::007:: ::007::

มีแล้วอยากมีเพิ่มแบบถูกกฏหมายทำไง55555 ;D ;D ;D

ไม่มีเมีย  แต่มีลูกที่ไม่ได้รับรองบุตร อยู่ จังหวัดละ1-2คน รอบกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล  ร่วม6-7คน
อย่างงี้ไปขอจดรับรองบุตรย้อนหลัง ยื่นขอภาษีคืนได้ปะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
555555555555+

        มวยค่ายเดียวกัน
เขาย่อมรู้ทางกัน ครับ........ ::005:: ::005::

 ;D

ทำไม่เป็นหรือเปล่าน้อง  อิอิ

ครูหมูเข้าแต่ประตูหลัง  จะเอาลูกมาจากไหนอะ   ::005::

ขอแบบนี้ :VOV: ::005::

(http://image.ohozaa.com/i/ed1/FcKhr2.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x4EzW6TCSH4nDBjU)

(http://image.ohozaa.com/i/ff0/SAeAsf.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/x4CMFCA2JzJWJM7U)

ขอที  จะเอาสอง

แหม แหม...