เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

............. ;D...เข้าเดือน ก.พ  แล้วมีเพื่อนๆในเวบ ท่านใดไป เยียมเยื่อน กองทะเบียนปืนที่ใหม่หรือยังครับ  ผลการบริการเป้นไงเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ.. ;D

          แต่ที่นี้เขาว่าไปมาแล้ว....เขาเล่าว่ายังงี้ครับ ลองเข้าไปอ่านดูได้เลยยยยยยยยยยย.. :D~

    http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/Question.asp?ID=862 (ftp://http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/Question.asp?ID=862)

 ;D ;D

ทำไม Link ไม่สามารถเข้าไปดูได้หละครับคุณนินจา

.................. ;D..เข้าไม่ได้หรือครับงั้นเอาใหม่ อีกที่.. ;D

              http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/Question.asp?ID=862

นี่แสดงว่ากำลัง Online อยู่สิท่า  ถามปุ๊บ ตอบ ปั๊บเลย  ;D ;D

 ;D ลองดูดิ๊ http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/weblist.asp หรือ http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/questionn.asp?id=863

กำลังจะไปทำเรื่องโอนย้ายทะเบียนปืนจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ พอดีครับ 
ว่าแต่... ท่านใดพอจะมีที่อยู่โดยละเอียดมั้ยครับ  ถ้าเป็นแถว ๆ ถนนนครสวรรค์ไม่ค่อยคุ้นครับ
ระยะหลัง ๆ รัศมีทำการจะไม่เกินอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย ไกลหน่อยก้อ สนาม ศรภ.  ;D ;D

ได้ข่าวขอ 60 วันก่อนเริ่มเซ็นเอกสาร (รอไปก่อนครับพี่น้อง)

แผนที่อยู่ในกระทู้นี้เลยครับ
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=2310.0

   ไม่ทราบว่าคุณ Condition Zero  ได้ อ่านกระทู้คุณ ปิ๊ก หรือ ยัง ? ขออนุญาติ เอารูปแผนที่ ที่ คุณ ปิ๊ก โพส์ ไว้ มาลง ครับ :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

 ::)...หมายความว่ายื่นคำร้อง ป.1 แล้วรอไปอีก 60 วันหรือครับ  ??? หรือขอเวลาศึกษางานก่อน 60 วัน... ???

แบบว่าใหม่นะครับ อะไรก็ไม่ลงตัว ไม่กล้าเซ็นประมาณนั้น ขออีก 60วัน  ;D ;D ;D (รอไปก่อนครับพี่น้อง)

...เอ....แบบนี้ไม่ผิดระเบียบ/กฎหมายว่าด้วย......(ที่เกี่ยวกับระยะเวลาของเส้นทางเอกสาร) และมีผลต่อการอุทธรณ์..อย่างที่เคยทำที่ตอนอยู่ที่เดิมหรือครับ... ???

เรื่องที่ค้างมาจากที่เดิมหละ  ต้องรออีก 60 วันด้วยแหง๋ๆเลย  ใช่ไหมครับพี่น้อง ;D

เห็นว่าต้องใช้หลักฐานการผ่านการอบรมหลักสูตรอาวุธปืนมาประกอบด้วย ???แล้วคนที่ไม่เคยอบรมเลยนี่จะมีปัญหาหรือไม่?

...ถ้าเป็นอย่างที่ว่า รับรองปัญหาเยอะเลย เพราะว่าตามคุณสมบัติผู้จะครอบครองอาวุธปืนหลักๆก็คือมีงานทำ/มีรายได้ที่แน่นอน จะมีเวลาที่ไหนไปอบรมได้สะดวก  และหน่วยงานที่ให้บริการตรงนี้ยังมีน้อยและจำกัด
...น่าจะเปลี่ยนเป็นการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ การดูแลรักษา และการทดสอบทางจิตวิทยา รวมถึงภาคปฎิบัติในด้านการใช้ปืนให้ปลอดภัยแทนน่าจะได้ผลมากกว่า...

จริงๆแล้วก็เห็นด้วยที่จะต้องมีการทดสอบเหมือนการออกใบขับขี่ แต่ต้องมีการเตรียมความพร้อมรองรับก่อน มีการแก้ไขคุณสมบัติก่อน ไม่งั้นจะกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ การแบ่งแยกคน การออกประกาศโดยขัดแย้งกับกฏหมาย

ขอบคุณครับ คุณปิ๊ก กะ คุณ RUGER  :) :)

เห็นด้วยกับเรื่องความรอบคอบในการออกใบอนุญาตให้มีให้ใช้อาวุธปืน แต่ต้องมีความพร้อมในเรื่องการกำหนดคุณสมบัติ ซึ่งต้องโปร่งใส ชัดเจน เข้าใจได้ และมีเหตุผลทีเอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่ายรองรับ

เป็นเรื่องดีครับที่ประเทศเรายังมีเสรีภาพในเรื่องนี้อยู่บ้าง (บ้าง  ??? ???) แต่ก็ต้องมีเหตุผล ทีมาที่ไป ของการให้มีให้ใช้อาวุธปืนของประชาชน เพื่อป้องกันการหาเหตุมายึดปืนด้วยเหตุผลที่ฟังดูแล้วเหมือนคิดสั้น ๆ ไม่มี vision  ไม่เห็นเหมือนที่ท่าน ๆ กล่าวอ้างตลอดเวลาว่ามีเยอะ  >:(

เห็นว่าต้องใช้หลักฐานการผ่านการอบรมหลักสูตรอาวุธปืนมาประกอบด้วย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่สนามยิงปืนกรมตำรวจ มีประชาชนเข้ามาอบรมหลักสูตรการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นกันมากพอสมควร อบรมวันเดียว ช่วงเช้าเป็นทฤษฎี ส่วนช่วงบ่ายเป็นภาคปฏิบัติ หลังอบรมเสร็จแจกวุฒิบัตรเลย

คาดว่าน่าจะเป็นบุคคลที่เตรียมขออาวุธปืนเข้ารับการอบรม เพื่อยื่นเรื่องขอ ป.3 กับมหาดไทยตามระเบียบใหม่ครับ

สนามยิงปืนเตรียมจัดการอบรมได้เลยครับ เอาแบสั้นๆกระชับเบื้องต้น น้ำขึ้นให้รีบตักครับ   ;D ;D  ให้ไว   ;D ;D  ให้ไว

........... ;D..เรื่องผ่านการอบรมและมีประกาศรับรอง นี้ผมยังไม่เคยเข้าอบรมที่ไหนเลยแบบนี้ก็ต้องรีบหาที่เรียนหน่อยซะแล้ว...  ว่าแต่ ระเบียบนี้ใช้เฉพาะ กทม. รึปล่าวครับ ถ้าใช้ก็ต้องถือว่าเลือปฏิบัติอีกแล้ววววววววววว  ประเทศไทยยยยยยยยยยยยยยย.. หลายมาตราฐาน..เหลือเกิน..???

 :-\  ยังดีที่มีประกาศอบรมอยู่บ้างน๊ะเนี้ย

เอ?..........แล้วคนที่ไม่มีประกาศอะไรเลย แต่มี บิลรับเงินเดือน ระบุ มีค่า พ.ส.ร. เป็นเงินได้รายเดือน........ต่างหากจากเงินเดือนนี่

ทางกองทะเบียนเขาจะถือว่า เป็นผู้ที่ได้รับการอบรมเกี่ยวกับอาวุธปืนมา หรือเปล่าครับ ;D

ไม่รู้ว่าคิดแง่ลบเกินไปหรือเปล่า อีกหน่อยค่าอบรมการใช้อาวุธปืนจะสูงขึ้นเท่าไหร่ หวังว่าสถาบันและผู้ให้การอบรมคงไม่ฉวยโอกาสนะครับ ปัจจุบันค่าเฉลี่ยการอบรมอยู่ประมาณ 3000 บาทใช่ไหม่ครับ และนักวิทยุสมัครเล่นเคยเจอปัญหาคล้ายๆแบบนี้เหมือนกันโดยจะต่ออายุบัตรนักวิทยุสมัครเล่นได้ต้องสังกัดชมรมหรือสมาคมที่ การสื่อสารรับรองใช่ไหมครับ

เห็นด้วยในการใช้กฏหมายนี้

แต่ อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะครับ คิดว่าน่าจะต้องมีคนที่ไม่อยากอบรม เล่นไปซื้อวุฒิบัตรมาอีกจนได้ ทำให้กฏหมายนี้ไม่มีความหมาย ถ้าจะใช้ควรเปิดอบรมที่เดียวในแต่ละจังหวัด เพื่อไม่เปิดโอกาส หรือให้มีโอกาสทำอย่างว่าน้อยที่สุด ไม่งั้นเหมือนตรวจสภาพรถตอนต่อทะเบียน

 
        (คิดเล่นๆ)

ผมคิดอีกทางหนึ่งนะครับ.............มองได้สองประเด็น

ประเด็นแรก...........เป็นการรับประกันว่า บุคคลใดที่ ยื่นคำร้องขอมีและใช้อาวุธปืน ต้องได้รับการอบรมการใช้อาวุธอย่างถูกต้องและปลอดภัยเสียก่อน.........เป็นคุณสมบัติที่ควรจะมี เพราะในความเป็นจริง มีประชาชนทั่วๆไป มีอาวุธปืนในครอบครองแล้ว ไม่มีความรู้เบื้องต้นเลย แล้วเกิดอันตรายจากอาวุธนั้น ก็มากต่อมาก..............

ประเด็นที่สอง...............หากกำหนดเป็นคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่ง ของบุคคลที่จะขอมีและใช้อาวุธปืน............ตัวนายทะเบียนเอง ก็อย่าเล่นแง่ กับผู้ขอ ก็แล้วกัน..............ผมกลัวว่า แม้จะได้รับการอบรมมาแล้ว...........นายทะเบียนยังไม่ยอมอนุญาต ก็เปล่าประโยชน์

ส่วนเรื่องการที่สถาบันต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร จะขึ้นราคาค่าใช้จ่ายในการอบรมนั้น............ผมว่าคงไม่มีการฉวยโอกาสหรอกครับ..........หากจะขึ้น ก็คงขึ้นเนื่องจาก สภาวะทางเศรษฐกิจมากกว่า............ส่วนด้านเอกชนนั้น ผมไม่คาดหวัง.................และหากมีการที่จะต้องเข้าเป็นสมาชิกสนามหรือชมรมต่างๆ ก็เป็นการดีสิครับ.............เพราะจะเป็นการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องอาวุธปืนที่ถูกต้อง แกประชาชนให้แพร่หลายออกไปอีก...............นโยบายจะเก็บจะยึด ก็จะมีคนต่อต้านมากขึ้นไปอีก

โอ้โห..เด็ดเเลยครับ..ไอเดียใหม่ ผมเปิดโรงเรียนสอนหลักสูตรการยิงปืนเพื่อขอใบอนุญาตดีกั่ว..สอนไปเรื่อยจนยันหลักสูตรรบหลักขั้นสูงลิ่วเลย...

อ.PEX เอาหนังสือขอบคุณที่เป็นวิทยากร/ครูฝึก การใช้อาวุธปืนไปใช้แทนดีกว่าครับ  :D

สงสัยว่า ในเมื่อผ่านการอบรมมาแล้ว ไฉนยังต้องหาคนมารับรองอีกล่ะครับ ... เอา ขรก. พลเรือนที่ไม่เคยสนใจปืน แต่มีซีสูงพอ ก็รับรองได้ ... ???

      อันที่จริงเรื่องการต้องยื่นเอกสารรับรองการผ่านอบรมการใช้อาวุธปืน ผมว่าน่าจะทำเหมือนสอบใบอนุญาตขับรถไม่ดีกว่าหรือ เอาแบบนี้เลย

      1. กลุ่มงานอาวุธปืน กรมการปกครองต้องสร้างสนามยิงปืน เพื่อใช้สำหรับทดสอบการยิงปืนของประชาชน
      2. ก่อนการทดสอบวัดความรู้ ต้องมีการอบรมภาคทฤษฎีเรื่อง กฎแห่งความปลอดภัย การใช้งานอาวุธปืนเบื้องต้น ให้กับผู้ที่จะขอมีอาวุธปืน (กระบอกแรก) ก่อน  อบรมสัก 2 ชั่วโมง
      3. จากนั้นสอบข้อเขียน
      4. หากสอบผ่านข้อเขียนตามเกณฑ์ภาคทฤษฎีแล้ว
      5. ให้ทดสอบการยิงปืนในภาคปฏิบัติ
      6. หากสอบข้อเขียนไม่ผ่าน  ให้เข้าอบรมภาคทฤษฎีใหม่จนกว่าจะสอบผ่าน
      7. หากสอบตกภาคปฏิบัติ  ให้ผู้ยื่นการขอมีอาวุธปืน  ไปเข้าอบรมตามหน่วยงานที่มีการจัดอบรมการใช้งานอาวุธปืน (ถึงแม้ว่าได้ใบประกาศมาแล้ว ก็ต้องมาทดสอบภาคปฏิบัติอีก แต่ไม่ต้องสอบภาคทฤษฎีที่สอบผ่านมาแล้ว ยกเว้นว่าสอบผ่านภาคทฤษฎีมาแล้วเป็นเวลานานเกิน 6 เดือน...ฮ่า ๆ)

      หมายเหตุทุกขั้นตอน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นค่ากระสุนในขั้นตอนการทดสอบภาคปฏิบัติ

ฮ่า ๆ หากเป็นอย่างนี้ คงสนุกน่าดูเนาะ