เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ตามลิ้งค์นี้เลยครับ http://bcove.me/th5cnigw   :OO ::002::

หมายถึงให้หุ่นยนต์ขี่เรือบินหรือครับ... นายสมชายนึกว่าเขาทำได้ตั้งนานแล้วเสียอีกครับ เพราะได้ยินเรื่องใช้โดรนตรวจการณ์+โจมตีภาคพื้นดินมานานแล้วนี่ครับ...

นี่ยังไม่นับเรื่องหุ่นยนต์กูเกิ้ลไปสอบใบขับขี่ปรกติเหมือนใบขับขี่ของมนุษย์เสียอีกด้วย... ซึ่งเรื่องหุ่นยนต์สอบใบขับขี่นี่เริ่มส่อแววพนักงานขับรถสาธารณะ/รถยนต์รับจ้าง จะเริ่มซวยเพราะตกงานแหงๆครับ(ในอนาคตอันใกล้ - ไม่เกิน 10 ปี)...

เพิ่งเห็น Detail ครับในคลิปเป็นหุ่นยนต์ขี่ F-16... ครั้งแรกเสียด้วย...

ไม่แปลกเลยครับ เครื่องบินสมัยใหม่บินเองได้มานานแล้วเราเรียกระบบนี้ว่า Auto Pilot

อย่างนี้ปัญหาเรื่องแรง G ก็ไม่มีผลต่อนักบิน จะบินผลาดแผลงยังไงก็ได้ เยี่ยมเลย

ของไทยก็มีเวอร์ชั่นเล็กๆครับ... เป็นอากาศยานไร้คนขับ มีอุปกรณ์ระบุตำแหน่งพิกัด+กล้อง VDO ที่คราวที่แล้วเราบินไปดูรถถัง กับดูหลุมปืนใหญ่เขมรไงครับ...

บินเสร็จก็ปรับแก้พิกัดปืนใหญ่ของเราให้เหมาะๆ เล่นเอาลูกชายฮุนเซ็นถึงขั้นบาดเจ็บเจียนตายต้องหนีจู๊ดกลับบ้านไงครับ... ฮา...

QF-16 เครื่องบินเป้าน่ะคงมาแทน QF-4 Phantom ที่คงเอาใช้เป็นเป้าบินเกือบหมดแล้วมั้ง เขาเริ่มดัดแปลงบ.ที่ปลดประจำการแล้วมาตั้งแต่สมัย F-100 เป็น QF-100 เมื่อหมดแล้วก็ทำ QF-4 จนมาถึง QF-16 นี่แหละ

ตั้งแต่นั้นมา ฮุน มะเน็ด ไม่ค่อยเห็นออกสื่อเลยนะ ภาพข่าวต่างๆ ก็ไม่ค่อยมี
สงสัยโดนจริงๆ แผลเป็นอาจยังไม่หาย เลยโผล่หน้าเข้ากล้องไม่ได้

 ต้องถามคนไปงานแต่งลูกเจ๊แดงดูว่าเห็น ฮุน มะเน็ด บ้างหรือเปล่า

 ;D ::005:: ::007:: ::007::

ผมรู้มานานแล้วพี่ ::007::

ลำนี้มีเถียงได้ด้วยครับ ::007::

(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)

 ::014::

ต่อไปทุกสิ่งทุกอย่างสามารถทำแทนคนหมด แล้วคนจะไปทำอะไรหละครับ มีหวังถูกหุ่นยนต์กำจัดเหมือนหนังเรื่อง คนเหล็ก 2029 แน่ๆครับ

สงสัยใช่ครับ... ที่แน่ๆ ตอนนี้นายสมชายเริ่มใช้หุ่นยนต์สั่งซื้อขายหุ้นแล้วครับ, ทั้งที่ไม่กี่ปีมานี่นายสมชายคิดเสมอว่าเรื่องที่มันไม่ขาวขาดดำขาดต้องใช้ทักษะฝึกฝนฯ แบบขับขี่รถยนต์/เรือบินนั้น หุ่นยนต์ทำไม่ได้ แต่วันนี้มันทำได้แล้วครับ...

อันแรกเลยก็คือรถยนต์สาธารณะฯ(เช่นรถเมล์/รถบรรทุกขนส่ง) จะโดนหุ่นยนต์ค่อยๆแทนที่(ปลดเกษียณจะไม่รับคนใหม่ - แต่ซื้อหุ่นยนต์แทน) โดยเหลือมนุษย์นั่งในรถไปด้วย แต่เป็นแค่คนคอยดูแล+บำรุงรักษาหุ่นยนต์เท่านั้นครับ... คอยดูที่ US. ก่อนเลย เพราะหุ่นยนต์ไปสอบใบขับขี่เหมือนมนุษย์ได้แล้ว(หุ่นยนต์กูเกิ้ล - สอบใบขับขี่ที่เนวาด้า กับแคลิฟอร์เนีย)...

ยังเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันครับ ไม่มีทาง ผมขอยืนยัน เรื่องหุ่นยนต์ ผมเคยใช้งานจริงมาหลายตัว ในกระบวนการผลิตตัวถังรถยนต์
หุ่นยนต์ทุกชนิดทำตามคำสั่งและสถานการณ์ที่คนเขียนโปรแกรมลงไป คนป้อนโปรแกรมลงไป อีกกี่สิบปี อีกกี่สิบชาติ ก็ไม่มีทางทำได้
อย่างคน ถึงแม้เราจะไปเห็นหุ่นยนต์ต่างๆทำงานแทนคนได้แล้วเยอะแยะหลานงานแล้วก็ตาม เช่น เสริฟอาหาร ขับรถ งานบ้าน
ค้นหา เคลื่อนย้ายสิ่งของ ขนส่ง
  จริงๆ ทุกอย่างมันมาจากคน ไม่เถียงว่าในอนาคตอาจมีหุ่นยนต์ทำงานแทนคนได้สารพัดงาน แต่หุ่นยนต์ทุกตัวต้องมาจากการ
โปรแกรม อยากทันสมัยก้าวไปกับโลกหุ่นยนต์ โดยไม่ต้องกลัวหุ่นยนต์มาแย่งงาน คุณต้องเป็นคนควบคุมหุ่นยนต์เองนั่นคือ
 คุณต้องเป็น Software Engineer เรียนรู้การโปรแกรมภาษาต่างให้หุ่นยนต์เอง เขียน Software และเพิ่มสถานการ์ให้หุ่นยนต์ตัดสินใจเองเยอะๆ

เอ่อ...แล้วจะมายกยอปอปั้นความเก่งกาจของหุ่นยนต์ไปสารพัดว่าทำงั้นทำงี้ได้ ไปทำไม
ในเมื่อมันไม่ได้ทำเอง ต้องสรรเสริญ คน หรือ ทีม Software Engineer ที่โปรแกรมมันขึ้นมาซิครับ
เพราะหุ่นยนต์มันคิดเองตัดสินใจเองไม่ได้
สุดท้ายก็คน เชื่อเถอะครับว่า คน เท่านั้น ที่เก่ง

เรื่อง AI - Fuzzy logic ไงครับ... ตรงเกรย์แอเรียนี่นิวร่อนเน็ตเวิร์คมันทำได้ดียิ่งขึ้นทุกวันน่ะครับ, ตรงนี้แหละครับ ที่หุ่นยนต์สามารถทำในสิ่งที่คนโปรแกรมมิ่งไม่ได้เตรียมสถานการณ์เอาไว้...

ตัวอย่างเช่นโปรแกรมมิ่งสมัยก่อนจะให้หุ่นยนต์ทำอะไรสักอย่าง คนก็ต้องโปรแกรมด้วยการใส่สถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้ให้ครบถ้วน เช่นอาจเอาไปใส่ในแผนภูมิรากต้นไม้ฯ แล้วเตรียมตรรกะให้มันคิดไปจนทางเลือกแคบลง... แต่หากให้นิวร่อนฯมันคิดเอง มันจะเรียนรู้จากสถิติย้อนหลัง และมีทางเลือกที่คนโปรแกรมมิ่งไม่ได้ใส่เอาไว้ด้วยนี่ซิครับ...

น้าดุลฯ ลองดู AI ในเกมส์วางแผนซิครับ(เช่น Company of Heroes)... เราเล่นดักทางมันแค่ครั้งสองครั้ง ครั้งต่อไปต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ เพราะมันฉลาดกว่าเดิม...

Fuzzy logic ก็ยังคงเป็นโปรแกรมโมดูลหนึ่งที่คนใส่ลงไป (ซอฟท์แวร์มีบ้างแต่ไม่เคยใช้แค่เผินๆ ว่ามันคืออะไร อยากได้ยังไง เขียนเองดีกว่า)
คือยังไงๆ Fuzzy logic ก็เป็นโปรแกรมของคน คน ก็ยังคงเก่งกว่าอยู่ดี
 ผมอาจจะมองในอีกมิติที่ไม่เหมือนกะคุณสมชายนะครับ ที่อาจจะมองว่า ผลของการทำงาน ผลของการตัดสินใจได้ดีของหุ่นยนต์ต่อสถานะการณ์
ที่เปลี่ยนไป มันตัดสินใจได้ดีขึ้นเก่งขึ้นเมื่อสถานะการณ์เปลี่ยน คือหุ่นยนต์เป็นแค่ผลของการ execute runtime program (อิ อิ เอาแบบนี้แหละ ไม่แปล) ที่คนเขียนเท่านั้น
 แค่มองต่างมุมเฉยๆครับ หุ่นมันคิดสมการ source code Fuzzy logic เองไม่ได้ถ้าคนไม่ download มันลงไป
ผมก็ยังคงยกย่องคนที่เขียนสมการ Fuzzy logic เองอยู่ดีว่าเก่ง

คุยต่อครับ...

แต่คงลงได้ไม่ลึกเท่าไหร่ เพราะนายสมชายจบ Computer Science กับ MIS มาได้นานเกือบ 20 ปีแล้วนะครับ สมัยนี้อะไรมันเปลี่ยนไปแยะ แล้วยิ่งช่วงหลังนายสมชายไม่ได้อยู่ในวงการมาสิบกว่าปีแล้วครับ(สมัยอยู่ในวงการก็เล่นแต่ Database Design กับ System Analysis ในแอปปลิเคชั่นธุรกิจ)... ถือว่าแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างวิศวกรฯ กับ Com Sc. กับ MIS ครับ... แฮ่ๆ...

คือโปรแกรมมิ่งยุคก่อน เขาจะเตรียมทางเลือกให้โปรแกรมมันมีการกระทำเอาไว้ล่วงหน้า เช่นให้ดำเนินการหมายเลข 1 - 10 แล้วกำหนดตัวทริกเกอร์เอาไว้ให้คิดเรียงตามลำดับ โดยจะตัดตัวเลือก Output ออกจนกระทั่งเหลือให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งจากทั้งหมด 10 ทางเลือกครับ... แต่ AI ชนิดนิวร่อนเน็ตเวิร์คมันคือเอ็นจิ้นเปล่าๆ ไม่ได้โปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะให้มันทำอะไร แล้วตัวมันเองมีฐานข้อมูลของมันเองสำหรับเก็บข้อมูล กับมีช่องทางสำหรับใส่อินพุท...

ทีนี้เวลาคนจะเอาเอ็นจิ้นมาใช้งาน ก็ต้องเตรียม UI หรือส่วนติดต่อกับผู้ใช้งานให้เหมาะสม กับเตรียมช่องทาง(Device) สำหรับให้ตัวเอ็นจิ้นมัน"ดำเนินการ"ให้เหมาะสมกับสถานการณ์... ตัวอย่างเช่นในเกมส์ Company of Heroes ก็เขียนโปรแกรมกราฟฟิก ขึ้นมาครอบตัวเอ็นจิ้นให้ Input/Output ออกมาในรูปแบบของเกมส์วางแผนสู้รบ โดยมีตรรกะครอบเอาไว้เป็นระบบอาวุธ+แผนที่ สมันสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้น...

สรุปก็คือตัวเอ็นจิ้นเองมันสามารถให้ Output ได้ไม่ใช่แค่จากทางเลือก 1 - 10 ที่เตรียมเอาไว้ให้ตั้งแต่แรกครับ แต่มันสามารถ"เรียนรู้"และ"ลองผิดลองถูก"จากนั้นมันก็เก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลของมันเอง เพื่อให้ครั้งหน้ามันสามารถปรับปรุงเรโชประสิทธิภาพได้สูงขึ้น โดยอาศัยข้อมูลเดิมในฐานข้อมูล แล้วที่มันปรับปรุงขึ้นนี่คือปรับปรุงทั้งตรรกะ และปรับปรุงหาทางเลือกใหม่ได้อีกด้วยครับ...

ทีนี้มองแบบนิยายวิทยาศาสตร์... ฮา...

ที่น่ากังวลก็คือเบื้องต้นหุ่ยนต์ AI แต่ละตัวมันทำงานได้ไม่ Universal จริงๆ เช่นอาจเป็นเพราะตัวแรกๆมันทำงานแค่เฉพาะกิจเฉพาะด้าน แต่เมื่อเอาแต่ละตัว(มองให้เป็นหนึ่งโมดุล)มาทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายซ้อนกันเข้าไปหลายชั้น... โดยที่มีบางโมดุล(หุ่นยนต์บางตัว)มีหน้าที่ปรับปรุง+พัฒนาระบบ เข้ามาอีกด้วย(เช่นหุ่นยนต์บางตัวมีหน้าที่เฉพาะกิจ คือออกแบบหุ่นยนต์โมเดิลใหม่ - เพื่อปิดจุดอ่อนหุ่นยนต์รุ่นเดิม)...

แล้วหากมองว่าหุ่นยนต์มันสามารถ Nested ซ้อนกันได้หลายชั้น แล้วในแต่ละชั้นมันก็สามารถพัฒนาตัวมันเองขึ้นไปได้โดยตัดสินใจจากข้อมูลในอดีต(มันมีวิวัฒนาการเผ่าพันธ์มันเองได้)... มันก็เลยกลายเป็นแนวคิดเบื้องหลังของหนัง Transformer ไงครับ, นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เป็นหุ่นยนต์ แต่ก็ยังเป็นหุ่นยนต์หยาบอยู่ เพราะใช้องค์ประกอบที่ไม่ละเอียดและยืดหยุ่นได้ไม่สูง(ส่วนใหญ่เป็นโลหะ - ไม่ใช่สารประกอบอินทรีย์)...

แล้วสิ่งมีชีวิตที่เป็นหุ่นยนต์ทั้งหลายก็มีวิวัฒนาการของมันเองให้ละเอียดลง ใช้องค์กระกอบส่วนใหญ่เป็นสารประกอบไฮโครคาร์บอน(สารประกอบอินทรีย์) และมีฐานข้อมูลติดตัวไปด้วยในแต่ละโมดุล(Objected Oriented) โดยฐานข้อมูลนั้นประกอบไปด้วยเลขฐาน 4 (กรดไฮโดรคาร์บอนสี่ชนิด) ที่สามารถประกอบกันเข้าเป็นระบบตัวเลขฐาน 46 โดยแบ่งออกเป็น 22 คู่ พร้อมทั้งเตรียมตรรกะสำหรับสร้างวิวัฒนาการของ"ระบบ"เอาไว้ด้วยการแยกออกเป็น 2 ฝั่ง เอาไปรวมกับอีกฝั่งหนึ่งของหุ่นยนต์อีกตัวหนึ่ง ทำให้เกิดหุ่นยนต์ตัวใหม่ ที่มีฐานข้อมูลจากหุ่นยนต์ 2 ตัวมารวมกัน!!!....

ขยายความให้ชัดเจนครับ... ฐานข้อมูลตัวเลขระบบฐาน 4 คือกรดอะมิโน 4 ชนิด รวมกันเป็นระบบตัวเลขฐาน 46 นั่นคือโครโมโซม 23 คู่...

แล้วกระบวนการแลกเปลี่ยนโครโมโซมก็จะเกิดในกระบวนการสืบพันธุ์, หลังจากนั้นเมื่อผ่านการลองผิดลองถูกก็จะถูกเก็บเอาไว้ในระบบฐานข้อมูลส่งผ่านไปรุ่นต่อรุ่น... อันนี้ตามหลักการของชาลส์ดาร์วิน ครับ...

นิยายวิทยาศาสตร์ภาคต่อฯ ของ Transformer ไงครับ... สรุปว่ามนุษย์คือวิวัฒนาการล่าสุดของหุ่นยนต์ ที่มีสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก...

แล้วทีนี้... หุ่นยนต์ตัวที่มีหน้าที่เฉพาะกิจของหุ่นยนต์สายพันธุ์เดิม(หุ่นยนต์ไฮโดรคาร์บอน) ก็กำลังทำหน้าที่เฉพาะกิจของตัวเอง(อีกแล้ว) นั่นคือสร้างวิวัฒนาการให้แก่หุ่นยนต์โลหะหยาบ...

เมื่อสร้างเสร็จฯ หุ่นยนต์โลหะหยาบฯ ก็จะ Nested กันหลายโมดุลให้แบ่งหน้าที่กันทำงานเองโดยไม่ต้องการพึ่งพาหุ่นยนต์ไฮโดรคาร์บอนอีกต่อไปแล้ว... ตรงนี้แหละครับ กึ๋ยส์...

คงอีกนานหลายปี กว่าAIที่สมบูรณ์แบบจริงๆจะเกิดขึ้น

สมบูรณ์แบบชนิดที่สามารถสร้างวิวัฒนาการของตัวมันเองนั่นคงอีกนานครับ... แต่หุ่นยนต์ AI เฉพาะกิจเฉพาะด้าน ที่ให้ Output แบบลิเนียร์(ไม่ใช่สถานการณ์ที่เตรียมสำเร็จรูปเอาไว้) นี่เห็นกูเกิ้ลโฆษณาเอาไว้ว่าอีก 9 ปี จะผลิตรถยนต์ไร้คนขับขึ้นมาขายเชิงพาณิชย์ครับ...

พอถึงตอนนั้น เราก็จะจิ้มจอฯ ระบุพิกัด GPS สั่งให้รถมันเลือกเส้นทางและขับไปเอง โดยระหว่างที่มันขับไปมันก็สามารถจอดไฟแดง หลบคนข้ามถนน หลบมอร์ไซค์ซ้ายขวา แซงซ้ายขวา ฯลฯ ได้เองเสียด้วย... แล้วเมื่อถึงที่หมายฯ คนนั่งในรถก็จะใช้จอยสติ๊ก/เมาส์ ระบุซองจอดรถยนต์ แล้วสั่งให้หุ่นยนต์มันถอยเข้าซองเองครับ...

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ... ::014::...เรื่องนี้ที่ผมทึ่งแกมสงสัยก็คือต่อไปการฝึกนักบินพร้อมรบในอนาคต(อันใกล้)
อาจจะฝึกเพื่อไปบังคับเครื่องขับไล่ความเร็วเหนือเสียง เหมือนกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ปรามาณว่าควบคุมบังคับจากระยะไกลแทน
การนั่งอยู่ในค็อกพิทแทนก็เป็นได้...หลักสูตรชั้นยอดต่างๆอย่างTOPGUN และหมู่บินผาดแผลงต่างๆ พวก Red Arrow, Thunderbird เทือกๆนี้ก็คงจะขาดเสน่ห์ไปเยอะเลยครับ

ทุกวันนี้ก็แทบจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ
มีความพยามอย่างมากในการพัฒนาโดรนที่ติดอาวุธ
ทั้งนี้ก็เพื่อสงวนชีวิตอันมีค่าของนักบินไว้
อนาคตการรบอาจเป็นแค่การจับจอยบินต่อสู้กันจากห้องนั่งเล่นอย่างที่ท่านWachira1973 คิดอยู่ก็เป็นได้ครับ

ผมว่าหุ่นยนต์รอ AI ที่สามารถเรียนรู้ได้เก็บเป็นประสบการณ์แล้วนำไปสร้างสิ่งใหม่ เรียกแบบบ้านๆก็หุ่นยนต์ที่สามารถคิดเองได้

ถ้าเกิดมาจริงคงน่ากลัวน่าดู สมองมนุษย์ใช้งานได้ไม่กี่สิบปีก็เสื่อม แต่สมองหุ่นยนต์สามารถใช้งานได้ตลอดไป

วงจรเสื่อมบอดี้เสื่อมก็แค่ก็อปของเดิมไปใส่วงจรใหม่บอดี้ใหม่

มันเหมือนแนวคิดของมนุษย์ที่พยามยามโคลนร่างของตัวงเองแล้วถ่ายทอดความทรงจำไปใส่ร่างใหม่ ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดก่อนกัน

น่าคิดว่าโลกในอนาคตใครจะเป็นคนครองโลกระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์