หัวข้อ: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กันยายน 28, 2013, 11:43:30 AM ฝนตกนั้นทั่วฟ้า หน้าต่างศาสนา พระมหาไกรศรี ธัมมโฆสโก สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ หลายครั้งที่ได้ยินว่า "ฝนตกไม่ทั่วฟ้า" บางที่ก็แห้งแล้งดินเป็นผง จะเพาะปลูกอย่างไรก็ยากลำบาก ขณะที่บางที่ก็มากมายจนท่วมบ้านเรือนไร่นาได้รับความเสียหาย ฝนที่ตกในที่ลุ่มทำให้น้ำมากเหมาะแก่การเพาะปลูก ที่ตกในที่ดอนเหมาะแก่การอยู่อาศัย น้ำน้อยก็ลำบาก น้ำมากก็ต้องจัดการให้พอเหมาะพอดี ไม่อย่างนั้นคงต้องเดือดร้อนกันไม่มีที่สิ้นสุด แต่อย่างไรน้ำก็ทำให้ชีวิตอยู่รอดได้ หากน้ำนี้ทำให้ชีวิตอยู่ได้ บุญก็คงไม่ต่างกันที่จะช่วยรักษาชีวิตนี้ให้อยู่รอดได้เช่นกัน เพราะคนเราต่างเกิดมามีความไม่เสมอภาคกัน แต่ทั้งหมดก็มีชีวิตเหมือนกัน ต่างกันที่จะบริหารและจัดการชีวิตของเราอย่างไรจึงจะดำเนินต่อไปได้อย่างมีความสุขได้ ครั้งหนึ่ง ณ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี มีโยม 3 คนเดินทางมาจากทางไกลมาหาหลวงพ่อชาที่กุฏิ พร้อมน้ำตานองแก้ม หลวงพ่อ...ช่วยหนูด้วย หนูมีทุกข์มากเพราะรถยนต์ที่ซื้อมาได้เพียงแค่ 3-4 วัน ถูกขโมยไปถึงตอนนี้ตำรวจยังจับขโมยไม่ได้ หนูจะทำยังไง ผ่อนก็ยังไม่หมด แถมเป็นหนี้...อีก หลวงพ่อชานั่งฟังโยมทั้ง 3 ปรับทุกข์อย่างสงบ ในขณะนั้นมีโยมผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามากราบ พร้อมด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูอาบสองแก้ม หลวงพ่อเมตตาผมด้วย...ผมหมดแล้วชีวิตนี้ ไม่เหลืออะไรแล้ว มีอะไรกันล่ะ หลวงพ่อถาม เมียและลูกผมกินแกงเห็ดเบื่อตายแล้ว....ชายคนนั้นพลางเช็ดน้ำตา หลวงพ่อผู้เปี่ยมด้วยเมตตาพูดอย่างช้าๆ นุ่มนวลหูน่าฟังว่า "เรื่องความเกิดและความตายมันมีของมันมานานแล้วและยังจะมีต่อไป ตั้งใจให้ดีๆ ไว้ ดีแล้วที่เรายังอยู่จะได้มีคนเผาศพให้เมียและลูก...แต่ถ้าเราเป็นอะไรไป จะแย่กันหมด" "ส่วนคนที่มีรถน้ำมันหมดก็ต้องเดิน รถก็เหมือนตัวเรา น้ำมันก็เหมือนบุญ เราหมดบุญก็มีแต่ตาย ดีแล้วที่ยังมีชีวิตจะได้หารถใหม่ขี่ คือสร้างบุญไว้เยอะๆ" โยมทั้งหมดต่างก็ได้ธรรมะเติมใจให้คลายทุกข์ไป....กลับมีความสุขอีกครั้ง.. ทั้งหมดคงเห็นคุณค่าของบุญที่ได้ทำให้ชีวิตอยู่ได้ตอนนี้ เช่นเดียวกับ "ฝนนั้นตกทั่วฟ้า" เพียงแต่ฝนตกไม่พร้อมกัน อาจตกในพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่เมื่อตกแล้วทำให้พื้นที่นั้นชุ่มชื้น เขียวชอุ่มเสมอ ก็คงเหมือนกับสิ่งดีๆ ในชีวิตของคนเราที่มีอยู่ทั่วไป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเก็บเกี่ยวฝนแห่งความสุขนั้นได้อย่างไร และสำหรับผู้เห็นประโยชน์จากฝนก็เก็บกักไว้หรือจัดการให้เกิดประโยชน์เพื่อการเพาะปลูก เฉกเช่นผู้เก็บสั่งสมความสุขจากการสร้างบุญ และรู้จักรักษาความสุขที่เกิดจากบุญนั้น เพื่อสร้างชีวิตที่เข้าใจความทุกข์มากขึ้นด้วยปัญญา... คัดลอกจาก นสพ.ข่าวสด หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 28, 2013, 12:50:14 PM คิดเองเป็นก็ไม่ต้องพึ่งพระ หรือเป็นการถ่ายทุกข์สารภาพบาป
หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 29, 2013, 08:48:04 AM คติธรรมไม่มีล้าสมัย ขนาดเรื่องน้ำยังใช้ได้ ;D ;D ;D แต่ลูกเมียตายนี่คงทำใจยาก
คิดเองเป็นก็ไม่ต้องพึ่งพระ หรือเป็นการถ่ายทุกข์สารภาพบาป บางทีมันฟิวขาด ต้องมีคนช่วยบ้างไม่งั้นอาจถึงขั้นคิดสั้น หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 29, 2013, 09:04:33 AM คติธรรมไม่มีล้าสมัย ขนาดเรื่องน้ำยังใช้ได้ ;D ;D ;D แต่ลูกเมียตายนี่คงทำใจยาก อือออ คงอย่างน้าคาร์ว่า .... วันก่อนเศรษฐีหมื่นล้านยิงตัวตัวคงเพราะงี้เองคิดเองเป็นก็ไม่ต้องพึ่งพระ หรือเป็นการถ่ายทุกข์สารภาพบาป บางทีมันฟิวขาด ต้องมีคนช่วยบ้างไม่งั้นอาจถึงขั้นคิดสั้น หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 29, 2013, 09:10:19 AM อือออ คงอย่างน้าคาร์ว่า .... วันก่อนเศรษฐีหมื่นล้านยิงตัวตัวคงเพราะงี้เอง +1 ครับพี่ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ กันยายน 29, 2013, 07:01:52 PM +1 ครับน้าอรรถ ::014::
หัวข้อ: Re: ฝนตกนั้นทั่วฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ กันยายน 29, 2013, 07:13:37 PM ::014::+ครับ ถึงเวลามันมีทุกข์ มันเลยมืดเเปดด้าน ::014:: ::014:: ::014::
|