เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อ่านข่าวนี้แล้ว ชอบการบังคับใช้กฏหมายของอังกฤษครับ
 

นิวยอร์กโพสต์/เดลิเมล์ - เจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ที่จอดรถผู้เถรตรงชาวอังกฤษ จุดชนวนเหตุการณ์ระหว่างประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเขาออกใบสั่งจอดรถแก่นางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างที่เธอเข้าร่วมงานๆหนึ่งซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ ทำบอดีการ์ดไม่พอใจพากันรุมล้อมประท้วง
      
        ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ที่จอดรถรายหนึ่งของสภาเมืองเวสต์มินสเตอร์ ออกใบสั่งกำหนดค่าปรับ 80 ปอนด์(ราว 4,000 บาท) แก่รถยต์เมอร์เซเดสสีบรอนซ์ของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ระหว่างที่เธอมาร่วมงานๆหนึ่งที่แคทแธม เฮาส์ สถาบันหลวงว่าด้วยกิจการระหว่างประเทศแถบตอนกลางของกรุงลอนดอน

   เกรก เบรนแนน ช่างภาพผู้ที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ เล่าว่านางคลินตัน เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงสหรัฐฯราว 10 คนในขบวนรถเมอร์เซเดส 5 คัน จากนั้นก็เข้าไปจอดตรงจุดจอดรถแถบจตุรัสเซนต์เจมส์ ในแมร์แฟร์ ซึ่งคิดค่าบริการชั่วโมงละ 3.30 ปอนด์(ราว 165 บาท) แต่ระหว่างนั้นมีฝนตกลงมา บอร์ดีการ์ดของนางคลินตันเลยเข้าไปหลบในรถ
      
        ผ่านไปนานพอสมควร ก็มีเจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ที่จอดรถเดินทางมาถึงและออกใบสั่งแก่รถยนต์ที่นางคลินตันนั่งมา หลังพบว่ามันจอดนานเกือบ 45 นาทีโดยไม่มีการจ่ายค่าบริการใดๆ เท่านั้นเองก็เป็นผลให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงสหรัฐฯ กระโดดลงจากรถเข้ามารุมล้อมประท้วง

 ช่างภาพอ้างว่าเขาเห็นหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ โบกไม้โบกมือด้วยความโมโหและแสดงตรายศแก่เจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวก็ไม่มีท่าทีตื่นเต้นใดๆและยังคงเดินหน้าออกใบสั่งแก่รถยนต์ของนางคลินตันต่อไป
      
        ดาเนียล อัสแตร์ สมาชิกสภาเมืองเวสต์มิสเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เมล์ออนไลน์ว่า "แม้ว่าเจ้าหน้าที่จราจรของเราจะถูกไต่ถามโดยหน่วยสืบราชการลับต่อการทำหน้าที่ แต่เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจอดรถนานเกือบ 45 นาทีโดยไม่จ่ายค่าบริการ ผมมั่นใจว่าเธอจะเข้าใจดีถึงความเป็นจำเป็นของเราที่ต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่คำนึงถึงสถานะของคนใดคนหนึ่งบนเวทีโลก"

ใบสั่งดังกล่าวกำหนดค่าปรับที่ 80 ปอนด์(ราว 4,000 บาท) แต่หากไปจ่ายเงินภายใน 14 วัน จะมีการลดค่าปรับให้ครึ่งหนึ่งเหลือ 40 ปอนด์(ราว 2,000 บาท) อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการชำระใดๆ กระนั้นก็มีเวลายื่นอุทธรณ์ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม
      
        โฆษกของนางคลินตัน ยังไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ เช่นเดียวกับสำนักงานประชาสัมพันธ์ของสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงลอนดเอน แม้ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง
      
        รายงานข่าวระบุว่าภรรยาของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เดินทางไปยังแคทแธม เฮาส์ เพื่อรับรางวัลด้านสนับสนุนทางการทูต ขณะที่คาดหมายว่าเธอและสามี มีทรัพย์สินรวมกันจำนวนมหาศาล

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000129647
 

ถ้าเป็นบ้านเราคนออกใสั่งไม่ได้ผุดได้เกิดครับ

ทำผิดก็ว่ากันตามผิดครับ แม้จะเรื่องเล็กน้อย
ถ้ายกให้ต่อไปใครเค้าก็เอามาเป็นแบบอย่าง เสียการปกครองกันพอดี

เห็นด้วยครับ จริงแล้วมันก้ควรไปเสียค่าปรับ แต่มันชอบแหกกฏอยู่แล้วนิ

บ้านเขาคงคิดว่าเป็นข่าว ข่าวหนึ่ง ;D ;D ;D บ้านเราคงคิดว่าเป็นข่าวการเมืองไปแล้ว 55555

็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

"Mrs. Clinton"   เธอไม่ได้ขับรถเอง อ่ะ ฮา
ยายเชื่อว่า  "พาหนะ"  เป็นของ Embassy of America in UK อ่ะ ฮา
เพราะฉะนั้น  การออกใบสั่งลักษณะนี้  "ไม่ชอบ" อ่ะ ฮา   ::007:: ::007::

5555 ขบวนของเธอ  มี "เอกสิทธิ์ ทางการฑูต"  อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

บ้านเราคนขับรถสารพัดนาย ใหญ่คับฟ้าทุกคน

มันมีด้วยเหรอ... เอกสิทธิ์แบบนี้น่ะ อธิบายหน่อยซิยายบ๊าบ...

จริงอย่างยายว่า คนเราถ้ามันเถรตรงเกินไปก็ไม่ใหว ยกตัวอย่างที่ผมไม่ติดคุก กรณีรถพยาบาลนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเกิดรถติด จราจรโครงการพระราชดำริ ยังเคยนำรถพยาบาลวิ่งสวนเลนไปเลย ในกรณีขบวนรถของอดีตสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ อาจจะมีความจำเป็นต้องจอดตรงจุดนั้น หากตำรวจจราจรอังกฤษ แน่จริงน่าจะไล่ทั้งขบวนไม่น่าให้จอดตั้งแต่ครั้งแรก ::007::

ไปดูตามลิ้งค์ข่าว ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถเ้พราะถูกทำโมเสก

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013579001.JPEG)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013579002.JPEG)

เลยไม่ทราบว่าเป็นรถการฑูตหรือเปล่า

หากเป็นรถการฑูต พอมีเอกสิทธิคุ้มครองอยู่ครับ

นายสมชายเห็นด้วยกับเขียนใบสั่งนะครับ... จอดอยู่ตรงนั้นนาน 45 นาทีมันอ้างไม่ได้ว่าจำเป็น เร่งด่วน หรือฉุกเฉินครับ, หากเป็นขบวนรถฯ เขาก็จะจอดส่งคนลง แล้วก็วิ่งไปจอดแช่ในสถานที่ที่เตรียมเอาไว้...

แต่ที่นายสมชายไม่รู้ก็คือกฎหมายที่โน่นเขาเป็นอย่างไร กับเอกสิทธิ์ฯ ที่ยายบ๊าบว่านั่นมีจริงแค่ไหนอย่างไรด้วยครับ... แล้วหากเหตุการณ์แบบนี้หากเป็นที่ประเทศไทย แล้วไปเจอกับขบวนของอธิบดีกรมใดกรมหนึ่งสักหนึ่งกรม ที่ไม่ได้ขี้เบ่งฯ เขาจะบอกให้จราจรฯ เขียนใบสั่งเหน็บกระจกครับ เพื่อไม่ให้โดนชาวบ้านแถวนั้นครหา, แล้วจากนั้นก็จะให้หน้าห้องไปจ่ายใบสั่ง ส่วนใหญ่ร้อยเวรปรับแค่ 100 บาทครับ ไม่ต้องเบ่ง เพียงแต่บอกว่ามีบุคคลสำคัญต้องอารักขาฯ จำเป็นต้องจอดตรงนั้น ฯลฯ...

ประเด็นไม่ใช่จอดรถในที่ห้ามจอดนะครับ... แต่เป็นเรื่องของเบ่งจอดรถฟรี! ในสถานที่ ที่เขาเก็บค่าจอดรถครับ...

จะว่าไปต้องต่อว่านางฮิลรี่ฯ ต่างหากที่ทำไมต้องไปเบ่งฯ ทั้งที่ทรัพย์สินก็มีตั้งแยะ... แต่พอข่าวเรื่องนี้มาโผล่ในประเทศไทยเป็นสังคมอำนาจนิยม, เรื่องเลยกลายเป็นอีกประเด็นหนึ่งครับ...

ถ้าเป็นอย่างทีรูปตาซับลง กับที่พี่สมชายว่า ไปเบ่งเรื่องค่าจอดรถก็สมควร ::012::

ถ้าจอดในที่ห้ามยังอ้างว่าไม่รู้ได้ แต่จอดฟรีนี่น่าเกลียดนะ  ;D

Ha Ha Ha  ฮา  " Oh yes"  จ๊านโฉมชาย (ฮา) อ่ะ ฮา

สถานะของเธอ  คือ  " The former secretary of state Hillary Clinton " อ่ะ ฮา
เรื่องนี้  ถ้าจะตำหนิ  ต้องด่า  "Staff body guard"  ของเธออ่ะฮา

ส่วนเรื่อง  "เบ่ง"  หรือ  "บวม"  จนหน้าเขียว ฮา
ที่จอดรถตรงนี้  เป็นที่จอดสาธารณะ  เก็บค่าจอด   อ่ะ
ยายว่าเธอไม่มีเจตนา  หรอก อ่ะ ฮา   ;D ;D ;D

ระดับของเธอ  เวลาจะเดินทาง  "สต๊าฟ"  เยอะแยะ อ่ะ ฮา
และเช่นเดียวกัน  "ยานพาหนะ"  ต้องเป็นของ Embassy  แน่นอน อ่ะ ฮา
การออก "ใบสั่ง"  สามารถกระทำได้  เพียงแต่ต้องเลือก วิธี ที่ "นิ่มนวล" อ่ะ ฮา

ต้องใช้วิธี  ส่งไป  "เรียกเก็บ"  ที่สถานฑูต อ่ะ ฮา  ::007::

55555 ส่วนสถานฑูต  จะ  "จ่าย" หรือไม่  ต้องดูเรื่อง เอกสิทธิ์ ทางการฑูต อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

เคยได้ยินว่ารถป้ายสถานทูต ใช้กฎหมายของประเทศนั้น ;D ;D ;D บ้านเราเขาก็ให้สิทธิ์อยู่แล้ว

ที่ห้ามเลี้ยวแต่รถป้ายองค์การ สถานทูตเลี้ยวได้ รถทั่วไปโดนจับ

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ตามภาพทำ  "เบลอ"   ที่พี่ submachine  นำมาแสดง ฮา
มันเป็นการ  "บ่งบอก"  ถึง  เหตุผลที่ลึกซึ้ง  อ่ะ ฮา  ;D ;D

หากเป็น  รถยนต์  "ส่วนบุคคล"  เขาไม่ต้องทำเบลอ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

สาเหตุ   ที่ต้องทำ  "โมเสก"  ฮา
เพราะว่าเป็นขบวนรถยนต์ ของ   ฮา

5555  " The former secretary of state Hillary Clinton " อ่ะ ฮา
พวกเขามี  "เอกสิทธิ์ ทางการฑูต"  อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

เอาลิงก์กฎหมายเอกสิทธิและความคุ้มกันทางทูตมาลงให้อ่านกันครับ... ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ 1) พระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิและความคุ้มกันทางทูต พ.ศ. ๒๕๒๗ และ 2) เป็นคำแปลอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต เพราะ พรบ. ตามข้อ 1 เป็นการให้เอกสิทธิ์ฯ ตามอนุสัญญาในข้อ 2 ครับ...

ลิ้งก์นี่... http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538975414&Ntype=19 ...

ท่านใดอ่านแล้วก็แล้วแต่ว่าจะพิจารณาไปทางใดก็ตามใจคิดเถิดครับ... เรื่องเอกสิทธิ์ฯ มันเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นทางการถึงขั้นมีกรมหนึ่งกรม สำหรับคอยประสานงานด้านนี้...

สำหรับเรื่องกระทู้นี้ นายสมชายว่าเรื่องแค่ลืมจ่าย(หรือเบ่งจอดฟรี แล้วกลัวเสียหน้า) ค่าที่จอดรถที่เขาเก็บเป็นรายชั่วโมง แค่ชั่วโมงละ 3.30 ปอนด์(ราว 165 บาท) คงไม่ถึงขั้นต้องใช้เอกสิทธิ์ทางการทูตหรอกครับ... มันคนละกรณีกับเข้าจอดในที่ห้ามจอดเพราะต้องการอารักขาบุคคลสำคัญระหว่างขึ้น/ลงจากยานพาหนะฯ หรือจำเป็นต้องวิ่งย้อนศรเพราะต้องการหลบเลี่ยง(อะไรก็ตามแต่) ฯลฯ...

ส่วนที่เขาปิดป้ายทะเบียนไม่ให้ลงในสื่อฯ ก็เพราะไม่ต้องการให้หมายเลขทะเบียนฯเป็นที่เปิดเผยในวงกว้างโดยไม่จำเป็นมากกว่าครับ...

ไม่ใช่เอกสิทธิ์ครับ
เอกสิทธิ์ทางการทูตคือการได้รับยกเว้นพิธีการบางอย่าง เช่นการตรวจค้น การเสียภาษีอากร
ส่วนการไม่ถูกดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง เขาเรียกว่าความคุ้มกันทางการทูต  ซึ่งอาจจะได้รับยกเว้นเฉพาะในประเทศที่ทำความตกลงไว้ แต่กลับมาถูกดำเนินคดีในบ้านตัวเองก็ได้

ผมไม่แน่ใจนะครับว่านางฮิลลารีเดินทางไปในนามส่วนตัวหรือไปในนามตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐ แต่ถ้าไปในนามส่วนตัวนางก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ แต่ถ้านางไปในนามของรัฐบาลสหรัฐฯ นางถือเป็นตัวแทนของรัฐในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐผู้ส่ง (Sending State) และรัฐผู้รับ (Receiving State) ซึ่งตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีเมืองแล้ว นางจะได้ความคุ้มกันทางการทูต (Diplomatic Immunity) ทันทีตาม "อนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ. 1961 (The Vienna Convention on Diplomatic Relations 1961)" (http://legal.un.org/ilc/texts/instruments/english/conventions/9_1_1961.pdf) ครับ (ปัจจุบันทุกประเทศรับรองและให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาฯนี้ครบทุกประเทศแล้ว)

แล้วการที่ผู้แทนของรัฐผู้ส่งไปกระทำความผิดในรัฐผู้รับแต่ได้รับความคุ้มกันทางการทูต แล้วรัฐผู้รับนั้นจะดำเนินการได้อย่างไรต่อไป คำตอบก็คือทำได้ตั้งแต่ส่งตัวกลับ เนรเทศ หรือทำเรื่องรายงานถึงพฤติการณ์และความผิดที่ผู้แทนฯกระทำส่งกลับไปยังรัฐผู้ส่ง ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของรัฐผู้ส่งเองละครับว่าจะเลือกดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ส่วนใหญ่รัฐผู้ส่งจะรีบเรียกตัวกลับทันทีเพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของชาติครับ  ::014::

ดูเหมือนทะเบียนยูโรธรรมดานะครับลุงซับ

เพื่อนชาวอังกฤษเคยเล่าให้ฟังว่า
"ตำรวจใหม่ทำงานเดือนแรกเรียกรถหยุดแล้วปรากฎว่าผู้ขับคือ ผกก.ของจังหวัด พลตร.ขอเป่าแอลกอฮตา ผกก.ไม่ยอมปรากฎว่า ผกก.เด้ง"
เป็นข่าวใหญ่ของอังกฤษ
ถ้าเรื่องนี้เกิดที่สารขัณฑ์ ตร.ใหม่คงซี้แหงแก๋  ::012::

ขอบคุณทุกท่านครับ ได้ความรู้ดีทีเดียว