พิมพ์หน้านี้ - ผงะจนท.ป่าไม้ออกเอกสารรับรองโฉนดที่ดินโดยมิชอบในอุทยานสิรินาถ กว่า 300 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ(ในยาง) จ.ภูเก็ต นายสมัคร ดอนตาปี ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกถือครองพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้บุกรุกทั้งในส่วนที่เป็นข้าราชการ ที่มีทั้งอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน รวมทั้งกลุ่มนายทุน ทั้งนี้ นายสมัครพร้อมด้วยนายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ ได้สำรวจพื้นที่บริเวณริมหาดในยาง พร้อมตรวจสอบเอกสารสิทธิ พบว่า พื้นที่หาดในยางตลอดแนวที่ขนานไปกับริมทะเล ถูกถือครองอย่างไม่ถูกต้อง โดยพื้นที่ถูกบุกรุกเกือบ 500 ไร่ ถูกถือครองโดยบุคคล 5 คน โดยทั้งหมดอ้างว่าครอบครองตามเอกสารสิทธิ สค.1 และอยู่ระหว่างดำเนินการออกโฉนดจากสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต

จากนั้น นายสมัครและนายกิตติพัฒน์ ได้ประสานไปยังสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิ ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว พบว่า มี 3 แปลงที่ออกเอกสารสิทธิอย่างไม่ถูกต้อง คือในส่วนของนายนคร น.ส.อโนมา และนายจันทร์ จึงได้ขอให้ระงับการดำเนินการออกโฉนด ขณะเดียวกัน นายสมัคร ได้สั่งการให้นายกิติพัฒน์และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไปตรวจสอบแปลงของนายสุรีย์และนายประภาส ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่

ต่อมานายสมัครและคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณหลังโรงแรมภูเก็ตเพนนินซูล่า ซึ่งเป็นของ นางสุธาสินี มุตตามะระ หรือสีกาแอน ภรรยาของอดีตพระมิซูโอะ พบว่า ตลอดแนวชายหาดด้านหลังโรงแรมมีการจับจองพื้นที่โดยกลุ่มนายทุนต่างชาติ โดยมีบางส่วนได้เข้ามาซื้อโรงแรมรอยัล บีช และอยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อเตรียมเปิดดำเนินการ และยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่ถูกกว้านซื้อด้วย

ทั้งนี้ นายกิตติพัฒน์ กล่าวว่า การบุกรุกพื้นที่อุทยานฯสิรินาถ ยังรุนแรง โดยกลุ่มนายทุนต่างชาติ ล่าสุดมีข่าวว่ากลุ่มนายทุนจากประเทศรัสเซีย ได้ระดมทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อที่จะมากว้านซื้อโรงแรมเก่าที่ถูกทิ้งร้าง รวมทั้งพื้นที่ริมหาดยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งสภาพปัจจุบันยังคงเป็นป่า ขณะนี้ ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว เพื่อให้ระงับการออกโฉนด และระงับนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน โดยกลุ่มนายทุนจากต่างชาติก็จะมาใช้นอมินี คือคนไทย ที่ตนได้สั่งระงับการออกเอกสารสารไปจำนวน 3 แปลงก่อนหน้านี้

นายกิตติพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กำลังรวบรวมเอกสารเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่ดิน ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการไปรับรองการออกโฉนดอย่างไม่ถูกต้อง ล่าสุดพบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ คือ นายอำนาจ สร้อยเกียว เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่ ผอ.สำนักทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ ไปออกหนังสือรับรองโฉนดว่าที่ดินในเขตป่าไม้บนอุทยานฯสิรนาถ ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหลังจากมีการสอบถามมาและตอบกลับไปในวันเดียวกัน ถึง 2 แปลง แปลงแรก 22 ไร่ แปลงที่สอง 8 ไร่ มูลค่าการซื้อขายถึง 300 ล้านบาท โดยเตรียมแจ้งความดำเนินคดีแล้ว

หัวหน้าอุทยานฯสิรินาถ กล่าวอีกว่า ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับอดีตหัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ 5 คนที่ไปรับรองการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าไม้และอุทยานฯ ที่ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงไปแล้ว ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเป็นคดีอาญาไปพร้อมๆ กัน คือนายนนทวิธ จตุราบัณฑิต ไปรับรองเอกสารสิทธิ ให้กับบริษัท ทรีดอลฟิน รีสอร์ท จำกัด บ้านฝรั่ง(บริษัทนุ่น) นายธนัฒ อุบัติศฤงศ์ นายสุขี คำนวณศิลป์ ไปรับรอง น.ส.กมลลักษณ์จาดพิมาย น.ส.เกษณี นาคสีห์ นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล ไปรับรองนายมานิต อินวงษ์ นายธนพงศ์ อภัยโส ไปรับรองบริษัทแลนด์สเตท จำกัด นายจรวย อินทร์จันทร์ ไปรับรองบริษัทอเนกประชา นายประภาส แซ่อ๋อง เป็นต้น

นายสมัคร ดอนนาปี ผอ.สำนักอุทยานฯ กล่าวว่า นโยบายของกรมอุทยานฯต่อจากนี้ จะคัดค้านการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบและจะทำหนังสือถึงสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต เพื่อระงับการทำธุรกรรมการโอน เนื่องจากที่ดินบนอุทยานฯสิรินาถ ไม่สามารถซื้อขายได้รวมทั้งจะรวบรวมเอกสารหลักฐานแจ้งกรมที่ดินเพิกถอนโฉนดที่ดินท่ีออกโดยมิชอบทั้งหมด นอกจากนี้ เพื่อมิให้ผู้ซื้อที่ดินถูกหลอกหรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการซื้อขายที่ดินโดยมิชอบ กรมอุทยานฯ จะเปิดศูนย์บริการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดนิในเขตอุทยานฯสิรินาถขึ้นเพื่อให้บริการตรวจสอบเอกสารสิทธิโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ในวันที่ 8 - 10 ก.ค.นี้ กรมอุทยานฯจะเปิดยุทธการ ทวงคืนพื้นที่ป่า ที่อุทนานฯสิรินาถ โดยจะร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งจะเปิดศูนย์อำนวยการตรวจสอบเอกสารสิทธิ และปราบปรามการบุกรุกยึดถือการครอบครองที่ดินเขตอุทยานแห่งชาตคิสิรินาถ และจะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ร้านค้าที่บุกรุกชายหาดในทอน และขอคืนพื้นที่ ที่มีการบุกรุกหาดทรายแก้ว นอกจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบประมาณ 500 ไร่ รวมทั้งแจ้งบันทึกการดำเนินคดี ทั้งนี้เพื่อนำพื้นที่อุทยานกลับคืนมาเป็นของแผ่นดิน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05EY3pOVFU0TUE9PQ%3D%3D&subcatid

ทำให้จริงจัง เอาไม้บรรทัดวางทาบแล้วจัดการให้หมด ตัวเล็กตัวใหญ่จัดการให้หมดให้เสมอหน้า... ที่ชอบอ้างกันนักว่าใช้หลักรัฐศาสตร์น่ะ ไม่เคยมีหลักรัฐศาสตร์อะไรบอกว่าผิดกฎหมายแล้วสามารถยกเว้นได้...

ที่ถูกต้องคือใช้หลักรัฐศาสตร์ในขอบเขตกฎหมายอนุญาตไว้เท่านั้น ตัวอย่างเช่นผิดกฎจราจร เช่นจอดรถในที่ห้ามจอดสามารถจบเรื่องได้ที่โรงพัก อย่างนี้พี่จ่าจะไม่จับก็ได้เพราะถือว่าหากจับเองก็สามารถ"จบเรื่องได้ด้วยตัวเอง"ได้, แต่เรื่องใหญ่จบเองไม่ได้นั้น ต้องจับให้หมด ต้องจับ+ดำเนินคดีให้เต็มกำลังความสามารถ... มีข้ออ้างได้อย่างเดียวคือกำลังจับรายอื่นอยู่ เดี๋ยวจะไปจับตามคิวก่อนหลัง แต่จะอ้างหลักรัฐศาสตร์เพืื่ออลุ้มอลุ่ยไม่ได้(ตัวอย่างเช่นรายเล็กรายน้อย)...

จะปฎิรูปประเทศให้ได้ผล ต้องเน้นเรื่องปฎิรูปผู้บังคับใช้กฎหมายก่อนเลย แล้วกลไกจะหมุนปรับตัวให้เข้าที่เข้าทางเอง... ที่อ้างว่ามีแยะเกินจนจับไม่ไหวน่ะ, ผิด 100 รายจับจริงจังแค่ 10 รายก็เห็นผลแล้ว, ก็ที่เหลือ 90 รายจะกลัวกฎหมายไม่ต้องไปจับร๊อกส์...

เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 07, 2014, 08:42:01 PM