เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ตามข่าวครับ สงสัยคนบ้านเขามาอยู่แถบนี้เยอะครับ

http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/309024/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5



แล้วบัญชีเก่าๆจะต้องไปตอบคำถามด้วยไหมนี่ครับ ::014::

ยุ่งยากขึ้นทุกวัน เฮ้อ

มันทำตัวเป็นเจ้าโลกจิงๆ

แน่จริงไปตรวจที่เกาะ.......ไรนะ ที่เศรษฐีทั่วโลกชอบขนเงินไปฟอก เศรษฐีไทยก็เพียบเคยอ่านเจอ บางตระกูลขนออกไปเป็นพันล้านหมื่นล้าน ขนาดเครื่องดื่มชูกำลังกินแล้วร้องเพลงได้นานยังติดโผ

ถ้าประเทศอื่นทำนี่มันคงออกมาพูดเรื่องละเมิดสิทธิสินะ

อาการเหมือนบริษัทที่กำลังจะเจ๊งเลย  ::007:: ::007:: ::007::

บริษัทที่จะเจ๊งมิเจ๊งแหล่ มีอาการร่วมอยู่อย่างหนึ่ง คือมักออกกฏยุบยิบปัญญาอ่อนมาบังคับใช้กับพนักงาน-คู่ค้า

เป็นการขอร้อง แกมขู่ กับธนาคารไทยที่มีสาขาในสหรัฐอเมริกา  ว่าถ้าไม่ร่วมมือก็จะดำเนินการทางภาษีอะไรแบบนั้น

555555  ยาย  " ไม่คิด " ว่าจะเป็นอย่างที่บอก นั่นอ่ะ ฮา 5555

เป็นเรื่องของการ ร้องขอ " ข้อมูล " เพื่อป้องกันเงิน ที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมาย อ่ะ ฮา
ถ้าให้ข้อมูล ที่  " เป็นเท็จ " ต่อมาถูกตรวจพบ   ก็อาจนำไปสู่การโดนอายัด หรือ ยึด อ่ะ ฮา

มันก็เหมือนกับเมืองไทย นั่นแหละ อ่ะ ฮา
ถ้าทำธุรกรรม  ทางการเงิน เงินสดเกิน " สองล้าน " ก็ต้องกรอกแบบฟอร์ม อ่ะ ฮา
ไอ้แบบฟอร์มนี้ มันก็ถูก "รีปอร์ต " ไป ธปท . อ่ะ ฮา

ยายคิดว่าใน  " อเมริกา " เขาเข้มเรื่อง  ภัยก่อการร้าย อ่ะ ฮา
สถาบันการเงิน  " ทุกแห่ง " ถ้าทำธุรกรรม ในดินแดนอเมริกัน ฮา

55555  " โดนโม๊ด "  ไม่ใช่เฉพาะ ธนาคาร กะลาแลนด์ อ่ะ ฮา 5555  ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

มันเจะเจ๊งมาหลายปีแล้วครับยาย





เมื่อยักษ์กระอัก เพราะความใหญ่โตของตัวมันเอง ใหญ่มากกินมากฯ
.July 27, 2014 at 11:25amเครดิต: Somkiat Osotsapa ผ่าน ญาณ บุบผาสิริ


เมื่ออเมริกาไล่เก็บภาษีจากคน และบริษัทของอเมริกาทั่วโลก เราควรทำอย่างไร

บทความนี้เขียน โดยเน้นเอาความอยู่รอด ปลอดภัยของสถาบันการเงินไทย และเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก

เรื่องเป็นยังงี้ครับ
หนื่ง อเมริกาเกิดปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2008 รัฐบาลมีหนี้มาก ต้องลดงบประมาณตลอดสิบปีข้างหน้า ปีละหนื่งแสนล้านเหรียญ มีคนจนในประเทศห้าสิบห้าล้านคน ที่ต้องให้สแตมป์ช่วยค่าครองชีพ มีคนต้องคดี20 ล้านคน ติดยา 22 ล้านคน มีคนไร้บ้านราว4-5%ของประชากร ตอนนี้ต้องลดกำลังทหารจนกระทั่งแผนงานเรื่องอาวุธสะดุด อเมริกามีงบการทหารตั้ง6%ของ GDP เยอะมาก

งบปีนี้ที่ต้องปิดเดือนกันยายนยังไม่ลงตัว
สอง รัฐบาลจืงต้องเข้มงวดเก็บภาษีจากชาวอเมริกัน และนิติบุคคลอเมริกันในต่างประเทศ โดยมีหลักคิดว่า
@ อเมริกาเป็นประเทศของผู้อพยพ เก็บเงินได้ก็แอบเอาไปลงทุนในบ้านเกิดเมืองนอน มีรายได้ ทรัพย์สินที่ไม่แจ้งรัฐบาลเยอะ หนีภาษีเยอะ เช่น เงินลงทุนในเวียดนามเกิดจากเวียดเกียวเกือบสองล้านคนเอาเงินจากอเมริกามาลงทุน ยังมีเกาหลี ใต้หวันที่ถือสัญชาติอเมริกัน หรือมีกรีนคาร์ด ผู้มีหลักแหล่งในอเมริกา

@ คนในประเทศอื่นๆที่แต่งงานกับชาวอเมริกัน มีมรดก ทรัพย์สินในประเทศของตนแต่ดั้งเดิม จะโดนด้วย ได้ภาษีเยอะ

@คนอเมริกันที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เปิดธุรกิจเล็ก ใหญ่

@คนอเมริกันที่มั่งคั่งหอบเอาเงินไปฝากในธนาคารต่างประเทศ ซื้อหุ้น ซื้อบอนด์ ซื้อที่ดิน อาคารทั่วโลก

@บริษัทของคนอเมริกันที่ไปสร้างสาขา บริษัทลูกในต่างประเทศ หรือเป็นหุ้นส่วนนักธุรกิจต่างชาติที่มีฐานะดีอยู่แล้ว ไปขอกรีนคาร์ด หรือขอเป็นอเมริกันเพื่อความสะดวกโดนหนัก ครอบครัวที่รวยๆนิยมกันมาก รวมพวกที่เอาลูกไปเกิดในอเมริกาด้วย

@ พวกที่หนีไปทำงานในต่างประเทศ ขาดการติดต่อ

@คนที่ไปทำงานเกินวีซ่าในอเมริกา

กฏหมาย FATCA เลือกเอา ภาษีหรือความตาย

ตามกฏหมายนี้ที่บริหารโดยกรมสรรพากรอเมริกา ซื่งโหดมาก

>ขอดูตัวเลขการเคลื่อนไหวทางบัญชีของคนอเมริกัน เรียกว่า citizen กับผู้มีหลักแหล่ง เรียกผู้ถือกรีนคาร์ด ต้องการรู้การเปลี่ยนแปลงมูลค่าทรัพย์สินที่ถือ เช่น หุ้น บอนด์ ที่ดิน สิทธิต่างๆ ถ้ารายได้ต่ำกว่าเดือนละราวแสนสองไม่ต้องจ่าย ถ้าบางเดือนเกินต้องแจ้งทันที

>สถาบันการเงินที่ชาวอเมริกัน บริษัทอเมริกันฝากเงิน กองทุนที่ลงทุน บริษัทประกัน ทรัสท์ บริษัทโบรคเกอร์ หรือบริษัทที่คนอเมริกันถือหุ้นเกินสิบเปอร์เซนต์
มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ และรายงานให้กรมสรรพากรอเมริกาทราบ สถาบันการเงินใดไม่ร่วมมือ จะถูกเรียกเก็บภาษีหัก ณที่จ่ายทันที 30% เจ๊งแน่นอน มันไม่มีกำไรเยอะขนาดนั้น มีสิทธิโดนฟ้องร้อง ใช้อำนาจบังคับ หวกนี้เรียกว่า FFI >foreign financial institutions

สถาบันการเงินเหล่านี้ต้องยอม เพราะต้องใช้เงินในระบบดอลลาร์ ไม่งั้นโดนแซงค์ชั่น ต้องจ่ายค่าเสียหายเยอะ ธนาคารพาริบัสของฝรั่งเศศโดนเข้าไปสามแสนล้านบาท

>แต่ทุกประเทศมีกฏหมายของตนเอง จืงเป็นข้อขัดแย้งมากมาย อเมริกาจืงบอกให้รัฐบาลประเทศต่างๆ มาทำข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการเก็บภาษีนี้เสีย แล้วจะมีแบบฟอร์มที่ง่ายกว่าให้ ให้รายงานโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศ

ประเทศไทยควรเอาตัวให้รอดอย่างไร

รัฐบาลที่ผ่านมา ได้มีมติครม รับหลักการ จะเข้าเจรจาต่อรองเมื่อปี 2556 แต่ไม่ได้ดำเนินการเพิ่มเติม กฎหมายนี้ออกมาเมื่อปี 2510 จากฝั่งอเมริกา เริ่มบังคับใช้เดือนกรกฏาที่ผ่านมา

สถาบันการเงินร่วม90% ได้ไปทำสัญญาตรงกับกรมสรรพากรอเมริกา IRS เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สถาบันการเงินทั่วโลกหลายแสนได้ไปทำข้อตกลงตรงไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะถูกไล่ออกจากระบบการค้า

ประเทศยักษ์ใหญ่ยอมอเมริกาหมด เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีที่ตกลงเรียบร้อย ที่กำลังเจรจา แต่ยังไม่มีจีน รัสเซีย เวียดนาม ตกลงกันไปแล้ว 48 ประเทศ
ถือว่าไทยรอดตัวไป

ผมกลัวสถาบันการเงินล้มครับ
หวังว่า
จะมีทีมมาทำการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ผลกระทบมาตรการนี้โดยละเอียด ตอนนี้เอาตัวรอดไปก่อน มีธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกโดนอเมริกาฟ้องอยู่ 20 แห่ง น่าจะเรียกค่าปรับได้ราวหนื่งแสนล้านเหรียญ หวังว่าไทยคงไม่โดน
คนที่โดนผลกระทบทั้งสถาบันการเงินไทย รัฐบาล คนที่เกี่ยวข้องกับอเมริกันต้องมองหาทางออก เล่นจะยืดทรัพย์กันทั้งโลก
แผนเค้าลืกมาก ยังมีเฟสต่อไป
คนไทยที่จะไปเปิดบัญชีต้องกรอกโน่นนี่ที่ไม่ใช่หน้าที่ก็ทำๆไปเถอะครับ ด่ามันในใจ
ขั้นนี้แค่นี้ก่อนนะครับ

เขียนโดยเน้นความปลอดภัยของสถาบันการเงินไทย เศรษฐกิจไทยเป็นหลัก
เค้าบุกมาแรง ต้องถอยมาอุดประตูก่อน

ดูจากพฤติกรรมในรอบสิบปี อเมริกาหน่ะผู้ก่อการร้ายตัวเอี้ยระดับโลกเลยครับยาย

ดูยิปต์ ซีเรีย อิรัคฯลฯไว้....มันก็แค่ฝูงโจรออกปล้นล้มประเทศโดยมีฮอลลีวูดเป็นตัวหลอกลวงว่านี่คือพฤติกรรมเยี่ยงวีรบุรุษ

ไอ้ที่ไปรบไปตาย ก็ตามใบสั่งบริษัทพลังงาน/สัมปทานแร่ทั้งนั้น

ทางเดียวที่ทหารอเมริกันจะพ้นจากสภาพสมุนโจร ได้รบเพื่อปกป้องมาตุภูมิเหมือนทหารชาติอื่นเขา.....คือวันที่มีก๊อตซิลล่าบุกแมนฮัตตัน หรือป้ายหน้าก็รอให้มีหุ่นยนต์ต่างดาวบุกดีทรอยด์  ::009::

แหะๆๆ...........สงสัยจะไม่ทันกิน ฝรั่งหัวทอง หัวบล๊อน มาหาแม่นางข้างถนน ตามบาร์ บอกไอจะเอาเธอทำเมียนะ มาอยู่กะไอสิ เอาสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านมา เซ็นโน้นเซ็นนี่ตาลาย  จนอีน้องคนงามโทรบอกญาติพี่น้อง ประกาศว่าGUรวยแล้วว้อยยยย!!  :DD

พอฝรั่งได้ชื่อตามที่ต้องการ อีน้องคนงามก็กระเด็นออกมาโดยงงๆ ไรว่ะ ไหนว่าจะเอาทำเมีย มันไปไหนละ  ::007::

มันเอาชื่อเธอและอีกหลายๆนาง ไปตั้งบริษัทกลวงๆ ฟอกเงินแล้วนะสิ ฟอกทั้งซื้อที่ดิน อสังหา เก็งกำไร ขายต่อ ครอบครองอยู่มาหาศาล

ได้ข่าวรัฐจะตรวจสอบอยู่ ว่าอีน้องคนงาม เธอไปไงมาไง ถึงมีชื่อเป็นหุ้นส่วนบริษัท เงินเป็นร้อยๆล้าน ส่วนอีน้องคนงามยังเช่าบ้านอยู่ๆเลย  ::007::

อาการเหมือนคน ชักหน้าไม่ถึงหลัง
เลยเริ่มเก็บเล็กผสมน้อยจากสิ่งที่ตนเองไม่เคยสนใจเพราะคิดว่ามันนิดเดียว

ถ้าเป็นคนธรรมดา จะเริ่มเปิดรายชื่อมือถือ หาคนที่เคยยืมเงินเราไป เริ่มจากญาติๆก่อน แฟนเก่าท้ายสุด 5555