|
หัวข้อ: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 05, 2014, 03:13:29 PM อธิบดีกรมศุลกากรตะลึง!รถหรูนำเข้า′ซุปเปอร์คาร์-บิ๊กไบค์′ หายจากคลังทัณฑ์บนเกือบ 600 คัน แฉล่องหนระหว่างขนย้าย เด้ง 2 เจ้าหน้าที่ ตามคืนได้แล้ว100 ติด"จีพีเอส"ป้องกัน
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีรถยนต์หายไปจากคลังทัณฑ์บนของกรมศุลกากร ไม่ยอมมาเสียภาษีอย่างถูกต้องกว่า 500 คัน โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามรถยนต์ดังกล่าวกลับคืนมา ล่าสุดได้คืนมาแล้วกว่า 100 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์หรูราคาแพง (ซุปเปอร์คาร์) นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบว่า เริ่มมีการนำรถมอเตอร์ไซค์ราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ (บิ๊กไบค์) จำนวนมาก และหายไปจากระบบไม่ยอมมาเสียภาษีกว่า 80 คันแล้ว "หลังจาก พบเรื่องดังกล่าวสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 2 คน จากนี้ไปจะตรวจสอบให้เข้มงวดมากขึ้น ปัญหานี้อาจเกิดมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และในช่วงที่ผมเป็นอธิบดีจะเข้มงวดและตรวจสอบให้จริงจัง ถ้ามีเจ้าหน้าที่ทุจริตเอาไว้ไม่ได้ และเรื่องนี้ต้องทำอย่างจริงจัง" นายสมชัยกล่าว นายสมชัยกล่าวว่า ลักษณะของรถที่หายคือ เมื่อรถเข้ามาที่ท่าตรวจสินค้าแล้วผู้นำเข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ปล่อยที่ด่านดังกล่าว แต่จะขอไปตรวจปล่อยสินค้ายังอีกด่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งอาจเพราะคุ้นเคยกับด่านดังกล่าว และระหว่างการเคลื่อนย้ายสินค้าจากด่านหนึ่งไปอีกด่านหนึ่งนั้น รถยนต์ก็จะหายไปจากระบบ และไม่นำมาเสียภาษีอย่างถูกต้อง เป็นการหายจากการเคลื่อนย้ายรถ และอีกรูปหนึ่งคือ เอารถไปเก็บไว้คลังสินค้าทัณฑ์บน ตามเวลาที่ผ่อนผันคือไม่เกิน 1 ปี เมื่อขายได้นำรถออกมาเสียภาษี เพราะรถดังกล่าวมีราคาแพงต้องเสียภาษีในมูลค่าสูงผู้นำเข้าไม่อยากจ่ายเงิน ภาษีไปก่อน ดังนั้นจะรอให้ขายรถได้ก่อนจึงมาเสียภาษี ซึ่งระหว่างที่สินค้าอยู่ในคลังทัณฑ์บนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย นายสมชัยกล่าวว่า การแก้ปัญหาอย่างถาวร ตนได้สั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม (RFID GPS) สำหรับสินค้าที่นำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์และบิ๊คไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย พร้อมกันนี้ สั่งให้เปิดเครื่องเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ เพื่อตรวจสอบสินค้านำเข้าว่าเป็นสินค้าชนิดใด แจ้งไว้อย่างถูกต้องหรือไม่ วันเดียวกัน ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร นายศักดิ์ ยศธแสนย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อจำกัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จ รถจักรยานยนต์ใช้แล้ว ผงฝุ่นโลหะปนเปื้อน เศษขยะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกหลายรายการของกลางมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท นายสมชัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้มีใบขนส่งสินค้าส่งออก เลขที่ A014-15708-02252 จำนวน 4 ตู้ สำแดงเป็นเศษพลาสติก ตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์พบมีการนำเศษเหล็ก เศษอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เก่าปิดบัง ปรากฏว่ามีเปิดดูพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว (USED BIG BIKE) ซึ่งมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ 28 ลัง ประกอบแล้วเป็นรถทั้งหมด 69 คัน ถือว่าเป็นการสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งกำลังจะส่งไปปลายทางที่ฮ่องกง มูลค่าของกลาง 40 ล้านบาท http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409896583 หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 05, 2014, 04:18:39 PM หายไปไหนหนอ ;D ;D ;D ทำของหายแค่โดนย้าย ทำไมมันง่ายจัง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรือครับ
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์--รักในหลวง-- ที่ กันยายน 05, 2014, 04:54:33 PM ย้ายเฉย ๆ ไม่พอต้องสอบสวน พบว่าผิดจริง ไล่ออกเลยครับ เมื่อตามรถเจอแล้วพบว่าอยู่กับใคร คนนั้นต้องรับผิดด้วยว่ากันไปตามข้อกฎหมาย :D
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 05, 2014, 04:56:27 PM รถหายแค่นี้เองทำโวยวาย ::007::
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 05, 2014, 05:46:17 PM มันจะหายไปไหนได้มันก็อยู่กับตาสีตาชาวบ้านตาดำๆนั่นแหละครับ
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 05, 2014, 06:03:34 PM + ทุกท่านครับ ;D
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 08, 2014, 08:26:05 PM ศุลกากรแกะรอย รถหรูล่องหน-เลี่ยงภาษี!!!
Prev 1 of 1 Next คลิกภาพเพื่อขยาย updated: 08 ก.ย. 2557 เวลา 13:20:40 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ เรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าสำหรับผู้มีอันจะกิน อย่างรถยนต์หรูนำเข้ามาจากต่างประเทศ มีให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง แต่กว่าเรื่องราวจะเปิดเผยออกมา มักจะต้องมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา ก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตามล่าหาผู้กระผิด แต่ก็จับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางเรื่องก็เงียบหายเข้ากลับเมฆ อย่างเช่น กรณีรถหรูไฟไหม้ในระหว่างขนไปต่างจังหวัด เมื่อสอบสวนเรื่องจึงแดงขึ้นมา กลายเป็นรถที่นำเข้าอย่างไม่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการเสียภาษี และเมื่อสาวลึกลงไป ขยายผลจนไปเจอมีขบวนการลักลอบนำเข้ารถหรู หรือรถซุปเปอร์คาร์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้รัฐสูญรายได้ปีละหลายร้อยหลายพันล้านบาท ขบวนการเหล่านี้ มีกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องมากทั้งผู้มีอิทธิพล ผู้ประกอบการนำเข้ารถ นักการเมือง ข้าราชการ กรณีล่าสุด กรมศุลกากรตรวจพบว่ามีรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บน ของกรมศุลกากรจำนวนหลายร้อยคัน ทำให้ นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ถึงกับเต้น ออกมาประกาศหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ สำหรับคลังสินค้าทัณฑ์บนอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเก็บสินค้านำเข้าที่ยังไม่เสียภาษี มีกำหนดให้เก็บในคลังได้ไม่เกิน 2 ปี ปัจจุบันมีคลังสินค้าทัณฑ์บนอยู่ 7 ประเภท คือ 1.คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า 2.คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป 3.คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร 4.คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปสำหรับจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ 5.คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปสำหรับเก็บน้ำมัน 6.คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับอู่ซ่อมหรือสร้างเรือ และ 7.เขตคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับประกอบการค้าเสรีที่ปลอดจากภาระทางภาษีอากร คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับเก็บรักษารถยนต์ อยู่ในประเภทของคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป มีทั้งหมด 38 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศทั้งในจังหวัดชลบุรี สมุทปราการ กทม. สงขลา เชียงราย ระนอง มีบางแห่งระบุประเภทสินค้าที่เก็บอย่างชัดเจน อาทิ เหล็ก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สินค้ามูลค่าสูงอย่างทองคำ อัญมณี และธนบัตร มีคลังที่ไม่ได้ระบุประเภทสินค้ากว่า 20 แห่ง และมีคลังที่ระบุว่าเก็บรถยนต์เพียง 2 แห่งคือ บริษัท พีเอสเค กลนาท จำกัด และของบริษัท ไทยยานยนต์ จำกัด ส่วนคลังของบริษัท ยนตรกิจมอเตอร์ (1989) จำกัด (ร่มเกล้า) ผู้นำเข้าและขายรถยนต์หรูรายใหญ่ของไทย แม้ไม่ระบุประเภทว่าเป็นคลังเก็บรถยนต์ แต่เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรระบุว่า คลังนี้เป็นที่เก็บรถยนต์นำเข้าของกลุ่มยนตรกิจ ทั้งนี้จากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ระบุว่า ความจริงแล้วมีคลังสินค้าทัณฑ์บนเก็บสินค้าประเภทรถยนต์อยู่ 5-6 แห่ง และบางแห่งเป็นเจ้าของเดียวกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) รถหรูในไทย ดีลเลอร์จะอาศัยช่องว่างของกฎหมายกำหนดว่า สามารถเก็บรักษาสินค้านำเข้าในคลังสินค้าทัณฑ์บนได้ 2 ปี และระหว่างเก็บสามารถขออนุญาตนำสินค้าไปโชว์ เพื่อประโยชน์ในการค้าได้ ทำให้มีดีลเลอร์บางรายใช้ช่องทางนี้นำรถยนต์หลบเลี่ยงภาษีออกมาจำหน่าย ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากดีลเลอร์รายใหญ่รายหนึ่งและเจ้าของเดียวกันกับคลังสินค้าทัณฑ์บน นำรถยนต์ออกไปจากคลังเพื่อไปโชว์ และเมื่อขายได้กลับไม่ยอมนำเงินมาจ่ายภาษี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้ปรับราคาประเมินรถหรูนำเข้าใหม่ทำให้ภาษีเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อดีลเลอร์ขายรถไปแล้วแต่คำนวณภาษีไว้ต่ำกว่าจำนวนต้องจ่ายจริง ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา และอาจเกิดการยื้อไว้ ไม่ยอมมาจ่ายภาษี จนปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ได้เพียงแต่ทวงถามเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นช่วงก่อนหน้านี้มานาน วงในวิพากษ์วิจารณ์กันหนักว่าเป็นเพราะมีกลุ่มอิทธิพลและนักการเมืองหนุนหลัง แต่งานนี้ อธิบดีกรมศุลกากรสั่งสอบเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เพราะหลังเข้ารับตำแหน่งได้ 2 เดือนพบความผิดปกติ และเร่งตรวจสอบด่วนจนพบว่ามีรถยนต์ไม่ยอมมาเสียภาษีและหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บนกว่า 500 คัน และนำไปสู่คำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตพื้นที่ที่ตรวจพบรถหาย จำนวน 2 คน พร้อมทั้งสั่งสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปตามยึดรถกลับคืนมาได้บางส่วน แต่เจ้าของรถยนต์ที่ถูกยึด ยืนยันว่าจ่ายภาษีอย่างครบถ้วนกับดีลเลอร์ไปแล้ว "ผมสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ให้ไปตามรถกลับคืนมาเสียภาษีให้ได้ และเจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนต้องร่วมรับผิดชอบที่ปล่อยให้รถหายไปจากคลังด้วย กรมศุลกากรเตรียมจะฟ้องร้องกับเจ้าของคลังสินค้า ส่วนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวน และดำเนินการให้ถึงที่สุด" นายสมชัยกล่าว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว นายสมชายกล่าวว่า สั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม (RFID GPS) สำหรับสินค้านำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี ขอนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย นอกจากนี้เตรียมแก้กฎหมายศุลกากรอนุญาตให้เคลื่อนย้ายสินค้าที่อยู่ในคลังทัณฑ์บนได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น จากเดิมไม่มีข้อกำหนดทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าไปคลังโน้นคลังนี้หลายครั้ง สุดท้ายสินค้าก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย เมื่อหายไปแล้วตามคืนกลับมายาก ล่าสุด แหล่งข่าวในกรมศุลกากรระบุว่า หลังเกิดกระแสข่าวดังกล่าวในสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว ขณะนี้มีดีลเลอร์บางแห่งติดต่อขอเจรจาจ่ายภาษีให้กรมศุลกากรแล้วกว่า 100 คัน มารอดูกันว่า กรณีนี้จะเหมือนหลายๆ กรณีที่ตามจับผิดอย่างคึกคักในช่วงแรกๆ แต่จนถึงที่สุดก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ กลายเป็นตำนานเรื่องเล่าถึงพฤติกรรมของเหล่าขบวนการเลี่ยงภาษีลอยนวลอยู่ในสังคมไทยต่อไป ในขณะที่กระแสเรียกร้องให้เอาจริงเอาจังกับการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นยังดังกระหึ่มอย่างกึกก้อง หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: melecc ที่ กันยายน 08, 2014, 08:33:15 PM หายไปไหนอ้า...... :OO
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: yutthakarn ที่ กันยายน 08, 2014, 11:06:43 PM งามบนใบหน้าละครับ ผมในฐานะช้าราชการคนหนึ่ง รู้สึกอนาจใจกับข่าวนี้จริงๆครับ กล้าทำกันได้อย่างไร สำนึกของข้าราชการในพระเจ้าอยู่หัว และผู้รับใช้แผ่นดินไปอยู่ที่ไหนหมด
หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 09, 2014, 04:28:18 AM แต่งานนี้ อธิบดีกรมศุลกากรสั่งสอบเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เพราะหลังเข้ารับตำแหน่งได้ 2 เดือนพบความผิดปกติ และเร่งตรวจสอบด่วนจนพบว่ามีรถยนต์ไม่ยอมมาเสียภาษีและหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บนกว่า 500 คัน และนำไปสู่คำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตพื้นที่ที่ตรวจพบรถหาย จำนวน 2 คน พร้อมทั้งสั่งสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปตามยึดรถกลับคืนมาได้บางส่วน แต่เจ้าของรถยนต์ที่ถูกยึด ยืนยันว่าจ่ายภาษีอย่างครบถ้วนกับดีลเลอร์ไปแล้ว [/color][/size] "ผมสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ให้ไปตามรถกลับคืนมาเสียภาษีให้ได้ และเจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนต้องร่วมรับผิดชอบที่ปล่อยให้รถหายไปจากคลังด้วย กรมศุลกากรเตรียมจะฟ้องร้องกับเจ้าของคลังสินค้า ส่วนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวน และดำเนินการให้ถึงที่สุด" นายสมชัยกล่าว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว นายสมชายกล่าวว่า สั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม (RFID GPS) สำหรับสินค้านำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี ขอนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย นอกจากนี้เตรียมแก้กฎหมายศุลกากรอนุญาตให้เคลื่อนย้ายสินค้าที่อยู่ในคลังทัณฑ์บนได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น จากเดิมไม่มีข้อกำหนดทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าไปคลังโน้นคลังนี้หลายครั้ง สุดท้ายสินค้าก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย เมื่อหายไปแล้วตามคืนกลับมายาก ล่าสุด แหล่งข่าวในกรมศุลกากรระบุว่า หลังเกิดกระแสข่าวดังกล่าวในสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว ขณะนี้มีดีลเลอร์บางแห่งติดต่อขอเจรจาจ่ายภาษีให้กรมศุลกากรแล้วกว่า 100 คัน มารอดูกันว่า กรณีนี้จะเหมือนหลายๆ กรณีที่ตามจับผิดอย่างคึกคักในช่วงแรกๆ แต่จนถึงที่สุดก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ กลายเป็นตำนานเรื่องเล่าถึงพฤติกรรมของเหล่าขบวนการเลี่ยงภาษีลอยนวลอยู่ในสังคมไทยต่อไป ในขณะที่กระแสเรียกร้องให้เอาจริงเอาจังกับการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นยังดังกระหึ่มอย่างกึกก้อง[/color][/size] ถ้าบอกว่าจ่ายแล้ว แล้วเงินไปไหน ;D ;D ;D รอรัฐบาลนี้ดูว่าทำได้หรือไม่ หัวข้อ: Re: กรมศุลฯวุ่น รถหรู-บิ๊กไบค์ล่องหนระหว่างขนย้าย 500คัน เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 09, 2014, 07:11:02 AM แต่งานนี้ อธิบดีกรมศุลกากรสั่งสอบเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เพราะหลังเข้ารับตำแหน่งได้ 2 เดือนพบความผิดปกติ และเร่งตรวจสอบด่วนจนพบว่ามีรถยนต์ไม่ยอมมาเสียภาษีและหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บนกว่า 500 คัน และนำไปสู่คำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตพื้นที่ที่ตรวจพบรถหาย จำนวน 2 คน พร้อมทั้งสั่งสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปตามยึดรถกลับคืนมาได้บางส่วน แต่เจ้าของรถยนต์ที่ถูกยึด ยืนยันว่าจ่ายภาษีอย่างครบถ้วนกับดีลเลอร์ไปแล้ว [/color][/size] "ผมสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ให้ไปตามรถกลับคืนมาเสียภาษีให้ได้ และเจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนต้องร่วมรับผิดชอบที่ปล่อยให้รถหายไปจากคลังด้วย กรมศุลกากรเตรียมจะฟ้องร้องกับเจ้าของคลังสินค้า ส่วนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวน และดำเนินการให้ถึงที่สุด" นายสมชัยกล่าว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว นายสมชายกล่าวว่า สั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม (RFID GPS) สำหรับสินค้านำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี ขอนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย นอกจากนี้เตรียมแก้กฎหมายศุลกากรอนุญาตให้เคลื่อนย้ายสินค้าที่อยู่ในคลังทัณฑ์บนได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น จากเดิมไม่มีข้อกำหนดทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าไปคลังโน้นคลังนี้หลายครั้ง สุดท้ายสินค้าก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย เมื่อหายไปแล้วตามคืนกลับมายาก ล่าสุด แหล่งข่าวในกรมศุลกากรระบุว่า หลังเกิดกระแสข่าวดังกล่าวในสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว ขณะนี้มีดีลเลอร์บางแห่งติดต่อขอเจรจาจ่ายภาษีให้กรมศุลกากรแล้วกว่า 100 คัน มารอดูกันว่า กรณีนี้จะเหมือนหลายๆ กรณีที่ตามจับผิดอย่างคึกคักในช่วงแรกๆ แต่จนถึงที่สุดก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ กลายเป็นตำนานเรื่องเล่าถึงพฤติกรรมของเหล่าขบวนการเลี่ยงภาษีลอยนวลอยู่ในสังคมไทยต่อไป ในขณะที่กระแสเรียกร้องให้เอาจริงเอาจังกับการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นยังดังกระหึ่มอย่างกึกก้อง[/color][/size] ถ้าบอกว่าจ่ายแล้ว แล้วเงินไปไหน ;D ;D ;D รอรัฐบาลนี้ดูว่าทำได้หรือไม่ |