หัวข้อ: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ole ที่ ตุลาคม 18, 2006, 04:58:39 PM เวปไหนครับ(ของคนไทย)ที่มีพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องนาฬิกา
แล้วก็มีหน้าซื้อ-ขายด้วย ช่วยแนะนำด้วยครับ หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 18, 2006, 05:08:16 PM www.siamnaliga.com ครับ
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ตุลาคม 18, 2006, 05:24:42 PM ใช่เลยครับ สยามนาฬิกา มีตั้งแต่เรือนละหลายล้านบาท และไม่ถึงร้อยบาท
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 18, 2006, 05:27:30 PM เรือนล่าสุดที่เอามาลงขายราคา1.6ล้าน แว๊กกกกกกก :OO
(http://img153.imageshack.us/img153/4967/fpjf2qg3.jpg) (http://imageshack.us) (http://img153.imageshack.us/img153/9844/fpjb2nx5.jpg) (http://imageshack.us) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 18, 2006, 05:54:06 PM :VOV: สวยจังเลยคุณ.จ้าว แต่เห็นราคาแล้วแทบเป็นลม เกิดชาติหน้ายังซื้อไม่ได้เลย เราทุนน้อยเอาเรือนนี้ก่อนดีกว่า
(http://img301.imageshack.us/img301/3305/b1915f14757t03a96823d9492988ae3d7ade05df27489lf7.jpg) (http://imageshack.us) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 18, 2006, 05:56:11 PM เรือนของคุณวัฒน์ก็ใช้ทุนไม่น้อยแล้วละครับ......จึ๋ยยยยยยส์
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 18, 2006, 06:05:13 PM เรือนของคุณวัฒน์ก็ใช้ทุนไม่น้อยแล้วละครับ......จึ๋ยยยยยยส์ :D ประมาณเกือบๆ 1 ใน 16 เท่าของเรือนข้างบนครับพี่ปู :D อันนี้ด้านหลังครับ (http://img301.imageshack.us/img301/5769/b1915f14757t039499763582b37da9a5d1346ac138b99it4.jpg) (http://imageshack.us) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 18, 2006, 06:13:25 PM เรือนละล้านหก แต่เจ้าของขายทิ้งเพราะหน้าปัทเล็กดูเวลาไม่เห็นอ่ะ ;D
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: mayis ที่ ตุลาคม 18, 2006, 08:20:16 PM หอดูดาว..ก็สุดยอดแล้วครับ.. สวยครับ :VOV:
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: SEK ที่ ตุลาคม 18, 2006, 09:58:42 PM หอดูดาว..ก็สุดยอดแล้วครับ.. สวยครับ :VOV: ...รุ่นนี้ผู้หญิงห้ามใช้ครับ...ไม่เชื่อลองผวนคำดู...หอดูดาว... หาวดู...ด... อิอิ หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: jamin ที่ ตุลาคม 18, 2006, 10:00:55 PM หอดูดาว .... น่ากลัวจัง .... อยากง่วง
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ตุลาคม 18, 2006, 10:37:06 PM เรือนล่าสุดที่เอามาลงขายราคา1.6ล้าน แว๊กกกกกกก :OO ตูดทำไมสวยกว่าหน้า อิอิ(http://img153.imageshack.us/img153/4967/fpjf2qg3.jpg) (http://imageshack.us) (http://img153.imageshack.us/img153/9844/fpjb2nx5.jpg) (http://imageshack.us) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ole ที่ ตุลาคม 19, 2006, 09:21:52 AM เห็นมีพี่ๆหลายท่านมีข้อมูล
งั้นผมข้อถามเลยดีกว่า นาฬิกายี่ห้อ...TITSOT เกรดของแบรน์นี้อยู่ประมาณไหนครับ สมมุติว่าโคล์ทเปรียบประมาณว่าเป็น ROLEX พอดีเมื่อวานผมไปเห็นมา ราคา23600บาท(ของใหม่ในร้าน) ตัวเรือนใหญ่มากกก กลไกออโต สายสแตนเลส ฝาหลังเปลือย(ชอบตรงนี้แหละ) ราคานี้พอรับได้ไม๊ครับ หรือมีรุ่นไหนจะแนะนำ ครับในงบประมาณนี้ จริงๆผมก็มีพวกคาสิโอ ไซโก้ แล้วก็นาฬิกาแฟชั่นอยู่หลายเรือน แต่พออายุมากขึ้น เลยอยากหานาฬิกาที่ใส่แล้วสมวัย ดูแล้วมีระดับนิดๆ แต่ราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ถ้าเป็นเรือนทองอย่างราโด้ มิโด้ก็ไม่ค่อยชอบครับ ความรู้สึกคือมันแก่เกินไป ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ... :) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:02:41 AM :D.. OMEGA เรือนที่คุณ Watt . นำมาให้ดู.. ชอบครับ Classic ดูดี.
เสียดาย กระจกถ้าเป็นซับไฟ ก็เยี่ยม.. เป็นเซลลูโลด ต้องระวังมาก. :D หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:34:14 AM :D.. OMEGA เรือนที่คุณ Watt . นำมาให้ดู.. ชอบครับ Classic ดูดี. เสียดาย กระจกถ้าเป็นซับไฟ ก็เยี่ยม.. เป็นเซลลูโลด ต้องระวังมาก. :D :) ครับพี่เสียดาย แต่เรือนนี้อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ตอนนั้นคงวิวัฒนาการเรื่องกระจกคงไม่ถึงเหมือนสมัยนี้ เห็นมีพี่ๆหลายท่านมีข้อมูล งั้นผมข้อถามเลยดีกว่า นาฬิกายี่ห้อ...TITSOT เกรดของแบรน์นี้อยู่ประมาณไหนครับ สมมุติว่าโคล์ทเปรียบประมาณว่าเป็น ROLEX พอดีเมื่อวานผมไปเห็นมา ราคา23600บาท(ของใหม่ในร้าน) ตัวเรือนใหญ่มากกก กลไกออโต สายสแตนเลส ฝาหลังเปลือย(ชอบตรงนี้แหละ) ราคานี้พอรับได้ไม๊ครับ หรือมีรุ่นไหนจะแนะนำ ครับในงบประมาณนี้ จริงๆผมก็มีพวกคาสิโอ ไซโก้ แล้วก็นาฬิกาแฟชั่นอยู่หลายเรือน แต่พออายุมากขึ้น เลยอยากหานาฬิกาที่ใส่แล้วสมวัย ดูแล้วมีระดับนิดๆ แต่ราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ถ้าเป็นเรือนทองอย่างราโด้ มิโด้ก็ไม่ค่อยชอบครับ ความรู้สึกคือมันแก่เกินไป ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ... :) :) TITSOT เป็นนาฬิกาที่ก่อกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1853 แต่ชื่อชั้นยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร เลยอาจจะอยู่ในระดับล่างๆของนาฬิกาสวิสถ้าเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น ไม่ว่าจะเป็น Rolex Omega Tudor Breitling TAG Heuer หรือแม้แต่ Oris สนใจ TITSOT ลองดูที่เวปนี้ครับ http://www.tissot.ch/ :D ผมมีใช้อยู่เรือนนึงเหมือนกันครับ (http://img246.imageshack.us/img246/5349/dscf0148cu8.jpg) :D งบขนาดนี้ลองเปรียบเทียบดู TAG Heuer หรือ Oris เป็นตัวเลือกครับ หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:36:16 AM เห็นมีพี่ๆหลายท่านมีข้อมูล งั้นผมข้อถามเลยดีกว่า นาฬิกายี่ห้อ...TITSOT เกรดของแบรน์นี้อยู่ประมาณไหนครับ สมมุติว่าโคล์ทเปรียบประมาณว่าเป็น ROLEX พอดีเมื่อวานผมไปเห็นมา ราคา23600บาท(ของใหม่ในร้าน) ตัวเรือนใหญ่มากกก กลไกออโต สายสแตนเลส ฝาหลังเปลือย(ชอบตรงนี้แหละ) ราคานี้พอรับได้ไม๊ครับ หรือมีรุ่นไหนจะแนะนำ ครับในงบประมาณนี้ จริงๆผมก็มีพวกคาสิโอ ไซโก้ แล้วก็นาฬิกาแฟชั่นอยู่หลายเรือน แต่พออายุมากขึ้น เลยอยากหานาฬิกาที่ใส่แล้วสมวัย ดูแล้วมีระดับนิดๆ แต่ราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ถ้าเป็นเรือนทองอย่างราโด้ มิโด้ก็ไม่ค่อยชอบครับ ความรู้สึกคือมันแก่เกินไป ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ... :) ชอบเรือนนี้ไหมครับ ขายอยู่ในห้องขายของเวบสยามนาฬิกา .... แต่คงต้องฝากสมาชิกเวบโน้นที่เป็นVerified memberสั่งให้นะจ๊ะ oris pointer date ขนาดกำลังดี 42 มม. มาพร้อมกล่อง แต่ไม่มีใบครับ ตัวเรือนมีรอยบริเวณวันที่ 9 เล็ก ๆ นอกนั้น ขนแมวบาง ๆ ครับ ขอราคา 18800 สนใจติดต่อทาง pm นะครับ (http://img246.imageshack.us/img246/9971/oris1si3.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/5539/oris2qf8.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/7403/oris3dq3.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/9870/oris4ky7.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/6668/oris5zo2.jpg) (http://imageshack.us) หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:37:42 AM ........ ;D..ใจผมก็กำลังมองๆหานาฬิกาอยู่เหมืนกัน ( มองหามานแล้ว ) อยากได้ ของ IWC. ครับ.. ;D ;D หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:51:10 AM :VOV: อันนี้ประวัติอันยาวนานของ Omega
THE STORY OF OMEGA SPEEDMASTER PROFESSIONAL นาฬิกาหลายเรือนที่มีความคลาสสิคและเรื่องราวในตัวของมันเอง จนจัดได้ว่านาฬิกาเรือนนั้นกลายเป็นนาฬิกาในตำนาน ความคลาสสิคเกิดจาก การผสมผสานของ ดีไซน์ ความสวยงาม ประวัติความเป็นมาของผู้ผลิต ประโยชน์ใช้สอย ตำนานเรื่องราวว่ามันถูกนำไปใช้อย่างไร หนึ่งในนาฬิกาที่โด่งดังและจัดว่าเป็นตำนานที่น่าสนใจเรือนหนึ่งก็คือ Omega Speedmaster Professional ที่พวกเราเห็นกันบ่อยๆนั่นเอง Omega Speedmaster มีประวัติความเป็นมายาวนานพอดู รุ่นแรกที่ผลิตออกมาคือรุ่น CK2915 ในปี 1957 หายากมากๆขนาดรูปนาฬิการุ่นนี้สภาพสวยๆยังหาดูยากเลย Omega ก็ได้ผลิต speedmaster ออกมาเรื่อยๆจนถึงวันหนึ่งในช่วงต้นทศวรรษ 60 ในเวลานั้น NASA กำลังดำเนินโครงการอวกาศ MERCURY หรือส่งมนุษย์คนเดียวออกไปโคจรรอบโลกดู และก็กำลังจะเริ่มต้นโครงการ GEMINI หรือการส่งคนหนึ่งคู่ ออกไปโคจรรอบโลกดูเล่นๆ อันโครงการ Mercury ที่ NASA กำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นการปฏิบัติภาระกิจภายในยาน โดยนักบินก็นั่งยานเฉยๆแล้วก็ถูกส่งไปโคจรรอบโลก ส่วน ภารกิจ Gemini นั้น จะมีการส่งคนออกไปนอกยานเพื่อลอยไปลอยมา และทำการทดลองต่างๆ ดังนั้น NASA จึงเกิดความต้องการที่จะจัดหานาฬิกาเพื่อใช้ในโครงการอวกาศต่างๆต่อไป โดยนาฬิกาที่ว่าจะต้องมีระบบจับเวลาเพื่อถูกใช้สำรองในกรณีที่ระบบเวลาหลักล้มเหลว นาฬิกาที่ว่าจะต้องทนต่อทุกสภาวะ ทั้งความกดดันอากาศ สภาพสูญญากาศ อุณหภูมืที่เปลี่ยนแปลงจากติดลบไปเป็นร้อยองศาเพียงเคลื่อนข้ามจากใต้เงาไปสู่แสงแดด ดังนั้นในปี 1962 NASA จึงได้ส่งพนักงานจัดซื้อของตนออกไปหาซื้อนาฬิกาจับเวลามาอย่างละเรือนสองเรือนเพื่อใช้ในการทดสอบแบบไม่เป็นทางการ การจัดหาก็ทำอย่างง่ายๆ คือให้เจ้าหน้าที่ของตนไปที่ร้านขายนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองที่สำนักงานใหญ่ของตนตั้งอยู่ก็คือ Houstan รัฐ Texas ห้างดังกล่าวชื่อ Corrigan ซึ่งในปัจจุบันร้านนี้ก็ยังคงเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Omega อยู่ ตามตำราต่างๆที่ผมดูมา พอจะสรุปได้ว่าเจ้าหน้าที่ได้ซื้อนาฬิกามาห้ายี่ห้อ ได้แก่ Omega Speedmaster, Rolex cosmograph, Bulova, Longines, Heuer ลองนึกภาพตลาดนาฬิกาในสมัยปี 1960 หรือราวๆ 2503 บ้านเรา นาฬิกา Quartz ยังไม่เกิด ส่วนนาฬิกา Automatic Chronograph เรือนแรกก็ถือกำเนิดราวๆปี 1969 เพราะฉะนั้นนาฬิกาที่มีให้เลือกคงยังมีแต่นาฬิกาไขลาน และคงมีไม่กี่ยี่ห้อ ที่ทำนาฬิกาแบบจับเวลาออกมาขาย หลังจากซื้อมาแล้ว Nasa ก็ได้วิเคราะห์นาฬิกาต่างๆและนำมาลองใช้ในโครงการ Mercury จนได้ไอเดียคร่าวๆแล้ว ในปี 1964 Nasa จึงกำหนดข้อต้องการในการจัดซื้อนาฬิกาต่างๆมาทดสอบเพื่อทำการใช้ในโครงการอวกาศ Gemini และ Apollo ใบขอสั่งซื้อได้ถูกส่งไปยังบริษัทต่างๆเช่น Elgin, Benrus, Hamilton, Mido, Luchin Picard, Omega, Bulova, Rolex, Longines, Gruen โดยมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้ 1. ให้ส่งมอบไม่เกินวันที่ 21/10/1964 2. ต้องเดินผิดพลาดไม่เกิน 5 วินาทีต่อ 24 ชั้วโมง จะยิ่งดีถ้าเดินผิดพลาดไม่เกิน 2 วินาทีต่อวัน 3. ต้องกันแรงดันได้ตั้งแต่ แรงดันน้ำที่ 50 ฟุต จนถึงสุญญากาศที่ 10^ -5 มม ปรอท 4. หน้าปัดต้องอ่านง่ายในทุกสภาวะ โดยเฉพาะภายใต้แหล่งกำเนิดแสงที่เป็นสีแดงหรือขาว อย่างต่ำๆต้องมองเห็นภายใต้แสงเทียนที่ระยะ 5 ฟุต ในสภาวะแสงจ้าหน้าปัดไม่ควรไม่มีแสงสะท้อน ถ้าจะให้ยิ่งดีหน้าปัดควรมีสีดำ 5. หน้าปัดต้องแสดง วินาที 60 วินาที วงนาที 30 นาที และวงชั่วโมง 12 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น 6. นาฬิกาต้องกันน้ำ กันกระแทก กันแม่เหล็ก กระจกหน้าปัดต้องต้องไม่คมและไม่กระจายเป็นเศษๆเวลาแตก 7. นาฬิกาที่จัดหาจะเป็นไขลาน ออโต หรือใช้ระบบไฟฟ้าก็ได้ แต่ต้องเอามือหมุนขึ้นลานได้ 8. นาฬิกานี้บริษัทที่จำหน่ายต้องมีรับประกันเป็นเวลาอย่างต่ำ 1 ปี จากเสป็คจะเห็นได้ว่า Nasa อาจได้ลองใช้นาฬิกาหลายๆยี่ห้อแล้วติดใจใน Omega เพราะเสป็คที่ออกมาเข้ากับ Omega ทุกอย่าง ในขณะนั้นยังไม่มีนาฬิกาจับเวลาแบบ auto หรือใช้ไฟฟ้าออกมา และบางบริษัทก็ได้ปฎิเสธที่จะส่งนาฬิกาให้เนื่องจากว่าตนไม่ได้ผลิตนาฬิกาที่ตรงกับข้อกำหนดดังกล่าว การทดสอบที่ Nasa จัดขึ้นมาก็แบ่งเป็นชุดๆ หลายๆขั้นตอน แบบว่าหฤโหดมาก พอสิ้นสุดการทดสอบแต่ละครั้ง นาฬิกาแต่ละเรือนก็จะถูกเช็คอย่างละเอียด ถ้าเดินไม่ตรงมากๆ ไขลานไม่ได้ จับเวลาไม่ได้ น้ำเข้า หรือชิ้นส่วนพัง ก็จะถูกคัดออกจากการทดสอบ การทดสอบหฤโหด ได้แบ่งเป็นช่วงๆดังนี้ ระหว่างการทดสอบในแต่ละช่วง นาฬิกาก็จะถูกตรวจว่ายังทำงานปกติหรือไม่ 1. เข้าห้องอบที่อุณหภูมิ 71 C 48 ชั่วโมง แล้วต่อด้วย 93 C 30 นาที ปรับความดันไว้ที่ 0.35 ATM ความชื้น 15% 2. อุณหภูมิ -18 C 4 ชั่วโมง 3. ที่สุญญากาศ 10^ -6 ATM เข้าห้องอบลดอุณหภูมิจาก 71 C ลงมาที่ -18 C ในเวลา 45 นาที และเพิ่มกลับไปที่ 71 C ในอีก 45 นาที ทำแบบนี้วนไปวนมา 15 รอบ 4. เข้าตู้อบความชื้นสูง 95% เป็นเวลา 240 ชั่วโมง อุณหภูมิในห้องทดสอบเปลี่ยนไปมาระหว่าง 20 - 71C ไอน้ำไม่เป็นกรดหรือด่าง 5. เข้าห้องอบ Oxygen 100% ที่แรงดัน 0.55 ATM เป็นเวลา 48 ชั่วโมงที่อุณหภูมิ 71 C ถ้ามีรอยใหม้ เกิดแก๊สพิษลอยออกมา หรือยางเสื่อมสภาพถือว่าสอบไม่ผ่าน 6. โดนแรงเหวี่ยง 40G (ความเร่ง) ครั้งละ 11 Millisecond หกทิศทาง (คล้ายๆกับเหวี่ยงนาฬิกาแรงๆมากๆ เร็วมากๆ) 7. ความเร่งจาก 1G ไป 7.25G ในเวลา 333 วินาที (ลักษณะคล้ายๆยิงจรวดขึ้นฟ้า) 8. เข้าห้องสุญญากาศแรงดัน 10^ -6 ATM อีก 90 นาทีที่ 71 C และอีก 30 นาทีที่ 93 C 9. แรงดันอากาศสูง 1.6 ATM เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 10. เข้าเครื่องเขย่า 30 นาที ที่ความถี่เปลี่ยนไปมาระหว่าง 5 - 2000 รอบต่อวินาที และที่ 5 รอบต่อวินาทีต่ออีก 15 วินาที แรงเขย่าอย่างต่ำๆ 8.8 G (เหมือนเขย่าแรงๆช้ามั่ง เร็วมั่ง) 11. โดนยิงคลื่นเสียงที่ดัง 130 dB เป็นเวลา 30 นาที โดยใช้เสียงทุกช่วงความถี่ที่คนได้ยิน หลังจากการทดสอบหฤโหดดังกล่าว นาฬิกาต่างๆที่เข้าร่วมทดสอบต่างก็ม้วยมรณาไปตามๆกัน ไม่แปลกใจเลยที่นาฬิกาจะพัง เพราะถ้าเอาคนไปเข้าทดสอบอย่างที่ว่าคนนั้นก็น่าจะตายตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้ว Rolex หยุดเดินสองครั้ง 1 และเข็มงอพันเข้าหากันในตู้อบความร้อน เลยถูกคัดออกจากการทดสอบ ส่วน Longines นั้นกระจกหลุดร่วงออกจากตัวเรือน เปลี่ยนตัวใหม่เข้า test ต่อก็ยังร่วงอีกเลยสอบตกไปตามๆกัน ที่เหลือรอดมาได้คือ Omega Speedmaster ซึ่งหลังจากผ่านการทดสอบแล้ว สูญเสียความเที่ยงตรงในการทดสอบความเร่งและทดสอบสูญญากาศ พรายน้ำที่หน้าปัดมีรอยใหม้แต่อย่างอื่นปกติ ซึ่งเป็นที่พอยอมรับกันได้ Omega จึงผ่านการทดสอบและได้รับการบรรจุให้เป็น อุปกรณ์หลักในโครงการอวกาศ Gemini และ Apollo โดยเริ่มจากโครงการ Gemini 3 ต่อมาปี 1965 Mission Gemini 4 Edward White ก็ได้ใช้ Omega Speedmaster ในการจับเวลาการลอยไปลอยมาในอวกาศ (Space walk) ของตน กว่าโรงงาน Omega จะรู้ตัวว่านาฬิกาของตนถูก Nasa นำไปใช้ในโครงการอวกาศ ก็ปาเข้าไปตั้งปีกว่า 1966 นู่น Nasa ภูมิใจมาก เพราะนาฬิกาของตนถูกนำไปใช้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากเปลี่ยนสายไปใช้สายแบบตีนตุ๊กแก (Velcro strap) เพื่อติดกับชุดนักบินเท่านั้นเอง ดังนั้นในปี 1966 Omega จึงได้เพิ่มคำว่า PROFESSIONAL ต่อท้ายคำว่า Speedmaster บนหน้าปัดเพื่อเฉลิมฉลองการยอมรับการยอมรับจาก Nasa ให้ใช้ในโครงการอวกาศของตน ต่อมา มีแรงกดดันจากทำเนียบขาว เนื่องจากทางผู้ผลิตนาฬิกาอเมริกันไม่พอใจที่มีการใช้นาฬิกาสวิสในโครงการอวกาศของอเมริกัน และโครงการส่งคนไปบนดวงจันทร์ ทาง Nasa จึงได้มีการตอบกลับไปพร้อมผลทดสอบว่าได้ทำการทดสอบแล้วพบว่า นาฬิกาที่ผลิตในประเทศไม่ผ่านการทดสอบนี้ และแล้วในปี 1969 มนุษย์กลุ่มแรกก็ถูกส่งไปยังดวงจันทร์พร้อมด้วย Omega Speedmaster ภายใต้ภารกิจที่ชื่อ Apollo 11 ภารกิจนี้มีนักบินด้วยกันสามคนคือ Buzz Aldlin, Niel ArmStrong และ Michael Collins โดยสองคนแรกลงไปใน Lunar Module เพื่อร่อนลงบนดวงจันทร์ ส่วน Michael Collins ต้องอยู่บนยานแม่ซึ่งโคจรอยู่เหนือดวงจันทร์ ก่อนการแยกยาน นาฬิกาหลักบนยานแม่เกิดขัดข้อง Niel Armstrong จึงต้องทิ้งนาฬิกาของตนไว้บนยานแม่เพื่อใช้สำรองแทนเครื่องที่พัง ดังนั้นคนที่ใส่นาฬิกาลงไปบนดวงจันทร์คนแรกไม่ใช่ Niel Armstrong แต่เป็น Buzz Aldlin นาฬิกาเรือนถูกใช้จับเวลาที่นักบินทั้งสองปฎิบัติการอยู่ภายนอกยานบนดวงจันทร์ นี่เป็นที่มาของตำนาน The First Watch worn on the moon น่าเสียดายอย่างยิ่งตรงที่ว่าเมื่อ Buzz Aldlin กลับมาถึงโลกแล้ว ทรัพย์สินเครื่องใช้ต่างๆต่างก็ถูกขโมย และ ขมาย หายไปหลายทอดรวมทั้งนาฬิกา Omega Speedmaster เรือนแรกที่มนุษย์โลกสวมบนดวงจันทร์ด้วย ถ้านาฬิกาเรือนนั้นยังอยู่ก็ไม่รู้ว่าราคาจะปั่นขึ้นไปสูงแค่ใหน ปีต่อมา Mission Apollo 13 Omega Speedmaster Professional ก็ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญอีกครั้งใน Mission Apollo 13 ซึ่ง Nasa ได้ทำการส่งคนไปลงดวงจันทร์อีก ระหว่างทางถัง oxygen ของยานได้เกิดระเบิดขึ้นมาทำให้สูญเสียแหล่งกำเนิดไฟฟ้าในยานทั้งหมด นักบินต้องเอาชีวิตรอดโดยการนำยานเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และใช้แรงเหวี่ยงของดวงจันทร์ผลักให้ยานพุ่งกลับสู่โลก การทำงานทำได้โดยติดขัดเพราะมีไฟฟ้าเพียงแค่พอหล่อเลี้ยงอุปกรณ์สื่อสารเท่านั้น เครื่องมือจับเวลาไฟฟ้าประจำยานล้มเหลวทั้งหมด ดังนั้นนักบินจึงต้องใช้นาฬิกา Speedmaster จับเวลาการจุดระเบิดของเครื่องสร้างแรงขับดัน เพื่อบังคับทิศทางยานให้พุ่งกลับสู่โลก ใครเป็นเจ้าของ Speedmaster และได้ดูหนัง เรื่อง Apollo 13 จะภูมิใจกับนาฬิกาของตนมาก เพราะมีฉากหนึ่งที่ผู้การ Jim Lowell ได้ใช้นาฬิกา Speedmaster จับเวลาอย่างชัดเจน ปี 1975 มีโครงการอวกาศร่วมระหว่างสหรัฐกับสหภาพโซเวียตในการนำยาน Apllo เข้าเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศ Soyuz ของโซเวียต มีการจับมือกลางอวกาศ และเซ็นเอกสารเป็นที่ระลึก นักบินชาวอเมริกันและรัสเซียต่างก็ประหลาดใจเมื่อพบว่าทั้งสองฝ่ายใช้นาฬิกาเหมือนๆกันคือ Omega Speedmaster นั่นเอง แสดงว่า Omega รุ่นนี้เป็นที่ยอมรับกันทั้งสองค่าย ส่วนนักบินรัสเซียอีกคนที่ชื่อ Alexandr Polishchuk ก็เลือกใช้ Omega เช่นกันแต่เป็นรุ่น Flight Master ซึ่งเป็นนาฬิกาลูกพี่ลูกน้องของ Speedmaster ต่อมาช่วงต่อระหว่างโครงการ Apollo และโครงการ Space Shuttle ได้มีการจัดหานาฬิกาที่จะนำมาใช้ โดยมีการทดสอบแบบเดิม ครั้งนี้มีแรงผลักดันจากรัฐบาลให้นาฬิกาในประเทศอย่าง Bulova ได้เข้าทดสอบด้วย แต่ในที่สุดผู้ที่ชนะในการทดสอบครั้งนี้ก็ยังเป็น Omega Speedmaster Professional เช่นเดิม แต่ในครั้งนี้สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ Omega ได้ใช้เครื่องรุ่นใหม่ Caliber 861 (Based on lemania 1863) เนื่องจากผู้ผลิตเดิมเลิกทำการผลิตเครื่องรุ่น 3210 แล้ว ช่วงหลังๆภารกิจ Space Shuttle ได้มีการปรับบรรยากาศภายในยานให้คนอยู่ได้โดยไม่ต้องสวมชุดอวกาศ และมีการค้นคิดนาฬิกาแบบ Quartz และ computer แบบติดข้อมือซึ่งมีความเสถียรมากขึ้นๆ ทำให้ให้บทบาทของนาฬิกาแบบ Mechanic ลดน้อยถอยลงไป Omega Speedmaster จึงค่อยๆกลายเป็นอุปกรณ์เพื่อ Back up แต่ชื่อเสียงและความยิ่งยงในอดีตก็ยังคงไม่ลืมเลือน มีนักบินอวกาศหลายคนที่ยังเลือกใช้ Omega Speedmaster ในชีวิตประจำวันของตน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงภารกิจนอกโลกที่ตนเคยมีส่วนร่วมนั่นเอง :VOV: อันนี้ประวัติของสุดยอดนาฬิกาที่ทุกคนใฝ่หา Rolex Rolex ก่อตั้งขึ้นในปี คศ.1908 โดย ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ (Hans Wilsdorf) ชาวเยอรมัน ซึ่งในตอนแรกใช้ชื่อบริษัทว่า วิลส์ดอร์ฟแอนด์เดวิส โดยที่เข้าหุ้นกับน้องเขยซึ่งในขณะนั้น การผลิตนาฬิกาแบบพก (Pocket Watch) ส่วนใหญ่ผลิตที่สวิสเซอร์แลนด์ยังประสบปัญหา ในการทำให้มีขนาดเล็กแต่เที่ยงตรงและแม่นยำเชื่อถือได้เพื่อนำมาใส่ในตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ วิลส์ดอร์ฟ เป็นผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบในการพัฒนาเครื่องให้มีขนาดเล็กแต่เที่ยงตรงเพื่อนำมาใช้กับนาฬิกาข้อมือ ที่สามารถสื่อถึงสไตล์ แฟชั่น และรสนิยม ซึ่งในระยะแรกได้ให้ Aegler บริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในสวิสเป็นผู้ผลิตเครื่องให้ ในปี 1910 Rolex ได้ส่งนาฬิกาไปที่ School of Horology และได้รับรางวัลในฐานะนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่ได้ Chronometer Rating ความเที่ยงตรงและเชื่อถือได้นี้เกิดจากการปฏิวัติรูปแบบใหม่ทำให้สามารถกันน้ำและฝุ่นเข้าตัวเรือนได้โดยการคิดระบบมะยมแบบเกลียว(Screw Crown) ขึ้น ซึ่งนาฬิกากันน้ำเรือนแรกนี้ถูกนำมาโฆษณาอย่างชาญฉลาดโดยทำเป็นอะควาเรียม คือโชว์หน้าร้านโดยมีนาฬิกาอยู่ในโลกใต้ทะเลอันเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติการกันน้ำได้อย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่ยังแคลงใจว่านาฬิกาจะกันน้ำได้จริงหรือไม่ นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อเสียงที่ทำให้โรเล็กซ์ดังไปทั่วโลก ปี 1928 Rolex Prince ได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาที่ขายดีที่สุดจากดีไซน์สี่เหลี่ยม 2 หน้าปัด ปี 1931 Rolex ได้ประดิษฐ์ Rotor รูปครึ่งวงกลมซึ่งหมุนได้อย่างอิสระที่ทำให้เกิดระบบ Perpetualอัตโนมัติขึ้น กล่าวกันว่าสิ่งที่ทำให้ Rolex โดดเด่นเหนือนาฬิการะดับสูงอื่น ๆ คือ รูปทรงกลมขนาดใหญ่ของหน้าปัดและสายที่มีความกว้าง แต่สง่างามมองเห็นได้แต่ไกลซึ่งพิสูจน์ความเป็นอมตะไว้อย่างยาวนาน แม้ Rolex จะมีพัฒนาการด้านดีไซน์ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา แต่นั่นเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อย Rolex รุ่น Datejust จากปี 1945 ถึงรุ่นปัจจุบัน คุณจะพบว่า แม้ตัวเครื่องและชิ้นส่วนภายในแทบจะไม่มีชิ้นไหนเหมือนและใช้แทนกันได้เลย แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คุณค่าเหนือกาลเวลาของโรเล็กซ์กลายเป็น "การลงทุนที่ชาญฉลาด" สำหรับนักสะสมนาฬิกาหลายคน การประมูลนาฬิกา โรเล็กซ์รุ่นเก่า ๆ สามารถสร้างความฮือฮาให้เกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาสวิสที่มีชื่อเสียงที่สุดแต่ โรเล็กซ์ก็เป็น "คนนอก" ของเจนีวาเสมอ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะโรเล็กซ์ก่อตั้งขึ้นที่ลอนดอนในปี 1905 โดยวิลส์ดอร์ฟ ซึ่งเป็นชาวเยอรมันซึ่งต่อมาได้สัญชาติอังกฤษจากการสมรส ในสมัยนั้นกระแสชาตินิยมเป็นตัวกำหนดหลักคิดหลาย ๆ อย่าง แต่สำหรับวิลส์ดอร์ฟผู้มองการณ์ไกล ก่อนใครจะรู้จักคำว่า "Multinational" วิลส์ดอร์ฟได้จดทะเบียนการค้าเครื่องหมาย Rolex ในปี 1908 ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นคำที่ออกเสียงง่ายในหลายภาษาทั่วโลกและสั้นกระชับที่จะประทับลงบนหน้าปัดนาฬิกา กล่าวกันว่า เขาคิดขึ้นได้ในขณะโดยสารรถบัสในลอนดอนโดยได้แรงบันดาลใจจากเสียงการทำนาฬิกา โรงงานของโรเล็กซ์ตั้งอยู่ในลอนดอนจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อภาษีนำเข้าพุ่งสูงขึ้นถึง 33 เปอร์เซ็นต์ทำให้การนำเข้าอะไหล่จากสวิสมีต้นทุนสูงเกินไป โรเล็กซ์จึงต้องไปตั้งในเมกกะของโลกนาฬิกา -เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ วิลส์ดอร์ฟ ไม่ใช่ผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรก แต่เขาต้องการเป็นผู้ประดิษฐ์นาฬิกาที่ เที่ยงตรง(Accurate) และเชื่อถือได้ (Reliable) ให้ได้เป็นเรือนแรกของโลก ซึ่งในปี 1926 โรเล็กซ์ได้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่วงการด้วยรุ่น Oyster ระบบมะเย็มเกลียว และซีลยางเป็นการล็อค 2 ชั้นไม่ให้ฝุ่นและความชื้นเข้า โดยเขาตั้งชื่อมันจากการรำลึกถึงความยากลำบากในการเปิดหอย Oyster ในงานเลี้ยงคืนหนึ่ง การสร้างกระแสนิยมให้กับนาฬิกาของเขา วิลส์ดอร์ฟเลือกวิธีได้อย่างชาญฉลาด เขาได้ให้นักว่ายน้ำที่เตรียมการณ์ว่ายน้ำ ข้ามช่องแคบอังกฤษซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของสาธารณชนในสมัยนั้น โดยสาวอังกฤษนาม Mercedes Gleitze สวมใส่โรเล็กซ์ พร้อมด้วยช่างภาพตามเก็บภาพอย่างใกล้ชิด ในที่สุด Gleitze ก็สามารถพิชิตช่องแคบอังกฤษลงได้พร้อม ๆ กับนาฬิกาโรเล็กซ์ บนข้อมือซึ่งยังคงทำงานของมันอย่างเที่ยงตรงไร้ที่ติ วิลส์ดอร์ฟประโคมข่าวหน้าหนึ่งในนสพ.ลอนดอน เดลิเมล์ อย่างครึกโครมว่า "นาฬิกามหัศจรรย์ ! กันน้ำ กันร้อน กันสะเทือน กันหนาว และกันฝุ่น" ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิลส์ดอร์ฟได้สร้างหัวข้อสนทนาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นการรณรงค์โฆษณาที่ประสบความสำเร็จที่สุดมาจนทุกวันนี้ จุดอ่อนบางประการของ Oyster ถ้าจะมีก็คือปุ่มหมุนไขลานตั้งเวลา ดังที่ทราบกันว่านาฬิการะบบกลไกจะต้องมีการหมุนปุ่มตั้งสม่ำเสมอ และ Oyster จะกันน้ำกันฝุ่นได้ก็ต่อเมื่อมะยมเกลียวถูกขันให้อยู่ในตำแหน่งปิด การหมุนปุ่มบ่อย ๆ ทำให้โอกาสที่น้ำและฝุ่นจะเข้ามีเพิ่มมากตามลำดับ ดังนั้นเพื่อลบจุดอ่อนนี้ โรเล็กซ์ได้สร้างรุ่น Perpetual ออกสู่ตลาด กุญแจคือ Rotor เป็นตัวสร้างพลังสำรอง จากการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่เอง ใช่แล้ว นาฬิการะบบออโตเมติกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเรือนแรกของโลกได้เกิดขึ้นแล้วในปี 1931 ซึ่งทำให้โรเล็กซ์สร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ขึ้น ว่ากันว่า Rolex Oyster Perpetual ได้ทำให้ Rolex เป็น Rolex นั่นเอง อีกกว่า 70 ปีที่ผ่านมา Oyster ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นของคุณภาพภายใต้สภาพการณ์ทดสอบแบบสุดขั้วต่าง ๆ เช่น การดำไปใต้ทะเลลึกกับ Jacques Piccard การขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสกับ เซอร์เอ็ดมุนด์ ฮิลลารี่ การทดสอบในอุณหภูมิขั้วโลก ในทะเลทรายซาฮาร่า รวมทั้งสภาวะไร้น้ำหนักในอวกาศ ทั้งเรื่องเล่าเกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบินตก เรือล่ม ตกจากที่สูง โรเล็กซ์ที่ถูกเผลอนำเข้าเตาอบ 500 องศา เข้าเครื่องซักผ้า เหล่านี้ ไม่เคยทำให้โรเล็กซ์ที่ซ่อมแซมแล้วกลับมาเดินเที่ยงตรงอีกไม่ได้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชื่อเสียงของโรเล็กซ์เป็นสัญญลักษณ์ที่มีคุณค่า นักบินใน Royal Air Force ของอังกฤษปฏิเสธที่สวมใส่ นาฬิกาที่รัฐบาลจัดหาให้ แต่ยอมสละเงินเดือนเกือบทั้งหมดเพื่อที่ขอสวมใส่โรเล็กซ์ ผลตอบแทนเกิดขึ้นเมื่อหลังสงคราม นักบินอังกฤษที่ถูกจับกุมและยึดนาฬิกาไป ได้รับนาฬิกาเรือนใหม่ชดเชยเมื่อแจ้งไปยังกรุง เจนีวา แต่ในขณะเดียวกันทหารอเมริกันที่ยึดนาฬิกาไป กลับบ้านพร้อมกับเครื่องประดับบนข้อมือชิ้นใหม่ และนั่นเป็นจุดเริ่มของเรื่องอันยิ่งใหญ่ของโรเล็กซ์ในอเมริกา ถึงแม้วิลส์ดอร์ฟจะอยู่ในเจนีวากว่า 40 ปี วิลส์ดอร์ฟก็ไม่ได้สัญชาติสวิส เขาเสียชีวิตในปี 1960 ที่ Briton ชื่อของเขาถูกจารึกในฐานะเป็นเพื่อนที่มีอารมณ์ขัน รักครอบครัวพอ ๆ กับนาฬิกาเป็นชีวิตจิตใจ และอีก 2 ปีต่อมา อังเดร ไฮนิเกอร์ทีร่วมงานมากับวิลส์ดอร์ฟ 12 ปีก็ก้าวสู่ตำแหน่งเอ็มดีแทน ไฮนิเกอร์ที่ร่วมวิสัยทัศน์กับวิลส์ดอร์ฟ เต็มไปด้วยพลัง และทัศนคติเชิงบวก ได้พาโรเล็กซ์ผ่านมรสุมแห่งวงการนาฬิกาสวิสในเวลาต่อมา ช่วงทศวรรษ 1960 ถึง 1970 ตอนต้น กระแสความนิยมนาฬิกาควอตซ์ได้ระบาดเข้ามาแทนที่นาฬิการะบบกลไก เนื่องจากมีต้นทุนทีต่ำกว่ามากและยังมีเทคโนโลยีระบบดิจิตอลที่ทำให้เที่ยงตรงได้มากกว่า "ไซโก" ได้ทำให้อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสเข้าสู่วิกฤต อย่างแท้จริง กว่าครึ่งหนึ่งต้องปิดกิจการลง และ 1 ใน 3 ของผู้ที่เหลืออยู่ต้องหันมารวมตัวกันเพื่อความอยู่รอดเช่น Omega, Longines,Blanpain, Tissot, Rado และ Hamilton ต้องรวมตัวกันเป็นคอนซอเตียม และส่วนใหญ่จะต้องหันมาผลิตนาฬิการะบบควอตซ์กันหมด แต่โรเล็กซ์สร้าง Private Trust ซึ่งบริหารงานโดยคณะกรรมการของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซงจากภายนอก รวมทั้งยืนหยัดในการผลิตนาฬิการะบบกลไกอย่างมั่นคง อะไรทำให้โรเล็กซ์ยืนหยัดอยู่ได้ ? คำตอบคือ โรเล็กซ์มีผู้บริหารสูงสุดเพียง 2 คนนั่น วิลส์ดอร์ฟ และ ไฮนิเกอร์ ผู้ซึ่งมีวิสัยทัศน์ยาวไกลและพลังสร้างสรรอย่างล้นเหลือ พวกเขาไม่เคยกังวลเรื่อง "ผลประกอบการไตรมาสนี้" แต่คำถามของพวกเขาจะเป็น "ในอีก 5 ปีหรือ10 ปีข้างหน้าเราจะทำอะไร" โรเล็กซ์จึงมีทิศทางและวิถีที่ชัดเจนของตนเองอย่างมั่นคงโดยไม่ถูกกระแสสังคมภายนอกทำให้เปลี่ยน และโรเล็กซ์ไม่ฉวยประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโดยการเปลี่ยนแปลงตนเอง ในช่วงปี 1970 นั้น โรเล็กซ์ผลิตนาฬิการะบบคว็อตซ์เพียงไม่เกิน 7 เปอร์เซ็นต์ และลดลงเหลือเพียงไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน ปี 1992 ปาทริค ไฮนีเกอร์ บุตรชายของอังเดร ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแทนบิดาของเขา แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือทัศนคติเชิงบวกและพลังสร้างสรรอย่างเหลือล้น ซึ่งทำให้โรเล็กซ์คงความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง Montres Rolex SA. หรือบริษัทโรเล็กซ์ ยังคงเป็นดินแดนลึกลับและเป็น คนนอกของเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ผู้บริหารระดับสูงของโรเล็กซ์แทบจะไม่เคยให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน ปรัชญาของพวกเขาคือ "ให้นาฬิกาพูดด้วยตัวของมันเอง" แม้ผู้สวมใส่จะไม่เคยเห็นกลไกภายใน แต่สำหรับโรเล็กซ์ที่เจนีวา ช่างฝีมือในชุดขาวแบบห้องแล็บออกแบบตามหลักพลศาสตร์กันอย่างขมักเขม้น ทุกชิ้นส่วนต้องได้มาตรฐานในทุกมิติ มุมตัดจะต้องถูกขัดให้มนจนเป็นประกายเงางาม สิ่งเหล่านี้แทบจะไม่มีคุณค่าเลยเพราะลูกค้าไม่สามารถมองเห็นแต่ สำหรับโรเล็กซ์นี่คือมาตรฐานและคุณภาพ โรเล็กซ์ผลิตเครื่องภายใน (Movement) ด้วยตัวเองซึ่งไม่เหมือนกับแบรนด์ดังอื่น ๆ ที่อาจใช้ของกันและกันได้ ที่โรเล็กซ์ช่างฝีมือกว่า200 คนรวมทั้งช่างเทคนิคจะต้องช่วยกันผลิตนาฬิกาแต่ละเรือนตามมาตรฐานเพื่อให้ได้ตราประทับของโรเล็กซ์ " มัน(จำเป็นต้องมีคุณภาพ) มากกว่าที่คนทั่วไปต้องการมาก มันจึงเป็น Mercedes Benz ของนาฬิกาข้อมือ มันมากกว่าความเป็นวิศวกรรม และมันไม่ใช่เพื่อเงินแต่มันเป็นวิถีของโรเล็กซ์" ก่อนส่งออกจากเจนีวา โรเล็กซ์ทุกเรือนจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพหลายครั้ง เช่น หน้าปัด ขอบหน้าปัด ปุ่มกดต่าง ๆ จะถูกตรวจซ้ำ ๆ เพื่อหารอยขีดข่วน การตรวจระยะห่างและแนวขนานต่าง ๆ ของกลไกและเข็มที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า การตรวจสอบระบบกันน้ำให้ได้อย่างน้อย 330 ฟุต หรือแม้แต่การปรับช่วงความคลาดเคลื่อนของเวลาที่จะมีขึ้น 2 วินาทีในทุก ๆ 100 ปี เหล่านี้คือมาตรฐานก่อนประทับตรา Rolex ซึ่งทำให้ในแต่ละปี จะผลิตเพียงประมาณ 650,000 เรือนเท่านั้น จำนวนนี้อาจดูเหมือนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่านี่ยังน้อยกว่าความต้องการของตลาดมากนัก แต่นั่นแหละคือสิ่งที่อังเดร ไฮนีเกอร์กล่าวไว้ "เราไม่ได้ต้องการที่จะใหญ่ที่สุด แต่หากเป็นหนึ่งในผู้ที่ "ดีที่สุด" ในอุตสาหกรรม" ที่มา : www.Expertwatch.com หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:51:55 AM IWCรุ่นสวยๆ ราคาดุกว่าโรเล็กซ์อีก :~)
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 19, 2006, 10:57:23 AM :).. การเลือกนาฬิกาสักเรือน มาผูกติดแนบผิว
เป็นเรื่องความปราณีต.. ละเอียด..ฯลฯ ที่เป็นมุมมอง เฉพาะตน. เหมือนเกินเลยไปกว่า ชอบใคร ชอบมัน. แต่บ่งบอกถึงบุคคลิก ให้คนรอบข้างได้สังเกตุเห็นได้.. ครับ. ;D หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 19, 2006, 11:43:38 AM :).. การเลือกนาฬิกาสักเรือน มาผูกติดแนบผิว เป็นเรื่องความปราณีต.. ละเอียด..ฯลฯ ที่เป็นมุมมอง เฉพาะตน. เหมือนเกินเลยไปกว่า ชอบใคร ชอบมัน. แต่บ่งบอกถึงบุคคลิก ให้คนรอบข้างได้สังเกตุเห็นได้.. ครับ. ;D เป็นรูปแทนหมดเลยนะครับตัวจริงทั้งเก่าทั้งเยินกว่ารูปเยอะ ;D ผมถ่ายรูปไม่เก่งและไม่ชอบถ่ายรูปสมบัติ/ของเล่นเอาซะเลยอ่ะ ;) (http://img246.imageshack.us/img246/548/subdatezp8.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/7113/speeddate1dd4.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/9211/speeddate2qm0.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/6876/skx781k31ou4.jpg) (http://imageshack.us) (http://img246.imageshack.us/img246/7356/00185ou2.jpg) (http://imageshack.us) ;D หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 19, 2006, 12:02:26 PM เจอเซียนนาฬิกาเข้าแล้ว เดี๋ยววันหลังจะไปล้วงกรุพร้อมตาไข่นุ้ยจ้า.......
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 19, 2006, 12:50:48 PM ยังห่างไกลมากเลยกั๊บ เปรียบเทียบแล้วเหมือนกับคนที่มีลูกโม่สมิธMP.กับอีเดี่ยวไบคาลไว้เฝ้าบ้านธรรมดาๆเลย :~)
หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 19, 2006, 01:01:05 PM :).. Speedmaster Automatic ที่คุณจ้าว นำมาให้ดู น่าใช้ครับ..
ผมมีรุ่น เดียวกันนี้ แต่เป็นแบบไขลาน รุ่น เหยียบดวงจันทร์ (ทำขึ้นเพื่อระลึก) ซื้อจากร้าน Kuberin ราคาน้อง น้อง Submariner ตัวแรก. แต่ คุณภาพ ต่างกันเหมือน ใบไม้กิ่งบนกับ-ปลายรากแก้ว . :) สู้ Submariner ไม่ได้ อาการ เข็มหัก เม็ดมะยมหลุด. พรายน้ำตกสะเก็ด. :OO หัวข้อ: Re: อยากได้www.ที่เกี่ยวกับนาฬิกาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ole ที่ ตุลาคม 19, 2006, 04:43:41 PM ผมเคยโทรไปถามที่เล้งนาฬิกา..นานแล้วหละ
สปีดมาสเตอร์มือสอง35000บาท แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่ อยากทราบว่าตอนนี้ราคากลางมือสองควรอยู่ที่เท่าไหร่ครับ แล้วมือหนึ่งตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ..ขอบคุณครับ |