เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ ธันวาคม 07, 2014, 01:43:02 AM



หัวข้อ: มรดกของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ ธันวาคม 07, 2014, 01:43:02 AM
มรดกของพ่อ

หน้าต่างศาสนา
พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ


เมื่อมองทุกอย่างที่ผู้เขียนมีอยู่ตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าล้วนได้รับมรดกมาจากชายคนหนึ่งที่เรียกได้เต็มปากว่า "พ่อ" คำสอนของพ่อที่ผู้เขียนได้รับแทบจะหาไม่ได้



แต่สิ่งที่พ่อสร้างไว้นี่สิ เมื่อคิดไปแล้วช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ผู้เขียนกำลังพูดถึง "บ้าน" ที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าจะว่าไปก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก และดูจะเล็กไปด้วยซ้ำสำหรับเราสี่คนคือ พ่อ แม่ พี่และผู้เขียน และด้วยความที่พ่อเป็นช่างสร้างบ้าน แต่กลับสร้างบ้านของตัวเองเล็กกว่าบ้านที่สร้างให้คนอื่น จนใครๆ ที่เห็นต่างแซวว่า "นี่หรือบ้านนายช่าง"



แต่ใครๆ จะรู้ว่าบ้านหลังนี้แฝงไว้ด้วยความคิดใหญ่ยิ่งถ้าจะว่าไป เพราะพ่อมักจะทำทุกอย่างไม่เน้นที่ความยิ่งใหญ่ แข็งแรงหรือทันสมัย แค่เพียงใช้งานได้ดี และเหมาะสมกับวัสดุที่มีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว นั่นทำให้พ่อมีเหตุผลที่จะสร้างบ้านแบบนี้อย่างน้อย 2 อย่างด้วยกัน คือ



1.ความอบอุ่น สังเกตจากวัสดุทุกชิ้นที่สร้างบ้านหลังนี้ เป็นเศษไม้ ไม้ไผ่ หรือไม้กระดานที่ตัดไม่ได้รูปที่คนอื่นอาจเห็นว่าเป็นของเหลือใช้และทิ้งไว้ พ่อจะนำมาประกอบกันขึ้นใหม่ และนำมาประกอบเข้ากับบ้านอย่างชาญฉลาด บ้านจึงมีพื้นบ้านไม่เรียบเป็นช่อง บางส่วนของพื้นกระดานก็สูงต่ำไม่เท่ากัน แต่ทำให้เรารู้จักวิธีการเดินอย่างระวังและมีสติ ไม่เดินลากเท้าเพราะจะทำให้เท้าสะดุดเข้ากับพื้นสูงต่ำนั้นและเจ็บตัวได้



ฝาบ้านช่วงบนจะเป็นไม้กระดานตีปิด ส่วนด้านล่างพ่อจะนำไม้ไผ่มาตีประกอบกัน ข้างบนจึงทึบและด้านล่างมีร่องให้ลมพัดเข้าได้เป็นการประหยัดไฟเวลานอนในตอนกลางคืน จะได้ไม่ต้องใช้พัดลม



แต่หากมีฝนตกก็จะโดนไม้ด้านบนไม่เล็ดลอดเข้ามาได้ ภายในบ้านไม่มีฝากั้นห้อง ทำให้เราเห็นหน้ากันได้หมด ไม่มีใครหนีหรือแอบหายไปไหน ไม่ว่าจะโกรธหรือไม่พอใจ ไม่อยากเห็นหน้ากันอย่างไรก็ต้องจำใจต้องมองหน้ากันจนได้ ทำให้ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความจริงหนีจากมันไม่ได้



นี่คงเป็นอีกแบบที่ทำให้บ้านเป็นบ้าน เพราะทุกคนได้พบหน้ากันทุกวัน และไม่มีใครหนีหน้ากันแม้จะโกรธหรือไม่พอใจกันอย่างไรก็ตาม นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกเหงาทุกครั้งเวลาใครสักคนไม่อยู่บ้าน



2.ความน่าอยู่ พ่อทำงานมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างบ้านให้คนอื่น แล้วบ้านที่คนอื่นต้องการให้พ่อสร้างนั้นล้วนเป็นไปตามความต้องการของเขา พ่อไม่เคยคิดสร้างบ้านตามความชอบใจของตนเองสักครั้ง แต่พ่อก็ทำตัวเป็นผู้สร้างฝันที่ดีเพื่อให้คนอื่นได้พึงพอใจกับฝันนั้น บางคนก็ฝันเสียเกินจริงจนต้องเป็นทุกข์กับหนี้สินจากบ้านที่หรูหราเกินฐานะ นั่นก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพ่อ พ่อแค่สร้างให้ ไม่มีใครสนหรอกว่าพ่อคิดอย่างไร ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทุกข์กันอย่างนี้แน่ๆ



เพราะพ่อจะคิดทุกครั้งเวลาสร้างอะไรให้ตนเอง สิ่งสำคัญคือการมองถึงสิ่งที่ตนเองมี เมื่อเรามีสิ่งใดก็ควรพึงพอใจกับสิ่งนั้น แม้บ้านจะเล็กก็น่าอยู่ขึ้นได้



ฉะนั้น นอกจากบ้านแล้วพ่อมักจะวนเวียนอยู่กับวัสดุชิ้นเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อนำมาเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ รถเข็นของ เป็นต้น ที่อาจไม่สวยงามเท่าไร บางทีเราก็อายของเหล่านั้นอยากให้พังเร็วๆ แต่ของที่พ่อสร้างนั้นพังยากทุกอัน และดูจะรับกับทุกการใช้งานได้ดี ไม่แน่ว่าเราอาจเข้าไม่ถึงความคิดของพ่อก็ได้ว่า ความสวยงามอาจไม่ใช่สิ่งที่ยืนยาวนักในการใช้งานจริง ประโยชน์ต่างหากที่จะช่วยทำให้สิ่งของนั้นมีคุณค่า ดูเหมือนพ่อจะข้ามพ้นความงามไปสู่ประโยชน์จริงๆ ของสิ่งที่เราต้องการใช้งานมากกว่าจะมานั่งชื่นชมความงามของมัน



ชีวิตก็น่าจะเป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน แม้จะดูภายนอกไม่สวยสง่างามเท่าไรนัก แต่ยังคงมีคุณค่าจากการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้มากสุดเท่าที่จะทำได้



นั่นน่าจะเป็นปรัชญาของพ่อที่ส่งต่อให้ลูกๆ ได้คิดและดำเนินตามสายทางแห่งความพอดีนี้ก็เป็นได้





คัดลอกจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdPREEyTVRJMU53PT0=





หัวข้อ: Re: มรดกของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 07, 2014, 05:18:07 AM
2058 บ้านไม่รู้ดีจริงรึเปล่าเพราะไม่เห็น แต่ คนเขียนอธิบายเปรียบเทียบเก่งกว่านายช่างแน่  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: มรดกของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ ธันวาคม 07, 2014, 10:09:20 PM
ขอบคุณครับ  ::014:: 2059 ครับ


หัวข้อ: Re: มรดกของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ ธันวาคม 08, 2014, 01:42:41 AM
2368 ครับ
805   ครับ


;D ;D ;D ::014::