เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เกาะสมุยหมดยุค "แบ็กแพ็กเกอร์" ที่ดินหาดเฉวงเฉียด 100 ล้าน



ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

สัมภาษณ์ "สุนันท์ เวชรัตน์" ผู้จัดการโรงแรมเดวา สมุยรีสอร์ท แอนด์สปา ซึ่งปักหลักทำงานอยู่บนเกาะสมุยมานานถึง 28 ปี สะท้อนมุมมองการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป


ปัจจุบันเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แทบจะไม่มีฤดูกาล ปี 2556 มีนักท่องเที่ยวมาเยือน 1.8 ล้านคน รายได้ 29,000 ล้านบาท สัดส่วนเกือบ 90% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้า-ออกทั้งทางเรือและเครื่องบินตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่จะเข้ามาแวะและตั้งต้นที่เกาะสมุยแล้วกระจายไปท่องเที่ยวตามเกาะอื่น ๆ ทำให้โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ ร้านค้าต่าง ๆ ผุดขึ้นราวดอกเห็ด

วันนี้สมุยก็ยังคงเติบโตไม่หยุด "สุนันท์ เวชรัตน์" ผู้จัดการโรงแรมเดวา สมุยรีสอร์ท แอนด์สปา (Deva Samui Resort and Spa) ระดับ 4 ดาว ซึ่งปักหลักทำงานอยู่บนเกาะสมุยมานานถึง 28 ปี สะท้อนมุมมองการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป



- สมุยวันนี้แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างไร

ผมเป็นคนพังงา แต่ทำงานที่สมุยมา 28 ปีแล้ว สมุยเริ่มเปลี่ยนหลังจากมีสนามบินประมาณ 10 ปี การพัฒนาจะเป็นแบบก้าวกระโดด มีการลงทุนโรงแรมใหญ่ ๆ หรือโรงแรมเชนมากขึ้น โดยการเติบโตของสมุยจะไล่เป็นโซน ๆ เริ่มต้นที่หาดละไม หาดเฉวง เมื่อการลงทุนฝั่งนั้นแน่น นักลงทุนก็เริ่มมองหาเดสติเนชั่นใหม่ คือพื้นที่ตำบลบ่อผุดที่เริ่มโตหลังสุด

สมัยก่อนสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวของแบ็กแพ็กเกอร์ แค่มีที่นอน ชายหาดอาบแดด ไม่ต้องมีสระว่ายน้ำ การใช้น้ำเพื่อแปรงฟัน อาบน้ำเท่านั้น ส่วนโรงแรมบนเกาะสมุยก็มีเจ้าของเป็นคนพื้นที่ 99% ทุกบ้านมีบ่อในบ้าน ใช้น้ำผิวดินทั้งหมด มีบ่อน้ำ พรุต่าง ๆ สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้จริง ต่างจากทุกวันนี้เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน โรงแรมใหญ่ขึ้นมีพูลวิลล่า โรงแรมเยอะขึ้นชุมชนโตขึ้น คนงานเยอะ ทำให้เกิดมลพิษ น้ำบ่อเริ่มใช้ไม่ได้ และความต้องการใช้น้ำก็มากขึ้นด้วย เป็นที่มาของน้ำประปา แต่ทุกวันนี้น้ำประปายังมีปัญหาเรื่องแรงดันน้ำไม่ถึง ก็เป็นปัญหากับชาวบ้านเพราะโรงแรมเป็นผู้ใช้น้ำหลัก ส่วนเรื่องกรีนโฮเต็ลบนเกาะ ในทางปฏิบัติจริงเป็นไปไม่ได้




- สมุยได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองเศรษฐกิจหรือไม่


สถานการณ์การเมืองที่ไม่ค่อยสงบ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีมานี้โรงแรมต่าง ๆ มีการเติบโตน้อยลง โรงแรมที่เกิดขึ้นใหม่จะเป็นไซซ์เล็ก ๆ โรงแรมใหญ่ค่อนข้างน้อยอาจมาจากปัจจัยเรื่องราคาที่ดินที่สูงขึ้นมากด้วย เช่น บริเวณท่าเรือไม่ต่ำกว่าไร่ละ 10 ล้านบาท หากเป็นโซนบ่อผุดไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท/ไร่ และถ้าเป็นหาดเฉวงราคาไม่ต่ำกว่า 80-90 ล้านบาท/ไร่ หากเป็นโรงแรมเชนจะใช้วิธีเทกโอเวอร์ เช่น เชอราตัน หรือบันยันทรี ส่วนโรงแรมดับเบิ้ลยูลงทุนก่อสร้างเอง

ส่วนปริมาณนักท่องเที่ยวก็มีกระทบบ้างอย่างช่วงปี 2557 มีลูกค้ามาพักเยอะแค่ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ นอกนั้นได้แค่พอเงินเดือนเลี้ยงพนักงาน ส่วนสถานการณ์ในปีนี้ต้องบอกว่าดีขึ้นนิดหน่อย รายได้ไต่ถึงปี 2556 แต่ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดเยอะขึ้น ผู้ประกอบการก็ต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น 2 เดือน คือ พฤษภาคม-มิถุนายน และจะเข้าไฮซีซั่นอีกครั้งกลางเดือนกรกฎาคม เราคาดหวังว่าน่าจะดีขึ้น



นายสุนันท์ เวชรัตน์  ผู้จัดการโรงแรมเดวา สมุยรีสอร์ท แอนด์สปา



- กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของเกาะสมุย

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวหลัก คือ ชาวอังกฤษ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และจีน ส่วนตลาดคนไทยก็ยังเยอะอยู่ แต่จะเป็นกลุ่มตลาดบน

- ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างไร

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่มากับทัวร์ก็เป็นคนบ้าน ๆ เหมือนกับคนไทยสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่นั่นแหละ คือเพิ่งจะมีเงินเก็บสักก้อนแล้วออกมาเที่ยว ที่เห็นกันว่าพฤติกรรมแย่ก็เพราะไกด์ดูแลไม่ทั่วถึง และไม่อธิบายกันมาก่อน แต่ที่โรงแรมผมไม่ค่อยมีปัญหากับคนจีน เอาจริง ๆ กรุ๊ปคนไทยเมื่อเทียบกับจีน จีนยังดีกว่าเรื่องว่ายน้ำ ขอโทษนะครับกลุ่มสัมมนาคนไทย ไม่อยากโชว์สัดส่วนแต่อยากจะเล่นกระโดดเลย ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนใส่ชุดว่ายน้ำอย่างเรียบร้อย

- รับมือกับทัวร์จีนอย่างไร

วิธีการรับมือนักท่องเที่ยวจีน ผมจะรับกรุ๊ปเล็ก ๆ 6-10 ห้อง เพราะตลาดหลักยังเป็นยุโรป ถ้าเรารับจีนกรุ๊ปใหญ่ ๆก็อาจจะกระทบ ดังนั้น กรุ๊ปใหญ่ก็ไปลงที่โรงแรมใหญ่ที่รองรับได้ 200-300 ห้อง ส่วนโรงแรมเล็ก ๆ ไม่ค่อยรับเพราะเรื่องพฤติกรรมที่แตกต่าง

อย่างไรก็ตาม โรงแรมเองก็ต้องปรับตัว เช่น เก็บของบางอย่างออกไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะ เสื้อคลุม เพราะเป็นการลดความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าไม่เห็นคุณค่าชาวจีน แต่ชาวยุโรปไม่เคยใส่ชุดคลุม หรือสลิปเปอร์ออกมาข้างนอก หรือเรื่องอาหารเช้า ถ้าเขาไปออกทัวร์ เราก็จัดให้เร็ว เคลียร์แล้วเซตใหม่ ลักษณะการกินอยู่เราต้องปรับตามเขา นอกจากนี้ จะจ้างพนักงานพูดภาษาจีนได้ เพราะมีปัญหาจะเคลียร์ได้เร็ว ไกด์ไม่สามารถมาแก้ปัญหาให้เราได้ทันเหตุการณ์ทุกครั้ง

- ช่วงนี้โรงแรมเดวาฯทำการตลาดอย่างไร

ลดราคา เดือนเมษายนทำโปรโมชั่นลด 45% ไม่งั้นไม่ไหว เมื่อโรงแรมใหญ่ดัมพ์ราคา เราก็ต้องลงตาม ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้ ต้องเลี้ยงพนักงาน แต่ก็ถือว่าเติบโตยังไปได้เรื่อย ๆ แม้จะไม่หวือหวาเหมือนภูเก็ต แต่คิดว่าดี เป็นการโตที่คงทนเรื่อยๆ
[/color]
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1429512394

ภูเก็ตโรงแรมกว่า1แสนห้อง เพิ่มขึ้นกว่า10ปีที่แล้วนับสิบเท่า  ราคาเสียหมด โรงแรมหรู มีสระว่ายน้ำ ใกล้หาดสมัยก่อนคือ5-6พัน-หมื่น เดี๋ยวนี้2-3พันก็เอากันละ  ช่วงพีคๆ2-3ปีก่อน รถติดหนัก ไปไหนมาไหนลำบากมาก หมดไปครึ่งวัน  ช่วงนี้สบายหน่อย รถไม่ติดนัก แต่ก็แข่งขันสูงไปหมดทุกอย่าง  ค่าเช่าบ้าน,เช่าที่ก็พุ่งขึ้นเยอะจากหลายปีก่อน   เห็นมีแผ่นจะทำรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าตัวเมือง แต่คงอีกนาน กว่าจะทำได้   :)

ครั้งแรกทีไปสมุย ลงเรือเล็กถ่ายจากเรือใหญ่แล้วเดินจากท่าเรือขึ้นเขาไปน้ำตกแก้ผ้าอาบน้ำแล้วเดินลงมาลงเรือเล็กกลับเรือใหญ่ จบ

ไปสมุยครั้งแรกราวเกือบ20ปีก่อน ขี่มอไซร์ไปจากภูเก็ตครับ ไปคนเดียว ช่วงเบื่อหน่ายชีวิต  ไปตายเอาดาบหน้า ทำงานก๊อกแก๊ก อยู่ได้ซักเดือนมั้ง  กลับดีกว่า มันแปลกๆ รุ่นพี่พาไปนั่งร้านอาหาร พวกขาใหญ่ล้วงผงขาวหลอดเท่ายาดมมาวางบนโต๊ะ  บอกทำนองแถวนี้พี่คุม  ::003::

สมัยนั้นอะไรๆแพงมาก น้ำดื่มขวด20(สมัยนั้นข้าวแกงบนฝั่ง20-25เอง)  มีหนังกลางแปลงมาฉาย ล้อมผ้า เก็บตังค์

ดูน่ากลัวๆยังไม่รู้  แถมไม่ค่อยมีไร ขี่มอไซร์รอบเกาะไม่กี่นาที คือเงียบๆ  กลับดีกว่า พอละ  ;D

สมัยนี้ค่าครองชีพคงลดไปเยอะ มีห้าง มีร้านสะดวกซื้อขึ้นมากละ แต่ผมยังคิดว่าค่าครองชีพอื่นๆน่าจะสูงอยู่ ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าอาหาร...ฯ

ค่าครองชีพแพงมากจนอยู่ลำบากพี่ ความคิดเห็นของพี่เบิ้มสมัยนี้ก็ยังมีอยู่แต่ก็ไม่โจ่งแจ้งครับ ฝรั่งมีงานใหญ่ๆทำ เช่น ขายที่ ขายที่พร้อมบ้านส่วนมากฝรั่งจะขาย ราคาแทบจะไม่ต่ำไปกว่าสองล้านไปจนถึงหลายสิบล้าน เป็นไกด์นักท่องเที่ยวก็เยอะ เป็นเชฟ ผู้จัดการโรงแรม ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมใหญ่ๆ
 ส่วนคนไทยส่วนมากไปเป็นลูกจ้างระดับล่าง มาเฟียฝรั่งยังน้อยกว่าภูเก็ตครับ เพราะคนท้องถิ่นยังแข็งแรงอยู่ ฝรั่งเปิดร้านเองก็เยอะ ผมเห็นตั้งแต่ขับสามล้อพ่วงจนไปถึงกระบะเที่ยวไปจ่ายตลาดซื้อของเข้าร้านตัวเองอยู่ครับ ความคิดเห็นผมคือ สมุยกำลังเข้าสู่ภาวะขาลงครับ ร้านค้าปิดตัวกันเยอะ ลดราคาก็ได้แต่ค่าห้อง ฝรั่งมาพักส่วนมากแค่พักจริงๆ เที่ยวเล่นดื่มกินแบบสำราญตังเยอะไม่ค่อยมีให้เห็นครับ ยิ่งเกาะพงันกำลังจะเปิดสนามบินยิ่งแล้วใหญ่ผมว่า  ::014:: ::014::

ผมไปครั้งแรกปี 2525 หาดละไม ยังเป็นป่ามะพร้าวอยู่เลย บังกะโลว์ คืนละ 500.-บาท 6 โมงเย็นไฟฟ้าดับ รีสอร์ทต้องปั่นไฟเองถึง 4 ทุ่มถึงจะปิดอีกครั้ง ::005::

5555555    ยายฮา  พี่ยู้ด   อ่ะ ฮา 555555   ::007:: ::007:: ::007::

ท่าทางยายเจอ  " ของแปลก  "  ตกสเป็ค แล้ว อ่ะ ฮา   ::006:: ::006:: ::006::


"  ขึ้นเขาไปน้ำตก    แก้ผ้าอาบน้ำ
แล้วเดินลงมา   ลงเรือเล็ก    กลับเรือใหญ่  " 


กะปู๋   เล็ก  ขนาด   " มองไม่เห็น  "   เนี่ยะ อ่ะ ฮา   ::009:: ::009:: ::009:: ::010:: ::010::

55555  สงสัย  " ตกสำรวจ "  เล็กมาก   จริงๆ  อ่ะ ฮา 555555   ::007:: ::007:: ::007::

ปีนั้นที่ไป 2515 ยังไม่อะไรบริการนักท่องเที่ยวเลยจำได้ว่าแถวท่าเรือมีโต๊ะสนุกเกอร์ ร้านอาหารธรรมดาแต่นั้นเองวันนั้นคนเป็นร้อยขึ้นไปอาบน้ำตก ถ้ายาย เห็นคงตกใจ โอ้โห

ชอบอาหมวย  ::005::   ::008::

 (http://image.ohozaa.com/i/b96/pmgf32.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiA1hPnfX6uCLRJF)

(http://image.ohozaa.com/i/d60/KTuUPN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiA1kFcIdHGutAvm)

(http://image.ohozaa.com/i/529/h8VRlb.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yiA1nR0QLYzfAWyC)

 ::014::  +ทุกท่านครับ  ;D

สมัยม.1-ม.2 พ่อเคยไปซื้อบังกาโลไว้ที่หาดเฉวงด้วยแหละ ชื่อMunchies Bungalowอยู่กลางหาดเฉวงเลยมีบังกะโลเป็นหลังๆอยู่สิบห้อง หน้าติดหาดกว้างราว40เมตร

พอขึ้นม.3ที่บ้านเจอวิกฤติการเงิน เลยต้องขายทิ้งไปไม่กี่แสน ยังเสียดายมาจนทุกวันนี้  :~)

 :~)

ไม่ต้องเสียดายครับพี่จ้าว ยังไงชายหาดทั้งหลายก็ยังเป็นของเรา ไปเล่นตอนไหนก็ได้ เค้าไม่เก็บตังค์ครับ  ::005::

ตามไปดูหลังเธอเข้าห้องน้ำหรือยัง
สมัยไปเรียนมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งได้ไปอยู่บ้านเดียวกับนักเรียนสาวหมวยขาวอึ๋มคนนี้คนรุมจีบกันตรึมมีแต่เจ้านี่ไม่สนแถมไม่ค่อยอยากจะอยู่บ้านเดียวกันด้วยซ้ำพอเมาเลยถามมันมันก็ตอบว่ารับไม่ได้ทุกเรื่องเลยโดยเฉพาะเรือ่งความสะอาด ฮิฮิ อากาศหนาวอย่างนั้นแม่คุณคงใช้น้ำประหยัดมาก