หัวข้อ: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 16, 2015, 07:58:16 PM คํ่าคืนวันศุกร์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมนัดเพื่อนไปนั่งกินดื่มกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระหว่างที่กำลังสนทนากันอย่างออกรส ก็เหลือบไปเห็นคนใส่เสื้อยืดที่มีสกรีนข้อความสะดุดตามาก
เสื้อนั้นเขียนว่า WE DRINK ONLY GOOD BEERS. ผมมาทราบภายหลังว่าเสื้อยืดนั้นทำขึ้นโดยกลุ่มคนที่รักการดื่มเบียร์ดีๆ ผมเข้าใจดีว่าคำว่า"GOOD" นั้นหมายถึงคุณภาพและรสชาติของเบียร์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคราฟต์เบียร์หายากหรือเบียร์ราคาแพงเท่านั้น แต่เบียร์จากผู้ผลิตเจ้าใหญ่ๆ ก็มีคุณภาพที่ดีเข้าข่ายได้เช่นเดียวกัน จะเจ้าใหญ่ เจ้ากลาง เจ้าเล็ก ในประเทศหรือต่างประเทศที่ไหนในโลกก็ไม่เกี่ยง ขอให้เป็นเบียร์ที่ดี ผู้บริโภคอย่างเราชอบหมด ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่มเบียร์ดีๆ และสนุกที่ได้เสาะแสวงหาเบียร์แปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ ยิ่งในปัจจุบันที่กระแสคราฟต์เบียร์ในบ้านเรากำลังเฟื่องฟูอย่างมากก็ยิ่งมีโอกาสได้รื่นรมย์กับเบียร์มากหน้าหลายตามากขึ้น แต่หลังจากที่ได้ลองเบียร์ต่างประเทศมาจนเกือบครบทุกทวีปวันหนึ่งผมก็เกิดสงสัยว่าแล้วเบียร์ในบ้านเราล่ะ นอกจากยี่ห้อสัตว์ป่าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสือ สิงห์ กระทิง แรดที่เราคุ้นลิ้นกินกันมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว ยังมี Thai good beers ยี่ห้ออื่นๆ ให้เราได้ชิมบ้างไหม ทำไมเราไม่เคยเห็นคราฟต์เบียร์สัญชาติไทยบ้างเลย ทำไมเราจึงได้กินแต่เบียร์ไทยประเภท "ลาเกอร์" ทั้งที่จริงๆ มีเบียร์อีกหลายประเภทในโลก ผมจึงเริ่มออกค้นหาคราฟต์เบียร์ไทย แล้วก็พบว่าตอนนี้กระแสคราฟต์เบียร์ไทยกำลังบูมอย่างมาก มีผู้ผลิตรายเล็กๆ มากกว่า 40 เจ้า และมีผู้บริโภคให้การต้อนรับที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ผมยังได้พบว่ามีความจริงบางอย่างที่ชวนสะอึกซ่อนอยู่ในน้ำสีอำพัน ก่อนที่จะเล่าถึงปรากฏการณ์คราฟต์เบียร์ไทยผมต้องขอเล่าสั้นๆ สำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้มีพื้นฐานเรื่องคราฟต์เบียร์สักเล็กน้อย กล่าวอย่างง่ายที่สุดคราฟต์เบียร์คือเบียร์ที่ไม่ได้ผลิตจากผู้ผลิตรายใหญ่ แต่ผลิตโดยผู้ผลิตรายย่อย ซึ่งการที่ไม่ต้องเอาใจตลาดแมสทำให้พวกเขากล้าทดลองและนำเสนออะไรที่แปลกใหม่ได้มากกว่า ผลก็คือเบียร์ที่แตกต่างและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ มันคือเบียร์ที่ทำอย่างประณีตใส่ใจ มีความพิถีพิถันเหมือนงานศิลปะทำมือ ความจริงแล้วคราฟต์เบียร์มีมานานนับพันปี จุดเริ่มต้นมาจากเบียร์ฝั่ง Old World ในแถบยุโรป เช่น เยอรมนี อังกฤษ และเบลเยียม ที่เต็มไปด้วยโรงหมักเบียร์รายย่อยเป็นพันๆ หมื่นๆ ราย ทั้งต้มกินเองในบ้าน (เรียกว่า Home Brew) ขายในผับ หรือผลิตกันในโบสถ์โดยนักบวช โดยเฉพาะเบียร์จากเบลเยียมที่ได้รับการยกย่องว่าเต็มไปด้วยนวัตกรรม เพราะไม่มีกฎตายตัวว่าต้องใช้วัตถุดิบแค่ 4 อย่าง (ได้แก่ น้ำ มอลต์ ฮอปส์ และยีสต์) เหมือนประเทศอื่นๆ เบียร์ของเบลเยียมจึงค่อนข้างหวือหวา จะใส่ผลไม้หรือช็อกโกแลตก็ใส่ได้เต็มที่ ผู้เชี่ยวชาญเบียร์บางคนให้ความเห็นว่าเบียร์เบลเยียมคือคราฟต์เบียร์ยุคเก่า พวกเขาคราฟต์กันมาพันปีแล้วเพียงแต่ไม่มีคนไปนิยามให้เท่านั้นเอง คำถามคือ แล้วใครเป็นคนนิยามคำว่าคราฟต์เบียร์ในปัจจุบัน? คำตอบคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือตัวแทนของเบียร์ฝั่ง New World จากที่เคยมีกฎหมายห้ามผลิตเบียร์เอง จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1978 เมื่อสหรัฐผ่านกฎหมายรับรองการผลิตเบียร์เพื่อบริโภคในชุมชนเล็กๆ การผลิตเบียร์ท้องถิ่นทั่วประเทศจึงเข้าสู่ยุคเบ่งบาน โดยในปี ค.ศ.1978 มีโรงผลิตเบียร์เพียง 42 แห่ง แต่ในปี ค.ศ.2013 มีโรงผลิตเบียร์ถึง 2,822 แห่ง แม้ว่าจะเกิดขึ้นทีหลัง แต่ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติของแต่ละพื้นที่และความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรีในแบบอเมริกันชนก็ทำให้เกิดเบียร์สไตล์ใหม่ๆมากมาย สหรัฐกลายเป็นผู้จุดกระแสคราฟต์เบียร์ที่ถาโถมไปทั่วโลก ลุกลามไปถึงฝั่งโอลด์เวิลด์และข้ามไปสร้างกระแสที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศไทย แล้วกระแสคราฟต์เบียร์ไทยอย่างทุกวันนี้เกิดขึ้นตอนไหน? จริงๆแล้วนอกจากเบียร์สิงสาราสัตว์ที่ครองตลาดมานับ 80 ปี เราก็พอจะเห็นผู้ผลิตเบียร์แบบไมโครบริวเวอรี่อยู่บ้าง เช่น โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง, Est.33 by Singha, Hua Hin Brewing (อยู่ในโรงแรมฮิลตัน), Hopf Brew House ที่พัทยา หรือบางคนก็รวม Phuket Beer ที่ไปโด่งดังในต่างแดนให้เป็นคราฟต์เบียร์ด้วย แต่กระแสคราฟต์เบียร์ไทยหรือกระแสโฮมบริวแบบที่เห็นกันในวันนี้แท้ที่จริงแล้วก่อตัวขึ้นเล็กๆเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน จากเบียร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ผู้จุดกระแสคือร้าน HOBS ซึ่งทำให้คนไทยรู้ว่ามีเบียร์ต่างประเทศยี่ห้ออื่นนอกเหนือจากแค่ Heineken โดยมีวีตเบียร์ (wheat beer) จากเบลเยียมอย่าง Hoegaarden เป็นพระเอก รวมไปถึงเบียร์ Leffe และ Stella Artois หลังจากนั้นก็เขื่อนแตก มีผู้นำเข้าเบียร์นอกไม่ต่ำกว่า 500 ไอเท็ม คนไทยใช้เวลาปรับตัวกับอิมพอร์ตเบียร์ราวปีกว่า ก็มีบริษัทที่กล้านำเข้าคราฟต์เบียร์เป็นครั้งแรก โดยตัวแรกๆ ที่คนไทยได้จิบคือ Rogue ตามมาด้วย Brewdog และ Mikkeller หลังจากนั้นกองทัพคราฟต์เบียร์ก็บุกเข้ามาอีกเพียบ พร้อมกับบาร์คราฟต์เบียร์ที่ผุดขึ้นมากมาย เดินไปไหนก็มีแต่คนถามหาคราฟต์เบียร์ ในช่วงเวลาใกล้ๆ กันนี่เอง คนไทยบางกลุ่มที่มองเห็นกระแสคราฟต์เบียร์ก็เริ่มมีความคิดว่า พวกเขาน่าจะทำเบียร์กินเองได้ ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้การต้มเบียร์ในบ้านเราง่ายขึ้นมี 2 ปัจจัยคือ หนึ่ง อินเตอร์เน็ตที่ทำให้เข้าถึงข้อมูลในการทำเบียร์ง่ายขึ้น สอง มีคนนำเข้าอุปกรณ์และวัตถุดิบที่หาไม่ได้ในเมืองไทยมาขาย เช่น ฮอปส์ และผู้ที่ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกคราฟต์เบียร์ไทยคือ Chit Beer ผมเดินทางไปยังร้าน Chit Home Brewery ที่ตั้งอยู่ที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในบ่ายวันหนึ่ง ชื่อของ "ชิตเบียร์" นั้นมาจากตัวผู้ก่อตั้งที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า "พี่ชิต" นั่นเอง บางคนเปรียบเปรยว่าการนั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังเกาะเกร็ดคือเกาะสวรรค์ของคนรักเบียร์เลยด้วยซ้ำ "ต้มเท่าไรก็หมดครับ"วิชิต ซ้ายเกล้า บอกผมว่า เขาเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ทำมาประมาณ 8 ถัง เสิร์ฟได้ประมาณ 400 แก้ว แต่วันไหนคนเยอะหน่อย บ่ายๆ มาก็หมดแล้ว จริงอย่างที่เขาพูด แม้การเดินทางจากตัวเมืองมาเกาะแห่งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ร้านก็เต็มไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่นั่ง ทั้งหนุ่มสาวชาวไทย ชาวต่างชาติ หรือคอเบียร์ที่แวะเวียนมาทุกสัปดาห์ พี่ชิตเล่าให้ผมฟังว่า เขาเริ่มรู้ว่าคนธรรมดาก็ทำเบียร์กินเองได้ตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยเพื่อนของเขาต้มเบียร์ให้กิน (ซึ่งรสชาติห่วยแตกมาก) จนเมื่อกลับมาเมืองไทยจึงได้ลองซื้อ brew kit (อุปกรณ์ทำเบียร์สำเร็จรูป) มาจากเว็บไซต์อะแมซอน และเริ่มหัดต้มเบียร์เอง หลังจากล้มเหลวกับการทำเบียร์ช่วงแรกๆ เขาเริ่มเอาจริงเอาจังมากขึ้น ลองทำแบบมืออาชีพโดยไม่ใช้บริวคิต มีการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปลี่ยนหม้อให้ใหญ่ขึ้น สั่งซื้อมอลต์มาบดเอง บันทึกข้อมูลทุกๆ ถัง ทำเบียร์อะไร ต้มวันไหน บรรจุขวดวันไหน มีวัตถุดิบตัวใดที่เปลี่ยนจากสูตรเดิมบ้าง เดือนธันวาคมปี ค.ศ.2012 Chit Home Brewery เปิดตัวอย่างเป็นทางการและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแหล่งชุมนุมของกลุ่มคนรักเบียร์ เหตุผลที่ทำให้Chit Beer ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ เพราะเบียร์ของเขามีความเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง นี่คือเบียร์ที่หากินได้ที่นี่ที่เดียวในโลก แม้จะเรียนรู้สูตรการทำเบียร์จากตะวันตก แต่เขาก็พยายามคิดค้นเบียร์ใหม่ๆ และนำวัตถุดิบของไทยเข้าไปผสม สร้างสรรค์ออกมาเป็นเบียร์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่มีความเป็นไทย เช่น เบียร์เสาวรส (Passion Fruit Pale Ale) เบียร์เก๊กฮวย (Chrysanthemum Ale) เบียร์ฟักทอง (Pumpkin Ale) เบียร์ข้าวเหนียวดำ (Black Sticky Rice Weizen) และอื่นๆ อีกมากมาย "เบียร์คือศิลปะ เหมือนการวาดรูป ไม่มีถูกผิด ต้องทดลองไปเรื่อยๆ" วิชิต บอกผม กระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของ Chit Beer เป็นภาพสะท้อนของปรากฏการณ์คราฟต์เบียร์ไทยที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่ผมทราบ นอกจาก Chit Beer แล้ว ปัจจุบันมีคราฟต์เบียร์สัญชาติไทยแท้ๆ มากกว่า 40 เจ้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ เจ้าที่คุ้นหูก็เช่น Sandport Beer, Udomsuk Brewing หรือ Golden Coins และน่าจะมีอีกหลายกลุ่มที่กำลังซุ่มทดลองกันอยู่ ซึ่งมีจำนวนเยอะมากๆ จนผมเองก็ยังตามกินไม่ทัน กลุ่มคนเหล่านี้เรียกตัวเองว่า "Brew Master" พวกเขาฝึกฝนและทดลองทำเบียร์ด้วยตัวเอง โดยแต่ละเจ้าก็พยายามพัฒนาเบียร์ให้แตกต่าง มีเอกลักษณ์ และนำวัตถุดิบแบบไทยๆ เข้าไปผสม เช่น เบียร์ที่ใช้ผิวมะกรูดเป็นส่วนประกอบ เบียร์มะตูม เบียร์ส้ม ไปจนถึงเบียร์กล้วยแขก! แล้วจึงนำของไปฝากขายตามบาร์ต่างๆ มีการเปิดเพจในเฟซบุ๊ก รวมตัวกันจัดอีเวนต์เล็กๆ หรือการแข่งขันประกวดเบียร์ไทย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมทุกครั้ง ในฐานะผู้บริโภค ผมคิดว่าเบียร์คือการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มมูลค่าได้มาก การนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้จะช่วยสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ หากมีการสนับสนุนที่ดีและการจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เบียร์จะเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน หรือถ้ามองไปไกลกว่านั้นอาจจะใช้ความได้เปรียบของพื้นที่ ผลิตผลการเกษตร สภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดเป็นรสชาติหรือกลิ่นเฉพาะตัว สร้างเป็นเรื่องราวที่สอดรับกับนโยบายท่องเที่ยวเหมือนกับการท่องเที่ยวชิมไวน์ในฝรั่งเศส ฟังดูเหมือนอนาคตคราฟต์เบียร์ไทยน่าจะสดใสแต่ความจริงก็คือทุกคนยังคงต้องกินต้องซื้อกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะการผลิตเบียร์ในประเทศไทยโดยไม่มีใบอนุญาตถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย บางคนพูดถึงขั้นว่าการต้มเบียร์มีความผิดร้ายแรงไม่ต่างจากอาชญากรรม แต่มันควรเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436965189 เบียร์นอกแพงนะขวดร้อยกว่าแน่ะ แต่มันก็อร่อยจริงๆ กินในร้านยิ่งแพงไปอีกแก้ว200+ ถ้าไม่ผูกขาดคนไทยก็น่าจะทำได้ไม่แพ้กัน :D~ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 16, 2015, 08:21:26 PM คราฟท์เบียร์ในประเทศไทย
WishBeer_May27_Aหนึ่งในวลียอดนิยมของอุตสาหกรรมเบียร์ก็คือ คราฟท์เบียร์ ในประเทศอย่างอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และอังกฤษ นักดื่มเบียร์เริ่มจะสังเกตเห็นเบียร์ที่วางขายอยู่จำนวนมากที่ไม่ได้ผลิตโดยผู้ผลิตรายใหญ่ ในฐานะนักดื่มเบียร์คุณน่าจะต้องเคยได้ยินชื่อของคราฟท์เบียร์บางยี่ห้อมาบ้าง หรืออาจเคยลองแล้วด้วยซ้ำไป แต่คุณทราบหรือไม่ว่าคราฟท์เบียร์คืออะไร และทำไมจึงไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักในเมืองไทย? คราฟท์เบียร์คืออะไร? คราฟท์เบียร์เป็นหนึ่งในวลียอดนิยมของอุตสาหกรรมเบียร์ หรืออาจนิยมมากที่สุดก็ได้ แต่หลายคนก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าที่จริงมันคืออะไร ถ้าจะให้พูดง่ายๆ คราฟท์เบียร์ก็คือเบียร์อะไรก็ได้ที่ไม่ได้ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่แบบเบียร์ช้างของไทยเบฟ ถ้าจะให้คำนิยามลึกลงไปอีก สมาคมผู้ผลิตเบียร์ของอเมริกา ได้ให้คำจำกัดความของผู้ผลิตคราฟท์เบียร์ คือ ขนาดเล็ก อิสระ และเป็นแบบดั้งเดิม นี่หมายความว่า พวกเขาผลิตเบียร์น้อยกว่าหกล้านบาร์เรล (ประมาณ 700,000,000 ลิตร) และมีผู้ถือหุ้นในบริษัทน้อยกว่า 25% ที่เป็นผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่ได้ผลิตคราฟท์เบียร์ สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของคราฟท์เบียร์ก็คือนวัตกรรม ลองพิจารณาเบียร์อย่าง จูนิเปอร์ เพล เอล ของโร้ก, เร้ด ไรซ์ เอล ของฮิตาชิโน่, หรือ พั้งค์ ไอพีเอ ของ บริวด๊อก ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่เฉพาะในด้านความรู้สึกที่มีต่อคำว่า เบียร์ ในแต่ละท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายขีดจำกัดของคำว่าเบียร์ออกไปอีก เนื่องจากผู้ผลิตคราฟท์เบียร์หลายรายไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่อย่าง อินเบฟ (ซึ่งรับผิดชอบผลิตภัณฑ์อย่าง บัดไวเซอร์ โฮการ์เด้น ฯลฯ) พวกเขาจึงสามารถเสี่ยงได้มากขึ้นอีกนิดที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ กับผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิตคราฟท์เบียร์เหล่านี้ทำให้เราได้เห็นความสำเร็จอันน่าทึ่งของ ไอพีเอ (อินเดีย เพล เอล) ในแถบอเมริกาตะวันตก, เพล เอล ในแถบอเมริกาตะวันออก และแม้กระทั่งเบียร์เอลสไตล์เบลเยี่ยมที่เห็นกันอยู่ทั่วโลก เราไม่ได้บอกว่าเบียร์ที่ผลิตทีละมากๆ เป็นเบียร์ที่ไม่ดี เบียร์ที่ขายและบริโภคกันอยู่เป็นส่วนมากก็คือเบียร์ประเภทนี้ แต่คราฟท์เบียร์ได้ช่วยนำความหลากหลายและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาสู่ท้องตลาดทั่วโลก คราฟท์เบียร์ถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับขึ้นมาอีกมาก สิ่งนี้ทำให้ผู้ผลิตคราฟท์เบียร์สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้เกือบจะทั่วโลก ที่เราใช้คำว่า เกือบจะ เพราะยังมีบางประเทศที่ยังตามเทรนด์นี้ไม่ทัน รวมทั้งประเทศไทยด้วย คราฟท์เบียร์ในประเทศไทย ในขณะที่คราฟท์เบียร์กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก แต่ตลาดของคราฟท์เบียร์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเรื่องของการ นำเข้าเท่านั้น จริงอยู่ว่าทั่วประเทศมีบาร์จำนวนมากที่เปิดเพิ่มขึ้นและเน้นการขายคราฟท์เบียร์เป็นหลัก แต่เกือบทั้งหมดก็เป็นการนำเข้า แม้ว่าคราฟท์เบียร์ที่นำเข้าเหล่านี้ล้วนแต่สุดยอด แต่เมื่อไม่นานนี้ก็มีคำถามที่ผู้อ่านส่งมาว่า แล้วตลาด คราฟท์เบียร์ของไทย อยู่ที่ไหน? วันก่อนพวกเรานั่งกันอยู่ในออฟฟิศคุยกันเรื่องนี้ เราพบว่าคำตอบนั้นมันโคตรซับซ้อนมากกว่าที่มันควรจะเป็น ต่อไปนี้คือเหตุผลหลัก 2 ข้อที่เราคิดว่าทำไมตลาดคราฟท์เบียร์ในประเทศไทยถึงไม่เปิดตัวเหมือนประเทศอื่นๆ เขาเสียที 1. กฎหมาย กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปี ค.ศ. 1950 มาตราที่ 5 ได้กำหนดไว้ว่า การกลั่นและหมักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับการบริโภคและขายนั้นผิดกฎหมาย นั่นหมายความว่า การผลิตเบียร์โดยไม่มีใบอนุญาต แบบที่คุณอาจจะทำกันเองที่บ้านนั้น เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แม้ว่าจะทำไว้เพื่อดื่มเองก็ตาม และก็เหมือนกับกฎหมายทั่วไปคือใช้คำที่ค่อนข้างจะกำกวม เพราะกฎหมายนี้ก็มีเขียนต่อไปว่าบทลงโทษสำหรับการผลิตเบียร์เองคือค่าปรับที่ค่อนข้างต่ำคือ 200 บาทถ้าทำอย่างเดียว และ 5,000 บาทถ้าขายด้วย ถ้าเป็นพวกธุรกิจที่ขายเบียร์และไม่ใช่ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ กฎหมายระบุไว้ว่าธุรกิจเหล่านี้สามารถผลิตเบียร์ได้แต่ต้องทำเพื่อการบริโภคทันทีเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราไม่เคยเห็น ลอนดอน พิลส์เนอร์ หรือ ตะวันแดง ดุงเคล บนชั้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตเลย ดูท่าทางแล้วกฎหมายนี้คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน 2. สภาพอากาศและแหล่งวัตถุดิบ อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณไม่ค่อยได้เห็นคราฟท์เบียร์ที่ผลิตในประเทศก็เพราะว่า สภาพอากาศในเมืองไทยไม่ได้เหมาะกับการทำเบียร์มากนัก ถ้าคุณต้องการทำเบียร์ลาเกอร์ คุณจะต้องใช้อุณหภูมิต่ำเกือบศูนย์องศาเซลเซียส ซึ่งหมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการทำความเย็น นอกจากนั้น สามในสี่ขององค์ประกอบหลัก (ใบฮ็อพ ข้าวบาร์เลย์ และยีสต์) ก็ไม่ได้ปลูกได้เองตามธรรมชาติในเมืองไทย ซึ่งหมายความว่าจะต้องนำเข้ามา และใครก็ตามที่เคยพยายามนำเข้าอะไรมาในประเทศไทยก็คงรู้ดีว่าอัตราภาษีนำเข้าสูงมาก ดังนั้น กฎหมายที่ค่อนข้างจะเข้มงวด (บางคนใช้คำว่าทารุณ) ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการทำเบียร์ และภาษีนำเข้าอันมหาศาล ทำให้การผลิตเบียร์เพื่อให้เกิดกำไรนั้นไกลเกินเอื้อมสำหรับคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สรุปว่าในตอนนี้ตลาดคราฟท์เบียร์ของไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าเกือบจะทั้งหมด แต่เราก็คิดว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะความจริงที่นี่ก็มีคราฟท์เบียร์เจ๋งๆ ขายอยู่ แต่ถ้าเราได้เห็นการปฏิวัติของวงการเบียร์ในประเทศไทยบ้างก็คงจะดีไม่น้อย http://blog.wishbeer.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97/ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 16, 2015, 08:55:57 PM อันนี้พอหาซื้อได้เอาไว้เปิดนำก่อนมันหอมชื่นใจดี รสนุ่ม+แรง หอมกำลังดี แต่จะติตรงเบียร์พวกนี้ต้องดูวันที่หมดอายุข้างขวด ถ้าเลือกได้เลืิอกที่เพิ่งผลิตมาใหม่ๆจะหอมกว่า ถ้านาน6-7เดือนขึ้น รู้สึกรสชาติด้อยลงครับ ;D (http://image.free.in.th/v/2013/ii/150716080900.jpg) (http://picture.in.th/id/2d77c44bdf2d207dbb5f0b0446e027aa) (http://image.free.in.th/v/2013/ir/150716090002.jpg) (http://picture.in.th/id/19d198b0251d8fee498d9b45d961931e) ยี่ห้อยอดนิยมในตลาด ;D http://www.priknum.com/beer-republic-nimman11-chiangmai/ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ กรกฎาคม 16, 2015, 10:27:01 PM พวกเบียร์แปลกๆ จะ homebrew หรือ พวก private draught ของเยอรมันที่ว่าเด็ดๆกัน
ผมดื่มแล้วไม่เคยอร่อยเลย มันจืดๆ ที่ชอบคือสิงค์นี่แหละอร่อยสุดแล้ว ยกเว้นยี้ห้อหนึ่งจำชื่อไม่ได้ ดื่มที่โรงแรมที่ อูเทรคค์ ฮอลแลนด์ เป็นเบียร์ดำ alcohol หนักหน่อย ประมาณ 8-10% ถ้าค้นรูปเจอจะมาโพสให้ดูครับ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 12:39:30 AM แถวอเมริกาเหนือ Canada จะมีเยอะมากตามร้านอาหารจะมีหัวก๊อกเรียงตามยี่ห้อเลยไม่ต่ำกว่า 5 เขาเรียกว่า Micro Brewery ครับรสชาติออกแนวตะวันแดงนี่แหละราคา 6 - 8 เหรียญต่อแก้ว 500 ml ถ้าเป็นเบียร์เยอรมันผมชอบ Lowenbrau กระป๋องฟ้า
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 12:45:41 AM ตะวันแดงเคยไปนานมากแล้ว เบียร์เค้าอร่อยดีครับ แปลกใจ ทำไมคนไทยทำน้อยมาก ::002::
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: worth ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 10:13:01 AM ผมชอบเบียร์ดำฟองครีม ตอนนี้หาซื้อยากแล้ว GUINESS IRISH BEER
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 10:13:38 AM สำหรับคนไทยการดื่มเบียร์คือการเสพแอลกอฮอล์ให้มึนเมา
แต่เบียร์รสชาติดี บางยี่ห้อบางผู้ผลิตรายย่อย ดันดื่มแล้วสดชื่น.... หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 10:48:18 AM shit beer ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 10:57:12 AM พวกเบียร์แปลกๆ จะ homebrew หรือ พวก private draught ของเยอรมันที่ว่าเด็ดๆกัน ตอนไปเที่ยวเยอรมัน ฝรั่งมันสอนผมครับว่า ช่วงเช้าต้องเป็นเบียร์อ่อน ช่วงเที่ยงบ่ายๆปานกลาง ช่วงค่ำหนักหน่อย ต้องเลือกญี่ห้อตามเวลาครับ :D~ผมดื่มแล้วไม่เคยอร่อยเลย มันจืดๆ ที่ชอบคือสิงค์นี่แหละอร่อยสุดแล้ว ยกเว้นยี้ห้อหนึ่งจำชื่อไม่ได้ ดื่มที่โรงแรมที่ อูเทรคค์ ฮอลแลนด์ เป็นเบียร์ดำ alcohol หนักหน่อย ประมาณ 8-10% ถ้าค้นรูปเจอจะมาโพสให้ดูครับ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 11:53:09 AM ตอนนี้มีมาให้ชิมอีกแล้วที่ Top supper ยี่ห้อ Kaisordom กระป๋อง 1 ลิตรเบียร์ขาวกับเบียร์ดำ 195 บาทเย็นนี้ไปเอาอีกสักกระป๋อง :D~
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 12:44:32 PM เมืองไทยเมืองพุทธครับ ห้ามเอกชนตาดำๆต้มเหล้าต้มเบียร์ แต่ปีๆสั่งเหล้านอกเข้ามาดื่มเป็นลำเรือๆ ห้ามเดินขายตัวตามสวนลุม แต่ถ้าเข้าสังกัดชูวิทย์ ก็ตามสบาย
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 01:47:49 PM +ทุกท่านครับ ;D
เมืองไทยเมืองพุทธครับ ห้ามเอกชนตาดำๆต้มเหล้าต้มเบียร์ แต่ปีๆสั่งเหล้านอกเข้ามาดื่มเป็นลำเรือๆ ห้ามเดินขายตัวตามสวนลุม แต่ถ้าเข้าสังกัดชูวิทย์ ก็ตามสบาย วัตถุดิบผลไม้บ้านเราเยอะมาก เสียดายน่าทำโอท๊อปพวกนี้นะครับพี่นายห้าง สมัยก่อนทำOTOPพวกไวน์สมุนไพร,ผลไม้ ผมว่าไวน์ชาวบ้านยังไม่คุ้นเคย ถ้าเป็นเหล้าหรือเบียร์น่าจะไปได้เยอะกว่า จะได้ต่อยอดสร้างstoryให้ชูแหล่งท่องเที่ยวแต่จะจังหวัดได้ด้วย แต่คงยาก นายทุนเจ้าสัวเค้าผูกขาดวงการนี้มาชั่วอายุคนแล้ว ยังไม่ปล่อย รวยให้เข็ดเบอร์ต้นๆของไทย ::005:: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 02:00:21 PM มาเลเป็นประเทศมุสลิม แต่หาเหล้าเบียร์ไวน์ได้ตลอดเวลาเดินเข้าร้านเหล้านี่เลือกไม่ถูกเลยเยอะไปหมด
อ้อ Bin2 ที่ Cold Storage ขายขวดละห้าร้อยกว่าเองนะเมืองไทยเจ็ดแปดร้อย หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 02:48:53 PM มาเลเป็นประเทศมุสลิม แต่หาเหล้าเบียร์ไวน์ได้ตลอดเวลาเดินเข้าร้านเหล้านี่เลือกไม่ถูกเลยเยอะไปหมด ตอนซื้อ จอนห์นี่บลู มาเลเซีย ขวดละ 6,000.-บาท ประเทศไทย 8,000.-บาทครับ :D~อ้อ Bin2 ที่ Cold Storage ขายขวดละห้าร้อยกว่าเองนะเมืองไทยเจ็ดแปดร้อย หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 02:57:37 PM วัตถุดิบผลไม้บ้านเราเยอะมาก เสียดายน่าทำโอท๊อปพวกนี้นะครับพี่ตุ่น แต่คงยาก นายทุนเจ้าสัวเค้าผูกขาดวงการนี้มาชั่วอายุคนแล้ว ยังไม่ปล่อย รวยให้เข็ดเบอร์ต้นๆของไทย ::005:: +พี่เบิ้มครับ นโยบายอัลกอฮอล์ ถ้าดำเนินการอย่างมีบูรณาการ ภาษีจะเข้ารัฐฯอย่างมหาศาล ประหยัดเงินตราต่างประเทศ ชาวบ้านก็ได้สตางค์ก็จะเกิดการหมุนเวียนของระบบเงินตรา-กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ข้าวเหนียวจะราคาแพงขึ้นอย่างมาก ชาวนาก็จะเป็นผู้มีเงินได้พอให้เสียภาษีที่ดินให้รัฐฯล่ะครับ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 07:35:29 PM วัตถุดิบผลไม้บ้านเราเยอะมาก เสียดายน่าทำโอท๊อปพวกนี้นะครับพี่ตุ่น แต่คงยาก นายทุนเจ้าสัวเค้าผูกขาดวงการนี้มาชั่วอายุคนแล้ว ยังไม่ปล่อย รวยให้เข็ดเบอร์ต้นๆของไทย ::005:: +พี่เบิ้มครับ นโยบายอัลกอฮอล์ ถ้าดำเนินการอย่างมีบูรณาการ ภาษีจะเข้ารัฐฯอย่างมหาศาล ประหยัดเงินตราต่างประเทศ ชาวบ้านก็ได้สตางค์ก็จะเกิดการหมุนเวียนของระบบเงินตรา-กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ข้าวเหนียวจะราคาแพงขึ้นอย่างมาก ชาวนาก็จะเป็นผู้มีเงินได้พอให้เสียภาษีที่ดินให้รัฐฯล่ะครับ (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 17, 2015, 10:16:27 PM หัวเราะทำไมยัยบัฟ--กลัวเหล้าข้าวเหนียวปลอมซาวแปดดีกรีขายไม่ออกเหรอ กินตั้งแต่หนุ่มยังไม่เบื่ออีกรึ กินจนเขี้ยวว่าว(ฟันหลอ)หม๊ดปากอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 09:01:55 PM หลายประเทศก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยภาษีบาปนะครับ อเมริกาช่วงปลายสงครามจนถึงหลังสงครามใหม่ๆก็เจอปัญหาปากท้องบักโกรก อาศัยได้ภาษีบาปจากลาสเวกัสประทะประทังเอาตัวรอดไปได้ ตอนนั้นออกพันธบัตรก็ไม่มีใครซื้อ ช่วงหนึ่งมหาเธร์ก็ได้เงินเยอะจากขายสินค้าปลอดภาษีให้คนไทยที่เกาะปีนัง จะว่าไปก็ขายของเถื่อนอ่าครับ เกนติ้งก็เอาเงินเพื่อนบ้านทั้งมุสลิมไม่มุสลิมเข้าประเทศเยอะแยะ อย่างว่าเศรษฐีน้ำมันไม่ค่อยได้ปลดปล่อยอย่างว่าเลยเฮโลกันมาเที่ยวเกนติ้งกัน จีนก็ได้ฮ่องกงเป็นแหล่งปล่อยของละเมิดลิขสิทธิ์กำไรกันเบิกบาน
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 09:25:49 PM หลายประเทศก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยภาษีบาปนะครับ อเมริกาช่วงปลายสงครามจนถึงหลังสงครามใหม่ๆก็เจอปัญหาปากท้องบักโกรก อาศัยได้ภาษีบาปจากลาสเวกัสประทะประทังเอาตัวรอดไปได้ ตอนนั้นออกพันธบัตรก็ไม่มีใครซื้อ ช่วงหนึ่งมหาเธร์ก็ได้เงินเยอะจากขายสินค้าปลอดภาษีให้คนไทยที่เกาะปีนัง จะว่าไปก็ขายของเถื่อนอ่าครับ เกนติ้งก็เอาเงินเพื่อนบ้านทั้งมุสลิมไม่มุสลิมเข้าประเทศเยอะแยะ อย่างว่าเศรษฐีน้ำมันไม่ค่อยได้ปลดปล่อยอย่างว่า เลยเฮโลกันมาเที่ยวเกนติ้งกัน จีนก็ได้ฮ่องกงเป็นแหล่งปล่อยของละเมิดลิขสิทธิ์กำไรกันเบิกบาน (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) [/quote] หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 09:46:08 PM เปลี่ยนภาพเหอะยัยบัฟ ดีไม่ดีผมจะไม่อยู่เวปนี้แล้วนะ คือทนดูตาคอสั้นนี่หัวเราะไม่ไหว ขี้เหร่โครตๆ
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 10:00:13 PM เปลี่ยนภาพเหอะยัยบัฟ ดีไม่ดีผมจะไม่อยู่เวปนี้แล้วนะ คือทนดูตาคอสั้นนี่หัวเราะไม่ไหว ขี้เหร่โครตๆ 555555 ฮา พวก " คอสั้น " อ่ะ ฮา 55555 ทำมั้ยมัน ทารุณ โหดร้ายกับพวก " Dawnson " เหลือเกิ๊น อ่ะ ฮา 55555 เสี่ย " รับยา ช่องสาม " น๊าาา ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007:: (http://s8.postimg.org/z2jkm4qw5/11401020_1441908632781687_7171730964136785610_n.jpg) (http://postimage.org/) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กรกฎาคม 19, 2015, 10:03:27 PM เปลี่ยนภาพเหอะยัยบัฟ ดีไม่ดีผมจะไม่อยู่เวปนี้แล้วนะ คือทนดูตาคอสั้นนี่หัวเราะไม่ไหว ขี้เหร่โครตๆ 555555 ฮา พวก " คอสั้น " อ่ะ ฮา 55555 ทำมั้ยมัน ทารุณ โหดร้ายกับพวก " Dawnson " เหลือเกิ๊น อ่ะ ฮา 55555 เสี่ย " รับยา ช่องสาม " น๊าาา ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007:: (http://s8.postimg.org/z2jkm4qw5/11401020_1441908632781687_7171730964136785610_n.jpg) (http://postimage.org/) 555555 ภาพนี้เป็นงัย " ไหวมั้ย " อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007:: (http://s21.postimg.org/hhpcxcilz/10696217_306019826249014_8698476430644833890_n.jpg) (http://postimage.org/) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 06:41:03 PM (http://www.mx7.com/i/ed9/ULBT10.JPG) (http://www.mx7.com/view2/yuUTLBJ55MwYBvZ4)
วันนี้มีตัวนี้เข้าใหม่Kaiserdom Kellerbier เด่วค่อยเทสคืนนี้ ป๋องสวยมาก เหมือนถังเบียร์เลย ป๋องละ1ลิตรแน่ะ :D~ เทียบกะ Weihanstephaner ขนาด500ml. ป๋องใหญ่มาก ;D (http://www.mx7.com/i/86b/LemnTZ.JPG) (http://www.mx7.com/view2/yuUTJ7Sj6Jjxqts2) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 06:53:31 PM รีวิวเบียร์0
เบียร์ Kaiserdom Kellerbier BY WISHBEER · NOVEMBER 25, 2014 มาถึงตัวสุดท้ายแล้วกับ Kaiserdom Kellerbier เป็นอีกสไตล์ของเบียร์ Lager ที่จะไม่ทำการกรองตะกอนยีสต์ออกและไม่ทำการพาสเจอร์ไรส์ ทำให้เบียร์คงรสชาติความสดเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เทออกมาจึงเป็นสีเหลืองส้มขุ่นจากการไม่กรองตะกอนออก ฟองไม่หนาและยุบตัวเร็ว กลิ่นยังคงเหมือนตัวก่อนๆที่เป็นมอลต์นำ กลิ่นขนมปังและคาราเมล ได้กลิ่นยีสต์เปรี้ยวๆเล็กน้อยช่วงท้าย จิบแรกรสหวานมอลต์นำมาก่อนเช่นเคย ตามด้วยรสขมเล็กน้อย แต่ทิ้งไว้ให้อุ่นสักพักจะได้รสเปรี้ยวๆของยีสต์ด้วย ตัวนี้จบสั้น จบเร็วไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในปาก เนื้อเบียร์มีความมันๆนวลๆอยู่บ้าง แต่ไม่มาก ตัวนี้ความซ่ากำลังพอดี บอดี้ไลท์ ก็จบไปแล้วทั้ง 4 ตัวกับ Kaiserdom รวมๆก็ถือเป็นเบียร์ดื่มง่ายๆ ชิลๆ ในวันอากาศร้อนๆ กินคู่กับอาหารไทยรสจัดๆก็ดี กินคู่กับอาหารฝรั่งก็ได้ ใครชอบกินเบียร์สบายๆ ไม่เน้นหนักแน่นซับซ้อนอะไรมาก ก็ถือว่า Kaiserdom เป็น 1 ในตัวเลือกที่ดีทีเดียว http://blog.wishbeer.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-kaiserdom-kellerbier/ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 09:22:30 PM เพิ่งมา review หมดไปสามลิตรแล้วตำสอง ฟ้าหนึ่ง
ตอนนี้เจอของใหม่จากสวีเดนที่ 711 Pistonhead ตรากะโหลก หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 11:28:30 PM ลองแระ สู้Weihanstephanerไม่ได้เลย ::013::
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: พ่อน้องนะโม ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 08:23:50 AM ผมกลับเข้า Meeting Field Technician ที่เบลเยี่ยมเกือบทุกปี ตั้งใจจะชิมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เป็นเรื่องยากมากครับ :~) โปรแกรมกิจกรรมเต็มแน่นอัดใน 5 วัน
ครั้นตอนเย็นจะอัดเบียร์ ก็เกรงว่ารุ่งเช้าจะไม่ไหว โชคดี บริษัทผมอยู่เมือง Ieper ที่นั่นมีโรงแรม Novotel ผมได้รู้จักกับพี่คนไทยท่านหนึ่งเป็น สาวอุดร ทำงานอยู่ส่วนร้านอาหาร ก็ได้รับคำแนะนำ + พาไปชิมเบียร์ พี่เขาแนะนำว่า เบียร์เบลเยี่ยม ที่อร่อยส่วนใหญ่ต้อง (http://image.free.in.th/v/2013/if/150728082654.jpg) (http://picture.in.th/id/c21d6ae7e72826b52769c8e357fa01c7) ถ้าถามว่าผมชอบอะไร ส่วนใหญ่จัดยี่ห้อนี้เลยครับ Duvel แรงซะใจดีครับ ::005:: (http://image.free.in.th/v/2013/ih/150728082823.jpg) (http://picture.in.th/id/f468c5a33b5678c0cf76642bce698615) :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 01:19:12 PM ที่ชอบของเยอรมันคือตัวนี้ครับ Lowenbrau ไม่มีใครนำเข้าสักที
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 01:24:31 PM ผมกลับเข้า Meeting Field Technician ที่เบลเยี่ยมเกือบทุกปี ตั้งใจจะชิมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เป็นเรื่องยากมากครับ :~) โปรแกรมกิจกรรมเต็มแน่นอัดใน 5 วัน ครั้นตอนเย็นจะอัดเบียร์ ก็เกรงว่ารุ่งเช้าจะไม่ไหว โชคดี บริษัทผมอยู่เมือง Ieper ที่นั่นมีโรงแรม Novotel ผมได้รู้จักกับพี่คนไทยท่านหนึ่งเป็น สาวอุดร ทำงานอยู่ส่วนร้านอาหาร ก็ได้รับคำแนะนำ + พาไปชิมเบียร์ พี่เขาแนะนำว่า เบียร์เบลเยี่ยม ที่อร่อยส่วนใหญ่ต้อง (http://image.free.in.th/v/2013/if/150728082654.jpg) (http://picture.in.th/id/c21d6ae7e72826b52769c8e357fa01c7) ถ้าถามว่าผมชอบอะไร ส่วนใหญ่จัดยี่ห้อนี้เลยครับ Duvel แรงซะใจดีครับ ::005:: (http://image.free.in.th/v/2013/ih/150728082823.jpg) (http://picture.in.th/id/f468c5a33b5678c0cf76642bce698615) :VOV: :VOV: +ครับท่าน ไว้จะหามาชิมครับ :D~ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ราษฎร์หน้า เส้นหมี่ ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 01:26:23 PM พวกเบียร์ผลไม้เป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่เคยลอง ผมชอบของมึนเมาที่รสหวานนำ เคยเห็นโฆษณาเบียร์ราสเบอรีในหน้านิตยสาร :D~ แต่ไม่รู้จะไปหาได้ที่ไหน
พวกขวดเขียวในบ้านเราก็ไม่ถูกปากผมเท่าไร เลยเล่นเป็นแค่ขวดน้ำตาลรูปเสือดาวเท่านั้นเอง :~) กระทู้นี้ทำผมคอแห้งในเวลางาน :DD หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: พ่อน้องนะโม ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 02:20:48 PM +ครับท่าน ไว้จะหามาชิมครับ :D~ ขออนุญาต บวกคืนให้คุณเบิ้มนะครับ Kaiser ยี่ห้อที่คุณเบิ้มชิมนั้น ทำเอาผมโดนเพื่อนคนเบลเยี่ยมล้อ มาจนทุกวันนี้ครับ ปี 2005 ไป Training ปีแรกเลยไปถึงโรงแรม ก็เปิ่นๆ ตามประสาไอ้เหลืองบ้านนอก น้ำในห้องพักไม่มี เปิดในตู้เย็นมินิบาร์ก็ป๊าด แพงมหาแพง เลยลองเดินสำรวจรอบๆโรงแรม ไปเจอมินิมาร์ท ก็เลยเข้าไปซื้อน้ำ ดูราคาน้ำป๊าด แพงกว่าเบียร์อีก :~) ::005:: เอาน้ำมาขวดนึง ฝาขวดสีแดง นอกนั้นจัด Kaiser กระป๋องดำมาสี่กระป๋อง ที่เลือกเพราะกระป๋องใหญ่กว่าใคร :VOV: ::005:: ::005:: ไปจ่ายตังค์ กรรม เขาไม่มีถุงใส่ให้อีก ต้องเสียตังค์ซื้อถุงพลาสติกอีก :~) ::005:: ::005:: กลับมาถึงโรงแรม น้ำฝาสีแดง เปิดมากินเข้าไปป๊าด น้ำโซดา ได้เอาทิ้งครับ กินเบียร์แทน ::005:: ::005:: เพื่อนขึ้นมาหา หัวเราะก๊าก มาเบลเยี่ยม ไปซื้อเบียร์เยอรมันมากินทำไม เสียหมด :~) :~) ส่วนน้ำ ไม่ต้องไปซื้อหรอก น้ำก๊อกก็กินได้นะ สะอาดพอครับ นั่น สุดท้ายก็กินน้ำก๊อกตลอดครับ :<><> ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 03:03:42 PM เมืองไทยเมืองพุทธครับ ห้ามเอกชนตาดำๆต้มเหล้าต้มเบียร์ แต่ปีๆสั่งเหล้านอกเข้ามาดื่มเป็นลำเรือๆ ห้ามเดินขายตัวตามสวนลุม แต่ถ้าเข้าสังกัดชูวิทย์ ก็ตามสบาย 55555 คนโดน " คุมประพฤฒิ " จะไปรู้เรื่อง อัลไล อ่ะ ฮา 555555 ก่อนออกจากบ้าน ซ้อ " ยัดเงิน " ใส่กระเป๋า สามร้อย แค่นั้น อ่ะ ฮา 5555 สามร้อยก็ได้แค่ " ซมซาน " ตามซุ้ม ยาดอง ริมถนน อ่ะ ฮา 555 ไม่รู้ร๊อกสฺ์ " คนชอบเสพ " เขาดื่มอะไรกัน อ่ะ ฮา 55555555 ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 03:23:35 PM พูดถึงแต่ เมรัย ชักคืดถึง สุรา แล้ว ครับ
เมรัย คือพวกบ่มให้เกิด L กอฮอ ผมรู้จัก ด้วยการผ่านคอครั้งแรก ตอนอายุ ๑๔ ปี กับเบียร์สด ในงานศิษย์เก่า กำลังง่วง ยิ่งง่วง เข้าไปอีก ;D ::005:: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 03:33:24 PM ตอนเด็กๆชงเหล้าให้ผู้ใหญ่ประจำได้ค่าทิปแค่จิบๆ
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 07:20:40 PM ลำปางมีร้านเบียร์เปิดใหม่อยู่ร้านขายแต่เบียร์นอก ผมไปกินสองสามครั้ง กระเป๋าฉีกออกมาทุกทีแพงเหลือหลาย ที่กินบ่อยเป็นตัวนี้ครับแรงพอได้
(http://c2.plzcdn.com/ZillaIMG/28cbb956e2e82329ea654608e8925a50_1395949581.jpg) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 07:22:16 PM ชื่อดุเดือดเลยครับพี่อภิสิทธิ์ 607 :D~
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 09:27:15 PM สามร้อยก็ได้แค่ " ซมซาน " ตามซุ้ม ยาดอง ริมถนน อ่ะ ฮา 555 ไม่รู้ร๊อกสฺ์ " คนชอบเสพ " เขาดื่มอะไรกัน อ่ะ ฮา 55555555 ::007:: ::007:: "ซมซาน" นี่อดีตเพลงเก่งผมเลยนะยาย เดี๋ยวนี้ผมกลับมาถนัดเพลง "รักเดียว" ---บอกกันให้รู้ หัวใจรักจริง---ได้สักสามสี่เป็กเสียงแจ๋วเชียวครับ มิวสิคมา http://youtube.com/v/F-4hni81OZ4 หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 11:42:26 PM เจ็ดขั้นตอนการหมักเบียร์อันสมบูรณ์แบบ
BY WISHBEER · JUNE 16, 2013 beer_May13เบียร์นั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันมากที่สุดบนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ โดยมีองค์ประกอบหลัก ได้แก่ น้ำ ใบฮ็อพ ข้าวบาร์เลย์ และยีสต์ ตามสถิติในปี ค.ศ. 2010 ชาวอเมริกันมีการบริโภคเบียร์ต่อหัวสูงถึง 78.2 ลิตรต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผู้คนจะนิยมดื่มเบียร์กันมาก แต่วิธีการผลิตเบียร์นั้นก็ยังเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจ บทความในสัปดาห์นี้จะกล่าวถึงวิธีการผลิตเบียร์เบื้องต้น เพื่อให้คุณได้เข้าใจในเครื่องดื่มที่คุณบริโภคอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันได้ดีขึ้น ก่อนที่เราจะพูดถึงขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ เราน่าจะได้ทราบประวัติและความหมายของการหมักเบียร์คร่าวๆ เสียก่อน การหมักเบียร์คืออะไร? ถ้าคุณชอบดื่มเบียร์ คุณอาจจะเคย เมาหัวราน้ำ หรืออาจจะแค่จิบๆ พอสนุก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการหมักเบียร์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร พูดง่ายๆ ก็คือ การนำเมล็ดข้าวซึ่งปกติจะเป็นข้าวบาร์เลย์หรือข้าวสาลีมาแช่ในน้ำแล้วหมักส่วนผสมไว้ เราก็จะได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดที่เรียกว่าเบียร์นั่นเอง ประวัติการหมักเบียร์ เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าการผลิตเบียร์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่นักโบราณคดีก็ได้พบหลักฐานการทำเบียร์ย้อนหลังไปถึง 6,000 ปีก่อนคริสตกาล และเราก็ทราบด้วยว่าชาวอียิปต์โบราณได้ใช้เทคนิคการทำเครื่องดื่มแบบเดียวกับการหมักเบียร์ เบียร์ในแบบที่เรารู้จักกันอยู่ทุกวันนี้ คาดว่าน่าจะมีจุดเริ่มต้นในราวศตวรรษที่ 13 เมื่อมีการทำเบียร์จากใบฮ็อพได้สำเร็จในยุคใหม่ของประเทศเยอรมันและสาธารณรัฐเช็ก ใบฮ็อพเป็นสารกันเสียธรรมชาติ ซึ่งนำมาใส่ในส่วนผสมของเบียร์เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางการค้าที่สามารถนำมาขนส่งและจำหน่ายได้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของขบวนการผลิตเบียร์ไปสู่ยุคใหม่น่าจะมาจากการพัฒนาและนำ ไรไฮน์สกึโบ๊ท (Reinheitsgebot) มาใช้ (รู้จักกันในนาม Bavarian Purity Law หรือ กฎแห่งความบริสุทธิ์) ในปี ค.ศ. 1516 กฎนี้ได้ตั้งมาตรฐานขึ้นมาว่าเบียร์จะต้องทำจาก น้ำ ข้าวบาร์เลย์ที่กำลังงอก และใบฮ็อพ เท่านั้น (มีการเติมยีสต์ภายหลังจากที่มีการค้นพบวิธีพาสเจอร์ไรซ์) กฎนี้ยังเป็นที่ใช้กันอยู่โดยผู้ผลิตเบียร์ในเยอรมันเกือบทุกบริษัทและผู้ผลิตเบียร์สากลอีกหลายราย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การแช่เย็นที่เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย การขนส่งราคาถูกและมีประสิทธิภาพ ทำให้เบียร์หลากชนิดสามารถมีขายในท้องตลาดที่ไม่สามารถผลิตเบียร์เองได้หรือไม่รู้วิธีผลิต อย่างไรก็ตามโดยส่วนใหญ่แล้วกรรมวิธีการผลิตเบียร์ก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมตั้งแต่ช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อเราได้ทราบถึงประวัติของเบียร์โดยคร่าวๆ แล้ว เรามาดูขั้นตอนการหมักเบียร์กันเลยดีกว่า! 1. การทำให้ข้าวงอก ข้าวบาร์เลย์เป็นเมล็ดธัญพืชที่นิยมใช้ในการหมักเบียร์ เราจะนำข้าวบาร์เลย์มาทำให้งอกโดยบรรจุลงในถังและแช่น้ำไว้ประมาณ 40 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็นำออกมาจากถังและแผ่ไว้ห้าวัน ข้าวก็จะเริ่มงอก เมื่อข้าวเริ่มงอกแล้ว เราก็จะนำมาอบให้แห้งเพื่อให้หยุดงอก แล้วจึงนำข้าวนั้นมาบดเพื่อให้เกิดแป้งและคาร์โบไฮเดรตจากเมล็ดข้าว ในขั้นตอนนี้ เมล็ดข้าวที่ได้เรียกว่า ข้าวบาร์เลย์งอก 2. การบด นำข้าวบาร์เลย์งอกมาบรรจุลงในเครื่องบดขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Mash Tun เติมน้ำร้อนลงไปเพื่อทำให้คาร์โบไฮเดรตที่ได้จากขั้นตอนแรกแตกตัวออกเป็นน้ำตาล ผลที่ได้จากการบดนี้คือส่วนผสมของเหลวที่มีรสหวาน เรียกว่า เวิร์ท (Wort) 3. การต้ม นำของเหลวที่กรองออกมาจากเครื่องบดบรรจุลงในหม้อทองแดงขนาดใหญ่ซึ่งเรียกว่า Copper ต้มของเหลวประมาณ 45 ถึง 90 นาที โดยขึ้นอยู่กับชนิดของเบียร์ที่ต้องการหมัก ในช่วงที่ต้มก็เติมใบฮ็อพและเครื่องปรุงรสชาติอื่นๆ เพิ่มเข้าไป การต้มทำให้เบียร์มีรสชาติดีขึ้นและเป็นการฆ่าเชื้อไปในตัวด้วยการกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจเกิดขึ้นจากการบดในขั้นตอนที่สอง 4. การหมัก หลังจากต้มเสร็จแล้ว นำส่วนผสมมาทำให้เย็นลงและถ่ายลงบรรจุในถังหมัก จากนั้นจึงเติมยีสต์เพื่อกำจัดส่วนที่เป็นน้ำตาลและทำให้ส่วนผสมกลายเป็นแอลกอฮอล์ ชนิดของยีสต์ที่ใช้จะเป็นตัวกำหนดอุณหภูมิที่จะเกิดการหมัก และระยะเวลาที่ใช้ในการหมัก ลาเกอร์ยีสต์จะเกิดการหมักที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส และใช้เวลาประมาณ 30 วัน เอลยีสต์จะเกิดการหมักที่อุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 20 องศาเซลเซียส และใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์ 5. การหมักช่วงสุดท้าย (Conditioning) การหมักช่วงสุดท้าย (Conditioning) จะบ่งบอกถึงอายุของเบียร์ และมักจะนับเป็นส่วนหนึ่งของการกระบวนการหมัก ผู้ผลิตหลายรายจะถ่ายเบียร์ออกจากถังหมักแรก (โดยทั่วไปเรียกว่าถังหมักแรก Primary Fermentation Tank) และนำมาหมักต่อในอีกถังหนึ่ง ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เบียร์เอลจะมีระยะเวลาการหมักสามสัปดาห์ ในขณะที่เบียร์ลาเกอร์จะใช้เวลา 30 วันหรือมากกว่านั้น อันที่จริงแล้วระยะเวลาที่ใช้ในการหมักจะแตกต่างกันออกไป โดยเบียร์เอลบางชนิดจะถูกบรรจุในถังไม้โอ๊คและทิ้งไว้นานหลายเดือนหรือหลายปีก็มี 6. การกรอง หลังจากเบียร์ที่หมักมีอายุพอเหมาะ ส่วนใหญ่จะถูกนำมากรองเอาวัตถุไม่พึงประสงค์และยีสต์ที่เหลือออกไป การกรองเบียร์จะทำให้รสชาติเบียร์คงที่ เบียร์หลายชนิดจากประเทศเบลเยี่ยมจะเป็นแบบไม่ผ่านการกรอง จึงข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ 7. การบรรจุ ขั้นตอนสุดท้ายในการหมักเบียร์ก็คือการบรรจุลงในภาชนะเพื่อให้ขนส่งได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปอาจบรรจุใส่ในถัง ขวด หรือ กระป๋อง แล้วจึงขนส่งออกจากโรงหมักเบียร์ นับตั้งแต่เริ่มกระบวนการทำให้ข้าวงอกจนกระทั่งบรรจุใส่ภาชนะ ปกติจะใช้เวลาโดยเฉลี่ย 60 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเบียร์ที่จะผลิตและวิธีการหมัก ดังนั้นในครั้งหน้าหากมีโอกาสได้ดื่มเบียร์ที่นำมาเสิร์ฟถึงมือคุณ ก็จงดื่มให้กับคนหมักเบียร์เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับเวลาและการอุทิศตนเพื่อผลิตเบียร์ที่ท่านชื่นชอบ ความปรารถนาประจำสัปดาห์: Leffe Blonde ถ้าถามชาวเบลเยี่ยมว่าเบียร์หน้าตาเป็นอย่างไร เขาเหล่านั้นก็คงจะตอบว่าเบียร์จะต้องมีสีบลอนด์ รสเข้ม มีรสชาติของผลไม้ปนเครื่องเทศและส้ม Leffe Blonde อาจกล่าวได้ว่าเป็นเบียร์ที่นิยมที่สุดในบรรดาเบียร์สีบลอนด์ทั้งหมด เป็นเบียร์ที่ดื่มง่าย มีรสของผลไม้ และเผ็ดนิดๆ ดื่มได้ไหลลื่น ลองดื่มกับอาหารมื้อเย็นดูสิ จริงๆ แล้วก็ดื่มได้ทุกเวลานั่นแหละ ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับอะไรที่มีสีบลอนด์ http://blog.wishbeer.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2/ ไม่น่าจะยากเลย ตู้เย็นไม่กี่ตังค์ ::005:: หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กรกฎาคม 30, 2015, 09:10:47 AM น้าเบิ้มกำลังจะทำให้หลายคนมาประกอบอาชญากรรม :D~
เออแล้ว Dunkel เบียร์ดำทำอย่างไร หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 08, 2015, 11:38:34 PM Leffe อร่อยเจ่งๆ หอมกลมกล่อม หนักแน่น สมกับเบียร์ชั้นเลิศจากเบลเยี่ยม ทิ้งHoegeerdenขาดลอย เสียดายแพงไปนิดส์ :<><>
(http://www.mx7.com/i/603/P7JoX3.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yAta4o7olDr77Xxh) (http://www.mx7.com/i/dd9/02d7cT.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yAta6vZu375A8bGo) หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 08, 2015, 11:54:47 PM http://th.openrice.com/th/bangkok/article/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87/736
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 09, 2015, 12:46:46 AM สองเดือนแล้วหมด Kaiserdom ไปหลายลิตร ตัวสีดำดื่มแล้วมันร้อนรุ่มยังไงไม่รู้
ทีนี้รอว่าใครจะนำ Lowenbrau กระป๋องฟ้าเข้ามาบ้างไหม เดือนหน้า Oktoberfest 2015 แล้วนะเจ้า หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 09, 2015, 06:00:42 PM น่าลองหมักดูเองนะครับ
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: p23-504 รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2015, 09:50:04 PM น่าลองหมักดูเองนะครับ คุณแปจีหล่อ นักรบระดับพวกเราน้ำตาลดองน่าจะง่ายและถึงใจกว่า :D~ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 11, 2015, 11:19:03 AM น่าลองหมักดูเองนะครับ คุณแปจีหล่อ นักรบระดับพวกเราต้ำตาลดองน่าจะง่ายและถึงใจกว่า :D~ เคยไปแวะกลางทางระหว่างปัตตานียะลาเจ้าบ้านไปปีนต้นตาลเอาลงมาเลี้ยง หมักกันบนต้นเลยนะ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 11, 2015, 11:48:57 AM น่าลองหมักดูเองนะครับ คุณแปจีหล่อ นักรบระดับพวกเราต้ำตาลดองน่าจะง่ายและถึงใจกว่า :D~ หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 11, 2015, 12:40:49 PM ถามประโยคเดียว ร้านของพี่ชิตนี่ต้มเบียร์ขายถูกกฏหมายหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกมีใครแจ้งสรรพสามิตให้จับกุมหรือยังครับ
หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: ราษฎร์หน้า เส้นหมี่ ที่ กันยายน 11, 2015, 09:02:38 PM น่าลองหมักดูเองนะครับ คุณแปจีหล่อ นักรบระดับพวกเราต้ำตาลดองน่าจะง่ายและถึงใจกว่า :D~ ผสมที่กลายเป็นน้ำตาลเมา กับพึ่งได้มาใหม่ๆนิดๆดับขม (สูตรนี้ผมทำเอง น้ำหวาน+แอลกอฮอล เมาหัวทิ่ม) แกล้มด้วยอาหารทะเลจิ้มน้ำจิ้มพริกตำที่ได้จากน้ำตาลหมักเป็นน้ำส้มสายชู หรอยแรงครับ เมื่อก่อนสงขลาบ้านผมมีเพียบ ให้ได้บรรยากาศต้องดื่มกับกะลา หัวข้อ: Re: คราฟต์เบียร์ไทย: การต้มเบียร์คืออาชญากรรม? เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 12, 2015, 01:37:19 AM น่าลองหมักดูเองนะครับ คุณแปจีหล่อ นักรบระดับพวกเราต้ำตาลดองน่าจะง่ายและถึงใจกว่า :D~ ผสมที่กลายเป็นน้ำตาลเมา กับพึ่งได้มาใหม่ๆนิดๆดับขม (สูตรนี้ผมทำเอง น้ำหวาน+แอลกอฮอล เมาหัวทิ่ม) แกล้มด้วยอาหารทะเลจิ้มน้ำจิ้มพริกตำที่ได้จากน้ำตาลหมักเป็นน้ำส้มสายชู หรอยแรงครับ เมื่อก่อนสงขลาบ้านผมมีเพียบ ให้ได้บรรยากาศต้องดื่มกับกะลา ใช่ทียะลาก็ใช้กะลารอบวง |