หัวข้อ: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:06:02 AM ;D ผมเห็นว่าเวปนี้มีคนสนใจกฎหมายเรื่องปืนกันเยอะมากๆ.
และมีนักกฎหมายอยู่หลายท่าน. ให้ความรู้แก่ชาวเวป. ทำให้รู้แหละปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง. :-* ก็เลยมีคำถามจากที่มีคนเคยฝากถามผมมา. แต่ผมก็ยังไม่ชัวร์ ที่จะตอบให้เขาสักที. เลยเอามาฝากสมาชิกชาวเวป. ให้ช่วยกันคิด/แสดงความเห็น เกี่ยวกับคำถามนี้หน่อย. ขอบอกตัวล่วงหน้าก่อนว่า. ผมไม่เฉลยนะครับ. เพราะไม่มั่นใจ. คำถาม. นาย ก.มีปืน ๑๑ มม. ๑ กระบอกมีป.๔ ถูกต้อง. นาย ข. อยากได้มาก. ขอซื้อแล้ว. แต่นาย ก. ก็ไม่ยอมขาย. เมื่อนาย ก.ไม่อยู่บ้าน. นาย ข.เข้าไปโขมยปืน+ป.๔ + สำเนาบัตรประชาชน +ทะเบียนบ้านของนาย ก. +หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน นาย ข.เปิดร้านขายปืนติดกับร้านแขกผ้าโพกหัวที่หลังวังด้วยครับ . แล้วนาย ข.ปลอมลายเซ็นนาย ก. เอาไปขอป.๓ แล้วไปตัดโอนจนได้ป.๔ เป็นชื่อของนาย ข. / ต่อมามีนาย ค. ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย ( สุจริต ) มาขอซื้อจากนาย ข. จ่ายเงิน กันที่ร้านนาย ข. ที่หลังวัง .จนนาย ค. ไปขอป.๓ และออกป.๔ เรียบร้อย เป็นชื่อนาย ค.แล้ว .นาย ก. กลับมาพบความจริงเข้า. ถามว่า . ระหว่างนาย ก. เจ้าของเดิม ( ไม่มีชื่อในป.๔ แล้ว ) กับนาย ค. เจ้าของใหม่ ผู้เป็นบุคคลภายนอกซื้อมาโดยสุจริต และเสียเงินค่าตอบแทนด้วย. + มีชื่อใบป.๔ ด้วย. ไม่ทราบเหตุมาก่อนด้วย ใครจะมีสิทธิดีกว่ากันครับ........กรณีนี้นาย ก. ไม่ได้ไปแจ้งความไว้ก่อนครับ มาทราบเอาภายหลังก็ปืนเปลี่ยนชื่อในใบ ป.๔ ไปเป็นชื่อของนาย ค.แล้ว ถึงได้ไปแจ้งความ. หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:10:04 AM ปืนหาย...ต้องแจ้งหาย...ครับ ต้องว่ากันที่ อายุความ เมื่อมีการลักทรัพย์
และการรับซื้อของโจร...ไม่แบ่งว่า มีเจตนาหรือไม่ ครับ เพียงแต่รูปการณ์ของคดีจะสั่งฟ้องหรือไม่เท่านั้น เอง....คริ คริ ส่วนหลักฐานการโอน...สามารถตรวจสอบได้ครับ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:11:39 AM ใครจะมีสิทธิดีกว่ากันครับ........
นายก.... :D หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:15:09 AM มารอฟังคำตอบครับ
ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:24:52 AM .เดี๋ยวก่อนครับ...ขอโทษด้วย ที่เขาถามมา ตกประเด็นนี้ไปนิดครับ.
นาย ข.ที่ไปลักมาเนี่ย แกเปิดร้านขายปืน แข่งกับร้านแขกผ้าโพกหัว. อยู่ที่หลังวังด้วยครับ. แล้วนาย ค. ก็ไปซื้อปืนนี้มาจากร้าน นาย ข. ที่หลังวัง นะครับ. ขอแก้นิดครับ. หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 01:22:13 AM มันมีสองกรณีครับ
กรณีแรกถ้านาย ก. ได้แจ้งความเอาใว้ตอนที่ปืนหายนาย ข. ผิดเต็มๆนาย ค. ไม่รู้ไม่เห็นด้วยสิทนี้ก็ยังเป็นของนาย ก. อยู่ กรณีที่สองถ้านาย ก. ไม่รู้ว่าปืนของตัวเองหาย(ไม่ได้แจ้งความ)จนกระทั้งมารู้อิตอนปืนตัวเองมาอยู่กับนาย ค. ทั้งตัวปืนและใบป.4เป็นของนาย ค. แล้วอย่างนี้สิทนี้ก็คงเป็นของนาย ค. อยู่ถ้านาย ก. อยากใด้ปืนคืนคงต้องฟ้องเอาล่ะครับ ถูกผิดยังไงช่วยแก้ไขด้วยครับ หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: นายป๋อง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 01:50:50 AM .....ถ้าผมเป็นนาย ก. ถึงแม้นจะรู้ตัวว่าปืนหายต่อเมื่อปืนได้เป็นของนาย ค. แล้วก็ตาม.....
.....ผมจะทำอย่างเดียวและรีบทำเลยคือแจ้งความครับ..... .....ส่วนเรื่องอื่นๆ พิสูจน์กันในชั้นศาล ครับ.... .....เอ ว่าแต่จะขโมยอะไรนักหนา มีทั้ง ปืน+ป.๔ + สำเนาบัตรประชาชน +ทะเบียนบ้านของนาย ก. +หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน .....อะไรไม่ว่า หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน นี่...ทำไมต้องลงลายมือชื่อเอาไว้ด้วย.... ;D ;D หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: FUFUFUFU ที่ ตุลาคม 21, 2006, 02:06:08 AM นาย ข มีโอกาศ โดนนาย ก กระทืบสูง
เรื่องนี้ถ้าจริง นาย ข ตายหยั้งเขียด เพราะเล่นแรงไปหน่อย หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 21, 2006, 03:07:01 AM กรณีแรก
นาย ข. กระทำการลักทรัพย์ ครับ...ประเด็นแรก เป็นผู้ถูกกล่าวหา ก่อนอื่น แถมนาย ข. ยังมาขายต่อให้นาย ค. อีก งานนี้นาย ค. โดนรับของโจรไว้ก่อนในเบื้องต้น...ที่เหลือของนาย ค. ไปว่ากันที่รูปการณ์ ครับ พอนาย ก. ทราบเรื่อง..จะเป็นคดีได้ นาย ก. ก็ต้อง "แจ้งความ" ก่อนอื่นครับ หากนาย ค. ต้องคืนปืน...ให้นาย ก. ซึ่งเป็นเจ้าของเดิม นาย ค. ก็ต้อง...ฟ้องเรียกร้องค่าปืนต่อนาย ข. ผู้ขายซิครับ... เพราะ...นาย ค. เป็นผู้เสียหาย...เสียทั้งปืนให้นาย ก. และเสียทั้งเงินให้นาย ข. ถ้าถามว่าทราบได้อย่างไรว่า นาย ข. ลักปืนไป ก็ตรวจสอบจากหลักฐานการโอนซิครับ ส่วนอาชีพนั้น...ไม่น่าจะเกี่ยวข้องครับ... มาอีกในกรณีหนึ่ง... นาย ก. ลงนามใบมอบอำนาจและเอกสารไว้เสร็จสรรพ...แล้ว จากนั้น นาย ข. ถึงไปลักปืนพร้อมเอกสารต่าง ๆ มา โดยที่นาย ก. ไม่ทราบว่า ผู้ใดลักปืนไป ต่อมา นาย ข. นำปืนดังกล่าว มาขายต่อให้กับนาย ค. ...ในกรณีนี้ต้องสอบถามว่า...นาย ก. ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ ตั้งแต่ปืนพร้อมเอกสารได้สูญหายไป หากนาย ก. มาเรียกร้องภายหลังว่า... ปืนของตนเองถูกลักมา...โดยที่ตนมิได้แจ้งความไว้ก่อน นาย ก. มีสาเหตุใดถึงมิได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนหน้านั้น ครับ และนาย ก. ต้องนำสืบให้ประจักษ์ได้ว่า นาย ข. เป็นผู้ลักปืนไป หากนำสืบไม่ได้ก็....ฟ้องนาย ค. ครับ แต่คงยาก.... จากนิ้ว..ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ ตุลาคม 21, 2006, 03:38:33 AM สงสัยว่าโจทย์ทำไมเน้นจังว่ามีการเปิดร้านแข่งกัน ซึ่งถ้าหากเป็นโจทย์ทั่ว ๆ ไปคงไม่มีการเน้นตรงจุดนี้เพราะว่าไม่เกี่ยวกับมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ในตัวปืน อืมมมม...
เนี่ยแหละครับตามโจทย์ทำไมกฎหมายถึงต้องให้ผู้โอนกับผู้รับโอนทำเรื่องต่อหน้าเจ้าพนักงาน หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Cheetah "รักในหลวง" ที่ ตุลาคม 21, 2006, 06:30:40 AM ความเห็นของผมนะครับ
นาย ก ถ้าไม่รู้เห็นการกระทำของนาย ข , ค ไม่ผิด แต่ถ้ารู้แล้วไม่รีบแจ้งหาย แสดงว่ารู้เห็นเป็นใจด้วย ผิดแน่ๆ นาย ข ผิดเต็มๆ ข้อหาลักทรัพย์ ส่วน นาย ค ถ้าผมจำไม่ผิด เกี่ยวกับการรับซื้อของโจร ไม่ผิดครับ เพราะได้ซื้อมาจาก นาย ข ซึ่งได้เปิดร้านขายปืน อย่างถูกต้อง และก็ไม่ทราบว่าปืนถูกขโมยมา ผมเคยเจอเคสคล้ายๆกันนี้ แต่เป็นรถยนต์ของญาติผม ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้เคสนี้ได้หรือเปล่านะครับ คือ ญาติผม ได้ไปซื้อรถจากเต๊น มีเล่มทะเบียนอย่างถูกต้อง โอนเรียบร้อย ต่อมา มีประกันพาเจ้าของรถกับตำรวจมา แจ้งว่ารถคันนี้ถูกขโมยมา โดยสวมทะเบียน ตอกเลขเครื่อง เลขตัวถังใหม่ ญาติผมไม่ผิดครับ เพราะมีสัญญาซื้อขายจาก เต๊นรถ ซึ่งจดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง แต่ก็ถูกกันตัวเป็นพยาน ตำรวจบอกว่า ถ้าซื้อจากคนอื่น ที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้า ผิดข้อหารับของโจรครับ แต่ก็เหนื่อยครับ เพราะต้องฟ้องเอาเงินคืน จากเต๊น หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 07:28:30 AM น่าเวียนหัวดีนะครับ ;Dผมว่านาย ก ครับ ;D
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 21, 2006, 09:10:46 AM ต้องเฉลยก่อนว่า นาย ก น่ะแจ้งความไว้แล้วหรือยัง จึงตอบได้
หากเรื่องโอนให้นาย ค เรียบร้อยแล้ว นาย ก ยังไม่แจ้งหรือเพิ่งมาแจ้ง งานนี้ นาย ก เสียลูกเดียว อาจโดนนาย ข ย้อนศรเอาเข้าคุกไปเลยก็ได้ หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ ตุลาคม 21, 2006, 09:28:12 AM ต้องเฉลยก่อนว่า นาย ก น่ะแจ้งความไว้แล้วหรือยัง จึงตอบได้ หากเรื่องโอนให้นาย ค เรียบร้อยแล้ว นาย ก ยังไม่แจ้งหรือเพิ่งมาแจ้ง งานนี้ นาย ก เสียลูกเดียว อาจโดนนาย ข ย้อนศรเอาเข้าคุกไปเลยก็ได้ เอาเป็นว่าตามที่เขาฝากถามมา ก็คือยังไม่มีการแจ้งความไว้เลยครับ .เข้ามาแสดงความเห็นนะครับ. ไม่มีผิดไม่มีถูกครับ. ไม่ใช่เรื่องจริงหรือคดี. ที่เกิดขึ้นที่ไหน. .เป็นเพียงยกเรื่องสมมุติว่าถ้ามันมีอย่างนี้. จะเป็นอย่างไรแค่นั้นครับ. และผมก็ไม่มีคำเฉลยด้วยนะครับ. ซ้ำเรื่องนี้ยังไม่เคยมีคำพิพากษาฎีกาตัดสินตรงๆกับข้อเท็จจริงนี้เลยครับ. หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: พญายอง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 09:28:56 AM ในความเห็นของผมนะครับ...ว่าด้วยเรื่องการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ.
ในมาตรา 1332 บัญญัติว่า " บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา "ดังนั้น นาย ค.น่าจะมีสิทธิดีกว่าครับ และในเรื่องคดีอาญาก็ต้องว่าด้วยเจตนา ถ้าไม่ทราบ ก็ไม่มีเจตนา ในความฐานผิดรับของโจร เพราะโจทกย์ตั้งมาว่าโดยสุจริตนี่ครับ เป็นความเห็นนะครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบต่อไปครับ หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: หยดน้ำ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 10:44:58 AM มาอีกในกรณีหนึ่ง... นาย ก. ลงนามใบมอบอำนาจและเอกสารไว้เสร็จสรรพ...แล้ว จากนั้น นาย ข. ถึงไปลักปืนพร้อมเอกสารต่าง ๆ มา โดยที่นาย ก. ไม่ทราบว่า ผู้ใดลักปืนไป ต่อมา นาย ข. นำปืนดังกล่าว มาขายต่อให้กับนาย ค. ...ในกรณีนี้ต้องสอบถามว่า...นาย ก. ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ ตั้งแต่ปืนพร้อมเอกสารได้สูญหายไป หากนาย ก. มาเรียกร้องภายหลังว่า... ปืนของตนเองถูกลักมา...โดยที่ตนมิได้แจ้งความไว้ก่อน นาย ก. มีสาเหตุใดถึงมิได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนหน้านั้น ครับ และนาย ก. ต้องนำสืบให้ประจักษ์ได้ว่า นาย ข. เป็นผู้ลักปืนไป หากนำสืบไม่ได้ก็....ฟ้องนาย ค. ครับ แต่คงยาก.... จากนิ้ว..ที่จิ้มแป้น... ผมมีความเห็นตามท่าน 51 ตามกรณี 2 ครับ.. โอน..ไปแล้ว(ตามหลักฐาน)..แต่มาแจ้งความตามที่หลัง(หลังจากที่ทราบว่ามีการโอนให้ นาย ค.)..... เรื่องยาว...(ผมพูดตามเหตุผล+ความคิดส่วนตัวนะครับ..เพราะไม่ทราบข้อกฏหมาย) หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: SNIPER™ ที่ ตุลาคม 21, 2006, 11:44:11 AM ด้วยความเคารพท่าน จขกท.
ข้อสังเกต เรื่องลักปืนเขามา ทั้งเอกสารครบเคริ่องมันเกิดขึ้นได้ยาก ข้อสงสัย ผมเคยเห็นการจำนำอาวุธปืนในตลาดมืด(ไม่ใช่ไฟดับนะครับ) มีการโอนสลักหลัง หลักฐานการโอนต่างๆ ตกลงกันด้วยวาจา ว่าดอกเบี้ยเท่าไร? ไถ่ถอนเมื่อไร? ผิดนัดปืนหลุดมือทันที กลัวว่ามันจะเป็นอย่างกรณีนี้น่ะสิ.....ยุ่งเลยหละ....... หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: snooppy ที่ ตุลาคม 21, 2006, 12:19:21 PM เป็นเรื่องที่เตือนใจให้กับคนที่คิดจะซื้อปืนมือ2 ต้องพิจารณาให้ดี ผมเองถ้าจะซื้อต้องคุยกับเจ้าของปืนโดยตรง แพงหน่อยไม่ว่าไม่เสียเวลามาปวดหัวทีหลัง
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: PPM ที่ ตุลาคม 21, 2006, 01:18:33 PM ถ้าตอบในข้อที่ว่า "ใครมีสิทธิดีกว่ากัน...." กระผมเห็นด้วยตามแนว ของพี่ พญายอง ครับ
ในความเห็นของผมนะครับ...ว่าด้วยเรื่องการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ. ในมาตรา 1332 บัญญัติว่า " บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา "ดังนั้น นาย ค.น่าจะมีสิทธิดีกว่าครับ และในเรื่องคดีอาญาก็ต้องว่าด้วยเจตนา ถ้าไม่ทราบ ก็ไม่มีเจตนา ในความฐานผิดรับของโจร เพราะโจทกย์ตั้งมาว่าโดยสุจริตนี่ครับ เป็นความเห็นนะครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบต่อไปครับ แต่ถ้าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามอุทาหรณ์กระผม ว่า ขึ้นอยู่ที่ว่า นาย ก. ได้กระทำการไปอย่างไรบ้างเมื่อรู้ว่า นาย ข. ซึ่งได้นำอาวุธปืนของตนไป พร้อมเอกสาร และได้ลายมือชื่อของตนเอง เพื่อทำการตัดโอน ซื่งการตัดโอนนั้น ได้สมบูรณ์แล้ว จึงได้ ขายต่อให้นาย ค. ถ้า ขาย ก. มิได้โต้แย้งหรือแจ้งความแต่อย่างใด ก็ไม่เกิดการสอบสวนว่าเอกสารนั้น จริงหรือเท็จ หรือไม่ อย่างไร นาย ค. จึงมีสิทธิ ครอบครอง อาวุธปืน ที่ซื้อ จากนาย ข. โดยชอบโดยกฎหมาย แต่ถ้า นาย ก. มีการยก สิทธิของตัวเอง ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ก็เป็นอีกเรื่อง นึงครับ................... จะสรุปว่าเป็นอย่างไร ต้องรอ พี่ๆ ที่ใช้กฎหมาย โดยอาชีพ มา วินิจฉัย และสรุปให้ครับ..........กระผมเอง ก็ ขอชมเป็นความรู้ไว้ครับ :VOV: หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2006, 02:24:37 PM :).. แยกเป็นคดีอาญา และคดีแพ่ง..
ในคดีอาญา ข้อเท็จจริงชัดเจน เข้าเป็นความผิด เรื่องลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม นาย ก. รู้เมื่อไหร่ ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์ ได้เมื่อนั้น. ในชั้นแรกอาจทราบเพียง ปืนและเอกสารหายไป ก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ ว่าทรัพย์ถูกลักไปแต่อย่างไม่ทราบคนร้าย แต่ทางการสืบสวน สอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ เอาจาก ปืนที่อยู่กับนาย ค. จึงรู้ว่าเป็นนาย ข. นาย ข .จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ตามที่กล่าวข้างต้น.. แต่ในความเป็นจริง นาย ก. คงไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะถ้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ นาย ข. นำไปออก ป.๔ ไม่ได้ครับ. สำหรับ นาย ค. ซื้อจากร้านปืน นาย ข. จ่ายค่าสินค้าโดยสุจริต ไม่มีความผิดฐานรับของโจร แต่ทรัพย์นั้น ยังถือว่าเป็นของโจร ป.๔ จะต้องถูกเพิกถอน อาวุธปืนจะถูกยึด และคืนแก่เจ้าของที่แท้จริง แต่ นาย ค. ย่อมใช้สิทธิทางแพ่ง ฟ้องเรียกเงินคืนจาก นาย ข ฐานละเมิด และยังฟ้อง นาย ข เป็นความผิด ในทางอาญาได้อีก ฐานฉ้อโกงทรัพย์.. สิทธิในตัวอาวุธปืน นาย ก. มีสิทธิ ดีกว่า นาย ค. แต่ทั้งนี้ แค่เป็นความเห็นเบื้องต้น.. เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงสมควรขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาล ตัดสินให้ ครับ. :) หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ ตุลาคม 21, 2006, 02:40:59 PM อ่านจากที่คุณ Ro@d เขียน เหมือนกับการแก้ปมเชือกที่ผูกติดใว้หลายปม
ค่อยๆแก้ทีละปม อธิบายได้เข้าใจง่ายดีครับ ขอบคุณมากๆ หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ ตุลาคม 21, 2006, 04:24:35 PM อ้างถึง :).. แยกเป็นคดีอาญา และคดีแพ่ง.. ในคดีอาญา ข้อเท็จจริงชัดเจน เข้าเป็นความผิด เรื่องลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม นาย ก. รู้เมื่อไหร่ ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์ ได้เมื่อนั้น. ในชั้นแรกอาจทราบเพียง ปืนและเอกสารหายไป ก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ ว่าทรัพย์ถูกลักไปแต่อย่างไม่ทราบคนร้าย แต่ทางการสืบสวน สอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ เอาจาก ปืนที่อยู่กับนาย ค. จึงรู้ว่าเป็นนาย ข. นาย ข .จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ตามที่กล่าวข้างต้น.. แต่ในความเป็นจริง นาย ก. คงไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะถ้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ นาย ข. นำไปออก ป.๔ ไม่ได้ครับ. สำหรับ นาย ค. ซื้อจากร้านปืน นาย ข. จ่ายค่าสินค้าโดยสุจริต ไม่มีความผิดฐานรับของโจร แต่ทรัพย์นั้น ยังถือว่าเป็นของโจร ป.๔ จะต้องถูกเพิกถอน อาวุธปืนจะถูกยึด และคืนแก่เจ้าของที่แท้จริง แต่ นาย ค. ย่อมใช้สิทธิทางแพ่ง ฟ้องเรียกเงินคืนจาก นาย ข ฐานละเมิด และยังฟ้อง นาย ข เป็นความผิด ในทางอาญาได้อีก ฐานฉ้อโกงทรัพย์.. สิทธิในตัวอาวุธปืน นาย ก. มีสิทธิ ดีกว่า นาย ค. แต่ทั้งนี้ แค่เป็นความเห็นเบื้องต้น.. เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงสมควรขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาล ตัดสินให้ ครับ. :) .ความเห็นผมคล้ายๆท่านว่าเมื่อนาย ข.ถูกตำรวจจับกุมในคดีอาญาในฐานลักทรัพย์ และฐานอื่นๆ .ตำรวจก็จะต้องยึดปืนกระบอกนั้นเอาไว้เป็นของกลางในคดีอาญาเพื่อจะคืนให้ นาย ก. เจ้าของแท้จริง . . แต่ปัญหามันมีอีกว่า ถ้านาย ค.ไม่ยอมให้ตำรวจยึดปืนไปคืนแก่นาย ก.. และไม่ยอมฟ้องทางแพ่งกับนาย ข.ฐานละเมิดด้วย โดยไปอ้าง ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ตามนี้ อ้างถึง ในความเห็นของผมนะครับ...ว่าด้วยเรื่องการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ. ในมาตรา 1332 บัญญัติว่า " บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา "ดังนั้น นาย ค.น่าจะมีสิทธิดีกว่าครับ และในเรื่องคดีอาญาก็ต้องว่าด้วยเจตนา ถ้าไม่ทราบ ก็ไม่มีเจตนา ในความฐานผิดรับของโจร เพราะโจทกย์ตั้งมาว่าโดยสุจริตนี่ครับ เป็นความเห็นนะครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบต่อไปครับ .จึงสงสัยว่า .นาย ค. จะอ้างแบบนั้นเพื่อให้นาย ก.มาใช้ราคาปืนที่ซื้อก่อนได้ไหม .เพราะนาย ค.แกอ้างว่าซื้อมาจากร้านขายปืนในท้องตลาดจริง+สุจริตจริง .นายก.จะต้องเสียเงินไหม. ถึงจะได้ปืนคืน เพราะถ้าเข้าปพพ.มาตรา 1332 ข้างบน . นายค .ก็ไม่ยอมคืนได้ .หากนาย ก.ไม่ ยอมจ่ายเงิน. หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: PPM ที่ ตุลาคม 21, 2006, 05:46:58 PM :).. แยกเป็นคดีอาญา และคดีแพ่ง.. ในคดีอาญา ข้อเท็จจริงชัดเจน เข้าเป็นความผิด เรื่องลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม นาย ก. รู้เมื่อไหร่ ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์ ได้เมื่อนั้น. ในชั้นแรกอาจทราบเพียง ปืนและเอกสารหายไป ก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ ว่าทรัพย์ถูกลักไปแต่อย่างไม่ทราบคนร้าย แต่ทางการสืบสวน สอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ เอาจาก ปืนที่อยู่กับนาย ค. จึงรู้ว่าเป็นนาย ข. นาย ข .จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ตามที่กล่าวข้างต้น.. แต่ในความเป็นจริง นาย ก. คงไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะถ้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ นาย ข. นำไปออก ป.๔ ไม่ได้ครับ. สำหรับ นาย ค. ซื้อจากร้านปืน นาย ข. จ่ายค่าสินค้าโดยสุจริต ไม่มีความผิดฐานรับของโจร แต่ทรัพย์นั้น ยังถือว่าเป็นของโจร ป.๔ จะต้องถูกเพิกถอน อาวุธปืนจะถูกยึด และคืนแก่เจ้าของที่แท้จริง แต่ นาย ค. ย่อมใช้สิทธิทางแพ่ง ฟ้องเรียกเงินคืนจาก นาย ข ฐานละเมิด และยังฟ้อง นาย ข เป็นความผิด ในทางอาญาได้อีก ฐานฉ้อโกงทรัพย์.. สิทธิในตัวอาวุธปืน นาย ก. มีสิทธิ ดีกว่า นาย ค. แต่ทั้งนี้ แค่เป็นความเห็นเบื้องต้น.. เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงสมควรขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาล ตัดสินให้ ครับ. :) ชัดเจน ครับพี่ Ro@d ขอบพระคุณ ครับ.............. ได้ความรู้อีกแล้วครับ :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: glocklover ที่ ตุลาคม 21, 2006, 10:38:05 PM .ความเห็นผมคล้ายๆท่านว่าเมื่อนาย ข.ถูกตำรวจจับกุมในคดีอาญาในฐานลักทรัพย์ และฐานอื่นๆ .ตำรวจก็จะต้องยึดปืนกระบอกนั้นเอาไว้เป็นของกลางในคดีอาญาเพื่อจะคืนให้ นาย ก. เจ้าของแท้จริง . . แต่ปัญหามันมีอีกว่า ถ้านาย ค.ไม่ยอมให้ตำรวจยึดปืนไปคืนแก่นาย ก.. และไม่ยอมฟ้องทางแพ่งกับนาย ข.ฐานละเมิดด้วย โดยไปอ้าง ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ตามนี้ .จึงสงสัยว่า .นาย ค. จะอ้างแบบนั้นเพื่อให้นาย ก.มาใช้ราคาปืนที่ซื้อก่อนได้ไหม .เพราะนาย ค.แกอ้างว่าซื้อมาจากร้านขายปืนในท้องตลาดจริง+สุจริตจริง .นายก.จะต้องเสียเงินไหม. ถึงจะได้ปืนคืน เพราะถ้าเข้าปพพ.มาตรา 1332 ข้างบน . นายค .ก็ไม่ยอมคืนได้ .หากนาย ก.ไม่ ยอมจ่ายเงิน. ผมมองจากคนภายนอกนะครับ นาย ค จะเรียกเงินค่าปืนคืนจากนาย ก ไม่น่าจะได้ครับ เพราะผู้ที่ต้องคืนค่าปืนให้นาย ค ก็คือ นาย ข นะครับ ;D อ้างถึง หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2006, 12:33:04 AM .ความเห็นผมคล้ายๆท่านว่าเมื่อนาย ข.ถูกตำรวจจับกุมในคดีอาญาในฐานลักทรัพย์ และฐานอื่นๆ .ตำรวจก็จะต้องยึดปืนกระบอกนั้นเอาไว้เป็นของกลางในคดีอาญาเพื่อจะคืนให้ นาย ก. เจ้าของแท้จริง . . แต่ปัญหามันมีอีกว่า ถ้านาย ค.ไม่ยอมให้ตำรวจยึดปืนไปคืนแก่นาย ก.. และไม่ยอมฟ้องทางแพ่งกับนาย ข.ฐานละเมิดด้วย โดยไปอ้าง ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ตามนี้ อ้างถึง ในความเห็นของผมนะครับ...ว่าด้วยเรื่องการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ. ในมาตรา 1332 บัญญัติว่า " บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา "ดังนั้น นาย ค.น่าจะมีสิทธิดีกว่าครับ และในเรื่องคดีอาญาก็ต้องว่าด้วยเจตนา ถ้าไม่ทราบ ก็ไม่มีเจตนา ในความฐานผิดรับของโจร เพราะโจทกย์ตั้งมาว่าโดยสุจริตนี่ครับ เป็นความเห็นนะครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบต่อไปครับ .จึงสงสัยว่า .นาย ค. จะอ้างแบบนั้นเพื่อให้นาย ก.มาใช้ราคาปืนที่ซื้อก่อนได้ไหม .เพราะนาย ค.แกอ้างว่าซื้อมาจากร้านขายปืนในท้องตลาดจริง+สุจริตจริง .นายก.จะต้องเสียเงินไหม. ถึงจะได้ปืนคืน เพราะถ้าเข้าปพพ.มาตรา 1332 ข้างบน . นายค .ก็ไม่ยอมคืนได้ .หากนาย ก.ไม่ ยอมจ่ายเงิน. .. :).. ในเบื้องต้น นาย ค จะต้องถูกดำเนินคดี ในความผิดฐานรับของโจร.. แต่ในที่สุด พนักงาน อัยการ อาจสั่งไม่ฟ้อง เนื่องเพราะ นาย ค ขาดเจตนาในการกระทำความผิด . แต่ อาวุธปืน ถือเป็นของกลางในคดี ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ฐานลักทรัพย์ ในคดีที่ นาย ข ก่อขึ้น เจ้าทรัพย์ คือ นาย ก. ทรัพย์สินเมื่อมีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครอง อ้างเหตุขาดเจตนา เพื่อให้ตนพ้นจากความผิด.. แต่มิได้ทำให้ ทรัพย์นั้น เป็นทรัพย์ที่ถูกต้องไปด้วย. เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอาญา ส่วนในเรื่องทางแพ่ง เป็นเรื่องที่ นาย ค จะต้องโต้แย้ง และไปฟ้องเอากับผู้กระทำเมิด เอาเอง ครับ. ในชั้นนี้ ศาลจะเป็นผู้พิจารณาให้ความเป็นธรรม ครับ. ตาม ป.แพ่งฯ มาตรา ๑๓๓๒ เป็นการโต้แย้งสิทธิในทางแพ่ง ของบุคคลที่สาม ที่ไม่ได้เกี่ยวกับคดีอาญา และทรัพย์นั้น ไม่ใช่ ทรัพย์ที่ได้มา จากการกระทำผิดในคดีอาญา .. ครับ. เป็นเพียงความเห็น ในฐานะนักกฎหมาย คนหนึ่ง. แต่ข้อเท็จจริง ในลักษณะนี้ น่าจะมีคำพิพากษาฎีกา ถ้าท่านใด พอทราบ ช่วยนำมาเสริม ให้ด้วยครับ. :) หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Sniper_T ที่ ตุลาคม 22, 2006, 01:17:26 AM เมื่อนาย ก.ไม่อยู่บ้าน. นาย ข.เข้าไปโขมยปืน+ป.๔ + สำเนาบัตรประชาชน
+ทะเบียนบ้านของนาย ก. +หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน ผมว่าทุกคนเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าครับ (ก็อย่างที่ จขกท.ว่าไว้แหละครับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง) ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีไครขโมยไครหรอกครับ (คิดตามโจทย์ไปด้วยนะครับ)นาย(ก)ตั้งใจขายปืนให้นาย(ข) ตั้งแต่แรกแล้ว (หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน-และไม่แจ้งความปืนหาย)แต่นึกเสียดายขึ้นมาทีหลัง เลยตามหาว่า นาย(ข)ขายปืนให้ไครไป แล้วใช้วิชา หัวหมอ :<><> ตลบหลัง นาย(ข)ว่าขโมยปืน แต่งานนี้ นาย(ข)และ นาย(ค)ไม่ผิด เพราะหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง แต่ นาย(ก)แจ้งความเท็จครับ :OO :DDนาย(ค)มีสิทธิ์ครอบครองปืนครับ :VOV: :VOV:ปิดคดี ;D :OO :OOเอ....หรือว่างานนี้ร่วมกันต้มเป็นแก๊งหว่า... :OO :OO :OO หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2006, 02:42:21 AM :) .. ถ้าฟังยุติตามข้อเท็จจริงที่ได้ . ต้องใช้ข้อกฎหมาย มาปรับให้เข้าข้อเท็จจริง .
และให้ความเห็นไปตามนั้น. กลาง กลาง ไม่เอนเอียงเข้าข้างใด. :) เมื่อนาย ก.ไม่อยู่บ้าน. นาย ข.เข้าไปโขมยปืน+ป.๔ + สำเนาบัตรประชาชน +ทะเบียนบ้านของนาย ก. +หนังสือมอบอำนาจให้ตัดโอน ข้อเท็จจริงนี้ รับฟังชัดเจนว่า เป็นการลักทรัพย์ และปลอมแปลงเอกสาร. แล้วครับ. :) หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2006, 02:56:01 AM :)..การรับฟังข้อเท็จจริงในคดี.. เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
บุคคลที่อยู่ในขบวนการยุติธรรม จะต้องพึงระมัดระวัง อย่างที่สุด และไม่ไปสร้างข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่.. นอกเหนือจากที่มีอยู่..ครับ. :). หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 22, 2006, 08:52:22 AM เรื่องนี้ตามความเห็นของผม คิดว่าเรื่องนี้ตกหนักที่ นาย ข คนเดียวในฐานะลักทรัพย์ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
ผลพวงที่ตามมาคือ นาย ค เสียเงินเสียเวลา ถึงฟ้องแพ่งต่อนาย ข ได้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้เงินเมื่อไหร่ เหมือน คดีฟ้องแพ่งทั่วไปที่ลูกหนี้มักบ่ายเบี่ยง ที่สำคัญคือตอนนั้น กว่าคดีถึงที่สุดก็ไม่รู้ว่านานเท่าไร และเมื่อตัดสิน ให้นาย ข ผิดก็โดนก็ติดคุกไปแล้ว เรื่องนี้ถึงเป็นเหตุการณ์สมมติ ก็เป็นข้อคิดและกรณีศึกษาที่ดี หากเป็นเราๆทั่วไป หากของหายก็ต้องแจ้งความ ไว้เป็นหลักฐานก่อน หากรอจน นาย ข ขายของให้นาย ค จนออก ป4 แล้ว ยังไม่ได้ดำเนินการคิดว่า นาย ก เศร้าเอง ขอบคุณพี่ Ro@d มากครับที่ให้คำแนะนำทางข้อกฎหมายชัดเจน หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: man999 ที่ ตุลาคม 25, 2006, 02:44:42 PM ผมเป็นนาย ก. ก็ต้องกะทืบนาย ข.แน่ๆๆ
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: พญายอง ที่ ตุลาคม 25, 2006, 04:02:29 PM ลองดูคำพิพากษาฎีกาประกอบนะครับ ไม่ทราบว่าจะเทียบเคียงได้หรือไม่ เฉพาะปัญหาทางแพ่งนะครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 2922/2522 ซื้อรถยนต์บรรทุกโดยสุจริตจากร้านขายรถยนต์ใช้แล้ว ตั้งอยู่ที่ตลาดอำเภอเมือง ซึ่งเป็นท้องตลาดยานยนต์ ผู้ซื้อได้รับการคุ้มครองตาม มาตรา 1332 เจ้าของที่แท้จริงยึดรถในการบังคับคดีโดยไม่ชดใช้ราคาที่ซื้อมาไม่ได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 1801/2500 ซื้อน้ำมันเบนซินในท้องตลาดโดยสุจริต และส่งมอบแล้วกรรมสิทธิ์ในน้ำมันเป็นของผู้ซื้อ แม้น้ำมันนั้นจะถูกขโมยมา เจ้าของจะเอาคืนไม่ได้ เว้นแต่จะชดใช้ราคา คำพิพากษาฎีกาที่ 1928/2534 การที่จำเลยรับซื้อสินค้าของโจทก์ร่วมไว้จาก ร. พนักงานขายของโจทก์ร่วม ถือได้ว่าเป็นการซื้อสินค้าไว้จาก ร. ผู้ขายสินค้าชนิดนั้น เมื่อจำเลยซื้อมาโดยสุจริตและไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมเสนอชดใช้ราคาให้ จำเลยจึงไม่จำต้องคืนสินค้าของกลางหรือชดใช้ราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ร่วม พญายอง หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: yakdee ที่ ตุลาคม 25, 2006, 04:55:44 PM :).. และยังฟ้อง นาย ข เป็นความผิด ในทางอาญาได้อีก ฐานฉ้อโกงทรัพย์.. . :) ด้วยความเคารพนะครับ ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินคดีอาญากับนาย ข. ในข้อหานี้ เพราะการฉ้อโกง คือการหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่น แต่การขายอาวุธปืนในกรณีนี้ ไม่น่าจะเรียกว่าหลอกลวงผู้อื่นเพื่อเอาทรัพย์โดยทุจริต เช่น หลอกขายปืนจริง ๆ แต่กลับส่งปืนกระดาษให้อย่างนี้ อันเป็นความผิดอาญา แต่ตามปัญหา เป็นเพียงแต่หลอกลวงว่าตนมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นเท่านั้น ซึ่งก็มีทรัพย์(ปืน)ในการซื้อขายกันจริง ๆ โปรดติชมได้ครับ..ตามสะดวก หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: Boss888 ที่ พฤศจิกายน 11, 2006, 11:31:39 PM ขอบคุณทุกกระทู้ที่ให้ความรู้ครับผม
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ไทสกล ที่ พฤศจิกายน 11, 2006, 11:46:33 PM นาย ก นาย ข นาย ค โอ้ยปวดหัวน่าจเรียนนิติแต่แรกจะได้ไม่ปวดหัว ด้วยความเคารพไม่รู้เรื่องกฎหมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ฅนแผ่นดิน ที่ พฤศจิกายน 12, 2006, 02:09:13 AM รอดู
หัวข้อ: Re: ปืนใคร. เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ พฤศจิกายน 12, 2006, 08:07:39 AM ลองดูคำพิพากษาฎีกาประกอบนะครับ ไม่ทราบว่าจะเทียบเคียงได้หรือไม่ เฉพาะปัญหาทางแพ่งนะครับ คำพิพากษาฎีกาที่ 1801/2500 ซื้อน้ำมันเบนซินในท้องตลาดโดยสุจริต และส่งมอบแล้วกรรมสิทธิ์ในน้ำมันเป็นของผู้ซื้อ แม้น้ำมันนั้นจะถูกขโมยมา เจ้าของจะเอาคืนไม่ได้ เว้นแต่จะชดใช้ราคา .ธงคำตอบของเรื่องนี้. ดูแล้วน่าจะอยู่ที่คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้. แหละครับ ดูแล้วข้อเท็จจริงใกล้เคียงกันมาก. เทียบเคียงกันได้เลย. .ขอบคุณ. ท่าน .พญายอง. ที่นำมาลงให้ดูครับ. :) :) |