เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 04, 2015, 07:08:39 PM



หัวข้อ: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 04, 2015, 07:08:39 PM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: him1911@1 ที่ ธันวาคม 04, 2015, 09:36:49 PM
ชื่อคล้ายกับ นายกของสิงค์โปร ..... !


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 04, 2015, 11:31:20 PM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO
น่าจะ4ชุดกลุ่มดีสะด้วย :OO


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 05, 2015, 12:50:59 AM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO
น่าจะ4ชุดกลุ่มดีสะด้วย :OO

ฝั่งตะวันออกยังคงแรงตลอดนะครับ  นิยมใช้อาวุธสงคราม  นี้ขนาดขาดช่วงการเมืองท้องถิ่นมาปีสองปี  แต่รับงานยังใช้ของหนักเหมือนเดิม เป็นเอกลักษณ์   :<<


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 05, 2015, 05:16:45 AM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO

มืออาชีพจริงๆ

ทะเบียนสวยด้วย แต่ขายถูกๆก็ไม่เอาแล้ว


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ธันวาคม 05, 2015, 09:00:36 AM
ยิงจากในรถคันที่ยิงปลอกเลยไม่มี


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ ธันวาคม 05, 2015, 10:06:14 AM
สงสัยมือปืนป๊อบคอร์น ;D ::005::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 05, 2015, 05:56:21 PM
http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000134476


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 05, 2015, 06:10:18 PM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO




มืออาชีพจริงๆ

ทะเบียนสวยด้วย แต่ขายถูกๆก็ไม่เอาแล้ว






5555  ยายว่า " มืออาชีพ "  ตอนยิง ถนอมรถ กะว่า เวลาขายต่อ ไม่เสียทรง อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 06, 2015, 05:38:22 AM
5555  ยายว่า " มืออาชีพ "  ตอนยิง ถนอมรถ กะว่า เวลาขายต่อ ไม่เสียทรง อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007::

เจ้าของเต๊นขายรถหรือครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 06, 2015, 11:28:28 AM


5555  ยายว่า " มืออาชีพ "  ตอนยิง ถนอมรถ

กะว่า เวลาขายต่อ ไม่เสียทรง อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007::



เจ้าของเต๊นขายรถหรือครับ ;D ;D ;D




5555  มันยิงแทบ  " ไม่โดน " ตัวถังเลยอ่ะ ฮา 5555555  ::007:: ::007:: ::007::

เวลาจะ  " เข้าเต้นท์ " ขายต่อ  เปลี่ยนกระจก แค่นั้น อ่ะ ฮา 555

55555  แล้วก็  " โอน ย้ายทะเบียน "  สอง สามรอบ ฟอกกลับ กรุงเทพ ได้แล้ว อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ธันวาคม 06, 2015, 01:22:15 PM
 ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 06, 2015, 04:54:58 PM


 ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ





55555  เฮ้ย  พี่คาร์  เขาเป็นคนยิ๊ง  ยายม่ะเกี่ยว อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: araki-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 06, 2015, 05:04:51 PM
 ::005::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 06, 2015, 08:36:59 PM
ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ
ชอบเอาเรื่องจริงมาแฉ ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 06, 2015, 09:35:36 PM
ดีแล้วที่ไม่เอาภาพผู้เคราะห์ร้ายมาออกข่าว

ผมเห็นจากไลน์กู้ภัย แทบกินข้าวไม่ลง... อานุภาพกระสุนน่ากลัวจริง ๆ


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 07, 2015, 08:02:48 AM
ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ
55555  เฮ้ย  พี่คาร์  เขาเป็นคนยิ๊ง  ยายม่ะเกี่ยว อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::

โหยยยย ยายยยย

โยนขี้มาให้ก้อนเบ้อเร่อเลยนะ ;D ;D ;D จ้างวานโดนหนักสุดล่ะ คนวางแผน55555


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 07, 2015, 08:30:30 AM


ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ




55555  เฮ้ย  พี่คาร์  เขาเป็นคนยิ๊ง  ยายม่ะเกี่ยว อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::




โหยยยย ยายยยย

โยนขี้มาให้ก้อนเบ้อเร่อเลยนะ ;D ;D ;D

จ้างวานโดนหนักสุดล่ะ คนวางแผน55555







(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 07, 2015, 09:00:11 AM


ยายวางแผนการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วว่างั้นเหอะ




55555  เฮ้ย  พี่คาร์  เขาเป็นคนยิ๊ง  ยายม่ะเกี่ยว อ่ะ ฮา 55555 ::007:: ::007:: ::007::



โหยยยย ยายยยย

โยนขี้มาให้ก้อนเบ้อเร่อเลยนะ ;D ;D ;D

จ้างวานโดนหนักสุดล่ะ คนวางแผน55555




5555  ช่วงนี้   " แม่สาย " อากาศเย็น ขมุกขมัว  อ่ะ ฮา 55555

ไม่ได้ออกกำลังกาย  เหมือนกับจะ  " เป็นไข้ " อ่ะ ฮา 5555

5555555555  " ไล่ชก  "  พี่คาร์ ดีกว่า อ่ะ ฮา 555555 ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 07, 2015, 10:02:59 AM
5555555555  " ไล่ชก  "  พี่คาร์ ดีกว่า อ่ะ ฮา 555555 ::007:: ::007:: ::007::

ได้ครับ แต่ต้องวิ่งไล่ผมให้ทันนะ ;D ;D ;D เพราะผมวิ่งหนีอย่างเดียว

เราไม่สู้คน 55555555

กทม เช้านี้ก็อากาศเย็นดีมากเลยครับ แต่สมุยฝนเยอะ


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ธันวาคม 07, 2015, 10:08:58 AM
สงสัยต้องลงไปแก้งานที่ขนอมอีกแล้วคราวก่อนสามวันฝนตกตั้งแต่ไปถึง เปียกๆแห้งๆ แล้วก็ ลืมกินขนมจีน ข้าวยำ อุตส่าห์ไปนครศรีทั้งที


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: BIG BERETTA ที่ ธันวาคม 07, 2015, 10:19:31 AM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO
น่าจะ4ชุดกลุ่มดีสะด้วย :OO

  พาหะนะของผู้ประสบเคราะห์ มีอัตราเร่ง 0-100 แค่ 7 วิ กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร  ความเร็วปลาย 240 กม./ชม. ถ้าชุดแรกพลาด เหยื่อมีโอกาสโบยบินสู่อิสระภาพ ด้วยบลูเทค ไฮบริดจ์เทคโนโลยี  แต่ที่มีกระสุนเจาะถึง 4 ชุดก็เพราะระบบเบรคของรถจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อใกล้สิ่งกิดขวาง คือมึรถของผู้อื่นสัญจรอยู่ข้างหน้า แล้วไม่สามารถมุดหนี ซิกแซกได้ดีนัก ความเร็วจึงลดลง รถคอมแพคคาร์จึงตามมาทัน เป็นผลให้เกิดกระสุนชุดที่ 2 3 4 ตามลำดับครับ


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 07, 2015, 04:30:37 PM
ข้อเสียของรถไฮเทค ::012::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 07, 2015, 05:42:54 PM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO




น่าจะ4ชุดกลุ่มดีสะด้วย :OO


  พาหะนะของผู้ประสบเคราะห์ มีอัตราเร่ง 0-100 แค่ 7 วิ กำลัง 204 แรงม้า

แรงบิด 500 นิวตันเมตร  ความเร็วปลาย 240 กม./ชม.

ถ้าชุดแรกพลาด เหยื่อมีโอกาสโบยบินสู่อิสระภาพ ด้วยบลูเทค ไฮบริดจ์เทคโนโลยี  

แต่ที่มีกระสุนเจาะถึง 4 ชุดก็เพราะระบบเบรคของรถจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อใกล้สิ่งกิดขวาง

คือมึรถของผู้อื่นสัญจรอยู่ข้างหน้า แล้วไม่สามารถมุดหนี ซิกแซกได้ดีนัก

ความเร็วจึงลดลง รถคอมแพคคาร์จึงตามมาทัน

เป็นผลให้เกิดกระสุนชุดที่ 2 3 4 ตามลำดับครับ





55555  สารวัตรจอย  ไปเอาตัว  " Green Kawasaki "  มาสอบด้วย อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 07, 2015, 08:15:10 PM
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เปิดโปงเบื้องหลังการฆ่าเศรษฐีพันล้านมาเลเซีย พบประเด็นมาเฟียกลุ่มธุรกิจหมื่นล้านรุกเข้ายึดครอง อสังหาริมทรัพย์ใน จ.สงขลา
      
       วันนี้ (7 ธ.ค.) จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถเก๋งประกบยิง มิสเตอร์ ลี อาฮง อายุ 50 ปีเศษ ด้วยอาวุธปืนสงคราม ขณะขับรถเบ็นซ์หรูพร้อมภรรยา เพื่อเดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ ขึ้นเครื่องบินไปทำธุรกิจที่ กทม. เหตุเกิดที่ บ้านคอลงปอม ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเหตุให้ นายลี อาฮง เสียชีวิตทันที่ ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
      
       หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สอบสวน สภ.ทุ่งลุง และ ชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.สงขลา รวมทั้ง ศ.สส. ผบช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลของสาเหตุความขัดแย้ง โดยเบื้องต้นมีการตั้งประเด็นสงสัยถึงสาเหตุของการฆ่ามิสเตอร์ลี อาฮง ไว้ 2 ประเด็นคือ เรื่อง หักหลังทางธุรกิจ และ เรื่องชู้สาว
      
       ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง ซึ่งมีความชำนาญในเรื่องของกล้องวงจรปิด ได้ทำการไล่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหารถยนต์ต้องสงสัยของคนร้าย ตั้งแต่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ตาย จนถึงที่เกิดเหตุ และเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ รวมทั้งทางแยก ไปยัง อ.คลองหอยโข่ง และเส้นทางอื่น ๆ ซึ่งกลุ่มคนร้าย อาจจะใช้เป็นเส้นทาง หลบหนี หลังการก่อเหตุ
      
       ประเด็นที่สำคัญของคดีนี้อยู่ที่ ผู้ตาย หรือ มิสเตอร์ ลี อาฮง หาใช้ชาวมาเลเซีย “กิ๊กก๊อก” ที่เป็นนักธุรกิจธรรมดาหรือนักการพนัน นักค้ายาเสพติด ซึ่งหลายต่อหลายรายมาถูก “ฆ่า” ในพื้นที่ของ จ.สงขลา แต่ มิสเตอร์ ลี อาฮง เป็นเศรษฐีพันล้าน เป็นนักธุรกิจที่เป็นพ่อค้าอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา มิสเตอร์ลี เข้ามากว้านซื้อที่ดินในเขตเทศบาลสำนักขาม ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นมูลค้าหลายพันล้านบาท
      
       แม้แต่ที่ดินแปลงสวยที่สุดในใจกลางเมืองเศรษฐกิจบ้านจังโหลน เขตเทศบาล ต.สำนักขาม จำนวน 7 ไร่ ราคากว่า 1 พันล้านบาท ก็ตออยู่ในมือของ มิสเตอร์ลี ผู้นี้
      
       ลี อาฮง เป็นใคร มาจากไหน ถ้าถามคนในพื้นที่ คงจะต้องหา “ผู้รู้” ซึ่งมีไม่กี่คนที่ตอบได้ แต่ถ้าถามว่า “แก๊งอาลีบาบา” เป็นใคร คนในตลาดจังโหลน เขตเทศบาล ต.สำนักขาม จะต้องร้อง อ๋อ เพราะมิสเตอร์ลี คือผู้หนึ่งใน “แก๊งอาลีบาบา” ถามว่าทำไมแก๊งนักธุรกิจแก๊งนี้ จึงถูกเรียกว่า “อาลีบาบา”
      
       สาเหตุคือการ “หว่านโปรย” เงินในการใช้จ่ายการทำธุรกิจ และเลี้ยงดูปูเสื่อเจ้าหน้าที่รัฐ และเด็ก ๆ ตามห้องอาหาร ย่านธุรกิจบันเทิง อย่าง “ฟุ่มเฟือย” เหมือนกับการมี “ตะเกียงวิเศษ” อย่างกับ “อาลีบาบา” ในจินตนิยายของฝรั่ง
      
       ลี ฮาฮง เข้ามาในบ้านจังโหลน ต.สำนักขาม ครั้งแรกมาอยู่ภายใต้ “ร่มธง” ของนักธุรกิจข้ามชาติชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและ “ล้มละลาย” ในประเทศของตนเอง โดยเข้ามา “แสวงโชค” ด้วยการทำธุรกิจบันเทิงที่เป็นแบบ “เทา ๆ” ในบ้านจังโหลน ก่อนที่จะยกระดับเป็น เจ้าของโรงแรมชื่อดังที่เป็นที่รู้จัดกันในกลุ่ม “พี”
      
       ซึ่งเจ้าของประธาน “กลุ่มพี” ที่คนในพื้นที่ โดยเฉพาะนายตำรวจระดับใหญ่ของจังหวัด และภาค 9 รู้จักกันดีในนามของ “เฮีย ก.” ซึ่งเป็นนักธุรกิจข้ามชาติผู้กว้างขวางคนหนึ่งในพื้นที่ อ.สะเดา ที่สามารถทำหลายอย่างอยู่เหนือกฎหมายไทย
      
       และที่สำคัญคือ “กลยุทธ” การเอาคนในเครื่องแบบ คนมีสี ที่ให้คุณให้โทษกับธุรกิจของตนเองในบ้านไทยจังโหลน หรือ “ด่านนอก” ด้วยการให้คนในเครื่องแบบเหล่านี้เป็น “หุ้นส่วน” โดยที่ไม่ต้อง “ลงเงิน” ซึ่งหมายถึงการเป็น “หุ้นลม” นั้นเอง
      
       ดังนั้น ธุรกิจของ “กลุ่มพี” ที่มี “เฮีย ก.” เป็นประธาน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ “สีเทา” หรือสีอะไรก็แล้วแต่ ถูกมองเป็น “สีเงิน” กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยไหนที่กล้า “แตะต้อง” นั่นคือความยิ่งใหญ่ของ “เฮีย ก.” และ “กลุ่มพี” ที่สยายปีกเข้าไปครอบคลุมธุรกิจมากมาย ทั้งโรงแรม สถานบันเทิง และ อื่น ๆ จนหลายคนสงสัยว่า “ด่านนอก” หรือ “บ้านไทยจังโหลน” ชายแดนไทย-มาเลเซีย ยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศไทยหรือไม่
      
       ลี อาฮง เข้ามารวมทุนกับ “เฮีย ก.” ด้วยการเป็นนักลงทุนในการกว้านซื้อที่ดิน เพื่อขายต่อให้กับนักธุรกิจชาวมาเลเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนในรัฐเคดาห์ ที่มีจุดประสงค์ในการ “ฟอกเงิน” เพราะการถือเงินสดในประเทศมาเลเซีย ย่อมถูกตรวจสอบ
      
       ดังนั้น สถานะของ มิสเตอร์ลี นอกจากจะเป็นการเข้ามา “ลงทุน” ด้วยเงินทุนของตนเองแล้ว ยังอยู่ในสถานะของ “นอมินี” ของนักลงทุน ที่เป็นทั้งนักธุรกิจและนักการเมืองข้ามชาติจากประเทศมาเลเซีย อีกด้วย
      
       ดังนั้น สถานะของ มิสเตอร์ลี จึงถูกขนานนามว่า นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้าน จึงไม่ได้ผิดจากข้อเท็จจริง แต่ประการใด
      
       การเข้ามาอยู่ใต้ “ร่มธง” ของ “เฮีย ก.” เมื่อนานเข้า ย่อมเกิดความต้องการแยกตัวออกมา ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวของ “โกว้เล้ง” เจ้าของสวนอักษรนวนิยายกำลังภายในนามอุโฆษของโลกว่า “หนึ่งภูเขา ยากซ่อนสองเสือ” ในระยะหลัง มิสเตอร์ลี จึงแยกตัวออกมา ยืนด้วย “ขา” ของตนเอง และมี “กลุ่ม” ของตนเองขึ้น แต่ก็ยังคงทำธุรกิจซื้อ-ขายที่ดินกับ “เฮีย ก.” ซึ่ง “เฮีย ก.” ก็มีกลุ่มทุนข้ามชาติอีกกลุ่มที่ร่วมทุนในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ที่ดิน โรงแรม คอนโด อพาร์ตเมนต์ และสถานบันเทิง ทั้ง “สีเงิน” และ “สีเทา” ในนามของ “กรุ๊ป เอ็ม” ซึ่งเป็นกลุ่มทุนข้ามชาติระดับ 10,000 ล้าน โดยมีเป้าหมายในการยึดครองอสังหาริมทรัพย์ใน ต.สำนักขาม อย่าง “เบ็ดเสร็จ”
      
       เมื่อ 6 เดือน ก่อนที่จะถึงวันนี้ มิสเตอร์ลี ได้นำเช็คของ “เมย์แบ็งค์” ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของประเทศมาเลเซีย จำนวน 30 ใบ เป็นเงิน 30 ล้าน ซึ่งถูกธนาคารปฏิเสธการจ่าย (เช็คเด้ง) มาปรึกษาคดีกับ “นักกฎหมาย” ท่านหนึ่งเพื่อฟ้องร้องเจ้าของเช็ค แต่ไม่สามารถที่จะตกลงรายละเอียดกันได้ นักกฎหมายท่านนั้นจึงได้คืนเช็คทั้งหมดกลับไป และเจ้าของผู้ทรงเช็คทั้ง 30 ใบ คือ “เฮีย ก.”
      
       ดังนั้นหลังจากที่ มิสเตอร์ลี ถูก “สั่งตาย” กลุ่มทุนในกลุ่ม “อาลีบาบา” ของ มิสเตอร์ลี จึงเชื่อว่า ปมการสังหาร ครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องของเงิน 30 กว่าล้าน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็น 30 ล้านบาทไทย หรือ 30 ล้านเหรียญริงกิต
      
       ส่วนประเด็นที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ ก่อนเสียชีวิต มิสเตอร์ลี ได้ทำการซื้อโครงการหมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่ง ที่บ้านท่าสะท้อน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวงเงินที่ไม่เปิดเผย แต่ยอมเป็นวงเงินไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นของนักการเมืองคนหนึ่งใน จ.สงขลา
      
       และแน่นอนว่า ทั้ง 2 ประเด็น ย่อมเป็นหน้าที่ของตำรวจ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อการคลี่คลายคดีในการจับกุมคนร้ายและผู้บงการมาลงโทษ
      
       ล่าสุด ภรรยาของมิสเตอร์ลี หรือ “มยุรี” ซึ่งเป็น “ชาวสยามเกดะ” หมายถึงเป็นคนไทยในรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ที่รอดชีวิตในครั้งนี้ ได้เข้าร้องทุกข์กับหัวหน้าตำรวจรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อของความคุ้มครอง และขอให้ประสานกับตำรวจไทยในการจับกุมคนร้าย
      
       ประเด็นที่สำคัญคือ “มยุรี” ได้ให้ปากคำกับตำรวจมาเลเซียถึงรายละเอียดของคดีดังกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุใครเป็นผู้ข่มขู่ มิสเตอร์ลี เพื่อที่จะเอาชีวิต
      
       ส่วนในด้านของตำรวจไทย พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.58 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งสรุปได้ว่าจากการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ารถของคนร้ายใช้ป้ายทะเบียนปลอม หลังก่อเหตุขับหลบหนีไปทางถนนชนบทสายคลองแงะ-ควนกบ ซึ่งเป็นถนน “ก้างปลา” ที่สามารถออกไปยัง อ.คลองหอยโข่ง สนามบิน หรือย้อนกลับไปยัง ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ก็ได้ โดยมีเบาะแสที่ชัดเจนว่า คนร้ายรอและติดตามมิสเตอร์ลี ตั้งแต่บ้านไทยจังโหลน ก่อนที่จะติดตามลงมือสังหาร
      
       ส่วนผู้บงการจะเป็นใครและมือปืนจะเป็นมืออาชีพในซุ้มของใคร นักการเมือง หรือคนมีสี โปรดติดตาม

http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000135014
        


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ธันวาคม 08, 2015, 11:15:45 AM
สีเทาๆนี่ปล่อยให้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมก็ได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 08, 2015, 04:41:30 PM
คดีนี้น่าไม่ยาก ยิ่งหากทางการมาเลย์ฯ เร่งคดีมาอีกสอบสวนช้าๆอาจมีปิดด่าน ;D


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 08, 2015, 06:29:38 PM
เจ้าตัวน่าจะไม่ได้ระวังตัวเลย หรือไม่รู้ว่าเมืองไทย เงินไม่กี่บาทก็จ้างได้ทุกอย่าง  :P


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: BIG BERETTA ที่ ธันวาคม 08, 2015, 06:37:33 PM
เจ้าตัวน่าจะไม่ได้ระวังตัวเลย หรือไม่รู้ว่าเมืองไทย เงินไม่กี่บาทก็จ้างได้ทุกอย่าง  :P
  รู้ครับ ระดับนี้ เขาเข้าๆ ออกๆเมืองไทยมาตั้งหนุ่มๆแล้ว หลายคนก็ถือสองสัญชาติมากมาย


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ธันวาคม 08, 2015, 06:40:07 PM
คดีนี้คนสั่งการน่าจะไม่ธรรมดา มาดูกันว่าเจ้าหน้าที่จะจับใคร


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: BIG BERETTA ที่ ธันวาคม 08, 2015, 06:41:19 PM
http://www.thairath.co.th/content/544580

เล่นกันเที่ยงๆเลย กลางวันแสก   กลุ่มกระสุนไม่ธรรมดา  เก็บปลอกด้วย   :OO




น่าจะ4ชุดกลุ่มดีสะด้วย :OO


  พาหะนะของผู้ประสบเคราะห์ มีอัตราเร่ง 0-100 แค่ 7 วิ กำลัง 204 แรงม้า

แรงบิด 500 นิวตันเมตร  ความเร็วปลาย 240 กม./ชม.

ถ้าชุดแรกพลาด เหยื่อมีโอกาสโบยบินสู่อิสระภาพ ด้วยบลูเทค ไฮบริดจ์เทคโนโลยี  

แต่ที่มีกระสุนเจาะถึง 4 ชุดก็เพราะระบบเบรคของรถจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อใกล้สิ่งกิดขวาง

คือมึรถของผู้อื่นสัญจรอยู่ข้างหน้า แล้วไม่สามารถมุดหนี ซิกแซกได้ดีนัก

ความเร็วจึงลดลง รถคอมแพคคาร์จึงตามมาทัน

เป็นผลให้เกิดกระสุนชุดที่ 2 3 4 ตามลำดับครับ





55555  สารวัตรจอย  ไปเอาตัว  " Green Kawasaki "  มาสอบด้วย อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

 สารวัตรจอยโปรดอย่าทำเช่นนั้น ผมไม่รู้อะไรมากดอก รู้แค่เพียงว่า กันชนหน้า พร้อมชุดเซ็นเซอร์ของรถรุ่นนี้มันราคาสามแสนกว่าบาทครับ


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 08, 2015, 09:53:48 PM




55555  สารวัตรจอย  ไปเอาตัว  " Green Kawasaki "  มาสอบด้วย อ่ะ ฮา 5555 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

 สารวัตรจอยโปรดอย่าทำเช่นนั้น ผมไม่รู้อะไรมากดอก รู้แค่เพียงว่า กันชนหน้า พร้อมชุดเซ็นเซอร์ของรถรุ่นนี้มันราคาสามแสนกว่าบาทครับ
[/quote]
มัวแต่จ้องแคมรี่สีขาว ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ธันวาคม 08, 2015, 10:21:48 PM
เลยแยกลำกะโหลกฝั่งโน้นมีอะไรดีน้าอยากรู้จัง


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 08, 2015, 10:53:09 PM
เลยแยกลำกะโหลกฝั่งโน้นมีอะไรดีน้าอยากรู้จัง
พี่ต้องมาวนดู แคมรี่ สีขาวมาป้วนเปี่ยนแถวนี้บ่อย ::007::


หัวข้อ: Re: รัวM16ถล่มนักธุรกิจมาเลย์คาเบนซ์หรู
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 09, 2015, 06:42:57 PM
“ยังจับใครไม่ได้ และยังไม่มีอะไรคืบหน้า”
       
       นี่คือคำตอบของนายตำรวจระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เกี่ยวกับคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มรถเบนซ์หรูของ “มิสเตอร์ลี อาฮง” นักธุรกิจพันล้าน มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชาวมาเลเซีย ที่เข้ามาสยายปีกที่ “ด่านนอก” หรือบ้านไทยจังโหลน เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา และได้รุกเข้าสู่พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยก่อนที่จะเสียชีวิตได้เข้าซื้อ “โครงการหมู่บ้านประกายทอง” บ้านท่าท้อน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จากนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่ง
       
       ในทางการสอบสวนเจ้าหน้าที่นั้น ได้ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งในเรื่องการซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ระหว่างผู้ตายกับ “เฮีย ก.” ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซีย เจ้าโรงแรมในตลาดไทยจังโหลน เนื่องจากมีการจ่ายเช็คเด้งให้แก่ผู้ตายจำนวนกว่า 30 ล้านริงกิต ส่วนในประเด็นการซื้อโครงการหมู่บ้านประกายทอง ยังอยู่ระหว่างหาข้อมูลของความขัดแย้ง
       
       ในขณะที่ภรรยาของผู้ตายที่รอดชีวิตได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ โดยมุ่งประเด็นเรื่องหนี้สินระหว่างผู้ตาย กับ “เฮีย ก.” เช่นกัน
       
       ล่าสุด แหล่งข่าวผู้คร่ำหวดในพื้นที่เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวเรื่องมาเฟียมาข้ามชาติชาวมาเลเซียที่เข้ามากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่บ้านไทยจังโหลน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐให้การสนับสนุน เนื่องจากมีผลประโยชน์ร่วมกันเผยแพร่ออกมา
       
       ปรากฏว่า พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ได้ให้ความสนใจในประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของ บชภ.9 เข้าไป “เอี่ยว” กับกลุ่มมาเฟียข้ามชาติดังกล่าว และการให้ความช่วยเหลือหรือคุ้มครองในธุรกิจผิดกฎหมาย โดยได้สั่งการให้มีการตรวจสอบว่า นายตำรวจระดับสูงที่เข้าไปสนับสนุนกลุ่มมาเฟียมาเลเซียในธุรกิจผิดกฎหมายที่บ้านไทยจังโหลนมีใครบ้าง
       
       ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มมาเฟียในพื้นที่พยายามที่จะตรวจสอบว่า ผู้สื่อข่าวที่นำเสนอข่าวนี้เป็นใคร โดยการเข้าไปสอบถามกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ด้วย
       
       แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ข่าวคราวเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และการใช้สถานบันเทิงเป็นแหล่งกระจายเสพยาเสพติดต่างๆ ได้ทำให้ตำรวจ และฝ่ายปกครองสั่งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้มงวด โดยมีการสั่งคำไว้กับเจ้าของกิจกรรมให้ระวังป้องกันอย่าได้ทำธุรกิจเหล่านี้อย่างประเจิดประเจ้อ เพราะเกรงเจ้าหน้าที่ “นอกหน่วย” จะเข้าไปจับกุม
       
       ในขณะที่ธุรกิจการค้ามนุษย์ในบ้านไทยจังโหลน ถ้าเจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ สามารถที่จะตรวจสอบได้จากสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะ และนวดแผนโบราณ รวมทั้งอื่นๆ โดยยกตัวอย่างสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่มีหญิงต่างชาติเข้ามาทำงานเป็น “แม่บ้าน” โดยสำนักงานจัดหางานออกเอกสารการทำงานให้ถึง 200 คน ในบ้านแค่หลังเดียว ซึ่งตำแหน่งงานที่เจ้าหน้าที่ออกให้ก็คือ การขายบริการนั่นเอง
       
       นอกจากนั้น ยังพบว่ามีหญิงสาวจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวนมากที่ถือหนังสือเดินทางถูกต้อง โดยเข้าไปอาศัยทำงานในสถานบันเทิงอย่างผิดกฎหมายเพื่อรอการข้ามแดนไปยังประเทศที่สาม
       
       แหล่งข่าวระบุอีกว่า ธุรกิจเหล่านี้ล้วนเป็นของชาวมาเลเซีย โดยมีคนไทยเป็นนอมินี และมีการจ่ายใต้โต๊ะให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง และจัดหางานเป็นรายหัว เพื่อให้สามารถทำธุรกิจผิดกฎหมายโดยไม่ถูกจับกุม
       
       เช่นเดียวกับธุรกิจการค้ายาเสพติดที่เป็นทำเงินได้อย่างมหาศาลในพื้นที่บ้านไทยจังโหลน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความคุ้มครอง มีการเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครอง หรือค่าอำนวยความสะดวกเป็นบ้านๆ หรือเป็นซอยๆ เพื่อป้องกันมิให้มีการตรวจค้นจับกุม รวมถึงป้องกัน “หน่วยนอก” เข้าไปดำเนินการด้วย
       
       ในขณะที่แหล่งข่าวของตำรวจในรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ให้ข้อมูลว่า สถิติการก่อคดีอาชญากรรมในรัฐเกดะห์สูงขึ้นในทุกปี สืบเนื่องจากชาวมาเลเซียในพื้นที่แนวชายแดนได้รับการฝึกการใช้อาวุธ และซื้ออาวุธจากฝั่งไทยเพื่อใช้ในการก่ออาชญากรรมในฝั่งมาเลเซีย
       
       เรื่องนี้สอดรับต่อความเป็นจริงของตลาดไทยจังโหลน หรือด่านนอก ที่มีกลุ่มมาเฟียมาเลเซียเข้าไปฝึกการยิงปืน ทั้งปืนสั้น ปืนยาว ณ สนามยิงปืนของ ตชด.ที่ตั้งอยู่ใน ต.สำนักขาม และมีการซื้ออาวุธปืนเป็นจำนวนมากของนักธุรกิจมาเลเซีย โดยซื้อในนามของคนไทยที่เป็นลูกน้อง หรือผู้หญิงที่เป็นผู้ดูแลกิจการ โดยจะมีผู้พบเห็นอย่างคุ้นตาคือ ชาวมาเลเซียที่อยู่ในกลุ่มของมาเฟียพกปืนเป็นจำนวนมาก และหากมีการตรวจค้นก็จะส่งให้แก่ลูกน้องที่เดินตามหลัง ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของเมืองชายแดนแห่งนี้
       
       ด้านแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงของรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย เพิ่มเติมข้อมูลว่า เมื่อหลายเดือนก่อนมีเหตุ จยย.บอมบ์เกิดขึ้นที่ อ.กัวมูสัง รัฐเกดะห์ พื้นที่ติดกับชายแดนไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ซึ่งจากการสืบสวนในทางลับพบว่า รถ จยย.บอมบ์คันดังกล่าวคนร้ายซื้อไปจากกชาวไทยที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อใช้ในการก่อเหตุ
       
       อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าวเสริมว่า ธุรกิจทุกอย่างในเมืองชายแดนแห่งนี้กำลังกลายเป็นของชาวมาเลเซียเกือบทั้งหมด แม้แต่งานรับเหมาก่อสร้าง งานบริการ บ้านเช่า หอพัก อพาร์ตเมนต์ โรงแรม และสถานบันเทิง และที่น่าเป็นห่วงคือ ธุรกิจที่ผิดกฎหมายที่ทำในหาดใหญ่ หรือเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ได้ แต่สามารถทำได้ทุกอย่างที่เมืองชายแดนแห่งนี้
       
       เนื่องเพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ ต่างไม่ได้ให้ความสนใจในการเข้าไปตรวจสอบในเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายที่เป็นของกลุ่มมาเฟียเหล่านี้ และแม้แต่ในยุคที่ คสช.นั่งบริหารประเทศอยู่ในเวลานี้ หน่วยงานความมั่นคงก็ไม่เคยที่จะกล้าแตะต้องการสยายปีกของมาเฟียชาวมาเลเซียแต่อย่างใด
       
       ดังนั้น คนในพื้นที่จึงเชื่อว่าการเสียชีวิตของ “มิสเตอร์ลี อาฮง” จะเป็นการ “ตายเปล่า” เหมือนกับชาวมาเลเซียจำนวนมากที่มาเสียชีวิตในบ้านไทยจังโหลน หรือใน จ.สงขลา เพราะเชื่อว่าผู้ที่บงการเป็นผู้กว้างขวาง และมีอิทธิพลในพื้นที่ แถมเป็นหุ้นส่วนในการทำธุรกิจหมื่นล้านในเรื่องอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
       
       ที่สำคัญที่สุดคือ มีเจ้าหน้าที่รัฐให้การสนับสนุน และให้การคุ้มครองมาอย่างยาวนาน บางคนกลายเป็น “หุ้นส่วน” ทางธุรกิจไปโดยปริยาย และมีผู้เชื่อว่าแม้แต่การสังหาร “มิสเตอร์ลี” อาจจะเป็นการส่งสัญญาณ “ไฟเขียว” จากเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นหุ้นส่วนกับผู้บงการก็เป็นได้ทั้งสิ้น

http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000135665