เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

          เมื่อ3-4วันที่ผ่านมา   มีเพื่อนเอาปืนลูกโม่มาให้ผมดู     บอกว่าจะขายผมตรวจดูเป็นปืนยี่ห้อสมิตเหมือนรุ่นบอดื้การ์ด    คือหงอนนกเสมอตัวปืน.38สเปเชียล      เกลียวลำกล้องเหมือนไม่สึกหรอเลย      ผมลองเอาไปยิงดู ผมต้องบอกกลับตัวเองว่า     จะสู้โจรได้หรือลองนึกดูซิ  ครับ    คนดีเป็นรับมือโจร    เราต้องรอโจรลงมือก่อนและต้องดูว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือเปล่าพอชักปืนออกมาจะยิง    ถ้าจะกดนกยิงทุกนัดจะทันโจรหรือ     จะเหนี่ยวไกยิงเลยทำไมนกหนักขนาดนี้    จะทันโจรที่ใช้ปืนออโตเหนี่ยวเอาแบบสบายๆหรือ    ท่านใดที่ชำนาญปืนลูกโม่ช่วยแนะนำเทคนิคการใช้ปืนลูกโม่บ้างครับ    นกก็กดไม่ถนัดมันเสมอโครงปืน      ท่านที่ใช้ปืนลูกโม่เป็นปืนคู่มือท่านมีเทคนิคอย่างไรในการใช้ปืน     ถึงทำให้ท่านวางใจได้โปรดชี้แนะด้วย              เพื่อนบอกว่าไม่ชอบปืนอยากขายรับมรดกมาจากพ่อตา     และผมก็คนรักปืนทุกยี่ห้อด้วยครับอยากได้ไปหมด    ปืนกระบอกนี้เขาบอกว่าซื้อมาประมาณ20ปีแล้ว                         

ได้หรือเปล่านั้นไม่รู้ แต่ถ้าฝึกปืนลูกโม่ให้ชำนานแล้วหล่ะก็...หึหึ..โจรกระจอกวิ่งจนลืมเก็บหัวตัวเองกลับไปด้วยเลยหล่ะ..ความรู้เล็กน้อยที่พอจะบอกได้คือ 1. กำปืนให้สูงๆคือให้ง่ามมืออยู่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่ยังเหนี่ยวไกดับเบิ้ลได้อยู่ ถ้าจับปืนแบบนี้จะยิงแบบซิงเกิ้ลไม่ใด้ เพราะถ้าง้างนกจะง้างได้ไม่สุด คือหางนกสับจะติดเนื้อที่ง่ามมือ 2.ถ้ายิง2มือ ใช้นิ้วโป้งของมือข้างที่ไม่ถนัดทับนิ้วโป้งของข้างที่ถนัดไว้ 3.แบ่งน้ำหนักในการกำปืนโดยให้ข้างที่ถนัด40%และข้างที่ไม่ถนัดกำแน่นกว่า คือ60% 4.พยายามฝึกยิงแต่ไกดับเบิ้ล เพราะในสถาณการจริงคุณโจรคงไม่ให้เวลาง้างนกแล้วอีกอย่างคือเวลาตื่นเต้นโอกาศที่ไกจะลั่นมีน้อยกว่ากันมากๆ 5.ข้อนี้สำคัญมากคือ เมื่อมีปืนแล้วต้องฝึกฝน แล้วอย่าเป็นคนรังแกคนอื่น(โดยเฉพาะรังแกโดยการใช้ปืนอันเป็นที่รักของพวกเรา) .....ปล.การยิงปืนแบบดับเบิ้ล จะทำให้ความสามารถในการใช้ปืนลูกโม่..เพิ่มขึ้น...!?!?!?

คุณ KAHRPPK  รับราชการอยู่เหรอครับ ?

ขอตอบโดยส่วนตัวนะครับ จริงๆแล้วสารภาพเลยว่าหางอึ่งเรื่องปืนมากกกก แต่.....ตอนเรียนยิงปืนพกเบื้องต้นกับนายสนามที่ สยป.ตร (เรียนปืนลูกโม่.38) ระหว่างเรียนผมได้ถามนายสนามว่าหากคนร้ายใช้ปืนเซมิ-ออโตเมติก หรือปืนชนิดอื่นที่อานุภาพร้ายแรงกว่าปืนในมือผม จะมิเป็นการเสียเปรียบหรือครับครู ครูฝึกบอกผมว่า " เขามีปืนแรงกว่าเรา แต่ยิงถูกหรือเปล่า เราปืนอานุภาพด้อยกว่า แต่ยิงถูกกบาล อันไหนสำคัญกว่ากัน" ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การฝึกการใช้ ท่ายืน การเล็งและการลั่นไก อย่างถูกต้องและฝึกฝนจนชำนาญนั้น มีความสำคัญมากกว่าครับ ขอบคุณครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

         ผมเป็นนักธุรกิจเงินผ่านมือวันละหลายๆแสน     จึงจำเป็นต้องหาปืนที่วางใจได้    แต่มีญาติและเพื่อนเป็นข้าราชการฝ่ายกดหมายกระบวนการยุติธรรมหลายคน   ระดับชั้นผู้ใหญ่

ทำไมคุณพี่ไม่คิดจะหาออโตดีๆใช้งานง่ายๆใว้ใจได้บ้างเหรอครับ..!? ตัวปืนพอๆกันแต่จุลูกมากกว่า พกพาง่ายกว่า ยิ่งเงินหลายๆอย่างพี่เนี่ย.45เลย เป้งเดียวอยู่ตึ๊บ..แต่มีปืนแล้วอย่าลืมฝึกฝีมือบ่อยๆนะครับพี่ ไม่งั้นเป้งเดียวก็อยู่เหมือนกัน แต่อยู่โรงพักนะพี่ เพราะยิงโดนคนอื่น..!?   

ปืนลูกโม่ ก็มีข้อดีบ้างอย่าง  ปืนออโตก็มีข้อดีอีกอย่าง   กินกันไม่ลงหรอกครับ 
คุณ KAHRPPK ลองสละเวลา ไปสนามยิงปืน ดูนักกีฬา ซ้อมยิงปืนดูก่อนครับ  สังเกตุการยิงปืนลูกโม่  - ออโต  ถ้าไปในวันแข่งขันจะได้เห็นอะไรดีๆเยอะ 

จะให้ดีจริงๆ ควรสมัคร เข้ารับการอบรมการใช้ปืนเลยครับ  ข้อสงสัย  เทคนิดการใช้ คุณจะทราบโดยละเอียด  และคุณจะได้ฝึกใช้มันจนคล่อง

          :D :D 8)ตอบคุณtop ผมก็อยากได้ปืนลูกโม่ไว้ยิงสนุกๆ     11มมเกิดมาผมไม่เคยยิงเลยผมกลัว    อำนาจความรุนแรงของมันครับ    ขนาดยิง9มมในแต่ละครั้งบ่อยครั้งที่ผมกลัวจนยิงสะเปะสะปะ     อยากจะเรียนอย่างที่คุณพลายแก้วแนะนำหลายครั้งแล้ว     แต่ไม่มีคนดูแลงานแทน >:( >:( >:( >:( >:( >:(

สู้ได้ครับ การที่คุณมีปืนมิใช่ว่าจะต้องใช้ป้องกันตัวจากโจรที่มีปืนเซมิออโต้ หรืออาวุธสงคราม ถ้าเจอโจรมือเปล่าคนเดียวแต่ตัวใหญ่กว่าคุณก็อยากมีปืนแล้วใช่ไหมครับ? คือว่าการที่ใช้ปืนช่วยคุณป้องกันตัวไม่ได้หมายความว่าต้องยิงเสมอไป

ส่วนในกรณีที่คุณเป็นห่วงระหว่างลูกโม่กับเซมิออโต้นั้น ปัจจัยสำคัญ 3 ข้อคือ
1. ฝีมือ
2. ฝีมือ
3. ฝีมือ

ส่วนเรื่องกระสุนขนาดกลางกับขนาดใหญ่นั่นก็มีปัจจัย 3 ข้อ คือ
1. จุดวางกระสุน
2. จุดวางกระสุน
3. จุดวางกระสุน

ครับ อิ อิ  ;D

 ตามความเห็นของผม กระสุน5-7นัดในโม่ถือว่าเหลือเฟือครับ เวลาเกิดเหตุการ์ณแบบที่ประชาชนคนธรรมดาจำเป็นต้องใช้ปืนขึ้นมาจริงๆ เรามีเวลาตัดสินใจก่อนยิงนัดแรกแค่ไม่เกิน1วินาที ปกติยิงแค่1-2นัดก็น่าจะรู้ผลเพราะไม่ได้ควงปืนไปออกรบที่ไหน ส่วนเรื่องของนน.ไกที่หนักมากสามารถปรับแต่งได้ง่ายๆครับ ปืนลูกโของสมิทฯขึ้นชื่อเรื่องไกที่ราบลื่นเหมือนใช้เควายเจลล์อยู่แล้ว ;D ;D ;D เลือกกระสุนดีๆ(อย่างFed Hyda.+p) เจียดเวลาฝึกซ้อมให้มันซักนิด ถ้ารู้สึกว่าเสียเงินซื้อปืนไปเป็นหมื่น เสียเวลา,ค่ากระสุนไปก็เยอะฯลฯ ก็ถือซะว่าเป็นการละเล่นครับ ทั้งหมดที่ลงทุนไปเป็นการเป็นการเพิ่มศักยภาพในการปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวที่คุณรัก ฝึกมาตลอดชีวิตเพื่อรับเหตุวิกฤติที่อาจเกิดกับครอบครัวที่เรารัก ถือว่าคุ้มค่าครับ ;)

.45 ถ้าข้าน้อยยิงได้ ท่านก็ยิงได้สบายๆ เจ้าคะ ;)

สู้ได้แน่นอนครับ สมัยไม่กี่สิบปีมานี้ ตำรวจเกือบทั่วโลก ก็ใช้ปืนลูกโม่.38 หรือไม่ก็357แมก กันทั้งนั้น แล้วปืนออโตก็อยู่ในมือของผู้ร้ายมานานแสนนาน สมัยก่อนสู้ได้ สมัยนี้ก็ต้องสู้ได้สิครับ อาวุธก็เหมือนๆกัน

ปืนอะไรก็ได้ครับ.............ถึงเวลาสู้โจร ขอให้ยิงถูกเป็นพอ........ ;D

มี .44 แม็กนั่ม แต่ยิงถูกติ่งหู ก็แปะเอี้ย...........ใช้ .22 ยิงเข้ากระโหลก โจรก็ตาย ;D ;D

อยู่ที่การฝึกฝนครับ.............ปืนอะไรก็แล้วแต่ที่เราใช้งาน ต้องฝึกฝนให้เข้าที่ และชำนาญ.............และหากฝึกถึงขั้น"ยิงสั่ง"ได้ ก็สุดยอด แล้วครับ

เรียนคุณKAHRPPK .............

ปืนออโต .45 เป็นปืนที่มีแรงรีคอยนุ่มนวลครับ....ในขนาดมิติตัวปืนเท่าๆกัน .45 จะเตะแรงกว่า 9 มม. นิดหน่อย................ที่เขาบอกว่าร้ายแรงนั้น คงเป็นความคิดเห็นที่ทราบๆกันดีว่า กระสุนขนาด .45 เป็นปืนประจำการกองทัพ(ซึ่งคนที่กำหนด ไม่เข้าใจเอาเสียเลย).................มีหน้าตัดใหญ่ อำนาจการหยุดยั้งจึงสูง แต่..........ความเร็วต้นต่ำกว่าเสียง...........แถมยังเป็นกระสุนที่แม่นยำมากด้วย.....................ปืนออโต ขนาด 9 มม.พารา และ .38 ซุปเปอร์ สิครับ ที่มีอำนาจการทะลุทะลวงสูงกว่ามาก.................เพียงแต่หน้าตัดเล็กกว่าเท่านั้น

ลองยิง .45 สักครั้งสิครับ......แล้วจะติดใจ

.22 ก็สู้ได้ ขอให้ฝึกประจำมีความแม่นยำ แค่นั้นก็พอแล้ว สมัยก่อนผมยิงดับเบิ้ลไม่ได้เลยครับ มีความรู้สึกว่ามันแข็ง แต่ต่อมาเราฝึกข้อมือ ออกกำลังแขน ก็ยิงได้สบายครับ ;D

ถ ถ ถ ถ ถูกต้องนะคราบบบบบบบบ

อ้อแล้วจะติดใจ จริงๆครับนาย

ถ้าต้องเลือกพกพาและใช้งานแบบฉุกเฉินเพื่อชีวิต...ปืนลูกโม่เหมาะกว่าออโต้เยอะครับ :)
ไม่ต้องคิดว่าขึ้นลำหรือยัง? ใส่เซฟไว้หรือเปล่า?
สถานการณ์นั้ไม่ทันคิดแน่นอนครับ...ชักออกมาเหนี่ยวไกยิงได้เลย และที่ว่าไกหนักๆรับรองเบาหวิว ดีไม่ดีรวดเดียวหมดโม่ครับ :D

สู้ได้สบายครับ โดยเฉพาะรุ่นที่คุณ KAHRPPK ได้ดูอยู่ก็เป็นรุ่นที่ผมสนใจมากรุ่นหนึ่ง (ของใหม่รู้สึกจะเป็น mod 638/649) เพราะปืน ๕ นัด เล็ก ไม่เหลี่ยม ด้ามจับถนัด ถึงจะเสียเปรียบ Glock 26 บ้าง แต่ก็ไม่ต้องกลัวสไลด์เฉือนง่ามมือ เวลาจับไม่เต็มมือ

เพื่อน ๆ ท่านอื่นคงบอกแล้วว่า สำคัญที่การวางกระสุนนัดแรก ต่อให้แบกอาวุธสงครามมา แต่ถ้าเรามีโอกาสที่จะยิงได้ก่อน และปิดบัญชีชีวิตเขาได้ก่อน กำไรก็เป็นของเรา (ไว้เป็นทุนขึ้นศาลทีหลัง)  :o

กลไกของปืนสมิท สามารถแต่งได้สบายครับ ไกดับเบิลหนักอาจเป็นเพราะปืนเก่าขาดการหล่อลื่น ให้ช่างปืนเปิดฝาข้างมาตรวจสภาพ พร้อมขัดผิวให้เรียบลื่น (ไม่ต้องไปถอดชิ้นส่วนออกมานะ ถึงช่างจะเคลมว่าช่วยให้ไกดีก็ตาม) สปริงเดิม ๆ ก็ยังยิงได้สบายครับ  ;D

โฆษณาหลังปกหน้า อวป บอกว่า "วินาทีชีวิต ไม่มีเวลามาขึ้นลำ" แปลว่า "ปืนลูกโม่ คือสุดยอดปืนป้องกันตัว"  ;D ;D ;D ... ไม่ได้ค่าโฆษณานะเนี่ย  ;D ;D ;D

มีเพื่อนเอาปืนลูกโม่มาให้ผมดู     บอกว่าจะขายผมตรวจดูเป็นปืนยี่ห้อสมิตเหมือนรุ่นบอดื้การ์ด    คือหงอนนกเสมอตัวปืน.38สเปเชียล      เกลียวลำกล้องเหมือนไม่สึกหรอเลย      ผมลองเอาไปยิงดู ผมต้องบอกกลับตัวเองว่า     จะสู้โจรได้หรือลองนึกดูซิ  ครับ    คนดีเป็นรับมือโจร    เราต้องรอโจรลงมือก่อนและต้องดูว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือเปล่าพอชักปืนออกมาจะยิง    ถ้าจะกดนกยิงทุกนัดจะทันโจรหรือ     จะเหนี่ยวไกยิงเลยทำไมนกหนักขนาดนี้    จะทันโจรที่ใช้ปืนออโตเหนี่ยวเอาแบบสบายๆหรือ

สมิท บอดี้การ์ด จัดเป็นปืนแบบต่อสู้โดยแท้ ชักขึ้นมาเหนี่ยวยิงในระยะประชิดได้เลย ไม่ต้องกลัวติดเสื้อผ้า หรือนกติดง่ามมือ รวดเร็ว คล่องตัว อย่างยิ่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องไกหนัก หรือยิงไม่ทันโจรครับ ในสถานการณ์จริงไกหนัก ยังไงก็ยิงไหว ขอให้ระบบไกราบเรียบเป็นพอ ซึ่งสมิทก็เป็นเช่นนั้นครับ เพราะเราไม่ได้ไปแข่งขันที่ต้องแต่งไกให้เบา ลูกโม่ 5 นัด นับว่าเพียงพอแล้ว สำหรับชีวิตจริง ไม่ใช่ในหนัง ลูกโม่กลับดีเสียอีกหากเกิดการติดขัดของกระสุนปืน ก็ยังยิงนัดต่อไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเคลียร์กระสุนเก่าออกเหมือนปืนออโต้
นับได้ว่าเป็นปืนที่วางใจได้ในทุกสถานการณ์ครับ หากไม่มั่นใจในจำนวนกระสุน หาสปีดโหลดอีกสัก 2 อัน ไว้สำรองน่ะครับ ;D

 ;) ไม่ว่าจะเป็นออโต หรือ ลูกโม่ ขอเพียงเราใช้มันถนัด เหมาะมือ และหัดให้คุ้นเคยจนคล่อง สู้โจรได้เหลือเฟือครับ... ;)

เรียน เจ้าของกระทู้ครับ
อ่านๆดูรู้สึกว่าคุณเองก็ทราบจุดบอดของตัวเอง
คือเรื่องการฝึกฝนและประสบการณ์จริง
เรื่อง.45น่ะ แรงสำหรับคนยืนหน้าปืน
นุ่มนวลและมั่นใจสำหรับคนอยู่หลังปืนครับ
บางครั้งคุณอาจทราบจากท่านอื่นว่า.45แรงสุดๆ คุณเลยกลัวไปเอง
ไม่ยากอย่างที่คิดครับ

ลูกโม่ที่ผมใช้ผมก็เคยไม่มั่นใจ แต่ด้วยสาเหตุแห่งกระสุนน้อยไปหน่อย
จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบกะท่านเป็กซ์ คนที่สมาชิกในเวบนี้นับถือ
ท่านถามสั้นๆว่า
"แล้วคุณเคยใช้หมดโม่ไหม"

ฮ่าๆๆ  ผมตอบเลยว่า "ไม่เคยก๊าบ..บ.บ..."

ส่วนเรื่องไกไม่หนักอย่างที่คิดครับ

เห็นเหมือนท่านอื่นๆครับ ปืนที่สภาพดี เราจับถนัด หมั่นฝึกซ้อมจนคุ้นเคย สามารถฝากชีวิตไว้ได้ทั้งนั้น ในสถานการณ์ที่ต้องเตรียมพร้อมเช่นได้ยินเสียงผิดปกติ หมาเห่ามากๆตอนกลางคืน มือผมจะหยิบลูกโม่.38 ขึ้นมาเป็นอัตโนมัติ ส่วนปืนออโต้.45 หรือลูกซองกลับใช้เป็นปืนสำรองทั้งๆที่แรงปะทะสูง กว่า บรรจุกระสุนได้มากกว่า แต่เพราะเราฝึกการใช้ลูกโม่มามากกว่าปืนอื่น ก็เลยเชื่อมั่นได้เต็มที่ ;D

เข้ามาอ่าน  :o  ก็ไม่รู้จะตอบอะไรแล้วครับ

ผมขอตอบว่า "เหมือนกะคุณอ๋อง" คร้าบ  ;D

ก็เห็นคาวบอยตะวันตกชักดวลกันสนั่นมาช้านานนี่ครับ เห้นพี่คนนึงในเวปบอร์ดบอกว่า

ด้ามปืนที่ชักไวที่สุดคือด้ามปืน คาวบอยครับ ที่เอ้ม1911สู้ไม่ได้เรื่องเดียว

แบบลุง บ๊อบ เมอเด้น ที่พี่ เจษ นำมาลง ผมเคยเห็น แกโชว์ ในรายการ เคเบิ้ล

โดยการชักปืนยิงเป้าสองเป้าไม่ถึง ครึ่งวินาที โดยการ ง้างนกยิงด้วยนะครับ สุดยอดจริงๆ

แกชักปืนยิงเร็วและแม่นมากครับ สุดยอดดดดดดด สุดยอดดดดดดดด

นิดนึงนะครับ
1.  ลองดูบททดสอบเก่าๆ ช่วงต้นปี 47 ของคุณวิทยา  สุขสมโสตร  แห่ง G&T ดูนะครับ  ดูลีลาและแทคติคส์การยิงลูกโม่ที่ถึงใจ  แล้วจะรู้ว่าความน่าเชื่อถือและสั่งได้ของลูกโม่บอร์ดี้การ์ด เป็นอย่างไร?
2.  บททดสอบของ ผอ.ตระกูล  ครับ  (สิงปืนซ้าย)  ครับ  คุณจะต้องพูดว่า  "โอ้ว  พระเจ้า  มันเยี่ยมจริงๆ  จอร์จ!!"
3.  ยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อผมยังเด็กครับ  7  ขวบ  พ่อผมไปธุระต่างจังหวัด  ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะแม่ขยับตัว แม่บอกให้เงียบๆ  เพราะได้มีกลุ่มโจรประมาณ 3 - 4 คน  กำลังตัดโซ่เหล็กที่ประตูรั้วเพื่อเข้ามาขโมยวัวที่ใต้ถุนบ้าน  (เข้ามาตัดด้านในรั้ว 1 คน ไปเปิดคอกวัว 2 คน และรออยู่ด้านนอก 1 คน)  แม่ผมล้วงใต้หมอนพ่อหยิบ  ลาม่า .32 6 นัด (บ้านนอกน่ะครับ) มาเปิดโม่  ตรวจดูกระสุน  (พ่อจะใส่ไว้ 4 นัดเสมอ กันปืนลั่นและแย่งปืน) ใส่เพิ่มจนครบ  และยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด  พร้อมกับตะโกนให้ออกไป  แต่โจรยังตกตะลึงอยู่เพราะคิดว่าบ้านคงมีแต่เด็กและผู้หญิงคงไม่กล้าทำอะไร  แม่จึงตะโกนซ้ำออกไปหนึ่งครั้งและยิงไปออกไปอีก  3  นัดที่คนที่กำลังตัดโซ่ที่รั้วจนทรุดฮวบลงไป  (แม่บอกว่าไม่กล้ายิงไปหา 2 คนที่อยู่ที่คอกวัวเพราะกลัวลูกหลงจะไปโดนวัว  แกเสียดาย)  มีเสียงปืนดังสวนจากด้านล่างมา 1 นัด  แม่จึงสวนไปอีก 2 นัดแล้วบรรจุใหม่แล้วยิงออกไปอีก 2 นัด  รออีก ครึ่งชั่วโมงจึงเงียบเสียง  ผู้ใหญ่บ้าน (ตาผมเอง) และคนอื่นๆ จึงวิ่งออกมาถามว่าไปทางใหนและจัดทีมออกไปตาม
ตอนเช้าพบรอยเลือดกองโตกองอยู่ที่พื้นหน้าประตูรั้ว  และรอยทะลุที่รั้ว 2 รอย  แต่กระสุนกลับตกอยู่ใกล้ๆ  รั้วนั่นเอง
ปล.  บ้านเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูงเหมือนบ้านนอกทั่วๆ ไป แต่ไม่ได้ทำคอกที่ใต้ถุนบ้าน  หากแต่ทำเป็นโรงเรือนไว้ที่ใต้ต้นไม้มีหลังคา

ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าสู้ได้ครับ อยู่ที่การฝึกฝนให้ชำนาญ  ที่สำคัญคือถ้ามีโอกาสเลือกปืน ไม่ว่าเป็นปืนแบบไหนก็ตาม ควรจะเป็นปืนที่จับแล้วรู้สึกถนัด เข้ากับมือ  นายทะเบียนท่านบอกว่าให้มีไว้สำหรับ "ป้องกัน" ชีวิตและทรัพย์สินครับ  อาจจะป้องกันไม่ได้ถึง 100% แต่ก็ยังดีกว่าสู้ด้วยมือเปล่าหล่ะครับ ;D ;D ;D 

          แชมป์โลก เขาฝึกฝนจนยิงปืนลูกโม่1โม่ใช้เวลา0.7วินาทีครับ ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับ

     คุณภาพของปืนของเขาด้วย แต่ผมไม่ทราบข้อมูลว่ายิ่งแม่นขนาดไหน

เมื่อประมาณเกือบ 10 ที่แล้ว ผมพยายามค้นคว้าเรื่องที่มาของ Colt M.1911 A1 ที่ประจำการในกองทัพของเรา (เนื่องจากมีหลายคนถามว่าทำไมบางกระบอกเป็น Colt แต่บางกระบอกไม่ใช่ อะไรทำนองเน่ี่ยะ)   ก็เลยได้ข้อมูลมาว่า(เท่าที่จำได้นะครับ)  ปืนที่ประจำการใน ทบ.สหรัฐเมื่อก่อนคือ Colt single army pistal(ไม่แน่ใจว่าจะเรียกสลับหรือเปล่า)  ก็คือปืนคาวบอย ขนาด .45 ไกแบบ single  ต่อมา ก็เปลี่ยนเป็น S&W ขนาด .38 ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น  แต่จุดเปลี่ยนตรงที่ กองทัพสหรัฐฯ มาช่วยฟิลิปปินส์ปราบกบฏ "โมโร่" ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองมีความอึดมาก  อึดถึงขนาด บางคนถูกยิงจนหมดลูกโม่แล้วยังไม่ตาม แถมยังวิ่งเอาดาบเข้ามาฟันคอทหารสหรัฐฯตายอีกต่างหาก... ตอนหลังก็เลยมีความต้องการกระสุนขนาด .45 แต่บรรจุได้มากกว่า 6 นัด และสามารถป้อนกระสุนได้เอง  สุดท้ายก็มาลงที่ M.1911 และ M.1911 A1 และ 92FS ครับ

สมัยราวสามสิบปีที่แล้วตามชนบทเดือดร้อนมาก โจรขโมยชุมมาก  กลางคืนมันจะหาลัก  กลางวันมันจะปล้นเอากลางวันแสกๆ  สิ่งที่มันต้องการคือวัว  ควาย  สมัยนั้นชาวบ้านจะขอซื้อปืนนะยากๆๆๆๆมากเพราะเจ้านายท่านกลัว ผกค.ขึ้นสมอง  มีปืนกันคือปืนแก๊ปยาว  รวยหน่อยก็ลูกซองเดี่ยว  ตอนนั้นผมอยู่ป.5..6  วันหยุดต้องไปเลี้ยงควาย  พ่อผมยังให้แบกปืนแก๊ปไปด้วย  ตั้งสติให้มั่น  เล็งให้ดี  ยิง  ทิ้งปืน  แล้ววิ่งให้หนีเร็วที่สุด 
คือคำสอนของพ่อผมเอง  เป็นเรื่องอาจจะตลกแต่มันจริงคือคนไหนที่มีอาวุธปืนโจรมันไม่กล้าครับ  ถึงแม้จะมีแค่นัดเดียว   ;D ;D  ที่สำคัญคือใจเรามันอบอุ่นขึ้นมันดีกว่าไม้จิ้มฟันขอรับ 

เมื่อประมาณเกือบ 10 ที่แล้ว ผมพยายามค้นคว้าเรื่องที่มาของ Colt M.1911 A1 ที่ประจำการในกองทัพของเรา (เนื่องจากมีหลายคนถามว่าทำไมบางกระบอกเป็น Colt แต่บางกระบอกไม่ใช่ อะไรทำนองเน่ี่ยะ)   ก็เลยได้ข้อมูลมาว่า(เท่าที่จำได้นะครับ)  ปืนที่ประจำการใน ทบ.สหรัฐเมื่อก่อนคือ Colt single army pistal(ไม่แน่ใจว่าจะเรียกสลับหรือเปล่า)  ก็คือปืนคาวบอย ขนาด .45 ไกแบบ single  ต่อมา ก็เปลี่ยนเป็น S&W ขนาด .38 ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น  แต่จุดเปลี่ยนตรงที่ กองทัพสหรัฐฯ มาช่วยฟิลิปปินส์ปราบกบฏ "โมโร่" ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองมีความอึดมาก  อึดถึงขนาด บางคนถูกยิงจนหมดลูกโม่แล้วยังไม่ตาม แถมยังวิ่งเอาดาบเข้ามาฟันคอทหารสหรัฐฯตายอีกต่างหาก... ตอนหลังก็เลยมีความต้องการกระสุนขนาด .45 แต่บรรจุได้มากกว่า 6 นัด และสามารถป้อนกระสุนได้เอง  สุดท้ายก็มาลงที่ M.1911 และ M.1911 A1 และ 92FS ครับ




เคยได้ยินเรื่องทำนองที่พี่สมิหลาเล่าให้ฟังเหมือนกันเกี่ยวกับตำนานอันโด่งดังของปืนพก.45 รุ่น1911 เอ1 (ที่ฟังจากครูฝึก รด.)ท่านบอกไว้ว่า ในสมัยสงครามมหาเอเชียบรูพา กองทัพสหรัฐยกพลขึ้นบกตามชัยภูมิต่างๆที่ญี่ปุ่นยึดครอง ทหารญี่ปุ่นนอกจากจะใจเด็ดแล้ว ยังอึดมากอีกด้วย ครูบอกว่าการต่อสู้ในระยะประชิด ขนาดยิงสวนด้วย เอ็ม 1 กาแลนด์(ปืนเล็กยาวของนาวิกฯยูเอส) พี่ยุ่นยังกำดาบซามูไรมาฟันทหารยูเอสเลือดกระซูต แต่พอเจอในกรณีเดียวกัน(ยุ่นพันธ์อึด) พอยิงสวนด้วยปืนพก.45 พี่ยุ่นก็แน่นิ่งอยู่บนพื้น(อันนี้เป็นกรณีการต่อสู้ในระยะประชิดนะครับ) พอได้อ่านเรื่องของพี่สมิหลา เลยคิดถึงเรื่องดังกล่าวโดยอัตโนมัติ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

เจ้าของกระทู้ ถ้ามีโอกาสไปฝึกซ้อมทำความเข้าใจกับปืน และการยิงปืน
คงจะไม่มีคำถามทำนองนี้ เพราะปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนที่ยอดเยี่ยมในแบบ และหน้าที่ของมันอยู่
กล่าวคือ สามารถเป็นปืนกระบอกแรกในสถาณการณ์ทั่วไปได้ดีมาก เพราะความเล็ก
ยิงออกจากภายในเสื้อผ้าได้ เช่นจากภายในเสื้อแจ็กเก็ต สามารถยิงได้ทันทีโดยไม่ต้องฝึกชักเร็ว ยิงเร็ว

สำหรับคนชอบปืน หรือ มีกำลังซื้อสูงอย่างเจ้าของกระทู้
ปืนกระบอกนี้ เป็น 1 ในอีก 2 - 3 กระบอกที่พึงมีครับ
ส่วนไกปืน หนักไปหน่อย ยังดีกว่า เบาไป ในด้านความปลอดภัยพกพา และใช้งาน ตลอดจนการคืนไกเพื่อยิงนัดต่อไป

ตอบกันหมดแล้ว ผมขอเพิ่มว่า เรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ การรู้จักกลไกของปืนในมือท่าน ขยันฝึกซ้อมให้ชำนาน และคำนึงถึงหลักความปลอดภัยเป็นอันดับแรกนะคร๊าบบบ ;)

ขออนุญาตออกความเห็นด้วยคนนะครับ เข้าใจว่าสมิธรุ่นนี้ตัวเล็กลำกล้องสั้น ออกแบบมาให้ซุกซ่อนได้มิดชิด ชักออกมาใช้งานได้รวดเร็ว (หงอนนกจึงไม่โผล่ออกมา) ใช้ยิงหวังผลในระยะประชิดตัวเป็นวัตถุประสงค์หลัก

หากจะนำไปไล่ยิงตอบโต้กันอย่างในหนัง ซึ่งมักเป็นระยะห่าง ความถนัดและแม่นยำย่อมจะสู้ปืนพกแบบ full size อื่นๆ ที่ลำกล้องยาวกว่า (เช่น 4-6 นิ้ว) ไม่ได้

แต่หากถูกผู้ร้ายเข้ามาขู่เข็ญก่อนถึงตัว แล้วท่านสามารถเสแสร้งไม่ให้คนร้ายรู้ว่า เรามีอาวุธที่จะตอบโต้ได้ ใจเย็นๆรอจังหวะที่ผู้ร้ายเผลอ แอบชักปืนของเราออกมา กดปากกระบอกปืนเข้าตรงที่สำคัญแล้วเหนี่ยวไกทันที โอกาสพลาดก็จะน้อยมากครับ

แต่ต้องอย่าลืมหมั่นฝึกซ้อมด้วย

ใช่อย่างที่คุณพลายแก้วได้ฟังมานั่นแหละครับ  แต่ในสงครามหาเอเซียบูรพาเนี่ยะเกิดทีหลังการปราบกบฏโมโร่ครับ  ส่วนทหารสหรัฐฯที่ยกพลขึ้นบกแล้วโดนฟันคอ  พวกนี้เป็นนาวิกครับ ตอนหลังก็ได้มีการนำหนังสัตว์หนาๆมาหุ้มบริเวณลำคอเอาไว้(ช่วยป้องกันเวลาโดนฟัน) ใช้ได้ผลดีมากครับ  จึงเป็นที่มาของทหารเรียกนาวิก ทั้งไทยและเทศ ว่า"พวกคอหนัง"ครับ  เช่นนาวิก10คน เค้าจะเรียกกันว่า 10 หนัง ครับ (เป็นอันว่ารู้กัน)  ;D

ครับผมก็ได้ยินมาอย่างนั้นแต่ขอเพิ่มอีกนิดที่ได้ยินมาเห็นเขาว่าพวกกบฏ"โมโร่"นี่ก่อนสู้พี่แกเล่นUPยาก่อนจะได้คึกๆไม่กลัวตาย(ทางไต้ก็ใช้วิธีนี่อยู่)

ครับผมก็ได้ยินมาอย่างนั้นแต่ขอเพิ่มอีกนิดที่ได้ยินมาเห็นเขาว่าพวกกบฏ"โมโร่"นี่ก่อนสู้พี่แกเล่นUPยาก่อนจะได้คึกๆไม่กลัวตาย(ทางไต้ก็ใช้วิธีนี่อยู่)
อืม..ข้อนี้ผมไม่ยืนยันครับ  แต่ข้อมูลเท่าที่มีนี่ ยาของพวกโมโร่ น่าจะเป็นพวกกัญชา หรือยาสูบชนิดกระตุ้นประสาท หรือกล่อมประสาทอย่างแรง (ด้วยการผสมกับยางไม้มีพิษชนิดหนึ่ง)  ใช้เสพโดยวิธีการสูบ แต่ไม่น่าจะเป็นพวกฝิ่น(ไม่แน่ใจ)  เพราะแถบนั้นไม่ปรากฎในเรื่องของฝิ่นครับ  แต่ถ้าทางใต้ใช้วิธีการที่คุณว่าจริงๆ ก็คงเป็นพวก ยาเม็ดทันสมัยกระมังครับ (ประเทศเพื่อนบ้านเราหาซื้อง่ายกว่าบัวลอยไข่หวานซะอีก)

ตอบมั่งครับ... ไม่มีอะไรใหม่ เพราะท่านอื่นตอบเสียเรียบเชียว... ฮา

ประเด็นนายสมชายคือว่า จากเท่าที่อ่านมา ปัญหาของการ"ป้องกัน"ตนเองของสุจริตชน และของเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย... ส่วนหนึ่งอยู่ที่อานุภาพของอาวุธ(รวมความทั้งขนาดกระสุน แบบปืน และความจำนวนจุกระสุนของปืนด้วย)... ซึ่งนายสมชายไม่ปฏิเสธครับ...  แต่ปัญหา"ส่วนใหญ่"อยู่ที่"การประเมินสถานการณ์ว่าเมื่อไหร่สมควรต้องยิง"น่ะครับ...

สอดคล้องกับหลายท่านที่ว่ามีลูกตั้งแยะ แต่ฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากยิงก่อน... ต่อให้เหน็บ .45 หรือ 9 มม. ลูกดกก็ตาม... ก็แย่แล้วครับ... ลองดูข่าวนายกเทศมนตรีท่านนึง จ.เพชรบุรี ที่เป็นข่าวไม่นานมานี้ครับ ประวัติส่วนตัวของผู้เสียชีวิตเราไม่พูดถึง เพราะไม่ได้อยู่ในประเด็นนี้... ผู้เสียชีวิตพก .45 ที่เอว และมีแม็กอะไหล่อีก 3 แม็กรอบเอว... โดนยิงข้างหลังครับ... ขณะเปิดท้ายรถ BMW เพื่อบรรจุถุงอาหารสัตว์ มือปืนจอด จยย. ยิงข้างหลัง...

หรือหลายเหตุการณ์ เจ้าทุกข์ไม่กล้ายิง จนฝ่ายตรงข้ามเดินเข้ามาแย่งปืน... จนกลายเป็นของแถมไปแน่ะ... เฮ้อ

ส่วนตัวนายสมชายชอบ .45 เป็นพิเศษ... ไม่ได้เกิดจากขนาดกระสุนทั้งหมดครับ... เกิดจากตัวปืน 1911 ถนัดมือดีมาก จนเหมือน"ปืนงอกจากมือ"... แล้วตำนานของ 1911 ต้องเป็น .45 ครับ... บังเอิญ .45 เป็นขนาดกระสุนที่แม่นและนุ่มมืออีกต่างหาก เลยไปกันใหญ่... ฮา

แต่หากนายสมชายมีความจำเป็นต้องนำปืนติดตัวเพื่อป้องกันตัว... จะเลือกเอาตระกูล S&W J Frame ครับ... เมืยนายสมชายใช้ m60 สามนิ้ว... คุณพ่อนายสมชายอายุ 67 ปีแล้ว... นายสมชายก็เลือก m60 สองนิ้วให้ติดตัว... ตัวนายสมชายเองหากใช้เอง... จะเลือก m649 ครับ... สำหรับในวันเบาๆที่ไม่คิดว่าจะมีอะไร...

สมัยก่อนนายสมชายเคยมีใบ ป.12 ช่วงรับราชการ... ก็เอา G19 ติดรถเอาไว้... แต่ก็สำนึกอยู่เสมอว่าโอกาสยิงได้หมด 15+1 นัดน่ะ... มีน้อยมาก เหตุการณ์ที่เคย"เกือบ"ต้องใช้ปืนยิ่งน้อยกว่าน้อย... นายสมชายหมดเวลาส่วนใหญ่ไปอยู่ที่การประเมินสถานการณ์ครับ... หากต้อง"ใช้"... นายสมชายจะเปิดฉากก่อนครับ ไม่เกิน 2 3 นัดแล้วก็ต้องเปิดแล้วครับ... ฮา... ในแม็กมีตั้งแยะน่ะ คือ"เผื่อเอาไว้"ครับ... จ๊ากซ์

 :)  ผมเคยใช้รุ่นเดียวกันนี้ สมัยเป็น ...เอาไว้สร้างความเท่าเทียมกับ อันธพาลการเมืองสมัยเมื่อ. ๓๐ กว่าปีก่อน.. เป็นเพื่อนสนิท วางใจได้ เสมอครับ.. :) 8)

อ่านจบ สรุปได้ว่า ปืนแบบไหนก็ปืนเหมือนกัน สำคัญที่การฝึกฝน กระบี่อยู่ที่ใจครับ

สิ่งที่สำคัญคือการฝึกฝน และทำความเข้าใจกับปืนเราครับ
ผมยังเคยใช้ รูเกอร์ มาร์คทู เป็นปืนหลักในการป้องกันตัวมาแล้ว
ผมว่า การฝึกฝน และการวางจุดกระสุนเป็นเรื่องสำคัญมากครับ

 ;D อ่านอีกทีนึกถึงพ่อพลายแก้วแววไว หายไปเลย ;D

 ;D..สรุปว่า จะเป็นปืนลูกโม่หรือ Auto..ก็ดีทั้งนั้นครับ..แต่ต้องหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดครับ :VOV:

ด้วยความเคารพครับ  ฝึกฝนเท่านั้นล่ะครับถึงจะตอบได้ว่าสู้ได้หรือไม่ได้ครับ

อย่าถามปืนว่า สู้ได้หรือไม่....
ลองถามใจว่า สู้หรือเปล่า.....

ว่าแล้วขอเล่าเรื่อง ผู้เป็นตำนานท่านหนึ่ง (ญาติของสมาชิกเวบนี้เอง ขออนุญาตนะครับ เล่่าเป็นอุทาหรณ์)

ท่านผู้เป็นตำนานท่านนี้ อยู่แถวทางอีสาน
ยุคนึง ในเวลาที่เราแบ่่งแยกพื้นที่สีเขียว สีแดง.....
คอมมิวนิสต์ได้บุกเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แล้วให้ชาวบ้านทุกคนไปรวมกันในวัด....
ท่านผู้นี้เห็นว่า ถ้าไป เห็นจะถูกฆ่าตายหมดทั้งหมู่บ้านแน่ๆ
ท่านเลยไม่ไป และไม่ให้สมาชิกในบ้านไ็ป..ที่วัด....
คอมมิวนิสต์เลยบุกเข้าล้อมบ้านท่าน..และขึ้นไปข่มขู่ให้ไปรวมตัวที่วัดให้ได้....
ปรากฎว่าโดนอีเดี่ยวลูกซองยิงสวนกลับ......
คอมมิวนิสต์ ตายหนึ่งคน ......
และโดนเจ้าของบ้านยึด อาก้าไปเสีย...
และอาก้าที่ยึดไปกระบอกนั้นแหละ...
ที่ใช้ประวิงเวลา กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ล้อมบ้าน

รอความช่วยเหลือจากทางการ...
จนกระทั่ง กำลังเจ้าหน้าที่มาถึง..คอมมิวนิสต์...เลยสลายตัวไปหมด..
ทุกคนรอด...



อ้อ ตอนคิดสู้กะพวกคอมมิวนิสต์ อีเดี่ยวของท่าน มีกระสุนเหลืออยู่...นัดเดียวครับ......

ถึงจะเป็นกระทู้เก่า...แต่ก็เป็นกระทู้ที่น่าอ่านกระทู้นึงเลยทีเดียว :) :) :) :)...

แต่ผมว่าโดน M1 ของพี่มะขิ่น ผมว่าต้องขาดสองท้อนเป็นแน่แท้....

ต่อให้เป็น M 16 หรือ AK 47 ก็สู้ไม่ได้ครับ ถ้าใจไม่แกร่งกล้าพอ ฝึกฝน ฝึกตน อดทน เด็ดเดี่ยว เยือกเย็น และที่สำคัญ มีสติตลอดเวลา

โหย... อุตส่าห์ขุด

สมัครเป็นลูกศิษย์ ด้วยคนครับ

โอกาส สติและการฝึกฝนครับ

เท่าที่เห็น..รายนี้เห็นหลายกระทู้แล้วนะครับ...พี่ครับ.....  :<><>

ฝึกฝนบ่อยๆให้ชำนาญครับแล้วเราจะรักและรู้ใจปืนกระบอกนั้นเอง....ของผมก็ใช้ปืนลูกโม่เหมืนกันเป็นของ สมิทฯ โมเดิล 66  ลำก้อง 2.5นิ้ว .357 เสตนเลส  ครับ...

เอาเหตุการณ์ล่าสุดดีกว่า

4. ก.ย.49  นายจักรตรา พรหมแก้ว ปลัดอำเภอประจำตำบลบางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี  ใช้ .38 คู่กาย ยิงตอบโต้กับโจรก่อการร้าย 6 คน ที่มีอาวุธสงคราม AK ด้วย หลังจากยิงสู้ประมาณ 20 นาที หมดกระสุนไป 3 โม่ ฝ่ายโจร (ตามข่าวว่าเจ็บไป 1 คน) ก็หลบหนีไปด้วยรถจักรยานยนต์ โดยได้เผาทำลายรถของปลัดเสียหาย และเอาอาวุธปืนลูกซองกับ HK ไปด้วย

ผมเลื่อมใสนะครับ
แกสู้จริง ๆ เพราะแกให้สัมภาษณ์ว่าหมดกระสุนแล้ว

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ถึแม้จะเป็นกระทู้เก่าแต่ภูมิรู้ ประสบการณ์ของแต่ละท่านที่ได้บันทึกไว้มิได้เก่า เชย หรือล้าสมัยไปด้วย ยังคงมีประโยชน์และทรงคุณค่ารอคนเข้ามาอ่าน เก็บเกี่ยวเอาความรู้เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อยู่เสมอ ขอบพระคุณมากครับ

สำหรับผมปืนลูกโม่มีระบบปฏิบัติการที่น่าเชื่อถือที่สุด...จะเหน็บจะเสียบตรงไหนก็ไม่เคยกลัว...และถ้าเรารู้จักซ้อมมือบ่อยๆให้เกิดความชำนาญก็ยิ่งเป็นการดีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินครับ

คุณแม่เท่ห์มากครับ   ผมนับถือจริงๆ

ผมว่าอยู่ที่การฝึกฝน แล้ว กระเตรียวตัวตั้งรับครับ ขอยกตัวอย่างซัก 1เรื่อง นะครับ คุณพ่อเล่าให้ผมฟังเมื่อนานมาแล้ว สมัยภาคอิสาน ยังร้อนด้วยภัยก่อการร้ายสงครามคอมมิวนิส มีผู้ใหญ่บ้านท่านนึง โดนหมายหัว จาก ผกค ด้วยที่ช่วยเหลือ ทางราชการ เป้นอย่างดี แต่ด้วยความระมัดระวัง และการเตรียมพร้อม ในคืนนึง ขณะที่แกนอนอยู่ ผกค ก็ยิง RPG ใส่บ้านของแก ที่เป็นบ้านยกพื้นแบบอิสาน และผนังไม้ที่ไม่แข็งแรงนัก ผกค ย่ามใจ เดินขึ้นไปบนบ้านด้วยคิดว่าเจ้าของบ้านต้องตายอย่างแน่แท้ 2คนแรก โดนลูกซองเดี่ยวนัดแรก ของผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตทันที คนที่3อยู่ที่ ตีนบันได โดนไปอีก1 และที่ยืน ซุมอยุ่ใกล้โดนลูกซองเดี่ยว บาดเจ็บไปอีก2คน จากปากคำผกค บอกว่ามาทั้งหมด 7คน อีก2คนหนีไปได้

สรุป คืนนั้น ผญบ มีปืน ลูกซองเดี่ยว1กระบอก ปืนลูกโม่ สมิท เอ็ม10 1กระบอก แต่ผู้ใหญ่บ้านเตียมการรับมืออย่างดี โดยภายในบ้าน แกย้าย กระสอบข้าวจากในยุ่งขึ้นมาทำบังเกอร์ ภายในบ้าน เลยกัน สะเก็ด PRG โดยที่ ผญบ บาดเจ็บเล็กน้อย ลูกเมียปลอดภัย

ผกค มีปืน อาก้า2 เอ็ม16 1และRPG 1 คาบิ้น1
ตาย3 บาดเจ็บ2

ผมว่าการที่จะใช้ปืนอ่ะไรซักอย่างเราควรฝึกฝนให้ชำนาญ และคล่องแค้ลว เพราะ ปืนดี คนใช้ดี ประสิทธิภาพก็ออกมาดี ปืนดี คนใช้ไม่เคยฝึกฝน ผลก็ออกมาไม่ดี เพราะถ้า เราฝึกฝนกับมัน อย่างจริงจัง  เราจะเกิดความมั่นใจขึ้นและใช้งานได้ดีขึ้นแน่นอน และอย่าลืม เตียมตัวให้พร้อม อยู่เสมอครับ

เข้ามาอ่านเพื่อเก็บประสบการณ์จากพี่ๆครับ..เพราะผมเองก็ใช้เจ้า S&W โมเดล 67 อยู่เป็นเพื่อนเหมือนกันครับ  ;) :)

ถ้าผู้ร้ายเอาปืนมาจ่อหัวเราแล้ว ปืนอะไรก็ไม่ทันโจรหรอกครับ  ปืนรุ่นนี้ชื่อก็บอกรองตัวเองอยู่แล้ว ถ้าจะเอายืนซดกันแบบนัดต่อนัด เหมือนในหนัง ปืนเล็กย่อมเสียเปรียบ แต่ถ้าพกซ่อนแล้ว"ยิงลอดผ้า"ได้เปรียบแน่นอน ไม่ทิ้งปลอกด้วย ถ้าคุณคิดจะซื้อมมาเพื่อพกซองนอก ในความเห็นของผมคืออย่าซื้อ แต่ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่สามรถพกปืนติดตัวอย่างเปิดเผยได้ ผมว่ามันใช้ได้ดีทีเดียว ผมใช้รอสซี่สองนิ้วตัดหงอนออก พกในกระเป๋ากางเกงสบายๆ เดินขึ้นห้างเข้าโรงหนังไม่มีพิรุธ

กระทู้นี้มาไกลจังครับ 2004

 ;D ;D ;D อาจฟื้นขี้นมาเรื่อยๆ

ตอบตามที่ถาม  ว่าสู้ได้ครับ 

คุณแม่เท่ห์มากครับ ผมนับถือจริงๆ

ทุกวันนี้  เวลาที่แกขายของอยู่ที่บ้าน  แกหย่อนไว้ในเอี๊ยมขายของนั่นแหละครับ   ;D ;D  เงินกระเป๋านึง  กระบอกนั้นใส่อีกกระเป๋านึง   ;D ;D

ตอนนี้ผมมีAutoอยู่3กระบอก .22 / 9mm/.45และลูกโม่ 357 มี่กระบอกเดียว
แต่ถ้ามีโจทย์ว่าให้เลือกได้เพียงกระบอกเดียวในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน.....ผมไม่ลังเลเลยครับที่จะเลือกลูกโม่M65  .357 ลำกล้อง3นิ้วที่อยู่ด้วยกันมานานเป็นเพื่อนคู่กาย

เจ้าของกระทู้คงลืมไปนานแล้ว  แต่ก็ให้ความรู้กับผู้ที่ใฝ่การศึกษาดีครับ

ปืนอะไรก็สู้ด้ายยยยย.....ว่าแต่จะยิงถูกหรือเปล่า..

เพลินดีครับอ่านกระทู้เก่าๆ...แต่ว่าใครขุดกระทู้เก่า..ขอให้ท้องอืด ;D ;D

การต่อสู้ผมว่าไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ไม่มีเหตุการณ์ใดเหมือนกันแน่นอน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ส่วนใหญ่เป็นการคาดคะเนกันล่วงหน้าไว้มากกว่าคิดเผื่อกันไว้ ออโต หรือ ลูกโม่ ย่อมกำหนดไม่ได้ โชคดีคุณอาจเจอสถาณการที่ปืนที่พกอยู่เอื้ออำนวย และอาจโชคร้ายทีปืนคุณพกอยู่ไม่เอื้ออำนวยต่อสถาณการ คุณเท่านั้นที่จะเป็นคนรู้ตัวเองว่าจะใช้ชนิดใด เพราะคุณรู้ว่าปัญหาที่คุณกำลังเผชิญจะเจอเกิดจากอะไรการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณเป็นอย่างไร และ ความถนัด เป็นตัวกำหนดให้คุณเลือกใช้ปืนชนิดนั้นเอง

สู้ได้อยู่แล้วครับ ขอเพียงฝึกซ้อมบ่อยๆ สร้างความคุ้นเคยโดยเฉพาะการยิงในระบบดับเบิล และการโหลดกระสุนชุดใหม่ เทคนิคต่างๆ สามารถสอบถามจากพี่ๆ ที่มีประสบการณ์ในที่นี้ ทุกท่านยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันอยู่แล้วครับ

เข้ามาอ่านได้ความรู้ความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ชาว อวป.มากมายครับ ยังอ่านไม่หมด...ค่อยเข้ามาอ่านต่อครับ ใครขาย รีวอลเวอร์ .38 ชีพ หรือบอร์ดี้การ์ด รีบ ๆ ซื้อไว้ไว ๆ ครับ...ขอบอก เพราะเป็นปืนพกแบ็คอัพที่ผมไว้ใจที่สุดในอานุภาพของกระสุนที่สามารถเลือกแบบได้ ส่วนที่รู้สึกเกรง ๆ ปืนพกกึ่งออโต ขนาด .45 ถ้าเคยยิง .38 มาแล้ว...ไม่ต้องวอรี่แล้วครับ เพราะถ้าพูดถึงความรุนแรงของอาวุธปืนพก ที่ผมเคยยิงมาหลาย ๆ ขนาด กระทั่งอาวุธปืนชนิดที่ใช้ยิงสำนักงานเดลินิวส์ (ผมไม่ได้เป็นคนยิงนะครับ...ไม่ทราบใครยิง ยิงแบบดับเบิ้ลแท็ปซะด้วย ;D) ผมว่าปืนพก รีวอลเวอร์ ขนาด .357 รุนแรงสุด เสียงปืนแน่นปึ๊กยิ่งกว่า กึ่งออโต ขนาด .45 ซะอีกครับ
                    ปล.อ่านหมดแล้วครับ ต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆชาว อวป.ที่ช่วยคัดเลือกขุดกระทู้ดี ๆ ขึ้นมา ซึ่งผมไม่ได้อ่านมาก่อน สำหรับผมแล้ว แค่ย้อนไป 4-5 หน้า ก็เนือย ๆ แล้วครับ

สู้ได้ไม่ได้....ใจต้องเกินร้อยด้วยเน้อ............เอ.....เกี่ยวหรือเปล่าน๊า.............อิ อิ