หัวข้อ: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: o/uboy ที่ ตุลาคม 27, 2006, 11:41:16 AM ผมอยากทราบว่ามีสมุนไพรชนิดใดบ้างที่ให้รสเผ็ดจัดๆ คือผมเคยได้ยินมาว่าบางประเทศมีพืชสมุนไพรแบบนี้ แล้วเค้าก็เอามาใส่อาหารเพื่อให้เกิดรสเผ็ด ผมเคยกินซอสพริกยี่ห้อนึง แตะชิมแค่หยดเดียว :~)โห่จะบ้าตาย กินไปทีหน้าชาไปเลย แบบที่กินแล้วมีพิษไม่เอานะครับ :~)
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:13:35 PM ดีปลีครับ ผมว่าเผ็ดมากเหมือนกันนะ อีกอันก็พริกขี้หนูกับพริกไทยสดครับ สมุนไพรทั้งน้าน .... ;D ;D
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ManStopper ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:23:37 PM ใบกระเพรา/ใบโหระพา ก็เผ็ดนิดๆนะผมว่า
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:26:28 PM อบเชย (อังกฤษ: Cinnamon)
เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม ได้มาจากเปลือกไม้ชั้นในที่แห้งแล้วของต้นอบเชย แท่งอบเชยมีสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเหมือนแผ่นไม้แห้งที่หดงอหลังจากโดนความชื้น ในการทำอาหารไทย มักใช้อบเชยร่วมกับโป๊ยกั้กในอาหารคาวประเภทต้มเช่น พะโล้และเนื้อตุ๋น ส่วนในประเทศแถบตะวันตก มักใส่อบเชยในของหวาน เช่น ซินนามอนโรลล์ ใช้ผงอบเชยละเอียดโรยหน้ากาแฟใส่นม ใช้ผงอบเชยกับน้ำตาลโรยหน้าเพรทส์เซล และนอกจากนี้ยังมีลูกอม หมากฝรั่ง และยาสีฟันรสอบเชยอีกด้วย (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/de/Cinnamomum_verum.jpg) อาณาจักร: Plantae ส่วน: Magnoliophyta ชั้น: Magnoliopsida ตระกูล: Laurales วงศ์: Lauraceae สกุล: Cinnamomum สปีชีส์: C. verum (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/e/e1/Cinnamomum_verum1.jpg) อ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A2 อบเชยที่แก่จัด จะออกเผ็ด เมื่อเคี้ยว และ หวานตอนกลืนน้ำลายครับ หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:29:53 PM พืชวงศ์ขิง (Zingiberaceae) เป็นพืชที่มีเหง้า มีด้วยกัน 47 สกุล ประมาณ 1,000 ชนิดพืชตระกูลขิงหลายชนิดมีความสำคัญในฐานะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ บ้างก็ใช้เป็นเครื่องเทศ หรือยาสมุนไพร พืชสำคัญได้แก่ ขิง ข่า ดาหลา กระชาย (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/9/95/Zingiber_Beehive.jpg) อาณาจักร: Plantae ส่วน: Magnoliophyta ชั้น: Liliopsida ตระกูล: Zingiberales วงศ์: Zingiberaceae Lindley อ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:38:38 PM พริกไทย Piper nigrum Linn. Piperaceae ชื่อสามัญ PEPPER, BLACK PEPPER ส่วนที่ใช้เป็นยา ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุกแห้ง มีรสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม ขนาดและวิธีใช้ ผลบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 0.5-1 กรัม หรือ จะใช้ผงชงน้ำดื่ม รับประทาน 3 เวลาหลังอาหาร สรรพคุณ ลดอาการท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียดและช่วยขับลม การที่พริกไทยช่วยลดอาการท้องอืดเฟ้อได้ เพราะในผลมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ 2% - 4% (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/พริกไทย.jpg) อ้างอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=82 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:40:14 PM ข่าก็เผ็ดครับ ลูกผักชีก็มีรสเผ็ด ขิงก็เผ็ด
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:40:15 PM กระชาย Boesenbergia pandurata Holtt. Zingiberaceae
ชื่อสามัญ ----- ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าและราก มีรสเผ็ดร้อน ขม ขนาดและวิธีใช้ ใช้เหง้า หรือรากประมาณครึ่งกำมือ น้ำหนักสด 5-10 กรัม แห้ง 2-5 กรัม ทุบพอแตก ต้มกับน้ำพอเดือด ดื่มแต่น้ำ สรรพคุณ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด การที่กระชายช่วยลดอาการท้องอืดเฟ้อได้ เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยช่วยขับลม ช่วยให้ กระเพาะ และลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/กระชาย.jpg) อ้างอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=76 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:41:55 PM กานพลู Syzygium aromaticum (Linn.) Merr. et Perry. Myrtaceae
ชื่อสามัญ CLOVE ส่วนที่ใช้เป็นยา ดอกที่โตเต็มที่ แต่ยังไม่บาน มีรสเผ็ดร้อน ซ่า กลิ่นหอม ขนาดและวิธีใช้ ดอกแห้ง 5-8 ดอก ต้มน้ำพอเดือด ดื่มแต่น้ำ ถ้าบดเป็นผง 0.12-0.6 กรัม ชงน้ำสุกดื่ม ในเด็กอ่อนใช้ดอกแห้ง 1 ดอก ทุบแช่ไว้ในกระติกน้ำใช้ชงนม สรรพคุณ ลดอาการท้องอืดเฟ้อ ช่วยขับลม การที่ดอกกานพลูช่วยขับลม เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหย (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/กานพลู.jpg) อ้งอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=81 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:43:35 PM กระวานไทย Amomum krervanh Pierre Zingberaceae
ชื่อสามัญ CAMPHOR SEED, SIAM CARDAMOM ส่วนที่ใช้เป็นยา ผลแก่แห้ง มีรสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม ขนาดและวิธีใช้ ผลบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 1 1/2 - 2 1/2 ช้อนชา ประมาณ 2-4 กรัม ชงด้วยน้ำอุ่น ดื่มหลังอาหาร หรือขณะมีอาการ สรรพคุณ ลดอาการท้องอืดเฟ้อ ขับลม การที่กระวานช่วยขับลมได้ เพราะในเมล็ดมีน้ำมันหอมระเหย (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/กระวานไทย.jpg) อ้างอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=78 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Kasalong ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:44:18 PM อะไรก็ไม่เผ็ดจี๊ด เท่า วาซาบิ ครับ แตะลิ้นนิด จี๊ดขึ้นหัวเลย อันนี้คงเป็นสมุนไพรทางญี่ปุ่น ....
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:45:18 PM ดีปลี Piper retrofractum Vahl Piperaceae
ชื่อสามัญ LONG PEPPER ส่วนที่ใช้เป็นยา ผลโตเต็มที่ แต่ยังไม่สุกตากแห้ง มีรสเผ็ดร้อน ขม ปร่า ขนาดและวิธีใช้ สำหรับรักษาอาการไอ ระคายคอจากเสมหะ ใช้ผลดีปลี 1/2 - 1 ผล ฝนกับน้ำมะนาวแทรกเกลือ กวาดคอวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น หรือจะใช้จิบบ่อย ๆ ให้เติมน้ำพอควร ขนาดและวิธีใช้ สำหรับรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ใช้ผลโตเต็มที่แห้ง 10-12 ผล เติมน้ำ 2 ถ้วยแก้ว ต้ม 10-15 นาที ดื่มแต่น้ำวันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร สรรพคุณ - ลดอาการไอ และระคายคอจากเสมหะ - แก้อาการท้องอืด เฟ้อ แน่นจุกเสียด การที่ผลดีปลีสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ จุกเสียดได้ เพราะในผลมีน้ำมันหอมระเหย (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/ดีปลี.jpg) อ้างอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=86 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:46:06 PM สมุนไพรไทยรสจัดมีหลายหลายกินใช้กันอยู่ประจำวัน เช่นขิงก็รา ข่าก็แรง เป็นต้น
ฝรั่งเห็นเป็นเรื่องแปลกและหายาก กระเทียมก็เผ็ดครับลองสดๆสักหน่อยสิครับ 555 เขาว่าชูพลังทางเพศด้วยนิ หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:48:37 PM เร่ว Alpinia allughas Rosc. ZINGIBERACEAE
ชื่ออื่น กะลา ข่าน้ำ รูปลักษณะ ไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน กลิ่นหอม แตกกอ สูงได้ถึง 1 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 4-7 ซม. ยาว 12-20 ซม. ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ก้านใบเป็นแผ่น เรียงอัดแน่นคล้ายลำต้นบนดิน สีเขียว ดอกช่อ ออกที่ปลายยอด กลีบดอกสีขาว เกสรตัวผู้ที่เป็นหมัน แผ่เป็นแผ่นคล้ายกลีบดอกสีขาว มีลายเส้นตามขวาง สีน้ำตาลส้ม ผลแห้งแตกได้ รูปทรงกลม เมล็ดสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นหอม สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา เมล็ด - มีรสเผ็ดเล็กน้อย ใช้เป็นยาขับน้ำนม แก้คลื่นไส้ อาเจียน ขับลม (http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/picpost/เร่ว.jpg) อ้างอิงจาก http://www.thaifitway.com/Education/Ndata/N2db/question.asp?QID=56 หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 12:51:56 PM อะไรก็ไม่เผ็ดจี๊ด เท่า วาซาบิ ครับ แตะลิ้นนิด จี๊ดขึ้นหัวเลย อันนี้คงเป็นสมุนไพรทางญี่ปุ่น .... วาซาบิเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่น ถ้าบนโต๊ะอาหารฝรั่งมีเกลือกับพริกไทย บนโต๊ะอาหารญี่ปุ่นก็ขาดวาซาบิไม่ได้ เช่นกัน คนญี่ปุ่นนิยมกินวาซาบิกับปลาดิบ ข้าวปั้นญี่ปุ่นหรือโซบะบางชนิด การบริโภควาซาบิที่ถูกวิธีก็คือควรทาวาซาบิลงบนเนื้อปลาดิบแล้วจุ่มเนื้อปลาดิบด้านที่ไม่มีวาซาบิลงในซีอิ๊วญี่ปุ่น ทั้งนี้วาซาบิจะได้ไม่ลงไปปนเปื้อนอยู่ในถ้วยซีอิ๊ว วาซาบิที่ดีจะต้องไม่ให้แต่รสเผ็ดเท่านั้น แต่จะต้องมีกลิ่นที่ช่วยทำให้ปลาดิบคำนั้นมีรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามคนทั่วไปนิยมผสมวาซาบิลงในซีอิ๊วซึ่งเรียกว่า วาซาบิโซยุ แล้วใช้จิ้มปลาดิบ หรือบางคนนิยมใส่ลงไปในชามโซบะ ซึ่งก็อร่อยไปอีกแบบ วาซาบิ เป็นเครื่องปรุงที่ทำมาจากต้น canola โดยจะนำส่วนโคนลำต้นที่มีความหนาออกมาใช้ และหลาย ๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนรากของมัน เมื่อนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร จะมาในรูปของเครื่องปรุงรสที่มีกลิ่นฉุน รับประทานเข้าไปทำให้แสบจมูกในระยะสั้น ๆ ก่อนที่รสชาดจะเปลี่ยนไปเป็นความกลมกล่อม ทั้งขมทั้งหวานผสมผสานกันไป การปลูกวาซาบินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องลงทุนค่อนข้างสูง พืชชนิดนี้มักจะปลูกในที่โล่ง แต่จะต้องมีการจำกัดปริมาณแสงแดด ไม่ให้ส่งลงมาถูกต้นพืชโดยตรงในช่วงฤดูร้อน เมื่อไม่นานมานี้เกษตรกรชาวญี่ปุ่นถูกแย่งตลาดด้วยการสั่งนำเข้าต้นพืชที่มีกรรมวิธีการปลูกสมัยใหม่ และราคาถูกกว่าจากไต้หวันและฟิลิปปินส์ แม้ว่าผลิตผลจะมีรสเผ็ดเกินกว่าที่จะนำมารับประทานเดี่ยว ๆ แต่ก็ได้รับการสั่งนำเขาจำนวนมากจากบริษัทใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น เพื่อที่จะนำมาผสมผสานกับเครื่องปรุงอื่น ๆ เช่น หัวไชเท้าและเครื่องเทศ ที่เรียกกันว่า เนริวาซาบิ และตลาดของเครื่องปรุงเนริวาซาบิ มีมูลค่าถึง 16 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ในขณะที่วาซาบิแบบดังเดิมมีมูลค่าในตลาด 36 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นครั้งหน้า เมื่อจะแต้มเครื่องปรุงรสสีเขียว ๆ ลงไปในปลาดิบที่คุณชอบ ลองนึกถึงประโยชน์ต่อร่างกายที่กำลังจะได้รับเข้าไปด้วย เพราะจากการศึกษาวิจัย พบว่า วาซาบิ เครื่องปรุงรสเผ็ดสีเขียวของชาวญี่ปุ่นนั้น มีคุณประโยชน์ทางยาอย่างหลากหลาย อาทิเช่น (1) ฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค พบว่าวาซาบิมีผลในการฆ่าเชื้อโรค และสามารถต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด (2) กำจัดพยาธิที่อาศัยอยู่ในปลาได้ เมื่อผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ (3) ฤทธิ์ต่อต้านสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของกระเพาะอาหาร (4) ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ฤทธิ์ต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด (5) ป้องกันฟันผุ ในอนาคตอาจนำไปประยุกต์เป็นส่วนผสมในยาสีฟัน (http://www.thaiclinic.com/images/cnn_wasabi.jpg) หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ ตุลาคม 27, 2006, 01:18:33 PM มัสหมั่น แกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Been ที่ ตุลาคม 27, 2006, 01:42:17 PM "มะแข่น " มีกลิ่นหอม ๆรสเผ็ด ใส่แกงป่าอร่อยมาก :D~ :D~
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ ตุลาคม 27, 2006, 03:35:00 PM ไม่เห็นใครพูดถึงพริกเลย พริกนี่แหละเผ็ดจริง ถ้าจะให้เผ็ดกว่าพริกต้องหาของร้อนมาเสริม เช่น เพกา กระชาย ขิง ฯลฯ ที่เคยลองแล้วได้ผลที่สุดคือเพกา เผ็ดชนิดที่ว่าจะทนนั่งทานต่อไม่ได้เด็ดขาด
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 04:49:06 PM ต้น คาโนลา (Canola) ที่นำมาทำวาซาบิ
(http://www.oznet.ksu.edu/fieldday/kids/pictures/kidsfield600/cg_canola.jpg) ทุ่งคาโนลา (Canola) (http://www.darylsphoto.ca/images/Canola%20Fields%20Alta..jpg) หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 05:02:37 PM อันนี้ ขาดไม่ได้
(ยาวหน่อยนะครับ) พริกขี้หนู ชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum frutescens Linn. ชื่อวงศ์ SOLANACEAE ชื่ออื่น พริกนก, พริกแด้, ดีปลี,ดีปลีนก สรรพคุณ ผล รสเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ ขับผายลม เจริญอาหาร ผสมวาสลินใช้ทาถูนวด แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดตามข้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือด ดีขึ้น ต้น สุมเป็นถ่านแช่น้ำ ขับปัสสาวะ แก้กระษัย แก้เส้น เอ็นพิการปวดเมื่อยตามร่างกาย ผงถ่านพริกขี้หนู ใช้กินกับน้ำส้มสายชู เพื่อขับน้ำคาวปลาให้ตก ถ้าน้ำ คาวปลาไม่ตกในสตรีคลอดบุตร จะทำให้มีอาการหน้า มืด กัดกรามแน่น จุกแน่นในท้องในอก รู้สึกอึดอัด ใจคอหงุดหงิด หนาวสั่น แน่นอก หูดับ เป็นลมหลับ ผลอยไป แก้ไม่ทันอาจถึงสิ้นชีิวิต ความลับของพริกขี้หนู ๑. แก้ปวดหัว ปวดหัวเนื่องมาจากไข้หวัด หรือตััวร้อน ใช้ใบพริกขี้ หนูสดๆ ตำกับดินสอพองปิดขมับ ๒. แก้เจ็บคอ เสียงแหบ ใช้น้ำต้มหรือยาชงพริกขี้หนู กลัวคอแก้ เจ็บคอและเสียงแหบได้ โดยใช้พริกขี้หนูป่น ๑ หยิบมือ เติมน้ำเดือดลง ไป ๑ แก้ว ทิ้งไว้พออุ่น ใช้น้ำกลัวคอ ๓. ช่วยขับลม แก้อาหารไม่ย่อย เจริญอาหาร โดยกินพริกขี้หนูสวน รักษากระเพาะที่ไม่มีกำลังย่อยอาหาร ๔. แก้ปลาดุกยัก ใช้พริกขี้หนูสดเขียวหรือแดงก็ได้ ขยี้ตรงที่ปลาดุก แทงจะหายปวด ขยี้แล้วจะรู้สึกเย็น(ธรรมดาพริกขี้หนูร้อน) ไม่บวม ไม่ฟกช้ำด้วย ๕. แก้เท้าแตก ใช้พริกขี้หนูทั้ง ๕ ปูนขาว สื่งละพอควร เอาไปต้ม เอาน้ำมาแช่เท้าที่แตก ถ้าไม่หายเอาต้นสลัดได รากหนอนตากยาก ใส่ลงไปด้วย ๖. แก้บวม ใบพริกขี้หนู บดผสมนำ้มะนาว พอกบริเวณที่บวม ๗. รักษาแผลสดและแผลเปื่อย ใช้ใบพริกขี้หนู ตำพอกรักษาแผล สดและแผลเปื่อย (อย่าใช้พริกขี้หนูปิดแผลมากเกินไปเพราะจะทำให้ร้อน) ๘. ใบ้ใบเป็นอาหาร ใบพริกขี้หนูมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เพราะมี ธาตุ แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ไวาตามินเอ และบีอยู่มาก บำรุงกระดูก บำรุง ประสาท ๙. แก้พิษตะขาบและแมลงป่องกัด ใช้พริกขี้หนููแห้ง ตำผงละลาย น้ำมาะนาว ทาแผลตะขาบกัด แมลงป่องต่อย หายเจ็บปวดดีนัก ๑๐. มดคันไฟกัด ใช้ใบหรือดอกพริกขี้หนูก้ได้ ถูบริเวณถูกกัด หายแล ตำรับยาพริกขี้หนูขับน้ำคาวปลา ตัวยา ๑. พริกขี้หนู(ผงถ่าน) ๑ ช้อนโต๊ะ ๒. น้ำส้มสายชู ๑ ถ้วยชา วิธีปรุงยา นำผงถ่านพริกขี้หนู ๑ ช้อนโต๊ะ ผสมกับ น้ำส้มสายชู ๑ ถ้วย ชา วิธีใช้ กินครั้งละ ๑/๒ - ๑ ถ้วยชา กินครั้งเดียว ครั้งต่อไปให้ใช้ เหล้าแทนน้ำส้มสายชู กิน วันละ ๒-๓ ครั้ง ข้อห้ามใช้ ให้กินพริกขี้หนูกับน้ำส้มสายชู เพียงครั้งเดียว เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิแรง กินบ่อยๆ จะเป็น อัน ตราย ส่วนการใช้เหล้า จะมีฤทธิ์อ่อนกว่า เหมาะ ที่จะใช้บ่อยๆได้ ข้อควรรู้เกี่ยวกับยา เอาพริกขี้หนูแห้ง ๑ กำมือ ใส่กระทะตั้งไฟ จน ควันขึ้น จุดไม้ขีดแหย่ลงไป พริกขี้หนูจะ ติดไฟ ทิ้งไว้สักพักจนเห็นว่า ไหม้ดำเป็นถ่าน หมด จึงตักออกจากกระทะใส่จาน หากะลา หรือถ้วยครอบพริกเผา เอาไว้จนไฟดับหมด จึงเอามาบดให้ละเอียด จึงได้ผงถ่านพริกขี้หนู ตามต้องการ หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 05:04:39 PM อันนี้ ของแถม
ยาลดความอ้วนบำรุงร่างกาย ๑. บอระเพ็ด ๕บาท ๒. มะตูมอ่อน๕บาท ๓. หัวกระชาย๕บาท ๔. หัวแห้วหมู๕บาท ๕. เหงือกปลาหมอ๑๐บาท ๖. พริกไทย๑๐บาท วิธีทำ บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ด ขนาดเม็ดพุทรา ขนาดรับประทาน ครั้งละ ๑ เม็ดก่อนนอน สรรพคุณ ลดความอ้วน เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Kasalong ที่ ตุลาคม 27, 2006, 05:21:37 PM เพิ่งเคยเห็นต้นวาซาบิครับ เหมือนผักกาดปู้เขียวหางดอก บ้านผมเลยครับท่านซับ....
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ ตุลาคม 27, 2006, 05:44:42 PM ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับน้าซับ
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 27, 2006, 06:05:55 PM เพิ่งเคยเห็นต้นวาซาบิครับ เหมือนผักกาดปู้เขียวหางดอก บ้านผมเลยครับท่านซับ.... ต้น Canola ครับ (ว่าแล้ว น่าจะเอามาจดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นของไทยซะนี่...ฮี่ ๆ ๆ ๆ) หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: bravo544 ที่ ตุลาคม 27, 2006, 08:07:58 PM พริก / ขิง / โหระพา / พริกไทย / อบเชย ฯลฯ
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: SAVOK CZ ที่ ตุลาคม 27, 2006, 09:16:07 PM พริก เรื่องเผ็ดร้อนที่น่ารู้
พริกต่างๆในสำรับอาหารของครอบครัวไทยนั้น มีพริกเป็นเครื่องปรุงอยู่ด้วยเสมอ เมื่อก่อนอาจมีความคิดว่า การบริโภคพริกมากเกินไปไม่มีประโยชน์อันใด แต่เมื่อมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพริกมากขึ้น ทำให้เราได้ทราบว่า นอกจากสีสันและความเผ็ดร้อนของพริกจะช่วยให้อาหารดูดีมีรสชาติแล้ว พริกยังมีสรรพคุณเป็นยา เป็นอาหารเสริมสุขภาพที่โลกศิวิไลซ์ ให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สารพัดพริก พริกมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ และมีประวัติการใช้มายาว นานหลายพันปีก่อนที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส จะสำรวจพบทวีปอเมริกา และด้วยรสชาติที่น่าพิศวง เขาจึงนำพืชนี้เข้าไปเผยแพร่ในยุโรป โดยโคลัมบัสเรียกชื่อพืชใหม่ของเขาว่า พริกแดง (red pepper) ตามลักษณะสีของผล เพื่อปลูกเปรียบเทียบกับพริกไทยดำ (black pepper, Piper nigrum L.) ซึ่งนิยมปลูกกันอยู่แล้ว ก่อนแพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย พริก (แดง)กับพริกไทย(ดำ) แม้จะมีชื่อว่าพริกเหมือนกัน แต่ถ้านับวงศาคณาญาติแล้ว พืชทั้งสองชนิดนี้ไม่มีความเกี่ยวพันกันเลย พริกเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์โซลานาซิอี (Solanaceae) เช่นเดียวกับมะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ และพิทูเนีย พริกจัดอยู่ในสกุลแคปซิคัม (Capsicum) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันประมาณ 25 ชนิด (species) แต่ที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปจะมีเพียง 5 ชนิดเท่านั้น อะไรอยู่ในพริก หลายคนสงสัยว่าทำใมพริกจึงเผ็ด? จากการค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์เกือบ 200 ปีมาแล้วพบว่า สารเคมีที่มีชื่อว่า แคปไซซิน (capsaicin) ซึ่งมีชื่อทางเคมีว่า 8-methyl-n-vanillyl-6-noneamide คือตัวการสำคัญที่ทำให้พริกเผ็ด แคปไซซินเป็นสารธรรมชาติจำพวกอัลคาลอยด์ มีสูตรโมเลกุลคือ C18H27NO3 นํ้าหนักโมเลกุลเท่ากับ 305.46 มีจุดหลอมเหลวเท่ากับ 65 องศาเซลเซียส แคปไซซินเป็นสารหลักของสารในกลุ่มแคปไซซินอยด์ (capsaicinoids) ซึ่งสารในกลุ่มนี้นอกจากแคปไซซินแล้วก็ยังมีไฮโดรแคปไซซิน (hydrocapsaicin) ซึ่งเป็นสารให้ความเผ็ดเช่นเดียวกันแต่เผ็ดน้อยกว่า โดยทั่วๆ ไปแคปไซซินอยด์จะประกอบด้วยแคปไซซิน 70% และไฮโดรแคปไซซิน 22% และสารอื่นๆ อีก 8% เสน่ห์ของพริกไม่ได้อยู่ที่ความเผ็ดแต่เพียงอย่างเดียว แต่คุณค่าทางอาหารคือสิ่งที่ทำให้พืชชนิดนี้ได้รับความสนใจในการค้นคว้าและทดลองอย่างกว้างขวาง สีเหลือง สีส้มและสีแดงของผลคือสารจำพวกแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ซึ่งมีอยู่มากมายถึง 20 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ เบตาแคโรทีน(beta-carotene) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอที่ช่วยบํารุงสายตา นอกจากนี้ พริกยังมีวิตามินซีอยู่ในปริมาณที่สูงมากโดยจะมีมากกว่าปริมาณวิตามินซีในผลส้มเสียอีก ในพริก 1 ออนซ์ (28 กรัม) จะมีวิตามินซีสูงถึง 100 มิลลิกรัม และวิตามินเอ 16,000 หน่วย ซึ่งปริมาณดังกล่าวนี้สูงกว่าปริมาณวิตามินซีและวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เผ็ดนั้นเผ็ดแค่ไหน ผู้ที่บุกเบิกในการวัดค่าความเผ็ดของพริกเป็นคนแรกได้แก่ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมนีที่ชื่อ วิลเบอร์ สโควิลล์ (Willbur Scoville) ในปี พ.ศ. 2455 หรือประมาณ 90 ปีล่วงมาแล้วโดยในช่วงนั้นสโควิลล์ได้ตั้งชุดทดสอบขึ้นมาซึ่งประกอบด้วยกลุ่มคนซึ่งจะทำหน้าที่ในการชิมและ ให้คะแนนพริกโดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ต้องเป็น“คอพริก”จริงๆและต้องมีประสบการณ์ ์และความชำนาญสูงเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น หลักการของวิธีการนี้ก็โดยการทำให้สารละลายที่สกัดได้จากพริกเจือจางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสารละลายนั้นไม่มีความเผ็ดเหลืออยู่เลย พร้อมๆ กับการจดบันทึกว่าทำการเจือจางทั้งหมดกี่ครั้ง ถ้ามีการเจือจางมากครั้งก็แสดงว่าพริกนั้นเผ็ดมาก ถ้าเจือจางน้อยครั้งก็แสดงว่าเผ็ดน้อย วิธีวัดดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมเรื่อยมา จนกระทั่งในระยะหลังได้มีการนำเครื่องมือที่เรียกว่า เอชพีแอลซี (HPLC - high pressure liquid chromatography) เข้ามาช่วยวัด โดยใช้เครื่องดังกล่าวนี้วัดปริมาณของสารแคปไซซินในพริกแต่ละชนิดโดยตรง และเทียบปริมาณสารที่วัดได้เป็น หน่วยสโควิลล์ (Scoville Unit) และกำหนดให้ 1 ส่วนในล้านส่วน (1 ppm) ของสารแคปไซซินมีค่าเท่ากับ 15 หน่วยสโควิลล์ ดังนั้นสารแคปไซซินบริสุทธิ์จึงมีค่าความเผ็ดเท่ากับ 15,000,000 หน่วยสโควิลล์ จากการใช้เครื่องมือวัดความเผ็ดนี้ตรวจสอบปริมาณสารแคปไซซินในพริกหลายๆ ชนิด ทำให้สามารถแยกแยะพริกได้หลายกลุ่มตามความเผ็ด ดังตัวอย่างที่สำคัญต่อไปนี้ * อันดับที่หนึ่ง ฮาบาเนโรแดงซาวีนา (Red Savina Habanero) มีความเผ็ด 580,000 หน่วย นับว่าเผ็ดที่สุดในโลก * อันดับที่สอง ฮาบาเนโร (Habanero) ความเผ็ดระดับ 200,000-500,000 หน่วย * อันดับที่สาม พริกขี้หนู (Thai Bird Pepper) พริกสก็อต บอนเนท (Scotch Bonnet) พริกจาเมก้า (Jamaica Hot) เผ็ดแสนเผ็ดระดับ 100,000-350,000 หน่วย * อันดับที่สี่ พริกชี้ฟ้า (Cayenne) เป็นพริกที่เผ็ดปานกลางระดับ 30,000-50,000 หน่วย * อันดับที่ห้า พริกหยวก หรือ พริกหวาน (Bell Pepper หรือ Italian Sweet) เป็นพริกที่ไม่เผ็ดเลย จึงมีความเผ็ดเป็น 0 หน่วย พริกสารพัดประโยชน์ จากข้อมูลของการศึกษาค้นคว้าทั้งในอดีตและปัจจุบัน สามารถสรุปประโยชน์ของพริกที่มีต่อสุขภาพหรือในด้านอื่นๆ ได้ดังนี้ * ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดและ ทำให้การหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลด นํ้ามูกหรือสารกีดขวางระบบการหายใจอันเนื่องมาจากการเป็นไข้หวัด ไซนัสหรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ ด้วยเหตุนี้เองสารแคปไซซินจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของยาหลายๆ ชนิด * ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด พริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี ช่วยลดความดัน ทั้งนี้เพราะสารพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซีช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง เพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น * ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเทอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเทอรอลชนิดไม่ดี (LDL-low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเทอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) * ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง พริกเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามีนซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ * ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด มนุษย์เรารู้จักใช้พริกเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดมาแต่โบราณกาล เช่น ลดการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้ทาบรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงที่เกิดบนผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาท์หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น * ช่วยเสริมสร้างสุขภาพดีและอารมณ์ชื่นมื่น สารแคปไซซินช่วยเสริมสร้างอารมณ์ชื่นมื่นเนื่องจากสารนี้มีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้น * พริกเพื่อการป้องกันตัว ในราว พ.ศ. 2528 ได้มีการผลิตสเปรย์ป้องกันตัวโดยใช้พริกเป็นส่วนประกอบสำคัญ สเปรย์ดังกล่าวนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่การฉีดเข้าตาโดยตรงจะมีผลทำให้ตามองไม่เห็นเป็นเวลาสองสามนาที ซึ่งนานเพียงพอที่จะทำให้เกิดการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบางชิ้นรายงานไว้ว่า มีการนำพริกไปใช้ประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น ใช้ไล่แมลง ใช้ป้องกันไม่ให้เพรียงมาเกาะท้องเรือ ใช้เป็นยากระตุ้นกำหนัด เป็นต้น โดย... สัมพันธ์ คัมภิรานนท์ อ่านเรื่องราวของพริกอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบได้จากนิตยสาร UpDATE ฉบับ 191 สิงหาคม 2546 พบกับเรื่องนี้ได้ที่ : http://update.se-ed.com/191/chile.htm หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: o/uboy ที่ ตุลาคม 28, 2006, 10:52:28 PM ขอบคุณพี่ซับมากๆๆๆๆๆๆๆๆครับ และท่านอื่นๆด้วย ผมแค่อ่านเรื่องเกี่ยวกับพริกก็สนุกแล้วครับ ส่วนเจ้าฮาบาเนโรนี่ผมยอมรับครับว่าเผ็ดมหาโหดจริงๆ แต่กลิ่นมันแปลกๆครับไม่อร่อยเลย พริกชนิดนี้มีอยู่ครั้งนึงผมแค่เอาพริกมาสองเม็ดแล้วจับหั่น ก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันเผ็ดเพราะ นิ้วนี่ร้อนขึ้นมาเลย กลิ่นก็เผ็ดแรงมาก แต่ทำไมไม่เข้าใจว่าที่บ้านเราไม่เห็นมีคนเอามาปลูกขายเลย สงสัยเป็นเพราะรสชาติที่ไม่อร่อยของมัน
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ตุลาคม 29, 2006, 05:49:03 AM ชอบวาซาบิสดมากกว่าผง ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Colt Rampant ที่ ตุลาคม 29, 2006, 11:36:30 AM ใบกระเพราควายครับ กินกับผัดเผ็ดซี่โครงเมียน้อย (แกล้ม...) เผ็ดน้ำหูน้ำตาไหล :D~
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: mimi ที่ ตุลาคม 29, 2006, 03:48:52 PM ผักไผ่หรือผักแพวค่ะ ทางเหนือเอามากินแกล้มลาบ :D~
หัวข้อ: Re: ท่านใดทราบเรื่องสมุนไพรที่มีรสเผ็ดบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 29, 2006, 07:16:19 PM ผักแพว-ใบยี่หร่า สมุนไพรพื้นบ้าน เผ็ดสุดๆ
|