เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: NAPALM ที่ ตุลาคม 28, 2006, 11:08:21 PM



หัวข้อ: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ ตุลาคม 28, 2006, 11:08:21 PM
เมื่อครู่ดูรายการถอดรหัสทาง  ITV.  เรื่องเกี่ยวกับสัมปทานรังนกนางแอ่น

ที่สะดุดตาคือ  " คนคุมกันรังนก "  ในภาพใส่ชุดดำสะพายปืน  HK 33   ไม่ทราบว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนของรัฐมาทำงานนอกเวลา

หรือบริษัทมีสิทธิ์พิเศษกับสัมปทานราคาหลายร้อยล้าน    ท่านใดมีข้อมูลพอจะเล่าให้ฟังได้บ้างครับ (เอาที่พอจะเล่าได้)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 28, 2006, 11:29:05 PM
นี่ยังน้อยไปครับ... เขาฆ่าคนขโมยรังนกหมกทะเลกันตั้งแต่โบราณแล้ว...


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 28, 2006, 11:55:25 PM
สินค้ามูลค่ามหาศาล เสียค่าสัมปทานให้รัฐปีละนับร้อยล้านบาท มีพวกชุบมือเปิบออกปล้นบ่อยๆ
เจ้าของก็ต้องป้องกันทรัพย์สินถูกต้องแล้ว พวกที่ปล้นไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา มันรับคำสั่งจากนายทุน
ก็ไอ้พวกที่ประมูลไม่ได้นี่แหละ  เมื่อไม่ได้ก็ก่อกวน ก่อกวนไม่สำเร็จ ก็จ้างมือปืนเก็บ ....... ทีใครทีมัน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: FUFUFUFU ที่ ตุลาคม 29, 2006, 12:03:49 AM
  น่ากลัวจริงๆๆ  ชีวิตคนมีค่าน้อยกว่ารังนก


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ฅนแผ่นดิน ที่ ตุลาคม 29, 2006, 12:29:23 AM
ไม่ทราบจริงๆครับ อธิบายให้ทราบด้วยครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ☆ *~PLOY~* ☆ ที่ ตุลาคม 29, 2006, 12:57:51 AM
              ที่เห็นสะพาย HK 33 นั่นมันตำรวจเขาจ้างมาคุ้มกันการขนส่งรังนกไม่ใช่หรือครับ........... ??? :) ::)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:56:17 AM
คนปล้นเกาะรังนกมาทีเป็นฝูง ถ้าขึ้นเกาะได้มันก็ฆ่าหมดเกาะน่ะครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: babygun ที่ ตุลาคม 29, 2006, 02:06:28 AM
มันก็สมควรแล้วครับที่เขาจะมีอาวุธหนักไว้ป้องกันทรัพย์สินมูลค่ามาก ถ้ายึดตามหลักกฏหมายมาก ไม่ทันโจรหรอกครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ ตุลาคม 29, 2006, 07:45:13 AM
นี่ยังน้อยไปครับ... เขาฆ่าคนขโมยรังนกหมกทะเลกันตั้งแต่โบราณแล้ว...

   Ho Ho Ho  ยืนยันตามพี่ นายสมชาย(ฮา) ครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ ตุลาคม 29, 2006, 07:47:21 AM
ที่เห็นสะพาย HK 33 นั่นมันตำรวจเขาจ้างมาคุ้มกันการขนส่งรังนกไม่ใช่หรือครับ........... ??? :) ::)

น่าจะใช่ครับ.........เพราะบางภาพเป็นปืนลูกซอง

หมายความว่า   นำอาวุธทางราชการ    มารับจ็อบนอกเวลาใช่ไหมครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Desperado - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 29, 2006, 09:03:12 AM
ตั้งแต่นี้ไป จะน่ากลัวกว่านี้ ผมว่า HK33 ไม่น่าจะพอครับ
การล้างแค้นมีแน่นอน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ภูกามยาว ที่ ตุลาคม 29, 2006, 09:31:57 AM
ที่เห็นสะพาย HK 33 นั่นมันตำรวจเขาจ้างมาคุ้มกันการขนส่งรังนกไม่ใช่หรือครับ........... ??? :) ::)

น่าจะใช่ครับ.........เพราะบางภาพเป็นปืนลูกซอง

หมายความว่า นำอาวุธทางราชการ มารับจ็อบนอกเวลาใช่ไหมครับ
อาจจะขออนุญาตอย่างเป็นทางการมากกว่าครับ ( ความเห็นส่วนตัว )


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: watchrapong(รักในหลวง) ที่ ตุลาคม 29, 2006, 10:28:36 AM

 
        นกนางแอ่นก็น่าสงสารนะครับ ทำรังแทบตายสุดท้ายคนมาฉกไปกินซะ :-\


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Skynavy ที่ ตุลาคม 29, 2006, 10:52:24 AM

 
 นกนางแอ่นก็น่าสงสารนะครับ ทำรังแทบตายสุดท้ายคนมาฉกไปกินซะ :-\

คนก็น่าสงสารครับ....ฆ่ากันตายเพราะรังนก....


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 29, 2006, 11:17:18 AM
เมื่อครู่ดูรายการถอดรหัสทาง ITV. เรื่องเกี่ยวกับสัมปทานรังนกนางแอ่น

ที่สะดุดตาคือ " คนคุมกันรังนก " ในภาพใส่ชุดดำสะพายปืน HK 33 ไม่ทราบว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนของรัฐมาทำงานนอกเวลา

หรือบริษัทมีสิทธิ์พิเศษกับสัมปทานราคาหลายร้อยล้าน ท่านใดมีข้อมูลพอจะเล่าให้ฟังได้บ้างครับ (เอาที่พอจะเล่าได้)
มีlink ให้ดูรายการย้อนหลังทาง web บ้างไหมครับรบกวนด้วยครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: nick ที่ ตุลาคม 29, 2006, 11:28:51 AM
เป็นเรื่องปกติครับ  อย่างพี่ปูว่าเป็นแบบนี้มานมนานแล้ว


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Colt Rampant ที่ ตุลาคม 29, 2006, 11:29:03 AM
ประเด็นของท่าน นาปาร์ม น้าจะเป็นมีอาวุธสงครามมาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเอกชน (อย่างถูกกม. หรือรูปมันหลุดออกมาก็ไม่รู้) อย่างงี้ใช่ไหม
แต่ถ้าให้ผมเดานะ.....ปืนกระบอกนั้น(และยังมีอีกหลายๆกระบอก)อยู่คุ้มกันในเกาะตลอดเวลาแน่นอน และคนใช้งานก็ไม่ใช่ จนท. เป็นพวกลูกกระจ๊อกของนายหัวน่ะแหละ
เหตุผลน่ะรึ
1.เกาะเป็นเอกเทศเป็นพื้นที่ส่วนตัวเด็ดขาด เพราะไม่มีพื้นที่ติดกับของผู้ใด
2.ลองคิดดูว่าสัมปทานมูลค่าเท่าใด มูลค่าที่แท้จริงต้องมากกว่านั้นสองเท่า(อย่างน้อย)
3.จากข้อสองและข้อหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้รับสัมปทานก็ต้งใหญ่จริงและเจ๋งจริง
4.เมื่อใหญ่จริงและเจ๋งจริงเงินก็ต้องเยอะตามไปด้วย
5.เมื่อเงินเยอะคุณคิดว่า เงินสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะ........

ผมด้อยปัญญา มองได้แค่นี้ครับ ผิดถูกก็ว่ากันไป บ้านผมอยู่บนดอยไม่ได้อยู่ในเกาะ ;D

ปล.ท่านนาฯเก็บมีดให้ดีๆนะ เด๋วผมไปเอา ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Khan Thee Bae ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:13:27 PM
ตามเนื้อข่าว  พื้นที่ 3 จังหวัดที่ได้สัมประทาน  ปีที่แล้วเก็บรังนกได้  3.6 ตัน
มูลค่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ  เมื่อเทียบกับการต้องจ่ายค่าสัมประทาน  50 ล้านเศษ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:17:00 PM
ตามเนื้อข่าว  พื้นที่ 3 จังหวัดที่ได้สัมประทาน  ปีที่แล้วเก็บรังนกได้  3.6 ตัน
มูลค่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ  เมื่อเทียบกับการต้องจ่ายค่าสัมประทาน  50 ล้านเศษ

น่าจะเป็นแค่กิโลกรัมนะครับ มันไม่มากมายมหาศาลอย่างนั้นหรอก ราคาโลนึงก็เป็นหมื่นๆบาทแล้ว



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:17:59 PM
เคยรู้จักและได้พูดคุยกับโจรขโมยรังนกและเจ้าหน้าที่คุ้มกันรังนก  โจรขโมยรังนกแบ่งได้เป็นหลายประเภทเท่าที่จำได้

๑.แอบขโมย โดยไม่เคลียร์เจ้าหน้าที่คุ้มกัน
๒.แอบขโมย โดยเคลียร์เจ้าหน้าที่คุ้มกัน
๓.ปล้นจากเกาะรังนกโดยตรง
๔.ปล้นจากโจรที่ขโมยรังนกตอนล่องเรือกลับมาจากเกาะ


เจ้าหน้าที่คุ้มกันรังนกแบ่งเป็น ๒ ประเภท
 ๑.เจ้าหน้าที่ของรัฐ  ได้แก่  ตำรวจ  ทหาร   อส.  ( แล้วแต่ว่าบริษัทที่ได้รับสัมปทานจะว่าจ้างชุดใด ) อาวุธปืนที่ใช้ก็ปืนยาวของหลวง  ปืนสั้นของหลวง  ปืนสั้นของตนเอง ระเบิดก็คงจะเป็นของหลวงกระมัง
 ๒.เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับสัมปทาน ( บุคคลที่บริษัทซึ่งได้รับสัมปทานว่าจ้างมา แล้วแต่ว่าจะเป็นคนของบริษัทโดยตรง หรือ คนนอกบริษัท ) ปืนยาวลูกซอง  ปืนสั้นทั่วไป ส่วนจะหยิบยืมปืนเจ้าหน้าที่หรือว่านำปืนเถื่อนแบบสั้น ยาว มาใช้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่ได้ถามเค้าโดยตรง ใช้หลักการสังเกตอย่างเดียว


รังนกแบ่งเป็น ๓ เกรดใหญ่ ๆ คือ

๑.ของขาว  ซึ่งเป็นรังนกรอบแรก  ราคาหลักหลายหมื่น
๒.ของแดง  ซึ่งเป็นรังนกรอบสอง  ราคาหลักไม่เกิน ๓ หมื่น
๓.ของดำ    ซึ่งเป็นรังนกรอบสุดท้าย  ราคาไม่เกิน ๑ หนื่น


ราคารังนกที่อ้างถึงเป็นราคารังนกจากพ่อค้าในตลาดมืดซึ่งเคยได้สอบถามเมื่อหลายปีที่ผ่านมา  ส่วนการเรียกรอบรังนกว่าของสีต่าง ๆ นั้นเป็นภาษาเรียกที่โจรรังนก และ พ่อค้าตลาดมืดใช้เรียกกัน ส่วนภาษาทางราชการจริง ๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรียกอย่างไร


ส่วนวิธีการที่เอารังนกมาแบบไม่ถูกต้อง  ค่าหัวยิงโจรรังนก  การเอาคืนของคนที่ยิงโจรรังนก  การค้ารังนกในตลาดมืด  การเคลียร์รายการรังนก  ขอไม่พูดถึงจะเก็บไว้เป็นความรู้ที่ไม่เปิดเผยในที่สาธารณะ ใครอยากรู้เพิ่มเติมลองถามโจรรังนกดูก็แล้วกันนะครับ


ป.ล.ที่บอกไปนั้นไม่ขอยืนยันว่าเป็นเหมือนกันทุกที่ ทุกเกาะ ทุกตลาด และ ไม่ขอยืนยันว่าที่กล่าวมาข้างต้นนั้นถูกต้อง ๑๐๐%


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ☆ *~PLOY~* ☆ ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:23:47 PM
               เขตนี้ห้ามเรือผ่านโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจเจอลูกซอง9นัด ;D  :OO :<< ขอบคุณภาพจากคุณArt999.
(http://i14.tinypic.com/3zqx0k5.jpg)
(http://i13.tinypic.com/4g7hfkw.jpg)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Khan Thee Bae ที่ ตุลาคม 29, 2006, 01:42:09 PM
ตามเนื้อข่าว พื้นที่ 3 จังหวัดที่ได้สัมประทาน ปีที่แล้วเก็บรังนกได้ 3.6 ตัน
มูลค่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับการต้องจ่ายค่าสัมประทาน 50 ล้านเศษ

น่าจะเป็นแค่กิโลกรัมนะครับ มันไม่มากมายมหาศาลอย่างนั้นหรอก ราคาโลนึงก็เป็นหมื่นๆบาทแล้ว



ข้อมูลเป็นตันครับ
ค่าสัมประทาน  50 ล้านเศษ  มันเป็นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุน
ค่าใช้จ่ายที่ต้องคอยระวัง  ค่าบริหารจัดการ  ค่าใต้โต๊ะ  ค่าทีมงาน
ค่านักเลง  ค่าคุ้มครองคนมีสี  ที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง   ตรงนี้เยอะมาก
เฉพาะที่ต้องจ่ายให้อบต.เป็นค่าอากรสรรพสามิตอย่างเดียวก็ 30 กว่าล้านแล้ว

เถ้าแก่บริษัทน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่ง  ที่มีสโลแกนว่า ลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย
ก็วางมือในธุรกิจน้ำมันที่ทำมาทั้งชีวิต  หันไปเล่นรังนกเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 29, 2006, 02:18:43 PM
รังนกในทะเล จะเอาปืนอะไรคุ้มกัน ผมไม่ค่อยวอรี่
แต่ บางที นกนางแอ่นก็มาทำรังในบ้านร้าง หรือบ้านคน บนชายฝั่ง
จนกระทั่ง มีการสร้างคอนโดรังนก...
ตรงนั้น เจ้าของเอาปืนอะไรเฝ้าดูแล น่าสนใจกว่า...


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 29, 2006, 03:11:51 PM
รังนกในทะเล จะเอาปืนอะไรคุ้มกัน ผมไม่ค่อยวอรี่
แต่ บางที นกนางแอ่นก็มาทำรังในบ้านร้าง หรือบ้านคน บนชายฝั่ง
จนกระทั่ง มีการสร้างคอนโดรังนก...
ตรงนั้น เจ้าของเอาปืนอะไรเฝ้าดูแล น่าสนใจกว่า...


อันนี้ที่ปากพนังมีเพียบเลย ทิ้งบ้านสร้างเป็นคอนโดให้นกอยู่ คอยเก็บรังนกขายไม่ต้องเสียค่าสัมปทาน
ที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงาก็มีอยู่แห่งในใกล้ตลาดสดเทศบาล เป็นอาคารพาณิชย์ขายไม่ออก
เจ้าของทำเป็นถ้ำให้นกอยู่สบายทั้งนกและเจ้าของไปเลย  จ้างคนที่เคยเช่าเก่าย้ายออกหมด รวยแล้วรวยอีก


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 29, 2006, 04:17:24 PM
รังนกในทะเล จะเอาปืนอะไรคุ้มกัน ผมไม่ค่อยวอรี่
แต่ บางที นกนางแอ่นก็มาทำรังในบ้านร้าง หรือบ้านคน บนชายฝั่ง
จนกระทั่ง มีการสร้างคอนโดรังนก...
ตรงนั้น เจ้าของเอาปืนอะไรเฝ้าดูแล น่าสนใจกว่า...

อยู่ในเมืองคงไม่ปล้นกันมั้งครับพี่ซับ ต่างกับในทะเลถ้าพลาดก็ตายฟรีน่ะครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 29, 2006, 04:26:06 PM
รังนกนางแอ่น เกรด A ทำความสะอาดแล็ว ต้มทานได้ทันที
ราคา 80,000.00 บาท
รายละเอียด: ขายส่ง
ขายรังนก นางแอ่น ภาคใต้
เกรด เอ
๘๐,๐๐๐ บาท/กิโลกรัม
 
(http://img100.imageshack.us/img100/9141/logo20060903232636ms3.jpg) (http://imageshack.us)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 29, 2006, 04:46:05 PM
รังนกในทะเล จะเอาปืนอะไรคุ้มกัน ผมไม่ค่อยวอรี่
แต่ บางที นกนางแอ่นก็มาทำรังในบ้านร้าง หรือบ้านคน บนชายฝั่ง
จนกระทั่ง มีการสร้างคอนโดรังนก...
ตรงนั้น เจ้าของเอาปืนอะไรเฝ้าดูแล น่าสนใจกว่า...

อยู่ในเมืองคงไม่ปล้นกันมั้งครับพี่ซับ ต่างกับในทะเลถ้าพลาดก็ตายฟรีน่ะครับ

คนทำคอนโดรังนก ที่มรู้จัก แถวชุมพร เคยมาซื้อลูกซองไปเฝ้า...ครับ...
เค้าซื้อเรมิงตัน 870 ราคา42,000 ทราบไหมครับ ซื้อร้านไหน...


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่153 ที่ ตุลาคม 29, 2006, 06:55:39 PM
คนทำคอนโดรังนก ที่มรู้จัก แถวชุมพร เคยมาซื้อลูกซองไปเฝ้า...ครับ...
เค้าซื้อเรมิงตัน 870 ราคา42,000 ทราบไหมครับ ซื้อร้านไหน...
จะซื้อไปเฝ้าน้องนก...เอ้ย...รังนกที่ไหนค่ะ... ;D


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Been ที่ ตุลาคม 29, 2006, 06:59:55 PM
 :OO


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ ตุลาคม 29, 2006, 07:45:42 PM
ในจังหวัดที่อยู่เห็นมีคนทำบ้านให้นกอยู่หลายหลัง เงินคงดี.


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ ตุลาคม 29, 2006, 07:55:07 PM
รังนกนางแอ่น เกรด A ทำความสะอาดแล็ว ต้มทานได้ทันที
ราคา 80,000.00 บาท
รายละเอียด: ขายส่ง
ขายรังนก นางแอ่น ภาคใต้
เกรด เอ
๘๐,๐๐๐ บาท/กิโลกรัม
 
(http://img100.imageshack.us/img100/9141/logo20060903232636ms3.jpg) (http://imageshack.us)

ว้า แย่จัง พรรคพวกให้มา ๒ รัง ดันเป็นแบบเกรด C  ทำไมมันไม่ให้เกรด A มาสักโลน๊า


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: นายต้นงิ้ว ที่ ตุลาคม 30, 2006, 10:36:04 AM
ไม่ต้องปล้น แค่ขับเรือผ่านใกล้ก็โดนยิงแล้วกลางวันแค่เตือน กลางคืนของจริงไม่มีเตือน บ่อยครั้งแต่ข่าวไม่ค่อยมีครับ คนเฝ้าเขาเล่าให้ฟัง


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 30, 2006, 11:02:04 AM
จะว่าไปก็เห็นใจเจ้าของเขาครับ ลงทุนไปก็เยอะ ยังมาโดนปล้นอีก ก็ต้องมีอาวุธใว้ป้องกันตัวด้วย


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: nick ที่ ตุลาคม 30, 2006, 11:49:10 AM
เขตนี้ห้ามเรือผ่านโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจเจอลูกซอง9นัด ;D :OO :<< ขอบคุณภาพจากคุณArt999.
(http://i14.tinypic.com/3zqx0k5.jpg)
(http://i13.tinypic.com/4g7hfkw.jpg)
คุ้นๆ ว่าที่ชุมพร ตรงข้ามหาดทรายรี

ถ้าใช่  เคยขึ้นไปเที่ยวแล้วครับ

โดยส่วนตัวทานฟรียังมะอยากทานเลย


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ ตุลาคม 30, 2006, 11:52:02 AM
โห...โลตั้งแปดหมื่น....ขายได้วันละสองสามโล...ก็สบาย ๆ แล้ว... :DD


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 30, 2006, 11:53:38 AM
เกาะลังกาจิว ที่ชุมพร ครับ
เจ้าของสัมปทาน ถ้าจำไม่ผิด เป็นของ บ.รังนกแหลมทอง ครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ ตุลาคม 30, 2006, 12:00:21 PM
[quote

คนทำคอนโดรังนก ที่มรู้จัก แถวชุมพร เคยมาซื้อลูกซองไปเฝ้า...ครับ...
เค้าซื้อเรมิงตัน 870 ราคา42,000 ทราบไหมครับ ซื้อร้านไหน...
อ้างถึง

ไม่เฉลย.......หรือครับ  ซื้อร้านไหน......................น่าจะมีคนเดาถูกหลายท่าน     ::)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 30, 2006, 12:07:55 PM
พระราชบัญญัติ อากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540

....มาตรา 25 บนเกาะหรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีรังนกอยู่ตามธรรมชาติ
ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใด ๆ อันเป็นหรืออาจเป็นอันตรายแก่
นกอีแอ่น ไข่ของนกอีแอ่น หรือรังนก
หรืออาจเป็นเหตุให้นกอีกแอ่นละที่อยู่อาศัยไปจากเกาะหรือที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าว

ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่


มาตรา 28 ผู้ใดฝ่าฝืน...ตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน ห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ ตุลาคม 30, 2006, 12:50:47 PM
[quote

คนทำคอนโดรังนก ที่มรู้จัก แถวชุมพร เคยมาซื้อลูกซองไปเฝ้า...ครับ...
เค้าซื้อเรมิงตัน 870 ราคา42,000 ทราบไหมครับ ซื้อร้านไหน...
อ้างถึง

ไม่เฉลย.......หรือครับ ซื้อร้านไหน......................น่าจะมีคนเดาถูกหลายท่าน ::)

เขาซื้อ 2 กระบอกกะมั้งค่ะ.. ;D


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 30, 2006, 12:52:24 PM
น่าคิดนะครับคนมันจะมาโขมย มีอาวุธจำพวกปืนที่นายทะเบียนมิออกใบอนุญาติได้.........ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่สามารถมารับรองความปลอดภัยได้........จึงต้องมีของพวกนี้ให้พวกคุ้มกัน......ไม่ใช้เพื่อป้องกันตัวแต่เพื่อคุ้มกันรังนกป้องกันตัว ...คนที่จะมาโขมยก็จะได้เกรงกลัวไม่กล้ากระทำผิด........ในขณะที่พวกเราต้องมีอาวุธปืนก็เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว ทรัพย์สิน ไม่ต่างไปจากพวกเขาเหล่านั้น ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่สามารถทำสัญญารับประกันกับเราได้ว่า เรา และคนในครอบครัว รวมถึงทรัพย์สินของเราจะปลอดภัย...........แต่ไม่อนุญาติให้เรามีอาวุธปืนหรือกว่าจะขอได้ก็ติดโน่นติดนี่............. ::)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ ตุลาคม 30, 2006, 02:55:39 PM
โห...โลตั้งแปดหมื่น....ขายได้วันละสองสามโล...ก็สบาย ๆ แล้ว... :DD
ถ้าทำความสะอาดแล้วกว่าจะได้โลเนี่ยผมว่า คัดกันเหนื่อยครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: ing เด็ก ส.จ. ที่ ตุลาคม 30, 2006, 03:31:18 PM
มันอร่อยตรงไหน ส่วนตัวผมว่าข้าวเหนียวต้มน้ำตาลอร่อยกว่าเยอะ :)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ ตุลาคม 30, 2006, 11:55:10 PM
มันอร่อยตรงไหน ส่วนตัวผมว่าข้าวเหนียวต้มน้ำตาลอร่อยกว่าเยอะ :)

เขาไม่ได้เอารสชาด        เขาเอารสนิยมครับ      ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: jamin ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:36:31 AM
คนจีนชอบกินเป็นยาโป๊วครับ ... เลยแพง  อะไรแปลกๆที่คนจีนนิยมกิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นยาโป๊ว ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะบางส่วนละก็ .. แพง .. ทุกอย่างครับ

ผมก็อยากกินบ่อยๆเหมือนกันครับ .. ก็ผมเชื้อจีนนี่นา .. ผู้ใหญ่บอกมา ต้องเชื่อหน่อย
กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... ท่องให้ขึ้นใจครับ จะไม่เสียดายตัง :D~ :D~ :D~


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: noomrider ที่ ตุลาคม 31, 2006, 05:55:45 AM
มันอร่อยตรงไหน ส่วนตัวผมว่าข้าวเหนียวต้มน้ำตาลอร่อยกว่าเยอะ :)

เขาไม่ได้เอารสชาด เขาเอารสนิยมครับ ;D ;D ;D

ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ  เพราะว่ามันเเพงและดูดีเลยซื้อเป็นของกำนัลประจำเลยครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 31, 2006, 09:51:41 AM
คนจีนชอบกินเป็นยาโป๊วครับ ... เลยแพง  อะไรแปลกๆที่คนจีนนิยมกิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นยาโป๊ว ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะบางส่วนละก็ .. แพง .. ทุกอย่างครับ

ผมก็อยากกินบ่อยๆเหมือนกันครับ .. ก็ผมเชื้อจีนนี่นา .. ผู้ใหญ่บอกมา ต้องเชื่อหน่อย
กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... ท่องให้ขึ้นใจครับ จะไม่เสียดายตัง :D~ :D~ :D~
แต่ผมว่ารักนกไม่ได้จัดอยู่ในพวกยาโป๊ว นะครับ เป็นจำพวกเสริมธาตุสร้างความสมดุลของหยิน-หยางในร่างกาย.....ถ้าจำไม่ผิดรังนกนี่ช่วยในเรื่องของปอด และระบบทางเดินหายใจครับ...... :)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:24:48 AM
รังนก


รังนก ทำมาจากน้ำลายของนกนางแอ่นหรือนกอีแอ่น ซึ่งสำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งมีรูปร่างคล้ายกับรังนก
น้ำลายของนกนางแอ่นที่สำรอกออกมาครั้งแรก จะมีสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเรียกกันว่า รังนกขาว
จัดได้ว่าเป็นรังนกที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนน้ำลายที่นกนางแอ่นสำรอกหลังออกมาจากครั้งแรก จะเว้นสักระยะหนึ่ง
ไม่ใช่สำรอกออกมาจนหมดตามที่เข้าใจ นกนางแอ่นสำรอกน้ำลายเพื่อออกมาสร้างรังนกจนกระอักเลือดนั้น
ไม่เป็นความจริง รังนกที่เราเห็นเป็นสีแดงนั้น เกิดจากสนิมในถ้ำที่นกทำรังไว้ได้รับความชื้นสูง สนิมจึงแทรกซึม
เข้าไปในรัง โดยเฉพาะรังที่นกสร้างขึ้นในช่วงที่สอง และสาม ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝน ผิดกับรังแรกที่สร้างขึ้นในฤดูหนาว
ประมาณเดือนกุมภาพันธ์

สำหรับในเมืองไทยนั้น เรามีนกนางแอ่นสามชนิดด้วยกัน คือ นกแอ่นกินรัง นกแอ่นกินรังตะโพกขาว และนกแอ่น
หางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ นกนางแอ่นสองชนิดแรกนั้น จะให้รังนกสีขาว ส่วนชนิดหลัง จะให้รังสีดำ
โดยที่รังจะมีขนนกเป็นส่วนผสมด้วย แต่ทั้งสามชนิดนั้นสามารถใช้รับประทานได้




หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:26:22 AM
นอกจากรังนกอีแอ่น ที่ท่านซับใน...ชำนาญแล้ว
ยังมีอะไรอีกบ้างครับ...ที่ท่านซับในทราบอ่ะครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:30:31 AM
ในภาษาไทย เรียก นางแอ่นกินรัง หรือ ในภาษาถิ่น เรียก นกอีแอ่น

-ในภาษามลายู เรียก นกซาลังงัน

-ในภาษาอินโดนีเซียเรียก บูรุงวาเล็ท ( Burung Walet ) หรือ บูรุงลายัง-ลายัง (Burung layang – layang )

-ในหมู่ชาวจีนเรียก เอี้ยนจื่อ

- ชื่อวิทยาศาสตร์ จัดให้ นางแอ่นกินรัง เป็นนกใน
อันดับ ( Order ) Apodifomes
วงศ์ (Family ) Apodidae
สกุล ( Genus )Collocalia
ประเภทของนกนางแอ่นกินรัง

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีอยู่ ๑๒ สายพันธุ์ จาก 150 เกาะจะแบ่งออกได้ ๓ ชนิด คือ

นกแอ่นกินรัง ชื่อสามัญ: Edible-nest Swiftlet ชื่อวิทยาศาสตร์ : Collocalia fuciphaga วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากโดยที่ตัวผู้จะมีขนาดโตกว่า ตัวเมียเล็กน้อย เป็นนกขนาดเล็ก
ขนาดเท่านกกระจอกบ้าน จงอกปากสั้นกว้างมีสีดำ ม่าน ตาสีดำ วงปีกเป็นรูปโค้งคันธนู ปีกหมุนได้รอบ ขนด้านบนของตัว
มีสีดำอมน้ำตาล ส่วนล่างจะมีสีจางไล่ไปจนถึงส่วนท้าย ขนที่แข็งจะมีเล็กน้อยหรืออาจไม่มี หางเป็นแฉกเล็กน้อย ตะโพกมี
สีขาว ทางด้านท้องมีสีน้ำตาล เวลาบินจะกระพือปีกเร็วมาก รังมีสีขาวสร้างด้วยเมือกโปร่งแสงซึ่งประกอบด้วยสารพวกไกล
โคโปรตีนที่สังเคราะห์จากต่อมน้ำลาย

นิสัย : ชอบสร้างรังตามผนังถ้ำในเกาะเล็ก ๆ แถบชายฝั่ง หรือบางครั้งก็อยู่ตามอาคาร การสร้างรังใหม่มักจะสร้าง ณ จุดเดิม
ชอบออกหาอาหารประเภทแมลงในตอนเช้าตรู่เป็นพื้นที่กว้าง แถวชายป่าและทุ่งนา และกลับรังในช่วงเย็นย่ำ โดยสามารถ
บินกลับรังภายในถ้ำที่เป็นซอกหรือหลืบโพรงอันมืดมิดได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ จากการส่งเสียงร้องให้เกิดเสียงสะท้อน
นำทางที่เรียกว่า Echolocation และจะสร้างรังในเวลากลางคืน

ถิ่นกำเนิด: อันดามันส์, นิโคบาส์, ซุนดาส์, พาลาวาน, ฟิลิปปินส์,เทือกเขาตะนาวศรี, พม่า, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย,
ไทย, เวียดนาม, โคชินไชนาและตังเกี๋ย


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:32:53 AM
แล้วน้ำลายนกอีแอ่นนี่ ให้สารอาหารอะไรบ้างครับ พี่ซับ..


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:35:28 AM
นกแอ่นกินรังตะโพกขาว
ชื่อสามัญ: White-rumped Swift
ชื่อวิทยาศาสตร์: Apuspaeificus วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป:
มีสะโพกสีขาว ขนทางด้านใต้ท้องมีลายขวางสีดำสลับขาว หางเป็นแฉกมองเห็นชัดเจน
นกแอ่นกินรังตะโพกขาวและนกนางแอ่นกินรัง เดิมจัดเป็นชนิดเดียวกันแต่ต่างชนิดย่อยกัน
ปัจจุบันจัดไว้คนละชนิด รังมีสีขาว( white nest )

นิสัย :
เหมือนนกแอ่นกินรัง

ถิ่นกำเนิด :
อินเดีย, จีน, ไหหลำ, ไต้หวัน, ซุนดาส์, ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, ไทย, ลาว, ฮ่องกง, และเวียดนาม



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:36:24 AM
นกแอ่นหางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ
ชื่อสามัญ: Black-nest Swiftlet
ชื่อวิทยาศาสตร์:Collecalia maxima
วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป:
มีหัวใหญ่กว่านางแอ่นกินรัง ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกัน สีด้านบนของตัวมีสีน้ำตาลแก่
ด้านล่างของตัวมีสีเทา หางเป็นรูปบากเล็กน้อย หน้าแข้งมีขนขึ้นเต็มไปหมด เสียงร้องเหมือนนกนางแอ่นกินรัง
หรือเหมือนนกนางแอ่นพันธุ์หิมาลัย รังมีสีดำ( black nest )เพราะมีขนเป็นส่วนประกอบ และมักจะมีถิ่นที่อยู่อาศัย
ที่เดียวกับนกนางแอ่นกินรัง

นิสัย :
เหมือนนกนางแอ่นกินรัง

ถิ่นกำเนิด :
เทือกเขาหิมาลัย,ฟิลิปปินส์, เกาะซุนดาส์, พาลาวาน, เทือกเขาตะนาวศรี, ไทย และมาเลเซีย


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:39:32 AM
พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Vick - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:41:09 AM
แหม....คนเราต้องฆ่ากันเพื่อแย่งกินเสมหะนกตัวเล็กๆ เนอะ... ;D ;D


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:41:47 AM
บทความสำหรับผู้สนใจ ทำธุรกิจ บ้านรังนก

นกนางแอ่น  ประโยชน์มหาศาลที่ยังถูกซ่อนเร้น


พบภาคใต้ของไทยมีแหล่งทำรังของนกนางแอ่นกว่า 150 เกาะ นักวิจัยเตรียมนำลงแผนที่ภูมิทัศน์ภาคใต้ยืนยันการมีอยู่
และเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากธุรกิจรังนกนางแอ่นอย่างสมดุลและเหมาะสม โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่เจ้าของแหล่งรังนก
ได้มีส่วนร่วมรับรู้และได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่การเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์มหาศาลแต่เป็นเรื่องปิดบังซ่อนเร้น
และรับรู้กันเฉพาะกลุ่ม ชี้เหตุความรุนแรงปัญหาโจรขโมยรังนกก็เพราะความเชื่อในสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
หายากและราคาแพง กิโลกรัมละเป็นหมื่นเป็นแสนบาท การลักโขมยจึงกลายเป็นเรื่องปกติ ที่ทำกันตั้งแต่ชาวบ้าน
ยันนักการเมือง


..........นับเป็นพันปีมาแล้วที่มนุษย์รู้จักการกินรังนก รังที่สร้างมาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ด้วยความเชื่อว่ามีสรรพคุณ
เป็นยาบำรุงกำลังชั้นเยี่ยม และรักษาโรคได้สารพัด โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ นกนางแอ่นจึงได้สำแดงบทบาท
และความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในฐานะเป็นสินค้าราคาแพงที่มีผลประโยชน์มหาศาล และมีการแข่งขันสูง
ถึงขั้นฆ่ากันตายหมู่มาแล้ว


..........อย่างไรก็ตามข้อมูลการมีอยู่และความเป็นไปในการใช้ประโยชน์จากธุรกิจรังนกยังคงเป็นเรื่องลับ ๆ และซ่อนเร้นที่
รับรู้กันในวงจำกัดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งคนภายนอกหรือแม้แต่คนในพื้นที่แหล่งรังนกไม่มีโอกาสได้รับรู้หรือร่วมใช้ประโยชน์
จากทรัพยากรธรรมชาติชนิดนี้ได้อย่างแท้จริง

(http://i13.tinypic.com/2eckqs1.jpg)

..........การศึกษาเรื่อง “นกนางแอ่น : แหล่งทำรัง” ของ นายเกษม จันทร์ดำ นักวิจัยในโครงการแผนที่ภูมินิทัศน์ภาคใต้
ฐานเศรษฐกิจและทุนวัฒนธรรม ของ สกว. ซึ่ง มี ศ.สุธิวงศ์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นหัวหน้าโครงการ เป็นการศึกษาเพื่อแสดงให้
เห็นการมีอยู่ของนกนางแอ่นในฐานะเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นฐานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประเภทหนึ่งของภาคใต้
ว่ามีอยู่ที่ใดบ้าง และจะมีการใช้ประโยชน์จากรังนกอย่างสมดุลได้อย่างไร โดยเฉพาะการได้รับประโยชน์ของชาวบ้านเจ้า
ของแหล่งรังนกซึ่งไม่เคยได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากรังนกที่มีมูลค่ามหาศาล


..........ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า แหล่งทำรังของนกนางแอ่นที่ตรวจสอบได้ขณะนี้มีไม่น้อยกว่า 150 เกาะ และจะนำไปลง
ในแผนที่ภูมินิทัศน์ภาคใต้ ซึ่ง ศ.สุธิวงศ์ กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนแนวทางที่ชาวบ้านจะเข้าได้รับประโยชน์ก็คือการได้รู้สึก
มีสำนึกร่วมในการเป็นเจ้าของเช่นเดียวกับการร่วมเป็นเจ้าของประเทศไทย และในการจะใช้ประโยชน์และในการจะใช้ประโยชน์
ใด ๆ จากทรัพยากรรังนกนี้ก็ควรมีตัวแทนชาวบ้านเจ้าของแหล่งรังนกได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยและให้มีประโยชน์ตกถึง
แก่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:44:29 AM

.......เชื่อกันว่าคนจีน คือผู้ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินรังนกให้กับคนชาติอื่น ๆ ที่ตนเองไปสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งประเทศไทย
ซึ่งมีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ทั้งนี้การศึกษาได้ย้ำถึงการมีอยู่และความเป็นไปของการทำธุรกิจรังนก และส่วนหนึ่งได้
สะท้อนออกมาจากทัศนะคำบอกเล่าของผู้ที่เคยอยู่หรือเกี่ยวกับกับธุรกิจรังนก ซึ่งงานวิจัยได้รวบรวมไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ


“ผลประโยชน์ตัวนี้มีอยู่จริง เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเก็บเกี่ยวแล้วนี่ ถือว่าตัวนี้แหละเป็นตัวทำลายเพราะว่าตัวนี้แหละจะไปอยู่
ในตลาดมืด รัฐก็ไม่ได้ ชุมชนก็ไม่ได้ ไม่เป็นผลดีกับใครเลย..”


“ตอนหลังที่ร้ายที่สุด ข้างบน คือ ผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น คนในวงราชการ ตำรวจ มาเอาประโยชน์จากส่วนนี้ด้วย
บางครั้งมีคนระดับผู้ใหญ่สั่งมาจากข้างบนเลยว่าให้คนข้างล่างนี่เอารังนกให้เขา ถ้าไม่ได้กูสั่งย้าย…”


“ตัดสินใจออกจากการเป็นจินเต้งนั้น รู้สึกว่าถึงอยู่ไปก็ลำบาก มันยิงกันมากนักแรง ไม่เป็นสุข จะนั่งจะนอนจะยืนอะไรก็ไม่เป็นสุข
มันอันตรายเกินไป ยิ่งอยู่ยิ่งอันตราย ออกดีกว่า…”


“แต่ก่อนมันดีกว่าปัจจุบัน ตอนนี้มันไม่อิสระ ในเขตนั้นเขาไม่ให้เข้า ชาวประมงเข้าไปพึ่งลมพึ่งอะไรก็ไม่ได้ เขาห้ามเข้า มีปืน
ตระเวณอยู่ ถูงยิงขู่ก็ต้องเล่นกัน…”

(http://i13.tinypic.com/2zpmkno.jpg)

“บางท้องที่ที่จะเปิดเป็นการท่องเที่ยว ก็ไปติดในเรื่องของการสัมปทาน เราน่าจะเปรียบเทียบรายได้กับการท่องเที่ยวว่าคุ้มกัน
มั๊ย อยากให้มีการวิจัยโดยรัฐอย่างแท้จริงในเรื่องการสัมปทานรังนก อยากทราบจุดคุ้มทุนของการสูญเสียทางธรรมชาติ
ในแง่ของการอนุรักษ์ล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ของนกนางแอ่น…”


“วันนี้ภูมิปัญญาของคนปากพนังพร้อมแล้วที่จะทำฟาร์มนกนางแอ่น ถ้าเอาภูมิปัญญาชาวบ้านไปทำ โดยให้มีการสร้างตึกนก
บนเกาะได้ เอาไข่มาฟักได้ ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตามเกาะรังนกจะสามารถแก้ได้ และเราสามารถจะทำฟาร์มนกแอ่นสู้กับ
ต่างชาติได้…” จากทัศนะเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การหาสมดุลที่เอื้อประโยชน์ต่อ...



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:46:44 AM
พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ

แล้วเลือดค่าง...นี่เป็นยังไงบ้างอ่ะฮับ พี่ซับใน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:48:09 AM

..........นกนางแอ่นกินรังเป็นนกขนาดเล็กบินเร็ว มีขนาดประมาณ 13 ซม. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ อาศัยทำรังอยู่ภายในถ้ำ
บนเกาะเล็กเกาะน้อยชายฝั่งทะเล ใช้น้ำลายทำรังเพื่อวางไข่ มีฤดูกาลสืบพันธุ์ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี


..........แต่ห้วงเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ปกตินกเพศเมียจะเป็นผู้สร้างรังโดยลำพัง เว้นรังที่สามซึ่งนกเพศผู้และ
เพศเมียจะช่วยกันสร้าง นกจะสร้างรังในเวลากลางคืนและใช้เวลาประมาณ 1 เดือน รังมีรูปเป็นถ้วยครึ่งซีก


..........เมื่อแห้งและแข็งตัวจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวุ้นเส้นที่อัดตัวกันแน่น โดยตัวรังจะตรึงติดอยู่กับผนังถ้ำหรือภายในผนัง
อาคารสิ่งก่อสร้างที่นกอาศัยอยู่ นกนางแอ่นสามารถบินได้ 55 ไมล์ หรือ 89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเชื่อกันว่านกแอ่นกินรัง
อายุ 3 ปี จะสร้างรังได้ดีที่สุด จะวางไข่ 2 ฟองต่อรัง โดยจะฟักไข่ในเวลากลางคืน
ไข่จะฟักออกเป็นตัวในเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ และเมื่อลูกนกอายุประมาณ 6 สัปดาห์ก็จะบินออกจากรังได้


..........นกนางแอ่นกินรังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเดียวที่มีพฤติกรรมสร้างรังทดแทน กล่าวคือ นกจะสร้างรังใหม่ทดแทนรังที่ถูก
เก็บเกี่ยวหรือรังที่ถูกทำลายก่อนที่จะวางไข่ แต่หลังจากที่นกวางไข่แล้ว แม้รังถูกทำลายหรือถูกเก็บเกี่ยวไป นกจะไม่สร้างรัง
ทดแทนอีก รังแรกจะเริ่มสร้างประมาณเดือนกุมภาพันธ์ รังที่ 2 สร้างประมาณกลางเดือนมีนาคม และรังที่ 3 สร้างประมาณกลาง
เดือนเมษายน นกบางตัวเท่านั้นที่จะสร้างรังที่ 4 แม้จะเก็บเกี่ยวหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้ามีการเก็บเกี่ยวรังที่ 4 ก็สามารถที่จะสร้างรัง
ที่ 5 และ6 ทดแทนได้

(http://i14.tinypic.com/4dgybkh.jpg)

..........สำหรับความเชื่อที่เกี่ยวกับการกินรังนกที่น่าสนใจ อาทิเช่น คนมุสลิมฝั่งอันดามันบางส่วนเชื่อว่า นกนางแอ่นเป็นสัตว์ที่
ออกมาจากเหงื่อของผู้นำศาสนา คือ นบี อิบรอฮิม และยังเชื่อกันว่าวัฒนธรรมการกินรังนกของคนไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือนานาประเทศต่างก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากวัฒนธรรมการกินของชาวจีน ซึ่งเชื่อกันว่าการกินรังนกนางแอ่นจะทำให้อายุยืน สามารถบำบัดและรักษาโรคต่าง ๆ ได้ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์เชิงโภชนาการจะยังมีความเห็นที่ชัดแย้งกันอยู่


..........นายเกษม กล่าวว่า การทำธุรกิจรังนกนางแอ่นในประเทศไทย สามารถนับย้อนหลังไปได้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
โดยช่วงแรก ๆ เป็นไปในลักษณะของการส่งส่วย จนมาสมัยพระเจ้าตากสิน คนจีนต้นตระกูล ณ สงขลา ก็ได้ขอพระราชทาน
การทำรังนกในรูปแบบของเจ้าภาษีนายอากร ในรูปของอากรรังนก ซึ่งทำไปพร้อม ๆ กับตระกูล ณ นคร และเจ้าเมืองสตูล
เชื้อสายพระยาไทรบุรี กระทั่งปีพ.ศ.2482 หลังจากมีการออกกฎหมาย พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น การทำธุรกิจโดย
คนไทยเชื้อสายจีนซึ่งเป็นเจ้าของทุนยุคใหม่ก็ได้เข้ามาแทนที่ ได้พัฒนาไปเป็นการทำธุรกิจแบบข้ามชาติที่มีรูปแบบซับซ้อน
และมีผลประโยชน์มหาศาล จนถึงปัจจุบัน



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:49:58 AM
พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ

แล้วเลือดค่าง...นี่เป็นยังไงบ้างอ่ะฮับ พี่ซับใน
สงสัยทำเป็นไม่เห็น


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ตุลาคม 31, 2006, 10:50:03 AM
มีรังนกอีแอ่น  เขากวางอ่อน เลือดค่าง ดีหมี อีกอ่ะครับ พี่ซับใน



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:08:56 PM
........ตลาดรังนกนางแอ่นจากภาคใต้ของประเทศไทยนอกจากจะบริโภคภายในประเทศในย่านที่มีคนจีนอาศัยอยู่หนาแน่น
อย่างสำเพ็งและเยาวราช ทั้งในรูปแบบรังนกดิบและแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมรังนกสำเร็จรูปแล้ว


..........จากข้อมูลในอดีตและข้อมูลของกรมศุลกากรจนถึงปลายปี 2545 พบว่า รังนกไทยได้ส่งไปจำหน่ายทั่วทุกภูมิภาค
ของโลก ตามประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ปีนัง สิงคโปร์ พม่า มาเลเซีย อินเดีย อิหร่าน เวียดนาม ฝรั่งเศส
อิตาลี เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ เดนมาร์ก อังกฤษ บราซิล บรูไน กัมพูชา อียิปต์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ ซึ่งจากรายชื่อ
ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ จำนวนการส่งออกของรังนกไทยปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนคนจีนที่อาศัยอยู่และความนิยม
ของประเทศนั้น ๆ แต่แหล่งส่งออกของรังนกไทยที่สำคัญมาตลอดก็คือ ฮ่องกงและจีน


..........นายเกษม กล่าวว่า จะเห็นว่า รังนกได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งการทำธุรกิจรังนกนางแอ่นก็มีประโยชน์
และโทษหลายประการ ประโยชน์ก็เช่น การทำให้เกิดการจ้างแรงงาน การพัฒนาในชุมชน มีการขยายตัวของอุตสาหกรรม
ก่อให้เกิดรายได้ในภาครัฐ พัฒนาไปถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลและเก็บรังนกตามอาคารบ้านเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่
อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีราคาที่ดินสูงขึ้นเนื่องจากมีธุรกิจรังนกนางแอ่นตามที่พักอาศัย ซึ่งบางคนใช้
ความพยายามอย่างมากที่จะให้นกมาทำรัง เช่น สร้างอาคารทิ้งไว้แล้วเปิดเสียงนกล่อ เอามูลนกไปไว้ในตัวอาคาร
แต่ยังไม่มีรายงานว่าเกิดจากสาเหตุใดที่นกจะยอมไปทำรังตามอาคารเหล่านั้น


..........นายเกษมยังกล่าวถึงผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้น ก็เช่น จะทำให้เกิดการโจรกรรมรังนก การค้าของเถื่อน อิทธิพลมืด
ที่ไม่สามารถควบคุมได้จากการทำสัมปทานรังนก เช่น มีเรื่องเล่ากันมาว่าหากมีการบุกรุกพื้นที่สัมปทานในเกาะที่มีรังนก จะต้อง
ถูกยิงทิ้งโยนทะเลและจับมือใครดมไม่ได้ ,หรือที่มาของการทำลายประชากรนกนางแอ่นคือ เมื่อมีการเก็บรังนกจะมีลูกนกตกมา
ตายเป็นจำนวนไม่น้อยและความเชื่อในการนำลูกนกตัวแดงๆมาดองเหล้าเพื่อดื่มบำรุงกำลัง เหล่านี้เป็นต้น

(http://i14.tinypic.com/403iq1w.jpg)

..........อย่างไรก็ตามจากพัฒนาการของการสัมปทานรังนกนางแอ่นที่มีมายาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงไป ในยุคสมัยที่รังนก
นางแอ่นนอกเขตสัมปทานของรัฐ คือ ที่ปากพนังและที่อื่น ๆ ได้มีทุนจากท้องถิ่นและภูมิภาค ทุนจากส่วนกลางและทุนจากต่าง
ชาติ ได้เคลื่อนไหลเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นแหล่งรังนกและดูจะมีความสำคัญมากขึ้น พร้อม ๆ กับที่การแข่งขันของบริษัทแปรรูป
รังนกสำเร็จรูปในลักษณะของอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมทั้งตลาดภายในและต่างประเทศยิ่งนับวันจะทวีความร้อนแรงในการ
แข่งขันกันมากขึ้น


..........และนั่นย่อมไม่มีอะไรมาค้ำประกันได้ว่า ลักษณะของเนื้อหาเก่า ๆ อย่างในอดีตที่เต็มไปด้วยการปิดบังซ่อนเร้น
หรือเพราะแม้แต่อำนาจรัฐก็คงไม่อาจจะค้ำประกันใด ๆ ได้ว่า ความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นกับวงการและกระบวนการธุรกิจรัง
นกนางแอ่นอีกในอนาคต


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:10:59 PM
การทำบ้านรังนก ต้องขอสัมปทานหรือไม่

มีผู้สอบถามมาปัญหาว่า บ้านรังนกมีความเกี่ยวข้องกับสัมปทานตามพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 อย่างไร
ต้องขอสัมปทานหรือไม่ เราได้ไปเปิดกฎหมายดูแล้ว ขอสรุปให้ท่านได้ไว้เป็นข้อมูลอย่างนี้

1. เนื่องจากมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 บอกว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
บนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ (ต้องระวางโทษ.......
ดังนั้น เมื่อบ้านรังนกตั้งอยู่บนที่ดินของเอกชน (ของเราเอง) ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะของหลวงหรือที่ดินหลวง เราจึงไม่ต้องห้าม
ที่จะเก็บรังนกในบ้านของเราเองแต่อย่างใด


2. มาตรา 26 ยังบอกต่อไปอีกว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งรังนกอันตนรู้ว่าได้มา โดยการฝ่าฝืนตาม มาตรา 14
วรรคหนึ่ง (ครอบครองรังนกที่เก็บมาจากที่ของหลวงโดยไม่ได้รับสัมปทาน)

3. มาตรา 4 พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 ให้ใช้บังคับในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดสตูล และจังหวัดตราด ส่วน
ในจังหวัดอื่นจะใช้บังคับ เมื่อใดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา




 


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:13:21 PM
ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านรังนก


ทำไม จึงนำประเด็นนี้มาบอกกล่าวกับท่าน ก็เพื่อให้ท่านมีความรู้สึกที่ดีต่อธุรกิจบ้านรังนก และเราคิดว่า
เงินของท่านก็เหมือนกับเงินของเรา ควรถูกใช้ในการลงทุนอย่างคุ้มค่า อันจะเป็นผลดีต่อครอบครัวและผู้ที่อยู่ในความอุปการะ
ของท่านสืบไป หลักการซื้อบ้านรังนก มีความคล้ายคลึงกับการสร้างบ้านรังนกใหม่อยู่หลายประการ แต่ที่ต่างก็เพราะว่ามันเป็น
ของที่มีอยู่แล้ว ปัจจัยที่เราแนะนำให้ท่านพิจารณาในการตัดสินใจมีดังนี้ครับ


1.การยอมรับธุรกิจนี้ของคนในครอบครัว เส้นทางจะได้ราบรื่นไม่มีการตำหนิกันในภายหลัง

2.บ้านที่ท่านซื้อควรมีนกทำรังแล้ว ท่านต้องทราบปริมาณนกในบ้าน ปริมาณรังนกที่มีอยู่ อันนี้เราขอบังคับให้ท่านต้องไป
ดูเองนะครับ ทำมาแล้วกี่ปี ปริมาณนกมีการเพิ่มช้าหรือเพิ่มเร็ว ถ้าเพิ่มช้า ท่านต้องสันนิษฐานว่าต้องมีปัญหาบางอย่างเป็นแน่
ปัญหาอะไร แก้ไขได้หรือไม่


3.ตัวบ้านนกออกแบบดีหรือไม่ สามารถจุนกปริมาณสูงสุดได้กี่คู่ ระบบเสียง ความชื้น และอุณหภูมิ ใช้ระบบอะไร การระบาย
อากาศดีหรือไม่ อุณหภูมิ-ความชื้นดีตามเกณฑ์หรือไม่


4.เงินทุน ควรใช้เงินเย็นมาซื้อบ้านรังนก ไม่ควรกู้มา เว้นแต่ท่านเห็นว่าชัวร์ เราก็ไม่คัดค้านที่จะกู้ แต่อย่าให้ระบบการเงิน
ภายในบ้านต้องตรึงเครียด ท่านต้องประเมินว่าผลผลิตจากบ้านรังนกพอที่จะช่วยผ่อนส่งได้หรือไม่ ท่านมีสำรอง
รายเดือนหรือไม่


5.ท่านต้องมีความเข้าใจในข้อมูลเกี่ยวกับนกนางแอ่น และพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี และรู้ระบบระบบเสียง
ความชื้น และอุณหภูมิ ในระดับดี และต้องทราบว่า บ้านที่จะซื้อเขาใช้ระบบอะไรอยู่


6.ทำเลที่ตั้ง ท่านต้องรู้ว่า ทำเลที่ซื้อเป็นทำเลทองหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ทำเลทอง ท่านต้องใช้กลยุทธ์อะไรเข้าช่วย


7.แหล่งน้ำ มีความสะดวกหรือไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ มีน้ำใช้ตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าแล้ง ถ้าขาดแคลนจะมีทาง
ออกหาได้จากแหล่งใดบ้าง


8.บ้านที่ซื้อขออนุญาตต่อเติมแล้วหรือยัง ถ้ายัง ท่านยอมรับสภาพนี้ได้หรือไม่ ย่านนั้นเป็นอย่างนี้เยอะพอจะมีมวลชน
ร่วมกับเราหรือไม่


9.การดูแล บ้านรังนกต้องการคนดูแลนะครับ คอยเช็คน้ำ ไฟ พัดลม เครื่องเสียง ปั้มน้ำ การเล่นเสียงสูง-ต่ำ ป้องกัน
คนมาขโมย เป็นต้น ท่านดูตัวคนที่ทำหน้าที่นี้ ไว้หรือยัง


10.จุดคุ้มทุนภายในกี่ปี อันนี้ยากหน่อย เพราะต้องดูตั้งแต่ข้อ1-9



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:16:04 PM
ข้อทักท้วงที่ว่า การทำบ้านรังนกเป็นการทำบาปหรือไม่


เป็นคำถามที่มาจากท่านที่จิตใจละเอียดอ่อน ได้ตั้งข้อสงสัยว่า การทำบ้านเลี้ยงนกนางแอ่นอาจจะเป็นการทำบาปหรือไม่
เพราะนกนางแอ่นต้องแค่นน้ำลายออกมาทำรังมากจนเป็นเลือด ครับ เป็นคำถามแรกที่ผมคิดก่อนตัดสินใจ
เพราะภรรยาและลูกๆคงไม่ยอมให้ผมทำบ้านรังนกอย่างแน่นอน ถ้าเขาเห็นว่ามีการทำลายชีวิต ผมจำเป็นต้องศึกษาก่อน
จะเข้าสู่ธุรกิจนี้และต้องได้รับฉันทานุมัติร่วมกันจากสมาชิกในครอบครัวของเรา


ผมพบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังว่า คนที่ทำบ้านรังนก เขาจะเก็บรังนกอย่าระมัดระวังครับ เพราะรังนก
เปรียบเสมือนสมบัติที่ล้ำค่าประดุจทองคำขาว ทุกอย่างเขาจะมองระยะยาว เขาพยายามที่สุดที่จะเอาอกเอาใจให้นกเข้ามา
อยู่ในบ้าน และต้องอยู่กับเขาอย่างมีความสุข รู้สึกปลอดภัย เพื่อให้ได้รังผลผลิตที่ดี ด้วยเหตุผลดังนี้


1. เขาจะไม่เก็บรังนกในขณะที่มีไข่นกหรือลูกนกอยู่ในรัง เพราะบ้านหลังนั้นเป็นของเขาเอง ไม่มีใครมาแย่งชิงเหมือนรังนก
ที่อยู่ในถ้ำตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องรีบเก็บรังด้วยความกลัวในประเด็นนี้


2. เขาจะไม่เก็บรังนกในขณะที่มีไข่นกหรือลูกนกอยู่ในรัง เพราะอาจจะทำให้นกสะเทือนใจแล้วหนีจากบ้านเขาไป
เหมือนที่ปัจจุบันนกต้องอพยพหนีมาจากถ้ำจากเกาะในทะเล ซึ่งจะทำให้เขาสูญเสียหลายต่อ ต่อแรกคือ เขาอาจจะเสีย
พ่อแม่นกไป ต่อที่สอง คือ เขาจะเสียโอกาสที่จะได้ลูกนกอีกสองตัวไปและอีก 5-6 เดือนลูกนกที่ว่าก็จะให้รังและลูกนก
อีกสองตัวแก่เขา คิดแล้วใน 1 ปีถ้าเขาเก็บรังตอนที่ลูกนกโตบินจากรังได้แล้ว เขาจะมีสมาชิกนกเพิ่มขึ้นจากพ่อแม่นก
อีกหลายเท่า ได้แก่ ลูกนก 6 ตัว หลานนก 4 ตัว นกมากรังก็มากตามมา อย่างนี้เขาว่าเขาคุ้มกว่า


3. การที่รังนกมีเลือดปน เขาบอกสาเหตุว่า เหตุการณ์นี้มักจะเกิดกับนกที่อยู่ในถ้ำ เนื่องจากค่าสัมปทานรังนกนั้นสูงมาก
หลายสิบล้านและมีเวลาจำกัด จึงต้องเก็บรังนกให้ได้มากและเร็วที่สุด โดยเมื่อนกต้องการวางไข่ นกก็จะทำรังแรกของปี
ทำเสร็จยังไม่ได้วางไข่ก็ถูกคนเก็บไป นกก็ต้องเร่งทำรังใหม่เป็นรังที่สอง เหตุการณ์เดิมที่ถูกเก็บรังไปก่อนก็เกิดขึ้นอีก
จนนกต้องทำรังที่สามซึ่งเป็นรังที่คนจะปล่อยให้นกวางไข่ ฟักไข่จนลูกนกออกเป็นตัวโตจนบินออกจากรังได้
รังที่สามนี้เองที่นกจะไม่มีน้ำลาย ต้องเค้นน้ำลายมากจนมีเลือดปนมาด้วย แต่เหตุการณ์อย่างนี้จะไม่ทำกันในหมู่คน
ทำบ้านรังนก


แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาบอกว่ารังนกสีแดงไม่ใช่นกไอเป็นเลือด แต่เป็นผลมาจากธาตุเหล็กที่มากับความชื้นไหลซึมมาตามผนังถ้ำ
เมื่อมาโดนรังนกและโดนออกซิเจน ก็จะเกิดสีเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม มักพบตอนปลายฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ภูเขาชุ่มน้ำมาก
แล้วจะมีธาตุเหล็กไหลซึมมากับน้ำ มาโดนรังนกด้วย แต่มีอีกความเห็นหนึ่ง บอกว่า เกิดมาจากจุลลินทรีย์ชนิดหนึ่ง
ชื่ออะไรต้องค้นคว้าครับ


ท่านลองอ่านแล้วพินิจพิจารณาด้วยตัวท่านเองนะครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:17:37 PM
ใกล้ๆ กรุงเทพครับ

อีกจุดหนึ่งที่มีนกนางแอ่นเข้าไปทำรังอาศัยอยู่มาหลายสิบปีคือที่วัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม
ต.ท่าฉลอม อ.เมืองสมุทรสาคร โดยพระสาครมุนีเจ้าอาวาส กล่าวถึงที่มาของฝูงนกนางแอ่นที่เข้ามาทำรังในวิหาร
ตั้งศพพระเทพสาครมุนี หรือหลวงปู่แก้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม ซึ่งมรณภาพตั้งแต่ปี 2528 หรือกว่า 17 ปีมาแล้ว
จำนวนกว่า 6,000 ตัว ว่านกนางแอ่นฝูงแรกจำนวน 10 ตัว ได้เข้ามาทำรังในอุโบสถหลังใหม่ช่วงที่มีพิธีตัดลูกนิมิต
ปี 2515 ทางหลวงปู่แก้วก็สั่งห้ามไม่ให้คนในวัดทำร้ายนกอย่างเด็ดขาด
ปล่อยให้ทำรังออกลูกออกหลานมาจนถึงปัจจุบัน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: หนู@เมืองสิงห์™ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 31, 2006, 12:29:53 PM
ขอบคุณ คุณซับฯสำหรับข้อมูลครับ .. :)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 31, 2006, 03:31:44 PM
มาในมาดของนักวิชาการ ......พี่ซับฯเปลี่ยนไป๋.....:)


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: HogHeaven ที่ ตุลาคม 31, 2006, 03:37:09 PM
วันก่อนดูทาง ITV เหมือนกัน ดูเพลินๆ จนไปสะดุดตากับคนเฝ้าเกาะสะพาย HK33 อยู่เหมือนกัน


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: noomrider ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 04:38:51 AM
พี่ซับจริงจังไปไหมกับเรื่องของนกเนี่ยะ หรือมีความหลังฝังใจกับนกนางแอ่นหละจ๊ะ...


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 05:32:14 AM
ขนาดนั้นเลยหรือครับ


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: Machine_1 ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 05:43:30 AM
 ;D สงสารนก ต้องสำลอกน้ำลายไม่รู้กี่ครั้งจนเป็นเลือด กว่าจะได้วางไข่


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: yakdee ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 09:53:23 AM
คน...ใช้อาวุธและเครื่องมือป้องกันทันสมัย รุนแรง กับผู้มาปล้นชิง..รังนกนางแอ่น....

แล้วนกนางแอ่น...เล่า...มีอะไรไว้ป้องกัน.......เอาเปรียบกันชัด ๆ

คิดดูให้ดี...ก่อนที่จะไปอยู่ในวังวนของเงินและอำนาจ..ที่ได้มาจากการเบียดเบียนชีวิตน้อย ๆ นี้   มันเป็นเรื่องเศร้ายิ่งกว่าการฆ่าโคเพื่อทำลูกชิ้นเสียอีก....


หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 12:49:38 PM
;D สงสารนก ต้องสำลอกน้ำลายไม่รู้กี่ครั้งจนเป็นเลือด กว่าจะได้วางไข่

ข้อทักท้วงที่ว่า การทำบ้านรังนกเป็นการทำบาปหรือไม่

3. การที่รังนกมีเลือดปน เขาบอกสาเหตุว่า เหตุการณ์นี้มักจะเกิดกับนกที่อยู่ในถ้ำ เนื่องจากค่าสัมปทานรังนกนั้นสูงมาก
หลายสิบล้านและมีเวลาจำกัด จึงต้องเก็บรังนกให้ได้มากและเร็วที่สุด โดยเมื่อนกต้องการวางไข่ นกก็จะทำรังแรกของปี
ทำเสร็จยังไม่ได้วางไข่ก็ถูกคนเก็บไป นกก็ต้องเร่งทำรังใหม่เป็นรังที่สอง เหตุการณ์เดิมที่ถูกเก็บรังไปก่อนก็เกิดขึ้นอีก
จนนกต้องทำรังที่สามซึ่งเป็นรังที่คนจะปล่อยให้นกวางไข่ ฟักไข่จนลูกนกออกเป็นตัวโตจนบินออกจากรังได้
รังที่สามนี้เองที่นกจะไม่มีน้ำลาย ต้องเค้นน้ำลายมากจนมีเลือดปนมาด้วย แต่เหตุการณ์อย่างนี้จะไม่ทำกันในหมู่คน
ทำบ้านรังนก


แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาบอกว่ารังนกสีแดงไม่ใช่นกไอเป็นเลือด แต่เป็นผลมาจากธาตุเหล็กที่มากับความชื้นไหลซึมมาตามผนังถ้ำ
เมื่อมาโดนรังนกและโดนออกซิเจน ก็จะเกิดสีเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม มักพบตอนปลายฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ภูเขาชุ่มน้ำมาก
แล้วจะมีธาตุเหล็กไหลซึมมากับน้ำ มาโดนรังนกด้วย แต่มีอีกความเห็นหนึ่ง บอกว่า เกิดมาจากจุลลินทรีย์ชนิดหนึ่ง
ชื่ออะไรต้องค้นคว้าครับ


ท่านลองอ่านแล้วพินิจพิจารณาด้วยตัวท่านเองนะครับ



หัวข้อ: Re: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ พฤศจิกายน 01, 2006, 01:07:56 PM
ขอบคุณพี่ซับฯ มาก ครับ...ได้รู้อะไร ๆ หลายอย่างที่ผมไม่เคยรู้ เยอะเลยครับ..