เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

มีมติให้รับ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีต ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งรอง ผบก.ภ.6
เพราะ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์คือ เจ้าพ่อหวยบนดิน ที่กำลังถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินจากหวยบนดิน เพราะมีการนำเงินหวยไปใช้ในทางการเมืองนับหมื่นล้านบาท
โดยมีจำนวนเงินเกือบ 800 ล้านบาท ที่ยังไร้ที่มาที่ไปหาผู้รับผิดชอบไม่ได้

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้น ได้รับค่าตอบแทนจากเงินหวยบนดินในปี 2547 จำนวน 639.67 ล้านบาท ปี 2548 จำนวน 746.37 ล้านบาท และในปี 2549 จำนวน 800.82 ล้านบาท เป็นวงเงินรวมกันสูงถึง 2,186.86 ล้านบาท
แม้ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษก สตช. จะอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวจัดสรรตามมติ ครม. โดยแบ่งเงิน 2 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายหวยบนดิน เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการปราบปรามหวยใต้ดิน และขึ้นทะเบียนคนขายหวยบนดิน

นอกจากนั้น ยังกันส่วนหนึ่งประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ จัดตั้งเป็นกองทุนสวัสดิการตำรวจ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวตำรวจที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

จึงเป็นประเด็นให้ สตง.ตั้งข้อสังเกตว่า สำนักงานสลากฯมีเหตุผลและความจำเป็นอะไร ที่ต้องจ่ายเงินให้กับตำรวจสูงถึงปีละ 700-800 ล้านบาท และอยากถาม พล.ต.อ.โกวิทด้วยว่า การรับ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์กลับเข้ารับราชการตำรวจ เกี่ยวข้องกับเงินหวยบนดิน 2 พันกว่าล้านบาทนี้หรือไม่

นอกจากนั้น ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจทั่วประเทศ ก็มีข่าวลือหนาหูเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง
 บ้างก็ว่ามีการแลกเปลี่ยนตำแหน่ง พล.ต.ท. กับที่ดินแปลงงามใกล้สนามบินสุวรรณภูมิมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

บ้างก็ว่าตำแหน่ง ผกก.ในโรงพักเกรด เอ มีราคาสูงถึง 10 ล้านบาท แต่หากเป็นโรงพักเกรด บี-ซี ก็ลดหลั่นลงไป 5-7 ล้านบาท ตามลำดับ แม้แต่ตำแหน่งสารวัตรยังมีราคา 1-3 ล้านบาท  ตามเกรดของโรงพัก

ทำเอาตำรวจน้อยใหญ่ที่ไร้เส้นไร้ทรัพย์ ขวัญเสียไปตามๆกัน
จึงไม่น่าแปลกใจที่ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีต ผกก.สส. บก.น.6 ที่พัวพันกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย ม็อบไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จะได้เลื่อนขึ้นไปเป็นรอง ผบก.อก.บช.น.
ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่าในเร็วๆนี้ ก.ตร.จะพิจารณาเปิดตำแหน่งรอง ผบก.อีกเกือบร้อยอัตรา โดยอ้างการปรับโครงสร้างภายใน สตช. ที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม.ในอดีตเรียบร้อยแล้ว

การเปิดตำแหน่งในช่วงที่ตัวเองมีสิทธิ์ขาด แถมยังอยู่ในระหว่างที่มีข่าวลือสารพัด คงเป็นโจทย์ใหญ่ให้ พล.ต.อ.โกวิทตอบว่า วันนี้ สตช.บริสุทธิ์สะอาดและโปร่งใสแค่ไหน???  

     การโยกย้ายงวดแรกเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาบอกได้อย่างดีว่า หลังคปค.ยึดอำนาจ สตช.ก็ยังแย่เหมือนเดิม อย่างที่ผมเคยบอกว่าคนที่ทำงานที่ใต้ขึ้นกรุงเทพฯกันเป็นแถวเพื่อวิ่งหาตำแหน่ง ไม่อย่างนั้นคงเกษียณในตำแหน่งเดิมแน่นอน ฉะนั้นจะหวังให้ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาภาคใต้คงยาก โดยสรุปหลังการยึดอำนาจทักษิณองกรณ์นี้ก็ยังแย่เป็นความหวังสุดท้ายของสังคมไทยเหมือนเดิม ล่าสุดก็รับปีศาจ(สุรสิทธิ์คนนี้แหละที่จับเสธ.แดง ข้อหาพกอาวุธเอาใจสันต์คนนี้ทำทุกอย่งเพืออำนาจ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน มอมเมาประชาชนเลวครบทุกข้อเลย)มอมเมาการพนันชาวไทยกลับเข้ารับราชการครับ
http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=25100

ผิดสังเกตุตั้งแต่ต้นแล้ว  เอานายตำรวจไปทำหวย ........ งงๆๆๆ สักพักพอน้ำลดตอคงผุด แต่อาจมีโคลนปิดไว้อีกที

ขออภัยครับ.......... ตำรวจคือจุดเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรม เมื่อตำรวจมันมีอำนาจ ก็เลยไม่สนใจประชาชนแล้ว
ทีนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนมากครับ  อยากให้สางกรมตำรวจให้เป็นรูปธรรมเสียที

กำลังหมดยุค ตำรวจครองเมืองแล้ว

 :'( :'( :'( :'( :'(

เศร้าใจครับ

เงินหวยบนดินที่อุดหนุน/สนับสนุนสวัสดิการของตำรวจ..............ถามนิดครับถ้าให้ สตง.เข้าไปตรวจสอบผมว่า ระดับหัว ๆ ของโรงพักต้องกระเด็นออกจากราชการแน่ ๆ ล่าสุดลูกน้องเลื่อยขาลูกพี่วางยาลูกพี่......เพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว....... :P

มองรวมกับภาพ การเผาโรงเรียนที่ภาคเหนือตอนล่าง  ....  เข้าใจครับ คณะปฎิรูป หัวเดียวกระเทียมลีบจริงๆ  (แต่เผ็ดร้อน  ;))

การย้ายคนมีประวัติต้องสงสัย  ย้ายไปแบบให้ได้ดี น่าจะเป็นการแสดงออกเช่นเดียวกะการเผาโรงเรียน  คือแสดงความ เขื่องต่อต้านเป็นนัยๆ  เพราะเขามี ชนักปักหลังกันมาก และระบบทักษิณ รวบรวมคนเหล่านั้น อย่างเป็นกลุ่มก้อน  เขาคงกลัวว่า คปค. จะมาริดรอนอำนาจของเขา และคงกลัวมาก แต่พวกยังเยอะ เลยแสดงออกมาอย่างนั้น

ดูๆไปแล้ว บิ๊ก คปค. มีกลยุทธที่ลุ่มลึกกว่า  ดู "โอ๋ สืบหก" เป็นตัวอย่าง  ขื่นทำรุนแรงตรงๆ เหตุจะบานปลายเป็นสงครามมวลชน   แยกให้อยู่เป็น ยูนิตย่อย ตัดขาดแต่ละหน่วย รุมกัดให้นิ้วขาด พิการไป ดีกว่า โจมตีทั่วทั้งตัวด้วยกำลังที่น้อยกว่า  แล้วไม่สามารถทำลายเป้าหมายได้  ใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นตัวได้แล้ว

 :).. เก้าอี้ ผบ.ตร.  ดูเหมือนหนักแน่น  มั่นคง.
       แต่จะทานแรงต้าน. อีกนานไหม.นะ ..   :)
       

แล้วจะทำไงละครับ ??? ;D ;D ;D

ตกงานแล้วครับ

ผมเล่นหมากรุกไม่เป็น แต่คิดว่าการเมืองครั้งนี้เป็นการเล่นเกมที่น่าดู
คงต้องรอท่าน สิบโท Ro@d มาอ่านเกมให้ฟัง ;D
 ;D

..

.. มิกล้า ครับ คุณบุญ.

  แค่รู้สึก..
  แต่อาการอย่างนี้ เป็นธรรมชาติบั้นปลาย ของคน ที่หวาดหวั่น
  คิดแต่ความมั่นคง ที่สั่นคลอนของตนเป็นที่ตั้ง.  ทำนองแข็งนอก อ่อน กลวงใน..

  แต่เป็นการ ที่เกินเลย ความพอดี คิดแต่ตัวเองมากไป.
  แม้ที่สุดต้องถูกบีบแกม.. ให้ยอมสละ แต่ก็ทิ้งทุ่น ที่ยังเอื้อให้ตัวเอง
  หวังเกาะ ยอมต้องถูกปล่อย ลอยกลางทะเล.

  พลพรรคที่ได้เอื้อไว้.. ถึงจะถูกมองว่าเป็นข้างตน.. แต่ก็มีคุณธรรม ความดี
  เนื้อแท้เป็นฝ่ายธรรมะ.. ก็มีมากมาย ครับ.  :)

 :).. ความเป็นคนนั้น  มีศักดิ์ศรี  และจะรักตัวกลัวตาย.

      ความที่ไม่เป็นสถานบัน ส่วนหัวจึงมีความสำคญที่สุด
      แต่การขับเคลื่อน กับอยู่ที่ส่วนลำตัว ลงไปถึงหาง
      ผลประโยชน์ การกิน ต้องผ่านเข้าที่ปากทางหัว เท่านั้น. 

      การอันใด ที่เป็นสถาบันแล้ว  แต่ผู้นำ กลับนำมารับใช้ตัวเอง .
      มันกลับจะมาทำลายตัวเอง ด้วยอาการแพ้ภัย.. ก็เฉก ตัวทรราช.

      แต่ตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เป็นหัวราชสีห์ .. และไม่มีทางเป็นไปได้ .
      แม้เข้าใจผิดว่าเป็น. ที่สุดอาการคงไม่ผิดกัน..

      เมื่อขาดหัวแล้ว.. ความดี ความสามารถของคน จึงขึ้นอยู่กับ
      ผู้นำคนใหม่ที่มีคุณธรรม ครับ.  ผู้ตาม ..
      จึงจะมีด้านหลักที่มีคุณธรรม เป็นฝ่ายธรรมะ มากตามไปด้วย.  :)
   

ให้วงการอื่นครองเมืองบ้างซิครับเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง ทหารผูกขาดครองมายาวนานเหลือเกิน เปลี่ยนเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือ นักบวชครองเมืองบ้าง พัฒนาแต่อำนาจและ กฏหมาย ไม่พัฒนาความเจริญทางธุระกิจของประเทศกันบ้าง ประชาชนจะอดตาย แล้วสวัสดิการเงินเดือนของข้าราชการควรปรับขี้นให้เท่ากันกับรัฐวิสาหกิจ ทิ้งห่างกันเหลือเกิน ทั้งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ญาติที่เป็นทหาร ตำรวจ(ชั้นผู้น้อย)อยู่กันอย่างกระเบียดกระเสียดเหลือเกิน สวัสดิการของราชการก็มุ่งแต่บริการระดับนายยศสัญญาบัตร

ผมว่า ปรับเงินเดินรัฐวิสาหกิจลงมาเท่ากับข้าราชการแทนดีไม๊ครับ เพราะทุกวันนี้เราต้องจ่ายเงิน ค่าสาธารณูประโภคแพงเกินจริง เพราะเราจ่ายเงินเดือนเบี้ยเลี้ยง สวัสดิการพวกนี้ ให้รัฐวิสาหกิจ มากเกินไปแล้ว ผมว่าได้ค่าเหนือยเกินควมเป็นจริงมากไป ทั้งที่จุดประสงของการทำรัฐวิสาหกิจ ก็เพื่อประชาชน ได้ใช้ ในราคาถูกเป็นสวัสดิการแก่สังคม ไม่ใช่เพื่อ เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจเพี่ยงกลุ่มเดียวเท่านั้น ด้วยความเคารพ
 ช่องรายได้ว่าระหว่า  ชาวบ้าน------ข้าราชการ---------รัฐวิสาหกิจจะได้ลดลงบ้าง

ทรัพยากรที่ รัฐวิสาหกิจ ใช้ทำมาหากินอยุ่ ล้วนเป็นสมบัติของส่วนรวมทั้งสิ้น ไม่ใช้ของใคร ผู้ใด กลุ่มใด ซึ้งรัฐวิสาหกิจมักนำเอาเหตุผมเหล่านี้มาอ้างแต่สุดท้ายผมประโยชน์ ส่วนใหญ่ ก็ตกอยุ่กับคนแค่กลุ่มเดียว ชาวบ้านรับเคราะห์ ทั้งค่าไฟ  ค่าน้ำ ค่าโทรศัพย์ อื่น ๆ อีก หลายอย่าง ที่แพงขึ้นๆทุกวันจนชาวบ้านต้องมารับภาระส่วนใหญ่ของประเทศไว้แทนที่จะได้รับประโยชน์